สวดมนต์แล้วรู้สึกว่าตัวเองขี้โมโห

ในห้อง 'ประสบการณ์ ผลของการสวด' ตั้งกระทู้โดย parichattom, 29 พฤษภาคม 2013.

  1. parichattom

    parichattom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2011
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +180
    รบกวนหน่อยค่ะ ตอนนี้สวดมนต์มาเป็นเวลา 1 ปี กว่าๆ แล้วค่ะ แต่ตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองขี้โมโห อารมณ์ร้ายขึ้นมากเลยค่ะ ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรดี แทนที่จะใจเย็นขึ้น กลับเป็นคนโมโหง่าย ใจร้อน ช่วยทีนะค่ะ
    ขอบคุณมากค่ะ
     
  2. prosper

    prosper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    201
    ค่าพลัง:
    +382
    อนุโมทนาค่ะ จากที่อ่านๆมา ดิฉันก็เป็นคล้ายๆกันค่ะ
    อยากรู้คำตอบเหมือนกันว่าทำไม เพราะเมื่อก่อนไม่ถึงขนาดนี้

    ส่วนตัวสวดมนต์มากกว่าหนึ่งปีค่ะ ก็สังเกตุตัวเองมาเรื่อยๆ
    แต่เรื่อง ผิด ชอบ ชั่วดี รู้หมด แยกแยะได้
    เรื่องอารมณ์นี่แหละค่ะ กำลังคิดว่าเป็นบททดสอบอีกแบบหรือเปล่า
     
  3. kikinlala

    kikinlala เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    4,939
    ค่าพลัง:
    +8,842
    อารมณ์ขี้โมโหอาจจะมีอยู่ก่อนแล้วหรือเปล่าคะ แต่ตอนสวดมนต์มากขึ้นทำให้สังเกตุเห็นอารมณ์ตัวเองได้มากขึ้น จึงรู้ว่าขี้โมโห หรืออีกอย่างอาจจะเน้นการสวดมนต์ แต่ยังไม่ได้ ศึกษาในด้านที่เกี่ยวกับไตรลักษณ์อย่างเพียงพอ .. เพราะการสวดมนต์จะช่วยให้สมาธิดีขึ้น แต่ไม่ได้ช่วยละกิเลสโดยตรง
    ปล. เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล หากผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยค่ะ
     
  4. สู่ความดี

    สู่ความดี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +95
    ผมว่าใช่เลยนะครับ สวดมนต์แล้วทำให้เห็นอารมณ์ตัวเองได้มากขึ้น
    แปลกตรงที่ผมก็โมโหขึ้นกว่าก่อนสวดเยอะเลย
    แต่มันก็ดีแล้วนี่ครับ ธาตุแท้ออกมาจะได้ ปรับตัว ปรับอารมณ์จิตใจ
    ให้ร่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ​
     
  5. กิตติรัตน์ นพต

    กิตติรัตน์ นพต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2008
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +363
    ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ เมื่อมีพัฒนาการของสมาธิเพิ่มขึ้น จิตเราจะละเอียดขึ้น จะรับรู้เรื่องของอารมณ์ของเราเร็วขึ้นกว่าแต่ก่อนละเอียดขึ้นกว่าแต่ก่อน แม้เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ โดยเฉพาะเรื่องของโทสะ จะเป็นอารมณ์ที่เกิดขึ้นได้เร็วและเห็นได้ชัดกว่าอารมณ์อื่นและควรเน้นเรื่องสติให้เร็วขึ้นเพื่อจะได้ตามทันอารมณ์โกรธ/โมโห ของเราและพยายามดับมันลง อนุโมทนาด้วยนะครับ
     
  6. Jindamunee

    Jindamunee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    341
    ค่าพลัง:
    +1,186
    ผมเคยเป็นครับนานวันเข้าพอพิจารณาเขาพิจารณาเรา มันก็เฉยเป็นวางเป็น
    เพราะถ้าขี้โมโห อารมณ์ร้ายบ่อยๆไม่ว่านิสัยเราเองหรือคนรอบๆทำเอาไม่รู้หยุด
    เราเองจะเหมือนแบกทุกข์(ร้อนด้วย)อยู่อย่างนั้น
    เหมือนเกิดมาใช้ชีวิตไม่คุ้มค่าให้น่าอยู่เลย
     
  7. นางสาวอยู่จ้ะ

    นางสาวอยู่จ้ะ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,041
    ค่าพลัง:
    +3,865
    บทสวดมนต์บางบทจะมีพลังงานมาก เชิงอิทธิฤทธิ์ ปกป้องคุ้มภัย ฯลฯ
    ดิฉันรู้สึกร้อนได้ง่ายเพราะเป็นคนแนวโทสะจริตอยู่แล้วน่ะค่ะ
    บางบทจะร้อนมาก (ขอไม่ยกตัวอย่างนะคะ แต่คิดว่าคุณเองก็รู้ดี) จนต้อง
    กรวดน้ำหลังสวดมนต์แผ่บุญให้ดวงวิญญาณแถวบ้านกันเลยทีเดียว
    เพื่อปรับสมดุลให้แก่จิต (เพิ่มพรหมวิหาร)

    คำอธิบายเพิ่มเติม จากหลวงพ่อ พุธ ฐานิโย ท่านอธิบายเรื่องนี้ได้ดีทีเดียว
    คุณลองใช้คำค้น "บทร้อน บทเย็น" ลองหาอ่านดูนะคะ หลวงพ่อพุธ
    ท่านจะให้สวดบทแผ่เมตตาให้ตัวเอง ให้สรรพสัตว์ด้วย น่าจะอธิบายได้ดีน่ะค่ะ
    (แต่ท่านอธิบายให้เราคิดแบบเทียบเคียงนะคะ เพราะถ้าพาดพิงถึงบทนั้นจะไม่ดีแน่)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มิถุนายน 2013
  8. MirageCity

    MirageCity เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2008
    โพสต์:
    297
    ค่าพลัง:
    +274
    ผมก็เป็นครับ

    สงสัยสวดนานเกิ๊นครับ เลยเข้าวัยทองแบบไม่ทันตั้งหลัก
     
  9. พงพัน

    พงพัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +478
    แปลกมากครับ เพราะผมก็สวดมาพอสมควรกลับเห็นเป็นตรงข้ามนะ เพราะการสวดให้ถูกต้องในบทที่ยังไม่เคยในตอนแรกๆของผมนั้น ต้องค่อยๆคืบไปแทบจะทีละคำสองคำจึงจะถูกกว่าจะจบใช้เวลานานผิดกับระยะหลังๆที่ว่าได้คล่องแล้ว ผมว่าตัวเองนิ่งขึ้นนะอย่างน้อยๆเวลามีปากมีเสียงกับแฟนก็นิ่งเสียดีกว่าแม้ว่าเราจะถูกและในอีกหลายๆสถานการ์ณ ผมว่ามีแต่จะทำให้จิตนิ่งขึ้นนะจากความยาวของบทสวด ความถูกต้องของอักขระแต่ละคำและเวลาที่ต้องนั่งสวดให้จบซึ่งก็ถือว่านานพอสมควร แต่เวลาผมสวดจะสวดให้เสียงดังที่สุดเท่าที่จะทำได้(แต่ไม่ใช่ตอนที่คนอื่นๆหลับอยู่คือถ้าเป็นเวลาที่แฟนหลับอยู่ก็สวดดังพอได้ยิน)เพื่อกลบเสียงรอบๆข้าง ส่วนตัวคิดว่าสวดให้ช้าๆชัดๆเน้นความถูกต้องจะไปมีผลต่อพฤติกรรมของตนเองด้วย อันนี้มาจากส่วนตัวที่เป็นนะครับก็เลยมาแชร์ให้ฟังกัน
     
  10. พีรพรรณ(ตั้ม)

    พีรพรรณ(ตั้ม) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +172
    อาการนี้ ผมก็เป็นครับขี้โมโห ส่วนตัวคิดว่าปกติเราใจร้อนอยู่แล้ว แต่เราต้องการสวดมนต์ เพื่อให้ใจเย็นขึ้น แต่กลับกลายเป็นว่า เรากดใจมันไว้ครับ ว่าเราอยากสงบนะ ใจเย็นนะ มันไม่ใช้เลย กลายเป็นจิตใต้สำนึกเรายี่งโมโหร้ายขึ้น เพราะเราไม่เอาสติไปรองรับมัน เมือเราอยูภาวะปกติ เราก็เลยกลายเป็นคนขี้โมโหไปเลย
     
  11. ballpiano

    ballpiano Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +40
    กิเลสในจิตใจมันรวมตัวต่อต้านครับมันรู้ว่าเราเริ่มจะรู้วิธีปราบมันแล้ว เหมือนตำรวจกับผู้ร้ายพอรู้ว่าตำรวจจะเข้ามาปราบโจรมันก็ต่อต้านขัดขืนสู้ มันก็จะดึงเอากิเลสที่แท้จริงออกมาเพื่อสู้กับพระธรรมที่เราจะเอามาฆ่ามัน กิเลสมันสู้นั้นเอง ดังนั้นเห็นอย่างนี้ก็ง่ายแล้ว ผู้ร้ายออกมาสู้กับเราซึ่งฯหน้า ที่นี้พอโกรธโมโหรู้ทันหมดรักโลภ รู้ทันหมด ตัดมันลงมันเกิดขึ้นก็ตัดมันลง ทำไปเรื่อยฯที่สุดแล้วมันจะดีขึ้นเบาขึ้น วางได้ง่ายขึ้นครับ
     
  12. tassumalee

    tassumalee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    1,579
    ค่าพลัง:
    +8,825



    เป็นและคิดเหมือนดิฉันเลยค่ะ.....
     
  13. พระศุภกิจ ปภัสสโร

    พระศุภกิจ ปภัสสโร เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    2,015
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +11,166
    ก็พยายามรู้เท่าทันอารมณ์..ก็ตั้งสติได้เห็นความโกรธ ว่ามันเกิดแล้วเดี๋ยวพอเราสนองมันหรือเรารู้ทันมันก้ดับไปแค่นั้น ไม่คงทนอยู่ในใจใครได้นาน
    การมุ่งภาวนา หาความสงบ พอเจอะอารมณ์มากระทบก็เวลากำลังสติเราอ่อนการระงับยับยั้งสะกดใจตัวเองก็ลดลง ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ค่อย ๆปรับ แก้กันไป เพราะทางจิตวิทยา เรากำลังเติมเต็ม ส่วนที่พร่องคือความสุขสงบแต่ยังไม่พบก็ผิดหวังยังไม่สมหวังก็หงุดหงิด ขวางหูขวางตา เหมือนเรื่องกล่องข้าวน้อยฆ่าแม่ โมโหจนพลาดจากคุณความดีต้องมาสร้างเจดีย์หลังจากพลาดฆ่าแม่เพราะโมโหหิว

    พระทางเหนือ..มีคำพูดหนึ่งพูดเตือนพระกันมาว่า "กรรมฐานขี้โกรธ สันโดษขี้ขอ " เรายังดีที่ขี้โกรธ แสดงว่าปฎิบัติธรรม ดีกว่าขี้ขอดำริจะสร้างจะทำอะไรต่ออะไรไม่หยุดขอหรือหันมาภาวนาซักที..

    ขอเจริญพร
     
  14. tassumalee

    tassumalee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    1,579
    ค่าพลัง:
    +8,825




    กราบนมัสการค่ะพระคุณเจ้า..... ขอบพระคุณนะคะที่ท่านเข้ามาให้คำแนะนำ

    และชี้แจงไขข้อข้องใจ ถ้าเพื่อนๆสมาชิกเข้ามาได้อ่านก็จะเข้าใจประเด็นนี้



    , โดยส่วนตัวแล้วโยมยังปฏิบัติได้ไม่เต็มที่ ยังไม่มุ่งมั่นเพียงพอ ( ทำๆหยุดๆ )


    ทำโดยหวังผล พอบุญไม่ส่งผลก็เริ่มเบื่อหน่ายในการปฏิบัติต่อ และพาลไม่อยากทำ


    มาในวันนี้พอเข้าใจแล้ว และเริ่มตั้งต้นปฏิบัติใหม่ ( อย่างค่อยเป็นค่อยไปและสม่ำเสมอ )





    ขอกราบอนุโมทนาในคำตอบของพระคุณจ้า ด้วยนะเจ้าค่ะ
     
  15. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731

    ฮ่าๆๆๆ ... พอๆกันเลยค่ะ เพิ่งจะมารู้ตัวไม่นานนี้ แบบว่า ความรู้สึกช้าไปหน่อย (คงไม่หน่อยล่ะ เล่นซะสิบกว่าปี กว่าจะรู้ T-T )
     
  16. นายพีจัง

    นายพีจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +143
    (คัดลอกมาจาก ลานธรรมจักร.net)
    ลองพิจารณาดูนะครับ
    สวดมนต์ให้เย็น
    โดย หลวงพ่อพุธ ฐานิโย


    บทสวดมนต์ที่เราจะยึดเป็นหลัก วิธีปฏิบัติ ถ้าเรามีดอกไม้ ธูป เทียนบูชาพระพุทธรูป ก็ให้กล่าวคำว่า

    อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง ปูเชมิ
    อิมินา สักกาเรนะ ธัมมัง ปูเชมิ
    อิมินา สักกาเรนะ สังฆัง ปูเชมิ

    อันนี้เป็นคำบูชาพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เพื่อโน้มน้าวจิตของเราให้มีความเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ อันดับต่อไปก็

    อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ (กราบทีหนึ่ง)
    สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบทีหนึ่ง)
    สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ (กราบทีหนึ่ง)

    ทีนี้ก็มาสำรวมจิตให้แน่วแน่ต่อคุณพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ กล่าวนะโม ๓ จบ

    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

    ต่อไปสำรวมจิต สวดบทอิติปิโส

    อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ (กราบทีหนึ่ง)

    แล้วสวดบทสวากขาโตต่อไป

    สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ (กราบทีหนึ่ง)

    สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ (กราบทีหนึ่ง)

    ทีนี้อันดับต่อไปก็ตั้งใจเจริญพรหมวิหาร

    อะหัง สุขิโต โหมิ
    นิททุกโข โหมิ
    อะเวโร โหมิ
    อัพยาปัชโฌ โหมิ
    อะนีโฆ โหมิ
    สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ

    อันนี้บทเมตตาตน ต่อไปก็แผ่เมตตาสัตว์

    สัพเพ สัตตา สุขิตา โหนตุ
    สัพเพ สัตตา อะเวรา โหนตุ
    สัพเพ สัตตา อัพยาปัชฌา โหนตุ
    สัพเพ สัตตา อะนีฆา โหนตุ
    สัพเพ สัตตา สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุ

    นี่บทแผ่เมตตา ทีนี้ก็สวดบทกรุณาต่อไป

    สัพเพ สัตตา สัพพะทุกขา ปะมุจจันตุ
    สัพเพ สัตตา ลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ

    อันนี้ เป็นบทมุทิตา ทีนี้สวดบทอุเบกขาต่อไป

    สัพเพ สัตตา กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปะฏิสสะระณา ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัลยาณัง วา ปาปะกังวา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ.

    อันนี้เป็นยอดแห่งบทสวดมนต์ ให้ทุกคนพยายามท่องจำให้ได้ แล้วพยายามสวดทุกวันๆ ทั้งเวลาเช้าเวลาเย็น ถ้ามายึดบทสวดตามที่กล่าวนี้อย่างมั่นคงแล้วก็ตั้งใจสวดอย่างต่อเนื่องกันทุกวันๆ ไม่ต้องไปสวดคาถาบทอื่นก็ได้ ให้สวดเฉพาะเท่าที่กล่าวมานี้ ทำจิตให้มั่นคงต่อบทสวดนี้อย่างแน่วแน่ ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก คาถาชินบัญชร หรือคาถาอื่นๆ นี้ ไม่จำเป็นต้องสวดก็ได้

    มีนายคนหนึ่งมาหาหลวงพ่อเมื่อ ๒-๓ วันมานี่ เขามาปรึกษาว่า "ทำไมผมยิ่งสวดมนต์ ขยันสวดมนต์ สวดคาถาชินบัญชรวันละ ๙ จบ ๑๐ จบ บทอื่นก็หลายจบ หนังสือยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกนี่ผมจำได้และสวดได้หมดทุกตัว ผมนั่งสวดมนต์อยู่เป็นชั่วโมงสองชั่วโมง ยิ่งสวดมนต์ไปเท่าไรแทนที่ว่าจิตมันจะเย็นลง มันกลับทำให้ร้อน นอกจากมันจะทำให้ร้อนแล้ว ผมกับภรรยาของผมต่างคนต่างสวดเก่งเหมือนกัน แต่พอออกจากห้องพระมาแล้วหาเรื่องทะเลาะกันทุกที ทำไมมันจึงเป็นอย่างนั้นหลวงพ่อ"

    หลวงพ่อก็บอกว่า "บทสวดมนต์ตามที่คุณสวด มันมีแนวโน้มไปในทางไสยศาสตร์ ไสยศาสตร์นี่ ถ้าเกิดสวดมากๆ เข้า มันเกิดมีอาถรรพณ์ มันเป็นพลังมนต์ครอบคลุมจิต มนต์ไสยศาสตร์ทำให้เกิดพลังร้อน เมื่อเกิดพลังร้อนแล้วมันก็อยากจะลองของ ในเมื่อหาใครที่จะมาเป็นคู่ปะทะหรือทะเลาะไม่ได้ก็ทะเลาะกันเอง คนบางคนสวดมนต์ทางไสยศาสตร์ ยิ่งสวดมากเท่าไรจิตใจก็ยิ่งโหดเหี้ยม นั่งสมาธิภาวนาสวดมนต์เวลาค่ำคืน ๕ ทุ่ม ๖ ทุ่ม พอออกจากที่สวดมนต์ ที่นั่งสมาธิมาแล้วมาทุบตีเมียของตัวเอง

    อันนี้มันเป็นเพราะพลังมนต์ไสยศาสตร์บันดาลให้เป็นไปเช่นนั้น มนต์อันใดที่มีแนวโน้มไปในทางไสยศาสตร์ มนต์อันนั้นทำให้จิตร้อน เพราะมันมีพลังร้อน แต่พลังของพระพุทธคุณธรรมคุณ สังฆคุณ พลังพรหมวิหาร มันทำให้เกิดพลังเย็น เป็นไปเพื่อผูกมิตรไมตรีกับสิ่งทั้งปวง ไม่เดือดร้อนวุ่นวาย ไม่พาลหาเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกัน" เพราะฉะนั้น ให้นักเรียนทุกคนจำเอาไว้ บทสวดมนต์ที่วิเศษที่สุดก็คือ พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ แล้วก็แผ่เมตตา ทีนี้เมื่อแผ่เมตตาเสร็จแล้ว จะนั่งสมาธิภาวนาก็นั่งต่อไป

    เมื่อเลิกจากนั่งสมาธิแล้ว ก่อนจะลุกจากที่นั่งสมาธิ ให้น้อมจิตน้อมใจอธิษฐานถึงบุญบารมีที่เราได้ปฏิบัติมา แล้วก็อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้บิดามารดา ปู่ย่า ตายาย ตลอดทั้งสัตว์ทั้งหลายผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ตลอดทั้งเจ้ากรรมนายเวร ขอให้มารับส่วนบุญที่เกิดจากการปฏิบัติของข้าพเจ้านี้



    .............................................................

    คัดลอกมาจาก
    http://www.geocities.com/thaniyo อีกที่
     
  17. Philosopher

    Philosopher สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2011
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +12
    อนุโมทนาบุญครับ
    ขอออกความเห็นครับ
    จริงๆอาการโกรธก็มีปกติอยู่แล้วครับ
    พอสวดมนต์ ทำให้มีสมาธิดี ทำให้รู้สึกถึงอาการโกรธได้ชัดเจนมากขึ้น
    สรุปคือสมาธิเราดีขึ้นครับ และควรกำหนดรู้อารมณ์โกรธบ่อยๆครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...