<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3></TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 18-03-2551 |10:53:51 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ภูมิภาค 18 มี.ค.- ผู้จัดการประปามหาสารคามรับมือฤดูแล้ง ป้องกันผู้ใช้น้ำเดือดร้อน ล่าสุดใช้น้ำดิบผลิตประปาเพิ่มจากเดิม หวั่นเดือนหน้ายิ่งร้อนจัด เร่งประสาน ชลประทานหาแหล่งน้ำสำรองล่วงหน้า ด้านเขื่อนลำปาวยังมีน้ำเพียงพอ สำหรับการเกษตร
- ประปาอีสานเร่งหาแหล่งน้ำสำรองผลิตจ่ายตลอดฤดูแล้ง
นายปรีชา วงศ์สินอุดม ผู้จัดการสำนักงานประปาจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า ขณะนี้การประปา ต้องใช้ปริมาณน้ำดิบเพิ่มขึ้นวันละกว่า 33,000 ลูกบาศก์เมตร หรือ 990,000 ลูกบาศก์เมตรต่อเดือน เพราะนอกจากผลิตจ่ายน้ำประปา ให้ในเขตพื้นที่ บริการ 5 อำเภอ กว่า 21,000 รายแล้ว ยังต้องผลิตน้ำสำรอง สำหรับนำไปช่วยเหลือ ราษฎรประสบภัยแล้ง ตามที่ราษฎรร้องขอ ส่งผลให้ปริมาณการใช้น้ำประปาเพิ่มขึ้นอีก กว่าวันละ 500 ลูกบาศก์เมตร ขณะที่สภาพอากาศร้อนอบอ้าวอย่างต่อเนื่อง คาดว่า เดือนเมษายนนี้จะยิ่งร้อนมากขึ้นและปัญหาภัยแล้งขยายวงกว้าง จึงเร่งประสานกับ ชลประทานจังหวัด ให้สำรองแหล่งน้ำดิบลำน้ำชีไว้ให้เพียงพอ ตลอดช่วงฤดูแล้ง พร้อมขอความร่วมมือประชาชนร่วมมือประหยัดการใช้น้ำ และรักษาคุณภาพลำน้ำชี ไม่ให้เน่าเสีย
ด้านนายฤาชัย จำปานิล หัวหน้าฝ่ายวิศวกร โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ล่าสุดเขื่อนลำปาวมีน้ำอยู่ 584 ล้านลูกบาศก์เมตร จากระดับ เก็บกักสูงสุด 1,430 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งโครงการฯ ติดตามสถานการณ์มาตลอด เชื่อว่า ตลอดฤดูแล้งนี้ ยังมีน้ำใช้ในการเกษตรอย่างเพียงพอ นอกจากนี้ ยังวางแผน บริหารจัดการน้ำไว้ส่วนหนึ่งรองรับต้นฤดูฝน พร้อมกับเร่งปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพ การเก็บกักน้ำของเขื่อน มั่นใจว่าเกษตรกรในพื้นที่รับน้ำของเขื่อนลำปาว 4 อำเภอ จ.กาฬสินธุ์ คือ อ.เมืองกาฬสินธุ์ ยางตลาด กมลาไสย และกิ่งอำเภอฆ้องชัย ยังรับน้ำตามปกติ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
สรุปภัยที่เกิดจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก
ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Falkman, 13 มกราคม 2007.
หน้า 47 ของ 191
-
-
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>
- หลายจังหวัดเผชิญปัญหาภัยแล้ง และพายุฤดูร้อน
โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำในอำเภอบึงกาฬ จังหวัดหนองคาย ผลจากแรงลม ทำให้บ้านเรือนราษฎร หมู่ 1 บ้านนาสวรรค์ เสียหายไป 30 หลัง นอกจากนี้ ลมยังพัดหลังคายุ้งข้าว ทำให้ข้าวเปลือกที่เก็บไว้เสียหายด้วย ขณะที่ เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบ เพื่อหาทางช่วยเหลือต่อไป
ส่วนหลายตำบล ของอำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ ที่กำลังประสบปัญหาภัยแล้ง ชาวบ้านต้องรวมกลุ่ม ออกตระเวนจับอึ่งอ่าง ที่อยู่ตามแหล่งน้ำธรรมชาติ เพื่อนำไปประกอบอาหาร และจำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 100 - 150 บาท สร้างรายได้ ประมาณ 1,000 บาทต่อวัน
ขณะที่ เกษตรกรเพาะเห็ดนางฟ้า ในหลายอำเภอ ของจังหวัดอุตรดิตถ์ ต่างก็ได้รับ ผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว ทำให้เห็ดที่อยู่ในโรงเพาะ ปรับสภาพไม่ทัน จึงไม่ยอมออกดอก และทำให้ผลผลิตลดลงไปกว่าครึ่งหนึ่ง โดยเก็บได้แค่เพียงวันละ 15-20 กิโลกรัม ต่อหนึ่งโรงเรือนเท่านั้น
เกษตรกรผู้ทำนาหญ้าขาย ที่ตำบลเขื่องคำ อำเภอเมืองยโสธร ซึ่งเป็นแหล่งปลูก หญ้าสดพันธุ์กินรีสีม่วง ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด ล่าสุด ต้นหญ้าเริ่มแห้งเหี่ยวตาย เสียหายเป็นวงกว้างแล้วกว่า 100 ไร่ ทำให้เกษตรกรหลายราย หยุดการทำนาหญ้าชั่วคราว แล้วหันไปประกอบอาชีพอื่น เพื่อความอยู่รอด.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>- ปภ.สรุปภัยแล้ง 45 จังหวัด
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE> -
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>
- ยูเอ็นเตือนน้ำแข็งทั่วโลกละลายเร็วขึ้น
รายงานของโครงการด้านสิ่งแวดล้อมของสหประชาชาติ ระบุว่า ในช่วงระหว่างปี 2547-2548 และปี 2548-2549 ธารน้ำแข็งทั่วโลกละลายลงอย่างเร็ว มากกว่าเดิมถึงกว่า 2 เท่า โดยธารน้ำแข็งได้ละลายลงเฉลี่ยถึง 1.4 เมตร จากที่เคยละลายเพียงครึ่งเมตร
ทั้งนี้ ทางโครงการด้านสิ่งแวดล้อมของสหประชาชาติ เริ่มทำการสำรวจธารน้ำแข็ง ทั่วโลก ตั้งแต่ปี 2523 ซึ่งพบว่า ธารน้ำแข็งตามเทือกเขาต่าง ๆ ทั่วโลกละลาย เฉลี่ยปีละ 0.3 เมตร แต่สถานการณ์เริ่มรุนแรงมากขึ้น ตั้งแต่ปี 2543 ซึ่งธารน้ำแข็งละลายมากขึ้นถึงครึ่งเมตร สาเหตุสำคัญที่ ทำให้ธารน้ำแข็งทั่วโลก ละลายลงอย่างรวดเร็ว มากกว่าเดิมนั้น ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมระบุอย่างชัดเจนว่า เกิดจากปัญหาโลกร้อน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>- โรคไข้รากสาดน้อยระบาดในฟิลิปปินส์เป็นครั้งที่ 2 ทำให้มีผู้ล้มป่วย 150 คน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE> -
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>บึ้ม!! ใกล้ทำเนียบ ปธน.ฟิลิปปินส์ เจ็บ 15 คน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>18 มีนาคม 2551 20:20 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> เกิดเหตุระเบิดด้านหน้าของวิทยาลัยแห่งหนึ่งใกล้ทำเนียบประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ในกรุงมะนิลา วันนี้(18 มี.ค.) มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 15 คน ในจำนวนนี้สาหัส 2 คน ตำรวจฟิลิปปินส์ แถลงว่า ระเบิดเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 16.30 น.ตามเวลาในท้องถิ่น หรือ 15.30 น.ตามเวลาในประเทศไทย ขณะที่ยังมีการเรียนการสอนที่สถาบันการศึกษาของชาวคาทอลิก ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบว่า ระเบิดเกิดจากความขัดแย้งระหว่างเพื่อนนักศึกษาหรือไม่ โดยจุดที่เกิดระเบิดอยู่ห่างจากประตูทำเนียบประธานาธิบดีประมาณ 300 เมตร แต่ประธานาธิบดีกลอเรีย อาร์โรโย ไม่อยู่ในทำเนียบในช่วงที่เกิดระเบิด
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE> -
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รบ.พลัดถิ่นทิเบต เผยตัวเลขผู้เสียชีวิตเฉียด 100 คน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>18 มีนาคม 2551 20:11 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> โฆษกรัฐบาลพลัดถิ่นทิเบต ปรับเพิ่มตัวเลขผู้เสียชีวิตในการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่จีนกับผู้ประท้วงชาวทิเบตเป็น 99 คนแล้ว แถลงการณ์ของรัฐบาลพลัดถิ่นทิเบตยืนยันตัวเลขดังกล่าวจากการตรวจสอบแหล่งข่าวหลายด้าน โดยระบุว่า ชาวทิเบต 19 คนถูกฆ่าตายในการประท้วงครั้งล่าสุดในวันอังคารนี้
ทั้งนี้เหตุประท้วงจีนขยายวงกว้างรุนแรงขึ้นที่นครลาซา ของทิเบต ตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่ทางการจีนปฏิเสธตัวเลขผู้เสียชีวิตจำนวนมากดังกล่าว
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE> -
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width=595 bgColor=#003366 border=0><TBODY><TR><TD height=21>
พายุพังบ้านที่ จ.ตราด </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width=600 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width=85 height=71></TD><TD vAlign=top width=495 height=71>ส่วนสภาพอากาศช่วงนี้ยังคงแปรปรวน ล่าสุดที่จังหวัดตราด ก็เกิดพายุหมุนพัดบ้าน
เรือนเสียหายหลายหลัง
โดยเฉพาะที่หมู่ 10 ตำบลหัวแร้งอำเภอเมืองตราด แรงลมได้พัดหลังคาบ้านและหักโค่นต้นยาง
พาราล้มทับได้รับความเสียหาย 8 หลังคาเรือน พืชสวนไร่นาอีกกว่า 100 ไร่ ขณะที่ชาวบ้าน
บอกว่า ก่อนที่จะเกิดพายุหมุนก็ได้มีลูกเห็บตกลงมาอีกด้วย ชาวบ้านต้องหนี เอาตัวรอด แต่โชค
ยังดีหลังเหตุการณ์สงบไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width=600 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top height=93>ส่วนที่จังหวัดหนองคาย ระดับน้ำในแม่น้ำโขง ที่เพิ่มสูงขึ้นในขณะนี้ ก็มีรายงานว่าได้เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่
ราบลุ่มแล้วบางส่วน
ด้านจังหวัดเชียงราย หลังเกิดน้ำท่วมฉับพลันติดต่อกันมาถึง 2 ครั้ง หลายอำเภอที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงถูกน้ำท่วมหนัก ต่างเตรียม
ความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากช่วงนี้ในพื้นที่ดังกล่าวยังคงมีฝนตก และระดับน้ำในแม่น้ำหลายสายที่ไหลผ่านมี ปริมาณ
เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่า ทั่วทุกภาคของประเทศยังคงมีฝนตกกระจายเป็นแห่งๆ ยกเว้นภาคใต้ ช่วงนี้มีฝนในบางพื้นที่ </TD></TR></TBODY></TABLE> -
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>
- พายุทรายพัดเข้าปักกิ่ง มลพิษทางอากาศย่ำแย่ถึงขีดสุด
เว็บไซต์ของสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมปักกิ่ง ระบุว่า ระดับมลพิษทางอากาศ ในกรุงปักกิ่งวันนี้ พุ่งไปอยู่ที่ 4 ถึง 5 ซึ่งระดับ 5 จะเป็นระดับที่ถือว่า คุณภาพอากาศย่ำแย่ถึงขีดสุด ส่งผลให้ทางการจีนต้องเตือนประชาชน ให้อยู่แต่ในบ้าน และให้ปิดประตูหน้าต่างไว้ให้ดี เพื่อป้องกันฝุ่นควันจากพายุทราย แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ต้องออกมาข้างนอก ก็ให้สวมหมวกคลุมปิดใบหน้า และพกกระดาษชำระไว้ด้วย เพื่อปิดตาและจมูก เวลาที่สัมผัสกับพายุทราย
พายุทรายที่พัดเข้าปักกิ่งครั้งนี้ มีต้นตอมาจากมณฑลเหอเป่ย และในเขตมองโกเลียใน คาดว่า พายุทรายจะลอยฟุ้งอยู่ทั้งวัน ก่อนจะค่อยๆ สลายไปในวันนี้ ซึ่งตามปกติ ปักกิ่งก็มีคุณภาพอากาศที่ไม่ดีนักอยู่แล้ว จากการจัดอันดับของสหประชาชาติและธนาคารโลก สาเหตุมาจากการเผาไหม้ของถ่านหิน และตัวเลขการใช้รถที่มีมากขึ้น ส่งผลให้คณะกรรมการโอลิมปิกสากล อาจยกเลิกการแข่งวิ่งมาราธอน ในการแข่งขันโอลิมปิกที่จีนครั้งนี้ เพราะเป็นห่วงสุขภาพของนักกีฬา ที่ต้องวิ่งเป็นระยะทางไกลท่ามกลางสภาพอากาศที่ไม่ดี.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>- เอฟเอโอเตือนหวัดนกอาจกลายพันธุ์ที่อินโดนีเซีย
นายโจเซฟ โดเมเนค ผู้อำนวยการสำนักงานศึกษาโรคระบาดในสัตว์ของเอฟเอโอ กล่าวแสดงความวิตกว่า ไวรัสโรคไข้หวัดนกในอินโดนีเซียมีแนวโน้ม อาจกลายพันธุ์ติดต่อสู่คนได้ และว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดนกในอินโดนีเซีย มีมากที่สุดในโลก และอาจระบาดหนักขึ้นหากไม่รีบควบคุมการระบาดโดยด่วน แม้ทางการอินโดนีเซียจะดำเนินการอย่างเข้มงวด แต่ก็ยังไม่สามารถควบคุม การระบาดในสัตว์ปีกได้ ขณะที่วัคซีนสัตว์ปีกในปัจจุบันอาจใช้ป้องกันไม่ค่อยได้ผล
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE> -
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>
- พายุฤดูร้อนถล่มที่สกลนครไฟฟ้าดับทั้งเมือง
ฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ประกอบกับลมกระโชกแรงนานกว่า 30 นาที ทำให้บ้านเรือน ถูกพายุพัดเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองสกลนคร ที่ชุมชนนาอ้อย เสาไฟฟ้าหักโค่นหลายต้นจนไฟฟ้าดับทั้งเมือง นายไพรัตน์ สกลพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ซึ่งกำลังหารือกับหัวหน้าส่วนราชการ ถึงกับต้องจุดเทียน ประชุม ส่วนชุมชนกกส้มโฮง พายุพัดต้นมะม่วงหักทับรถของสำนักงานประชาสัมพันธ์ จังหวัดเสียหาย นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า หลังคาร้านคาราโอเกะริมถนนสายสกล-กาฬสินธุ์ แรงลมทำให้หลังคาร้าน ถูกลมพัดจนพังลงมาทับลูกค้าที่กำลังนั่งกินอาหาร ได้รับบาดเจ็บ ส่วนสถานที่เตรียมจัดงานสินค้าราคาถูก บริเวณลานพระบรมรูป รัชกาลที่ 5 ทางเข้าศูนย์ราชการก็ถูกลมพัดเต๊นท์พังเสียหาย ล้มระเนระนาด ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อเตรียมให้ความช่วยเหลือโดยด่วนแล้ว
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>- พายุลูกเห็บพัดกระหน่ำบ้านชาวหนองบัวลำภูเสียหายกว่า 10 หลัง
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE> -
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>
- เอฟเอโอ.เตือนหวัดนกในอินโดนีเซียอาจกลายพันธุ์ระบาดสู่คน
องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติหรือเอฟเอโอ. ออกแถลงการณ์ฉบับหนึ่ง เตือนว่า เชื้อไวรัสไข้หวัดนก ที่กำลังระบาดอยู่ในอินโดนีเซียอาจกลายพันธุ์ ทำให้เกิดการระบาดครั้งใหญ่ในคนได้ โดยขณะนี้อัตราการเสียชีวิตของประชาชน จากการติดเชื้อไข้หวัดนก ในอินโดนีเซียสูงที่สุดในโลก และคาดว่า จะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่เพิ่มมาตรการ เพื่อควบคุมการระบาดของโรคในสัตว์ ซึ่งถือเป็นแหล่งกำเนิดของเชื้อ ปัจจุบันอินโดนีเซียพบการระบาดของไข้หวัดนกใน 31 จังหวัดจากทั้งหมด 33 จังหวัดทั้งบนเกาะชวา สุมาตรา บาหลี และสุลาเวสีทางใต้ ส่วนที่เวียดนาม กระทรวงสาธารณสุขได้ผ่านความเห็นชอบในการทดลองวัคซีน ต้านไข้หวัดนกในคนแล้ว และการทดลองจะเริ่มขึ้นในเดือนนี้ ที่วิทยาลัยแพทย์ทหารในจังหวัดฮาเตย์ ใกล้กรุงฮานอย โดยผู้เข้าร่วมในโครงการจะเป็นอาสาสมัคร ซึ่งมีทั้งนักเรียนและพนักงานทั่วไป แต่ยังไม่มีการเปิดเผยกำหนดเวลาแน่ชัดที่จะเริ่มการทดลอง
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE> -
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>
- สภาวะภัยแล้ง ต้นลำไยยืนต้นตาย และข่าวอื่นๆ
จังหวัดน่าน ซึ่งหลายพื้นที่มีปัญหาขาดน้ำ โค กระบือ ไม่มีหญ้ากิน แต่ที่บ้านดอนมูล พัฒนา อ.เมืองน่าน ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำน่าน ชาวบ้านปลูกหญ้าเลี้ยงสัตว์ ที่ใช้น้ำน้อยตามร่องสวน และที่ว่างทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก ส่วนคนที่ไม่เลี้ยง โค กระบือ ก็ปลูกหญ้าขายสร้างรายได้เป็นอย่างดี
แต่ที่จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งสภาพอาการแปรปรวน บางวันร้อนอบอ้าว บางวันอากาศเย็นชื้น ส่งผลกระทบต่อการเลี้ยงปลาใน ต.เกรียงไกร อ.ฌมือง โดยปลาไม่กินอาหาร และค่อยๆ ลอยตัวขึ้นบนผิวน้ำ ก่อนทยอยตาย เกษตรกรบอกว่า เลี้ยงปลามาหลายปีไม่คอยเจอปัญหาแบบนี้สักที
จังหวัดแม่ฮ่องสอน ปีนี้ประสบปัญหาภัยแล้งค่อนข้างรุนแรง และคาดว่าจะ ยาวนาน กว่าทุกปี โดยมีการประกาศเป็นเขตภัยพิบัติแล้งแล้วใน 4 อำเภอ มีพื้นที่เกษตร เสียหายกว่า 10,000 ไร่ ขณะที่หลายหน่วยงานและชาวบ้านในหลายหมู่บ้าน ที่ยังพอมีน้ำอยู่ ได้ช่วยกันทำฝายแม้วเพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้
นายก อบจ.พิษณุโลก นำน้ำไปแจกจ่ายให้ชาวบ้านหนองกบ อ.วังทอง เพื่อบรรเทา ความเดือดร้อน จากปัญหาขาดแคลนน้ำในฤดูแล้งนี้ โดยตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม อบจ.พิษณุโลก แจกน้ำช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งแล้วกว่า 300,000
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE> -
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>
- นักวิจัยระบุว่าพื้นที่ทางใต้ของจีน อาจเป็นแหล่งแพร่กระจายของเชื้อไวรัส เอช 5 เอ็น 1
นักวิจัยแสดงความเห็นว่า การซื้อขายสัตว์ปีกอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการระบาด ของเชื้อไวรัสในเวียดนาม ส่วนเส้นทางการแพร่กระจายของเชื้อ จากมณฑลหูหนานไปยังอินโดนีเซียยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน เชื้อไวรัสเอช 5 เอ็น 1 พบครั้งแรกในห่านในมณฑลกวางตุ้ง ทางใต้ของจีนเมื่อปี 2539 และในปีต่อมา เกิดการระบาดของไข้หวัดนกในฮ่องกงมีผู้เสียชีวิต 6 คน และเชื้อได้กลับมา ระบาดซ้ำอีกครั้งเมื่อปี 2546 เนื่องจากสมาชิกในครอบครัวชาวฮ่องกง 2 คน ที่เดินทางกลับจากมณฑลฝูเจี้ยนในช่วงเวลาดังกล่าวล้มป่วยและเสียชีวิต 1 คน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>- ตุรกีพบเชื้อไวรัสไข้หวัดนกใกล้พรมแดนด้านที่ติดกับกรีซ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE> -
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>
- ตุรกีพบเชื้อไวรัสไข้หวัดนกใกล้พรมแดนด้านที่ติดกับกรีซ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>- อากาศแปรปรวน หลายพื้นที่ร้อนจัด-มีฝนตก ลมกระโชกแรง
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE> -
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>
- หลายจังหวัดเตรียมสำรองงบช่วยบรรเทาแล้งลุกลาม
นายธวัชชัย ฟักอังกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ ลุกลามอย่างต่อเนื่อง และแหล่งน้ำสำคัญ น้ำลดลงมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา ประชาชนเดือดร้อนขาดแคลนน้ำแล้วกว่า 59,000 คน ใน 8 อำเภอ 38 ตำบล 236 หมู่บ้าน จึงต้องประกาศให้พื้นที่เป็นเขตพิบัติภัยแล้ง ครอบคลุมทั้งจังหวัด พร้อมกำชับให้แต่ละอำเภอเร่งช่วยเหลือในเบื้องต้น ซึ่งขณะนี้แจกจ่ายไปแล้ว 2 ล้านลิตร ขณะเดียวกันจังหวัดได้เปิดศูนย์ช่วยเหลือภัยแล้งไว้ตลอด 24 ชั่วโมง และยังเตรียมเงินสำรองจ่าย ในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัด ที่จะนำออกมาช่วยเหลือประชาชน 50 ล้านบาท
นายอนุสรณ์ แก้วกังวาน ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เขต 10 ลำปาง กล่าวว่า ปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคเหนือตอนบนขยายวงกว้าง เช่นกัน ล่าสุดมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 54 อำเภอ 276 ตำบล 2,743 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อนกว่า 579,000 คน โดยเฉพาะจังหวัดเชียงรายเดือดร้อนมาก 313,071 คน รองลงมาเป็นจังหวัดพะเยา 87,930 คน ลำปาง เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน และลำพูน สำหรับการช่วยเหลือนั้น ทางศูนย์ ปภ.เขต 10 ลำปาง สรุปงบประมาณทั้งขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และของจังหวัดรวมแล้วกว่า 50 ล้านบาท เพื่อนำมาช่วยเหลือภัยแล้ง
ด้าน นพ.สมยศ ศรีจารนัย นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชกรรมป้องกัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ช่วงอากาศแห้งแล้งและร้อนอบอ้าว มีผู้ป่วยโรคทางเดินอาหารเข้ามารักษาตัวตามโรงพยาบาลรัฐ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนมีนาคมนี้ถึง 4,257 ราย ส่วนใหญ่เป็นเด็กเล็ก ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา โดยพื้นที่พบผู้ป่วยเป็นโรคท้องร่วงมากคือ อ.เขาวง กุฉินารายณ์ และนาคู เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวประสบความแห้งแล้งซ้ำซาก และเป็นเขตที่อยู่บริเวณเทือกเขาภูพาน ทำให้น้ำดื่มไม่สะอาดและบริโภคอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>- ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยองค์การบริหารส่วนตำบลแม่ยางฮ่อ อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยพายุลูกเห็บตก
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE> -
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>
- เวียดนามเตือนหวัดนกกลายพันธุ์โอกาสตาย 90%
เสียงเตือนดังกล่าวมีขึ้นขณะที่ไข้หวัดนกกำลังแพร่ระบาดอยู่ใน 11 จังหวัดทั่วประเทศ และเวียดนามจะกำลังจะทดลองวัคซีนป้องกันไวรัส A/H5N1 กับคนเป็นครั้งแรก
ในวันศุกร์ (14 มี.ค.) เด็กเพศชายวัย 11 ปี คนหนึ่งได้เสียชีวิตลงในกรุงฮานอย นับเป็นเยื่อรายที่ 5 ของเชื้อไวรัส A/H5N1 ทำให้คณะแพทย์แน่ใจว่าไวรัสไข้หวัดนกในคนได้กลายพันธุ์ไปแล้ว
หนังสือพิมพ์เหงือยลาวด่ง (Nguoi Lao Dong) หรือ "คนงาน" ฉบับวันพฤหัสบดีอ้างคำกล่าวของ น.พ.เหวียนฮงห่า (Nguyen Hong Ha) รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลโรคระบาด และโรคเขตร้อนแห่งชาติ ที่ระบุว่าเชื้อไวรัสไข้หวัดนกที่กลายพันธุ์ได้ ทำให้อัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วย ในระยะที่ผ่านมาสูงถึง 90%
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋ (Tuoi Tre) ฉบับวันอังคาร (18 มี.ค.) สถาบันการแพทย์ทหารเวียดนาม จะเริ่มทดลองวัคซีนกับอาสาสมัครจำนวนหนึ่ง ตั้งแต่เดือน มี.ค.นี้เป็นต้นไป โดยจะใช้เวลา 8 เดือน
ปีที่แล้วการทดลองใช้วัคซีนกับหนูในห้องทดลอง และพบว่า มีประสิทธิภาพช่วยป้องกันให้พ้นจากไวรัส A/H5N1 ได้อย่างดี คราวนี้คณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ กำลังจะทดสอบเกี่ยวกับปริมาณที่สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยสำหรับมนุษย์
วัคซีนดังกล่าวผลิตเองภายในประเทศโดยบริษัทเวียดนามทีชื่อ Vabiotech สำนักข่าวเวียดนามเน็ตรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขเวียดนามได้อนุมัติในวันจันทร์ (17 มี.ค.) ให้ใช้ทดลองได้
นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดครั้งแรกในเดือน ธ.ค.2546 จนถึงปัจจุบันเวียดนามได้บันทึกผู้ป่วยเป็นไข้หวัดนกรวมทั้งสิ้น 106 คน ในพื้นที่ 35 เขตเมืองและจังหวัดทั่วประเทศ ขณะที่กำลังรอองค์การอนามัยโลกยืนยันกรณีที่เสียชีวิตรายล่าสุด
กระทรวงสาธารณสุขเวียดนามกล่าวว่า ในปัจจุบันไข้หวัดนกกำลังระบาดอยู่ใน 11 จังหวัด ในพื้นที่ 3 เขตของประเทศ มีสัตว์ปีกล้มตายแล้วนับล้านๆ ตัว
หวัดนกกำลังระบาดอย่างรุนแรงใน จ.ล่าวกาย (Lao Cai) กว๋างนาม (Quang Nam) และ ล่าสุดใน จ.กว๋างบิ่ง (Quang Binh) ที่พบเปิดล้มตายไป 80 จากทั้งหมด 300 ตัวในฝูงล้มตายลงระหว่างวันที่ 10-14 มี.ค.ที่ผ่านมา
ไข้หวัดนกได้แพร่ระบาดตั้งแต่ตอนเหนือสุดของประเทศ ถึงภาคตะวันออก กรุงฮานอย ลงไปจนถึง จ.ซ็อกจาง (Soc Trang) ในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขง
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ไซ่ง่อนหยายฟง (Saigon Giai Phong) นายกรัฐมนตรีเวียดนามเหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) ได้ตำหนิทางการท้องถิ่นต่างๆ ที่ปล่อยให้หวัดนกกลับมาแพร่ระบาดอีกครั้งหลังเงียบหายไปนานเมื่อปีที่แล้ว
รัฐบาลเวียดนามได้สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุข -กระทรวงเกษตร และพัฒนาชนบท ให้ส่งหน่วยเคลื่อนที่เร็วออกปฏิบัติการ ช่วยเหลือประชาชนป้องกัน และปราบปรามไข้หวัดนกทั่วประเทศ และให้ดำเนินการทุกวิถีทางในการหยุดยั้งการแพร่ระบาด
กระทรวงสาธารณะสุขยังต้องให้มีหลักประกันว่า เวียดนามจะมียารักษาโรคที่จำเป็นอย่างเพียงพอ ในกรณีที่เกิดการแพร่ระบาดลุกลามสู่มนุษย์
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE> -
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>
- เกิดพายุลมแรงพัดกระหน่ำทางภาคเหนือของเม็กซิโก ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คนและบาดเจ็บอีก 6 คน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>- พิจิตรประกาศ 12 อำเภอเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้ง
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE> -
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>
- ยูเอ็นเปิดข้อมูลธารน้ำแข็งหดเพิ่มขึ้น 5 เท่าในเวลาไม่ถึงสิบปี
บีบีซีนิวส์-ยูเอ็นอีพีเผยข้อมูลธารน้ำแข็งหดตัวก้าวกระโดดจากปีละ 30 เซนติเมตร ขึ้นเป็นปีละ 1.5 เมตรในเวลาไม่ถึง 10 ปี โครงการสิ่งแวดล้อมของสหประชาชาติ (ยูเอ็นอีพี) เผยข้อมูลธารนำแข็งทั่วโลกหดตัวเฉลี่ยเพิ่มขึ้น จากช่วงปี 2523-2542 ที่ธารน้ำแข็งหดตัวเฉลี่ยปีละ 30 เซนติเมตรเป็น 1.5 เมตรในปี 2549 โดยเฉพาะเทือกเขาแอลป์ส (Alps) และเทือกเขาไพรีนีส (Pyrenees) ในยุโรปที่พบการหายไปของน้ำแข็งจำนวนมาก ทั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ธารน้ำแข็งในเทือกเขา 9 แห่ง
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนได้เรียกร้องให้มี "ปฏิบัติการโดยฉับพลัน" เพื่อพลิกแนวโน้ม การหดอย่างรวดเร้ว ของธารน้ำแข็งที่เกิดขึ้นนี้ ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดที่สำคัญ ของการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (climate change) ทั้งนี้ประมาณกันว่าในปี 2549 มีปริมาณน้ำแข็งหดตัวไป 1.4 เมตร ขณะที่ในปี 2548 หดไป 0.5 เมตร
อชิม สไตเนอร์ (Achim Steiner) ผู้อำนวยการใหญ่โครงการสิ่งแวดล้อม สหประชาชาติ กล่าวว่าผู้คนหลายล้าน หรือไม่ก็หลายพันล้าน ขึ้นตรงต่อทรัพยากรน้ำ ที่กักเก็บไว้ในธรรมชาตินี้เพื่อดื่ม การเกษตร อุตสาหกรรมและการผลิตกระแสไฟฟ้า ในช่วงสำคัญของปี โดยธารน้ำแข็งได้ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ อันเนื่องจากการเผาไหม้ถ่านหินและเราก็สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงนั้นได้ พร้อมเผยว่าได้ดำเนินการเบื้องต้นที่จะพัฒนา "ธุรกิจเขียว" โดยการลงทุนด้านพลังงานทดแทนมากขึ้น
ดร.วิลฟรีด ฮาเบอร์ลี (Dr.Wilfried Haeberli) ผู้อำนวยการหน่วยติดตาม ธารน้ำแข็งโลก (World Glacier Monitoring Service) ซึ่งได้รับการสนับสนุน โดยยูเอ็นดีพี กล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด และการสูญเสียน้ำแข็ง ก็ยังคงเพิ่มขึ้นในอัตราเร่งในช่วง 25 ปีที่ผ่านมานี้ โดยตั้งแต่ปี 2523 สูญธารน้ำแข็งไปแล้ว 10.5 เมตร โดยค่าเฉลี่ยธารน้ำแข็งที่หดไป 1 เมตร เทียบเท่ากับความหนาของน้ำแข็ง 1.1 เมตร นั่นหมายความว่ากว่า 20 ปีที่ผ่านมา ความหนาของน้ำแข็งลดไปแล้ว 11.5 เมตร
ทั้งนี้ทีมวิจัยได้ศึกษาธารน้ำแข็งทำหมด 100 แห่งในประเทศแถบยุโรป ได้แก่ ออสเตรีย นอร์เวย์ สวีเดน อิตาลี สเปนและสวิตเซอร์แลนด์ โดยในช่วงแข็งมากที่สุดแห่งหนึ่ง
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE> -
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>
- ยโสธรสั่งรับมือพายุฤดูร้อนกระหน่ำซ้ำ
นายศิลป์ ชื่นนิรันดร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เรียกประชุมหัวหน้าส่วนราชการ เพื่อเตรียมป้องกันความเสียหายจากพายุฤดูร้อน หลังจากเกิดวาตภัยขึ้น ไม่กี่วันที่ผ่านมา และสถานีอุตุนิยมวิทยา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือพยากรณ์ว่า ระยะนี้จะมีความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีน แผ่ลงมาปกคลุมตอนบนของประเทศไทย ทำให้เกิดพายุฤดูร้อนขึ้นได้ในหลายพื้นที่ ส่วนมากจะเป็นบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะช่วงวันที่ 22–24 มี.ค.นี้ โดยกำชับให้ทุกหน่วยงาน เตรียมรับมือไว้ล่วงหน้า และเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อการช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งการแจ้งเตือนประชาชน ให้ระมัดระวังความเสียหายของทรัพย์สิน และพืชผลการเกษตร
ส่วน จ.หนองคาย ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ต.พระธาตุบังพวน อ.เมือง เร่งสำรวจความเสียหายจากพายุฝนฟ้าคะนอง และลูกเห็บตก นานกว่า 1 ชั่วโมง เมื่อคืนที่ผ่านมา (18 มี.ค.) เพื่อรายงานทางอำเภอและจังหวัดเร่งให้การช่วยเหลือ เบื้องต้นพบว่าที่บ้านหนองผือ หมู่ 8 แรงพายุ พัดหลังคาสังกะสีบ้านเรือน ปลิวไปตกกลางท้องนาหลายหลัง อีกทั้งยังพัดโค่นต้นไม้ใหญ่ระเนระนาด ไฟฟ้าดับมาตลอดทั้งคืนจนถึงรุ่งเช้า
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE> -
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>
- ลาวเผชิญไข้หวัดนกระบาดครั้งใหม่
นายยง จันทะลังสี โฆษกกระทรวงต่างประเทศลาว ระบุว่า พบไข้หวัดนกระบาด ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในแขวงหลวงน้ำทา เป็นรายงานการระบาดครั้งที่ 6 ในรอบ 1 เดือนของพื้นที่ดังกล่าว ทำให้มีไก่ป่วยตายราว 100 ตัว ภายหลังการตรวจสอบพบว่า ไก่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 ทางการจึงเร่งฆ่าไก่ราว 800 ตัว ภายในรัศมี 3 กิโลเมตรจากพื้นที่พบเชื้อ อย่างไรก็ดี ไม่มีรายงานคนล้มป่วยจากไข้หวัดนก
ตามสถิติขององค์การอนามัยโรคระบุว่า ลาวมีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดนก 2 คน นับจากการแพร่ระบาด ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อปี 2546 ขณะที่รายงานล่าสุดที่องค์การอนามัยโลก ยืนยันวานนี้ พบว่า มีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดนกทั่วโลกแล้ว 236 คน.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>- เกิดฝนตกหนักทำให้น้ำท่วมในพื้นที่ตอนกลางของสหรัฐ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE> -
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>
- ปัญหาขาดแคลนน้ำดื่มยิ่งทวีความรุนแรง
การขยายตัวทางเศรษฐกิจ การเพิ่มขึ้นของประชากร และความเป็นเมืองที่แผ่ขยาย อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ปริมาณการใช้น้ำมีมากขึ้นเป็นประวัติการณ์ น้ำสะอาดที่เหลืออยู่ จึงมีไม่เพียงพอ สำหรับกลุ่มคนยากจน แม้มหานครบางแห่ง เช่น กรุงเม็กซิโกซิตี้ กรุงจาการ์ตา และกรุงเทพฯ จะมีทรัพยากรแหล่งน้ำใต้ดิน แต่เนื่องจาก ขาดการดูแลจัดการที่ดี จึงทำให้น้ำใต้ดินเหลืออยู่น้อยมากจนน่าตกใจ
เช่นที่กรุงปักกิ่งของจีน ซึ่งมีรายงานว่า น้ำใต้ดินมีระดับลดลงกว่า 10 เมตร ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้รัฐบาลจีนต้องเจียดงบผันน้ำจากแม่น้ำแยงซีทางใต้ เข้ามายังพื้นที่ทางเหนือของประเทศ ซึ่งเต็มไปด้วยความแห้งแล้ง
ปัญหาโลกร้อน ส่งผลให้ระดับน้ำทะเลพุ่งสูง จนน้ำทะเลไหลเข้ามาแทรกซึม แหล่งน้ำใต้ดิน รวมถึงปัญหามลพิษแหล่งน้ำ ก็มีส่วนทำให้น้ำดื่มยิ่งขาดแคลนหนัก ถ้าไม่รีบแก้ไขปัญหานี้ ในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า อาจเกิดการอพยพโยกย้าย ถิ่นฐานครั้งใหญ่เพื่อแสวงหาแหล่งน้ำ หรือสถานการณ์อาจบานปลาย กลายเป็นสงครามแย่งชิงแหล่งน้ำขึ้นมา
สหประชาชาติยังระบุว่า มีชาวเอเชียในเมืองใหญ่ไม่ถึงครึ่ง ที่ปล่อยสิ่งปฏิกูลลงท่อระบายน้ำ นอกนั้น มักจะปล่อยทิ้งลงไปในแม่น้ำโดยตรง จึงยิ่งทำให้แหล่งน้ำเน่าเสียมากขึ้น ไม่สามารถนำน้ำมาบริโภคได้ ขณะที่นักวิทยาศาสตร์ก็กำลังคิดค้นเทคโนโลยี เปลี่ยนน้ำทะเลให้เป็นน้ำจืด รวมถึงการคิดค้นพืชตัดแต่งพันธุกรรม เพื่อให้ใช้น้ำในการเพาะปลูกน้อยลง หวังแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำไว้บริโภคในขณะนี้
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE> -
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>
- อุตุฯ เหนือ เตือนยังต้องเฝ้าระวังภัยพายุฤดูร้อน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
หน้า 47 ของ 191