สาธยายพระไตรปิฎก ถวายสมเด็จพระเทพ ๙ วัน ๘ คืน ตลอด๒๔ชัวโมง

ในห้อง 'พระไตรปิฎก' ตั้งกระทู้โดย หนึ่ง99999, 12 กุมภาพันธ์ 2009.

  1. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
     
  2. หนึ่ง99999

    หนึ่ง99999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,369
    ค่าพลัง:
    +1,922
    ท่านได้กลับมาตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 26 แล้วครับ
    เพราะผมเข้าไปช่วยท่านมาครับ
    จะเข้าอีกที่ วันที่ 29 ไปจัดงาน
    ชอเชิญ ร่วมงานสาธยายพระไตรปิฎก
    และทางกลุ่มชาวพุทธเป็นหนึ่ง
    ไปจัดงาน จะนำพระพระเจดีย์ 12 ปีเกิดให้ได้กราบไหว้ครับ
    พระอรหันบางส่วนครับ
     
  3. หนึ่ง99999

    หนึ่ง99999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,369
    ค่าพลัง:
    +1,922

    ขอเรียนเชิญพุทธศาสนิกชน
    สาธยายพระไตรปิฎกถวายเป็นพุทธบูชา<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามกุมารีฯ< <o:p></o:p>
    วัดใหม่ยายแป้นและกรมการศาสนา<o:p></o:p>
    ณ วัดใหม่ยายแป้น สี่แยกบางขุนนนท์ ถนนบางขุนนนท์<o:p></o:p>
    เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร<o:p></o:p>
    ระหว่างพุธที่ ๑-๙ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๒<o:p></o:p>
    วันพุธที่ ๑ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๑
    เวลา ๐๘.๓๐น .พร้อมกันที่พระอุโบสถและทักษิณาวัตร
    เวลา ๐๙.๐๐ น. ประธานในพิธีจุดธูปเทียน
    จุดเทียนบูชาพระไตรปิฎกสาธยายพระไตรปิฎก
    ตลอด ๒๔ ชั่วโมง ๙ วัน ๘ คืน
    ·
    ชมพระไตรปิฎก พม่า,ศรีลังกา,ล้านนา,รัฐฉาน,เขมร,คัมภีร์โบราณและจีน
    วันพฤหัสที่ ๙ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๒
    เวลา ๑๙.๐๐ น. หยุดการสาธยายพระไตรปิฎก เจริญสมาธิและเจริญธรรมโพธิกถา
    รถเมล์สาย ๕๖,๕๗.๖๘,๗๙. ๑๕๗, ๑๗๕, ๔๐, ๕๔๒. ๘๐, ๕๐๙, ๒๘, ๑๗๑
    ที่มาจากปิ่นเกล้าลงที่สี่แยกบางขุนนนท์ เชิงสะพานลอย ที่มาจากสามแยกไฟฉายลงที่เลยห้างแมคโคเดิน
    ขึ้นมา (รถเมล์สาย ๕๗.๗๙ ผ่านหน้าวัด )
    ติดต่อสอบถามได้ที่ พระมหาณรงค์ศักดิ์ ฐิติญาโณ (ไม่รับเงินบริจาค) โทร. ๐๒-๔๓๕-๗๕๕๕, ๐๘๙๙๖๓-๔๕๐๕ โทรสาร. ๐๒๔๓๔๑๒๓๘ <o:p></o:p>
    อานิสงส์การสาธยายพระไตรปิฎก
    ในพรรษาที่ ๗ หลังจากที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้แสดงยมกปาฏิหาริย์เพื่อปราบพวกเดียรถีย์นิครนถ์ที่มาท้าทายแล้ว เสด็จขึ้นไปโปรดพระพุทธมารดาที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และจำพรรษาที่เทวโลกเป็นเวลา ๓ เดือน
    พระพุทธองค์ทรงแสดงพระอภิธรรม เพื่อโปรดพระพุทธมารดาและเหล่าเทวดาทั้งหลาย ทรงปรารภพระมารดาด้วยพระอภิธรรมปิฎกว่ากุสลา ธมฺมา อกุสลาธมฺมา อพฺยากตา ธมฺมา ดังนี้ เป็นต้น
    ในเวลาภิกขาจาร ทรงนิรมิตพระพุทธนิมิต ด้วยทรงอธิฐานว่าพระพุทธนิมิตนี้ จงแสดงธรรมชื่อเท่านี้ จนกว่าเราจะมา ทรงเคี้ยวไม้สีฟันชื่อ นาคลดา บ้วนพระโอษฐ์ที่สระอโนดาต นำบิณฑบาตมาแต่อุตรกุรุทวีป
    ได้ประทับนั่งทำภัตกิจในโรงกว้างใหญ่ พระสารีบุตรเถระไปทำวัตรแด่พระศาสดาในที่นั้น พระศาสดาทำภัตกิจแล้ว ตรัสแก่พระเถระว่าดูกร..สารีบุตร วันนี้จงเล่าภาษิตธรรมชื่อเท่านี้ แก่สัทธิวิหาริก(ภิกษุ ๕๐๐)ของเธอ”<
    ในครั้งนั้นกุลบุตร๕๐๐ เลื่อมใสยมกปาฏิหาริย์ บวชแล้วในสำนักของพระเถระ พระศาสดาตรัสอย่างนั้น ทรงหมายเอาภิกษุเหล่านั้น ครั้นตรัสแล้ว เสด็จไปสู่เทวโลก ทรงแสดงธรรมต่อจากที่พระพุทธนิมิตแสดง แม้พระเถระก็ไปแสดงธรรมแก่ภิกษุเหล่านั้น
    ได้ยินว่า ในกาลแห่งพระพุทธเจ้านามว่ากัสสป ภิกษุทั้ง ๕๐๐ เหล่านั้นเป็นค้างคาวหนู ห้อยอยู่ที่เงื้อมเขาแห่งหนึ่ง เมื่อพระเถระ ๒ รูป จงกรมแล้วท่องพระอภิธรรมอยู่ ค้างคาวได้ฟังจึงถือเอานิมิตในเสียงนั้น
    ค้างคาวเหล่านั้นไม่รู้ว่า เหล่านี้ชื่อว่าขันธ์ เหล่านี้ชื่อว่าธาตุด้วยเหตุสักว่าถือเอานิมิตในเสียงเท่านั้น จุติจากอัตภาพนั้นแล้ว เกิดในเทวโลก เสวยทิพยสมบัติสิ้นพุทธันดรหนึ่ง
    จุติจากเทวโลกนั้นแล้ว เกิดในเรือนตระกูลในกรุงสาวัตถี เกิดความเลื่อมใสในยมกปาฏิหาริย์ บวชในสำนักของพระเถระแล้ว ได้เป็นผู้ชำนาญในปกรณ์ทั้ง ก่อนกว่าภิกษุทั้งปวง แม้พระศาสดาก็ทรงแสดงพระอภิธรรมโดยทำนองนั้นเอง
    ในบรรดาหมู่สัตว์ทั้งหลายที่ยังเวียนว่ายอยู่ในวัฏฏะ จะกระทำกรรมเหมือนกันตลอดอัตภาพหนึ่ง ๆ ไม่อยู่ในฐานะที่จะเป็นไปได้ ด้วยเหตุดังนั้น วิบากกรรมจึงส่งให้สัตว์เหล่านั้นได้รับผลของกรรมต่างกัน
    ค้างคาวหนูทั้ง ๕๐๐ ก็เฉกเช่นเดียวกัน แต่ละตัวมีวิบากกรรมที่ต่างกันไป แต่ด้วยการกระทำกรรมสุดท้ายอย่างเดียวกัน คือได้ฟังพระเถระท่องพระอภิธรรม การกระทำกรรมที่เหมือนกันในครั้งนี้ ส่งผลให้ค้างคาวทั้ง ๕๐๐ จุติจากค้างคาว ไปปฏิสนธิในสุคติภูมิ คือเทวโลกทันที วิบากกรรมที่จะนำไปสู่อบายภูมิในภพชาติต่อไป ถูกตัดทอนเสียสิ้นในกาลครั้งนั้น ค้างคาวเหล่านั้นมีภพเหลือเพียง ๒ ภพภูมิคือ สุคติภูมิเทวโลกและมนุษย์ภูมิเท่านั้น
    ทั้งนี้เนื่องด้วยค้างคาวเหล่านั้นอยู่ในกำเนิดดิรัจฉาน ในขณะที่ฟังพระเถระท่องพระอภิธรรมจึงมิอาจบรรลุธรรมได้ แต่ด้วยอานิสงส์ของการน้อมจิตฟังพระธรรม จึงส่งผลอันยิ่งใหญ่แก่ค้างคาวเหล่านั้น อานิสงส์นี้มิใช่จะยังประโยชน์เฉพาะแก่ค้าวคาวเท่านั้น เพราะเมื่อผู้ใดก็ตามได้น้อมจิตถึงพระธรรมแล้ว ผู้นั้นย่อมจะได้รับประโยชน์อันยิ่งใหญ่นั้นเสมอ<o:p></o:p>
    ในกาลจบเทศนา ธรรมภิสมัยได้มีแก่เทวดา ๘ หมื่นโกฏิ
    การสาธยายพระไตรปิฎก ถือได้ว่าเป็นการได้เข้าเฝ้าพระศาสดาต่อเบื้องพระพักตร์ ทั้งนี้เพราะในครั้งหนึ่ง พระศาสดาได้ตรัสกับพระอานนท์ว่า ดูกร..อานนท์ ธรรมวินัยใดอันเราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่เธอทั้งหลาย ธรรมและวินัยเหล่านั้น จักเป็นศาสดาของเธอทั้งหลาย โดยกาลล่วงไปแห่งเราและการสาธยายพระที่ถึงพร้อมด้วยสติ จะนำมาซึ่งสมาธิและปัญญาในที่สุด ดังเช่นค้างคาวเหล่านั้น ได้บรรลุธรรมและเป็นผู้ชำนาญในปกรณ์ทั้ง ๗ ก่อนกว่าภิกษุทั้งปวง<o:p></o:p>
    การสาธยายพระไตรปิฎก<o:p></o:p>
    ๑.พระไตรปิฎก เป็นตาวิเศษอันยิ่ง บุคคลไดสาธยายพระไตรปิฎกแล้วสามารถที่จะรู้ได้ว่าสิ่งใดควรสิ่งใดไม่ควรทำ ทำให้เป็นสัมมาทิฎฐินำไปสู่ความสำเร็จและเข้าถึงความเป็นอริยบุคคลคือตั้งแต่ โสดาบัน สกทาคามี อนาคามีและอรหันต์ เข้าสู่นิพพาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๐)<o:p></o:p>
    ๒.พระไตรปิฎก เป็นหูที่วิเศษอันยิ่ง ฟังธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่สอนให้บุคคลนั้นดำรงค์ชีวิตด้วยความถูกต้องที่เป็นสัมมาทิฎฐิ อย่างน้อยไม่ทำบาปทำแต่กุศล ได้ฟังแต่สิ่งที่เป็นมงคล การเป็นก็ดี สุขภาพจิตก็ดี มีจิตใจที่ผ่องใส เมื่อจิตใจผ่องใสความคิดก็ดี ความจำก็ดีขึ้นมีสติไม่ทำให้เกิดอกุศล หน้าตาผ่องใสเป็นต้น (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๔)<o:p></o:p>
    ๓.พระไตรปิฎก เป็นจมูกที่วิเศษอันยิ่ง กลิ่นหอมที่ว่าหอมแม้จะลอยตามลมไปได้ ๑๐๐๐ โยชน์ แต่ไม่สามารถที่จะทวนลมได้ แต่กลิ่นของความดี กุศลนั้นสามารถจะทวนลมและกระจายออกไปได้ทุกทิศ จะเป็นมีจมูกที่ได้กลิ่นของกุศลที่กระจอนไปทุกทิศ และไม่หลงติดอยู่กับกลิ่นหอมอย่างอื่น (พระไตรปิฎกเล่ม ๙และ ๑๖)<o:p></o:p>
    .๔.พระไตรปิฎกเป็นลิ้นที่วิเศษอันยิ่ง ลิ้นคนเราแม้จะจำรสต่างๆได้ ไม่ช้าก็ลืมมีความสุขชั่วคาว ทำให้คนขาดสติ แต่ลิ้นที่ลิ้มรสของพระธรรมนั้นไม่มีความอิ่มในรสของพระธรรม เมื่อคนเราได้รับลิ้มรสของพระธรรมแล้ว จะทำให้ร่างกายผ่องใสทั้งภายในและภายนอก และจะช่วยรักษาโรคได้ทุกชนิด (พระไตรปิฎกเล่ม ๙และ ๑๖)<o:p></o:p>
    ๕.พระไตรปิฎก เป็นกายที่วิเศษอันยิ่ง เมื่อบุคคลได้สาธยายแล้วทำให้มีสภาพที่ผ่องใสทั้งภายในและภายนอก มีกายที่เบาไม่เชื่องช้า เลือดลมในตัวเรา ที่เรียกว่าธาตุ ๔ นั้นก็สมบูรณ์ ทำให้มีอายุยิ่งยืนนาน สามารถหายจากโรคที่เกิดแต่กรรมได้ (พระไตรปิฎกเล่ม ๙และ ๑๖)<o:p></o:p>
    ๖.พระไตรปิฎก เป็นใจที่วิเศษอันยิ่ง ใจดี ใจผ่องใส ใจเป็นหัวหน้า เมื่อใจเบิกบาน จิตใจเป็นกุศลก็สามารถเข้าถึงความเป็น โสดาบัน สกทาคามี อนาคามี และพระอรหันต์ในที่สุด(พระไตรปิฎกเล่ม ๙และ ๑๖)<o:p></o:p>
    ๗.พระไตรปิฎก เป็นครู-อาจารย์ที่วิเศษอันยิ่ง สามารถที่จะสอนให้เรารู้ว่าอะไรเป็นกุศล อะไรเป็นอกุศล เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว สอนให้เรานำเอาหลักธรรมไปประพฤติปฎิบัติ อันเป็นทางที่มีความสำเร็จในชีวิต นำทางไปเพื่อเข้าถึงพระนิพพาน (พระไตรปิฎกเล่ม ๙, ๑๖,๓๖)<o:p></o:p>
    ๘.พระไตรปิฎก เป็นพ่อ-แม่ที่วิเศษอันยิ่ง สอนบุคคลไม่เลือกพ่อแม่ไม่ได้หวังค่าตอบแทนจากลูกฉันใด พระไตรปิฎกเป็นผู้ที่สอนให้เรารู้ทุกอย่างที่เรายังไม่เคยรู้ นำทางให้เราเข้าถึงความเป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ แล้วแต่ทางดำเนินชีวิตอันทำให้ถึงจุดหมายปลายทางคือพระนิพพาน(พระไตรปิฎกเล่ม ๑๒และ ๑๔)<o:p></o:p>
    ๙.พระไตรปิฎกเป็นมิตรและเข็มทิศที่วิเศษอันยิ่ง เมื่อบุคคลได้สาธยายก็จะมีแต่มิตรนำทางไปสู่ที่ดี นำชีวิตไปสู่ความสุขทั้งตัวเองและครอบครัวและสังคมที่ดี นำทางไปแต่สู่ความเจริญรุ่งเรืองทั้งในทุกสถานในกาลทุกเมื่อ (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๖) <o:p></o:p>
    การสาธยายพระไตรปิฎก จึงถือได้ว่าเป็นการได้เข้าเฝ้าพระศาสดาต่อเบื้องพระพักตร์ ทั้งนี้เพราะในครั้งหนึ่ง<o:p></o:p>
    พระศาสดาได้ตรัสกับพระอานนท์ว่าอานนท์ ธรรมวินัยใดอันเราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่เธอทั้งหลาย ธรรมและวินัยจักเป็นศาสดาของเธอทั้งหลาย โดยกาลล่วงไปแห่งเรา”และการสาธยายพระที่ถึงพร้อมด้วยสติ จะนำมาซึ่งสมาธิ และปัญญาในที่สุดดังเข่นค้างคาวเหล่านั้นได้บรรลุธรรมและเป็นผู้ชำนาญในปกรณ์ ๗ ก่อนกว่าภิกษุทั้งปวง<o:p></o:p>
    บุญกุศลอันยิ่งใหญ่ที่พึงจะเกิดขึ้นในครั้งนี้<o:p></o:p>
    ขอน้อมถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้เป็นพ่อของแผ่นดิน และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามกุมารีผู้ให้ที่เกิดที่อาศัยแก่เราและวงศ์ตระกูล ได้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขและเจริญก้าวหน้าตลอดมา
    ขอธรรมของพระศาสดา เป็นประดุจดังธรรมโอสถทิพย์ ที่จะช่วยคลายทุกข์ให้ประชาชนคนไทย ได้รู้รักสามัคคีเฉกเช่นพี่น้องร่วมอุทร อันไม่พึงทำร้ายซึ่งกันและกันด้วยกาย วาจา ใจ
    ขอให้พี่น้องประชาชนทั้งหลาย เป็นผู้มั่นคงและถึงพร้อมด้วยความดี เพื่อแผ่นดินไทยอยู่อย่างผาสุกตลอดกาลนาน เทอญ <o:p></o:p>
     
  4. mommaamgirl

    mommaamgirl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    635
    ค่าพลัง:
    +823
    จะเดินทางไปสาธยายพระไตรปิฎกค่ะ จะขอนำภาพพระพุทธเจ้าที่คุณพยงค์และดิฉันได้จัดพิมพ์เป็นภาพสีดังกล่าวมาแจกในงานค่ะ
    ขอทำบุญ2 อย่างเลย ขออนุญาตท่านเจ้าภาพด้วยนะคะ
    ภาพนี้ถ้าสมาชิกพลังจิตก็น่าจะได้รับจากคุณคีตาบ้างแล้ว
    ดิฉันตั้งใจจะนำไปแจกให้กับทุกท่านที่มาร่วมงานนำกลับไปบูชาค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. หนึ่ง99999

    หนึ่ง99999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,369
    ค่าพลัง:
    +1,922
    ในงานสาธยายพระไตรปิฎก ถวายสมเด็จพระเทพ

    วันที่ 1 เมษายน 2552 ถึง 9 เมษายน 2552

    กลุ่มชาวพุทธเป็นหนึ่ง

    ไปจัดงานที่ วัดใหม่ยายแป้น บางขุนนนท์ กรุงเทพ

    ขอเชิญไปกราบไหว้พระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันธาตุ

    และกราบไหว้เจดีย์ 12 ปีเกิดครับ
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  6. ลัก...ยิ้ม

    ลัก...ยิ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    3,409
    ค่าพลัง:
    +15,762
    เรียน ขออนุญาตคุณหนึ่ง ขอเข้ามาแจมกระทู้อีกครั้งนะค่ะ

    ................................................................................................

    ขอเรียนเชิญพุทธศาสนิกชนffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
    สาธยายพระไตรปิฎก<O:p></O:p>
    เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามราชกุมารี<O:p></O:p>
    กราบนมัสการพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธนิมิตเมตตาปางปฐมเทศนา <O:p></O:p>

    ระหว่างวันพุธที่ ๑-๙ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๒<O:p></O:p>
    วัดใหม่ยายแป้นและกรมการศาสนา<O:p></O:p>


    (ping)hello11(ping)
    .....................................................................................................................
    สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ เวลาแห่งการสร้างบุญกุศลใหญ่มาถึงแล้วนะค่ะ อย่าพลาดกันเชียว และอย่าลืมแวะไปกราบและชมคัมภีร์โบราณที่หลวงพ่อท่านเมตตา
    นำกลับมาคืนยังสยามประเทศของเรานะค่ะ โมทนาบุญทุก ๆท่านค่ะ

    <!-- / message --><!-- sig -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    [quote=ลัก...ยิ้ม;2010641]เรียน ขออนุญาตคุณหนึ่ง ขอเข้ามาแจมกระทู้อีกครั้งนะค่ะ

    ................................................................................................


    (ping)hello11(ping)
    .....................................................................................................................
    สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ เวลาแห่งการสร้างบุญกุศลใหญ่มาถึงแล้วนะค่ะ อย่าพลาดกันเชียว และอย่าลืมแวะไปกราบและชมคัมภีร์โบราณที่หลวงพ่อท่านเมตตา
    นำกลับมาคืนยังสยามประเทศของเรานะค่ะ โมทนาบุญทุก ๆท่านค่ะ

    <!-- / message --><!-- sig -->[/quote]

    ขอแจม คุณลักยิ้ม เช่นกันนะคะ
    ส่วนหนึ่งของ "คัมภีร์โบราณ" ที่หลวงพ่อรักษาไว้ และกำลังสืบหาผู้มีความร้ด้านภาษาถอดรหัสแปลเป็นภาษาไทยอยู่ค่ะ - ขอพุทธบารมี และขอสมคำ"จะมาคนมาช่วย" กันนะคะ

    จะเห็นรูปลักษณ์ มีภาพสังเกตุ ซึ่งยังหาความหมายไม่ได้ ค่ะ
    หากท่านใดทราบ กรุณานะคะ _/\_
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 03.JPG
      03.JPG
      ขนาดไฟล์:
      156.7 KB
      เปิดดู:
      39
    • 04.JPG
      04.JPG
      ขนาดไฟล์:
      146 KB
      เปิดดู:
      43
    • 05.JPG
      05.JPG
      ขนาดไฟล์:
      142.8 KB
      เปิดดู:
      36
    • 06.JPG
      06.JPG
      ขนาดไฟล์:
      161.6 KB
      เปิดดู:
      36
    • 07.JPG
      07.JPG
      ขนาดไฟล์:
      156.9 KB
      เปิดดู:
      50
    • 08.JPG
      08.JPG
      ขนาดไฟล์:
      149.2 KB
      เปิดดู:
      48
    • 09.JPG
      09.JPG
      ขนาดไฟล์:
      153.4 KB
      เปิดดู:
      44
    • 10.JPG
      10.JPG
      ขนาดไฟล์:
      159.2 KB
      เปิดดู:
      40
    • 11.JPG
      11.JPG
      ขนาดไฟล์:
      157 KB
      เปิดดู:
      44
    • 12.JPG
      12.JPG
      ขนาดไฟล์:
      144.7 KB
      เปิดดู:
      41
  8. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    หลวงพ่อท่านโปรยคำอธิษฐานภายในงานไว้ดังนี้ค่ะ

    บุญกุศลที่ยิ่งใหญ่อันพึงจะเกิดขึ้นในครั้งนี้
    ขอน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ผู้เป็นพ่อของแผ่นดินที่ให้ที่เกิด และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา พระราชกุมารีฯ,
    ผืนปฐพีแผ่นดินที่อาศัยแก่เราและวงศ์ตระกูลได้อยู่อย่าง ร่มเย็นเป็นสุขและเจริญก้าวหน้าตลอดมาขอธรรมของพระศาสดา เป็นประดุจดังธรรมโอสถทิพย์ที่จะช่วยคลายทุกข์ให้ประชาชนคนไทยได้ รู้รักสามัคคี เฉกเช่นพี่น้องร่วมอุทรอันไม่พึงทำร้ายซึ่งกันและกัน
    ด้วยกาย วาจา ใจขอให้พี่น้องประชาชนทั้งหลายเป็นผู้มั่งคงและถึงพร้อมด้วยความดี เพื่อแผ่นดินไทยอยู่อย่างผาสุกตลอดกาลและนาน เทอญ <O:p</O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 01.jpg
      01.jpg
      ขนาดไฟล์:
      149.6 KB
      เปิดดู:
      38
    • 02.JPG
      02.JPG
      ขนาดไฟล์:
      157.7 KB
      เปิดดู:
      39
    • King 1.jpg
      King 1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      112.8 KB
      เปิดดู:
      39
    • CIMG0086.jpg
      CIMG0086.jpg
      ขนาดไฟล์:
      129.5 KB
      เปิดดู:
      42
    • CIMG0082.jpg
      CIMG0082.jpg
      ขนาดไฟล์:
      130.6 KB
      เปิดดู:
      35
    • CIMG0083.jpg
      CIMG0083.jpg
      ขนาดไฟล์:
      127.9 KB
      เปิดดู:
      32
    • CIMG0078.jpg
      CIMG0078.jpg
      ขนาดไฟล์:
      122.1 KB
      เปิดดู:
      29
    • CIMG0077.jpg
      CIMG0077.jpg
      ขนาดไฟล์:
      111.3 KB
      เปิดดู:
      37
  9. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    สาธุ สาธุ สาธุ

    กัลยาณมิตรท่านใดเข้าไปในวันเสาร์ที่ ๔ เมย. พบกันนะคะ
     
  10. อบ.

    อบ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    430
    ค่าพลัง:
    +1,538
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 เมษายน 2009
  11. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. walaphako

    walaphako ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +1,599
    ได้ไปร่วม สวดมาแล้วค่ะ ดีมากๆถ้าไปกันเยอะๆหลวงพ่อท่านจะขยายเวลาไปอีกนะคะ
     
  13. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    สาธุ อนุโมทนา สาธุการ คุณ walaphako ค่ะ
    ขอผลแห่งบุญ บูชาพระธรรม นี้ ส่งผลความสุขสวัสดิ์เจริญธรรมตราบนาน ดังอานิสงฆ์นะคะ สาธุค่ะ :)

     
  14. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    .[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.557764/[/MUSIC]​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2009
  15. mommaamgirl

    mommaamgirl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    635
    ค่าพลัง:
    +823
    ค่ะ เดินทางไปมาแล้ว อืม ฝนตกหนักเสียด้วยแต่แปลกที่ตรงเราไปฝนตกหนักมาก แต่เดินเข้ามาในวัดกลับเหมือนฝนโปรย ๆ พื้นชื้น ๆ เท่านั้นเอง ติดอยู่เป็นครึ่ง ชม. เลย ทั้งที่วัดกับป้ายรถเมล์ห่างกันแค่สะพานข้ามคลองเอง เอาภาพพระพุทธเจ้าไปด้วยรักษาสุดชีวิตเลย กลัวเปียกมากเลย
    แต่ไม่ค่อยมีคนเดินทางไปเท่าไรเลย ไปนั่งมาเป็น ชม. ๆ ก็มีคนอยู่เท่าเดิมเลยค่ะ มีเวลาไปเมื่อวานวันเดียว ก็ปลื้มมากที่ครั้งหนึ่ง เอ้ย ครั้งที่สองแล้วที่ได้ทำ

    อนุโมทนากับทุกท่านที่มีโอกาสได้เดินทางไป สร้างบุญบารมีกันค่ะ
     
  16. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    สาธุ คุณ mommaamgirl ค่ะ ไปคนละวัน เลยไม่ได้พบกัน เลยยังไม่ได้ภาพพระพุทธองค์ที่คุณ mommaamgirl มาแจกไว้บูชาเลย (แต่วันพระไม่ได้มีวันเดียวนะคะ - ยังมีโอกาสไปอีกค่ะ )

    บุญญสิกขา ไปเมื่อวันเสาร์ ๔ เม.ย พบ คุณ ญ หญิง ด้วยค่ะ ได้มีโอกาสสนทนากับพระอาจารย์ ได้ความรู้ที่มาที่ไปของการสาธยายมากมาย และได้ภาพมาเล่าให้ญาติธรรมกันด้วยค่ะ

    ทราบว่า เมื่อวันที่ ๑ เมษายน พิธีเปิดสาธยายฯ ถวายพระเทพรัตนราชสุดาฯ
    ช่วงเช้าเริ่มจากการอัญเชิญพระไตรปิฎกเวียนสักการะรอบพระอุโบสถวัดใหม่ยายแป้นกันค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2009
  17. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    พิธีเปิดอย่างเป็นทางการ ได้รับการอนุเคราะห์จาก "ท่านอธิบดีกรมการศาสนา" เป็นประธานพิธีเปิดงาน ท่านเป็นผู้หนึ่งที่สนับสนุนความสำคัญแห่งงานสาธยายพระไตรปิฏกมาโดยตลอด สาธุค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    ในช่วงบ่าย ได้รับเกียรติจากคุณหญิงแสงเดือน ณ นคร ร่วมในพิธีด้วยค่ะ

    ท่านได้ชมคัมภีร์โบราณด้วยความสนใจ ราวดังจะสมจริง ดั่งคำจากผู้หญิงชุดขาวว่า "แล้วจะมีคนมาช่วย"
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    บริเวณพลับพลาสาธยาย นอกจากอิ่มบุญการสาธยายฯ แล้ว สาธุชนจะยังได้กราบสักการะ พระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุ ต่างๆ แล้ว ท่านยังได้นมัสการรับพรจาก พระพุทธนิมิตเมตตาปางปฐมเทศนา ด้วยค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    การสาธยายพระไตรปิฎก<O:p</O:p
    ๑.พระไตรปิฎก เป็นตาวิเศษอันยิ่ง บุคคลไดสาธยายพระไตรปิฎกแล้วสามารถที่จะรู้ได้ว่าสิ่งใดควรสิ่งใดไม่ควรทำ ทำให้เป็นสัมมาทิฎฐินำไปสู่ความสำเร็จและเข้าถึงความเป็นอริยบุคคลคือตั้งแต่ โสดาบัน สกทาคามี อนาคามีและอรหันต์ เข้าสู่นิพพาน (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๐)

    <O:p</O:p
    ๒.พระไตรปิฎก เป็นหูที่วิเศษอันยิ่ง ฟังธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่สอนให้บุคคลนั้นดำรงค์ชีวิตด้วยความถูกต้องที่เป็นสัมมาทิฎฐิ อย่างน้อยไม่ทำบาปทำแต่กุศล ได้ฟังแต่สิ่งที่เป็นมงคล การเป็นก็ดี สุขภาพจิตก็ดี มีจิตใจที่ผ่องใส เมื่อจิตใจผ่องใสความคิดก็ดี ความจำก็ดีขึ้นมีสติไม่ทำให้เกิดอกุศล หน้าตาผ่องใสเป็นต้น (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๔)
    <O:p</O:p
    ๓.พระไตรปิฎก เป็นจมูกที่วิเศษอันยิ่ง กลิ่นหอมที่ว่าหอมแม้จะลอยตามลมไปได้ ๑๐๐๐ โยชน์ แต่ไม่สามารถที่จะทวนลมได้ แต่กลิ่นของความดี กุศลนั้นสามารถจะทวนลมและกระจายออกไปได้ทุกทิศ จะเป็นมีจมูกที่ได้กลิ่นของกุศลที่กระจอนไปทุกทิศ และไม่หลงติดอยู่กับกลิ่นหอมอย่างอื่น (พระไตรปิฎกเล่ม ๙และ ๑๖)
    <O:p</O:p
    .๔.พระไตรปิฎก เป็นลิ้นที่วิเศษอันยิ่ง ลิ้นคนเราแม้จะจำรสต่างๆได้ ไม่ช้าก็ลืมมีความสุขชั่วคาว ทำให้คนขาดสติ แต่ลิ้นที่ลิ้มรสของพระธรรมนั้นไม่มีความอิ่มในรสของพระธรรม เมื่อคนเราได้รับลิ้มรสของพระธรรมแล้ว จะทำให้ร่างกายผ่องใสทั้งภายในและภายนอก และจะช่วยรักษาโรคได้ทุกชนิด (พระไตรปิฎกเล่ม ๙และ ๑๖)
    <O:p</O:p
    ๕.พระไตรปิฎก เป็นกายที่วิเศษอันยิ่ง เมื่อบุคคลได้สาธยายแล้วทำให้มีสภาพที่ผ่องใสทั้งภายในและภายนอก มีกายที่เบาไม่เชื่องช้า เลือดลมในตัวเรา ที่เรียกว่าธาตุ ๔ นั้นก็สมบูรณ์ ทำให้มีอายุยิ่งยืนนาน สามารถหายจากโรคที่เกิดแต่กรรมได้ (พระไตรปิฎกเล่ม ๙และ ๑๖)
    <O:p</O:p
    ๖.พระไตรปิฎก เป็นใจที่วิเศษอันยิ่ง ใจดี ใจผ่องใส ใจเป็นหัวหน้า เมื่อใจเบิกบาน จิตใจเป็นกุศลก็สามารถเข้าถึงความเป็น โสดาบัน สกทาคามี อนาคามี และพระอรหันต์ในที่สุด(พระไตรปิฎกเล่ม ๙และ ๑๖)
    <O:p</O:p
    ๗.พระไตรปิฎก เป็นครู-อาจารย์ที่วิเศษอันยิ่ง สามารถที่จะสอนให้เรารู้ว่าอะไรเป็นกุศล อะไรเป็นอกุศล เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว สอนให้เรานำเอาหลักธรรมไปประพฤติปฎิบัติ อันเป็นทางที่มีความสำเร็จในชีวิต นำทางไปเพื่อเข้าถึงพระนิพพาน (พระไตรปิฎกเล่ม ๙, ๑๖,๓๖)
    <O:p</O:p
    ๘.พระไตรปิฎก เป็นพ่อ-แม่ที่วิเศษอันยิ่ง สอนบุคคลไม่เลือกพ่อแม่ไม่ได้หวังค่าตอบแทนจากลูกฉันใด พระไตรปิฎกเป็นผู้ที่สอนให้เรารู้ทุกอย่างที่เรายังไม่เคยรู้ นำทางให้เราเข้าถึงความเป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ แล้วแต่ทางดำเนินชีวิตอันทำให้ถึงจุดหมายปลายทางคือพระนิพพาน(พระไตรปิฎกเล่ม ๑๒และ ๑๔)

    <O:p</O:p
    ๙.พระไตรปิฎก เป็นมิตรและเข็มทิศที่วิเศษอันยิ่ง เมื่อบุคคลได้สาธยายก็จะมีแต่มิตรนำทางไปสู่ที่ดี นำชีวิตไปสู่ความสุขทั้งตัวเองและครอบครัวและสังคมที่ดี นำทางไปแต่สู่ความเจริญรุ่งเรืองทั้งในทุกสถานในกาลทุกเมื่อ (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๖)
    <O:p</O:p
    การสาธยายพระไตรปิฎก จึงถือได้ว่าเป็นการได้เข้าเฝ้าพระศาสดาต่อเบื้องพระพักตร์ ทั้งนี้เพราะในครั้งหนึ่ง<O:p</O:pพระศาสดาได้ตรัสกับพระอานนท์ว่า”อานนท์ ธรรมวินัยใดอันเราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่เธอทั้งหลาย ธรรมและวินัยจักเป็นศาสดาของเธอทั้งหลาย โดยกาลล่วงไปแห่งเราและ การสาธยายพระที่ถึงพร้อมด้วยสติ จะนำมาซึ่งสมาธิ และปัญญาในที่สุดดังเข่นค้างคาวเหล่านั้นได้บรรลุธรรมและเป็นผู้ชำนาญในปกรณ์ ๗ ก่อนกว่าภิกษุทั้งปวง<O:p</O:p

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...