สมาธิเสื่อม เเท้จริงๆ มันเป็นเช่นไรครับ ?

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Jera, 20 ธันวาคม 2015.

  1. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    เข้าใจได้ก็ดีแล้ว ถูกแล้วครับ การนำไปใช้ทั่วๆไปก็คือการใช้งานในชีวิตประจำวัน
    เพื่อการดำรงชีพ และมีกำลังเพียงพอที่จะวิปัสสนาได้ครับตรงนี้สำคัญ
    มากกว่าความสามารถใช้งานทางจิตได้แบบพิเศษๆต่างๆครับ
    ส่วนเรื่องของพลังจิตมีก็ได้ ไม่มีก็ได้ถ้ากำลังสมาธิเพียงพอสำหรับ
    วิปัสสนา ก็สุดแล้วแต่จริตของแต่ละบุคคลไม่ใช่ประสำคัญ เท่ากับการนำมา
    ใช้เพื่อการ ลด ละกิเลส ที่เกาะกับตัวจิตครับ..
     
  2. animejanai

    animejanai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    520
    ค่าพลัง:
    +494
    สมองเสื่อม
    สังขารเสื่อม
     
  3. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,567
    ค่าพลัง:
    +9,957
    +++ อาการที่เรียกกันว่า สมาธิเสื่อม คือ อาการของสมาธิที่เคยทำได้ แต่มาภายหลัง กลับทำไม่ได้แม้ว่าจะพยายามเท่าไรก็ตาม

    +++ สาเหตุหลัก ๆ มักจะตรงกับ คำพูดที่ว่า "สภาวะธรรมที่สมควรได้ก็จะไม่ได้ สภาวะธรรมที่มีอยู่ก็จะเสื่อมลง (ทำนองนี้)"

    +++ ส่วนการ "ทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง" อยู่ในส่วนของ "ความไม่ชำนาญ" ไม่ได้จัดอยู่ในส่วนของ "สมาธิเสื่อม"

    +++ ถือว่า "โชคดี" ที่ยังไม่เคย "ปรามาส" แล้วไปโดน อริยะบุคคลเข้า จึงไม่เจอเเบบนี้

    +++ ให้แยกออกให้ชัดเจนระหว่าง "วิบากที่ปิดสวรรค์นิพพาน" กับ "ความไม่ชำนาญในการปฏิบัติ" ให้แยกออกจากกันอย่างเด็ดขาด อย่านำมาปนกัน

    +++ สมาธิคือการทำ ส่วนฌานเป็นผลลัพธ์ เหตุเสื่อมผลย่อมเสื่อม เหตุไม่ปรากฏผลย่อมไม่ปรากฏ (มันต่างกันใช่ไหมครับ)

    +++ จริงก็มี ไม่จริงก็มี แล้วแต่เหตุของการกระทำ ให้อ่านทวนข้างบนอีกสักรอบ จะชัดเจนขึ้น

    +++ ตรงนี้อ่านทบทวน ข้างบน อีก 2 รอบ

    +++ ตรงนี้อ่านทบทวน ข้างบน อีก 3 รอบ แล้วจะ "ชัดเจนทั้งหมด" ได้เอง นะครับ
     
  4. จริยากุ

    จริยากุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,314
    ค่าพลัง:
    +1,446
    สมาธิเสื่อม
    ผู้ถาม กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ลูกเชื่อคำแนะนำของหลวงพ่อทุกอย่าง แต่ว่าเรื่องสมาธินี่ ไม่ทราบว่าระยะนี้เป็นอย่างไร ชอบตกอยู่เรื่อย ๆ พยายามยกเอาจิตขึ้นสู่องค์ภวังค์ ขึ้นมาแป๊บเดียวมันก็หล่นลงไปอีก เบื่อเหลือเกินเจ้าค่ะ สมาธินึกขึ้นได้ว่าหลวงพ่อแก้ปัญหาเก่ง สามารถจะยกจิตขึ้นมาได้ ขอให้หลวงพ่อช่วยแนะนำอีกเถิดเจ้าค่ะ
    หลวงพ่อ ขอยืมบุ้งกี๋เหล็กเขามา เอาตักจิตยกขึ้นมา (หัวเราะ) เอาอย่างนี้ซิ เรื่องนี้เป็นของธรรมดา ทำไป ๆ ต่อไปเมื่อกำลังจะดีบ้าง กิเลสมาร ก็เข้ากวนใจ ทุกคนเป็นเหมือนกัน ก็เกิดมีอารมณ์เบื่อบ้าง มีอารมณ์มืดบ้าง พอดีร่างกายไม่ค่อยสบายก็มีอารมณ์มืด ทีนี้การภาวนามันมีสองอย่าง อารมณ์ทรงตัว กับ อารมณ์คิด ถ้าทรงตัวไม่ไหวก็ใช้อารมณ์คิด คิดว่ายังไง
    มันจะแก่ก็ช่างมัน มันจะตายก็ช่างมัน มันจะป่วยก็ช่างมันหวยจะกินก็ช่างมัน ฝึกไว้มันจะชิน คิดว่าทุกอย่างมันเป็นไปตามกฎของกรรม ขึ้นชื่อว่ากฎของกรรม ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ พระพุทธเจ้าเองยังโดน เราก็เหมือนกัน ขอทำชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายตายแล้วเลิกกัน... ไปนิพพาน

    จาก หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๑๐(ปัญหาการปฏิบัติธรรม)
     
  5. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ขอบพระคุณมากค่ะ ตอนเจริญพรหมวิหาร๔ได้ ดีใจแทบตาย เพราะรู้สึกว่าทำยากมาก แต่ไม่ได้ไปถามพระอาจารย์ให้ทันท่วงที ว่าเรารู้สึกท้อมากทำอย่างไรดี มาถามทีหลัง พระอาจารย์บอกว่า ช่างมัน ค่ะ ตอนนี้ก้อกำลังพิจารณาข้อธรรมเพื่อให้กลับไปเจริญได้อีก ซึ่งจะมีอารมณ์เหวี่ยงๆว่าเราเคยทำได้ กว่าจะเจริญได้ยากมาก มีลำดับขั้นตอน แต่พอตอนเสื่อมนี่ ไปง่ายๆเลย เสียลงไปเลย เลยจิตตกไปกันใหญ่ค่ะ
     
  6. จริยากุ

    จริยากุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,314
    ค่าพลัง:
    +1,446
    ความจริงอาการเสื่อมเป็นเรื่องปกติ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ที่ว่าจิตเสื่อม มันเสื่อมแค่ที่จิต เพราะเราไปยึดมั่น ถือมั่นเกินไป ตึงเกินไป จิตมันจึงแน่น ไม่ได้เบาบาง ไม่มีความละเอียด และเป็นการอยากให้สภาวะนั้นเกิดขึ้น เป็นกิเลส จิตจึงหนัก ความจริงไม่มีอะไรที่เปลี่ยนหรอก เป็นเพราะเราเกิดความชินในสภาวะนั้นๆๆ จึงไม่รู้สึกกับสภาวะนั้นๆๆ และเพ่งอาการทำให้ยากขึ้น ต่อเมื่อเกิดการพัฒนามากขึ้นจึงจะเกิดความรู้สึกค่ะ ครูบาอาจารย์จึงไม่ให้ยึดติดกับสิ่งใดๆๆ ละตัวตน สังขารให้ตัดเพื่อ ละตัวตน เพื่อให้คลาย ไม่ยึดติด และละกิเลส การยึดมั่นถือมั่นค่ะ จิดจึงเบาละจากกิเลส ทำให้การเจริญจิตภาวนาเกิดผลดียิ่งๆขึ้นไปค่ะ ขอให้เจริญในธรรมนะคะ
     
  7. โป

    โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +256
    คำตอบในคำถามเรื่องการเสื่อมของสมาธิ ต้องตอบแบบคุณขนมทิพย์ในเรื่องความไม่เที่ยงของจิต

    ความที่จิตบังคับไม่ได้ ซึ่งทุกคนจะต้องได้พบกับสภาวะนี้ เพียงแต่ใครจะมีสติเห็นและมีปัญญาฉุกคิดขึ้นมาได้

    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องเคยทำสมาธิในสภาวะแวดล้อมอย่างหนึ่งได้ ต่อมาทำในสภาวะเดียวกันทำไม่ได้ โดยไม่มีสาเหตุใดใด

    กับผู้ปฎิบัติต้องปฏิบัติมาพอสมควร ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของกาย ของใจมาส่วนหนึ่งแล้ว
     
  8. Apinya Smabut

    Apinya Smabut นิพพานังสุขัง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    1,396
    กระทู้เรื่องเด่น:
    57
    ค่าพลัง:
    +2,628
    จากคนที่เคยมีเงินมากเป็นมหาเศรษฐี
    อยู่ดี ๆ วันหนึ่งก็กลับมาเป็นคนที่ไม่มีเงินตามเดิม

    การเสื่อมของสมาธิที่เคยได้ก็แบบเดียวกันครับ
     
  9. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    สมาธิเสื่่อมไม่เสื่อม เราจะวัดกันตอนที่นำมาใช้งานได้แล้วครับ
    ไม่ใช่วัดว่า เคยเข้าได้ เคยนั่งได้ ระดับไหนมาก่อนนะครับและ
    ไม่ได้วัดกันในระหว่างทางที่ฝึก เพราะระหว่างทางนั้น
    มันเป็นกิริยาทางนามธรรมต่างๆ ที่เกิดได้ปกติและไม่มีประโยชน์
    อะไรนอกจากจะทำให้หลงมันเล่นๆถ้าไปยึดติด
    และเพราะว่าในระหว่างทางที่ฝึกนั้น
    มันเสื่อมกันได้ปกติเพราะมันมีตัวไปกระทำให้เกิดอยู่นั่นเอง


    ที่นี้เมื่อใช้งานได้แล้ว ก็ต้องดูว่า มีเสื่อมไหม
    ถ้าเสื่อม เราเรียกว่า มิฉาสมาธิ อยู่ทั้งนั้นหละครับ
    ไม่ว่าจะทำได้ในระดับไหนก็ตาม หรือยังใช้อะไรเป็นตัว
    กระทำให้มันเกิดอยู่ เพียงแต่ว่า มันสามารถนำมาใช้งานได้อยู่

    ถ้าไม่เสื่อมหลังจากที่ใช้งานได้แล้ว และมีพัฒนาการขึ้น
    เรื่อยๆตามลำดับ ใช้งานได้ง่ายขึ้น เราถึงเรียกว่าสัมมาสมาธิครับ
    ระดับนี้ถึงจะพัฒนาไปจนกระทั่ง เหนือกายเหนือจิตได้ในอนาคต
    หรือที่เรียกว่า เป็นไปอัตโนมัติของมันเอง...

    ซึ่งมันเป็นผลจากการที่เรามา
    เน้นในเรื่องของการเดินปัญญาต่อนั่นเองครับ

    แยกแยะทำให้ความเข้าใจให้ดีๆครับเรื่องแบบนี้
     

แชร์หน้านี้

Loading...