พระเครื่องนี้เป็นเหรียญรูปเหมือนพระทางเหนือ พระอาจารย์ท่านดูให้ ท่านก็บอกพลังแรงมากๆ ท่านบอกว่าพลังแรงแบบนี้เท่าที่ท่านเคยดูมา ในไทยดูเหมือนจะมีแค่อยู่ 8-9 องค์ แต่ท่านจำไม่ได้ว่าเป็นขององค์ไหนบ้าง อันนี้ผมก็เข้าใจเพราะมีคนเอาพระมาให้ท่านดูเยอะมาก ท่านคงจำได้ไม่หมด ท่านยังบอกผมเลยว่าถ้ามีโอกาสก็ให้หามาติดตัวไว้บ้าง
สมเด็จนางพญางิ้วดำ วัดใหม่บ้านดอน และครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัตดีปฏิบัติชอบ
ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย poon-pan, 6 พฤษภาคม 2016.
หน้า 9 ของ 20
-
-
ประสบการณ์พระธาตุ (ไม่แน่ใจว่าเคยเขียนไปแล้วหรือยัง ถ้าใครเคยอ่านแล้วต้องขออภัยด้วยครับ)
ตอน1
พระธาตุนี้แม่ผมไปรับมาจากที่วัดไผ่เหลือง หลวงพ่อท่านเจ้าอาวาสท่านแจกให้มาบูชากัน วันที่ไปรับผมก็ขับรถพาแม่ไปเข้าแถวรับในศาลามีคนรอรับอยู่เยอะ ตอนนั้นน่าจะเป็นประมาณปี 2538
ที่จำได้เพราะว่าตอนนั้นขับรถมิตซูบิชิ รุ่นแลนเซอร์ เพิ่งออกมาใหม่เลย
แม่ผมได้มาก็ใส่ผอบมาบูชา จำได้ว่ามีเพื่อนผู้หญิงที่เรียนมหาลัยเดียวกันซื้อผอบทรงเจดีย์มาให้ให้แม่ผม ผ่านมาได้หลายปี น่าจะเป็นช่วงประมาณปี 2546 ผมได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับพระธาตุเขาก็บอกวิธีทดสอบว่าเป็นพระธาตุ โดยให้นำมาลอยน้ำ พระธาตุแท้จะต้องลอยน้ำ ถ้าเป็นเศษหินเศษกรวดจะจมน้ำ ผมก็นำพระธาตุที่แม่ได้จากวัดไผ่เหลือง มาทดลองลอยน้ำดู ผมนับพระธาตุที่ได้มา มีทั่งหมด 38 องค์ 33 องค์ลอยน้ำจริงตามตำรา ตอนที่ลอยน้ำนั้นจะต้องเหนี่ยวนำจับกันเป็นกลุ่ม อันนี้ก็จริงตามตำรา แต่มี 5 องค์ที่ไม่ลอย จมดิ่งอยู่ก้นถ้วย
ผมก็ไม่แน่ใจว่าถ้าจมแล้วจะไม่ใช่พระธาตุ เพราะว่าได้มาจากที่เดียวกัน ก็เลยขอแม่มาทั้ง 5 องค์มาใส่ผอบไว้ เก็บไว้ที่หิ้งพระที่บ้าน เก็บไว้มานานมากจนเมื่อปี 2559 แม่จะทำบุญถวายพระพุทธรูปหน้าตักประมาณ 20 นิ้ว พี่ชายผมเป็นคนไปหาซื้อจากร้านแถวเสาชิงช้า และสั่งให้ร้านปิดทองแท้ทั้งองค์ พระออกมาสวยงามมากครั ส่วนผมก็มีหน้าที่หาของอันเป็นมงคลมาบรรจุใส่ในองค์พระ เลยนึกขึ้นมาได้ว่าเรามีพระธาตุที่ขอแบ่งแม่มา 5 องค์ตอนที่ได้ทดสอบพระะธาตุลอยน้ำ -
ประสบการณ์พระธาตุ (ไม่แน่ใจว่าเคยเขียนไปแล้วหรือยัง ถ้าใครเคยอ่านแล้วต้องขออภัยด้วยครับ)
ตอน2
ที่ผมใช้คำว่าพระธาตุก็เพราะว่า หลังจากที่ผมได้ทดสอบแต่ไม่ลอย ผมก็แยกเอาไว้ พอพระอาจารย์มาก็ให้ท่านดู ท่านบอกว่าใช่พระธาตุ แต่ผมก็เรียนท่านไปว่าตำราดูพระธาตุเขาบอกว่าไม่ใช่เพราะจมน้ำ พระอาจารย์ก็ยืนยันว่าใช่
ผมก็เลยบูชาต่อ แต่พอมาถึงตอนจะนำมาบรรจุพอเปิดผอบมาก็เป็นแบบในรูปข้างบนครับ คือท่านมีสัณฐานและวรรณะที่เปลี่ยนไปจากรูปทางขวามือเป็นตอนที่ขอแบ่งมาจากแม่ผม ส่วนรูปทางซ้ายมือนั้นมีผิวและรูปที่เปลี่ยนไปเป็นลักษณะมุกดา ถ้าไม่เจอกับตัวเองก็คงเชื่อยากอยู่
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
เพื่อนรุ่นพี่ในเวบพลังจิตได้แนะนำให้ไปกราบนมัสการหลวงปู่ทวด วัดคงคา อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี
จำไม่ได้ว่ามีต้นเรื่องมาจากเรื่องไหน แต่พี่ชายคนนี้ได้แนะนำผมให้ไปไหว้หลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ที่วัดคงคา และพี่ชายก็เล่าเรื่องประสบการณ์ที่ได้เจอมากับตัวเองเรื่องพระหลวงปู่ทวดเนื้อว่านกากายายักษ์ฝังแร่เหล็กไหล ตะกรุดทองคำ พิมพ์จัมโบ้
พี่ชายได้มาทำบุญบูชาพระหลวงปู่ทวด ที่วัดคงคา เพื่อนำเงินนี้ไปร่วมสร้างพระอุโบสถหลังใหม่
ถ้าจำไม่ผิดมีเพื่อนของพี่ชายโทรมาตามให้มาทำบุญรับพระหลวงปู่ทวด และถ้าผมจำไม่ผิด พี่ชายเขาอธิษฐานอยากได้พระหลวงปู่ทวดที่ หลวงปู่ทวดท่านอธิษฐานจิต
หลังจากนั้นก็มีเหตุการณ์นึงที่ทำให้พี่ชายเขารู้ว่า พระหลวงปู่ทวดที่ทำบุญบูชามาจากวัดคงคาเป็นพลังของหลวงปู่ทวดจริงๆ คือกลุ่มเพื่อนของพี่ชายได้พากันไปทำไหว้พระธุดงค์รูปนึงแถวสระบุรี หลังจากที่ได้พูดคุยกับท่าน พี่ชายก็ส่งพระหลวงปู่ทวดให้ท่านช่วยอธิษฐานจิต
ท่านก็ทำสมาธิแล้วก็บอกกับพี่ชายด้วยคำพูดเดียวกันกับหลวงพ่อที่วัดคงคาพูดให้ฟังไว้ว่า หลวงปู่ทวดท่านบอกมาว่าให็เก็บพระนี้ไว้ให้ดี อีกหน่อยจะมีหายากมีค่ายิ่งกว่าเพชร
หลังจากที่ผมได้รับรู้ผมก็ไปไหว้หลวงปู่ทวดที่วัดคงคา ทั้งๆที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านเลยแต่ก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่หน้าตัก 5 เมตรอยู่ใกล้บ้านนี่เอง แถมยังเป็นดำริของหลวงปู่ทวดที่ให้เจ้าอาวาสเป็นผู้ดำเนินการสร้างรูปเหมือนของท่าน (ถ้าใครสนรายละเอียดความเป็นมาลองหาอ่านดูได้ครับ ผมแสกนหนังสือเล่มนี้ลงไว้ในเวบพลังจิต)ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
หลังจากนั้นน่าจะสองถึงสามเดือน พาลูกไปซื้อจักรยานแถวบ้าน กำลังจ่ายเงินอยู่ ก็มองซอกแซกไปที่ตู้กระจกตรงที่เก็บเงินของร้าน มองไปครั้งแรกก็เห็นพระหลวงปู่ทวดรุ่นนี้วางตั้งอยู่ในตู้ และมองไปข้างๆกันนั้นก็เห็นมีรุ่นฝังพลอยอีกหลายองค์ ตอนนั้นรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เห็น เลยออกปากกับเจ้าของร้านจักรยานว่า จะให้เช่าไหม (ในใจก็ลุ้นอยู่ว่า ขอให้เช่าได้เถิด ขอให้เขาแบ่งให้เช่าเถิด) เขาก็บอกว่าให้เช่าแต่ไม่รู้จะยังไง ผมก็เลยบอกเขาไปว่าเท่านี้ โอเคไหม เขาบอกว่าองค์นี้มีเพื่อนโทรมาให้ไปทำบุญรับพระ เขาก็เลยได้มา พอบอกจำนวนเงินไป เขาก็เลยแบ่งให้ผมมา ดีใจมากๆที่ได้พระรุ่นนี้มาโดยไม่คิดว่าจะได้ เพราะไม่รู้จะไปตามหาที่ไหนได้อีก -
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
มีเพื่อนเมลมาถามเรื่องการขอบารมีคุณแม่ชีสมใจ
ผมขอแสดงความคิดเห็นเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องการขอบารมีคุณแม่ชีสมใจด้วยครับ อาจจะไม่ถูกต้องร้อยเปอร์เซนต์ คือผมว่าการที่เราจะขอบารมีให้ได้ผลสำเร็จเราคงต้องเริ่มสร้างเหตุปัจจัยด้วยตัวเราเองอย่างเข้มแข็ง และอดทนก่อนเป็นอันดับแรก
ผมขอยกตัวอย่างคือมีลูกศิษย์ของคุณแม่คนนึงที่มาคอยรับใช้คุณแม่อยู่ที่สำนักปฏิบัติธรรมแบบอยู่ค้างคืน พอถึงตอนเย็นวันเสาร์ถึงจะกลับบ้าน ที่น้องเขามีเวลาเป็นเพราะกำลังรอเรียกสัมภาษณ์งานอยู่ น้องเขามารับใช้ตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ แต่สุดท้ายน้องคนนี้ก็จากไปจนถึงทุกวันนี้ และเท่าที่ผมรู้มาเขาคงคิดว่าทำความดีแล้วแต่ก็ยังไม่ได้รับผล เลยไม่สามารถจะอดทนอยู่ต่อไปได้อีก
คุณแม่ชีสมใจท่านบอกกับผมในทำนองว่า คนเรากรรมทำมาต่างกัน ถ้าให้สองคนได้มาทำกุศลผลบุญที่ได้รับย่อมมีความแตกต่างกันไป จะให้ได้ผลลัพท์เหมือนกันมันคงไม่ใช่ (อาจไม่ใช่คำพูดของท่านแบบเป๊ะนะครับ )
อย่างตอนที่ผมได้ไปช่วยงานก่อสร้างแท่นประดิษฐานพระพุทธรูปปางลีลาประจำโรงเรียนที่บุรีรัมย์ ที่สมเด็จนางพญางิ้วดำท่านดำรินั้น ลูกศิษย์ที่เป็นเจ้าภาพถวายพระพุทธรูปปางลีลา พอเขาถวายปุ๊บ เขาได้รับโชคทันที พี่ร่างทรงบอกว่าเขาได้โชคถูกล๊อตเตอรี่เป็นเงินตั้งเกือบ 1 ล้านบาท แต่พอเรามาดูตัวเอง เราก็ทำเต็มที่นอกจากจะช่วยงานแล้วเราก็เหมารถพาคนไปร่วมบุญนี้ แต่ก็ไม่ได้รับโชคเหมือนกับเขา มันก็น่าคิดอยู่เหมือนกันนะว่าบุญเรายังไม่ถึงเขา -
ส่วนมากคนที่มาหาท่านจะเน้นเรื่องการทำบุญทำทานบริจาคทรัพย์เสียเป็นส่วนใหญ่ ส่วนเรื่องการถือศีลภานานั้นส่วนมากยังไม่ค่อยเข้าใจ ทำให้การทำความดีไม่มั่นคงไม่เสถียร คือมาแล้วก็ไปในไม่ช้า ที่ผมกล้าพูดแบบนี้เพราะว่าผมก็เกือบไปอยู่เหมือนกัน เรื่องของกิเลสแบบละเอียดมันมาต้มตุ๋นเรา จนทำให้เราเกือบถอยจากคุณแม่ชีสมใจ จนท่านแนะนำสั่งสอนผมว่า อย่าคิดมาก ผมว่าท่านพูดถูกเพราะส่วนมากเราชอบคิดปรุงแต่งไปเอง จนเกิดความเสียหายต่อตัวเราและต่อส่วนรวม
ผมนึกขึ้นมาได้เรื่องเกี่ยวกับสมาธิของคุณแม่ชีสมใจที่ผมได้สัมผัสมา ส่วนมากตอนจะลากลับ เราจะเข้าไปขอให้ท่านผูกสายสิญจ์ข้อมือให้ ท่านก็จะทักออกมาเลยว่าแต่ละคนเป็นอย่างไรบ้าง แม่ผมเจอท่านทักมาว่า โอ้โห ! อายุขนาดนี้ยังยึดมากอยู่ ผมยังอดยิ้มไม่ได้เลยว่า ท่านพูดถูกแบบเป๊ะๆ พอถึงตอนที่ผมเข้าไปรับผูกสายสิญจ์ ท่านก็ทักมาว่า มีเทพองค์ใหญ่ปกปักรักษาอยู่ พอผมได้มาเจอกับพระอาจารย์หลังจากนั้น ผมก็ถามท่านพระอาจารย์ไปว่าที่คุณแม่ชีสมใจท่านทักให้ผมมาแบบนี้มันเป็นอย่างไรบ้าง พระอาจารย์ตอบมาว่าใช่ ท่านใช้คำว่าเป็นเทพองค์ใหญ่ระดับน้องๆของพระพิฆเนศ แต่ท่านไม่ได้บอกว่าเป็นองค์ไหน
ถ้าถามว่าผมนั้นเชื่อในสิ่งที่คุณแม่ชีสมใจและพระอาจารย์ได้บอกไว้ไหม คงต้องตอบว่า เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ที่ยังไม่เชื่อเต็มร้อยก็เพราะว่ามีอยู่หลายครั้งที่เรารู้สึกว่า เราต้องลำบากต้องอดทนจนบางทีก็ท้อมากจนทำให้รู้สึกว่า ถ้าเรามีเทพองค์ใหญ่รักษาจริงอย่างที่ท่านกล่าว เราน่าจะสบายกว่านี้ -
วันนี้มีเรื่องสำคัญ ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มากครับ เกี่ยวกับความศรัทธา
เรื่องของหลวงปู่...ที่ผมได้นำมาเผยแพร่ไว้ในเวบพลังจิต มีเพื่อนได้อ่านและเดินทางไปที่วัดเพื่อจะเช่าวัตถุมงคล ได้แจ้งเรื่องว่ามีข้อสงสัยหลายประการหลังจากที่ได้ส่งภาพตรวจสอบพลังในวัตถุมงคลกับครูบาอาจารย์
สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ดีครับ สุดท้ายแล้วเราต้องหาทางตรวจสอบด้วยตนเองอีกที (ครูบาอาจารย์ช่วยเหลือ)
ผมขอเรียนเพิ่มเติม เกี่ยวกับวัดนี้
ที่วัดนี้จะมีที่ให้เช่าวัตถุมงคลอยู่ 2 ที่ คือที่โบสถ์และในอาคารใต้รูปเหมือนหลวงปู่องค์ใหญ่ พอหลังจากที่ผมได้ข้อมูลจากเพื่อนในเวบพลังจิต ผมก็ไปเช่าที่ในอาคารใต้รูปเหมือนองค์ใหญ่ ส่วนที่โบสถ์ผมไปทีหลัง ตอนที่รู้ว่าพระพุทธรูปองค์สำคัญอยู่ในโบสถ์ พอเข้าไป จึงเห็นว่ามีวัตถุมงคลสารพัดชนิดให้เช่าเพียบไปหมด
ครั้งแรกที่ผมเห็นของอะไรต่างๆนั้นผมมีความรู้สึกเฉยถึงเฉยมากในชื่อสรรพคุณที่ระบุไว้เพราะจะจริงจะเทียมก็สุดปัญญาที่จะรู้ได้ด้วยตัวเอง แต่ผมก็มีความฉงนใจอยู่นิดนึงเกี่ยวกับเรื่อง ว่าทำไมวัดเดียวกันแต่มีที่ให้เช่าวัตถุมงคลสองที่ ปกติไปวัดอื่นๆไม่เคยเห็น
เดี่ยวมาต่อนะครับ...ขอเตรียมตัวไปทำงานก่อน -
วันนี้มีเรื่องสำคัญ ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มากครับ เกี่ยวกับความศรัทธา
ผมขอต่อนะครับ
ก่อนอื่นผมคงต้องขอยกเรื่องราวเกี่ยวกับพระเครื่องวัตถุมงคลจากหลายแห่งที่ผมเจอมากับตัวเองและจากเพื่อนที่ไปสัมผัสมา เพื่อประกอบเข้ากับเรื่องราวที่เพื่อนได้แจ้งเตือนผมมาเกี่ยวกับวัดนี้
ที่สำนักปฏิบัติธรรมของคุณแม่สมใจ ตอนที่มีงานบุญใหญ่ ครั้งแรกหรือครั้งที่สองที่ผมได้ไปร่วมงานนั้น มีพระที่ได้รับนิมนต์มากับหลายรูป มีอยู่องค์นึงพอเจริญพุทธมนต์เย็นเสร็จท่านก็หยิบเอาพระเครื่องออกมาแจกญาติโยม ท่านบอกเป็นพระกรุ ผมเห็นพระของคนที่ได้มา ผมดูเห็นมีคราบดินเกาะอยู่จนมองไม่เห็นองค์พระ แต่ผมไม่ได้เข้าไปรับจากพระรูปนั้น ที่ผมไม่เข้าไปก็เพราะว่า
1. เราก็มีพระเครื่องเยอะอยู่แล้ว ให้คนอื่นได้มีโอกาสได้ไปบ้าง
2. สักพักผมสังเกตุเห็นอะไรบางอย่าง แต่ผมไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลยเพราะถ้าเราเล่าไปเกรงว่าจะมีแต่ผลเสีย ยิ่งกำลังมีงานบุญสำคัญ ถ้าเกิดทำให้คนที่มาร่วมงานบุญนี้เกิดมีจิตตกไปคงจะไม่ดีเป็นแน่ สิ่งที่ผมเห็นมันทำให้ผมคิด คือผมเห็นตอนที่ญาติโยมเข้าไปรอรับพระกรุที่แจกอยู่นั้นต่างคนก็ต่างหยิบเงินยืนถวายพระไปด้วย
ที่ผมเห็นแล้วรู้สึกไม่ดีมากๆคือ ตอนที่พระหยิบพระเครื่องแจก ท่านกลับคอยมองมาที่เงินที่ญาติโยมยื่นถวาย คือถ้าใครถวายเงินมากก็รับพระพิมพ์ที่ท่านบอกว่าจะหายากกว่าพิมพ์อื่น
-
วันนี้มีเรื่องสำคัญ ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มากครับ เกี่ยวกับความศรัทธา
หลังจากนั้นไม่นาน คุณแม่ชีสมใจท่านก็ให้พระกรุแก่ผมหนึ่งองค์ เป็นพระกรุที่พระรูปนั้นได้นำมาแจกในงานบุญนั่นเอง ผมก็รับมาจากมือท่าน ก็รู้สึกดีใจที่ท่านเมตตาเก็บเอาไว้ให้ผมหนึ่งองค์
แต่ด้วยความที่ได้สังเกตุเห็นอะไรบางอย่างที่ทำให้เราคิดไปในทางอกุศล เลยมีความรู้สึกไม่ยินดียินร้ายกับพระกรุที่ได้รับจากคุณแม่ชีสมใจ หลังจากวันงานผมเลยเอาพระกรุแช่ลงในน้ำ จนดินที่ห่อหุ้มละลายออกหมด จนเห็นเนื้อแท้ขององค์พระ ผมดูเนื้อแล้วคิดว่าไม่ใช่พระเนื้อดิน น่าจะเป็นเนื้อสังเคราะห์อย่างเช่นดูเหมือนเป็นเนื้อแข็ง เหมือนยางหรือพลาสติกอะไรสักอย่างที่ไม่ใช่เนื้อดินอย่างแน่นอน...เอวัง เหมือนกับที่สังเกตุเห็น
แล้วความศักดิ์สิทธิ์และคุณธรรมของคุณแม่ชีสมใจจะลดลงไปตามพระเนื้อสังเคราะห์นั้นหรือไม่...
ซึ่งโชคดีมากๆที่ก่อนหน้านี้ผมทราบมาจากพระอาจารย์ว่า พระที่ท่านจะมีความสามารถสัมผัสพลังในพระเครื่องใช่ว่าจะทำกันได้ทุกองค์ทุกรูป และพอได้มาอ่านคำสอนของหลวงพ่อพุธ วัดป่าสาลวัน โคราช ท่านก็บอกไว้ว่า พระอริยสงฆ์ในระดับเดียวกัน คุณธรรมท่านเสมอกันแต่เรื่องความรู้ความสามารถนั้นมีความแตกต่างกันไป
มันจึงทำให้เรารู้ว่าเรื่องความรู้พิเศษของผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบนั้นมีความแตกต่างกันไป ไม่เท่ากัน แต่ความไม่เท่ากันนั้นไม่ได้หมายความว่าท่านที่มีความรู้ความสามารถสูงกว่าจะได้รับการเทอดทูนบูชามากเสียจนกระทั่งทำให้เราไปทำการลบหลู่ปรามาสครูบาอาจารย์องค์ที่มีความรู้ความสามารถน้อยกว่า -
วันนี้มีเรื่องสำคัญ ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มากครับ เกี่ยวกับความศรัทธา
ผมขอเล่าเรื่องเกี่ยวพระเครื่องที่รู้มาอีกสักสามถึงสี่แห่ง ซึ่งบางแห่งนั้นผมก็ได้รับเมลเตือนมาจากเพื่อนสมาชิกในเวบพลังจิตประกอบกับที่พระอาจารย์ท่านช่วยดูให้ ผลมันตรงกันเลยทำให้เชื่อได้ว่าน่าจะเป็นจริง
แห่งแรก
เป็นสำนักแห่งที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับพญาเต่า แถวภาคตะวันออก อันนี้เจอมาด้วยตัวเองยังไม่เคยเล่าให้ใครฟัง เพราะไม่รู้ว่าถ้าเล่าไปแล้วมันจะอย่างไร
ช่วงนั้นผมไปที่วัดนี้บ่อยมากครับ เพราะอยู่ไม่ไกลจากบ้านพ่อตามากนัก ขับรถใช้เวลาแค่ไม่ถึง 30 นาทีก็ถึงแล้ว ส่วนมากไปถวายอาหารเช้าและทำบุญถวายปัจจัย พอเสร็จผมก็อยู่พูดคุยกับท่านต่ออีกสักพักใหญ่ ท่านก็มีเมตตามอบพระเครื่องให้มา
มีครั้งนึงท่านก็ปรารถว่า ของที่วัดนั้นใกล้จะหมด แต่ท่านมีครูบาอาจารย์อีกองค์นึงที่เก่งสามารถเสกของให้ได้ ท่านก็เล่าว่ากำลังคิดจะทำอยู่ สรัางพระ/วัตถุมงคลไปให้องค์นั้นเสก เท่าที่ผมได้ฟังมากับหูก็ทำให้เราคิดได้ว่าท่านกำลังจะสร้างพระเครื่องของวัดแต่เอาไปให้พระอีกองค์เสก ทำให้เราเริ่มรู็สึกไม่ดีว่าทำไมท่านจึงมีความคิดเช่นนั้น
พอคร้ังหลังไป ผมก็ไปทำบุญกับท่านอีก ท่านก็คุยเรื่องแบบนี้อีก แต่คุยแบบเหมือนกับว่าท่านนึกขึ้นมาได้ว่าไม่ควรเอาเรื่องแบบนี้มาเปิดเผย มันก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกไม่ดีกับพระรูปนั้นเข้าไปอีกและหลังจากนั้นผมก็ไม่รู้ว่าท่านทำแบบที่ท่านพูดไว้หรือเปล่า ถ้าท่านทำขึ้นมาจริงๆ วัตถุมงคลรุ่นนั้นจะเรียกว่าเป็นแบบไหนครับ เสริมหรือยัด ผมก็เรียกไม่ถูก -
วันนี้มีเรื่องสำคัญ ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มากครับ เกี่ยวกับความศรัทธา
ผมขอเล่าเรื่องเกี่ยวพระเครื่องที่รู้มาอีกสักสามถึงสี่แห่ง ซึ่งบางแห่งนั้นผมก็ได้รับเมลเตือนมาจากเพื่อนสมาชิกในเวบพลังจิตประกอบกับที่พระอาจารย์ท่านช่วยดูให้ ผลมันตรงกันเลยทำให้เชื่อได้ว่าน่าจะเป็นจริง
แห่งที่สอง
พระของหลวงปู่ สอเสือ จังหวัดนครสวรรค์ อันนี้โดนมากับตัว เห็นว่าพระท่านพิมพ์นึง ราคาขนมเลยตามเช่าเก็บ พอพระอาจารย์ท่านลงมา ก็เอาให้พระอาจารย์ดู ท่านบอกว่า ไม่เห็นมีอะไรเลย เราก็งง พอคราวหลังก็ตามเก็บอีกหลายองค์ พอท่านลงมาก็เอามาให้ท่านดูให้อีก ท่านก็บอกว่าไม่เห็นมีอะไร เราก็ชักเห็นท่าไม่ดีแล้ว จนมีวันนึงมีเพื่อนในเวบเมลมาเตือนว่า เขามีโรงงานปั๊มอยู่ที่นครสวรรค์ เราเลยถึงบางอ้อเสียที เช่ามาเป็นสิบองค์ เลยเลิกตามเก็บตั้งแต่วันนั้น
ก็ไม่รู้จะไปกล่าวโทษกับใครดี โทษหลวงปู่ดี? หรือจะโทษคนเอามาปล่อยดี? หรือจะโทษคนปลอมพระดี? หรือจะโทษที่ตัวเราเองดี? หรือจะไปโทษเพื่อนในเวบที่เอาเรื่องนี้มาบอกดี? -
วันนี้มีเรื่องสำคัญ ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มากครับ เกี่ยวกับความศรัทธา
ผมขอเล่าเรื่องเกี่ยวพระเครื่องที่รู้มาอีกสักสามถึงสี่แห่ง ซึ่งบางแห่งนั้นผมก็ได้รับเมลเตือนมาจากเพื่อนสมาชิกในเวบพลังจิตประกอบกับที่พระอาจารย์ท่านช่วยดูให้ ผลมันตรงกันเลยทำให้เชื่อได้ว่าน่าจะเป็นจริง
แห่งที่สาม
วัตถุมงคลของหลวงพ่อ สอเสือ แถวสามพราน มีเพื่อนที่ทำงานที่เดียวกันเล่นสายนี้เป็นหลักมาบอกกับผมว่าของที่ตู้ในวัดนั้นไม่ทันหลวงพ่อเลย ผมฟังแล้วก็รู้สึกตกใจ ว่าเขาทำกันขนาดนี้เลยเหรอ ทั้งๆที่เป็นวัดของครูบาอาจารย์ของเขาเอง ส่วนจะเป็นจริงหรือไม่ก็ไม่อาจทราบได้ ได้แต่ฟังไว้เป็นข้อมูล แต่ถ้าถามว่าผม ว่าพอเรารู้มาอย่างนี้ ความรู้สึกศรัทธาต่อหลวงพ่อสอเสือน้อยลงหรือไม่ ก็คงตอบว่าไม่ เพราะสิ่งที่ท่านทำไว้เป็นเยี่ยงอย่างนั้นยังคงอยู่ตลอดกาล ส่วนพวกเหลือบริ้นไร มันคงต้องรับกรรมในไม่ช้าเอง
-
วันนี้มีเรื่องสำคัญ ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มากครับ เกี่ยวกับความศรัทธา
ผมขอเล่าเรื่องเกี่ยวพระเครื่องที่รู้มาอีกสักสามถึงสี่แห่ง ซึ่งบางแห่งนั้นผมก็ได้รับเมลเตือนมาจากเพื่อนสมาชิกในเวบพลังจิตประกอบกับที่พระอาจารย์ท่านช่วยดูให้ ผลมันตรงกันเลยทำให้เชื่อได้ว่าน่าจะเป็นจริง
แห่งที่สี่
เคยเอาพระที่เช่ามาจากเวบเช่าพระ พิมพ์สวยปัดทองที่องค์พระเสียด้วย ผมให้พระอาจาย์ช่วยดูให้ท่านบอกไม่เห็นมีอะไรเลย ตอนนั้นยังไม่รู้ข้อมูล จะไม่เชื่อพระอาจารย์เลยก็ไม่ได้ พอตอนหลังมีเพื่อนที่ใกล้ชิดกับสายนี้เมลมาบอกว่า เขาปลอมกันตั้งแต่หลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่ มีทั้งพิมพ์มีทั้งมวลสาร คนทั่วไปไม่มีทางรู้ได้หรอก เพราะว่าทุกอย่างเหมือนกันหมดเว้นแต่ไม่ได้ผ่านมือหลวงพ่อ...เอวัง
ผมเลยเลิกตามเก็บอีกเลย เรียกว่าเข็ดขยาด
ขอกล่าวซ้ำอีกรอบนึงครับ
ก็ไม่รู้จะไปกล่าวโทษกับใครดี โทษหลวงปู่/หลวงพ่อดี? หรือจะโทษคนเอามาปล่อยดี? หรือจะโทษคนปลอมพระดี? หรือจะโทษที่ตัวเราเองดี? หรือจะไปโทษเพื่อนในเวบที่เอาเรื่องนี้มาบอกดี? -
ผมขอย้อนกลับมาเรื่องราวที่ผมได้รู้มาจากสมเด็จนางพญางิ้วดำ
ผมถาม : ทำไมคนเก่าคนแก่ที่มีความเกี่ยวข้องกับการสร้างวัดของสมเด็จนางพญางิ้วดำจึงมีปัญหา
สมเด็จนางพญางิ้วดำตอบ : เขาเปลี่ยนไป ไม่ตั้งมั่นในความดี เลยทำให้เขาต้องรับเคราะห์กรรม
เรื่องนี้ผมคงเล่าให้ฟังได้เท่านี้ครับ เพราะถ้าเล่าละเอียดมากไปจะไม่ดีครับ แต่ถ้าใครได้รู้เรื่องราวที่มาที่ไปของวัดของสมเด็จนางพญางิ้วดำแบบละเอียด จะสังเกตุเห็นเองว่าสิ่งที่ผมเล่าถึงเรื่อง ถาม-ตอบกับสมเด็จนางพญางิ้วดำไว้นั้นผมหมายถึงใคร อะไร และเมื่อไหร่ -
ผมขอย้อนกลับไปเรื่องที่เพื่อนในเวบได้เมลมาเกี่ยวกับพระหลวงปู่...ของวัดที่ผมได้สแกนเรื่องราวมาลงไว้
พอผมได้รู้เรื่องราวของหลวงปู่จากเพื่อนในเวบพลังจิต (เป็นรุ่นพี่คืออาวุโสกว่าผมมาก และพอผมได้คุยกับพี่คนนี้ทางเมล ทำให้ผมรู้ว่าพี่คนนี้เป็นรุ่นน้องมหาลัยเดียวกับหัวหน้าของผมที่ทำงาน ช่างบ้งเอิญจัง)...ผมได้ไปทำบุญบูชาพระพิมพ์จัมโบ้แบบธรรมดา เนื้อกากยายักษ์ปี 2539 รุ่นกาญจนาฯที่วัดในอาคารใต้รูปเหมือนหลวงปู่มาหนึ่งองค์ และได้หนังสือเล่มที่ผมสแกนเอามาลงไว้ในเวบ พระที่ผมไปทำบุญบูชาได้พระมา ผมก็ยังไม่รู้ว่าพระจะเป็นอย่างไร เสียดายที่พระอาจารย์ของผมท่านเสียไปก่อนตั้งแต่ปี 2558
ส่วนองค์ที่มีตะกรุดทองคำฝังเม็ดเหล็กไหลผมก็เช่าต่อจากเจ้าของร้านจักรยานแถวบ้าน เจ้าของร้านจักรยานเล่าว่ามีเพื่อนชวนให้ไปทำบุญปูพื้นกระเบื้อง เขาเลยได้พระองค์นี้มา
ส่วนพระองค์อื่นๆที่อยู่ในตู้ทั้งสองแห่งในวัดนั้น ผมก็ไม่รู้ว่าจะดีหรือร้ายอย่างไรครับ
คงต้องขอให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ช่วยกันหาข้อพิสูจน์ว่าอันไหนจริงอันไหนเท็จ อย่างเพื่อนที่ได้เมลแจ้งผมมานี้ ก็จะทำให้เราเป็นชาวพุทธที่แท้จริง สมดังที่พระพุทธเจ้าท่านทรงสอนเรื่อง กาลมะสูตร 10 ประการไว้ ซึ่งกล่าวโดยสรุปว่า ก่อนจะเชื่ออะไรต้องลงมือพิสูจน์ด้วยตัวเองก่อนจึงจะปลงใจเชื่อ
-
ผมขอออกตัวนิดนึงนะครับ ที่ผมมาเล่าถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆนี้ ผมไม่ได้มีเจตนามุ่งหมายชักชวนชี้นำว่าพระเครื่องวัตถุมงคลของสำนักใดว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มากน้อยกว่ากัน หรือว่าพระของสำนักไหนจะแท้จะทันหรือไม่ทัน ที่จะมีค่าควรแก่เช่าหาบูชามาเก็บเอาไว้เพื่อพึ่งพุทธคุณและพลังที่ประจุอยู่ในพระเครื่องวัตถุมงคลนั้นๆ
ผมแค่นำเสนอเรื่องราวประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวผมเองและประสบการณ์ของเพื่อนของผมที่ผมเชื่อว่ามีความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับที่เชื่อถือได้ ซึ่งต้องดูหลายๆอย่างประกอบ
ถ้าจะพูดถึงเรื่องวัตถุมงคล พูดกันได้ไม่มีวันจบ ผมว่าถ้าให้ไอนสไตน์ที่ว่ามีมันสมองปราดเปรื่องที่สุดในโลกนี้ มาช่วย solve ปัญหาเพื่อหา solution แก้ไขปัญหาพระเครื่องในเมืองไทย ผมว่า ไอน์สไตน์ก็คงไปไม่เป็นเหมือนกัน เพราะว่าผลประโยชน์มันมากมายเหลือเกิน ยิ่งผลประโยชน์มากมันจึงทำให้เรื่องวัตถุมงคลมันสลับซับซ้อนซ่อนเงื่อนไม่รู้กี่ชั้นต่อกี่ชั้น ซึ่งมันคงไม่พ้นที่จะมาจากจิตใจที่ลดเลี้ยวเคี้ยวคดของคนที่ไม่มีหิริ-โอตตัปปะนั่นเอง
-
พฤติกรรมของคนที่ไม่มีหิริ โอตัปปะ ที่ผมได้ยินได้ฟังมาจากคนที่อยู่ใกล้ชิดครูบาอาจารย์องค์ใหญ่ๆ
- ขนาดอยู่ใกล้กับครูบาอาจารย์ที่ทรงคุณธรรมและคุณวิเศษแท้ๆ ยังปลอมพระเสริมพระปลอมและเสริมวัตถุมงคลของท่านมาหลอกขายเอาเงินใส่เข้ากระเป๋าตัวเอง
- ขนาดอยู่ใกล้กับครูบาอาจารย์แท้ๆ ยังแอบขโมยเงินที่ญาติโยมบริจาคมาเพื่อกิจของสงฆ์อย่างบุญกฐิน บุญผ้าป่า ไปอย่างหน้าตาเฉย
- ขนาดอยู่ใกล้ๆกับครูบาอาจารย์ที่ท่านให้ความช่วยเหลือเมตตาสงเคราะห์ กับมาหลอกให้ท่านทำวัตถุมงคลเอาไปขายกินแล้วเอาเศษเงินมาถวาย
-ขนาดอยู่ใกล้กับครูบาอาจารย์ที่ทรงคุณธรรม เวลาท่านมีกิจอะไรกับไม่ยอมให้ความร่วมมือกับท่านเอาแต่คอยขัดขวางคนที่มาช่วยงานเพราะกลัวเขาจะได้หน้าได้ตา ได้รับความนิยมชมชอบจากครูบาอาจารย์มากกว่าตน มักแอบอ้างว่าตนและพวกเป็นศิษย์ใกล้ชิด ใครจะทำอะไรก็ต้องได้รับความเห็นชอบจากตนและพวกเท่านั้น -
นึกขึ้นมาได้เรื่องนึงของคนไม่มีหิริ โอตัปปะ
พระอาจารย์ที่ผมรู้จักที่วัดป่าฯแห่งหนึ่งใน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ท่านบวชมาได้ ยี่สิบกว่าพรรษาเป็นองค์ที่แนะนำให้ผมไปกราบหลวงพ่อ น. ที่จังหวัดสกลนคร กับหลวงพ่อฉ.ที่จังหวัดขอนแก่น
ท่านเล่าให้ฟังเรื่องวัตถุมงคลของหลวงพ่อที่หมอทางเชียงใหม่ได้เอ็กซเรย์แล้วพบว่ากระดูกแขนเป็นแก้ว ( พระธาตุ) ท่านเล่าว่าครูบาอาจารย์ท่านเบื่อหน่ายพวกลูกศิษย์ที่มารับใช้ท่านแล้วให้ทำนู่นทำนี่ เพื่อเอามาขาย ท่านปรารถว่าท่านเบื่อหน่ายต่อพฤติกรรมของคนพวกนี้
คนพวกนี้ทำถึงขนาดหาวิธีการโฆษณาว่าวัตถุมงคลของหลวงพ่อรุ่นนี้สุดยอด ขนาดลงทุนขับรถให้หลวงพ่อ ขับแบบเร็วจี๋เพื่อลองของจะเอาไปโปรโมทวัตถุมงคลที่พวกเขาจัดทำ จนท่านได้รับอุบัติเหตุรถคว่ำหรือรถชนอะไรสักอย่าง...แต่ก็ไม่เป็นอะไรมาก
เขาทำกันถึงขนาดนี้... พระอาจารย์ท่านว่า
หน้า 9 ของ 20