เพื่อการกุศล สมเด็จองค์ปฐมน รุ่น 1 สมบัติพ่อให้ และยอดวัตถุมงคล ช่วยทหาญหาญ ฐานรากแห่งไตรรงค์

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย มหาหินทร์, 24 มกราคม 2010.

  1. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    [​IMG]

    สมเด็จองค์ปฐม รุ่น 1 พร้อมเลี่ยมทองคำ
    สมบัติพ่อให้ฯ
    และ สิ่งอันเป็นยอดมงคล

    เพื่อความมั่นคง ดำรงไว้ ซึ่ง รรค์ คือ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์

    ชาติ เปรียบเสมือน บ้าน
    ทหารหาญ คือ ฐานราก และรั้ว ของบ้าน
    หาก ฐานราก ไม่แข็งแรง บ้าน ก็ล้มลงครืน
    หากบังเอิญ บ้านแข็งแรง ยังสามารถคงสภาพเป็น บ้าน อยู่ได้
    แต่ รั้วของบ้าน ไม่มั่นคง ศัตรู ก็จู่โจม เข้าทำลาย บ้าน ได้ง่าย

    พระศาสนา พระกษัตริย์ ซึ่ง ดำรง อยู่ใน บ้าน
    ย่อมไม่สามารถที่จะสถิตย์ถาวร จักมีอัน เสื่อมสลาย ไปกับ บ้าน

    ดังนั้นเอง ทหารหาญ จึงมีส่วนสำคัญของ โซ่ 5,000 ข้อ
    คือ 5,000 ปี ตามที่พระบรมศาสดา ประกาศ พระศาสนา

    ความสำนึก ถึง ภาระ หน้าที่ ความรับผิดชอบ
    ที่จะต้องบำรุง รากฐาน บำรุงบ้าน จะเป็นของใครกัน..

    ย่อมต้องเป็น บุคคลผู้มีความฉลาด มีความเฉลียว มีสติตนมั่น
    ที่ จะคิดอย่างไร จะทำอย่างไร ที่จะให้ บ้านของตนเอง อยู่ยืนยาว

    นั้นก็คือ บุคคล ที่อาศัยใน บ้านแห่งชาติ คือ "พวกเรา" นั่นเอง

    หากเราไม่บำรุงบ้าน ไม่ซ่อมแซมรั้วบ้าน ของเราเอง
    ใครที่ไหน หน้าไหน จะมาช่วยเรา

    หากไทย ไม่ช่วยไทย แล้วจะคงความเป็น "ไท" ไว้ได้อย่างไร

    บัญชีร่วมบุญ
    ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขาย่อย บิ๊กซี สะพานใหม่ดอนเมือง
    ชื่อบัญชี มหาหิน มีเนตร์ขำ
    บัญชีออมทรัพย์ 298-200711-2

    บัญชีบุญ จะ Update นำแสดงเป็นสาธารณะ ตลอดเวลา

    หากมีเงินบุญเข้ามา แล้ว
    พวกเรา พึงวางแผนใช้งาน ให้ตรงให้เกิดเป็นประโยชน์ ให้มากที่สุด เช่น....

    1. อาหารกาย
    2. กำลังใจทางตรง เช่น สิ่งอันเป็นมงคล สิ่งของที่มีคุณค่า
    3. กำลังใจทางอ้อม เช่น ส.ค.ส. สื่อสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ
    4. อื่น ๆ ที่เหมาะสม

    อันนี้ พวกเราน่าที่จะ"ระบุ" ความประสงค์ของโครงการ ให้ชัดเจน
    ก่อนที่จะ ประกาศ เป็นสาธารณะ ต่อไป

    ก็เลยขอฝากให้น้องฯ และท่านผู้เกี่ยวข้อง ลองปรึกษา กันดูก่อน
    ว่า ควรจะระบุ ความต้องการ ความประสงค์สิ่งใด ให้ชัดเจน

    เพื่อที่ว่า จะได้ "ตรง" กับความมุ่งหมาย
    และก่อให้เกิด ความสำเร็จ ตามความประสงค์ ได้อย่างดี

    .......................................................................................................................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2010
  2. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
  3. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    [​IMG]

    ความเป็นมา....

    ในปัจจุบัน "ความรุนแรง" ใน 3 จังหวัดภาคใต้ เป็นที่ทราบกันมา โดยตลอด

    อันที่จริง เรื่องนี้ พระเดชพระคุณองค์หลวงพ่อฯ ท่านได้กล่าว ไว้นานมากแล้ว
    ก่อนหน้าที่จะเกิด "เหตการณ์ความวุ่นวาย ใน 3 จังหวัดภาคใต้" ด้วยซ้ำไป..

    องค์หลวงพ่อฯ ที่กล่าวนำไว้ ในทำนองว่า..

    "ห้วงเวลาข้างหน้า นี้ (ไม่ได้ระบุ ว่า ปีไหน)

    ตามคำพยากรณ์ ของพระพุทธเจ้า ไว้ว่า..
    ..จะเกิดสงครามใหญ่.. ไม่ใช่สงครามโลก..
    เป็นเพียง สงครามศาสนา เท่านั้น..
    (สงครามระหว่าง ผู้ที่ถือศาสนา ที่มีกำลังแรง พอที่จะต่อสู้กันได้)

    ความรุนแรง และการเสียหาย นั้น สงครามโลก ทั้ง 2 ครั้ง ที่ผ่านมา..
    เมื่อรวมกันแล้ว ก็ยังไม่เสียหาย เทียบเท่ากับสงคราม ในครั้งนี้ได้เลย..

    น่าสังเวชใจ หากประชากรโลก ล้ม หาย ตาย จาก ไปเป็นจำนวนมหาศาล..

    แต่ทว่า องค์หลวงพ่อฯ ท่านก็บอกว่า คนจะเข้าถึงธรรมกันมาก
    เพราะเห็นการตาย แล้ว... เกิดการ สังเวชใจ เบื่อทุกข์ เบื่อการเกิด..

    เมื่อเขารบกันระหว่างศาสนา.. กับศาสนา..
    ลูกศิษย์ฯ ก็เป็นห่วงประเทศไทยขึ้นมา ก็เลยถามองค์หลวงพ่อฯ ว่า..
    หากสงครามเกิดขึ้น ประเทศไทย จะเป็นอย่างไร..

    องค์หลวงพ่อ ก็เปรียบเทียบ ว่า.. ทั้ง 2 ศาสนา ก็มีอยู่ในประเทศไทย..
    "เหมือน หมากัดกัน หน้าบ้านเรา หญ้าแพรก ก็แหลกบ้าง เป็นธรรมดา..
    แต่ ก็ไม่รุนแรงมากนัก..

    จะมีก็แต่ 4 จังหวัด ชายแดนภาคใต้ ที่เขาจะพยายามแยกดินแดนออกไปให้ได้..
    สังเกตนะครับ ว่า ท่าน บอกว่า 4 จังหวัด ไม่ใช่ 3 จังหวัด เหมือนในปัจจุบันนี้..
    (การขยายขอบเขต ความวุ่นวาย อาจจะปรากฏชัด เมื่อเกิดสงครามขึ้นมา)

    ท่านบอกว่า หากเขาได้ 4 จังหวัด เขาก็จะเอาเพิ่ม เป็น 8 เป็น 16 ไม่สิ้นสุด

    ซึ่งท่านก็สรุป ไว้ว่า เจ้าหน้าที่ของเราจะมีความเข้มแข็ง สามารถปกป้องไว้ได้.."

    ...........................................................................................................................................

    ทีนี้..

    หากจะให้ เจ้าหน้าที่(แนวหน้า)ของเรา จะมีความเข้มแข็ง อยู่ได้อย่างมี กำลังใจ

    ก็ต้องมีความช่วยเหลือ จาก แนวหลัง คือ พวกเรา ร่วมสมทบ

    ...........................................................................................................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2010
  4. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    ทีนี้.. เมื่อพิจารณา จากคำพยากรณ์ จากองค์หลวงพ่อฯ ที่ว่า..

    "..เจ้าหน้าที่ของเรา มีความเข้มแข็ง จะสามารถป้องกัน ป้องปก ไว้ได้.."

    ที่นี้.. เจ้าหน้าที่ของพวกเรา จะมีความเข้มแข็งได้ นั้น

    1. ก็ต้องมี "กำลังใจที่ดี" เข้มแข็ง ไม่ย่อท้อ มุ่งมั่น
    จะรักษาขอบเขตแดนไทย ไม่ให้เสีย แม้เพียง 1 ตารางนิ้ว

    2. ต้องมี "กำลังกาย" ที่แข็งแรง มีกองกำลัง หนุนส่ง ตลอดเวลา


    ดังคำที่ว่า "กองทัพ ย่อมเดินได้ด้วย ท้อง"

    แต่.. หากไม่มีเครื่องบำรุงจิตใจ ไม่มีอาหาร หรือ มีน้อย
    กองทัพ ก็จะ เดินได้ด้วยท้อง แบบ "ท้องเดิน ท้องเสีย"
    ก็ต้องเพลีย แพ้พ่าย ต่อ อริราชศัตรู

    ทั้ง 2 ประการ นี้..
    ก็ย่อมต้องเป็น "หน้าที่" ของ พวกเราทั้งหลาย อันเป็น กองหลัง

    หากแม้นว่า.. กองหลังไม่มี ไม่ดี
    ทั้งกำลังกาย และ กำลังใจ ของทหารหาญ
    ก็ย่อมต้อง "อ่อนแอ" ลงไปอย่างมาก

    ดังนั้นเอง.. หากพวกเรา ไม่ช่วยกัน
    (ไทย ไม่ช่วยไทย.. ใครที่ไหนเล่า จะมาช่วยพวกเรา)

    .......................................................................................................................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2010
  5. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    ทำอย่างไร จึงจะสามารถ หา "ทุน" เพื่อดำเนินงาน ตามความประสงค์นี้ ให้สำเร็จ

    กระผมเอง ก็ยังไม่พร้อม ในเรื่องของ "กำลังทรัพย์"
    แต่ก็ ไม่หนักใจ เพราะว่า เรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องของใคร เพียงคนเดียว
    ทว่า เป็นเรื่องของ ความสามัคคี ความปรองดอง ความกลมเกลียว ของ "ชนในชาติไทย"

    ที่พึงจักต้องช่วยเหลือ เกื้อกูลกัน

    พวกเรา ทำงาน มี เงินเดือน ก็ดี..
    พ่อค้า แม่ค้า ทำการค้า ทำธุรกิจ ส่วนตัว ก็ดี..
    รับราชการ ก็ดี..
    ประชาชน เต็มขั้น ก็ดี..
    ประชาชน กี่ขั้น ก็ตาม..

    หากว่า..
    พวกเรา ไม่ช่วยเหลือกัน ไม่สามัคคีกัน
    มองไม่เห็น ความสำคัญของ ทหารหาญ อันเป็น "รั้วของชาติ" คือ รั้วของบ้านของเรา นั่นเอง

    หากทหารหาญ หมดกำลังกาย.. ไร้กำลังใจ..
    ก็เปรียบเสมือน รั้วบ้าน ของเรามีอันต้องพังพินาศไป

    เมื่อเป็นเช่นนั้น.. ตัวบ้านของเรา จะทรงอยู่ได้อีกหรือ.. มันก็ต้องแพ้ภัยพาล
    รายได้ การเงิน ที่เราพึงได้รับ พึงมี จากอาชีพของเรา จะทรงอยู่ ได้ อีกหรือ
    ประเทศชาติ พระศาสนา พระราชบัลลังก์ ยังจะสามารถดำรง คงมั่น ได้ อีกไหม

    แล้ว พวกเรา จะอยู่ไหน.. อยู่อย่างไร

    ไท ก็ ต้องเป็น ทาส

    เมื่อเราพิจารณา ได้ดังนี้แล้ว
    "ทหารหาญ" มีความสำคัญบ้างไหม.. พวกเรา สมควรที่จะช่วยเหลือ เอื้ออาทร แก่กันไหม

    ก็ขอน้อมโมทนา กับท่านที่บำเพ็ญบุญ เพื่อชาติ เพื่อพระศาสนา เพื่อพระราชบัลลังก์
    และเพื่อมรรค ผล พระนิพพาน (ทุกอย่างเกี่ยวพัน เกี่ยวโยงใย อย่างสืบเนื่องกันไป)

    หากไม่มีชาติ ไม่มีพระศาสนา ไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ แล้วละก็..
    "พระนิพพาน" จะมาจากไหน

    นอกเสียจากว่า จะอยู่ ป่า แต่เพียงลำพัง..
    ซึ่งก็ยากที่จะฝ่า ทะเลทุกข์ไปได้.. ใช่ไหม ครับ.

    .............................................................................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2010
  6. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    [​IMG]

    ทำอย่างไร จึงจะสามารถ หา "ทุน" เพื่อดำเนินงาน ตามความประสงค์นี้ ให้สำเร็จ

    กระผมเอง ก็ยังไม่พร้อม ในเรื่องของ "กำลังทรัพย์"
    แต่ก็ ไม่หนักใจ เพราะว่า เรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องของใคร เพียงคนเดียว
    ทว่า เป็นเรื่องของ ความสามัคคี ความปรองดอง ความกลมเกลียว ของ "ชนในชาติไทย"

    ที่พึงจักต้องช่วยเหลือ เกื้อกูลกัน

    ......................................................................................................................................................

    ดังนั้นเอง..

    จึงขอยอม "สละ" ยอมมอบ สิ่งที่ตนเองรัก เคารพ ยอดบูชา อย่างหาที่สุดมิได้ คือ..

    "สมเด็จองค์ปฐม รุ่นแรก วัดท่าซุง" ที่บูชาขึ้นสร้อยคอ มานานปี
    ขอนำออกมา ให้เช่าบูชา เพื่อเป็น "ทุน" สำหรับ "การขับเคลื่อน" โครงการช่วยเหลือทหารหาญ

    โดยที่ "ท่านผู้เช่าบูชา" จะได้รับอานิสงส์ ดังนี้..

    1. อานิสงส์ข้าเป็น รายได้โดยตรง คือ "ยอดเงินที่เช่าบูชา สมเด็จองค์ปฐม รุ่นแรก" นี้
    จำนำเข้าเป็น "รายได้" เพื่อทำนุบำรุงในงานของสงฆ์ ในงานของวัดท่าซุง อุทัยธานี้
    จำนวน 100 % เต็เหรียญมหาลาภ ม คือ น้อมถวาย ทุกบาท ทุกสตางค์ ของมูลค่า ที่เช่าบูชา
    (เป็นการช่วยงานในพระศาสนา โดยตรง.. โดยเฉพาะ บุญ ณ วัดท่าซุง)

    ที่ราคาเช่าบูชา 160,000 บาท (หนึ่งแสน หกหมื่น บาทถ้วน)

    โดยที่ ยอดเงิน 160,000 บาท นี้ นำเข้าวัดท่าซุง ทั้งหมด

    โดยจะได้ทำการขอบูชา สมบัติพ่อให้ คือ เหรียญมหาลาภ ชุด 2 เหรียญ
    ราคาบูชา ชุดละ 320 บาท (จะทำให้ได้ เหรียญมหาลาภ มา 500 ชุด)

    เหรียญมหาลาภ จำนวน 500 ชุด นี้
    จะได้นำมาเป็น สิ่งอันเป็นยอดมงคล มอบให้ ทหารหาญ และ ท่านเจ้าภาพ ที่ร่วมงานบุญ

    2. สร้างความสมาน สามัคคี ความปรองดอง ความเกื้อหนุน เอื้ออาทร แก่กับ ของคนในชาติ

    3. ช่วยเหลือทหารหาญ คือ ช่วยชาติ

    4. ทหารอยู่ได้ ..ชาติ ย่อมอยู่ได้.. พระศาสนา ก็สามารถดำรง คงอยู่

    จึงจะเห็นได้ว่า บุญในครั้งนี้ นับได้ว่า มีอานิสงส์ใหญ่ อันยอดยิ่ง

    ..................................................................................................................................................

    [​IMG]

    ปิดรายการ บูชา 160,000 บาท แล้วครับ

    มี ท่านผู้ศรัทธา (ท่านฯ บอกว่า ไม่ขอเอ่ยนาม) บูชา สมเด็จองค์ปฐม รุ่นแรก

    ชำระ เงินโดยเป็น Draft (ตั๋วแลกเงิน) สั่งจ่ายในนาม
    วัดท่าซุง (วัตถุมงคล) เลขที่บัญชี 619-1-36943-3

    บัดนี้ เหรียญมหาลาภ 500 ชุด
    สามารถ จองและร่วมบุญกันได้แล้ว

    ....................................................................................................................................................

    แล้วใครกันละหนอ.. ที่จะมีกำลังทรัพย์.. มีกำลังสติปัญญา หาญกล้า ฝ่ากิเลส..

    ขอกราบอาราธนา คุณพระไตรรัตน์ พรหม เทพเทวา
    นานาสิ่งศักดิ์สิทธิ์
    คุณครูบาอาจารย์
    คุณแห่งพระโพธิสัตว์เจ้า ทั้งหลาย

    งานนี้ เป็นงาน เพื่อชาติ พระศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์

    ขอได้โปรดดลจิต ยกประคองใจ ให้ท่านผู้มีความสามารถ
    เกิดสติปัญญา หาญกล้า ที่พร้อมจะสละทรัพย์ เป็นสาธารณประโยชน์
    ในบุญ ในครั้งนี้ ด้วยเถิด

    บัดนี้..
    ปรากฏผล ตามความปรารถนาของ "พวกเรา" แล้ว
    ขอน้อมนอบ ใน พละแห่งกำลังปัญญา "ของท่านฯ" อย่างยอดยิ่ง

    สาธุ..
    สาธุ..
    สาธุ....

    ...................................................................................................................................................

    สามารถ ร่วมบุญ และรับเหรียญมหาลาภ ที่บูชามาจาก วัดท่าซุง ได้แล้ว

    เหรียญมหาลาภ ซึ่งเป็นเหรียญชุด มี 2 (องค์)
    ก็จะ ตอก(ขอบ) ตัวเลข(ด้วยเลเซอร์) หมายเลข 1 - 500

    ท่านผู้ร่วมบุญ จะได้รับเหรียญ นี้ จำนวน 1 เหรียญ
    มอบให้ ทหารชายแดน 1 เหรียญ (จัดมอบพร้อมรูปถ่าย องค์หลวงพ่อฯ + ในหลวง)
    (ณ วันข้างหน้า มีวาสนาร่วมกัน จะได้พบ "คู่เหรียญ")

    ......................................................................................................................................................

    [​IMG]

    [​IMG]

    ท่านร่วมบุญ 999 บาท เพื่อจัดหา ซื้อสิ่งของให้ทหารหาญ
    (ขอสงวนสิทธิ์ การเปลี่ยนแปลงราคา ตามความเหมาะสม)

    มีเหรียญทั้งหมด 500 คู่ (1,000 เหรียญ)
    โดยที่ เหรียญทั้งหมด 500 คู่ จะถูก ตอกตัวเลข (เลเซอร์)
    ตั้งแต่ เลข 1 ถึง 500 (แต่ละเลข จะมี 2 เหรียญ.. ไม่สามารถเลือกหมายเลข)

    ท่านผู้ร่วมบุญ จะได้รับเหรียญ นี้ จำนวน 1 เหรียญ
    มอบให้ ทหารชายแดน 1 เหรียญ (จัดมอบพร้อมรูปถ่ายหลวงปู่ฯ + ในหลวง)
    (วันข้างหน้า มีวาสนาร่วมกัน จะได้พบ "คู่เหรียญ")


    หมายเลข ของเหรียญ ที่มีตัวเลขสวย ๆ หรือ มีความหมายเป็นมงคล
    จะได้นำมาให้ "ประมูล" เพื่อเป็น กำลังบุญ สืบต่อไป

    1. โอนเงินเข้าบัญชีบุญ
    ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขาย่อย บิ๊กซี สะพานใหม่ดอนเมือง
    ชื่อบัญชี มหาหิน มีเนตร์ขำ
    บัญชีออมทรัพย์ 298-200711-2
    2. โพส สำเนาใบโอนเงินบุญ ให้ได้โมทนาแก่กัน
    3. โพส หรือ PM ที่อยู่ของท่านผู้ร่วมบุญ เพื่อจัดส่งเหรียญมาให้ ต่อไป

    ขอน้อมโมทนายิ่งนัก

    .......................................................................................................................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2010
  7. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    [​IMG]

    มี "ความจริง" ที่น่าน้อมโมทนา
    แฝงอยู่กับ "สมเด็จองค์ปฐม รุ่นแรก วัดท่าซุง"
    ที่กระผม บูชาขึ้นสร้อยคอ มานานปี องค์นี้

    กล่าวคือ.. มี คุณพี่ท่านหนึ่งฯ มอบมาให้ผม พร้อมกับ "เลี่ยมทองคำ"
    (คุณพี่ฯ บอกว่า ไม่ให้ผมกล่าว ชื่อ) โดยมีเหตุผล ที่มอบให้กระผม นั้น....

    คุณพี่ท่านนี้ฯ กล่าวกับกระผมฯ ในวันที่มอบให้ ก็คือ..

    "..เอ้า มหาฯ ทำบุญเยอะ มอบองค์ปฐม รุ่นแรก ให้องค์หนึ่ง"

    เพียงแค่นี้เองครับ เหตุผลที่ คุณพี่ท่านนี้ฯ ตั้งใจมอบ สมเด็จองค์ปฐม ให้แก่กระผม
    ทั้งที่ ก็ไม่ได้ใช่ว่า จะเป็นญาติ (เพียงแค่รู้จักกัน ในสายงานบุญ เท่านั้นเอง)

    ก็ต้องขอน้อมกราบ ยอมรับ นับถือ ในน้ำใจ อันยอดอย่างยิ่ง

    ความจริง อีกประการหนึ่ง ก็คือ..

    ผมเองก็ไม้ "ยึดถือ" ว่า สมเด็จองค์ปฐม นี้ เป็นของกระผม
    ผมเพียง ระลึกว่า นี้เป็น ความเมตตาอย่างยิ่ง ของคุณพี่ฯ
    ที่มอบ สมเด็จองค์ปฐม ให้ไว้ คุ้มครองกระผม เท่านั้นเอง

    ไม่ได้มีอารมณ์ ความคิด ว่า เป็น ของกระผมเลย
    แต่เป็น "กำลังใจ" ที่คอยปกป้อง ประคองใจ ให้ระลึกถึง
    คุณความดีของ คุณพี่ฯ ตลอดเวลา

    และเมื่อถึง วันเวลา ที่จะตัดสินใจ นำออกมา เพื่อให้เช่าบูชา
    เพื่อเป็นกำลัง เป็น ทุน เพื่องาน ช่วยทหารหาญ ในครั้งนี้

    กระผมฯ ได้ "ขออนุญาต" จากคุณพี่ฯ แล้ว
    ซึ่ง "คุณพี่" ก็รับปาก อนุญาต ให้กระผมดำเนินการ ตามที่ตั้งใจได้

    ซึ่งก็ย่อมถือได้ว่า อานิสงส์ใด ที่พึงบังเกิดขึ้น เพียงใดตาม

    ขอให้คุณพี่ฯ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข ยิ่งกว่าข้าเจ้า จะพึงได้ทุกประการ เทอญ.

    .......................................................................................................................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มีนาคม 2010
  8. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    [​IMG]

    [​IMG]

    พุทธาภิเษก โดยหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนาฯ(ตลอด ไตรมาส)

    ........................................................................................................................................................

    [​IMG]
    (ภาพนี้ จะจัดมอบให้ทหารหาญกล้า พร้อมกับเหรียญ เพื่อสานเสริม กำลังความศรัทธา ให้กับทหาร)

    ทั้งนี้..

    หากว่า ยังไม่มี ท่านผู้ศรัทธา มาเช่าบูชา สมเด็จองค์ปฐม รุ่นแรก
    เหรียญมหาลาภ 500 ชุด ก็ยังไม่สามารถจะนำออกมาให้ทำบุญกันได้

    แต่ทว่า ก็ยังนับว่า โชคดี ที่มีท่านผู้เจริญด้วยศรัทธา คือ..

    1. คุณพี่สมเกียรติ ทวีหฤทัยสุข และ
    2.<!-- google_ad_section_end --> คุณหมอน้อยฯ จรัสศักดิ์ เรืองพีระกุล

    หลังจากที่ได้ทราบได้ทราบ จุดประสงค์ของโครงการ
    ได้ให้ความช่วยเหลือ เพื่อให้โครงการเกิดความสำเร็จตามเป้าประสงค์

    โดยได้จัดมอบเหรียญ รุ่นแรก หลวงปู่ครูบาพรรณฯ เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม องค์ปัจจุบัน
    ซึ่ง หลวงปู่ ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา อธิษฐานจิต ตลอดไตรมาส

    มามอบให้แก่กระผม เพื่อใช้เป็นประโยชน์ ต่อทหารหาญ และเพื่อหารายได้ตามจุดมุ่งหมายที่กล่าวไว้

    1. คุณพี่สมเกียรติ ทวีหฤทัยสุข มอบให้ จำนวน 800 เหรียญ
    2.<!-- google_ad_section_end --> คุณหมอน้อยฯ จรัสศักดิ์ เรืองพีระกุล มอบให้ จำนวน 800 เหรียญ

    รวมเป็น 800 คู่ (จำนวน 1,600 เหรียญ)

    คิดว่า จะใช้ เลเซอร์ สลักหมายเลขที่ขอบเหรียญ เป็นคู่ ๆ
    ดังนั้น หมายเลขใด หมายเลขหนึ่ง ก็จะมี จำนวน 2 เหรียญ
    เหรียญหนึ่ง ขอมอบให้แก่ ท่านผู้มีจิตศรัทธา ร่วมบุญเพื่อชาติ
    อีกเหรียญหนึ่ง จัดมอบให้ ทหารหาญ
    พร้อมรูป ในหลวง ที่ถ่ายภายกับ หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา

    ขอน้อมโมทนา ในบุญกุศล ในกุศลเจตนา ที่มีต่อชาติ พระศาสนา และพระราชบัลลังก์
    กับท่านผู้ทรงคุณความดีของท่านทั้งสอง มา ณ ที่นี้ ด้วยจิตที่น้อมมุทิตา อย่างยอดยิ่ง

    .....................................................................................................................................

    ดังนั้น

    จึงมีความประสงค์ที่จะเชิญชวน ให้พวกเราทั้งหลาย อันคิดได้ว่า นี่คือ เรื่องของพวกเรา
    เป็นโครงการของพวกเราเอง คือ การเสริมรั้วบ้านของเรา รั้วประเทศของเรา ให้แข็งแรง

    ช่วยป้องกัน ภัยพาล อริราชศัตรู
    ไม่ให้กลายกล้ำ ไม่ให้ใครเขามาแบ่งแยกแดนดิน ของบรรพรุรุษไทย ปกป้องกันมา เพื่อ
    ให้ชาติเจริญ ยืนยง คงอยู่ ตราบนานเท่านาน อันจักเป็นบานรากของ พระศาสนา และ
    สถาบันพระมหากษัตริย์ ให้เกิดความรุ่งเรือง สืบไป ณ ภายภาคหน้า
    นับแต่นี้ สืบไป....

    ท่านร่วมบุญ 500 บาท (จัดหา ซื้อสิ่งของให้ทหารหาญ)

    มีเหรียญทั้งหมด 800 คู่ (1,600 เหรียญ)
    โดยที่ เหรียญทั้งหมด 800 คู่ จะถูก ตอกตัวเลข (เลเซอร์)
    ตั้งแต่ เลข 1 ถึง 800 (แต่ละเลข จะมี 2 เหรียญ)

    ท่านผู้ร่วมบุญ จะได้รับเหรียญ นี้ จำนวน 1 เหรียญ
    มอบให้ ทหารชายแดน 1 เหรียญ (จัดมอบพร้อมรูปถ่ายหลวงปู่ฯ + ในหลวง)
    (วันข้างหน้า มีวาสนาร่วมกัน จะได้พบ "คู่เหรียญ")

    หมายเลข ของเหรียญ ที่มีตัวเลขสวย ๆ หรือ มีความหมายเป็นมงคล
    จะได้นำมาให้ "ประมูล" เพื่อเป็น กำลังบุญ สืบต่อไป


    1. โอนเงินเข้าบัญชีบุญ
    ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขาย่อย บิ๊กซี สะพานใหม่ดอนเมือง
    ชื่อบัญชี มหาหิน มีเนตร์ขำ
    บัญชีออมทรัพย์ 298-200711-2
    2. โพส สำเนาใบโอนเงินบุญ ให้ได้โมทนาแก่กัน
    3. โพส หรือ PM ที่อยู่ของท่านผู้ร่วมบุญ เพื่อจัดส่งเหรียญมาให้ ต่อไป

    ขอน้อมโมทนายิ่งนัก

    .......................................................................................................................................................<!-- google_ad_section_end -->

    โครงการ ช่วยหนุนทหารหาญกล้า ในครั้งนี้..

    จึงสามารถ ขับเคลื่อน เลื่อนเดินหน้า ได้แล้ว

    ขอเชิญทุกท่าน ร่วมบุญ ได้ทันที
    และขอได้โปรด บอกต่อ ๆ กันไป
    เพื่อเพิ่มความเข้มแข็ง ให้มากขึ้น

    ขอน้อมโมทนา ในดวงจิตของทุกท่าน ที่มีกตเวทิตา ต่อชาติ
    คือ ผืนแผ่นดินไทย อันเป็นที่รองรับ เท้า ของ พวกเราทุกคน

    สาธุ..
    สาธุ..
    สาธุ....

    .......................................................................................................................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มีนาคม 2010
  9. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    [​IMG]

    หลวงปู่ ครูบาชัยยะวงศาพัฒนาเจ้า วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม

    .............................................................................................................................................​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กุมภาพันธ์ 2010
  10. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    [​IMG]


    ประวัติหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศา โดยย่อ

    หลวงปู่ ถือกำเนิดในครอบครัวชาวไร่ชาวนา ที่ยากจน นามเดิมมีชื่อว่า ด.ช. ชัยวงศ์ ต๊ะแหงม เกิดเมื่อ วันอังคารที่ ๒๒ เมษยน ๒๔๕๖ ตรงกับวันแรม ๒ ค่ำ เดื่อน ๗ เหนือ (เดือน ๕ ใต้) ปีฉลู ณ บ้านก้อหนอง ม.๒ ต.ก้อ อ.ลี้ จ.ลำพูน เป็นบุตรของพ่อน้อยจันทะ - แม่บ่อแก้ว ต๊ะแหงม เป็นบุตรคนที่ ๓ ในจำนวนพี่น้อง ๙ คน

    ด.ช. ชัยวงศ์ อยู่กับพ่อแม่ เจริญอายุขึ้นมาถึง ๑๒ ปี ก็ได้ไปอยู่ที่วัดแม่ปิงเหนือ (วัดก้อท่า) ขณะนั้นมีพระภิกษุนามว่า พุทธิมา ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าเป็นเจ้าอาวาสอยู่ ได้อยู่กับหลวงน้าพุทธิมาราว ๔ เดือน หลวงน้าพุทธิก็ได้พาไปช่วยสร้างพระธาตุเกศสร้อย (แก่งสร้อย) ซึ่งท่านครูบาเจ้าศรีวิชัย ได้ไปช่วยทำการบูรณะก่อสร้างอยู่ ด.ช. ชัยวงศ์ ได้ช่วยแรงย่ำดินปั้นดินจี่ (อิฐดินเผา) อยู่เป็นเวลา ๓ เดือน

    ระหว่างนั้น ก็ได้พบกับ พระครูชัยลังก๋า ซึ่งไปนั่งหนักเป็นประธาน สร้างพระธาตุสร้างพระธาตุเกศสร้อย ด้วยและ ได้มอบตัวเป็นศิษย์ พระครูบาชัยลังก๋า จึงได้ให้ ด.ช. ชัยวงศ์ บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันพุธที่ ๖ เดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๘ ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ เหนือ (เดือน ๖ ใต้) ณ วัดแก่งสร้อย ต. มืดกา อ. ฮอด จ. เชียงใหม่ พระครูบาชัยลังก๋า เป็นอุปัชฌาย์ ตั้งชื่อให้ว่า “ชัยยะลังก๋าสามเณร”


    เมื่องานก่อสร้าง วัดพระธาตุเกศสร้อย เสร็จแล้วไปส่วนใหญ่

    ท่านพระครูบาชัยลังก๋า ได้พาสามเณรชัยลังก๋าออกเดินธุดงค์ไปเรื่อย ๆ จนถึง เมืองตื๋น (รวมเวลาเดินธุดงค์ได้ ๔ ปี) ระหว่างทาง ก็ได้แวะไปกราบรอยพระพุทธบาทห้วยต้ม ขณะนั้น ยังเป็น วัดร้าง อยู่

    เดินธุดงค์มาถึง วัดจอมหมอกก ก็ได้พบกับ ท่านพระครูบาเจ้าพรหมจักร
    จึงได้พำนักอยู่จำพรรษากับครูบาพรหมจักรได้ ๑ พรรษา พอออกพรรษาแล้วอยู่ถึง เดือน ๕ เหนือ (เดือน ๓ ใต้) ขึ้น ๒ ค่ำ พระครูบาชัยลังก๋าก็ได้มอบสามเณรชัยลังก๋าให้อยู่อุปฐาก และศึกษาเล่าเรียนกับท่านครูบาเจ้าพรหมจักร ที่วัดจอมหมอก

    จากนั้นมา ก็ได้ติดตามครูบาเจ้าพรหมจักรออก เดินธุดงค์ไปเรื่อย ๆ จนถึงเขตอังกฤษ (ปัจจุบันเป็นประเทศพม่า) ที่บ้านกะเหรี่ยงยางแปง ต. บ้านใหม่ อ. เล็งปอย จ. ผาอ่าง และอยู่จำพรรษาที่บ้านยางแปง ได้ ๑ พรรษา

    .........................................................................................................................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กุมภาพันธ์ 2010
  11. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    [​IMG]

    อยู่มาถึงเดือน ๕ เหนือ (เดือน ๓ ใต้) ขึ้น ๘ ค่ำ ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๗๕ ปีวอก สามเณรชัยลังก๋ามีอายุครบ ๒๐ ปี ก็อุปสมบทที่นั้น โดยท่านครูบาเจ้าพรหมจักรโก เป็นพระอุปัชฌาย์ พระจันทร์ กับ พระจัยยา เป็นพระคู่สวด ตั้งฉายาว่า “พระชัยยะวงศาภิกษุ”

    ครั้งถึงเดือน ๕ เหนือ (เดือน ๓ ใต้) แรม ๑ ค่ำ ตรงกับวันศุกร์ที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๕ พระชัยยะวงศาก็กราบลาท่านครูบาเจ้าพรหมจักรกลับมาอยู่วัดจอมหมอก และได้อยู่จำพรรษาที่นั่นได้ ๒ พรรษา พอถึงเดือนยี่เหนือ (เดือน ๑๒ ใต้) ขึ้น ๓ ค่ำ ตรงกับวันศุกร์ที่ ๙ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๗๗ ก็ออกจากวัดจอมหมอกไปช่วยท่านครูบาศรีวิชัยสร้างถนนขึ้นดอยสุเทพ ที่เชียงใหม่ ได้ ๗ เดือนก็สำเร็จ แล้วก็ลาครูบาศรีวิชัยกลับไปจำพรรษาที่วัดจอมหมอกตามเดิม

    พอออกพรรษาอยู่มาถึง เดือนยี่เหนือ (เดือน ๑๒ ใต้) ขึ้น ๓ ค่ำ ตรงกับวันอังคารที่ ๒๙ เดือนตุลาคม พ.ศ.๒๔๗๘ ปีกุน พระชัยยะวงศาก็ออกจากวัดจอมหมอกไปยังวัดพระสิงห์หลวง จ. เชียงใหม่ เพื่อไปร่วมทำบุญฟังธรรมมหาชาติ ในงานครบอายุ ๕๘ ปี ของท่านครูบาเจ้าศรีวิชัย ถึงเดือนยี่เหนือ (เดือน ๑๒ ใต้) แรม ๑ ค่ำ ก็กลับมาอยู่วัดจอมหมอกตามเดิม

    ........................................................................................................................................................<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กุมภาพันธ์ 2010
  12. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    [​IMG]

    ถึงเดือน ๗ เหนือ (เดือน ๕ ใต้) ขึ้น ๖ ค่ำ ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒๘ เดือนมีนาคม พ.ศ.๒๔๗๙ พระสิทธิอ้าย เจ้าคณะหมวดเป็นเจ้าอธิการ วัดดอนชัย ต. แม่ตื๋น อ. อมก๋อย จ. เชียงใหม่ ได้จัดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ๑ นาย มาเกาะเอาพระชัยยะวงศา (ขณะนั้นอุปสมบทได้เพียง ๒ พรรษา) พาไปที่วัดดอนชัย เจ้าคณะหมวด (เจ้าคณะตำบล)

    ถึงเดือน ๑๐ เหนือ (เดือน ๘ ใต้) ขึ้น ๙ ค่ำ ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๒๘ เดือนมิถุนายน พ.ศ.๒๔๗๙ พระชัยยะวงศาผ้าขาวก็ลาครูบาเจ้าศรีวิชัย จากวัดบ้านปาง เพราะพวกกะเหรี่ยงชาวเขา ได้นิมนต์ไปโปรดเข้าพรรษาที่บ้านดอยห้วยเปียง ท่านครูบาเจ้าศรีวิชัย ก็อนุญาตเพื่อไปโปรดพวกชาวเขา และให้ไปอยู่จำศีลภาวนาให้สงบในป่าเขา ถึงเมื่อคณะสงฆ์ และบ้านเมืองสงบดีแล้ว ค่อยกลับมาวัดบ้านปาง เหมือนเดิม

    พระชัยยะวงศาผ้าขาวก็เดินทางไปทางทิศตะวันตก ผ่านเมืองตื๋น ถึงบ้านดอยห้วยเปียง เมื่อเดือน ๑๐ เหนือ (เดือน ๘ ใต้) ขึ้น ๑๓ ค่ำ ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๗๙ พวกชาวเขา และญาติโยมก็ยินดี พากันรีบทำกระต๊อบในป่าหลังดอย ให้อยู่จำพรรษาที่นี่ไม่ให้ครูบาเจ้าไปไหนอีก พระชัยยะวงศาก็รับนิมนต์อยู่จำพรรษาที่วัดป่า ดอยห้วยเปียง เป็นเขต ต. แม่ตื่นใต้ อ. แม่ระมาด จ. ตาก อยู่กับชาวเขาได้ ๔ พรรษา เมื่อเดือน ๑๒ เหนือ (เดือน ๑๐ ใต้) แรม ๖ ค่ำ ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๕ กันยายน

    พ.ศ. ๒๔๘๒ ก็ลาจากอารัญญะวาสี ชาวเขาดอยห้วยเปียง กลับคืนมาเยี่ยมโยมแม่ ที่บ้านก้อหนอง แล้วเลยเดินต่อไปยังวัดบ้านปาง เพื่อช่วยครูบาอภิชัยขาวปีเหมียด (เก็บ) พระศพท่านครูบาเจ้าศรีวิชัย บรรจุไว้ในหอเมรุ

    ถึงเดือนยี่เหนือ (เดือน) ๑๒ ใต้) แรม ๗ ค่ำ เป็นวันจันทร์ที่ ๑๔ พฤศจิกายน พ. ศ, ๒๔๘๒ ครูบาเจ้าอภิชัยขาวปี และพระชัยยะวงศาผ้าขาว ก็ลาออกจากวัดปาง ไปอยู่บ้านกะเหรี่ยงห้วยหละห้วยโทก ต. ป่าพลู อ. บ้านโฮ่ง จ. ลำพูน เป็นกำลังสำคัญในการสร้างถนน ตั้งแต่บ้านห้วยหละบ้านห้วยโทก เป็นระยะทาง ๓ กิโลเมตร รวมเป็นเวลาได้ ๗ เดือน แล้วทำบุญฉลองถนน

    จากนั้น ครูบาเจ้าอภิชัยขาวปี ก็ลาจากบ้านห้วยหละ ไปอยู่ที่พระบาทตะเมาะ ซึ่งเป็นวัดเดิมของท่าน <O:p</O:p
    ส่วนพระชัยยะวงศาผ้าขาว ก็อยู่จำพรรษา ที่อารามสบหละ ตามคำนิมนต์ของพวกยางบ้านห้วยหละอีก ๑ พรรษา ก็พอดี ปีนั้นเกิดสงครามกับญี่ปุ่น (สงครามโลกครั้งที่ ๒)

    ออกพรรษาแล้วถึงเดือนยี่เหนือ (เดือน ๑๒ ใต้) เป็นวันแรม ๒ ค่ำ วันพุธทีที่ ๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๓ ก็ลาออกจากวัดป่าห้วยหละ เพราะมีคณะศรัธาวัดป่าพลูมานิมนต์ ให้ไปอยู่ที่วัดป่าพลู เพื่อไปสร้างกำแพง และพระวิหาร

    ถึงเดือน ๙ เหนือ (เดือน๗ ใต้) ขึ้น ๑๓ ค่ำ ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๔ คณะสรัทธาวัดป่าพลูได้นิมนต์ให้พระชัยยะวงศาผ้าขาว อุปสมบท ต่อนิสัย ขึ้นอีกใหม่ ที่วัดป่าพลู มีเจ้าอธิการบุญมา เจ้าอาวาสวัดบ้านโฮ่ง เป็นอุปัชฌาย์ มีพระจันทร์ พระมหาทองคำ เป็นพระคู่สวดกรรมวาจาจารย์ ให้ฉายว่า จันทวํโสภิกขุ

    ทางคณะสงฆ์ บัญญัติให้พระจันทวํโส อยู่จำพรรษาที่วัดพลู ๕ พรรษา พระจันทวํโสได้อยู่จนครบ ๕ พรรษา ในช่วงออกพรรษา ก็ได้ออกจากวัดป่าพลู ไปช่วงพระครูบาเจ้าอภิชัยขาวปี คุมงานการก่อนสร้าง ที่วัดพระบาทตะเมาะ พอใกล้เข้าพรรษาก็กลับมาจำพรรษาที่วัดป่าพลู ตามเดิม


    ....................................................................................<!-- google_ad_section_end -->..................................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กุมภาพันธ์ 2010
  13. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    [​IMG]

    การก่อสร้าง วิหารครอบรอยพระพุทธบาท

    จนถึงเดือน ๑๐ เหนือ (เดือน ๘ ใต้) ขึ้น ๑๐ ค่ำ ตรงกับวันจันทร์ ๘กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๘๗ ทางคณะสงฆ์ อำเภอลี้ นายอำเภอและศรัทธาประชาชน ผู้เฒ่า ผู้แก่ บ้านนาเลี้ยง หมู่ ๑ ต. นาทราย อ. ลี้ จ ลำพูน พร้อมใจกันไปนิมนต์ พระจันทวํโส มาพักอยู่ที่วัดนาเลี่ยง เพื่อบูรณปฎิสังขรณ์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ซึ่งร้างอยู่นานแล้ว ทำการก่อสร้างวิหารครอบรอยพระพุทธบาท และสร้างเสนาะ เพิ่มเติม จนพอพักอาศัยได้ และได้อยู่จำพรรษาที่ วัดห้วยต้ม แห่งนี้ ตั้งแต่นั้นมา

    <O:pถึงพรรษาที่ ๒ เดือน ๑๒ เหนือ (เดือน ๑๐ใต้) ขึ้น ๑ ค่ำ เป็นวันจันทร์ ๑๕ กันยายน พ.ศ. ๒๔๙๐ ปีกุน ก็วางศิลาฤกษ์ สร้างวิหารครอบรอยพระพุทธบาท ระหว่างนั้นโดยขณะที่ท่านพระจันทวํโส ได้ไปทำถนนที่ทุ่งหัวช้าง ผาเบ้อ ก็ได้มอบหมายให้ พระครูบาพรรณ (พระครูพินิจสารธรรม) สั่งให้ศรัทธาชาวบ้านนาเลี้ยง ปั้น ดินจี่ (อิฐ) หลังคาเรือนละ ๕๐๐ ก้อน และคณะพระภิกษุ–สามเณร วัดแม่หว่าง โดยการนำของพระไวย ก็มาช่วยศรัทธาญาติโยมปั้นดินจี่ (อิฐ) นี้ด้วย เพื่อนำมาก่อสร้างพระวิหาร การก่อสร้างได้ดำเนินเรื่อยๆ ตลอดมา พระวิหารครอบรอยพระพุทธบาท ได้สำเร็จลงในที่ ในปี พ.ศ.๒๕๔๓ รวมเวลาการที่ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์ขึ้นมาใหม่ เป็นเวลาถึง ๕๓ ปี

    นับตั้งแต่ หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศา ได้มาอยู่วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๘๙ ที่หลวงปู่ ได้เข้ามาเป็นเจ้าอาวาสองค์แรกของวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จนกระทั่งมรณภาพในเวลา ๐๑.๐๐ น. ของวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๔๓ เป็นเวลาถึง ๕๔ ปี หลวงปู่ ได้ใช้ความพยายามพัฒนาวัด จนสามารถพลิกสภาพความเป็น วัดร้าง ให้เป็น วัดที่มีความเจริญถึงสุดขีด จนทำให้ผู้คนจากทุกสารทิศ ทั้งใน และต่างประเทศ ทุกระดับชั้นทางสังคม หลั่งไหลเข้ามาสักการะ สมกับเป็นปูชนียสถานที่สำคัญแห่งหนึ่ง ของประเทศไทย

    ผลงานของ หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา

    <O:p</O:pด้านการก่อสร้างถาวรวัตถุในพระพุทธศาสนา และสาธารณะ <O:p</O:p
    ๑) วัดที่หลวงปู่สร้างและอุปถัมภ์ ทั่งในจังหวัดลำพูน จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดตาก จังหวัดลำปาง จังหวัดเชียงราย จังหวัดสุโขทัย และจังหวัดกำแพงเพชร เท่าที่รวบรวมได้มีทั้งหมด ๔๘ วัด <O:p</O:p
    ๒) โรงเรียนในความอุปถัมภ์ของหลวงปู่ ในจังหวัดลำพูนและจังหวัดเชียงใหม่ มีจำนวน ๓๖ แห่ง <O:p</O:p
    ๓) มูลค่าการก่อสร้างถาวรวัตถุในพระพุทธศาสนา และสาธารณะประโยชน์ สิ่งก่อสร้างส่วนใหญ่แล้ว หลวงปู่ จะเป็นผู้ออกแบบเอง รวมทั้งควบคุม และติดตามผลงานเอง (ยกเว้นโรงพยาบาลลี้แห่งใหม่ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน) และนอกจากนี้ แรงงานที่ใช้ในการก่อสร้างเป็นชาวเขา ที่
    หลวงปู่ให้การดูแล แทบทั้งสิ้น

    ................................................................................................................................................................................................<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กุมภาพันธ์ 2010
  14. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    [​IMG]

    รางวัลเกียรติคุณ

    ด้วยเหตุที่หลวงปู่เป็นนักพัฒนาทั้งทางวัตถุ (ศาสนวัตถุและสาธารณะวัตถุ) และด้านจิตใจ (สร้างทั้งคนและวัตถุไปพร้อมกัน) จึงทำให้ ได้รับการยกย่องเกียรติทางสังคม ดังต่อไปนี้

    1) รางวัลครูบาศรีวิชัย ในฐานะบุคคลที่มีผลงานการส่งเสริมพัฒนาพระพุทธศาสนา กิจการสาธารณะ และเป็นแบบอย่างที่ดี มีปฏิปทา เดินตามรอยเยี่ยงครูบาเจ้าศรีวิชัย ในปี พ.ศ.๒๕๓๖

    2) โล่เชิดชูเกียรติ ในฐานะเป็นผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านศิลปินดีเด่น จ. ลำพูน สาขาศิลปะ สถาปัตยกรรม จากคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ในปี พ.ศ.๒๕๔๒

    3) รางวัลเสมาธรรมจักร ในฐานะบุคคลผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา สาขาส่งเสริมการพัฒนาชุมชน ในปี พ.ศ.๒๕๔๒

    ....................................................................................................<!-- google_ad_section_end -->.................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กุมภาพันธ์ 2010
  15. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    [​IMG]

    ประวัติวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม โดยสังเขป

    วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ตั้งอยู่เลขที่ ๔๙๙ หมู่ที่ ๘ ตำบลนาทราย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ห่างจากที่ว่าการอำเภอลี้ไปทางทิศใต้ประมาณ ๑๐ กิโลเมตร เป็นวัดที่มีรอยพระพุทธบาท ซึ่งปัจจุบันทางวัดได้สร้างวิหารครอบรอยพระพุทธบาทไว้ เป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนทั้งชาวเผ่ากะเหรี่ยงและชาวไทยพื้นราบโดยทั่วไปนับได้ว่าเป็นปูชนียสถานที่สำคัญและศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งของจังหวัดลำพูน

    ตามตำนานพื้นเมือง กล่าวว่า ในสมัยพุทธกาล สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จมาโปรดเวไนยสัตว์ ณ บริเวณสถานที่แห่งนี้ และได้ประทับรอยพระพุทธบาทไว้บนแผ่นหิน เพื่อให้ชาวลั๊วะ และนายพรานทั้งหลาย ได้สักการบูชา

    กาลเวลาผ่านไปศาสนสถานแห่งนี้ ได้ถูกปล่อยทิ้งร้างไป ขาดผู้อุปถัมภ์บำรุงมาเป็นเวลาหลายร้อยปี ต่อมา ทางการคณะสงฆ์อำเภอลี้ ซึ่งมีครูบามหาอินทร์ เจ้าคณะอำเภอลี้ เป็นต้น พร้อมด้วยลูกศิษย์ได้ทราบเรื่องราวจากผู้รู้ที่เป็นชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง จึงได้ออกค้นหา และได้ตรวจสอบหลักฐาน จนทราบแน่ชัดว่าเป็นรอยพระพุทธบาทตามที่ปรากฏในตำนานจริง จึงได้เชิญชวนศรัทธาประชาชนช่วยกันแผ้วถางและบูรณะโดยก่อสร้างมณฑปไว้เพื่อเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านทั่วไป

    ครั้นถึงปี พ.ศ. ๒๔๔๘ สิ่งก่อสร้างทั้งหลาย ชำรุด ทรุดโทรม ลงไป ตามกาลเวลา ครูบาคำผุย มหาชโย วัดบ้านแวน และคณะศรัทธา ได้พร้อมใจกันไปนิมนต์ พระครูพัฒนากิจจานุรักษ์(ครูบาเจ้าชัยยะวงศา พัฒนา) เมื่อครั้งเป็นพระจันทวังโส ภิกขุ จากวัดป่าพลู อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน มาจำพรรษา อยู่ที่ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม เพื่อทำการบูรณะปฎิสังขรณ์ เนื่องจากเห็นว่าท่านเป็นพระนักพัฒนา

    ท่านครูบาเจ้าชัยยะวงศาฯรับคำนิมนต์ และได้เดินทางมาจำพรรษาเป็นการถาวร ณ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม พร้อมด้วยบรรดาศิษย์ เมื่อวันที่ ๘ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๘๙ และ ได้ร่วมกับคณะศรัทธาชาวบ้าน ดำเนินการบูรณะ ปฎิสังขรณ์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม เริ่มงานก่อสร้างวิหาร ครอบรอยพระพุทธบาทห้วยต้ม โดยวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ ๑๕ กันยายน พ.ศ. ๒๔๙๐ จนถึงปัจจุบัน ผลงานของท่านเป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของชาวบ้านและประชาชนโดยทั่วไปทำให้วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ซึ่งเดิมเป็นวัดร้างเจริญขึ้นมาเป็นลำดับ

    ปัจจุบัน วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม มีพระภิกษุจำพรรษากว่า ๓๐ รูป สามเณร เกือบ ๒๐๐ รูป รวม เกือบ ๓๐๐ รูป มีพระครูพินิจสารธรรม เป็นเจ้าอาวาสปกครองดูแล มีการจัดตั้งโรงเรียนพระปริยัติธรรม-บาลี และ สามัญศึกษาถวายความรู้แด่พระภิกษุ สามเณร พร้อมทั้ง ให้การอบรม สั่งสอนประชาชน ให้ตั้งมั่นอยู่ในคุณธรรม จริยธรรม และปฏิบัติตามแนวทางคำสอน ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า สร้างสรรค์จรรโลงพระพุทธศาสนาให้เจริญมั่นคงสืบต่อไป

    ......................................................................................................................................................<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กุมภาพันธ์ 2010
  16. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    [​IMG]

    [​IMG]

    ถาวรวัตถุภายในวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม<O:p</O:p

    1. วิหารครอบรอยพระพุทธบาทห้วยต้ม<O:p</O:p
    เป็นวิหารทรงล้านนาไทย สร้างครอบแผ่นหินที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาท ขนาดกว้าง ๑๕ เมตร ยาว ๔๔ เมตร สูง ๘ เมตร ภายในมีซุ้มมณฑปครอบรอยพระพุทธบาท ประดิษฐานพระพุทธปฏิมาประธาน บริเวณฐานผ้าทิพย์ที่เป็นแท่นแก้วรองรับพระพุทธรูปองค์นี้ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทาน พระบรมราชานุญาตให้พระปรมาภิไธยย่อ ภปร. มาประดิษฐานไว้เป็นมิ่งขวัญ และสิริมงคล แก่ทางวัด ตลอดถึง ศรัทธาประชาชน ผู้มาเคารพสักการะ <O:p</O:p
    เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๙๐จนแล้วเสร็จบริบูรณ์ <O:p</O:p
    และสิ้นค่าก่อสร้างทั้งหมดประมาณ ๘,๐๐๐,๐๐๐ บาท (แปดล้านบาทถ้วน)

    2. เจดีย์ ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์<O:p</O:p
    มีเจดีย์ประธาน ๑ องค์ แวดล้อมด้วยเจดีย์เล็กประกอบรอบเจดีย์องค์ใหญ่ ๘ องค์ ซุ้มพระพุทธรูป ๘ ซุ้ม เริ่มทำการก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๗<O:p</O:p
    สิ้นค่าก่อสร้างทั้งหมด ๓๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท (สามสิบสองล้านบาทเศษ)

    3. ศาลาบำเพ็ญบุญ (วิหารคด) <O:p</O:p
    ล้อมรอบวิหารครอบรอยพระพุทธบาท จัดศาลาบำเพ็ญบุญ มีลักษณะคล้ายวิหารคด ตามฝาผนังมีการวาดภาพประวัติพระนางเจ้าจามเทวี ปฐมกษัตรีผู้สร้างนครหริภุญชัยแบ่งเป็น ๔ ตอน ด้วยกัน คือ


    ตอนที่ ๑ <O:p</O:p
    สร้างติดกับเสาล่อฟ้า ขนาดความกว้าง ๑๑ เมตร ยาว ๔๐ เมตรเริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๗

    ตอนที่ ๒ <O:p</O:p
    สร้างทางทิศตะวันออก ขนาดความกว้าง ๑๑ เมตร ยาว ๗๐ เมตรเริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๘

    ตอนที่ ๓ <O:p</O:p
    สร้างด้านที่ตะวันตกขนาดความกว้าง ๑๑ เมตร ยาว ๑๕.๕๐ เมตรเริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๐

    ตอนที่ ๔ <O:p</O:p
    สร้างทางด้านที่ใต้ ขนาดความกว้าง ๑๑ เมตร ยาว ๙๗,๓๐ เมตรเริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๐ สิ้นค่าก่อสร้างทั้ง ๔ ตอน รวมประมาณ ๒,๑๐๔,๔๓๔ บาท (สองล้านหนึ่งแสนสี่พันสี่ร้อยสามสิบสี่บาทถ้วน)

    4. ศาลาเสาล่อฟ้า<O:p</O:p
    เป็นศาลาทรงมณฑปแหลมความกว้าง ๘ เมตร ยาว ๘ เมตร สูง ๕๐ เมตรส่วนบนสุดติดตั้งเสาล่อฟ้า เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๘ สิ้นค่าก่อสร้างทั้งหมดประมาณ ๒๕๗,๒๐๐ (สองแสนห้าหมื่นเจ็ดพันสองร้อยบาทถ้วน)

    5. หอระฆัง<O:p</O:p
    ขนาดความกว้าง ๖ เมตร ยาว ๖ เมตร สูง ๒๐ เมตร ใช้เป็นที่แขวนกลองและระฆัง สิ้นค่าก่อสร้างประมาณ ๑,๔๐๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งล้านสี่แสนบาทเศษ)


    6. พระอุโบสถทรงล้านนาไทย <O:p</O:p
    ตั้งบริเวณด้านทิศตะวันตกของเจดีย์ใหญ่ขนาดความกว้าง ๑๑ เมตร ยาว ๒๒ เมตรเริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๗ ในเป็นสถานที่ประกอบสังฆกรรมของพระสงฆ์ และ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงโปรดเกล้าฯให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฏราชกุมาร เสด็จแทนพระองค์ ทรงตัดสาแหรกลูกนิมิต เมื่อ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๔๔ ที่ผ่านมา สิ้นค่าก่อสร้างทั้งหมด ๑๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท(สิบสองล้านบาทเศษ)

    7. มณฑปพระเจ้าเก้าตื้อ (จำลอง)<O:p</O:p
    มีโดมหลังคา ภายในปิดกระจกเงารอบ และเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปทองเหลือง ปางมารวิชัย จำลองจากพระเจ้าเก้าตื้อวัดสวนดอกเชียงใหม่ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกได้เมตตาเสด็จมาเป็นองค์ประธานในการเททองที่โรงหล่อบางแค เขตตลิ่งชัน กรุงเทพ ฯ ทำพิธีเททองเมื่อวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๓๑ โดยมีฐานกว้าง ๔ ศอก สูง ๕ ศอก ปัจจุบันพระเจ้าเก้าตื้อจำลองประดิษฐานเป็นประธานอยู่ในมณฑป ณ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงโปรดเกล้าฯให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฏราชกุมาร เสด็จแทนพระองค์ ทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุเมื่อ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๔๔ ที่ผ่านมา สิ้นมูลค่าการก่อสร้างประมาณ ๑๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท(สิบห้าล้านบาทเศษ)


    8.หอพระไตรปิฎก<O:p</O:p
    เป็นทรงศิลปะล้านนา ขนาดความกว้าง ๑๐.๖๕ เมตร ยาว ๑๐.๖๕ เมตรใช้เป็นสถานที่เก็บรักษาพระไตรปิฎกและพระธรรมคัมภีร์ ใบลานแบบล้านนา สิ้นมูลค่าการก่อสร้างประมาณ ๒,๒๑๓,๖๕๒ บาท(สองล้านสองแสนหนึ่งหมื่นสามพันหกร้อยห้าสิบสองบาทถ้วน)

    9. โรงเรียนพระปริยัติธรรมพระชัยยะวงศาพัฒนา<O:p</O:p
    เป็นอาคาร ๒ ชั้น กว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๓๒ เมตรเริ่มทำการก่อสร้างเมื่อ ๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๐ ใช้เป็นสถานที่ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม แผนกธรรม และสามัญศึกษาของพระภิกษุสามเณร สิ้นค่าก่อสร้างทั้งหมด ๒,๒๗๒,๕๐๖ บาท (สองล้านสองแสนเจ็ดหมื่นสองพันห้าร้อยหกบาทถ้วน)


    10. พิพิธภัณฑ์วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม<O:p</O:p
    เป็นวิหารทรงศิลปะล้านนาไทย ใช้เป็นสถานที่เห็บรักษาศิลปวัตถุ และอัฏฐบริขาร และปัจจุบันได้ตั้งสรีระของท่านครูบาเจ้าชัยยะวงศาพัฒนา ชั่วคราว ขนาดความกว้าง ๑๐ เมตร ยาว ๒๔ เมตรสิ้นค่าก่อสร้างทั้งหมดประมาณ ๓,๐๓๙,๓๖๐ บาท (สามล้านสามหมื่นเก้าพันสามร้อยหกสิบบาทถ้วน)

    11. วิหารแก้วประดิษฐานสรีระของหลวงปู่ครูบาเจ้าชัยยะวงศา พัฒนา <O:p</O:p
    อยู่ในระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง ขณะนี้สิ้นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างไปแล้วประมาณ ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท (สองล้านบาทเศษ) โดยคาดว่างบประมาณในการก่อสร้างจนแล้วเสร็จ ประมาณ ๑๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท(สิบสองล้านบาทเศษ)


    12. กุฏิศรัทธานิมิต<O:p</O:p
    เป็นกุฏิไม้ ๒ ชั้น ทรงศิลปะล้านนาไทย ใช้เป็นที่พักจำพรรษาของพระคุณเจ้าพระครูพัฒนกิจจานุรักษ์ (หลวงปู่ครูบาเจ้าชัยยะวงศาพัฒนา) จนกระทั่งมรณภาพ มีขนาดความกว้าง ๑๐.๖๐ เมตร ยาว ๑๘.๖๐ เมตร เริ่มทำการก่อสร้างเมื่อปี พ. ศ. ๒๕๓๔ สิ้นมูลค่าการก่อสร้างทั้งสิ้นประมาณ ๖,๓๐๐,๐๐๐ บาท (หกล้านสามแสนบาทเศษ)

    13. หอพระนิพพานเวียงแก้ว<O:p</O:p
    เป็นวิหารโถง ผนังโดยรอบประดับกระจกใส ประดิษฐานพระพุทธปฏิมาประธานสร้างด้วยหินอ่อนสีขาว ศิลปะแบบพม่าใช้เป็นบำเพ็ญสมณธรรมเจริญสมาธิภาวนาของพระภิกษุสามเณร เริ่มก่อสร้างเมื่อ ๒๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๓๗ กว้าง ๑๒.๒๐ เมตร ยาว ๒๖ เมตร สิ้นค่าก่อสร้างประมาณ ๓,๙๓๑,๑๑๖ บาท ( สามล้านเก้าแสนสามหมื่นหนึ่งพันหนึ่งร้อยสิบหกบาทถ้วน)


    14. กุฏิสุพรหมยานเถรานุสรณ์<O:p</O:p
    เป็นกุฏิสงฆ์ทรงศิลปะล้านนาไทย สร้างด้วยไม้ มีขนาดความกว้าง ๑๒ เมตร ความยาว ๒๐ เมตร สร้างอุทิศเป็นอนุสรณ์แด่พระสุพรหมยานเถร (ครูบาพรหมา พรหมจักโก)พระอุปัชฌาย์ ใช้เป็นพักรับรองพระเถรผู้ใหญ่ สิ้นค่าก่อสร้างทั้งหมดประมาณ ๒,๔๐๐,๐๐๐ บาท (สองล้านสี่แสนบาทเศษ)

    15 . ศาลาบาตร<O:p</O:p
    เป็นศาลาโถงโล่งตลอด มีขนาดความกว้าง ๑๐ เมตร ยาว ๒๐๐ เมตร ใช้เป็นสถานที่รับรองศรัทธาประชาชนที่มาร่วมทำบุญในงานประจำปีของทางวัด สิ้นค่าก่อสร้างทั้งหมดประมาณ ๔๕๐,๐๐๐ บาท (สี่แสนห้าหมื่นบาทถ้วน)


    16. มณฑปพระพุทธบาทกบ<O:p</O:p
    เป็นอาคารสี่เหลี่ยมจัตุรัสก่ออิฐถือปูน สร้างครอบรอยพระพุทธบาทที่ปรากฏอยู่บนแผ่นหินซึ่งสถานคล้ายกบเรียกว่าพระพุทธบาทกบ มีขนาดความกว้าง ๑๐ เมตร ยาว ๑๐ เมตร สิ้นค่าก่อสร้างทั้งหมดประมาณ ๒๕๐,๐๐๐ (สองแสนห้าหมื่นบาทเศษ)

    17. ศาลาบ่อน้ำทิพย์<O:p</O:p
    เป็นศาลาทรงไทยโล่งทั้งสี่ด้าน สร้างครอบบ่อน้ำทิพย์มีขนาดกว้าง ๓ เมตร ยาว ๓ เมตร สิ้นค่าก่อสร้างทั้งประมาณ ๕๐,๐๐๐ บาท (ห้าหมื่นบาทเศษ)


    18. กุฏิสงฆ์<O:p</O:p
    เป็นกุฏิไม้ทรงไทยศิลปะล้านนา กว้าง ๕ เมตร ยาว ๗ เมตร ใช้เป็นที่พักจำพรรษาของพระภิกษุสามเณรและลูกศิษย์ในวัด มีทั้งหมด ๓๐ หลัง สิ้นค่าก่อสร้างทั้งประมาณ ๗๐๐,๐๐๐ บาท (เจ็ดแสนบาทถ้วน)

    19. ฉางข้าว สหกรณ์<O:p</O:p
    เป็นอาคารไม้มีใต้ถุนสูง กว้าง ๑๒ เมตร ใช้เป็นที่เก็บข้าวเปลือกที่มีผู้นำมาถวายวัด สิ้นค่าก่อสร้างทั้งหมดประมาณ ๑,๐๓๒,๐๗๙ บาท (หนึ่งล้านสามหมื่นสองพันเจ็ดสิบเก้าบาทถ้วน)


    20. วัดอื่น ๆ โรงพยาบาล โรงเรียน ถนน สาธารณประโยชน์ อีกมากมาย นับ ร้อย รายการ

    ......................................................................................................................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กุมภาพันธ์ 2010
  17. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    [​IMG]

    รายละเอียด การเสด็จพระราชดำเนิน ทรงเยี่ยมวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม<O:p</O:p
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว<O:p</O:p
    สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ<O:p</O:p
    สมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดา สยามบรมราชกุมารี<O:p</O:p
    สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้า จุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี<O:p</O:p
    ได้เสด็จพระราชดำเนินเมื่อ <O:p</O:p
    - ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๙<O:p</O:p
    - ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๒<O:p</O:p
    - ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๓

    ...........................................................................

    สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามกุฏราชกุมาร<O:p</O:p
    ได้เสด็จพระราชดำเนิน เมื่อ - ๑๑ ธันวาคม ๒๕๔๔

    ............................................................................<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กุมภาพันธ์ 2010
  18. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    [​IMG]

    [​IMG]

    นำเสนอประวติหลวงปู่ฯ ประวัติวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม
    เพื่อให้พวกเรา มั่นใจ ในสิ่งอันเป็นยอดมงคล
    ที่หลวงปู่เมตตา ทำพิธีตลอดไตรมาส
    ก็คาดการณ์ ว่า
    หลวงปู่ฯ ท่านย่อมต้องรู้วาระ เวลา ที่สร้างเหรียญนี้ไว้
    เพื่อว่า เมื่อถึงเวลา จะสามารถช่วย ปกป้อง คุ้มครอง ทหารหาญ
    ช่วยชาติ บ้านเมือง พระศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์
    ในวันนี้ ก็เป็นไปได้ อย่างแน่นอน
    ในที่สุด

    ......................................................................................................................................................................................................................<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กุมภาพันธ์ 2010
  19. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    ขอประกาศรับ สมบัติพ่อให้ เพื่อเข้าร่วมโครงการบุญ เพื่อ ทหารหาญ

    บัญชีรายงาน
    รายการ สมบัติพ่อให้ และสิ่งอันเป็นยอดวัตถุมงคล ที่มีผู้บริจาค เพื่อทหารหาญ 4 จังหวัด ภาคใต้

    1.
    2.
    3.
    4.
    5.
    6.
    7.
    8.
    9.
    10.
    11.
    12.
    13.
    14.
    15.
    16.
    17.
    18.
    19.
    20.

    ....................................................................................<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กุมภาพันธ์ 2010
  20. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    ท่านที่ร่วมบุญ 500 บาท (เงิน ซื้อสิ่งของให้ทหารหาญ)
    จะได้รับเหรียญ นี้
    จำนวน 1 เหรียญ

    มอบให้ ทหารชายแดน 1 เหรียญ

    1. โอนเงินเข้าบัญชีบุญ
    2. โพส สำเนาใบโอนเงินบุญ ให้ได้โมทนาแก่กัน
    3. โพส หรือ PM ที่อยู่ของท่านผู้ร่วมบุญ เพื่อจัดส่งเหรียญมาให้ ต่อไป

    ขอน้อมโมทนายิ่งนัก

    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG]
    </FIELDSET>

    บัญชีร่วมบุญ
    ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขาย่อย บิ๊กซี สะพานใหม่ดอนเมือง
    ชื่อบัญชี มหาหิน มีเนตร์ขำ
    บัญชีออมทรัพย์ 298-200711-2

    บัญชีบุญ จะ Update นำแสดงเป็นสาธารณะ ตลอดเวลา

    รายนาม ผู้บริจาค และ ยอดเงิน ที่บริจาค

    1.
    2.
    3.
    4.
    5.
    6.
    7.
    8.
    9.
    10.
    11.
    12.
    13.
    14.
    15.
    16.
    17.
    18.
    19.
    20.
    21.
    22.
    23.
    24.
    25.
    26.
    27.
    28.
    29.
    30.
    31.
    32.
    33.
    34.
    35.
    36.
    37.
    38.
    39.
    40.

    .........................................................................................................<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กุมภาพันธ์ 2010

แชร์หน้านี้

Loading...