สมเด็จปู่ศรีสุทธรรมนาคราช น.29/ครูบาออ/ลป.บุญยัง/ลป.พริ้ง/ลป.จันทร์/ลป.จักร/ลพ.สุพจน์/ลพ.รัตน์ /ลป.ผาด วัดไร่ ฯลฯ

​

รายการที่ 80 เหรียญเจ้าสัว๕แผ่นดิน หลวงปู่สุภา กันตสีโล พระอริยะสงฆ์ 5 แผ่นดิน เนื้อเงิน รุ่นอายุยืน 118 ปี สร้างปี 2555

หลวงปู่สุภาได้พูดคำพูดมาประโยคหนึ่งที่กินใจและมีคุณค่าทางจิตใจมาก ว่า"หลวงปู่จะได้รับยศถาบรรดาศักดิ์เป็นอะไรไม่สำคัญ แต่ที่สำคัญลูกหลานหลวงปู่ต้องไม่จน ต้องมีโชคที่ร่ำรวย และมีความสุข อันนี้สำคัญกว่า หลวงปู่เป็นห่วงลูกหลานทุกคน ขอให้เป็นเจ้าสัว รวยๆ กันทุกคนนะลูกนะ"

ด้านหน้า
หน้าเหรียญเป็นรูปพระพุทธอยู่ในซุ้มกระจัง ตามแบบต้นตำรับเหรียญหล่อโบราณเหรียญเจ้าสัวหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว แต่ได้แกะแม่พิมพ์ขึ้นมาใหม่ให้สวยงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของหลวงปู่สุภา

ด้านหลัง
บนสุดเป็นยันต์นะล้อมยันต์ประจำองค์ของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าซึ่งเป็นอาจารย์ของหลวงปู่สุภา ต่อลงมาซ้าย ขวาเป็นยันต์จะนะยันต์ประจำองค์ของหลวงปู่สุภา กลางเหรียญเป็นรูปแมงมุมชักใยดักเงินดักทองดักความเจริญรุ่งเรือง ใต้แมงมุมเขียนคำว่าเจ้าสัว ๕ แผ่นดิน ๑๑๘ ปี โดยหลวงปู่สุภาได้สื่อความหมายว่า ใครมีไว้บูชาจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองมีทรัพย์สินเงินทองตลอดไปเหมือนคำว่าเจ้าสัว ๕ แผ่นดิน

เจ้าสัว เป็นภาษาจีน มีความหมายถึงคหบดีผู้มีฐานะความร่ำรวยกว่าชาวบ้านทั่วๆ ไป และเป็นผู้มีฐานะร่ำรวยกว่าคำว่า เถ้าแก่ หรือเศรษฐี หลายเท่านัก ด้วยเหตุนี้คำว่า เจ้าสัว จึงเป็นมงคลนามที่ชาวจีนนิยมชมชอบกันมาก

พิธีปลุกเสกวาระแรก เสาร์ ๕ เดือน ๕ ปี ๕๕
พิธีพุทธาภิเษกวาระแรกนี้ได้เลือกจัดในเดือนพฤษภาคม เนื่องจากเป็นวันสุดยอดอภิมหาฤกษ์เสาร์ที่ ๕ เดือน ๕ ปี ๒๕๕๕ โดย หลวงปู่สุภา กนฺตสีโล เป็นประธานในพิธีฝ่ายสงฆ์ และ ม.ร.ว.จิราคม กิติยากร เป็นประธานกิติมศักดิ์ฝ่ายฆราวาส

เวลา ๐.๐๐ น. ถือเป็นอุดมฤกษ์พุทธาภิเษก และ ปลุกเสกวัตถุมงคลรุ่น อายุยืน ๑๑๘ ปี เหล่าพระภิกษุสงฆ์วัดคอนสวรรค์ และ พระธุดงค์จากทั่วประเทศ ที่เคารพนับถือ และรักใคร่หลวงปู่สุภา ได้บริกรรมตั้งธาตุทั้ง ๔ ตามหลักวิชาของหลวงปู่สุภา กนฺตสีโล จนกระทั่งถึงเวลา ๕.๕๕ น. เป็นอันจบพิธี

เวลา ๗.๐๐ น. พระธุดงค์ผู้ศรัทธาในหลวงปู่สุภาทั่วประเทศ จำนวน ๑๑๘ รูป และพระสงฆ์วัดคอนสวรรค์ร่วมทำกิจวัตร ออกบิณฑบาต ในตำบลค้อเขียวในช่วงสาย พ่อพราหมณ์จากวัดหลวงพ่อโสธร ได้ทำพิธีกรรมทางพราหมณ์อธิษฐานเชิญวิญญาณเทพยดาทั้ง ๑๖ ชั้นฟ้า ๑๕ ชั้นดิน เข้าประจำในมณฑลพิธี เพื่อเป็นสิริมงคลแก่งานพุทธาภิเษก

เวลา ๑๓.๐๐ น. เริ่มทำการปลุกเสก พระสวดพุทธาภิเษก โดยมีหลวงปู่สุภา กันตสีโล เป็นประธานสงฆ์ ทำพิธีอธิฐานจิตพุทธาภิเษกด้วยตัวท่านเอง ทั้งที่สุขภาพของท่านไม่ค่อยแข็งแรง โดยที่เหล่าลูกศิษย์ลูกหาไม่ได้บังคับหรือขอร้องท่าน แต่เป็นเจตนาของท่านที่ต้องการที่จะทำพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลของท่านด้วยตัวท่านเองเพื่อที่จะทำให้วัตถุมงคล รุ่น อายุยืน ๑๑๘ ปีมีความเข้มขลังศักดิ์สิทธอย่างที่สุดเพื่อที่ผู้นำไปบูชาจะได้มีความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัวอย่างที่สุด นับเป็นบุญวาสนาของผู้ที่มาร่วมงานเป็นอย่างยิ่ง

ระหว่างพิธีพุทธาภิเษก และปลุกเสก มีผู้ศรัทธาในหลวงปู่สุภา กนฺตสีโล สนใจขอจองเช่าบูชาวัตถุมงคลหลวงปู่สุภา รุ่นอายุยืน 118 ปี กันอย่างล้นหลามพร้อมกันนี้ ม.ร.ว. จิราคม กิติยากร ท่านได้ให้เกิยรติมาเป็นประธานกิติมศักดิ์ฝ่ายฆราวาส โดยเมื่องานพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลรุ่นอายุยืน ๑๑๘ ปี เสร็จสิ้น ม.ร.ว. จิราคม กิติยากร ได้มอบเหรียญที่ระลีกซึ่งทำพิธีปลุกเสกแล้ว ให้แก่ประชาชนที่มาร่วมงานด้วยตัวท่านเอง โดยเหรียญนั้นชื่อว่าเหรียญแผ่นดินเกิด คือสร้างเพื่อในวาระที่หลวงปู่สุภา ได้กลับมาพักผ่อนเยี่ยมเยียนที่วัดคอนสวรรค์อันเป็นบ้านเกิดของท่าน ลักษณะเหรียญเป็นเหรียญปั๊มเนื้อทองแดงชนิดเดียวรูปแบบลักษณะเหรียญคือการถอดแบบมาจากพระผงเสด็จกลับของหลวงปู่สุภา ที่ได้จัดสร้างในปี พ.ศ. ๒๕๐๖ อันลือลั่นเรื่องพุทธคุณความศักดิ์สิทธิ์ ปัจจุบันมูลค่าสูงมากและหายากยิ่ง

จำนวนจัดสร้าง 4,118 องค์ (โค้ด + หมายเลข)

เหรียญละ หมดค่ะ บาท

 

​

รายการที่ 81 เหรียญห่วงเชื่อมเจริญพร รุ่น ..เจริญพร มั่งมี ศรีสุข.. สร้าง ปี พ.ศ.2556

พระครูสุพจนวรคุณ ฐิตพฺพโต หลวงพ่อสุพจน์ (เทพเจ้าแห่งเสือสมิง)
วัดห้วงพัฒนา ตำบลแสนตุ้ง อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด อายุ 70 ปี

หลวงพ่อสุพจน์ ได้สร้างบารมีอยู่ในป่าเขา เป็นเวลายาวนาน มีประสบการณ์มากมายเกี่ยวกับสัตว์ป่าทั้งหลายเช่น ลิง ค่าง ช้าง เสือ เวลาท่านนึกถึงอะไร สิ่งนั้นมักจะมาตามความรำพึงนึกคิดเสมอ เช่นนึกถึงช้าง ว่าหายหน้าไปไหนนานไม่ผ่านมาทางนี้เลย พอตกกลางคืนดึกๆช้างก็จะมาหาจริงๆ และเดินตรงมายังภายในกุฏิที่ท่านพักอยู่ พอให้ทราบว่าเขามาหาแล้ว ช้างก็จะกลับเข้าป่าไป เวลาที่ท่านนึกถึงเสือ ก็เช่นกัน นึกถึงตอนกลางวัน ตกกลางคืนเสือก็มาเพ่นพ่านภายในวัดบริเวณที่ท่านพักอยู่ หลวงพ่อสุพจน์ ท่านได้บำเพ็ญเพียรออกธุดงค์ เพื่อเผยแผ่พระธรรม คำสอนตามสถานที่ต่างๆหลายแห่ง

ท่านมีความพากเพียร มุ่งมั่นในการปฏิบัติ ปฏิบัติจนมีชื่อเสียง ศรัทธาญาติโยมทั้งใกล้และไกลมักกล่าวกันปากต่อปาก หลวงพ่อท่านตั้งอยู่ในข้อวัตรปฏิบัติอันดีงามเสมอต้นเสมอปลายตั้งแต่หลวงพ่อท่านยังมีอายุพรรษาไม่มาก ท่านได้บำเพ็ญตนให้เป็นแบบอย่างคือท่านมีความเด็ดเดี่ยวในข้อวัตรปฏิบัติมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเดินจงกรม หลวงพ่อสุพจน์ได้เน้นเป็นพิเศษ กล่าวคือเมื่อฉันเสร็จ เริ่มเดินจงกรมเป็นพุทธบูชา พอถึงบ่ายสองโมงเริ่มเดินจงกมถวายเป็นธรรมบูชา จนถึงบ่าย ๔ โมง และเมื่อทำข้อวัตรเสร็จสิ้นแล้วก็จะเริ่มเดินจงกรมถวายเป็นสังฆบูชา จนถึงประมาณ ๔-๕ ทุ่ม จึงเข้าที่พักเพื่อบำเพ็ญภาวนาต่อไปทุกๆวันเวลาเช้าราวตีสาม ก็จะลุกขึ้นเจริญจิตตภาวนาและพาภิกษุสามเณรพร้อมญาติโยมที่มาบวชนุ่งขาวห่มขาว เจริญจิตตภาวนาไปด้วยทุกครั้ง
หลวงพ่อไม่เคยขาดการทำวัตรสวดมนต์ทั้งเช้าและเย็น ยกเว้นบางวันที่หลวงพ่อท่านออกไปทำธุระทางพระศาสนา แล้วกลับไม่ทัน นอกจากนั้นแล้วกิจวัตรของหลวงพ่อคือการทำสมาธิภาวนาทั้งเช้าเย็น โดยมิได้แสดงความเบื่อหน่ายให้เห็นเลย ทั้งยังได้สงเคราะห์วัตถุและปัจจัยทั้งในวัดและนอกวัด โดยมีเมตตาคุณเป็นที่ตั้ง จึงทำให้ญาติโยมสาธุชนทั้งหลายได้มีโอกาสได้กราบไหว้บูชาพระสุปะฏิปันโนอีกรูปหนึ่งอย่างสนิทใจ

เนื้อแร่นำฤกษ์ สร้าง 699 เหรียญ มีจารมือ จีวร พระธาตุ เกษา

เหรียญละ หมดค่ะ บาท

 

​

รายการที่ 82 พระกริ่งจักรพรรดิ์ หลวงปู่โสฬส ยโสธโร เนื้อสัมฤทธิ์กลับดำ ก้นทองแดง หมายเลข 789

พระกริ่งจักรพรรดิ์ หลวงปู่โสฬส ยโสธโร อายุ 98 พรรษาที่ 77 เพชรน้ำเอกแห่งเมืองปราจีน

ภาคตะวันออก...ในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี อริยสงฆ์ท่านหนึ่งซึ่งมีเมตตาบารมีสูง แต่ชอบอยู่อย่างสันโดษและเรียบง่าย ตามคติว่า “พระดีไม่เบ่ง พระเก่งไม่โม้ พระโต ไม่คุย (โอ้อวด)” แต่เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักนิยมคาถาอาคม คือ...หลวงปู่ โสฬส วัดโคกอู่ทอง

หลวงปู่โสฬส เป็น คนตำบลหนองแก้ว อำเภอประจันตคาม ปราจีนบุรี โดยกำเนิด เกิดเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2457 เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์เมื่ออายุครบบวช (20 ปี) ในวันที่ 13 พฤษภาคม 2477....ได้นามว่า “โสฬส ยโสธโร”

ตลอดระยะเวลา... จะจำพรรษาอยู่ที่วัดโคก- อู่ทองมาโดยตลอด (ไปศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคมที่อื่นบ้าง แต่พอถึงช่วงเข้าพรรษาก็กลับมาที่วัดโคกอู่ทองตามเดิม) นับจากวันนั้นถึงวันนี้ มีอายุครบ 98 ปี พรรษา 77 ในว่าที่ตำแหน่ง...พระครูธำรงโพธิเขต
ช่วงที่เป็นสงฆ์ในวัยหนุ่ม สนใจในไสยเวท ได้ไปศึกษากับเกจิอาจารย์ผู้เรืองนามหลายท่าน ท่านแรกคือ หลวงพ่อจาดแห่งวัดบางกระเบา พระเถราจารย์ขมังเวท ผู้เรืองนามในยุคสงครามอินโด จีน แต่เป็นช่วงบั้นปลายอายุขัยก่อนละสังขารหลวงพ่อจาดแล้ว จึงได้รับการแนะนำให้ไปศึกษาวิชาอาคมจาก หลวงพ่อเส็ง วัดประจันตคาม และก็ได้รับการถ่ายทอดสรรพวิชาจนหมดเปลือก แล้วไปเรียนกับ หลวงพ่อเอีย แห่งวัดบ้านด่าน ศึกษาวิชาปรอทจาก หลวงปู่อวน วัดหนองพลับ สระบุรี วิชาเสือปรอทจากพระอาจารย์วัน เขาวงถ้ำนารายณ์ สระบุรี

หลวงปู่โสฬส...ยังได้เรียนรู้วิชาอาคมและความรู้อื่นๆจากฆราวาสทางสายอีสาน กับ อาจารย์ พรหมมา หมอธรรมผู้เรืองนามของโคราช และ อาจารย์ชื่น ผู้มีความเชี่ยวชาญทั้งอักขระขอมไทย อักขระขอมลาว และ ยังมีความสามารถด้านโหราศาสตร์กับสมุนไพรไทยอีกโสตหนึ่งด้วย

พุทธาภิเษกโดยเกจิอาจารย์ทั้งหลาย อาทิ
หลวงพ่อฟูวัดบางสมัคร แปดริ้ว
หลวงปู่สรวง วัดถ้ำพรหมฯ ลพบุรี
หลวงพ่อสวัสดิ์ วัดโพธิ์ฯ ลพบุรี
หลวงพ่อเสือตาทิพย์ วัดดอนไผ่ใหญ่ สิงห์ฯ
หลวงพ่อแช่ม วัดสำนักตะคร้อ โคราช
หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฎีทอง ปทุมฯ
หลวงปู่ แฉล้ม วัดพุทธประดิษฐ์ มหาสารคาม

เนื้อสัมฤทธิ์กลับดำก้นทองแดงอุดเกศาและจีวรทุกองค์ สร้าง 999 องค์

องค์ละ หมดค่ะ บาท

 

​

รายการที่ 83 เหรียญมังกร หลวงปู่โสฬส วัดโคดอู่ทอง ปราจีนบุรี อายุ 98 ปี เนื้ออัลปาก้า สร้าง 999 เหรียญ

ศิษย์ธรรมทายาทหลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา หลวงพ่อเส็ง วัดประจันตคาม หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน ปราจีนบุรีฯลฯ

ภาคตะวันออก...ในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี อริยสงฆ์ท่านหนึ่งซึ่งมีเมตตาบารมีสูง แต่ชอบอยู่อย่างสันโดษและเรียบง่าย ตามคติว่า “พระดีไม่เบ่ง พระเก่งไม่โม้ พระโต ไม่คุย (โอ้อวด)” แต่เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักนิยมคาถาอาคม คือ...หลวงปู่ โสฬส วัดโคกอู่ทอง

หลวงปู่โสฬส เป็น คนตำบลหนองแก้ว อำเภอประจันตคาม ปราจีนบุรี โดยกำเนิด เกิดเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2457 เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์เมื่ออายุครบบวช (20 ปี) ในวันที่ 13 พฤษภาคม 2477....ได้นามว่า “โสฬส ยโสธโร”

ตลอดระยะเวลา... จะจำพรรษาอยู่ที่วัดโคก- อู่ทองมาโดยตลอด (ไปศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคมที่อื่นบ้าง แต่พอถึงช่วงเข้าพรรษาก็กลับมาที่วัดโคกอู่ทองตามเดิม) นับจากวันนั้นถึงวันนี้ มีอายุครบ 98 ปี พรรษา 77 ในว่าที่ตำแหน่ง...พระครูธำรงโพธิเขต
หลวงปู่โสฬสจึงพิจารณาให้สร้างเป็นเหรียญมังกรจักร-พรรดิ ด้านหน้าเป็นมังกรตามปีในความเชื่อ ส่วนด้านหลังเป็น หนุมานเชิญธง ด้วยเหตุและผลที่ว่าเป็น ทหารส่วนหน้าของนารายณ์อวตาร ที่ต้อง ปราบสิ่งเลวร้ายทั้งหลายบนโลกให้พ่าย พินาศ

เหรียญละ 1,000 บาท

 

​

รายการที่ 84 เหรียญเจริญพร ล่าง หลวงพ่อเมียน วัดบ้านจะเนียง จ.บุรีรัมย์

เนื้ออัลปาก้า หน้ากากทองเหลือง ด้านหลังเนือนวะโลหะ พิมพ์กรรมการ หมายเลข 94 พร้อมกล่องกำมะยีอย่างดี หลวงพ่อเมียน เมตตาอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยววัตถุมงคลเหรียญเจริญพร เกือบ 2 ชั่วโมง ณ กุฏิหลวงพ่อเมียน วัดบ้านจะเนียง เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2555

หลวงพ่อเมียน กัลยาโณ วัดจะเนียงวนาราม ต.บ้านสองชั้น อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ท่านถือกำเนิดเมือ พ.ศ.๒๔๘๒ ที่บ้านปะนึม ต.บึงขนา จ.โพธิสัตว์ ประเทศกัมพูชา โยมบิดาชื่ออุมขัน โยมมารดาชื่อเปร็ง บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุได้ ๑๐ ขวบ และได้อุปสมบทเมื่ออายุได้ ๒๐ ปี ได้ศึกษาวิชาอาคมจากพระอาจารย์ฝั่งกัมพูชาถึง ๑๒ ท่าน ท่านที่หลวงปู่ให้ความสำคัญมากคือพระอาจารย์ลุน ส่วนผู้ที่ถ่ายทอดวิชาทำหุ่นพยนต์ให้กับท่านเป็นฆราวาสคือโยมปู่ของท่านเอง ระหว่างที่บวชพระที่ประเทศกัมพูชา ท่านได้ธุดงค์ไปยังเมืองต่างๆโดยตลอด จนกระทั่งถึงพรรษาที่ ๖ ได้เกิดสงครามภายในประเทศกัมพูชา มีการเข่นฆ่าไม่เว้นแม่แต่พระสงฆ์ ท่านจึงลาสิกขาลี้ภัยสงครามอพยพมาอยู่ที่ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๙ หลังจากนั้นท่านเข้าอุปสมบทอีกครั้งเมื่อ ปี พ.ศ.๒๕๒๒ ณ พัทธสีมา วัดหนองติม โดยมีหลวงพ่อแพน เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากนั้นท่านก็ออกจำพรรษาไปยังวัดต่างๆ หลาย จังหวัด จนมาอยู่ที่ จังหวัดศรีสะเกษ อีก ๕ พรรษา ในระหว่างนั้นเองท่านก็ได้ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่สรวง (เทวดาเล่นดิน) ศึกษาวิชาอาคมจนแตกฉาน หลวงพ่อเมียน กัลยาโณ ยังเป็นสหธรรมิกที่สนิทเป็นอย่างมากกับหลวงปู่เจียม อติสโย ด้วยเป็นคนบ้านเดียวกันและบวชเรียนมาด้วยกัน รวมทั้งเป็นสหธรรมิกรุ่นน้องกับหลวงปู่ธรรมรังษี เกจิอาจารย์ชื่อดัง หลวงปู่ได้มารับตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดบ้านจะเนียง เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๖ หลวงพ่อเมียน ท่านเป็นที่มีเมตตาสูงจึงมีลูกศิษย์แวะเวียนไปขอพรจากท่านเสมอ ยามว่างท่านก็ปฏิบัติกิจของสงฆ์ไม่ได้ขาด

เหรียญละ 1,000 บาท

 

​

รายการที่ 85 พระขุนแผนยอดขุนพล รุ่น เทพประทานพร หลวงปู่เกลี้ยง วัดเนินสุทธาวาส
เนื้อผงยา กดนำฤกษ์ ตะกรุดเงินและตะกรุดทองคำ สร้าง 99 องค์

องค์ละ หมดค่ะ บาท

 

​

รายการที่ 86 เหรียญปาดตาล รุ่นแรก หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร จ.ฉะเชิงเทรา ปี 2556 เนื้อตะกั่วลองพิมพ์ (จารมือ)

เหรียญปาดตาล รุ่นแรก หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร จ.ฉะเชิงเทรา ปี 2556
ส่วนความหมาย ของเหรียญปาดตาล ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พระเกจิอาจารย์หลายท่านนิยมออกเหรียญพิมพ์หนึ่งซึ่งเรียกกันว่า เหรียญปาดตาล คนส่วนใหญ่ไม่ทราบที่มาของชื่อนี้ คิดว่าเป็นเหรียญที่มีลักษณะเหมือนกับ มีดปาดตาล ซึ่งมีความคมมาก ใช้สำหรับปาดตาลยอดงวงตาลเพื่อให้น้ำตาลสดไหลลงสู่กระบอกไม้ไผ่ เอาไปเคี่ยวทำเป็นน้ำตาลปึก โดยถือว่าเป็นของที่มีอาถรรพณ์เรียกว่า มีดทางน้ำไหล หากใครไม่แน่จริงจะ ไม่อยู่ยงคงทนมีดชนิดนี้

ความจริงแล้วที่มาของ เหรียญปาดตาล คือ สมัยก่อนมีชาวบ้านสมุทรสงครามแขวนเหรียญพิมพ์นี้ติดตัว แล้วไปโดนคู่อริฟันด้วยมีดปาดตาลอย่างแรง แต่ปรากฏว่า ฟันไม่เข้า รอดตายอย่างปาฏิหาริย์ จนเป็นที่เลื่องลือของผู้พบเห็น เลยเรียกเหรียญที่ชาวบ้านคนนั้นแขวนว่า เหรียญปาดตาล โดยต้นกำเนิดมาจากเหรียญรุ่น 2 ของเกจิอาจารย์ดังแห่งลุ่มน้ำแม่กล่อง หลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม จ.สมุทรสงคราม ปี 2486 ซึ่งปัจจุบัน เช่าหากันในราคาถึงหลักแสน

เกจิอาจารย์ดังของภาคตะวันออกที่สร้างเหรียญปาดตาลได้เข้มขลังและโด่งดังนั้นมีอยู่หลายองค์ เช่น เหรียญปาดตาลหลวงพ่อคง วัดซำป่างาม เหรียญปาดตาลหลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส เหรียญปาดตาล หลวงพ่อบุญมี(เม็ด) วัดบึงกระจับ ซึ่ง 2 องค์หลังนี้เป็นอาจารย์ของท่าน

เหรียญปาดตาล รุ่นแรก หลวงพ่อฟู จึงถือเป็นการสืบสานการสร้าง เหรียญปาดตาลคณาจารย์ดังฝั่งตะวันออก อีกครั้ง สื่อความหมายไปในทางสร้างสรรค์โดยคำว่า ปาด เป็นคำกริยา หมายถึง การตัดหรือฝานเอาส่วนที่ไม่ต้อองการออกไป เมื่อบูชาเหรียญปาดตาลก็เปรียญเสมือนการขจัดสิ่งไม่มีออกไปจากชีวิต ผ่านการอธิษฐานจิตจากบารมีของหลวงพ่อฟู

หลวงพ่อฟูได้นำวิชาอาคมของบรมครูแต่ละท่านมาใช้อย่างได้ผลดีทุกด้าน โดยเฉพาะด้านเมตตา มหานิยม แคล้วคลาด คงกระพัน มีเรื่องให้กล่าวขวัญกันไม่หยุด นามของท่านนั้นเป็นมงคลเชื่อกันว่า หากท่านบูชาวัตถุมงคลหลวงพ่อฟู ชีวิตจะฟูเฟื่องได้พบแต่เรื่องดีๆในชีวิต เพราะท่านมีบารมีความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเอง มิเช่นนั้น คงไม่สร้างวัดบางสมัครจนเจริญรุ่งเรื่อง เป็นวัดที่ใหญ่โตและกว้างขวางอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
พิธีพุทธาภิเษกใหญ่วันพุธที่ 3 ก.ค.2556 วัดบางประกง โดย 9 คณาจารย์ดังภาคตะวันออก
นำโดยหลวงพ่อฟู เป็นประธานจุดเทียนชัยและนั่งปรก ร่วมกับ
พระราชมงคลรังษี เจ้าอาวาสวัดโสธรวราราม
หลวงพ่อชาญ วัดบางบ่อ
หลวงพ่อเณร วัดทุ่งเศรษฐี
หลวงปู่เกลี้ยง วัดเนินสุทธาวาส
หลวงปู่บุญ วัดทุ่งเหียง
หลวงพ่อสมชาย วัดโพรงอากาศ
พระครูเขมาภิราม วัดบนบางประกง
พระอาจารย์ชิน วัดบางสมัคร

เหรียญปาดตาล รุ่นแรก หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร จ.ฉะเชิงเทรา ปี 2556

เนื้อตะกั่วลองพิมพ์ (จารมือ) สร้าง 999 เหรียญ

เหรียญละ 1,800 บาท

 

​

รายการที่ 87 เหรียญปาดตาล รุ่นแรก หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร จ.ฉะเชิงเทรา ปี 2556 เนื้อนวะโลหะ

เหรียญปาดตาล รุ่นแรก หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร จ.ฉะเชิงเทรา ปี 2556

เนื้อนวะโลหะ สร้าง 999 เหรียญ

เหรียญละ 1,499 บาท

 

​

รายการที่ 88 เหรียญปาดตาล รุ่นแรก หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร จ.ฉะเชิงเทรา ปี 2556 เนื้ออัลปาก้า

เหรียญปาดตาล รุ่นแรก หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร จ.ฉะเชิงเทรา ปี 2556

เนื้ออัลปาก้า สร้าง 1,999 เหรียญ

เหรียญละ 900 บาท

 

​

รายการที่ 89 เหรียญเสมามหามงคล 93 หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร เนื้อเงิน ปี 2557

เหรียญเสมามหามงคล 93 หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร เนื้อเงิน ปี 2557

สร้าง 499 เหรียญ

เหรียญละ 3,000 บาท

 

​

รายการที่ 90 พญาเต่าเรือน นาสังสิโมโพธิสัตโต มหาเศรษฐีวิเศษชัยชาญ เนื้อเงิน หลวงพ่อสนั่น สุนันโท

พญาเต่าเรือน นาสังสิโมโพธิสัตโต มหาเศรษฐีวิเศษชัยชาญ เนื้อเงิน
สืบสานงานบุญประจำปี 2556 วัดกลางราชครูธาราม อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง
หลวงพ่อสนั่น สุนันโท พระเกจิผู้เรืองพุทธาคมเข้มขลัง แห่งเมืองวิเศษชัยชาญ ศิษย์เอก หลวงพ่อแพ เกสโร พระเกจิผู้มีวาจาศักดิ์สิทธิ์

ท่านเป็นพระเกจิที่ทรงคุณเมตตามีความมุ่งมั่นปฎิบัติและพัฒนาวัดวาอารามให้มีความเจริญรุ่งเรืองตามคำสั่งสอนของครูบาอาจารย์อย่างเคร่งครัด ที่สำคัญหลวงพ่อสนั่นมีความรู้ความชำนาญในเรื่องศาสตร์เวทย์วิทยาคมและเรื่องปลุกเสกยาสมุนไพรรักษาโรคร้ายที่เกิดจากวิบากกรรม

หลวงพ่อสนั่นท่านเสกน้ำมนต์ได้ขลังศักดิ์สิทธิ์เป็นยิ่งนักน้ำมนต์ของท่านมีคุณวิเศษเอนกอนันต์ สะเดาะทุกข์ เสริมบารมีได้ดี

พญาเต่าเรือนเป็นของขลังอีกชนิดหนึ่งที่คนไทยรู้จักกันดีในหลายประเทศมีความเชื่อว่า เต่า เป็นสัตว์มงคล โดยเฉพาะในประเทศจีนถือว่าเต่าเป็นสัตว์ประเภทเซียน เพราะเต่ามีการถือศีลโดยการอาศัยอยู่ในกระดอง อีกทั้งยังสามารถดำน้ำได้นานและมีอายุยืนยาว ดังนั้นจึงถือว่าเต่าเป็นสัตว์มงคลให้ผลทางโชคลาภและอายุยืน เรื่องการนับถือพญาเต่าเรือนนั้นของแต่ละชาติจะต่างกันที่คติในการนับถือ พญาเต่าเรือนนั้นมาจากเรื่องราวในพระไตรปิฎกเกี่ยวกับอดีตชาติของพระพุทธเจ้าครั้งที่ยังบำเพ็ญเพียรเพื่อสั่งสมบารมีอยู่ ในยุคนั้นพระพุทธองค์ยังคงเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในโลกหลายภพหลายชาติ บางชาติเกิดเป็นคน บางชาติก็ถือกำเนิดเป็นพญาสัตว์ที่มีวิสัยในทางบำเพ็ญเพียรเพื่อบรรลุโพธิญาณ

คติการนับถือพญาเต่าเรือนนั้นสืบทอดมาจากคติทางพระพุทธศาสนาโดยตรง การนับถือพญาเต่าเรือนจึงเป็นที่นิยมในหมู่คนไทยเรามากดังจะเห็นได้ว่าร้านค้าหลายต่อหลายร้านนั้นจะตั้งบูชารูปเต่าที่หล่อด้วยโลหะไว้ บางร้านจัดไว้สวยงามโดยบูชาพญาเต่าเรือนในอ่างน้ำและมีผักบุ้งลายเอาไว้ด้วย เรื่องราวของวัตถุมงคลพญาเต่าเรือนจึงนับว่าเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะอำนาจทางการค้าขายและเมตตามหานิยม

น้ำหนักเหรียญเนื้อเงิน ประมาณ 2 บาท สร้าง 111 เหรียญ

เหรียญละ 3,000 บาท

 

​

รายการที่ 91 เหรียญเศรษฐี รุ่นแรก ปี 2555 หลวงพ่อคำพันธ์ วัดเขาตาซัว จ.จันทบุรี อายุ 78 ปี เนื้ออัลปาก้า

ยอดฉายาเณรกายทิพย์ ศิษย์หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน เจ้าตำหรับวิชาสัตตะวานร จองขมังเวทย์แห่งศรีบูรพา

หลังจากนั้นปี 2510 ซึ่งตอนนั้นได้ย้ายมาอยู่วัดบ้านด่าน จ.ปราจีนบุรี ด้วยุดประสงค์ว่า บิดาของท่านที่บ้านอยู่ข้างวัดบ้านด่าน ด้วยควาวมชราภาพจึงทำให้สุขภาพ 3วันดี 4 วันไข้ จึงทำให้ต้องมาดูแลใกล้ๆ นั่นเป็นความบังเอิญมากที่ทำให้มารู้จักหลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน ซึ่งช่วงเวลานั้นท่านดังมากและเป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้วว่าหลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน ท่านเป็นศิษย์สายตรง หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า และเป็นความบังเอิญอีกครั้งที่หลวงพ่อเอียท่านทราบข่าวว่าบิดาของท่านป่วยด้วยโรคชรา จึงให้ขึ้นมาอยู่และช่วยงานอยู่ที่บนกุฎิ หลวงพ่อคำพันธ์ตอนมาอยู่ใหม่ๆก็เอะใจว่าทำไมคนมาหาหลวงพ่อเอียเยอะจัง มากราบไหว้ มาหาของดี มารักษาโรคบ้าง ไม่ขาดสาย ไม่นานหลวงพ่อคำพันธ์รู้ถึงเหตุผลที่คนมากราบหลวงพ่อเอียเยอะ ด้วยเหตุนั้นหลวงพ่อคำพันธ์จึงขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์เล่าเรียนวิชากับหลวงพ่อเอียอย่างใกล้ชิด หลวงพ่อเอียท่านก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร ถ้าอยากเรียนกูก็จะสอนให้แต่อย่านำไปใช้ในทางที่ผิด หลังจากนั้นหลวงพ่อคำพันธ์ก็ได้ศึกษาเล่าเรียนกับหลวงพ่อเอียนานถึง11ปี ไม่นานหลวงพ่อเอียก็มรณภาพ

หลังจากหลวงพ่อเอียมรณภาพ อีกไม่นานบิดาของท่านก็ถึงแก่กรรม หลวงพ่อคำพันธ์ก็จำพรรษาอยู่วัดบ้านด่านไม่นานก็ออกมาตั้งสำนักสงฆ์เขาตาซัว ท่านนั่งสมาธิอยู่กลางป่าท่ามกลางฝูงลิงอยู่ ณ ปัจจุบัน ชาวบ้านรบเร้าขอให้ท่านออกเหรียญ รุ่นแรกเสียที

วัตถุมงคลของท่านเสกกลางป่ากลางเขาในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ลูกศิษย์ลูกหาของท่านส่วนใหญ่เป็นเศรษฐี และบางคนก็ร่ำรวยเพราะบารมีของหลวงพ่อ แถมเศรษฐีแถวจันทบุรีก็รบเร้าหลวงปู่ให้สร้างเหรียญ รุ่นแรก ขึ้นมา หลวงพ่อคำพันธ์เลยตั้งชื่อว่าเหรียญเศรษฐี สวมใส่มั่นใจเป็นเศรษฐีใหญ่แบบทันตา เก็บกันให้ดีอนาคตอาจจะหากันไม่ได้

เหรียญเศรษฐี รุ่นแรก ปี 2555 หลวงพ่อคำพันธ์ วัดเขาตาซัว จ.จันทบุรี เนื้ออัลปาก้า สร้าง 599 เหรียญ ตอกโค้ด รันหมายเลขทุกเหรียญ พร้อมซองเอกสารเดิมๆจากทางวัด

เหรียญละ หมดค่ะ บาท

 

​

รายการที่ 92 เหรียญหล่อเจ้าสัวเพชรกลับ๕๕ พ่อท่านพรหม วัดพลานุภาพ จ.ปัตตานี อายุ 97 ปี เนื้อสัมฤทธิ์โชคกะไหล่ทอง

เหรียญหล่อเจ้าสัวเพชรกลับ๕๕ พ่อท่านพรหม วัดพลานุภาพ จ.ปัตตานี อายุ 97 ปี
พ่อท่านพรหม ได้รับการขนานนามจากชาวบ้านว่า "เทพเจ้าฝ่ายบุ๋นแห่งเมืองลังกาสุกะ" เคียงคู่กับพ่อท่านเขียว กิตติคุโณ แห่งวัดหัวยเงาะ ต.ทุ่งพลา อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ที่ได้รับสมญานาม "เทพเจ้าฝ่ายบู๊แห่งเมืองลังกาสุกะ"แม้แต่พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ และพ่อท่านพล วัดนาประดู่ รวมถึงพระเกจิอาวุโสหลายท่านใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังกล่าวยกย่องแต่ด้วยความที่ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ทำให้ระยะหลัง มีผู้ขอจัดสร้างวัตถุมงคลมากมายหลายรุ่น โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้เข้ามากราบนมัสการขอรับวัตถุมงคลไม่ขาดสายนอกจากนี้ พ่อท่านพรหม ยังเป็นพระเกจิที่เอตทัคคะในการประกอบพิธีสะเดาะเคราะห์ จนเป็นที่ร่ำลือ

ในโอกาสมหามงคลเทศกาลออกพรรษาและฉลองทอดกฐินประจำปี 2555 คณะศิษยานุศิษย์ของ พ่อท่านพรหม ธัมมธิโร พระเกจิแดนใต้อายุเกือบ 100 ปี วัดพลานุภาพ จ.ปัตตานี ได้ขออนุญาตจัดสร้าง เหรียญหล่อเจ้าสัวเพชรกลับ ๕๕ ขึ้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ นับได้ว่าเป็นรุ่นแรกและรุ่นเดียวที่พ่อท่านพรหมอธิษฐานจิตและบรรจุวิชามหาเพชรกลับ ตามตำราโบราณ โดยบริกรรมพระคาถาอิติปิโสเดินหน้า 108 จบ และบริกรรมคาถาอิติปิโสถอยหลัง 108 จบ ครบถ้วนแล้วก็กำกับด้วยพระคาถาพาหุงมหากาฯ ซึ่งผู้ที่เรียนสำเร็จวิชามหาเพชรกลับได้นั้นต้องมีสมาธิจิตขั้นสูงมากและพลังกล้าแข็งกว่าพระทั่วไป

คุณวิเศษของวิชามหาเพชรกลับ จะดลบันดาลให้ผู้ที่ครอบครองสิ่งของหรือวัตถุมงคลใด ๆ ก็ตามที่ผ่านการปลุกเสกด้วยวิชานี้ประสบความสุขความเจริญ พลิกร้ายกลายเป็นดี มั่งมี มั่งคั่ง เกิดความโชคดี สวัสดีมีชัย ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จสมปรารถนา ซึ่งพ่อท่านพรหมปลุกเสกเหรียญเจ้าสัวรุ่นนี้เป็นกรณีพิเศษด้วยแล้ว ยิ่งเพิ่มคุณวิเศษเป็นหลายเท่าตัว

ในอดีตเหรียญเจ้าสัวที่โด่งดังและได้รับการกล่าวขานกันมาก ก็คือ เหรียญเจ้าสัวของพระพุทธวิถีนายก หรือ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ผู้ใดได้ไว้ครอบครองล้วนร่ำรวยเป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี สมกับคำว่า “เจ้าสัว” และเหรียญเจ้าสัวรุ่นเพชรกลับ ๕๕ ผู้จัดสร้างได้ใช้พิมพ์เหรียญเจ้าสัวของหลวงปู่บุญมาเป็นต้นแบบ ด้านหลังกำกับด้วยยันต์ “นะอุณาโลม” สุดยอดเมตตามหานิยม กำกับด้วยยันต์พุฒซ้อนและคาถาหัวใจพระสีวลี “นะ ชา ลี ติ” ที่เยี่ยมยอดโชคลาภ ทรัพย์สินเงินทอง ดังนั้นพุทธานุภาพเหรียญรุ่นนี้จึงไม่ธรรมดา เข้มขลังและศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง

โดยวัตถุประสงค์เพื่อหาทุนทรัพย์จัดตั้งองค์กฐินประจำปี 2555 ของวัดพลานุภาพ จ.ปัตตานี

วัตถุมงคลรุ่นนี้พิเศษยิ่ง พ่อท่านพรหม ธัมมธิโร เมตตาปลุกเสกและอธิษฐานจิตบรรจุวิชาเพชรกลับให้ถึง 2 วาระ
โดยวาระที่ 1 ทำพิธีพุทธาภิเษกในวันที่ 9 ก.ย. 2555
และวาระที่ 2 พุทธาภิเษกในวันที่ 5 ต.ค. 2555 ที่ผ่านมา ดังนั้นผู้บูชาย่อมมั่นใจในความเข้มขลังได้อย่างสนิทใจ

เหรียญละ หมดค่ะ บาท

 

​

รายการที่ 93 เหรียญหล่อเจ้าสัวเพชรกลับ๕๕ พ่อท่านพรหม วัดพลานุภาพ จ.ปัตตานี อายุ 97 ปี เนื้อสัมฤทธิ์โชคสตางค์แดง

เหรียญหล่อเจ้าสัวเพชรกลับ๕๕ พ่อท่านพรหม วัดพลานุภาพ จ.ปัตตานี อายุ 97 ปี
พ่อท่านพรหม ได้รับการขนานนามจากชาวบ้านว่า "เทพเจ้าฝ่ายบุ๋นแห่งเมืองลังกาสุกะ" เคียงคู่กับพ่อท่านเขียว กิตติคุโณ แห่งวัดหัวยเงาะ ต.ทุ่งพลา อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ที่ได้รับสมญานาม "เทพเจ้าฝ่ายบู๊แห่งเมืองลังกาสุกะ"แม้แต่พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ และพ่อท่านพล วัดนาประดู่ รวมถึงพระเกจิอาวุโสหลายท่านใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังกล่าวยกย่องแต่ด้วยความที่ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ทำให้ระยะหลัง มีผู้ขอจัดสร้างวัตถุมงคลมากมายหลายรุ่น โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้เข้ามากราบนมัสการขอรับวัตถุมงคลไม่ขาดสายนอกจากนี้ พ่อท่านพรหม ยังเป็นพระเกจิที่เอตทัคคะในการประกอบพิธีสะเดาะเคราะห์ จนเป็นที่ร่ำลือ

ในโอกาสมหามงคลเทศกาลออกพรรษาและฉลองทอดกฐินประจำปี 2555 คณะศิษยานุศิษย์ของ พ่อท่านพรหม ธัมมธิโร พระเกจิแดนใต้อายุเกือบ 100 ปี วัดพลานุภาพ จ.ปัตตานี ได้ขออนุญาตจัดสร้าง เหรียญหล่อเจ้าสัวเพชรกลับ ๕๕ ขึ้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ นับได้ว่าเป็นรุ่นแรกและรุ่นเดียวที่พ่อท่านพรหมอธิษฐานจิตและบรรจุวิชามหาเพชรกลับ ตามตำราโบราณ โดยบริกรรมพระคาถาอิติปิโสเดินหน้า 108 จบ และบริกรรมคาถาอิติปิโสถอยหลัง 108 จบ ครบถ้วนแล้วก็กำกับด้วยพระคาถาพาหุงมหากาฯ ซึ่งผู้ที่เรียนสำเร็จวิชามหาเพชรกลับได้นั้นต้องมีสมาธิจิตขั้นสูงมากและพลังกล้าแข็งกว่าพระทั่วไป

คุณวิเศษของวิชามหาเพชรกลับ จะดลบันดาลให้ผู้ที่ครอบครองสิ่งของหรือวัตถุมงคลใด ๆ ก็ตามที่ผ่านการปลุกเสกด้วยวิชานี้ประสบความสุขความเจริญ พลิกร้ายกลายเป็นดี มั่งมี มั่งคั่ง เกิดความโชคดี สวัสดีมีชัย ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จสมปรารถนา ซึ่งพ่อท่านพรหมปลุกเสกเหรียญเจ้าสัวรุ่นนี้เป็นกรณีพิเศษด้วยแล้ว ยิ่งเพิ่มคุณวิเศษเป็นหลายเท่าตัว

ในอดีตเหรียญเจ้าสัวที่โด่งดังและได้รับการกล่าวขานกันมาก ก็คือ เหรียญเจ้าสัวของพระพุทธวิถีนายก หรือ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ผู้ใดได้ไว้ครอบครองล้วนร่ำรวยเป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี สมกับคำว่า “เจ้าสัว” และเหรียญเจ้าสัวรุ่นเพชรกลับ ๕๕ ผู้จัดสร้างได้ใช้พิมพ์เหรียญเจ้าสัวของหลวงปู่บุญมาเป็นต้นแบบ ด้านหลังกำกับด้วยยันต์ “นะอุณาโลม” สุดยอดเมตตามหานิยม กำกับด้วยยันต์พุฒซ้อนและคาถาหัวใจพระสีวลี “นะ ชา ลี ติ” ที่เยี่ยมยอดโชคลาภ ทรัพย์สินเงินทอง ดังนั้นพุทธานุภาพเหรียญรุ่นนี้จึงไม่ธรรมดา เข้มขลังและศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง

โดยวัตถุประสงค์เพื่อหาทุนทรัพย์จัดตั้งองค์กฐินประจำปี 2555 ของวัดพลานุภาพ จ.ปัตตานี

วัตถุมงคลรุ่นนี้พิเศษยิ่ง พ่อท่านพรหม ธัมมธิโร เมตตาปลุกเสกและอธิษฐานจิตบรรจุวิชาเพชรกลับให้ถึง 2 วาระ
โดยวาระที่ 1 ทำพิธีพุทธาภิเษกในวันที่ 9 ก.ย. 2555
และวาระที่ 2 พุทธาภิเษกในวันที่ 5 ต.ค. 2555 ที่ผ่านมา ดังนั้นผู้บูชาย่อมมั่นใจในความเข้มขลังได้อย่างสนิทใจ

เหรียญละ หมดค่ะ บาท

 

​

รายการที่ 94 เหรียญเจริญพร บน-ล่าง 2558 หลวงปู่ทิม อิสริโก

พิธีมหาพุทธาภิเษกยิ่งใหญ่ ณ วัดระหารไร่ ระยอง เนื้ออัลปาก้า เหรียญเมตตาแห่งปี

เหรียญละ หมดค่ะ บาท

 

​

รายการที่ 95 เหรียญเจริญพร บน-ล่าง 2558 หลวงปู่ทิม อิสริโก เนื้อทองแดงผิวไฟ

พิธีมหาพุทธาภิเษกยิ่งใหญ่ ณ วัดระหารไร่ ระยอง เนื้อทองแดงผิวไฟ เหรียญเมตตาแห่งปี

เหรียญละ หมดค่ะ บาท

 

​

รายการที่ 96 เหรียญนาคี หลวงปู่จักร วัดเขารังไก่ ชัยนาท เนื้อทองแดง

จัดสร้างปี 2528 สมัยที่หลวงปู่ท่านธุดงค์มาถึงวัดถ้ำเขารังไก้ใหม่ๆ ท่านต้องการสร้างถาวรวัตถุ จึงสร้างเหรียญรุ่นแรกออกมาให้บูชาหาเงิน สร้างวัด เนื่องจากหลวงปู่ยังไม่เป็นที่รู้จัก ทำให้เหรียญรุนแรก มีใช้เฉพาะคนในพื้นที่ ประสบการณ์จากเหรียญรุ่นแรก ที่ดังในพื้นที่คือ มีชาวบ้านในพื้นที่ ที่ศรัทธาในตัวหลวงปู่นิมนต์ให้จำวัดที่ ถ้ำเขารังไก่เพื่อโปรดญาติโยม เ พราะที่นี่ทุรกันดานมาก หลงปู่ท่านชอบ สมถะ เงียบ สงบ เหมาะแก่การปฏิบัติพระกรรมฐาน ท่านจึงอยู่ที่ถ้ำเขารังไก่ ก่อนที่ท่านจะสร้างเหรียญนาคี รุ่นแรก ท่านเข้าไปฝึกกรรมฐานในถ้ำเขารังไก่ มีพญานาคในถ้ำมาหาท่าน และบอกให้ท่านอยู่ที่นี่ เพื่อโปรดญาติโยม ต่อไปภายหน้าจะมีมีลูกหลานของท่านมาทำบุญกันมากมาย พญานาคได้มอบแร่นาคราชให้หลวงปู่เพื่อสร้างเหรียญนาคี เพื่อให้หลวงปู่ได้สร้างเหรียญรุ่นแรก ออกมาให้ชาวบ้านได้บูชา เพื่อหารายได้สร้างวัด หลวงปู่จึงอยู่ที่วัดเขารังไก่ ไม่ได้ธุดงค์ไปใหนอีก ก็เป็นจริงดังพญานาคราชได้กล่าวเอาไว้ ต่อมาไม่นานหลวงปู่ท่านก็ดังมาก เป็นที่รู้จัก

พระเครื่องของหลวงปู่ที่สร้างปลุกเสกประจำคาถาอาคม ลงไปต่างมีประสบการณ์เรียกว่า เกรียวกราวไปทั่ว ใครบูชาไปต่างก็เฮงกันถ้วนหน้า จนพระเครื่องหลวงปู่หมดไปจากวัดในเวลาอันรวดเร็ว

หลวงปู่ท่านบอกว่า เหรียญ นาคีนี้ ดี เป็นเหรียญที่หลวงปู่ร่วมเสกกับพญานาค ท่านบอกหลวงปู่ว่าให้ใส่ ว่า นาคี ในเหรียญด้วย เพื่อเป็นการร่วมกันสร้างบารมี หลวงปู่ท่านเคยเกี่ยวเนื่องกับพญานาคราชมาหลายชาติ

" หลวงปู่จักร" แห่งวัดถ้ำเขารังไก่ จ.ชัยนาท ท่านเกิดในตระกูลหนังใหญ่ "ศุภนคร" สกุลพระราชทานจากพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๖ รับครอบครูสาย "ขุนบางมอญศุภนคร" สายครูหลวงตั้งแต่อายุ ๕ ขวบ พอโตเป็นทหารรบสงครามเวียดนาม และหลายสมรภูมิ เพื่อนตายหมด ท่านรอดอยู่คนเดียว จนได้รับพระราชทานเหรียญกล้าหาญ
ท่านใช้ชีวิตทางโลก จนเบื่อ จึงออกบวชและเดินธุดงค์ ได้ไปร่ำเรียนวิชามาเยอะ อาทิ เรียนวิชากับหลวงพ่อทัต วัดวังพระนอน, หลวงพ่อเชน วัด สิงห์, พระครูชั้น วัดวิหารขาว, อาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง, หลวงพ่อเอีย วัดบางด่าน, หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา, หลวงพ่อเต๋ คงทอง, หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก เป็นต้น
หลวง ปู่จักรได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดถ้ำเขารังไก่ และสร้างพระไว้รอบเขา ที่ผ่านมามีการวางระเบิดรอบเขา เพราะเขารังไก่เป็นเขาหินอ่อน นายทุนต้องการ ตอนนั้นมีเหตุประหลาด ระเบิดทุกลูกด้าน

ท่านมรณภาพแล้ว เมื่อ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓

เหรียญละ หมดค่ะ บาท

 

​

รายการที่ 97 เหรียญปั๊มชินบัญชร หลวงปู่เกลี้ยง วัดโนนแกด รุ่นชินบัญชร สร้างปี 2556

เนื้อทองฝาบาตร สร้าง 4999 องค์

เหรียญละ หมดค่ะ บาท

 

​

รายการที่ 98 พระผงนางตามผัว (พระผงรุ่นแรก) หลวงพ่อหนู วัดอัมพวนาราม ร้อยเอ็ด

หลวงพ่อหนู ผู้วิเศษแห่งเมืองเกินร้อย ทำพระทั้งวัน เสกพระทั้งคืน วิชาแกร่งกล้า เล่นกสิณทั้ง 10 กอง ท่านทำพระผงรูปเหมือนท่านรุ่นแรก แต่คุณเชื่อมั้ยกว่าจะทำได้ อะไรอะไรก็ต้องสุดยอด จะบรรยายให้ฟัง

-ท่าน ลบผงเอง ตามสูตรการสร้างผง ทั้ง 9 ผง ผงที่ท่านลบเองด้วยจิตบริสุทธิ์ ไม่รอดกระดานอย่างที่เขาเขียนกันทั่วไป แต่ผงท่านทั้งหมด ฟูเพิ่มขึ้นได้เอง ลบไว้เท่าไหร่เสกแล้ว บานเบ่งออก เต็มบาตร เต็มพานไปหมด (อย่างนี้เรียกอัศจรรย์หรือเปล่า !!!!) ผงที่ท่านลบ ตามตำราทั้งหมด คือ

1.ผงอิทธิเจ เมตตาสูง มหานิยม จัดจ้าน อนูเดียวหลงทั้งหมู่บ้าน
2.ผงปัถมัง ล่องหน หายตัว ห้ามหนี เจ้าหนี้ อันนี้ไม่เป็นผล
3.ผงตรีนิสิงเห ป้องกันคุณไสย กันทุกอย่าง แต่ไม่กันเมียตาม
4.ผงพุทธคุณ ครอบคลุมทั้งหมดมีอิทธิมีอำนาจมาก ห้ามตายห้ามเจ็บไม่ได้
5.ผงมหาราช คนนิยม คนหลง ยกให้เหนือเขา หรือที่เรียกว่า “ทูนหัว”
6.ผงเสกสิระ ดีทุกแง่ทุกมุม ทำอะไรเป็นดีไปหมด ที่เรียกว่า “ดวงขึ้น”
7.ผงโองการนมัสการอุทัย พระจันทร์ครึ่งซีก เสน่ห์มัดใจคน เอาจิตผูกจิต
8.ผงมหาลาภ น้อย- ผงมหาลาภใหญ่ ลาภมากมายมหาศาล หอบไปไม่หมด
9.ผงนารายณ์ เข้ากลีบเมฆ หายตัวได้ คนตามเจอ ให้เห็นก็เห็น ไม่ให้เห็น ก็ไม่มีใครเห็น

-ผงว่าน 108 ชนิด ว่านแรงๆทั้งนั้น ว่าน เพชรกลับ ว่าน ดาบหัก ว่าน พระยาไม้ผุ ว่าน เสือร้องไห้ ว่ ลูกล้อมแม่ ว่าน ขุนแผน ว่านขอทอง ว่าน พญาลิ้นงู ว่าน ช้างประสมโขลง ว่าน นางล้อมฯ ว่านนางกวัก ว่าน ดอกทอง ว่าน นางพญา ว่าน จอมมฤคคา หายาก หัวว่านหมดนี้ราคาเป็นแสน

-น้ำมัน 88 ชนิด น้ำมันพราย น้ำมันช้างตกมัน น้ำมันเสาตกมัน น้ำมันฤษี น้ำตาปลาพยูน ชะมดเช็ด น้ำมันจันทน์สาวพรหมจารี สีผึ้งเทวดาหุง และไม่รู้อะไรอีกเยอะ

-เกศา มี 2 สี เกศาสีขาวหรือผมหยอก ของหลวงพ่อหนู จะใสปิ้งเป็นแก้วโดนแดดจะเป็นผลึกขาวใส อัศจรรย์มาก ผมดำ จะเงาเลื่อมๆ ฉ่ำๆ สู้แสงยิ่งส่องยิ่งเงาขับ แปลกดี

=>เสียใจซัก 3 ข้อ

1.เสียใจ ด้วยถ้าท่านอยากได้พระเนื้อผสมปูน หรือเนื้อโรงงาน พระรุ่นนี้ไม่มี หลวงตาหนู ให้ใส่ผงล้วนๆ เอาผงอย่างเดียว ท้าให้ส่องกล้องดูเนื้อได้ทุกองค์ ยิ่งกว่านั้น

2.เสียใจ ถ้าใครอยากได้พระผงปั๊มที่โรงงาน เพราะ รุ่นนี้ไม่มี หลวงตาหนู ให้ ปั๊มพระที่วัดทุกองค์ และปั๊มขึ้นในฤกษ์ทุกองค์ ตามที่ท่านคำนวณมองแล้วว่า ฤกษ์นี้แหละ ยอด ????

3.เสียใจ ด้วย ถ้าท่านอยากได้พระฝังตะกรุดจากโรงงาน รุ่นนี้ไม่มี เพราะหลวงตาหนู เสกแผ่นทองเอง และลงจารตะกรุดเอง ทุกดอก หลวงตาหนูจารได้ ซักพัก ท่านจึงให้พระเณรเอายันต์มาตอกแผ่น ถ้าจารทั้งหมด ตาท่านเสียแน่ แผ่นตะกรุดเล็กนิดเดียว
ทั้ง หมด หลวงตาหนูให้ปั๊มพระผงรูปมวลสารล้วนๆ ทำเองทุกองค์ ปั๊มที่วัดทุกองค์

=>ปลุกเสกนานมาก เสร็จแล้วท่านก็วางไว้ ใครอยากได้ก็เอาไป ไม่ได้ให้บูชาไม่ได้ขาย ใครทำบุญก็ทำไม่ทำก็ไม่เป็นไร คนที่หยิบไปเป็นพวก หนุ่มๆ เสียหนุ่มซะหลายคน เพราะได้ไปแล้ว เอาไปเสียหนุ่มหมด ไปมีเมีย และ ไปมีเมีย หนุ่มคนเดียวมีเมียบานเลย และไอ้เมียทั้งหลาย ก็ไม่อยู่เฉย ตามหาผัววันยังค่ำ เรื่องนี้เยอะ จนลือกันในหมู่บ้านว่า พระตาหนู นี่ไม่ได้ หนุ่มๆพกไม่ได้

=>มีรายหนึ่งชื่อ ทิศ บุญมาก (เคยบวชเรียนกับตาหนู) มี เมียอยู่แล้ว ปกติก็ใช้ชีวิตธรรมดา ทำมาหากกินปกติ ตั่งแต่พกพระผงหลวงตาหนู เมียเห็นผิดปกติ มีผู้หญิงหน้าแปลกๆมาตามหาที่บ้าน หญิงสาวๆ สวยๆแท้ๆ มาดักเจอกลางทางตอนไปทำนา ยิ่งกว่านั้น หญิงสาวๆ พึ่งจะจบ ม.6 ดัน เอาอาหารมาส่งที่นา แรกๆ เมียก็ไม่ว่าอะไรเพราะรู้ว่า ทิศมากนี้หน้าดำตัวดำ หน้าแก่อีกตาหาก หนักๆเข้า เมียชักหึง สงสัยว่า หน้าตาแบบนี้ ทำไมผู้หญิงสวยๆ สาวๆ มา ด่อมๆมองๆ มาทำตาเยิ้ม ไม่เว้นแต่ละวัน ไม่นานโดนเมียสอบสวน ในตัวแกมี ตะกรุดลูกอม กับพระผงตาหนู เมียก็ใจร้ายยึด ทั้ง 2 อย่าง เรื่องเลย เงียบๆไป นี่แหละเป็นที่มาว่า “พระผงเมียตาม” หรือ “ผงนางตามผัว”

=>ใคร จะเอาไปใช้อะไรก็ใช้เถอะนะ ห้ามอย่างเดียว ห้ามขูดผงให้สาวกิน เพราะเป็นผงล้วนๆ ท่านดูและดมได้ ถ้าใครขูดผง ไปทำกันเอง หลวงตาหนูท่านไม่เกี่ยว ท่านทำไว้ให้ใช้ของดีมีพุทธคุณเท่านั้น

ขนาดความสูง 3.5 ซ.ม. กว้าง 2.2 ซ.ม.

องค์ละ หมดค่ะ บาท

 

​

รายการที่ 99 ตะกรุดสาวสามหมู่บ้านกินน้ำบ่อเดียวกัน หลวงปู่ทองย้อย วัดอัมพวัน จ.นนทบุรี

′ตะกรุดสาวสามหมู่บ้านกินน้ำบ่อเดียวกัน′ ซึ่งคำกล่าวนี้เป็นคำของพระเกจิอาจารย์โบราณ ที่มีความหมายว่า ′สาวรุมล้อม′ สาวทุกหมู่บ้านล้อมกินดื่มใช้น้ำจากแหล่งเดียว เปรียบตะกรุดอยู่ที่ไหนเหมือนแหล่งน้ำ สาวๆ จะมาล้อมมารุม ด้วยวิชาและมนต์อาถรรพณ์ วิชาถักเชือกลงว่านยาที่ผสมมวลสารศักดิ์สิทธิ์ อาทิ ผงไม้ไก่กุ๊ก, หนวดตำลึง, สีผึ้งแม่หม้าย, ยางรัก, ตะรุมช้างเผือก เป็นต้น ซึ่งเชื่อกันว่ามีอานุภาพทางเมตตามหานิยม
ตะกรุดเมตตาสาวสามหมู่บ้านกินน้ำบ่อเดียวกัน คำนี้เป็นคำโบราณที่มีความหมายว่า "สาวรุมล้อม" สาวทุกหมู่บ้านล้อมกินดื่มใช้น้ำจากแหล่งเดียวกัน เปรียบตะกรุดอยู่ที่ไหนเหมือนแหล่งน้ำสาวๆ จะมารุมล้อมมารุมด้วยมหามนต์และวิชาอาถรรพ์ที่แรงมากโดยแท้ ตะกรุดขนาด 4 ซม. เนื้อตะกั่วลงนะ "หัวใจหญิงล้อมหัวใจชายไว้" ถักเชือกลงว่านยาที่ผสมมวลสารศักดิ์สิทธิ์ อาทิ ผงม้า ไก่กุ๊ก ไก่ตัวผู้จิกป้อตัวเมีย หนวดตำลึง (เคล็ดเกาะเกี่ยวกัน) สีผึ้งแม่หม้าย ยางรัก ตะรุมช้างเผือก เป็นต้น มีอานุภาพทางเมตตา มหานิยมสูงมาก ค้าขายโชคลาภก็ดียิ่งแลฯ

****ทุกดอกหลวงปู่จารเองหมด และทางวัดถักพันเชือกว่านยาเอง**** บางดอกจะออกเป็นสีน้ำตาลแดงคือไม่ได้ชุบรัก บางดอกสีดำคือชุบรักไว้ กล่องมีทั้งเป็นผ้ากำมะหยีสีเหลืองหรือสีชมพู ใครมีไว้บูชาควรนำไปเลี่ยมหรือใส่กรอบให้ดี เพราะทั้งตัวตะกรุดและเชือกว่านที่ถักพันมาล้วนมีความสำคัญ พระดีอนาคตไกล ต่อไปจะหายากมากเพราะสร้างไว้น้อย

ขนาด 0.5 x 4 ซม. จัดสร้าง 3,999 ดอก
พิธีพุทธาภิเษก วันที่ 25 พฤษภาคม 2555

ดอกละ หมดค่ะ บาท