สายพระป่าพระกรรมฐานพระทั่วไปเครื่องรางของขลัง

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย wasan112, 29 มกราคม 2020.

แท็ก: แก้ไข
  1. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,188
    ค่าพลัง:
    +161
    22.เหรียญครูบาน้อย รุ่นแรก พ.ศ. 2543 ออกในงานนิโรธกรรม ปีที่ ๗ วัดศรีดอนมูล จ.เชียงใหม่ เนื้อกาไหล่ทอง (ลงจารอักขระ) 19 ก.พ. 43
    พระครูสิริศีลสังวร (ครูบาน้อย เตชปญฺโญ) มีดามเดิมว่า ประสิทธิ์ กองคำ (น้อย) เป็นบุตรของคุณพ่อคำ กองคำ และคุณแม่ต๋าคำ กองคำ เกิดเมื่อ วันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2494 แรม 4 ค่ำ เดือน 3 (เหนือ) ปีขาล ที่บ้านศรีดอนมูล ต.ชมภู อ.สารภี จ.เชียงใหม่มีพี่น้องร่วมบิดา – มารดา เดียวกัน 4 คน คือ
    1. นางสาว สงวน กองคำ (เสียชีวิตแล้ว)
    2. พระครูสิริศีลสังวร (ครูบาน้อย เตชปญฺโย)
    3. นายแก้ว กองคำ
    4. นายภัทร กองคำ

    เมื่อแรกเกิด เด็กชายประสิทธิ์ กองคำ มีสายรกพันรอบตัว ซึ่งตามความเชื่อของครูโบราณในภาคเหนือได้เล่ากันมาว่า จะได้บวชเป็นพระสืบทอด พระพุทธศาสนาต่อไปและแล้วก็เป็นไปตามความเชื่อของคนโบราณ เด็กชายน้อย ชอบติดตามคุณแม่ต๋าคำไปทำบุญที่วัดในวันพระเสมอ เวลาพระเทศน์ เด็กชายน้อย สำรวม กาย วาจา ใจ ตั้งใจฟังพระเทศน์อย่างใจจดใจจ่อ มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างจริงจังเมื่ออายุได้ 7 ขวด คุณแม่ต๋าคำ กองคำ ได้นำไปฝากเป็นเด็กวัดเพื่อเรียนหนังสือกับครูบาผัด (พระครูใบฎีกาผัด ผุสฺสิตธมฺโม) ณ วัดศรีดอนมูล
    ซึ่งในสมัยนั้นครูบาผัดเป็นพระที่มีความสามารถทางคาถาอาคม อยู่ยงคงกระพัน และการรักษาผู้ป่วยด้วยยาสมุนไพร จนชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักกันดี ในจังหวัดเชียงใหม่ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเด็กชายน้อย ได้รับการพร่ำสอนในเรื่องของ ธรรมมะ อักขระภาษาล้านนา(ซึ่งเป็นภาษาที่รวบรวมคาถาอาคม ของคนล้านนาไว้) จากครูบาผัด ด้วยความตั้งใจ ในการที่เป็นเด็กใฝ่รู้ในการเรียน จึงทำให้เด็กชายน้อยเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วกว่าเด็กวัดคนอื่น ๆ ในรุ่นราวคราวเดียวกัน

    สู่ร่มกาสาวพัสตร์
    ขณะที่เป็นเด็กวัดนั้นท่านได้ศึกษาเล่าเรียนธรรมะอักขระภาษาล้านนา ไปพร้อมกับการศึกษาเล่าเรียนหนังสือตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ ไปด้วยจนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ซึ่งถือว่าเรียนจบภาคบังคับ เมื่อเด็กชายน้อยอายุได้ 13 ปี ครูบาผัดได้ปรึกษากับคุณพ่อคำ คุณแม่ต๋าคำ ว่าจะนำเด็กชายน้อยมาทำการบรรพชา เพราะอยู่วัดมานาน และเรียนจบภาคบังคับแล้ว
    เมื่อเด็กชายน้อยได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันจันที่ 6 มิถุนายน 2507 ปีมะโรง โดยมีพระครูอินทรสธรรม (ครูบาอิ่นแก้ว) วัดกู่เสือ อ.สารภี เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากนั้นสามเณรน้อยได้ทุ่มเทเวลาในการศึกษาพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งศึกษาตำรายาสมุนไพร และคาถาอาคมในด้านอยู่ยงคงกระพัน เมตตามหานิยม จากหลวงพ่อครูบาผัดอย่างตั้งใจจริง จนเป็นที่รักและเมตตาของครูบาผัดยิ่งนัก
    ในที่สุดท่านสอบได้นักธรรมชั้น ตรี โท เอก ซึ่งขณะนั้นนับเป็นการศึกษาชั้นสูงสุดในการเรียนของโรงเรียนนักธรรมวัดศรีดอนมูล จากนั้นท่านได้เป็นอาจารย์สอนนักธรรมแก่สามเณรรุ่นน้อง ๆ สืบต่อไปอย่างมานะอดทนเพื่อสืบทอดการศึกษาด้านพุทธศาสนาต่อมาท่านได้กราบลาหลวงพ่อครูบาผัด ไปศึกษาต่อในระดับเปรียญธรรม อันเป็นการศึกษาที่สูงขึ้นไปอีก ณ สำนักเรียนวัดบุปผาราม อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ท่านศึกษาไปได้ระยะหนึ่งเท่านั้น ท่านต้องหยุดเรียน เนื่องจากการเดินทางจากวัดศรีดอนมูลไปในตัวจังหวัดเชียงใหม่ในสมัยนั้นเป็นไปด้วยความยากลำบาก ประกับกับหลวงพ่อครูบาผัดไม่มีใครช่วยทำงานทางศาสนาครูบาน้อยจึงต้องกลับมาปรนนิบัติรับใช้หลวงพ่อครูบาผัดเช่นเดิม
    หลังจากที่สามเณรน้อยได้กลับมาช่วยงานพระครูพิศิษฏ์สังฆการ (ครูบาผัดซึ่งดำรงตำแน่งเป็นรองเจ้าคณะอำเภอสารภี) ได้ระยะหนึ่ง อายุพรรษาของท่านครบอุปสมบทพอดี จึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2514 ณ พระอุโบสถวัดพญาชมพู โดยมีพระครูพุทธาทิตยวงศ์ (ครูบาอุ่นเรือน) วัดป่าแคโยงเป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูสมชุตินธโร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระปลัดผัด ผุสสิตธมโม เป็นอนุสาวนาจารย์ หลังจากที่ได้อุปสมบทแล้วจึงได้รับ ฉายาว่า เตชปญฺโญ อันมีความหมายว่าผู้มีปัญญาเป็นเดช
    หลังจากที่ได้ทำการอุปสมบทแล้วพระภิกษุน้อยได้ช่วยเหลืองานของหลวงพ่อครูบาผัด ซึ่งเป็นรองเจ้าคณะอำเภอสารภี ด้านสาธารณูปการ คือในด้านดูแลการสร้างศาสนสถานและศาสนวัตถุของวัดทุกวัดในอำเภอสารภี แต่เมื่อหน้าที่การงานและความรับผิดชอบของท่านในด้านศาสนามากขึ้น แต่ท่านไม่ทิ้งด้านการศึกษา ดังนั้น ท่านจึงได้ปรารภเรื่องการเรียนกับหลวงพ่อครูบาผัดว่า ท่านต้องการเรียนภาษาบาลี ซึ่งเป็นภาษาที่บันทึกเอาคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้ ถึง 84000 พระธรรมขันธ์ อันมีพระสูตร พระธรรรม พระวินัย หรือเรียกกันว่า พระไตรปิฎก ท่านจึงได้กราบลาหลวงพ่อครูบาผัดไปศึกษาในระดับเปรียญธรรม เป็นครั้งที่ 2 โดยไปศึกษาที่หอปรยัติธรรม วัดพระธาตุหริภุญชัย จังหวัดลำพูนจนท่านสามารถสอบได้เปรียญ 1 และ 2 ขณะทีท่านกำลังศึกษา ประโยค 3 อยู่นั้น ภารกิจในด้านการเผยแพร่พระพุทธศาสนาของหลวงพ่อครูบาผัดทั้งในด้านการปกครองการเผยแผ่ การสาธารณูปโภค รวมทั้งการศึกษาได้เพิ่มมากขึ้น ท่านต้องการคนช่วยแบ่งเบาภาระในหน้าที่การทำงาน พระภิกษุน้อยจึงต้องออกจากการศึกษาเป็นครั้งที่ 2 เพราะความผูกพันระหว่างศิษย์กับอาจารย์มีมาก เหนือกว่าสิ่งใดนั้นเอง

    การศึกษาเล่าเรียนกัมมัฏฐาน
    การศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในทางพุทธศาสนามีอยู่ 3 ระดับ คือ
    1. ระดับปริยัติ คือ การเรียนในขั้นทฤษฎี โดยมีอาจารย์ หรือผู้รู้ค่อยแนะนำในการสั่งสอน
    2. ระดับปฏิบัติ คือการลงมือประกระทำหลังจากเรียนรู้ในเรื่องของปฏิบัติจนเข้าใจแจ่มแจ้ง
    3. ระดับปฏิเวธ คือ การนำเอาข้อหลักธรรม และหลักปฏิบัติมาประยุกต์ใช้กับการดำเนินวัตรปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
    ครูบาน้อยสนใจในเรื่องของการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานอยู่เสมอ ทั้งศึกษาจากหลวงพ่อครูบาผัดและศึกษาจากหนังสือที่ผู้รู้ต่าง ๆ ที่เขียนไว้ ในสมัยนั้นเรื่องของการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน ที่โด่งดังในภาคเหนือ คือ วัดพระพุทธบาท ตากผ้า อ.ป่าซาง จ.ลำพูน โดยมีหลวงพ่อครูบาพรหมมา พรหมจักโก เป็นพระวิปัสสนาจารย์ผู้ถ่ายทอดวิชากัมมัฏฐานให้แก่พุทธศาสนิกชนผู้สนใจพระภิกษุ สามเณร
    ครูบาเจ้าศรีวิชัย สิริวิชโย วัดบ้านปาง อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน เปรียบเสมือนหลักสดมภ์ ใหญ่สายล้านนาซึ่งพระเกจิอาจารย์ทั้งหลายในล้านนาเคารพบูชาและยึดถือวัตรปฏิบัติเป็นแบบอย่าง แนวทาง ปฏิบัติสืบต่อกันมาแทบทุกองค์ จนเป็นที่รู้จักและเลื่องลือกันทั่วจนถึงทุกวันนี้
    ครูบาน้อยได้ยึดวัตรปฏิบัติของครูบาเจ้าศรีวิชัยเป็นแบบอย่างเช่นกัน ทุกด้านไม่ว่าจะเป็นการครองตนครองตัว การเป็นพระนักพัฒนา การเข้านิโรธกรรมการฉันอาหารมังสวิรัติ เป็นต้น ครูบาน้อยเคารพบูชาเทิดทูนครูบาเจ้าศรีวิชัย อย่างยิ่งนับถือเป็นพระอาจารย์ใหญ่
    ครูบาน้อยได้ใช้ขันติธรรมในการศึกษาในเรื่องของวิปัสสนากัมมัฏฐาน แต่ก็ยังติดขัดไม่เข้าใจในหลายๆเรื่อง ท่านจึงได้กราบลาหลวงพ่อครูบาผัดเพื่อไปศึกษาในเรื่องวิปัสสนากัมมัฏฐาน ซึ่งถือว่าเป็นความลำบากใจของท่านมากที่ต้องจากอาจารย์ไปศึกษา แต่การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญมาก ดังครูบาน้อยจะคอยอบรมลูกศิษย์ลูกหาเป็นประจำว่า การศึกษา เป็นเครื่องมือในการพัฒนาคม และคนคือเครื่องมือในการพัฒนาหมู่บ้าน ชุมชนตลอดจนถึงประเทศชาติ และท่านเน้นย้ำอยู่เสมอว่าการเกิดเป็นมนุษย์นี้จะต้องมีศีลธรรมประจำใจทั้ง เอาดีให้ได้ จะไปเอาได้แล้วไม่ดี อันนี้หมายถึงการเกิดเป็นมนุษย์นี้จะต้องเอาดีอย่างใดอย่างหนึ่งให้ได้ ไม่ใช่จะเอาทุกเรื่องแล้วไม่ดีเลยท่านจึงไปศึกษาในเรื่องของกัมมัฏฐานกับหลวงพ่อครุบาพรหมา พรหมจักโกซึ่งปัจจุบันนี้ ท่านจะเรียกว่า อาจารย์ใหญ่ พอสมควรแล้วท่านจึงได้กราบลามาทำการอุปัฏฐากหลวงพ่อครูบาผัด ตามเดิม
    พระอาจารย์อีกท่านหนึ่งที่เป็นพระเกจิอาจารย์ของล้านนาไทยที่ครูบาน้อยไปมาหาสู่เสมอตั้งแต่ปี 2527 คือ หลวงปู่หล้าตาทิพย์ (พระครุจันทสมานคุณ) วัดป่าตึง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ จนได้รับการถ่ายทอด วิชาการศึกษาต่าง ๆ มากมาย เช่นคำปะพรมน้ำมนต์ ซึ่งเป็นคำโคลงของล้านนาไทยที่อวยพรให้แก่คณะศรัทธาญาติโยมให้มีความสุข ความเจริญในหน้าที่การงาน ตลอดถึงมีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง พร้อมทั้งวิธีการต้อนรับแขกผู้มาเยือน
    ครูบาน้อยได้ซื้อรถยนต์ (รถตู้) ถวายครูบาหล้า ด้วยความกตัญญูต่อพระอาจารย์ที่ท่านเคาระรัก ระหว่างที่ครูบาหล้าป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล ครูบาน้อยได้ไปเยี่ยมอยู่อย่างสม่ำเสมอ จนหลวงปู่ครูบาเหล้ามรณภาพ เมื่อปี 2536 ครูบาน้อยได้สูญเสียพระอาจารย์ ที่มีความเมตตาท่านมาตลอดไปอีกองค์หนึ่งแล้วนับเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของครูบาน้อย
    เมื่อครั้งครูบาน้อยได้เข้านิโรธกรรม ปีที่ 3 (2539) ท่านได้ไปปรึกษาสนทนาธรรมเกี่ยวกับธรรมะที่ได้เมื่อตอนที่นั่งสมาธิเข้านิโรธกรรมกับหลวงพ่อพระครูมงคลคุณาธร(หลวงปู่ครูบาคำปัน) วัดหม้อคำตวง อ.เมือง จ.เชียงใหม่จากนั้นไปมาหาสู่เป็นประจำจนกระทั่งครูบาคำปันได้สอนครูบาน้อยเรื่อง อักขระภาษาล้านนา ในเรื่องของเมตตามหานิยม และเรื่องของตำรับตำรายาสมุนไพร พร้อมทั้งเป็นอาจารย์อีกท่านหนึ่งที่คอยให้คำปรึกษาในเรื่องของวัตรปฏิบัติพร้อมทั้งเรื่องของการครองเพศบรรพชิต
    เมื่อท่านเข้านิโรธกรรม ปีที่ 7 ท่านได้ประสบพบเห็นสิ่งต่าง ๆ ในระหว่างที่ท่านเข้านิโรธนั้น มาปรึกษาขอคำแนะนำ กับครูบาชัยยะวงศา ที่วัดพระบาทห้วยต้ม อ.ลี้ จ.เชียงใหม่ ทั้งด้านวิปัสสนากรรมฐานและอักขระล้านนาต่าง ๆ จนครูบาเอ่ยว่า เอ่อ ตุ๊เจ้าโบราณไปเข้ากรรมในจุ่มปลวก ปลวกกินหมด ครูบาน้อยได้นำมาคิดตีความได้ว่า ให้มีสติอย่าไปฆ่าปลวก ปล่อยให้มันกินผ้าไป เหลือแต่ชีวิตก็เอาแล้ว ทำให้ครูบาได้ข้อคิดมากมายเกี่ยวกับมารต่าง ๆ ที่เข้ามาเยี่ยมเยียนในระหว่างที่ท่านเข้านิโรธกรรมและเล็งเห็นวิธีแก้ไขได้อย่างชัดเจน ดังคำที่ว่า มารไม่มีบารมีไม่เกิด บารมีจะเกิดเมื่อมีมารมาผจญ
    ครูบาน้อยท่านมีพระอาจารย์ที่เป็นฆราวาสเพียงคนเดียวคือ พ่อครูสล่ากุงหม่า บ้านดอยสะเก็ด อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ผู้ซึ่งได้หนีหลบภัยมาจากเมืองเชียงตุง ประเทศพม่า ซึ่งเมื่อครั้งท่านพ่อครูสล่ากุงหม่าอยู่ที่เชียงตุงนั้นท่านเป็น โหรหลวงประจำราชสำนักของเมืองเชียงตุง ท่านได้ถ่ายทอดวิชาโหรศาสตร์และตำราการปรุงยาสมุนไพรโบราณ ตามแบบไทโบราณและแบบพม่าและเครื่องรางของขลังรวมทั้งการทำเทียนชนิดต่างๆ เพื่อใช้ในพิธีกรรมทางศาสนา และใช้ในการสืบชะตา หรือสะเดาะเคราะห์ ฯลฯ
    ปัจจุบันนี้ ครูบาน้อย เตชปญฺโญ ได้สืบสานวิชาความรู้ที่พระอาจารย์ทั้ง 9 ที่ท่านได้ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้มาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการปะพรมน้ำมนต์การทำตะกรุด การทำเทียนสะเดาะเคราะห์ เทียนสืบชะตา เทียนสีวลี ฯลฯ การปลุกเสกการดูฤกษ์ยามต่างๆ การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน การปรุงยาสมุนไพรรวมทั้งสืบสานและรักษาประเพณีไทยโบราณ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังมีความเมตตาแก่ผู้ยากไร้และคนชรา รวมทั้งสนับสนุนส่งเสริม การศึกษาพระพุทธศาสนาอย่างสม่ำเสมอจนทุกวันนี้

    แสวงหาความวิเวก
    ครูบาน้อยท่านเป็นพระที่สนใจศึกษาในรสธรรมขององค์สมเด็กพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่เป็นประจำดังที่ว่ามาแล้ว ดังนั้นท่านจึงมักจะหาเวลาประพฤติวัตรปฏิบัติธรรมอยู่เสมอ ตามที่โอกาสและเวลาจะเอื้ออำนวยเมื่อครั้งยังเป็นสามเณรน้อย เคยได้ไปร่วมการเข้ากรรมกับครูบาผัดที่วัดหนองเต่า อ.สันทราย เชียงใหม่ ซึ่งตอนนั้นอายุยังน้อยนักจึงจำรายละเอียดได้ไม่มากนัก
    ต่อมาประมาณปี 2513 ครั้งเป็นสามเณรใหญ่ได้ไปธุดงค์กับพระอาจารย์ครูบาผัด ในที่สุดก็ปักกลดที่เขาเขียว จ.นครสวรรค์ ตรงค่ายจิตรประวัติ(ปัจจุบันไม่เห็นสภาพแล้ว แต่สมัยนั้น จะเลืองลือกันมากกว่าที่เขาเขียวนี้มีสิงสาราสัตว์มากมาย เพราะเป็นป่าทึบ) พอตกค่ำจะมีเสียงร้องของสัตว์มากมายจนประมาณ ตี 1 มีเสียงร้องดังสนั่น เสียงเสือคำรามนั้นเอง แทรกขึ้นมาท่ามกลางเสียงจักจั่นเรไรที่ร้องอยู่อย่างดังสนั่นไปทั่วป่า ครูบาน้อยได้แผ่เมตตาให้เสียงนั้นจึงเงียบไป นับเป็นประสบการณ์แรกที่ครูบาได้พบเห็นเมื่อครั้งเป็นสามเณร
    จากนั้นเมื่อครั้งเป็นพระภิกษุสงฆ์แล้ว ประมาณ 2517 ครูบาน้อย เตชปญฺโญ ได้เดินป่าธุดงค์ไปกราบนมัสการพระบาทสี่รอย ที่ อ.แม่ริม และได้ปักกลดค้างแรมที่พระบาทสี่รอย โดยท่านเจตนาว่าจะไปกราบนมัสการรอยพระบาทเพื่อรำลึกถึงพระเจ้า 5 พระองค์ และอธิษฐานจิตขออำนาจบารมีพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ให้ท่านได้เล็งเห็นสัจธรรม เพื่อเป็นประทีปไปสู่นิพพาน
    อีกครั้งหนึ่งครูบาน้อยได้ออกธุดงค์กับลูกศิษย์ที่เป็นสามเณร อีก 2 คนคือน้อยเกษมกับน้อยศักดิ์ (ปัจจุบันสึกเป็นฆราวาสแล้ว) เพื่อแสวงหาความสงบวิเวกในการประพฤติปฏิบัติธรรมโดยธุดงค์ไปยังจังหวัดเชียงราย ผ่านทางอำเภอดอยสะเก็ดของเชียงใหม่ไปยังจังหวัดเชียงรายเข้าพะเยาและแพร่ วกกลับมาทางจังหวัดลำปาง เข้าลำพูนจนถึงวัดศรีดอนมูล ท่านใช้เวลาในการเดินธุดงค์ประมาณครึ่งเดือนเศษ ระหว่างทางท่านจะเลือกปักกลดตามป่าช้า ซึ่งท่านได้พบกับสัมภเวสี และ โอปาติกะและเกิดนิมิตเป็นช่วง ๆ เป็นระยะ ๆ ท่านจะแผ่เมตตาให้โดยตลอดหลังจากพวกเขาได้รับส่วนบุญแล้วก็จะหายไป โดย ทุกปี ครูบาน้อย จะจัดงานขึ้นทั้งหมด 3 งาน คือ
    1. คืองานนิโรธกรรม
    2. งาน กตัญญู
    3. งานกฐิน

    การเข้านิโรธกรรม
    ครูบาน้อยท่านได้มาอยู่อาศัยเป็นลูกศิษย์ พร้อมกับคอยปรนนิบัติรับใช้หลวงพ่อครูบาผัดมาตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ความผูกพันระหว่างความเป็นศิษย์กับอาจารย์จึงมีมากกว่าสิ่งใด
    ในปี 2537 ครูบาผัดได้ล้มป่วยลงด้วยโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดอย่างกะทันหัน ครูบาน้อยพร้อมกับลูกศิษย์ จึงได้นำส่งโรงพยาบาลทันที และในครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นมรสุมครั้งยิ่งใหญ่ของครุบาน้อยในเพศบรรพชิตนับตั้งแต่ท่านได้ดำรงสมณะเพศมา เพราะว่ามรสุมได้รุมเร้าท่าน 3 ทางด้วยกัน คือ
    1. ต้องดูแลอาจารย์ของตนเอง คือ ครูบาผัดที่กำลังล้มป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล
    2. ต้องควบคุณการก่อสร้าง กุฏิสงฆ์ล้านนาญาณสังวราราม
    3. ต้องควบคุมดูแลการก่อสร้างสะดาน ครูบาผัดสามัคคี
    อาการของครุบาผัดในครั้งนั้นหมดที่รักษาอาการอยู่ถึงกับบอกกับครูบาน้อยและคณะศิษย์ยานุศิษย์ว่าให้เตรียมใจไว้ เพราะอาการของครูบาผัดอยู่ในชั้นอาการหนักเต็มที เพราะท่านต้องผ่าสมองอันเนื่องมาจากโรคไขมันอุดตัน
    เมื่อเป็นดังนี้แล้ว ครูบาน้อยก็มาได้ระลึกนึกถึงบุญคุณของครูบาอาจารย์ที่ท่านได้ประพฤติปฏิบัติตามแนวคำสอนอันมีครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทย ซึ่งครูบาน้อยได้ยึดเป็นแนวทางในการปฏิบัติธรรมของท่าน รวมทั้งครูบาพรหา พรหมจักโก อันเป็นอาจารย์สอนกรรมฐานของท่านครูบาน้อยได้ระลึกนึกถึงวัตรปฏิบัติของครูบาอาจารย์เหล่านี้ พร้อมทั้งอุปสรรคต่าง ๆ ที่บุรพาจารย์เหล่านี้ได้ประสบมา
    ดังนั้นครูบาน้อยจึงได้ทำการค้นคว้าวัตรปฏิบัติของครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทยอย่างจริงจังจากหนังสือ (ปั๊บสาภาษาล้านนา) ต่าง ๆที่มีอยู่ท่านจึงได้ค้นพบ วิธีการเข้านิโรธกรรม ของครูบาเจ้าศรีวิชัยที่เขียนไว้ในหนังสือประวัติของครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทย ดังนั้นครูบาน้อยจึงได้มารำลึกนึกถึงคุณของครูบาเจ้าศรีวิชัย และพระครูพิศิษฏ์สังฆการ (ครูบาผัด) ซึ่งกำลังนอนป่วยอยุ่ที่โรงพยาบาล ท่านจึงได้ตั้งสัจจะอธิษฐานที่จะถวายชีวิตมอบไว้กับพระพุทธศาสนาของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมทั้งได้ตั้งสัจจะอธิษฐานที่จะอุทิศชีวิต ของท่านแลกกับชีวิตของครูบาผัดที่กำลังนอนป่วยอยู่
    จากจุดนี้เองครูบาน้อยจึงได้ทำการเข้านิโรธกรรมตามแบบครูบาศรีวิชัย โดยท่านได้ปฏิบัติในครั้งแรกในปี พ.ศ.2537 การปฏิบัติในครั้งนี้ได้สร้างปาฏิหาริย์เกิดขึ้นในบรรดาลูกศิษย์ทุกๆ คนคือ ขณะที่ครูบาน้อยได้ปฏิบัตินิโรธกรรมได้เพียง 2 วันเท่านั้น อาการของครูบาผัดที่หมอบอกให้ทำใจก็หายราวกับปาฏิหาริย์ เพราะครูบาผัดได้ลุกขึ้นจากเตียงพร้อมกับให้หมอถอดสายน้ำเกลือรวมทั้งสายออกซิเจนออกจากตัวท่านและเดินไปมาภายในห้องพัก จากนั้นท่านก็ไปสรงน้ำพร้อมกับบอกให้ลูกศิษย์ที่เฝ้าดูอาการพากลับวัดและนำครูบาน้อยบิณฑบาตในวันออกนิโรธกรรมในป่าช้าในวันถัดไป
    จากปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้น หลังจากที่ครูบาน้อยได้ปฏิบัตินิโรธกรรมในหลายๆด้าน จึงจำให้ท่านเกิดความเลื่อมใสในการปฏิบัตินิโรธกรรมตามแบบครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทยและยึดถือปฏิบัติมาตลอดจนปัจจุบันทุกปี

    การเข้านิโรธกรรมปีที่ 1 – ปีที่ 3 นั้นครูบาน้อยใช้ป่าช้าของบ้านศรีดอนชัยเป็นที่เข้านิโรธกรรม ซึ่งในปีแรกนั้นพบอุปสรรคมากมายทั้งมีคนดูแคลนว่าทำไม่ได้ ไม่สำเร็จ ขณะที่นั่งกรรมฐานอยู่ก็มีคนเอาดินมาขว้างปาใส่ซุ้ม แกล้งไล่หมาบ้าง ตบมือไล่บ้าง เนื่องจากเป็นปีแรกจึงมีทั้งเทวดา มาให้กำลังใจ และมีสัมภเวสี มาร้องบ้าง มาหลอกหลอนบ้าง แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี

    การเข้านิโรธกรรม ปีที่ 2 ถูกทดสอบหนักมาก เกิดฟ้าแลบฟ้าผ่าลงตรงซุ้มรูปปั้นครูบาศรีวิชัยเจ้า ซึ่งแกะด้วยไม้ขนุน แต่ช่างอัศจรรย์จริง ๆ รูปเหมือนครูบาเจ้าศรีวิชัย ที่ทำด้วยไม้ไม่เป็นอะไรเลย อยู่ในสภาพปกติเหมือนเดิม

    การเข้านิโรธกรรม ปีที่ 3 มีเทวดามาทดสอบ และมีเสียงมาร้องส่งเสริมยินดีและมีเสียงพระสวนมนต์แต่ไม่เห็นองค์พระ แต่จำเสียงได้ว่าเป็นเสียงครูบาอาจารย์

    การเข้านิโรธกรรมปีที่ 4 ได้ย้ายสถานที่เข้ากรรมมาเป็นวัดศรีดอนมูลตรงที่ครูบาตั้งใจจะซื้อทำเป็นสวนป่าปฏิบัติธรรม ระหว่างเข้านิโรธกรรมก็มีคนมาก่อกวนดูแคลนว่าครูบาไม่สามารถจะซื้อที่ดินผืนนี้ได้ ไม่สามารถอยู่กรรมได้ถึง 9 วันแน่ วิพากษ์ไปต่าง ๆ นานา แต่แล้วครูบาก็เข้ากรรมจนครบกำหนด 9 วันตามที่มีเจตนาไว้

    จากนั้นการเข้านิโรธกรรมก็สืบมาเป็นวัตรของครูบาน้อยทุกปี ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นเดือนเกิดของท่านในทุกปี เรื่อยมา ซึ่งในแต่ละปีจะเกิดการทดสอบอารมณ์ครูบาตลอดทุกปี แตกต่างกันไป ดังเช่นเมื่อ ปีที่ 7 นิมิตว่ามีงูค้างคาวใหญ่ (ค้างคาวลูกไก่) ช้าง จะมาทำร้ายซึ่งเป็นที่มีมารส่งมาหวังทำร้ายครูบาน้อยแต่ครูบาก็ผ่านวิกฤตินั้นมาได้ จนครูบาต้องไปสนทนาธรรมกับครูบาชัยยะวงศา วัดพระบาทห้วยต้มต่อมา ปีที่ 16 2552 ถูกทดสอบหนักมากขนาดที่มีกระแสลมแรงมากจนหอบเอาซุ้มพระพุทธรูปขึ้นไปบนหลังคาของสถานที่ปฏิบัติธรรมทั้ง ๆ ที่ขณะนั้นเป็นเวลา 13.07 น. นอกจากนั้นยังนิมิตเห็นมีอาคันตุกะมาเยี่ยมมากมาย มีทั้ง เสือ สิงห์ กระทิง แรด ลิง ไก่ สัมภเวสี มาแบบมีทั้งรูปมีทั้งเสียง จะเข้ามาทำร้าย แต่เข้ามาไม่ได้”นี่เองมารมาทดสอบว่ามีความอดทนไหม ดูว่าร้อนจะร้อนถึงขนาดไหน” ดูว่าอารมณ์ของครูบาจะเป็นอย่างไรครูบาคิดแต่ว่า มาไม่มีบารมีไม่เกิด บารมีจะเกิดเมื่อมีมารมาทดสอบ นอกจากนั้นท่านยังมีคาถาประจำใจท่านและมักสอนลูกศิษย์เสมอว่า อมอด อดอม อดทน คือ ขันติ ที่มีสติ กำกับ นั่นเอง นี่เองทำให้ให้ท่านผ่านพ้นมารผจญไปได้ และสำเร็จในทุกสิ่งที่ท่านปฏิบัติ

    งานกตัญญู ทุกๆปี ครูบาน้อยจะจัดงานกตัญญูเพื่อระลึกถึง อาจารย์ของท่านทั้ง 9 ท่านคือ
    1. ครูบาเจ้าศรีวิชัย สิริวิชโย
    2. ครูบาพรหมมา พรหมจกฺโก
    3. ครูบาหล้า จนฺโท (ครูบาหล้า ตาทิพย์)
    4. ครูบาคำปัน นนฺทิโย
    5. ครูบาชัยยะวงศา จนฺทวํโส
    6. ครูบาอิ่นแก้ว
    7. ครูบาอุ่นเรือน
    8. พระครูพิศิษฏ์สังฆการ (ครูบาผัด ผุสฺสิตธมฺโม)
    9. สล่ากุงหม่าและผู้มีพระคุณ

    กฐิน ครูบาน้อย เตชปญฺโญ ทอดกฐินตกค้าง ให้กับวัดที่ไม่มีโอกาส ปี ละ 9 วัด มาเป็นระยะเวลา 22 ปี
    ลงานของครูบา
    เมื่อปี พ.ศ.2519 ช่วยพระอาจารย์ครูบาผัด ก่อสร้างพระวิหารเมื่อปี พ.ศ.2524 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ฯ ทรงเสร็จพระราชดำเนินยกช่อฟ้า พระวิหารและทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่เศียรพระประธานในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2524 และพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อสร้างพระอุโบสถวัดศรีดอนมูล และพระองค์ทรงพระราชทาน พระบรมราชานุญาติ ให้อัญเชิญพระปรมาภิไธยย่อ ภ.ป.ร. บนแหนบทองคำประดิษฐานบนหน้าบันพระอุโบสถ
    เมื่อปี พ.ศ.2528 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ วลัยลักษณ์ฯ ทรงเสร็จ พระราชดำเนินตัดลูกนิมิต พระอุโบสถวัดศรีดอนมูล เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2528
    เมื่อปี พ.ศ.2532 ได้สืบทอดเจตนารมณ์ต่อจาก พระครูบาผัด สร้างกุฏิสงฆ์ล้านนาให้สำเร็จ โดยมีพระเถรานุเถระ 5 รูปมาวางศิลาฤกษ์ คือ
    1. พระธรรมสิทธาจารย์(เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ในขณะนั้น)
    2. พระครูจันทสมนาคุณ(หลวงปู่หล้าตาทิพย์)วัดป่าตึง
    3. พระครูวงศ์วิวัฒน์(ครูบาน้อย)วัดบ้านปง
    4. พระครูสุภัทรสีลคุณ(ครูบาดวงดี)วัดท่าจำปี
    5.พระครูสีลวิมล(เจ้าคณะอำเภอสารภีขณะนั้น)


    วัดพระนอนหนองผึ้ง สร้างเสร็จสมบูรณ์ ในปี พ.ศ.2539 ใช้เวลาสร้างนาน 7 ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายกทรงเสร็จ พระราชดำเนินเปิดกุฏิล้านนา
    เมื่อปี 2537 สร้าง สะพานสาธารณะเชื่อมบ้านชมพูกับบ้านป่าแดด อ.สารภี ชื่อ สะสานครูบาผัด
    เมื่อปี 2538 ซื้อที่ดินปลูกสวนป่า ปฏิบัติธรรม
    เมื่อปี 2541 สร้างหอพระไตรปิฏก วัดศรีดอนมูล
    เมื่อปี 2544 บูรณะองค์พระธาตุเจดีย์ วัดศรีดอนมูล
    เมื่อปี 2547 สร้างเมรุ เผาศพให้หมู่บ้านศรีดอนมูล
    เมื่อปี 2549 สร้างเจดีย์ 9 คณะจารย์
    เมื่อปี 2551 สร้างศาลาเอนกประสงค์ บารมี 9 คณาจารย์ วัดศรีดอนมูลสร้างห้องน้ำ จำนวน 30 ห้อง
    เมื่อปี 2552 บูรณปฏิสังขรณ์ พระอุโบสถ และซุ้มประตูวัด
    เมื่อปี 2553 สร้างศาลาบาตร 108 ห้อง
    เมื่อปี 2554 สร้างซุ้มประตูโขงผ่า วัดศรีดอนมูล
    เมื่อปี 2556 สร้างมหาวิหารรวมใจ สามัคคีธรรม (ปัจจุบันกำลังก่อสร้างอยู่)
    เมื่อปี 2557 สร้างโรงพยาบาลสารภี บวรพัฒนา (ครูบาน้อย อุปถัมภ์) ณ หมู่บ้านศรีดอนมูล อ.สารภี จ.เชียงใหม่
    เมื่อปี 2558 สมทบทุนซื้อ อุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้กับโรงพยาบาลสารภีบวรพัฒนา
    กิจวัตรประจำวันของครูบาน้อยในปัจจุบัน
    หลับดึก ตื่นเช้า หมั่นลุกไหว้พระ สวดมนต์เช้า - เย็น เดินจงกลม เที่ยวบิณฑบาต
    03.30 น. ตื่นเช้ามาบริหารเท้าและมือ,แกว่งแขน
    04.39 น. สวดมนต์ทำวัตรเช้าและทำสมาธิพร้อมพระภิกษุสงฆ์ สามเณร
    06.30 น. เดินจงกลม
    07.00 น. ออกบิณฑบาต ทางทิศเหนือ 1 วัน ทิศใต้ 1 วัน ทุกวัน ยกเว้นวันพระเพราะถือเป็นกิจของสงฆ์ (ท่านรับบิณฑบาตทุกอย่างและมอบให้ลูกศิษย์)
    08.30 น. กลับถึงวัด ใส่บาตรบูชา ครูบาอาจารย์ภายในวัด
    09.00 น. ทำสมาธิเข้ากรรมฐาน
    10.00 น. ฉันน้ำปานะ แล้วออกโปรดญาติโยม เทศนาธรรม พร้อมปะพรมน้ำพุทธมนต์ให้พรญาติโยม
    11.00 น. ฉันภัตตาหารเพล (เจ) (วันพระไม่ฉันเพล ฉันแต่น้ำปานะ) เสร็จจากกิจออกโปรด ญาติโยม
    12.30 น. พักผ่อน ทำวัตรส่วนตัว เดินจงกลม สวดมนต์
    14.00 น. ออกโปรดญาติโยม และเทศนาธรรมพร้อมปะพรมน้ำพุทธมนต์ให้พร
    17.00 น. เดินออกกำลังกาย ตรวจดูงานก่อสร้าง เสร็จกิจแล้วสรงน้ำ
    18.00 น. ทำวัตรเย็น เจริญกรรมฐาน พร้อมพระภิกษุสงฆ์ สามเณร
    20.00 น. ให้โอวาทพร้อมอบรมจิต แก่พระภิกษุสงฆ์ สามเณร
    20.30 น. ทบทวนจิต อ่านหนังสือธรรมะ สวดมนต์ไหว้พระ เข้ากรรมฐาน
    22.00 น. จำวัด

    - ข้างขึ้นของทุกเดือนครูบาน้อยจะไปทำบุญตักบาตร พระสงฆ์สามเณร 108 รูป เป็นประจำทุกเดือน ณ หน้าอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย เชิงดอยสุเทพ เป็นระยะเวลากว่า 40 ปี และปัจจุบันก็ยังทำอยู่เรื่อยๆ
    - ครูบาน้อยเป็นพระที่ไม่ใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์สื่อสารทุกประเภทไม่ว่าจะเป็น ทีวี โทรศัพท์ (หากจะติดต่อท่านติดต่อผ่านทางกรรมการหรือลูกศิษย์เท่านั้น)

    *ท่านไม่เล่นโทรศัพท์,ไม่ดูทีวี และไม่ใช้คอมพิวเตอร์แม้แต่ที่นอนของท่านยังเป็นเตียงไม้เนื้อแข็งปูด้วยเสื่อนอนหมอนแบบหวายธรรมดาอีกด้วย

    ขอบคุณข้อมูลวัดศรีดอนมูล

    เหรียญนี้เป็นเหรียญรุ่นแรกของครูบาน้อยออกนิโรนจร์กรรมปี2543เป็นเหรียญหาอยากพอสมควร
    เหรียญนี้ให้ครูบาน้อยจารเรียบร้อยเสกอีกรอบก่อนเช่ามาครับ
    เปิดให้บูชา 1499 บาทค่าจัดส่ง 50 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF3080.JPG
      DSCF3080.JPG
      ขนาดไฟล์:
      537.7 KB
      เปิดดู:
      78
    • DSCF3081.JPG
      DSCF3081.JPG
      ขนาดไฟล์:
      541.1 KB
      เปิดดู:
      74
  2. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,188
    ค่าพลัง:
    +161
    23.ล็อกเก็ตรุ่นแรกหลวงปู่ทิพย์วัดผาลาด อ.ภูซาง จ.พะเยา
    ท่านเป็นพระสายนักปฏิบัตพระนักพัฒนาวิปัสนากรรมฐาน
    เปิดให้บูชา 999 บาทเท่าราคาจองจากวัด ค่าจัดส่ง 50 บาทด้านหลังผงพุทธคุณ
    ตะกรุดเงิน 1 ดอก หมายเลข 43 ถือว่าร่วมอนูโมธนาบุญร่วมกันครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF3086.JPG
      DSCF3086.JPG
      ขนาดไฟล์:
      305.9 KB
      เปิดดู:
      63
    • DSCF3089.JPG
      DSCF3089.JPG
      ขนาดไฟล์:
      261.7 KB
      เปิดดู:
      64
    • DSCF3088.JPG
      DSCF3088.JPG
      ขนาดไฟล์:
      318.7 KB
      เปิดดู:
      66
    • 334.jpg
      334.jpg
      ขนาดไฟล์:
      274.7 KB
      เปิดดู:
      74
    • 3333.jpg
      3333.jpg
      ขนาดไฟล์:
      420.4 KB
      เปิดดู:
      66
    • พระ11.jpg
      พระ11.jpg
      ขนาดไฟล์:
      82.4 KB
      เปิดดู:
      60
    • พระ11.jpg
      พระ11.jpg
      ขนาดไฟล์:
      82.4 KB
      เปิดดู:
      69
    • พระ45.jpg
      พระ45.jpg
      ขนาดไฟล์:
      80 KB
      เปิดดู:
      73
  3. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,188
    ค่าพลัง:
    +161
    24.พญาอิ่นแรงจริง
    อิ่นตัวนี้เป็นผงพุทธคุณด้านเมตามหานิยมด้านหลังมีตะกรุด 1 ดอก มีเม็ดพลอย 1 เม็ดสุดยอดด้านเมตามหานิยมเมตาค้าขาย
    เปิดให้บูชา 999 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF3072.JPG
      DSCF3072.JPG
      ขนาดไฟล์:
      310.3 KB
      เปิดดู:
      85
    • DSCF3073.JPG
      DSCF3073.JPG
      ขนาดไฟล์:
      375.2 KB
      เปิดดู:
      79
  4. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,188
    ค่าพลัง:
    +161
    ปิดแล้วครับ

    25.ชุดรวมรับชุดพิเศษ
    เปิดให้บูชา 699 บาท 50 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF3069.JPG
      DSCF3069.JPG
      ขนาดไฟล์:
      361.3 KB
      เปิดดู:
      84
    • DSCF3071.JPG
      DSCF3071.JPG
      ขนาดไฟล์:
      342.7 KB
      เปิดดู:
      82
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2020
  5. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,188
    ค่าพลัง:
    +161
    26. เหรียญพระพุทธ 354 เหรียญพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล จ.นราธิวาส ที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติทรงครองราชย์ครบ 60 ปี สร้างปี 2548
    พิธีใหญ่หลัง ภปร.เกจิชื่อดังปลุกเสกมากมาย
    เปิดให้บูชา 350 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF3067.JPG
      DSCF3067.JPG
      ขนาดไฟล์:
      196.3 KB
      เปิดดู:
      68
    • DSCF3068.JPG
      DSCF3068.JPG
      ขนาดไฟล์:
      205.4 KB
      เปิดดู:
      68
  6. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,188
    ค่าพลัง:
    +161
    ปิดแล้วครับ

    27.เหรียญหลวงพ่อบุญ วัดวังมะนาว หลังยันต์ดวง จ.ราชบุรี ปี2522 เนื้อทองเหลือง สภาพสวยเดิม
    เหรียญหลวงพ่อบุญ วัดวังมะนาว หลังยันต์ดวง จ.ราชบุรี ปี2522 เนื้อทองเหลือง สภาพสวยเดิม หลวงพ่อบุญนั้นท่านเป็นศิษย์เอกของ หลวงพ่อหนึ่ง แห่งวัดห้วยโรง ประสบการณ์ของท่านจะเด่ันทางด้านเมตตา แคล้วคลาดครับ วัตถุมงคลแต่ละรุ่นนั้นได้รับความนิยมทุกรุ่น เพราะประสบการณ์ล้วนๆครับ เหรียญรุ่นนี้เป็นเหรียญที่นิยมมากครับ ประสบการณ์ดี แถมยังสร้างน้อย หายากครับ
    เปิดให้บูชา 250 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF3015.JPG
      DSCF3015.JPG
      ขนาดไฟล์:
      165.1 KB
      เปิดดู:
      62
    • DSCF3017.JPG
      DSCF3017.JPG
      ขนาดไฟล์:
      183.2 KB
      เปิดดู:
      59
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2020
  7. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,188
    ค่าพลัง:
    +161
    ปิดแล้วครับ

    28.เหรียญ หลวงพ่อเงิน รุ่นช้างคู่ ปี26 ออกวัดท้ายน้ำ เหรียญกลมเล็ก สวยๆ
    เหรียญกลมเล็ก หลวงพ่อเงิน รุ่นช้างคู่ ปี26 ออกวัดท้ายน้ำ สวยๆ เป็นอีกรุ่นที่ได้รับความนิยมมากขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากรุ่นนี้ มีพิธีการจะสร้างที่ยิ่งใหญ่ พระเกจิมากมายเข้าร่วมพิธีปลุกเสก ทั้งยังมีประสบการณ์
    รุ่นจึงนี้น่าใช้น่าเก็บ อนาคตสดใสแน่นอนครับ
    เปิดให้บูชา 699 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาทเกจิสายกรรมฐานทุกสายมากมายดูรายชท่อตามรูปครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF3009.JPG
      DSCF3009.JPG
      ขนาดไฟล์:
      206.2 KB
      เปิดดู:
      63
    • DSCF3010.JPG
      DSCF3010.JPG
      ขนาดไฟล์:
      202.4 KB
      เปิดดู:
      54
    • 17[1].jpg
      17[1].jpg
      ขนาดไฟล์:
      47.4 KB
      เปิดดู:
      49
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2020
  8. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,188
    ค่าพลัง:
    +161
    29.เหรียญเม็ดแตงพระราหู มหาโชคโภคทรัพย์ เนื้อทองแดง
    พ.ศ.2562 ยิงโค๊ดหมายเลข 284
    ครูบากฤษดา สุเมโธ วัดสันพระเจ้าแดง จ.ลำพูน อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว
    ปัจจุบันวัตถุมงคลของครูบากฤษดากำลังไต่เพดานขึ้นมา แต่ละรุ่นราคาหลักร้อยแทบไม่มีให้เห็นแล้วครับ เพราะคนศรัทธาท่านเยอะทั้งคนไทย คนฮ่องกง พระส่วนมากกว่าครึ่งไปอยู่ต่างประเทศซะหมด แล้ววัตถุมงคลของท่านแต่ละรุ่นถือว่าออกมามีจำนวนน้อย มีประสบการณ์สูง คนมีก็ไม่อยากขายเก็บกันหมด รุ่นนี้เป็นอีกรุ่นที่มีประสบการณ์สูง เจตนาดี มวลสารดี ราคายังพอเก็บไหวครับเพราะจำนวนการสร้างเยอะพอสมควร ถ้าท่านใดเคยไปกราบท่านครูบากฤษดาที่วัดแล้ว ส่วนมากจะพบเจอประสบการณ์แปลกๆจากท่านกลับไปแทบทุกคน

    วันพุธที่ 30 ตุลาคม 2562 เวลาค่ำหลัง 18.00 น มีการจัดพิธีเทวาภิเศกปลุกเสกเหรียญพระราหูโพธิสัตว์ รุ่นมหาโชคโภคทรัพย์ ขึ้นมารุ่นหนึ่ง ของวัดทุ่งม่านใต้ จังหวัดลำปาง โดย คุณเกตุ ณ.เวียงพิงค์ เป็นประธานดำเนินงานจัดสร้างเพื่อมีวัตถุประสงค์บำเพ็ญสาธารณะประโยชน์ต่างๆในภาคของส่วนรวม จึงได้จัดทำเหรียญพระราหูรุ่นนี้ขึ้นมา จริงๆวัดทุ่งม่านใต้ ถ้าย้อนอดีตไปในยุค พ.ศ.24 กว่าๆในแผ่นดินล้านนายุคนั้นนอกจากครูบาเจ้าศรีวิชัยแล้ว ที่เมืองรถม้า ยังมีพระอริยะมหาเถรผู้เฒ่าที่มีความแก่กล้าทรงสมาบัติคุณธรรมของจิตอันลุ่มลึกสุขุมาล ในยุคนั้นไม่มีท่านไหนเกิน หลวงปู่ครูบานันตา แห่งวัดทุ่งม่านใต้ เมืองลำปางไปได้เลย วิชาทำเครื่องรางแขนงเอกที่โดดเด่นของท่านจนเป็นลือเรื่องถึงยุคปัจจุบันนั้น นั่นก็คือ พระราหูกะลาตาเดียว ของท่านครับ ซึ่งท่านเชี่ยวชานศาสน์วิชาแขนงนี้มาก มีเรื่องเล่าสืบๆกันมาว่า มีอยู่ครั้งหนึ่งครูบาเจ้านันตา วัดทุ่งม่านใต้ท่านก็ได้ทำพระราหูกะลาตาเดียวมอบถวายแด่ครูบาเจ้าศรีวิชัย ไปเช่นกัน เนื่องด้วยสมัยนั้นครูบาเจ้าศรีวิชัย ถูกกลั่นแกล้งใส่ร้ายต่างๆนาๆ ท่านทั้งรูปมีความสนิทเคารพนับถือในข้อวัตรปฎิบัติในแนวทางแห่งพระป่าอรัญญวาสีเหมือนกัน
    จากจุดๆนี้ จึงเป็นเหตุให้ก่อเกิด เหรียญพระราหู รุ่นนี้ขึ้นมา เพื่อยกย่องบูชาคุณของอดีตพ่อแม่ครูบาอาจารย์นามรูปท่านว่า "หลวงปู่ครูบาเจ้านันตา นันโท" ผู้เลิศคุณแห่งเมืองลำปางในยุคนั้น และรุ่นนี้ทางคณะผู้จัดสร้างโดยคุณเกตุ ณ.เวียงพิงค์ จึงปรึกษาหารือกันว่าแล้วพระสงฆ์ที่จะมาเป็นผู้อธิษฐานธรรมอัญเชิญสถิตตั้งมั่นในเหรียญพระราหูรุ่นนี้ ว่าสมควรจะเอาท่านไหนดีในยุคปัจจุบัน ตามที่ตกลงในคณะมีมติว่า ให้กราบอาราธนานิมนต์ พระอาจารย์กฤษดา สุเมโธ แห่งเมืองลำพูน ซึ่งเป็นพระภิกษุไทยยองแห่งเมืองบ้านธิ มาเป็นผู้อธิษฐานจิตปลุกเสกเหรียญพระราหู รุ่นนี้เหมาะสมที่สุด ดังนั้นทางคณะนำโดย คุณเกตุ ณ.เวียงพิงค์ จึงเข้ากราบขออาราธนา พระอาจารย์กฤษดา สุเมโธ โดยขอคำปรึกษาและแจ้งวัตถุประสงค์ของการจัดทำเหรียญพระราหูครูบานันตา ชุดนี้ขึ้นมา ทุกๆอย่างลงตัว เมื่อพระอาจารย์กฤษดา สุเมโธ รับนิมนต์เป็นประธานอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว พิธีเทวาภิเศกวัดทุ่งม่านใต้ จังหวัดลำปาง และกระนั้นเป็นจังหวะดีที่ พระอาจารย์กฤษดา สุเมโธ จะรับนิมนต์อธิษฐานจิตเดี่ยวเป็นงานสุดท้าย และท่านให้สัจจะว่าจะไม่รับไปงานพิธีใดๆข้างนอกวัดถ้านิมนต์ท่านอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวอีกทั้งคณะศิษย์ก็ขอนิมนต์ท่านตรงนี้ด้วย เพราะกลัวคนนำชื่อท่านไปแอบอ้างว่าวัตถุมงคลเหล่านี้ยัดเป็นของพระอาจารย์กฤษดา สุเมโธ จึงต้องป้องกันไว้ จึงเป็นความโชคดีจังหวะที่เหมาะสมเลยทีเดียว ที่เหรียญพระราหู ครูบานันตา วัดทุ่งม่านใต้ จึงเป็นรุ่นพิเศษ ปิดสุดท้าย ที่พระอาจารย์กฤษดา สุเมโธ ได้รับเมตตาอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว นอกวัดให้ในครั้งนี้ และ คงไม่มีอีกแล้วครับแบบนี้ รุ่นนี้ปัจจุบันกลับเป็นที่หวงแหนนิยมของคนในพื้นที่แม้นแต่ชาวต่างชาติก็ให้ความนิยมป็นอย่างมากทุกๆอย่างลงตัว เจตนา รูปแบบ มวลสาร พิธีกรรม และพระภิกษุผู้อธิษฐานจิต
    ถามตอบในวันพุทธาภิเษก

    ศิษย์ก้นย่าม : พระอาจารย์ครับ ในวันงานพิธีเทวาภิเศกเหรียญพระราหู ที่วัดทุ่งม่านใต้เป็นอย่างไรบ้างครับท่าน

    พระอาจารย์กฤษดา : อ่อๆ เหรียญราหูประภาจมจื่น(ชุ่มชื่นสุขสว่างใจ) ที่โยมเกตุเขาทำรึ พิธีเขาจัดดีเลยทีเดียวถูกตามแบบอยู่

    ศิษย์ก้นย่าม : ครับ ปรกติ การปลุกเสกราหู เขาจะทำกันในช่วงเกิดจันทรคลาสราหูอมจันทร์ไม่ใช่เหรอครับท่าน แต่นี่วันข้างขึ้นปรกติๆ นี่ครับ

    พระอาจารย์กฤษดา : กบกินเดือน(ราหูอมจันทร์) เกิดขึ้นทุกๆวันในโลกธาตุเรานี้ อย่างไปยึดติดอะไรมากมายเลย ควรเอาสติเราจับที่ตัวเจตนาเถอะมงคลกว่า เรื่องราหูอมจันทร์อมเจินอะไรๆนั้นนะ บังคับหนุนธาตุตั้งให้เกิดเป็นนิมิตรดั่งราหูอมจันทร์สมมุติขึ้นแทนในขณะพิธีนั้นเอาก็ได้ จริงคือเท็จเท็จคือจริง เลยจริงเลยเท็จ นั้นแหละคือ สิ่งแท้ อันเกิดแต่ในจิตตน อย่าไปอะไรมากมายเลย แผ่เมตตาธรรมไปเถอะ

    ศิษย์ก้นย่าม : สาธุครับพระอาจารย์ ศิษย์เข้าใจในการสร้างตั้งธาตุนิมิตรสมมุติราหูอมจันทร์ในขณะพิธีแล้วครับ ท่านครับแล้วหลวงปู่ครูบานันตา ท่านมาร่วมแผ่เมตตาในพิธีวันนั้นไหมครับ

    พระอาจารย์กฤษดา : ถ้าในใจพี่น้องคณะศรัทธาชาวบ้านวัดทุ่งม่านใต้ในคืนนั้นมั่นใจ ว่า จิตญานของครูบาเจ้านันตา นันโท มาร่วมแผ่เมตตาสงเคราะห์พิธีเสกเหรียญพระราหูในนั้น ว่า หลวงปู่ครูบาเจ้านันตา ว่าท่านมาจริง เราก็ควรเคารพในความศรัทธาจิตของชาวบ้านนั้นๆ

    ศิษย์ก้นย่าม : สาธุครับผมเชื่อว่าท่านมาครับ ตอนนี้ครูบาเจ้านันตา ท่านสถิตอยู่ที่ไหนครับ

    พระอาจารย์กฤษดา : ได้ยินมาอีกทีว่าเมืองบน สัก กัง โล กัง

    ขอบคุณข้อมูล..ศิษย์ก้นย่าม : สาธุๆครับ

    เปิดให้บูชา 1399 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาทเป็นแหวนสั่งทำครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF3116.JPG
      DSCF3116.JPG
      ขนาดไฟล์:
      204.2 KB
      เปิดดู:
      87
    • DSCF3110.JPG
      DSCF3110.JPG
      ขนาดไฟล์:
      186.2 KB
      เปิดดู:
      77
    • DSCF3111.JPG
      DSCF3111.JPG
      ขนาดไฟล์:
      171 KB
      เปิดดู:
      75
    • DSCF3112.JPG
      DSCF3112.JPG
      ขนาดไฟล์:
      173.8 KB
      เปิดดู:
      74
    • DSCF3114.JPG
      DSCF3114.JPG
      ขนาดไฟล์:
      153.4 KB
      เปิดดู:
      79
    • DSCF3118.JPG
      DSCF3118.JPG
      ขนาดไฟล์:
      174.6 KB
      เปิดดู:
      80
  9. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,188
    ค่าพลัง:
    +161
    ปิดแล้วครับ

    30.ตะกรุดตะกั่วเก่า
    ปิดให้บูชา499บาท ค่าจัดส่ง 50 บาทขนาดยาว 3 นิ้วไม่ยัดเกจิครับมีจารแน่นอนครับด้านในตะกรุด
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF3100.JPG
      DSCF3100.JPG
      ขนาดไฟล์:
      54.2 KB
      เปิดดู:
      57
    • DSCF3101.JPG
      DSCF3101.JPG
      ขนาดไฟล์:
      105.7 KB
      เปิดดู:
      56
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2020
  10. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,188
    ค่าพลัง:
    +161
    ปิดแล้วครับ
    31.เหรีญญหลวงปู่คร่ำวัดวังหว้าเหรียญหลวงปู่ทวดวัดพระโค๊ะ
    เปิดให้บูชา299บาทค่าจัดส่ง 50 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF3104.JPG
      DSCF3104.JPG
      ขนาดไฟล์:
      237.2 KB
      เปิดดู:
      62
    • DSCF3108.JPG
      DSCF3108.JPG
      ขนาดไฟล์:
      218.9 KB
      เปิดดู:
      67
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2020
  11. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,188
    ค่าพลัง:
    +161
    ปิดแล้วครับ

    23.พระนาคปรกใบมะขามรุ่น๑ หลวงพ่อกวย ชุตินธโร ออกวัดซับลำใย อาจารย์ตั้วสร้าง หลวงปู่หมุน หลวงปู่ละมัย ร่วมศก พิธีเสาร์๕บูชาครู-พิธีสมปรารถนา ปี43 หายากครับ ตอกโค๊ดชัดเจน
    เหรียญปรกมะขาม หลวงพ่อกวย หลวงปู่หมุน
    พิธีเสาร์๕บูชาครู-พิธีสมปรารถนา

    สุดยอดพิธีเสาร์ห้าบูชาครู หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล อายุ 105 ปี
    ยอดพระเกจิอาจารย์ 5แผ่นดิน
    พิธีพุทธาภิเษก 5 ครั้งดังนี้
    ครั้งที่ 1 ทำพิธีเททองหล่อพระรูปเหมือน,รูปหล่อพิมพ์เบ้าทุบ ครอบน้ำพุทธมนต์ รูปหล่อครึ่งซีกที่ติดข้างขันน้ำมนต์ หลวงปู่หมุนอธิษฐานจิตเดี่ยวและเป็นประธานเททองที่ วัดป่าหนองหล่ม สระแก้ว เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2543
    ครั้งที่ 2 ทำพิธีพุทธาภิเษกที่อุโบสถ วัดสุทัศน์ 16 มีนาคม 2543
    โดยมีหลวงปู่ละมัย วัดโพธิ์เย็น เพชรบูรณ์ (อายุ 101 ปี),หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน ลพบุรี,หลวงปู่หลุย วัดราชโยธา,หลวงปู่ผล วัดโนนทอง ลพบุรี,หลวงพ่อจันทร์ วัดนางหนู หลวงพ่อสินธิ์ชัย วัดโพธิ์เย็น เพชรบูรณ์,หลวงพ่อถนอม คณะ 2 วัดสุทัศน์ฯในวันพิธีพุทธาภิเษกนั้นในเวลา 02.30 น.ของวันพิธีพุทธาภิเษกเสาร์ 5
    ครั้งที่ 3 เสาร์ 5 วัดป่าหนองหล่ม วันที่ 8 เมษายน 2543 หลวงปู่หมุน เป็นประธานพิธีร่วมกับหลวงปู่กอง อายุ 102 ปี วัดสระมณฑล อยุธยา,หลวงปู่ละมัย วัดโพธิ์เย็น เพชรบูรณ์ อายุ 101 ปี หลวงพ่อสมจิตร(อิน) วัดบ้านด่าน ศิษย์เอกหลวงพ่อเอีย และ หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน พระเกจิอาจารย์ผู้อยู่เหนือกาลเวลา นักบุญแห่งบ้านละล่ม จังหวัดบุรีรัมย์ มาอธิษฐานจิตตั้งกสิณไฟ ปลุกเสกเดี่ยวก่อนในเวลาตี 3 กว่าเพื่อเป็นปฐมฤกษ์ แล้วท่านก็ได้กลับไปในเวลา 04.30โดยประมาณ เป็นที่ปลาบปลื้มแก่ผู้ที่อยู่ร่วมอยู่ในพิธีในขณะนั้น จากนั้นเมื่อถึงเวลาฤกษ์พิธีพุทธาภิเษกล.ป.หมุน ก็ได้จุดเทียนชัยมงคลนำฤกษ์ และได้เริ่มกำหนดจิตอธิฐานปลุกเสก โดยในพิธีนี้ได้มีพระเกจิอาจารย์ร่วมในพิธีพุทธาภิเษก ทั้งสิ้น 4 ท่านโดยได้ประจำทิศทั้ง4ทิศ อันประกอบด้วย - ล.ป.หมุน วัดบ้านจาน โดยขณะนั้นท่านได้จำพรรษาอยู่ที่วัดป่าหนองหล่ม -ล.ป.ละมัย สำนักสวนสมุนไพร จ.เพชรบูรณ์ ผู้สำเร็จวิชาปรอท และโด่งดังมาก ในวิชาสมุนไพรและวิชาปรอท -ล.ป.กอง วัดสระมณฑล จ.อยุธยา พระเกจิผู้แตกฉานและสืบทอดวิชาทำตะกรุดและวัตถุมงคลต่างๆสายวิชา วัดประดู่ในทรงธรรม สำนักตักศิลา แห่งเมืองเก่าอยุธยา -ล.พ.สมจิตร วัดบ้านด่าน ศิษย์เอก ล.พ.เอีย วัดบ้านด่าน เทพเจ้าแห่งเมืองหน่อไม้ไผ่ตรง ผู้สืบทอดวิทยาอาคมทุกๆด้านจากล.พ.เอีย จนหมดไส้หมดพุง
    ครั้งที่ 4 ที่วัดซับลำใย ในวันที่ 9 เมษายน 2543 ทำพิธีพุทธาภิเษก โดยหลวงปู่หมุน อธิษฐานปลุกเสกตั้งธาตุ หนุนธาตุ ชักยันต์ ครอบมณฑลพิธีอย่างตั้งใจ
    ครั้งที่ 5 วัดสุทัศน์ฯ ในวันอาทิตย์ที่ 30 เมษายน เวลา 09.19 ที่อุโบสถวัดสุทัศน์ฯ

    และพิธี "มหาสมปรารถนา"
    เพื่อสมทบทุนสร้าง ศาลาเทิดพระเกียรติฯ วัดซับลำไยสามัคคีธรรม ต.ซับจำปา อ.ท่าหลวง จ.ลพบุรี
    ปลุกเสกใหญ่ที่วัดซับลำไย วันที่ 5 พฤศจิกายน 2543 และวัดระฆังโฆสิตาราม วันที่ 10 ธันวาคม 2543
    โดยพระอาจารย์ สมุห์ภาสน์ มงคลสงโฆ ศิษย์เอกของหลวงพ่อกวย ชุตินธโร ผู้บุกเบิกสร้าง วัดซับลำไย จนมีที่ดินของวัดเกือบร้อยไร่ สร้างวิหารถวายหลวงพ่อกวย ผู้เป็นอาจารย์ จนใกล้เสร็จ และได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล จนได้รับความเมตตาจากหลวงปู่หมุนหลาย ๆ อย่าง และด้วยความกตัญญูในครูบาอาจารย์ หลวงปู่หมุน ที่พระอาจารย์ให้ความเคารพมาก ในวันที่ 3 กันยายน 2543 ที่วัดซับลำใยจะได้ทำพิธีเททอง เบิกฤกษ์ สร้างรูปหล่อหลวงปู่หมุน เท่าองค์จริงขึ้น พร้อมสร้างพระกริ่ง วัตถุมงคลอื่น ๆ ในเอกลักษณ์ของหลวงปู่หมุน ตามที่หลวงปู่หมุน ท่านได้กล่าวกับพระอาจารย์สมุห์ภาสน์ ผู้เป็นศิษย์ก่อนสร้างวัตถุมงคลรุ่นมหาสมปรารถนาว่า……

    “ นี่คุณสมุห์ภาสน์ ฉันจะอนุญาตให้คุณ ได้สร้างวัตถุมงคลของฉัน เพราะฉันเห็นแก่คุณสมุห์ฯ ที่สร้างวิหารเทิดพระเกียรติยังไม่เสร็จ อีกอย่างคุณสมุห์ฯ อยู่เบื้องหลังสร้างพระให้คนอื่นเขาสำเร็จมามากแล้ว ถึงตัวเองบ้างก็ยังไม่ทำอะไรขึ้น ”

    หลวงปู่หมุนกล่าวเมื่องานยกช่อฟ้า วิหารที่วัดซับลำใย ซึ่งในตอนนั้น พระอาจารย์สมุห์ภาสน์ ก็ได้กราบเรียนหลวงปู่หมุน ไปว่า “หลวงปู่ขอรับ กระผมไม่มีเงินทุนพอที่จะจัดสร้างวัตถุมงคลต่าง ๆ ตามที่หลวงปู่เมตตาแนะนำให้เลยขอรับ “มีซิฉันจะให้เธอสมปรารถนาทุกอย่างนั่นแหละ” (หลวงปู่หมุนกล่าวอย่างมั่นใจ) และนี่คือเป็นที่มาของการจัดสร้างวัตถุมงคลของหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล พระผู้มีประกาศิตต่าง ๆ ในตัว

    ทุกวันนี้วัตถุมงคลที่ท่านปลุกเสก เป็นของล้ำค่าที่คนแสวงหากัน
    วาจาสิทธิ์ของหลวงปู่หมุน ที่ได้กล่าวไว้ก่อนละสังขาร
    ซึ่งลูกศิษย์และชาวบ้านต่างจดจำได้ติดหู คือ
    ของๆฉันสร้างเองกับมือ ใครมีไว้บูชาจะหมุนโชคลาภร่ำรวยตลอดเวลา ทำมาค้าขึ้น ไม่มีวันจน ประกอบสัมมาอาชีพใดก็รุ่งเรือง
    เจริญลาภยศสรรเสริญ จะมีชื่อเสียงหอมขจรขจาย
    ขอให้เป็นคนดี คิดดี ทำดี ละเว้นชั่ว คุณพระจะรักษา เทวดาจะคุ้มครอง แม้นว่าฉันจะตายไป ของๆ ฉันจะขลังกว่านี้อีกหลายร้อยเท่า
    น้ำลาย ไอปาก ลมปราณ ที่ประจุลงไปด้วยพลังจิตอันเข้มขลังของฉัน ย่อมเป็นหนึ่งบ่เป็นสอง เป็นองค์พระที่ดีทั้งนอก ดีทั้งใน
    ฝากไว้ในแผ่นดิน ให้เลื่องชื่อลือนาม ลือเลื่องถึงเมืองแมน
    เปิดให้บูชา 1299 บาทค่าจัดส่ง 50 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF3163.JPG
      DSCF3163.JPG
      ขนาดไฟล์:
      158.1 KB
      เปิดดู:
      73
    • DSCF3162.JPG
      DSCF3162.JPG
      ขนาดไฟล์:
      183.6 KB
      เปิดดู:
      76
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2020
  12. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,188
    ค่าพลัง:
    +161
    24.พระกริ่งมงคลหลวง มหามงคลแห่งแผ่นดิน หลวงพ่อสายทอง
    ชื่อพระเครื่อง พระกริ่งมงคลหลวงโภคทรัพย์ มหามงคลแห่งแผ่นดิน หลวงพ่อสายทอง เตชะธัมโม วัดป่าห้วยกุ่ม จ.ชัยภูมิ รายละเอียด พระกริ่งมงคลหลวงโภคทรัพย์ มหามงคลแห่งแผ่นดิน หลวงพ่อสายทอง เตชะธัมโม วัดป่าห้วยกุ่ม จ.ชัยภูมิ ผู้มีบารมีพลิกชะตาหนุนดวง เปลี่ยนดวงชะตาจากร้ายให้กลายเป็นดี สุดยอดพลังธรรมแห่งจิตบริสุทธิ์ของพระอรหันต์ยุคสุดท้ายปลายแดน ท่านหลวงพ่อสายทอง เตชะธัมโม และพลังธรรมแห่งทายาท...เทพเจ้าลุ่มแม่น้ำโขงหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ สู่พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ พระกริ่งจักรพรรดิ์มงคลหลวงนั้นหมายถึง ผู้ประเสริฐดับเสียซึ่งกิเลสจักนำความเจริญที่ยิ่งใหญ่ให้แก่ผู้เป็นใหญ่เหนือผู้ใดอย่างยิ่ง การสร้างพระกริ่งจักรพรรดิ์มงคลหลวงโภคทรัพย์ เพื่อเชิดชูเกียรติบารมีของพระพุทธเจ้า ที่มีความสวยงามที่สุดองค์หนึ่งในสยามเปี่ยมล้นด้วยลักษณะ ที่มีคุณค่าสูงส่งในแผ่นดินสยาม ซึ่งได้รับเมตตาจิตอธิษฐานจิตเดี่ยวโดยพระอรหันต์ยุคปัจจุบันนามหลวงพ่อสายทอง เตชะธัมโม ผู้มีบารมีใหญ่..ที่เป็นสุดยอดพลังจิตบริสุทธิ์แห่งสายวิปัสสนาจารย์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และมีการพิธีบรวงสรวงและอธิษฐานจิตโดยพระเกจิ พระวิปัสสนาผู้ทรงพลังล้ำเลิศ โดยพระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ เจ้าพิธีและเข้าพิธีอธิษฐานจิตโดยพระเกจิผู้ทรงพลังจิตตานุภาพสูง ณ วัดป่าวังน้ำเย็น อ.เมือง จ.มหาสารคาม ที่สืบสานพลังธรรมพลังจิตแห่งพระคาถาเวทวิทยาคมที่สืบทอดมาจากเทพเจ้าลุ่มแม่น้ำโขงนามหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ จึงเป็นพลังแห่งอานุภาพที่เข้มขลังยิ่งใหญ่แห่งยุค
    เปิดให้บูชา 399 บาทค่าจัดส่ง 50 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF3122.JPG
      DSCF3122.JPG
      ขนาดไฟล์:
      171.5 KB
      เปิดดู:
      60
    • DSCF3125.JPG
      DSCF3125.JPG
      ขนาดไฟล์:
      207.3 KB
      เปิดดู:
      60
  13. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,188
    ค่าพลัง:
    +161
    25.เหรียญครูบาพรหมา ( ครูบาพรหมจักรสังวร ) วัดพระพุทธบาทตากผ้า จ.ลำพูน ปี2519
    เนื้อทองแดงรมดำ เหรียญสวย ๆ เดิม ๆ ค่ะ

    เหรียญนี้ออกให้เป็นที่ระลึกในคราวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

    ทรงเสด็จพระราชดำเนิน ผูกพัทธสีมา ณ วัดพระพุทธบาทตากผ้า ในปี 2519

    ท่านครูบาพรหมจักร ท่านพร่ำสอนลูกศิษย์ลูกหาให้อยู่ในศีลธรรม

    จัดตั้งสำนักโรงเรียนพระปริยัติ นักธรรมบาลี

    จัดตั้งสำนักปฏิบัติธรรมวิปัสสนากัมมัฏฐาน

    พัฒนาวัดพระพุทธบาทตากผ้าให้เจริญรุ่งเรือง

    จนได้รับการยกย่องว่าเป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง

    ที่มีความสำคัญทางศาสนาแห่งหนึ่งของจังหวัดลำพูน

    และด้วยการสั่งสมบุญบารมี คุณงามความดีของท่านนี้เอง

    ทำให้ท่านได้รับความเคารพศรัทธาจากพระภิกษุสงฆ์ สามเณร

    อุบาสก อุบาสิกา เหล่าบรรดาลูกศิษย์ และประชาชนทั่วไป

    พระครูบาเจ้าพรหมา พรหมจักโก ทรงไว้ซึ่งคุณแห่งพระสุปฏิปันโน

    พระอริยสงฆ์ ผู้มีความบริสุทธิ์ ปราศจากกิเลสโดยสิ้นเชิง

    มีจริยาวัตรอันงดงาม มีวัตรปฏิบัติเคร่งครัด มีปฏิปทาอันอุดมและมั่นคง

    บำเพ็ญสมณธรรมอยู่เนืองนิจ คือผู้นำประโยชน์ความสุข ความสงบให้เกิดแก่หมู่คณะ

    ทรงไว้คือสังฆรัตนะคุณควรบูชาสักการะแก่มนุษย์และเทวดาทั้งหลาย
    เปิดให้บูชา 399 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF3148.JPG
      DSCF3148.JPG
      ขนาดไฟล์:
      184.5 KB
      เปิดดู:
      67
    • DSCF3152.JPG
      DSCF3152.JPG
      ขนาดไฟล์:
      186.2 KB
      เปิดดู:
      62
  14. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,188
    ค่าพลัง:
    +161
    ปิดแล้วครับ
    26.ลูกอมผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ บรอนซ์ฝุ่น
    ลูกนี้สวยขนาดพอดี
    เปิดให้บูชา 1999 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาททำสามห่วงเงินสั่งทำ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF3184.JPG
      DSCF3184.JPG
      ขนาดไฟล์:
      197.6 KB
      เปิดดู:
      79
    • DSCF3185.JPG
      DSCF3185.JPG
      ขนาดไฟล์:
      193.9 KB
      เปิดดู:
      70
    • DSCF3186.JPG
      DSCF3186.JPG
      ขนาดไฟล์:
      193.2 KB
      เปิดดู:
      66
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 เมษายน 2020
  15. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,188
    ค่าพลัง:
    +161
    ปิดแล้วครับ
    27.เหรียญกลมหลังปลาตะเพียน หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ปี ๒๔๙๙
    เหรียญนี้สวยเดิมๆนับเป็นเหรียญที่หายากเหรียญหนึ่งของหลวงพ่อจงครับ
    เปิดให้บูชา ข้อความมาสอบถาม หรือโทร 0842073751 ประกันแท้ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF3164.JPG
      DSCF3164.JPG
      ขนาดไฟล์:
      231.1 KB
      เปิดดู:
      69
    • DSCF3165.JPG
      DSCF3165.JPG
      ขนาดไฟล์:
      240.8 KB
      เปิดดู:
      64
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 เมษายน 2020
  16. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,188
    ค่าพลัง:
    +161
    28.ล็อกเก็ตหลวงพ่อโหน่งวัดคลองมะดันหลังผงยา
    เปิดให้บูชา 999 บาท ค่าจัดส่ง 50บาทองค์นี้พิเศษหลังเป็นผงยาครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF3153.JPG
      DSCF3153.JPG
      ขนาดไฟล์:
      197.7 KB
      เปิดดู:
      68
    • DSCF3155.JPG
      DSCF3155.JPG
      ขนาดไฟล์:
      161.8 KB
      เปิดดู:
      73
  17. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,188
    ค่าพลัง:
    +161
    ปิดแล้วครับ
    29. เหรียญ3มต.หลวงพ่อเกษมเนื้อทองแดงสวยครับ
    เปิดให้บูชา 650 บาทค่าจัดส่ง 50 บาทสวยเดิมๆ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF3140.JPG
      DSCF3140.JPG
      ขนาดไฟล์:
      304.3 KB
      เปิดดู:
      52
    • DSCF3141.JPG
      DSCF3141.JPG
      ขนาดไฟล์:
      226.5 KB
      เปิดดู:
      49
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 เมษายน 2020
  18. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,188
    ค่าพลัง:
    +161
    เหรียญจริงสวยทุกเหรียญถ่ายรูปแบบไม่ได้แต่งครับขอบคุณสำหรับท่านที่โทรสอบถามครับผม
     
  19. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,188
    ค่าพลัง:
    +161
    บูชาทุกองค์มีของแถมให้ครับ
     
  20. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,188
    ค่าพลัง:
    +161
    ปิดแล้วครับ

    30.พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่าพิมพ์สามเหลี่ยมกรุวัดมหาธาตุ
    ทั่วประเทศไทยจะพบพระโบราณที่มีอายุมากๆ หลายร้อยปี ซึ่งพบตามกรุต่างๆ ทั่วไปนั้น เห็นจะมีอยู่ก็เพียงจังหวัดเดียว คือ จ.พิจิตร ที่สร้างพระเครื่องลงกรุไว้ด้วยพิมพ์ “เล็กจิ๋วที่สุด และฤทธิ์แรงที่สุด” ในด้านอยู่ยงคงกระพัน นั่นก็คือ พระพิจิตร พิมพ์ต่างๆ เช่น พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า ที่ได้นำเสนอในตอนที่แล้ว...พระกู้ชาติ คู่ ๒ มหาราชของไทย ถึงเรื่องเล่าขานกันมาจากสมัยเก่าก่อนว่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงอาราธนาพระเครื่องของเมืองพิจิตรติดพระองค์ตลอดเวลาขณะทรงออกศึก โดยทรงติดไว้ที่พระมาลา พระที่ดุจดั่งเพชรน้อยเม็ดงามพิมพ์ “เม็ดข้าวเม่า” นี้คือ พระชัยมาลา
    พระเมืองพิจิตร มีการขุดพบจำนวนมากมายเกือบร้อยพิมพ์ ความจริงแล้วมิใช่จะมีแต่เพียงพิมพ์เล็กจิ๋วดังกล่าวทั้งหมด พระซึ่งพบที่เมืองพิจิตรมีตั้งแต่ใหญ่เกือบเท่าฝ่ามือก็มี (พระแผง) และที่เล็กลงไปเป็นลำดับจนถึงขนาดจิ๋วก็มีมาก กล่าวได้ว่า พระเมืองพิจิตรคงจะมี “พิมพ์” มากมายกว่าเมืองอื่นๆ อย่างน้อยก็ประมาณได้เทียบเคียงเมืองอยุธยา แต่ที่มีขนาดเล็กจิ๋ว จะมีมากกว่าพระของทุกๆ เมือง ซึ่งมีประมาณร่วม ๒๐ พิมพ์ และเท่าที่สืบค้นชื่อต่างๆ ตามแบบพุทธลักษณะขององค์พระ และเป็นชื่อที่วงการพระเรียกขานกันมานานถึงร่วมร้อยปีมาแล้วทั้งสิ้น เช่น พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า, พระพิจิตรเม็ดน้อยหน่า, พระพิจิตรวัดนาคกลาง, พระพิจิตรเกศคด, พระพิจิตรหน้าจั่ว, พระพิจิตรชินราช, พระพิจิตรหลังลายผ้า, พระพิจิตรนาคปรก, พระพิจิตรยอดโถ,พระพิจิตรเม็ดแตง, พระพิจิตรใบมะขาม, พระพิจิตรผงดำ, พระพิจิตรข้างเม็ด, พระพิจิตรกลีบบัว, พระพิจิตรป้อม, พระพิจิตรบ้านกล้วย, พระพิจิตรหน้าโหนก...เหล่านี้ล้วนแต่เป็นพระขนาดจิ๋ว และขนาดเล็ก ซึ่งแต่ละองค์ชวนให้พกติดกายคล้องคอบูชายิ่งนัก โดยเฉพาะสุภาพสตรีเหมาะสมมากเพราะขนาดเล็กกะทัดรัดน่ารักมาก และมีน้ำหนักเบาสบาย
    พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า เป็นพระเครื่องที่มีลักษณะคล้ายกับเม็ดข้าวเม่ามาก จึงเรียกว่า “พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า” มีขนาดเล็กมาก ตั้งแต่ ๕x๘ มม. จนถึงขนาด ๑๐x๑๕ มม.
    ลักษณะบางองค์ปลายเกือบแหลมก็มี บางองค์ทรงรีหัวท้ายมนเกือบจะเป็นทรงกลมเลยก็มี วงการพระก็ยังเรียกชื่อว่า “พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า” เช่นกัน
    พระพิมพ์นี้ที่พบเห็นแต่ละกรุไม่เหมือนกัน เช่น บางกรุทำเป็นพระประทับนั่งปางสมาธิ และปางมารวิชัยก็มีแต่หายาก ฐานประทับมีทั้งแบบฐานเดียวและ ๒ ชั้น หรือไม่มีฐานเลยก็มี โดยเฉพาะพระเกศจะมีทั้งแบบเกศคด เกศบิด และเกศตรง มีทั้งศิลปะสุโขทัย, อู่ทอง, และอยุธยา เป็นพระเครื่องที่มีอายุเก่ากว่า ๖๐๐ ปีขึ้นไป

    พระพิมพ์ “เม็ดข้าวเม่า” จึงมีพิมพ์ลักษณะต่างๆ อย่าง หลากหลายแบบให้พบเห็นในวงการพระทั่วไป พระพิมพ์นี้แบบหนึ่งที่พบเห็นน้อยมากในสนามพระ คือ พระพิจิตรหน้าจั่ว กรุวัดมหาธาตุ นักสะสมบางคนแทบไม่รู้จักพระพิมพ์นี้เลยก็มี นับเป็นพระที่มีพิมพ์แปลกกว่าพิมพ์เม็ดข้าวเม่าอื่นๆ ที่ส่วนมากมักจะมีรูปทรงรีแบบคล้ายมนกลม แต่พิมพ์พระกลับมีลักษณะเป็นรูปทรงสามเหลี่ยมแบบหน้าจั่ว จึงมีนักสะสมรุ่นเก่าๆ บางท่านนิยมเรียกกันติดปากแบบง่ายๆ ว่า พระพิจิตรสามเหลี่ยม

    พุทธลักษณะ พระพิจิตรสามเหลี่ยม เป็นพระรูปทรงหน้าจั่ว สร้างด้วยเนื้อชินเงิน ขนาด ๑๐x๑๓ มม. องค์พระประทับนั่งแบบพิมพ์สมาธิบนฐานแบบเรียบตรงชั้นเดียว มีช่องว่างห่างกันพอควรให้เห็นระหว่างพระเพลาและฐานรองรับ ทำให้ทรวดทรงองค์พระแลเห็นเด่นสง่าสวยงาม พระเกศลักษณะแบบทรงสูงเป็นเส้นขีดยาวชี้ตรงขึ้นด้านบน
    ด้านหลังองค์พระจากภาพ มีจุดลายผ้าแบบห่างๆ ปรากฏให้เห็นเต็มแผ่นหลังของพระ
    ส่วนด้านพุทธคุณขององค์พระพิมพ์นี้ ดีเด่นด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี ซึ่งประสบการณ์มีให้พบเห็นกันมาแล้วมากราย จนพระพิมพ์นี้และพิมพ์ขนาดจิ๋วอื่นๆ ของเมืองพิจิตร...ได้มีชื่อเสียงดังเหมือนพลุแตกมาแล้ว จนเป็นที่ยอมรับมาช้านาน และเป็นที่ต้องการของนักสะสมพระอย่างกว้างขวาง

    เปิดให้บูชา 1299 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาทสวยเดิมๆองค์นี้ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF3158.JPG
      DSCF3158.JPG
      ขนาดไฟล์:
      119.5 KB
      เปิดดู:
      124
    • DSCF3159.JPG
      DSCF3159.JPG
      ขนาดไฟล์:
      151.7 KB
      เปิดดู:
      118
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มิถุนายน 2020

แชร์หน้านี้

Loading...