สัมมาทิฎฐิเป็นไฉน( ไม่ธรรมดา )

ท่านนิวรณ์เหน็บแหนมเก่งจัง...

 

กระจกรุ่นพิเศษสั่งทำเป็นการเฉพาะ สามารถสะท้อนภาพได้มากกว่าปกติ เรียกว่า กระจกรุ่น AI มีชื่อภาษาไทยว่า กระจกปัญญาประดิษฐ์

 

ถามว่าอะไรหรือ ไม่เห็นมีคำถาม มีแต่คำกล่าวที่ผิด
เพราะว่า นั่นเป็นธรรมชาติของ อวิชชา ที่หลงไป
แต่วิชชาไม่หลง ก็ไม่ใช่ ธรรมชาติที่โหยหา ทีนี้ ก็ที่เราฝืนนี่ ก็ฝืนอำนาจโหยหา แล้วจะไปตามมันทำไมอีกหละ

 

การเหน็บแนม ที่เป็นธรรม คนหละอย่างกับ เหน็บแนมด้วยตัณหา อารมณ์

อย่ามาเรียกกระจกสะท้อนเลย แบบนี้ เขาเรียกว่า เลียนแบบ เพราะการเลียนแบบอย่างไรเสีย มันก็ต้องแยกออกระหว่างของแท้กับของเทียม

 

ผมขอรณรงค์ให้เพื่อนๆ ปรากฎตัว เพื่อความสง่าในการออกหมัด ไม่เช่นนั้นแหละจะเป็นเหมือนเหล่านินจา
ซึ่ง แอบซุ่มในที่มืดแล้วโจมตี อันไม่ใช่วิถีแห่งซามูไร

 

อาจารย์เทียมเท็จ
มีมากกว่าขอทาน
เดินตามท้องถนน

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 12 คน ( เป็นสมาชิก 10 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">

[ แนะนำเรื่องเด่น ] ​

</TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>วิมุตติ, ขันธ์, sriaraya5, ไม้ขัดหม้อข้าว...!, jinny95+, haha4959, Pelagia, no more </TD></TR></TBODY></TABLE>มีซามูไร 8
นินจา 2

 

อะไรของคุณ อย่าให้กิเลสมันเพ่นพ่านมาก ยกพระสูตรมาก็ไม่ดี ยกอะไรมาก็ไม่ดี เอาขี้ดีไหม
อย่าเป็นพวกเรื่องมาก กิเลสตัวเองมีเป็นกระบุง ไม่ดู มานั่งดูว่า เขายกพระสูตร ยกพระไตรปิฎกมาไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้

 

รูปธรรม นามธรรม จะบัญญัติอย่างไร ก็อยู่ในใจท่านเอง

 

นี่เลย พวกเซ็นมาก แต่เซ็นแล้วไม่ยอมจ่ายมากกว่า

 

จิตไม่มีใจไม่มีจะเอาอะไรขีดเขียนลงไปได้
พระท่านว่าจิตอันใดใจก็อันนั้น

 

คำพูดทุกตัวอักษร และรูปภาพที่สื่อออกมา ก็มาจากใจท่านเอง
จิตเป็นอย่างไร ใจเป็นอย่างนั้น
มีสะท้อนทั้ง อัตตา อารมณ์ กิเลสตัณหา นิวรณ์ ความกลัว

 

คุณขวัญ เวลาพูดอะไรอย่าเป็นแบบคนฝัน คนเพ้อ ต้องดูประเด็น และ พูดตามประเด็น
ไม่ใช่ นึกอะไรขึ้นมา แล้วรู้อยู่คนเดียว แล้วพูด มันไม่มีประโยชน์
ต้อง พูดตามอรรถตามธรรม

ก็ส่วนมากพวก นั่งรู้ดูเฉย หรือพวกเซ็นจะเป็นในลักษณะนี้ เพราะผมเคยเป็นมาก่อน และ ตอนนั้นผมยังมีอาการดีกว่าคุณตอนนี้เสียด้วยซ้ำ เพราะว่า ไม่ได้เหมือนคนฝัน แต่พูดเป็นปรมัต ไปหมด มันไม่ธรรมชาติเลย

 

โห ไม่แม่นเลย ลูกศิษย์ใครเนี่ย ไม่ได้มีความแม่นเลย นั่งเทียนเอา หรือไม่ก็เอาตัวเองนั่นมาพูด
ไม่เข้าท่าเลย

 

คนเรามันจะรู้สึกว่า โดนเหน็บแนม หากเรื่องที่ถูกยกเป็นประเด็นมันมีน้ำหนัก

คุณปรารภว่า เรื่องการเห็นนิมิต เป็นเรื่องเล่าเล่นๆ อย่าจริงๆจัง แต่พอคน
ยกมาเป็นประเด็น ตัวเองก็ละวางไม่ได้อย่างที่กล่าวว่า ยกมาเล่นๆ

อะไรที่เห็นจริง เห็นดี เห็นงาม ควรหรือไม่ควรที่จะพูดว่า เราพูดถึงเพื่อเอา
มาเล่นๆ เอาครูบาอาจารย์มาเล่น เล่นไม่พอ ก็ปรุงอุปทาน ทั้งๆที่ไม่รู้ชัด

เหมือนคนที่เหนี่ยวโน้ม เพราะต้องการโน้มน้าว

คนที่ต้องการโน้มน้าว ย่อมหมายถึงจับยึด เมื่อจับยึดก็ไม่ควรพูดว่าพูด
เล่นๆ พูดเพ้อเจ้อ คนที่เขาเล่นเจ้าเข้าทรงก็จะพลอยออกมาพูดว่า

เราก็เข้าไปถามองค์มาอย่างนี้ องค์สอนมาอย่างนี้ ใครต้องการแทงหวย
สนใจจะเอาไปแทง ก็เชิญไปเล่นอบายมุขก็ตามแต่ความพอใจ

 

พูดมาจากใจที่ ปกติ แล้ว ไม่ได้ฝันแล้วเอามาพูด
ขณะนี้ เห็นอย่างไร ก็พูดไปอย่างนั้น
ผลก็มี2อย่าง ถูก กับ ผิด

 

คุณ นิวรณ์ ตรรกะแบบนี้ เอากลับไปใช้กับคุณขวัญเถิดครับ เพราะคุณเหน็บแนมโต้งๆ มันไม่ได้มีน้ำหนักอะไร มันก็ต้องรู้
มันคนละเรื่องกับความรู้สึก ก็ไม่ยอมมาเรียนกับผม จึงแยกไม่ออกนี่เล่า ระหว่าง รู้ คือ วิญญาณ รู้สึกคือ เวทนา มันต่างกันนะ

 

อ้าว ก็ไม่รู้ว่าถูกหรือผิด มันก็มั่วนี่ ยังมีหน้ามาคุย

 

คุณขวัญ รับไปพิจารณานะ ไม่เสียหลาย