สวยด้วยอาหาร เคล็ดลับจาก อ.ยิ่งศักดิ์

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย phuang, 19 เมษายน 2005.

  1. phuang

    phuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,033
    ค่าพลัง:
    +10,040
    สวยด้วยอาหาร เคล็ดลับจาก อ.ยิ่งศักดิ์

    [​IMG] การกินอาหารเปรียบไปก็เหมือนกับดาบสองคม กินมากก็โทษมาก กินน้อยก็ใช่ว่าจะดี แต่จะกินอย่างไรให้มีสุขภาพดี คงเป็นเรื่องที่ตอบได้ยาก แต่จากการสัมมนา "สวยด้วยอาหาร" วิทยากรชื่อดังอย่าง อาจารย์ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงษ์ กรรมการผู้จัดการ สถาบันศิลปศาสตร์การอาหาร และผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารมาให้สาระปนความสนุกสนาน เราเลยได้สูตรเด็ดเคล็ดลับในการสร้างสรรค์เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ มาฝากกันค่ะ



    เมนูที่หลากหลาย

    <DD>การกินอาหารให้ได้สุขภาพดีไม่ควรกินอาหารซ้ำซาก อาหารทุกวันนี้ไว้ใจมากไม่ได้ ของกินบางอย่างใส่สารอะไรลงไปบ้างไม่มีใครรู้ ฉะนั้นอาหารที่กินควรเปลี่ยนทุกวัน ไม่ใช่ว่าคนในบ้านชอบกินอย่างนี้ ก็ตั้งหน้าตั้งตาทำแต่เมนูเดิมๆ ทุกมื้อ เพราะถ้าเกิดอาหารที่เรากินมีสารปนเปื้อน สารพิษก็จะเข้าสู่ร่างกายตลอดเวลา ลองเปลี่ยนหน้าตาอาหารของตัวเองบ้าง วันนี้กินหมู พรุ่งนี้กินไก่ อีกวันกินปลา วันนี้ผักคะน้า พรุ่งนี้ผักกะเฉด อีกวันผักกระถิน วันนี้แกงจืดเห็นหูหนูขาวใส่กับหมูสับ พรุ่งนี้หมูสับยังคงไว้ก็ได้ แต่อาจจะเพิ่มกุ้งแห้ง 8-10 ตัวในหมูสับ น้ำแกงจะหวานขึ้น วันรุ่งขึ้นจากน้ำแกงตัวเดิม อาจจะเปลี่ยนผักเป็นอย่างอื่นก็ได้ การรับประทานอาหารที่ไม่ซ้ำซาก จะทำให้ค้นพบของกินที่หลากหลายรส และสารอาหารที่หลายหลาก

    เปลี่ยนนิสัยหันมากินผัก

    <DD>ตอนนี้มีการส่งเสริมและสนับสนุนกันมาก ให้เราเปลี่ยนแหล่งโปรตีนจากสัตว์มาเป็นพืช เพราะเมื่อตรวจสอบร่างกายมนุษย์จริงๆ คำตอบที่เราได้รับก็คือมนุษย์ไม่ใช่เผ่าพันธุ์ที่กินสัตว์ แต่เราเป็นมนุษย์ที่กินพืช โดยดูจากระดับของลำไส้และการขดไปมา เพราะฉะนั้นอะไรที่มันไม่เหมาะกับร่างกาย เมื่อเข้าไปภายในมันก็ย้อนกลับมาทำร้ายชีวิตของเรา อาจพูดได้ว่ามนุษย์กำลังจะตายจากการกินอาหาร ที่ผิดประเภท เชื่อกันว่านักมังสวิรัติหรือคนกินเจจะมีอายุที่ยั่งยืนกว่า

    <DD>อย่างไรก็ลองเปลี่ยนนิสัยการกินของตัวเองใหม่ กินอาหารหนักไปทางผักมากกว่าเนื้อสัตว์ อยากได้โปรตีนก็เปลี่ยนโปรตีนจากสัตว์มาเป็นโปรตีนจากพืช นั่นคือถั่วเหลือง เต้าหู้ ฟองเต้าหู้ เต้าเจี้ยว น้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลือง ฯลฯ มีคนกล่าวว่าผู้หญิงญี่ปุ่นที่รับประทานอาหารประเภทถั่วเหลืองจะไม่มีปัญหาเจ็บป่วยใดๆ อันเนื่องจากการมีประจำเดือน แต่จะมีผิวพรรณที่สะสวยเข้ามาแทนที่

    ระวังเรื่องอาหารเค็ม

    <DD>อาหารเค็มมีอยู่ 2 ประเภท คือ เค็มโจ่งแจ้ง กับเค็มแอบแฝง อาหารเค็มโจ่งแจ้งได้แก่ เนื้อเค็ม ปลาเค็ม ปลาช่อนเผาเกลือ ของดองที่เราเห็นเกลือเป็นส่วนผสมเสียส่วนใหญ่ ส่วนอาหารเค็มแอบแฝงคืออาหารที่มีเกลือเป็นส่วนประกอบโดยที่เราไม่ทันได้สังเกต เช่นไส้กรอก อาหารกระป๋อง โดยเฉพาะซอสมะเขือเทศ ซึ่งมีเกลือแอบซ่อนอยู่เยอะมาก และทำให้คนเป็นโรคไตหรือโรคความดันมานักต่อนัก ที่สำคัญพวกเกลือแอบแฝงนี้ทำให้เด็กมีอาการไตวายเฉียบพลันมาแล้ว ทางที่ดีก่อนจะซื้อหาอาหารอะไรควรเหลือบมองดูฉลากบ้างก็ดีนะ

    บ๋ายบายอาหารไหม้

    <DD>หลีกเลี่ยงอาหารไหม้ที่ปิ้ง ย่างจนเกรียม เมื่อก่อนคนโบราณจะย่างมะเขือยาวกับฟืน เมื่อไหม้เกรียมเขาก็จะเอาแช่น้ำ แล้วก็ลอกเอาเยื่อออก เหลือมะเขือยาวเผารับประทานกับน้ำพริก แต่ปัจจุบันไม่มีเตาถ่านให้ย่าง ถึงจะมีก็เป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับแม่บ้านยุคใหม่ บางบ้านจึงแก้ปัญหาด้วยวิธีห่อกระดาษฟอยล์ย่างกับเตาแก๊ส บางคนไม่ห่อกระดาษฟอยล์อาศัยย่างกับเตาแก๊สไปเลย ซึ่งเป็นวิธีที่น่ากลัวมาก

    <DD>คนที่ชอบทานเนื้อย่าง หมูย่าง ไก่ย่าง จะย่างกับเตาถ่านหรือเตาแก๊สก็ตาม รู้ไว้เลยว่าอันตรายมาเยือนถึงที่แล้ว เพราะเมื่อโปรตีนจากเนื้อสัตว์สัมผัสกับเปลวไฟ พอไหม้เกรียมไขมันก็จะเปลี่ยนรูปกลายเป็นถ่าน เมื่อมันเข้าสู่ร่างกาย มันจะไม่ย่อยแต่จะไปสะสมอยู่ในร่างกายกลายเป็นบ่อเกิดของโรคร้ายอย่างมะเร็ง ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ลองวิธีย่างแบบใหม่ดู เอาเนื้อวางบนกระทะที่เป็นพวก non-stick แล้วปล่อยให้สุกด้วยไฟอ่อนๆ อาจไม่ทันใจนัก แต่ก็ปลอดภัยกว่าหลายเท่า

    มองหาเมนูใหม่ๆ

    <DD>ปลาร้าดิบ อาหารรสเลิศของใครหลายๆ คน นอกจากจะไม่ถูกหลักอนามัยแล้ว ผู้ผลิตบางเจ้ายังใส่ผงชูรสเพิ่มเข้าไปอีก เรียกว่าอันตรายถึงสองต่อ แต่ใครจะกินก็ได้ไม่ห้าม ขอเพียงให้ปรุงจนสุกเสียก่อน อาหารอีกอย่างที่ควรเลี่ยงคือปูเค็ม ซึ่งมีพยาธิเยอะมาก บ่อยครั้งที่เราฉีกปูเค็มใส่ลงไปในส้มตำ ถ้าอยากกินจริงๆ ขอแนะนำให้ทำปูเค็มให้สุกด้วยการต้มหรือนึ่ง แล้วค่อยเอามาใส่ในอาหาร หรือไม่ก็แกะปูเค็มล้างน้ำให้สะอาด ใส่น้ำมันลงกระทะ เอาปูเค็มที่สะเด็ดน้ำแล้วลงกระทะ ปูเค็มจะเปลี่ยนเป็นสีส้ม ผัดให้นานๆ หน่อย ใส่น้ำมันเยอะๆ ปูเค็มจะหอมจรุงใจ สับกระเทียมใส่ พริกขี้หนูนิดหนึ่ง ข้าวสวยที่ข้ามคืนไว้ในตู้เย็นสัก 1 ชาม ตะไคร้ซอย มะกรูดซอย หอมแดงซอย ต่อยไข่ใส่ 1ฟองละเลงให้ทั่ว ตักใส่จาน บีบมะนาว พอจะกินก็ซอยมะม่วงดิบใส่นิดหน่อย ก็จะได้ข้าวผัดปูเค็มที่หอมอร่อยๆ ดูดีกว่ากินข้าวผัดอย่างอื่นหลายเท่า

    <DD>ลองหัดคิดพลิกแพลงเอาสิ่งเหล่านี้กลับเข้ามาในอีกรูปแบบ แล้วลบความเสี่ยง ความเชยทิ้งไป เราก็จะได้เมนูอาหารใหม่ๆ ที่ดีต่อสุขภาพกลับคืนมา

    คืนสู่ธรรมชาติ

    <DD>อาหารที่อยากแนะนำให้ไปลองทำกินกันเองในครอบครัวก็คือ ไก่บ้านต้มน้ำปลา สิ่งที่ต้องเตรียมคือไก่บ้านที่เห็นวิ่งหากินอยู่ตามท้องนา กล้ามเนื้อจึงแน่นแข็งแรงแบบไม่ต้องพึ่งสารเคมี ขมิ้นเหลือง 2-3 แว่น นอกจากจะช่วยดับกลิ่นคาวของไก่แล้ว มันยังมีเบต้าแคโรทีน (Beta-Carotene) ต่อต้านการเกิดมะเร็งอีกด้วย น้ำตาลปีบที่ทำจากมะพร้าวล้วนๆ ไม่ผ่านการฟอกสี ไม่มีสารเคมีใดๆ ปึกหนึ่ง แล้วน้ำปลาที่เกิดจากการใช้ปลากะตักกับเกลือหมักเป็นระยะเวลานาน ไม่ใส่สี ไม่แต่งกลิ่น ไม่ใส่ผงชูรส 1 ขวด ใส่ทุกอย่างลงไปในหม้อต้มไฟรุมๆ จะเห็นว่าส่วนผสมทุกอย่างมาจากแหล่งธรรมชาติล้วนๆ ไม่มีสิ่งแปลกปลอมเจือปน

    <DD>ปรับเปลี่ยนนิสัยการรับประทานอาหารของตัวเองบ้าง อย่าเปิดกระป๋องเยอะ อย่าไมโครเวฟบ่อย อย่าอุ่นอาหารเก่าข้ามปี อย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 วัน เปิดโอกาสให้ตัวเองกลับสู่อาหารธรรมชาติบ้าง แล้วจะรู้ว่าอาหารทิพย์มีจริง </DD><HR class=hLine1 align=center width="90%" noShade SIZE=1>
     

แชร์หน้านี้

Loading...