สอบถามเรื่อง คาถาอภิญญา (ช่วยตอบด้วยครับ)

คำภาวนา โสตัตตะภิญญา ถ้าภาวนาครบ3เดือนจึงจะได้อภิญญา หรือจิตต้องถึงฌาน4จึงจะได้ ถ้าหากจะภาวนาโสตัตตะภิญญา ต้องต้องนโมฯ3จบ พุทธัง ธัม สังฆัง แล้ว สวดพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ เหมือนคำภาวนาสัมปจิตฉามิ ไหมครับ
แต่ถ้าภาวนาจิตไม่ระงับนิวร5 เพราะเ้หนื่อยแต่้ภาวนาทุกวัน จะได้อภิญญาไหมครับ

 

คาถารวมอภิญญา

โสตัตตะภิญญา
​

ที่มาของพระคาถานี้ พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯท่านเล่าว่า ได้พบองค์สมเด็จพระจอมไตรที่พระจุฬามุนีเจดีย์สถาน องค์สมเด็จพระพิชิตมารตรัสว่า
สัมพเกสี..สำหรับอภิญญาที่เธอได้ เวลาที่เธอจะใช้ก็ต้องจับกสิณนั้นกสิณนี้ ใช้จิตอย่างนี้ช้าไปหน่อย ความจริงเขาใช้อภิญญากันจริงๆ เขาใช้จับอภิญญารวม คำว่า "อภิญญารวม" นี่นึกถึงอภิญญาสมาบัติ คือนึกถึงอารมณ์กสิณทั้งหมดว่าเราต้องการอะไร แล้วก็ใช้บทภาวนา ภาวนาย่อๆ ว่า "โสตัตตะภิญญา" ให้ทำเพียงเท่านี้
เวลาภาวนาให้กำหนดลมหายใจเข้าออก แล้วก็ทิ้งนิมิตเสีย ไม่ต้องไปใช้นิมิตในกสิณ ใช้ "โสตัตตะภิญญา" อย่างเดียว คือกำหนดลมหายใจเข้าออกให้ถึงที่สุดเป็นฌานสี่เท่านี้ อภิญญาทุกอย่างก็จะรวมตัว เราจะใช้ได้ทันทีทันใดโดยไม่ต้องเลือกกสิณอะไรทั้งหมด ก็มาทำๆ แล้วก็สบายใจ อภิญญาทุกอย่างมันก็รวมตัว เวลาจะใช้อภิญญาก็ใช้ โสตัตตะภิญญา เป็นคำภาวนาเท่านี้ ทุกคนก็สามารถจะทำได้

ที่มา: เว็ปไซต์วัดท่าซุง http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=814


พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ (หนึ่งในพระลูกศิษย์ของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ) เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน ในปัจจุบันก็ได้เคยกล่าวในการถามตอบกับญาติโยมเกี่ยวกับพระคาถานี้ไว้ดังนี้

ถาม : คาถาอภิญญา ก็คือ สัมปะจิตฉามิ กับ โสตัตตะภิญญา ภาวนาสองคาถานี้ อยากจะทราบว่า..
ตอบ : ใช้ได้เหมือนกันทั้งคู่ เพียงแต่จากที่ทดสอบมา โสตัตตะภิญญาแรงกว่าเยอะ โสตัตตะภิญญาจะออกไปในแนวโลดโผนเหมือนอภิญญาแท้เลย สัมปะจิตฉามิ รู้สึกว่าออกมานิ่มนวลไปหน่อย
ถาม : แล้วคนฝึกใหม่อย่างผม ควรจะภาวนา...
ตอบ : ภาวนาไปเถอะ บทไหนก็ได้ไม่มีใครว่า แต่ควรทำให้สม่ำเสมอ อย่างเช่นว่า เอาให้ได้วันละชั่วโมง ว่าไปเรื่อย ๆ แต่มีเคล็ดลับว่า ถ้าภาวนาไปแล้ว เห็นมีแสงสว่างขึ้น จะเป็นจุด เป็นเส้น เป็นขีด เป็นแผ่นเป็นผืน อย่างไรก็แล้วแต่ พยายามดึงมารวมเข้าไว้ในอก ถ้าหากแสงสว่างรวมเป็นดวงใหญ่ไว้ในอกได้ ตัวเราจะลอยขึ้นเอง ตอนนั้นบางทีเราไม่รู้หรอกว่าลอยขึ้นมาแล้ว พอลอยขึ้นมาแล้ว เราก็นึกบังคับให้ลอยช้า ๆ ก่อน บังคับอยู่ในห้องของเรานั่นแหละ อย่าเผลอเปิดหน้าต่าง เดี๋ยวไปไกล พอลอยจนคล่องแล้ว ทีนี้ก็ลองไปไกล ๆ ดู แต่ไม่ต้องกลัว ถ้านึกกลับเมื่อไรก็กลับที่เดิมได้ ไปลองซ้อมดู

พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงเย็น ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันเสาร์ที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓

ที่มา: http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=1617

http://www.baansuanpyramid.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539165024&Ntype=9

 

มโนมยิทธิสามารถฝึกเองได้ที่บ้านใช่ไหมครับ

 

ฝึกเองที่บ้านได้ แต่ไม่แนะนำครับ
ควรไปฝึกที่วัดท่าซุง ศูนย์พุทธศรัทธา บ้านสายลม หรือที่อื่น ๆ โดยมีอาจาร์ยคอยแนะนำการฝึกจะดีที่สุด แล้วค่อยกลับมาทำเองเพื่อต่อยอดที่บ้านครับ.

 

บอกเวลาไม่ได้หรอก 3 เดือน อาจจะได้ หรือ 30 ปี อาจจะไม่ได้

ปล. นั่งท่องคาถาเฉยๆถ้าได้ภายใน 3 เดือนตอนนี้ก็เหาะกันว่อนแล้วมั้ง

ปล.2 อิทธิบาท 4 มีครบไหม บารมี 10 มีครบไหม จรณะ 15 มีครบไหม ถ้ามีไม่ครบท่องไปเหอะ

ปล.3 อ้างว่าเหนื่อย คงจบกัน

 

พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ (หนึ่งในพระลูกศิษย์ของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ) เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน ในปัจจุบันก็ได้เคยกล่าวในการถามตอบกับญาติโยมเกี่ยวกับพระคาถานี้ไว้ดังนี้

ถาม : คาถาอภิญญา ก็คือ สัมปะจิตฉามิ กับ โสตัตตะภิญญา ภาวนาสองคาถานี้ อยากจะทราบว่า..
ตอบ : ใช้ได้เหมือนกันทั้งคู่ เพียงแต่จากที่ทดสอบมา โสตัตตะภิญญาแรงกว่าเยอะ โสตัตตะภิญญาจะออกไปในแนวโลดโผนเหมือนอภิญญาแท้เลย สัมปะจิตฉามิ รู้สึกว่าออกมานิ่มนวลไปหน่อย
ถาม : แล้วคนฝึกใหม่อย่างผม ควรจะภาวนา...
ตอบ : ภาวนาไปเถอะ บทไหนก็ได้ไม่มีใครว่า แต่ควรทำให้สม่ำเสมอ อย่างเช่นว่า เอาให้ได้วันละชั่วโมง ว่าไปเรื่อย ๆ แต่มีเคล็ดลับว่า ถ้าภาวนาไปแล้ว เห็นมีแสงสว่างขึ้น จะเป็นจุด เป็นเส้น เป็นขีด เป็นแผ่นเป็นผืน อย่างไรก็แล้วแต่ พยายามดึงมารวมเข้าไว้ในอก ถ้าหากแสงสว่างรวมเป็นดวงใหญ่ไว้ในอกได้ ตัวเราจะลอยขึ้นเอง ตอนนั้นบางทีเราไม่รู้หรอกว่าลอยขึ้นมาแล้ว พอลอยขึ้นมาแล้ว เราก็นึกบังคับให้ลอยช้า ๆ ก่อน บังคับอยู่ในห้องของเรานั่นแหละ อย่าเผลอเปิดหน้าต่าง เดี๋ยวไปไกล พอลอยจนคล่องแล้ว ทีนี้ก็ลองไปไกล ๆ ดู แต่ไม่ต้องกลัว ถ้านึกกลับเมื่อไรก็กลับที่เดิมได้ ไปลองซ้อมดู


สาธุ สาธุ สาธุ อานุโมทามิ
__________________
ผมเอาแน่ ขอบคุณมากๆเลย

 

บ่ะแล้วๆ สุดยอดครับ

 

จริงๆสายพระอาจารย์มั่น ไม่สอนเรื่องเหล่านี้นะครับ แต่ก็รู้มาบ้างว่า การใช้พระคาถาที่สูงขนาดนี้ มันเป็นการเปิดมโนวิญญานของตนเอง เมื่อถูกเปิดออกมาแล้วนั้น สิ่งที่ไม่ดีก็เข้ามาได้เหมือนกันนะครับ อาจจะทำให้ตกในภาวะภวังค์ที่ไม่ปราถนาก็ได้ เช่น เป็นคนเพี้ยน สติไม่สมประกอบ ไปก็มีครับ เวลาเรียนรู้อะไรต้องพยายามมองสองด้านเอาไว้บ้างด้วยนะครับ อย่ามองแต่ด้านดีเพียงด้านเดียวครับ (เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวครับ)

 

โสตัตตะภิญญา

ขอบคุณมากครับ




โสตัตตะภิญญา

แรงจริง

เทียบได้กับ 3g Plus

ความแรงที่ 42 เม็ก

ชอบมากมาย

<!-- google_ad_section_end -->

 

โสตัตตะภิญญา

กราบโมทนาเป็นอย่างยิ่งๆครับ สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

เอา เอาแน่ โสตัตตะภิญญา โสตัตตะภิญญา

 

อนุโมทนา สาธุกับความรู้ดีๆ นี้ครับ..

 

ฝึกเองไม่แนะนำอย่างยิ่งครับ...เพราะมโนมยิทธิ ไม่เหมือนกรรมฐานด้านสุขวิปัสโก.....ขนาดสุขวิปัสโก...บางครั้งยังต้องฝึกกับอาจารย์เลยครับ....

แนะนำให้ไปฝึกกับครูฝึกก่อนครับ...เพื่อจะได้วางอารมณ์ถูก.....ครูฝึกแนะนำชุดของวัดท่าซุงนะครับ....

 

เข้ามาฮาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

หนูชอบเข้ามาอ่านที่คุณพี่ภานุเดช (ถ้าพิมพ์ไม่ถูกขออภัย)ตอบมากคะ
แต่ละท่านก็ตอบดีๆ อนุโมทนา สาธุกับความรู้ดีๆ คะ

 

ถ้าถึงโหมดที่คำภาวนาเป็นผล..คำภาวนาคำนี้...ผลที่แตกต่างกับคำอื่นๆคือ มุมมองกว้างกว่า รายละเอียดชัดเจนในทุกๆรายละเอียดและทุกทิศทางที่เรามอง รวมถึงเรื่องปลีกย่อยต่างๆก็ชัดเจน..เสมือนว่าเราไปยืนดูอยู่ตรงจุดนั้นแบบคนสายตาดี..ประมาณนี้
อนุโมทนาสาธุครับ..