-
เมื่อเด็กๆ ดิฉันอยู่กับพ่อแม่ในซอยสินทรัพย์ ใกล้กับซอยระนอง 2 ถนนพระราม 5 ในซอยนี้มีรถตุ๊กตุ๊ก ให้เช่ามากค่ะ ตอนกลางคืนจะมีรถว่างๆจอดเรียงกันตามข้างทางเกือบสิบคัน
ซอยนี้ตอนกลางวันกับตอนหัวค่ำค่อนข้างคึกคัก ผู้คนขวักไขว่ รถราแล่นเข้าออกหนาตา แต่ตกดึกค่อนข้างเปลี่ยวเอาการ
มีร้านอาหารและร้านกาแฟที่พวกคนขับรถแวะมากิน ทั้งคนมาส่งรถและรับรถ มีการตั้งวงเหล้ากันเกือบทุกวัน คุยกันเรื่องหากินดีหรือไม่ดีบ้าง เรื่องผู้โดยสารบ้าง รวมทั้งเรื่องอื่นๆ จิปาถะ
คนในซอยสะดวกอยู่อย่าง ตรงที่จะไปไหนใกล้ ๆ ก็เรียกรถได้เลย ไม่ต้องเดินไปถึงถนนใหญ่ บางคนก็จ้างให้ไปรับ-ส่งลูกหลานที่เรียนหนังสือเป็นประจำทุกวัน
พวกเขาเชื่อเรื่องโชคลางกันมากค่ะ ถ้าได้ผู้โดยสารเที่ยวแรกดี ๆ หมายถึงไม่ต่อราคา บางคนอาจจะแถมพิเศษถ้ารถติด ก็เชื่อว่าจะหากินคล่องตลอดวัน เรียกว่า "ประเดิมดี" คนขับตุ๊กตุ๊กรุ่นเก่า
จะสอนรุ่นใหม่ให้บอกผู้โดยสารว่าเป็นเที่ยวแรก ก็จะรู้กันนัยๆ ว่าขอให้ช่วยประเดิมเขาดีๆหน่อยจะได้มีโชคเป็นพิเศษ
ตรงกันข้าม ถ้าเที่ยวแรกโดนต่อรองมากๆ หรือตกลงกันไม่สำเร็จ ก็แทบจะหมดกำลังใจหาเงินไปทั้งวัน
อีกเรื่องหนึ่งคือการคลอดลูกในรถระหว่างไปโรงพยาบาล ทั้งคนขับรถแท็กซี่และสามล้อจะเชื่อตรงกันหมดว่าเป็นโชคลาภ อาจจะถูกล็อตเตอรี่หรือหวยใต้ดินได้ง่ายๆเพราะมีคนโชคดีหลายราย
แล้ว อย่างน้อยที่สุดก็หากินคล่อง หักค่าเช่าค่าน้ำมันแล้วยังมีเงินเหลือเป็นกอบเป็นกำ
แต่ถ้าเกิดมีคนเจ็บไข้ได้ป่วยอาการหนัก แล้วไปขาดใจตายคารถก่อนถึงโรงพยาบาล จะทำให้เคราะห์ร้ายไปนาน!
วันหนึ่ง คนในซอยชื่อน้าองุ่นเกิดเจ็บท้องใกล้คลอด สามีรีบเรียกรถตุ๊กตุ๊กไปโรงพยาบาลวชิระ น้าองุ่นร้องครวญครางโอดโอยจนแน่นิ่งไปก่อนจะถึงมือแพทย์แกขาดใจตายในรถตุ๊กตุ๊กคันนั้นเอง!
หลังจากงานศพผ่านไปไม่นาน ชาวบ้านในซอยสินทรัพย์ก็รู้สึกเยือกเย็นวังเวงใจชอบกล หมาจะเห่าหอนตั้งแต่ตอนเย็น ๆ แล้ว ยิ่งกลางค่ำกลางคืน พวกมันจะโก่งคอหอนโหยหวนน่าขนลุก.....
หลายๆ คนยืนยันว่าหมาจะเห่าหอนอยู่แถวๆ ข้างถนนที่รถตุ๊กตุ๊กจอดเรียงรายกันนั่นเอง
คนขับรถเจ้ากรรมคันนั้นชื่อลุงผิน แกบอกว่าไม่อยากคิดอะไรมากเพราะถือว่าได้ช่วยเหลือเต็มที่แล้ว แต่ก็น่าแปลกที่ตั้งแต่น้าองุ่นตายในรถ การหากินก็เริ่มฝืดเคืองลงทุกที เวลาขับรถเปล่า ๆ หา
ผู้โดยสาร มักจะรู้สึกว่าเหมือนมีใครนั่งอยู่หลังเสมอ พอหันไปมองก็ไม่เห็นอะไรชัดเจน นอกจากรูปเงาวูบๆ วาบๆ น่าขนลุก
สังเกตว่าคนที่รอรถ ก็ไม่โบกเรียก จะว่ารอแท็กซี่ก็เปล่า เพราะเรียกสามล้อคันหลังขึ้นนั่งแทน
บางครั้งเห็นคนยืนรอรถจ้องมองมาแต่ไกลแล้วกลับเมิน จนกระทั่งแกชะลอรถเข้าไปใกล้นั่นแหละ เขาถึงได้โบกมือเรียก พอขึ้นไปนั่งก็บ่นกับแกว่าตาฝาด ...เมื่อกี้เห็นมีผู้หญิงนั่งอยู่บนรถ
จนกระทั่งเข้ามาใกล้ๆ ถึงได้เห็นชัดว่ารถว่าง
ลุงอินเล่าว่าขนหัวลุกซู่ แน่ใจว่าวิญญาณน้าองุ่นยังสิงสู่อยู่ในรถที่เธอหมดลมหายใจอย่างแน่นอน!
จะขอเปลี่ยนรถก็ไม่มีใครยอมเปลี่ยน เพราะหวาดกลัวผีแม่ลูกอ่อนกันทั้งนั้น ด้วยความเชื่อว่าผีตายทั้งกลมเฮี้ยนนัก วิญญาณดุร้ายน่ากลัวจนเกินกว่าจะไปวัดดวงหรือล้อเล่นกันง่ายๆ
เสียงเล่าลือเรื่องวิญญาณน้าองุ่นสิงรถตุ๊กตุ๊ก เริ่มจะซาลง สองผัวเมียคู่หนึ่งก็เจอดีเข้าอย่างจัง
ลุงเสิดกับป้าเม่าเป็นขาไพ่ตองที่เล่นกันตั้งแต่เที่ยงวันอาทิตย์ กว่าจะเลิกก็สองยาม-ตีหนึ่ง บ่อนเลิกขาไพ่ก็แยกย้ายกันกลับบ้านที่อยู่ใกล้ๆ แต่สองผัวเมียวัยชราต้องเดินผ่านแถวรถสามล้อเพื่อ
กลับบ้านที่อยู่ถัดเข้าไปทางก้นซอย
ระยะแรกๆ ก็นึกหวาดเหมือนกัน แต่เมื่อไม่เห็นอะไรน่าหวาดเสียวก็ค่อยคลายใจลงทุกที
คืนเกิดเหตุ ท่ามกลางแสงไฟอันเยือกเย็น เสียงหมาหอนโชยมากับสายลมยามดึก สรรพสิ่งดูเงียบงันเหมือนโลกร้าง สองผัวเมียเดินผ่านแถวสามล้อไปเงียบๆ แม้ว่าจะอยู่คนละฝั่งถนน แต่ป้าเม่า
แว่วเสียงครวญครางเบาๆมาจากฝั่งตรงข้าม ก็สะกิดบอกลุงเสิด ...ทั้งสองหันไปดูโดยไม่ได้ตั้งใจ
...ภาพของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่นั่งตัวแข็งทื่อ ๆ อยู่ในรถตุ๊กตุ๊กคันท้าย ค่อย ๆ หัน มามองทั่งคู่อย่างเชื่องช้า ...ไม่ใช่ใครที่ไหน...น้าองุ่นนั่นเอง!
เสียงแผดร้องดังลั่นในความเงียบ ชาวบ้านแตกตื่นเข้ามาดู สองตายายวิ่งอ้าวไม่คิดชีวิตไปถึงบ้าน ...ลุงอินรู้ข่าวก็เลิกเช่ารถที่นั่นอีกต่อไป เจ้าของต้องขายทิ้งในราคาถูกๆ
ไม่รู้ว่าป่านนี้วิญญาณน้าองุ่นยังจะนั่งรถเล่น หรือไปผุดไปเกิดแล้ว
เรียบเรียงปรับปรุงถ้อยคำบางส่วนจากต้นฉบับเดิม
บันทึกอาถรรพณ์ - สยองขวัญ - สั่นประสาท: สามล้อผีสิง