สายพระป่าพระกรรมฐานพระทั่วไปเครื่องรางของขลัง

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย wasan112, 29 มกราคม 2020.

แท็ก: แก้ไข
  1. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,285
    ค่าพลัง:
    +161
    ปิดแล้ว

    พระผงมงคล3รูปหล่อยืนหลวงพ่อเกษม
    เปิดให้บูชา 599 บาทค่าจัดส่ง 50 บาทครับ

    IMG_25670116_174933.jpg IMG_25670116_174946.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มกราคม 2024
  2. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,285
    ค่าพลัง:
    +161
    พระผงของขวัญหลวงพ่อเกษมปี37
    มีจีวรด้านหน้า ด้านหลังมี ตะกรุด กับพลอยแดงครับ
    เปิดให้บูชา องค์ละ399 บาทค่าจัดส่ง 50 บาทครับ

    IMG_25670116_174851.jpg IMG_25670116_174906.jpg IMG_25670116_174916.jpg
     
  3. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,285
    ค่าพลัง:
    +161
    ดาวนายพลยุคต้นครูบาผินะวัดสนมลาว
    เปิดให้บูชา1999 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาทสร้างน้อยมากหายากครับ

    IMG_25670116_174958.jpg IMG_25670116_175006.jpg
     
  4. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,285
    ค่าพลัง:
    +161
    IMG_25670125_150207.jpg IMG_25670125_150224.jpg IMG_25670125_150235.jpg ** พระผงมงคลเกษม ๓ (ชัยลาภ) มหามงคล ๘๔ เป็นพระผงที่ถอดพิมพ์มาจาก พระผงมงคลเกษม ๒ หลวงพ่อเกษม เขมโก (พระผงรุ่นนี้แกะแม่พิมพ์โดย นายช่างเกษม มงคลเจริญ จัดสร้างโดยสุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง โดยมีมวลสารเดียวกันกับ พระผงมงคลเกษม ๑ และ ๒ คือ มีข้าวก้นบาตรของ หลวงพ่อเกษม เป็นมวลสารหลัก จัดสร้างในปี ๒๕๓๘ วัตถุมงคลรุ่นนี้มีรายละเอียดอยู่ในหนังสือ ชีวประวัติ รวมภาพ หลวงพ่อเกษม ๑๐๘ ภาพ และที่พิเศษ คือ ใต้ฐาน พระผงมงคลเกษม ๓ ได้บรรจุตะกรุดเงินไว้ ๒ ดอก ทุกองค์ เรื่องพุทธคุณไม่ต้องพูดถึง ไม่แตกต่างจาก พระผงมงคลเกษม ๑ และ พระผงมงคลเกษม ๒ เลย...หลวงพ่อเกษม เขมโก ท่านละสังขารเมื่อวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๓๙ สิริรวมอายุ ๘๔ ปี นับได้ว่า ท่านเป็นพระอริยสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตลอดชีวิต จนได้รับความเคารพศรัทธาจากชาวไทยทั้งประเทศ พระผงมงคลเกษม ๓ รุ่นนี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กุมภาพันธ์ 2024
  5. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,285
    ค่าพลัง:
    +161
    งบน้ำอ้อยย้อยยุคหลวงพ่อเนียมพร้อมเลี่ยมเงิน
    เปิดให้บูชา 999 บาทค่าจัดส่ง 50 บาทครับ
    IMG_25670125_114511.jpg IMG_25670125_114524.jpg
     
  6. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,285
    ค่าพลัง:
    +161
    รูปหล่อหลวงพ่อเงินรุ่นฟ้าคำรณมีโค๊ด
    เปิดให้บูชา 999 บาทค่าจัดส่ง 50 บาทครับ

    IMG_25670125_123820.jpg IMG_25670125_123837.jpg IMG_25670125_123850.jpg
     
  7. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,285
    ค่าพลัง:
    +161
    พระกรุเชียงแสนพิมพ์กลาง
    เปิดให้บูชา 1499 บาทค่าจัดส่ง 50 บาทครับ

    IMG_25670125_130455.jpg IMG_25670125_130507.jpg
     
  8. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,285
    ค่าพลัง:
    +161
    พระกริ่งคลองตะเคียนวัดประดู่ทรงธรรมพิมพ์พระคง
    เปิดให้บูชา 999 บาทค่าจัดส่ง 50 บาทกริ่งดังไพเราะครับ

    IMG_25670125_130519.jpg IMG_25670125_130529.jpg IMG_25670125_130538.jpg
     
  9. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,285
    ค่าพลัง:
    +161
    ปิดแล้วครับ

    IMG_25670125_154343.jpg IMG_25670125_154354.jpg เหรียญหล่อเนื้อทองทิพย์ หลวงพ่อยิ้ม วัดท่าการ้อง จังหวัดอยุธยา สร้างปี 2547

    ประวัติหลวงพ่อยิ้ม (พระรุ่นเดียวกับหลวงพ่อปาน) วัดเจ้าเจ็ดใน จ.อยุธยา


    สารบัญ (เลือกคลิกที่รายการ)

    ตอนที่ 1 ประวัติหลวงพ่อยิ้ม
    ตอนที่ 2 หลวงพ่อเล่าเรื่องหลวงพ่อยิ้ม
    ตอนที่ 3 ทดสอบหลวงพ่อยิ้ม
    ตอนที่ 4 หลวงพ่อยิ้มเป็นพระอภิญญา

    [ ตอนที่ 1 ]



    ประวัติ "หลวงพ่อยิ้ม" วัดเจ้าเจ็ดใน จ.อยุธยา
    (พระรุ่นเดียวกับหลวงพ่อปาน)
    พระอาจารย์ชัยวัฒน์ อชิโต เรียบเรียง

    คำชี้แจง
    ...เนื่องด้วย "คณะทีมงาน" ได้ลงประวัติ "หลวงพ่อยิ้ม" ในครั้งนี้ เพราะเห็นว่าท่านเป็น "พระดีศรีอยุธยา" แห่งเมืองกรุงเก่า ซึ่งเป็นพระร่วมสมัยกับ "หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค"

    ปฏิปทาของท่านนับวันจะหาอ่านได้ยาก อีกทั้งพระเดชพระคุณหลวงพ่อ "พระราชพรหมยาน" ได้เล่าเอาไว้นานแล้ว เดิมได้เคยพิมพ์รวมอยู่ในหนังสือ "ประวัติหลวงพ่อปาน" เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๕

    ต่อมาภายหลังเห็นว่าหนังสือมีความหนาเกินไป จึงได้ตัดออกทั้ง "ประวัติหลวงพ่อจง" และ "ประวัติหลวงพ่อยิ้ม"

    ท่านผู้อ่านทางเว็บวัดท่าซุง จึงถือว่าโชคดีที่มีโอกาสได้อ่านเรื่อง "พระดีแห่งเมืองกรุงเก่า" ที่เป็นเรื่องสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ อีกทั้งภายหลังก็ยังไม่เคยได้ลงหนังสือเล่มใดมาก่อน

    ทั้งนี้ ต้องขออนุโมทนา คุณวัชรพล (ปุ๋ม) ศรีขวัญ ที่ได้อุตส่าห์นั่งพิมพ์มาให้พวกเราได้อ่านกัน เรื่องนี้จึงจำต้องขอสงวนสิทธิ์ไว้ตามกฎหมายลิขสิทธิ์ คือ ห้ามมิให้คัดลอก หรือทำซ้ำ หรือนำออกไปนอกเว็บนี้ โดยมิได้รับอนุญาตจาก Webmaster เสียก่อน

    ก่อนอื่นจะขอนำประวัติของท่านที่ลงในเว็บไซด์ต่างๆ ซึ่งบางเรื่องอาจจะเล่าไม่เหมือนกันกับที่หลวงพ่อของเราเล่า แต่เนื้อหาสาระก็มีประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง เรื่องของหลวงพ่อยิ้มจะมีเพียงตอนแรกเท่านั้น ในตอนต่อไปจะเป็นตอนที่หลวงพ่อเล่า

    ประวัติวัดเจ้าเจ็ดนอก กับ วัดเจ้าเจ็ดใน
    นางแพ กิจประสงค์ ผู้เล่า

    ...เรื่องเล่ามีอยู่ว่า...ระหว่าง วัดเจ้าเจ็ดนอก กับ วัดเจ้าเจ็ดใน มีพลับพลาจตุรมุข สร้างด้วยไม้เกือบพุพังแล้วอยู่ 1 องค์ มีเรื่องเล่าว่าสมัยโบราณพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จมาทอดกฐินที่วัดเจ้าเจ็ดใน

    แต่วัดเจ้าเจ็ดนอกไม่ยอมจะให้ทอดกฐินที่วัดเจ้าเจ็ดนอก เมื่อตกลงกันไม่ได้จึงสร้างพลับพลารับเสด็จไว้ตรงกลางระหว่างวัดทั้งสอง

    ประวัติของ วัดเจ้าเจ็ด นั้นมีเรื่องว่า สมัยก่อนเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในแถบนี้มีลูก 2 คน เมื่อเศรษฐีตายลูกก็แบ่งสมบัติกันคนละครึ่ง

    ต่อมาก็แต่งงานและมีลูกทั้ง 2 คน ตกลงกันว่าจะสร้างวัดเพื่อให้ลูกบวชและเรียนแต่ยังไม่ทันสร้างก็ทะเลาะกัน ก็เลยสร้างวัดคนละวัดแข่งบารมีกัน คือ วัดเจ้าเจ็ดใน และ วัดเจ้าเจ็ดนอก

    ที่มา - ilwc.aru.ac.th/index.html

    ประวัติ วัดเจ้าเจ็ดใน

    ...วัดเจ้าเจ็ดใน ตั้งอยู่ที่ริมคลองเจ้าเจ็ดซึ่งเป็นทางไปยังจังหวัดสุพรรณบุรี ปัจจุบันวัดเจ้าเจ็ดในตั้งอยู่ที่ ๓๔ ถนนสุขาภิบาลเจ้าเจ็ด หมู่ที่ ๓ ตำบลเจ้าเจ็ด อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย

    มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ ๑๕ ไร่ ๒ งาน ๔๐ ตารางวา วัดเจ้าเจ็ดในเกิดขึ้นหลังจากกรุงศรีอยุธยาเสียให้แก่พม่าใหม่ๆ ปี พ.ศ.๒๓๑๐ ท้องที่เจ้าเจ็ดเป็นดินแดนลุ่มลาดซึ่งเป็นป่ารกร้าง มาก จึงเป็นที่อาศัยของสัตว์ร้าย เช่น จระเข้ ช้าง เสือ เป็นต้น และเป็นที่ลี้ภัยสงครามพม่าของเจ้าฟ้ามหากษัตริย์ในครั้งนั้น

    เมื่อเจ้าฟ้ามหากษัตริย์ทั้งหลายลี้ภัยมาพักอาศัยอยู่ที่ตำบลนี้ ซึ่งคงนับได้ ๗ พระองค์ จึงได้สร้างปูชนีย์วัตถุไว้ ต่อมาประชาชนจึงได้ถือเอาที่นี้เป็นวัด จึงได้ซื่อว่า “วัดเจ้าเจ็ด” ต่อมาภายหลังได้เกิดวัดขึ้นอีกวัดตั้งอยู่ทิศเหนือ มีเนื้อที่ติดต่อกัน ดังนั้นวัดเจ้าเจ็ดจึงมีคำว่า “ใน” ต่อท้าย

    ต่อมาปี ๒๔๔๙ พระธรรมดิลก (อิ่ม) กับพระอุปัชฌาย์ "ปั้น" เป็นเจ้าอาวาส ขณะนั้นเป็นหัวหน้าประชาชน ชาวเจ้าเจ็ด และกรุงเทพ ร่วมกันสร้างโรงอุโบสถขึ้นโดยสร้างทับที่ของเดิม และผูกพัทธสีมา เมื่อปี ๒๔๕๐ เจ้าอาวาสที่สืบทราบนามได้ มี ๕ รูป ดังนี้

    ๑. พระอาจารย์จีน (พระอาจารย์ สอนพระปริยัติธรรม และภาษาบาลี ให้กับ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และหลวงปู่ยิ้ม วัดเจ้าเจ็ด)
    ๒. พระอุปัชฌาย์ ปั้น
    ๓. พระครูพรหมวิหารคุณ (หลวงพ่อยิ้ม)
    ๔. พระอาจารย์คำ (รักษาการ)
    ๕. พระครูเสนาคณานุรักษ์ (เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน)

    ประวัติหลวงพ่อยิ้ม

    ...หลวงพ่อยิ้ม สิริโชติ เป็นคนดี ศรีอยุธยา เลือดคุ้งน้ำเจ้าเจ็ด…นามเดิม ยิ้ม กระจ่าง เป็นบุตร นายอ่วม นางสุด กระจ่าง ท่านเกิดที่ตำบลเจ้าเจ็ด อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

    เกิดที่บ้านสาลี หมู่ที่ ๑ ตำบลบ้านแถว อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๔๑๘ (จันทรคติ วันเสาร์ - ค่ำ เดือน – ปีกุน จ.ศ. ๑๒๓๗ ) มีพี่น้องร่วมบิดา มารดารวม ๓ คน คือ

    ๑. นายจ่าง กระจ่าง
    ๒. พระครูพรหมวิหารคุณ (ยิ้ม สิริโชติ)
    ๓. นายโชติ กระจ่าง

    ....โยมที่บ้านมีอาชีพทางกสิกรรม ทำไร่ ทำนา ต่อมาปี พ.ศ. ๒๔๓๐ได้บรรพชาเป็นสามเณรมาตั้งแต่อายุได้ ๑๒ ขวบ อุปสมบทเมื่ออายุครบ ๒๐ ปี พ.ศ. ๒๔๓๘ ณ พัทธสีมา ณ วัดเจ้าเจ็ดนอก มีพระอาจารย์สิน วัดโพธิ์ เป็นอุปัชฌาย์ พระอาจารย์จาด เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์สุ่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    เมื่อบวชแล้วได้ศึกษาพระธรรมวินัย ขนบธรรมเนียมประเพณีทางศาสนา ศึกษาพระคัมภีร์เจ็ดตำนาน สิบสองตำนาน เขียนอักขระเลขยันต์ ลบผงศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ จากพระอุปัชฌาย์ ครูบาอาจารย์ ผู้สืบสานวิชาอาคมมาตั้งแต่ครั้งกรุงเก่า คือ

    พระอาจารย์จาด และพระอาจารย์จีน สำนักวัดเจ้าเจ็ดใน ( พระอาจารย์จีน เป็นพระอาจารย์สอนอักขระให้กับ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ในครั้งนั้นด้วย )

    พออายุ ๑๘ ปี ก็ย้ายไปศึกษาที่วัดกระโดงทอง ภายใต้การปกครองของหลวงพ่อบุญมี สำเร็จยันต์นะ ปัดตลอด และสามารถเขียนยันต์ผงทะลุแผ่นกระดานชนวนได้อย่างอัศจรรย์ ต่อมาได้เป็นเจ้าอาวาสวัดเจ้าเจ็ดใน ต่อจากพระอุปฌาย์ "ปั้น"

    ในสมัยนั้นวัดเจ้าเจ็ดใน ได้แบ่งออกเป็น ๓ คณะ โดยมีหลวงพ่อยิ้ม เป็นเจ้าคณะเหนือ หลวงปู่โฉม เป็นเจ้าคณะใต้ และหลวงปู่คำ เป็นเจ้าคณะตะวันออก และหลวงพ่อยิ้มยังเป็นเจ้าคณะตำบลเจ้าเจ็ด เป็นพระครูกรรมการศึกษาและเป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อ พ.ศ.๒๔๗๘

    ได้รับพระราชทานสมณะศักดิ์ เป็น พระครูพรหมวิหารคุณ พ.ศ. ๒๔๙๓ เป็นเจ้าคณะอำเภอบางซ้าย มรณภาพด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๔๙๙ รวมอายุได้ ๘๒ ปี

    ครั้งเมื่อหลวงพ่อยิ้ม ยังมีชีวิตอยู่ท่านเป็นพระที่อุดมด้วยศีลลาจารวัตร ตลอดชีวิตของหลวงพ่อเป็นพระที่อารมณ์เย็น เคร่งครัด แต่มีเมตตาธรรมสูง พูดน้อย และมีผู้คนไปกราบนมัสการหาสู่ท่านมิได้ขาด

    พระเกจิอาจารย์ดังแห่งกรุงศรีอยุธยา, ยุคสงครามโลกครั้งที่สอง และสงครามอินโดจีน หลวงพ่อยิ้ม มีพระสหธรรมมิกที่ร่วมครูอุปัชฌาย์อาจารย์องค์เดียวกันในยุคนั้นคือ หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก

    ซึ่งมีอายุมากกว่าหลวงปู่ยิ้ม ๓ ปี อีกรูปหนึ่งคือ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ซึ่งเกิดปีเดียวกับหลวงปู่ยิ้ม มีญาติโยมที่เป็นนักเลงสมัยนั้นได้ตั้งสมญานามให้ดูน่ากลัวว่า “ สามเสือแห่งกรุงเก่า ”

    ท่านจึงเป็นพระอาจารย์อาวุโส มรณภาพเมื่อปี ๒๔๙๙ (อายุ ๘๑ ปี) หลังหลวงพ่อปาน ๑๘ ปี (๒๔๙๙ - ๒๔๘๑) แต่ก่อนหลวงพ่อจงราว ๘ ปี (๒๔๙๙ – ๒๕๐๗)

    วัดของท่านเหล่านี้อยู่ไม่ไกลกันนัก ท่านเป็นสหธรรมมิกและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี จนชาวอยุธยาเรียกกันติดปากว่า “พระหมอหลวงพ่อปาน เกจิอาจารย์หลวงพ่อจง เมตตาไหลหลงหลวงพ่อยิ้ม”

    เหตุการณ์สำคัญ อาทิเช่น
    ...การปลุกเสกทราย และขึ้นเครื่องบินโปรยลงสถานที่สำคัญๆ ในประเทศไทย เมื่อครั้งสมัยสงครามอินโดจีนฯ ช่วง พ.ศ. ๒๔๘๕

    ฝรั่งเศสที่ต้องการจะยึดดินแดนของไทยเป็นประเทศในอาณานิคม มีผลร้ายแรงพอๆ กับสงครามโลกครั้งที่สองเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๕

    ซึ่งเป็นเรื่องของความสามัคคี เพื่อให้สถาบันชาติอยู่ได้ สถาบันศาสนาอยู่ได้ และสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ได้ และสืบต่อพระศาสนา ให้มีความเจริญรุ่งเรืองสืบไป

    หลวงปู่ยิ้มวาจาสิทธิ์
    ...จากการที่หมั่นสวดมนต์ภาวนา ให้ทาน รักษาศีล และเจริญพระกรรมฐานภาวนา ตลอดจนสั่งสอนให้คนทำความดีเป็นนิตย์ หล่อหลอมให้ภิกษุชราพุทธบุตรรูปหนึ่ง มีวาจาสิทธิ์ดุจเทพเจ้าฯ

    ทั้งให้พร… เสกน้ำพระพุทธมนต์ รักษาโรค เป็นที่ประจักษ์ตาแก่ชาวบ้านใกล้ และไกล หลวงปู่ไม่ชอบคนมุสา... คนดื่มน้ำเมา... คนกาเม… คนฆ่าสัตว์ตัดชีวิต… คนลักขโมย… (คนที่ชอบละเมิดศีลห้า) และคนที่งอมืองอเท้า ขี้เกียจทำกิน…

    หลวงปู่ยิ้มท่านมีวาจาสิทธิ์ พูดคำไหนเป็นคำนั้นไม่พูดมาก พูดแต่สิ่งที่ดี ๆ เมื่อสั่งสอนครั้ง สองครั้งยังไม่เลิกละ หลวงปู่ก็จะเปรยๆ พอให้ศิษย์ใกล้ชิดได้ยินว่า

    “ พวกนี้มันบัวใต้น้ำ… ชี้ทางสวรรค์ให้เดินไม่ยอมเดิน ”

    ( เป็นการชี้ให้เห็นว่าประตูสู่สวรรค์ก็คือศีลห้านั่นเอง ) และในไม่ช้าบุคคลดังกล่าวข้างต้นนี้ก็มีอันเป็นไปในที่สุด ย่างเข้าสู่วัยชรา ทุกสรรพสิ่งที่เกิดมานานแล้วก็ร่วงโรยไปในที่สุด

    หลวงปู่ยิ้มละสังขารไปด้วยอากา
    รอันงบ เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๔๙๙ (วันจันทร์ แรม ๑๒ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีวอก จ.ศ. ๑๓๑๘ ) รวมสิริอายุได้ ๘๑ ปี ๖๑ พรรษา

    เปิดให้บูชา 2 เหรียญ 599 บาทค่าจัดส่ง 50 บาทครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กุมภาพันธ์ 2024
  10. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,285
    ค่าพลัง:
    +161
    เหรียญทรงผนวช ร.10 ปี 22 ปลุกเสกโดยหลวงพ่อเกษม เขมโก

    IMG_25670131_081553.jpg IMG_25670131_081604.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กุมภาพันธ์ 2024
  11. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,285
    ค่าพลัง:
    +161
    แบ่งชุดพิเศษชุดหลวงพ่อเกษมเขมโกครับ 3 องค์550ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,285
    ค่าพลัง:
    +161
    IMG_25670204_204831.jpg IMG_25670204_204818.jpg พระ เจดีย์องค์พระธาตุพนมเดิม(บูรณะเมื่อ พ.ศ.2408) ได้ล้มพังทลายลงมาทั้งองค์ เมื่อเวลา 19.38 น. ของวันที่ 11 สิงหาคม 2518 ตรงกับวันจันทร์ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 9 ปีเถาะ ยังความเศร้าสลดใจให้กับบรรดาพุทธศาสนิกชนทั้งในประเทศไทยและประเทศเพื่อน บ้านที่มีความเคารพเลื่อมใสต่อองค์พระธาตุพนมเป็นอย่างยิ่ง
    หลังจากองค์พระธาตุพนมล้มลงมาแล้ว เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรและเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่เกี่ยวข้อง ได้ทำการสำรวจความเสียหาย ทำการรื้อถอนซากปรักหักพังและขนย้ายสิ่งของอันมีค่าจำนวนมากมายรวมทั้งพระ เครื่อง พระบูชา ที่ท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์โตพรหมรังสี นำบรรจุไว้เมื่อปี พ.ศ. 2408 ด้วยสำหรับสิ่งของอันมีค่าที่เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรค้นพบจากองค์พระธาตุพนม ทั้งหมดนั้นพระเทพรัตนโมลี (พระธรรมราชานุวัตร) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมและเจ้าคณะ จังหวัดนครพนมในขณะนั้น ได้นำบรรจุไว้ในองค์พระธาตุพนมที่สร้างขึ้นใหม่ในปัจจุบันส่วนหนึ่ง(อีกส่วน หนึ่งเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ของวัดพระธาตุพนม) สำหรับพระเครื่อง พระบูชา ของเฉพาะที่ท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสีสร้างนั้น ท่านเจ้าคุณพระเทพรัตนโมลี ได้เก็บรักษาไว้ แล้วมอบแก่พุธทศานิกชนผู้มีจิตศรัทธาบริจาคทรัพย์ ร่วมบูรณะองค์พระธาตุพนมเท่านั้น ไม่เปิดให้เช่าบูชา หรือให้บูชาอย่างเปิดเผยแต่ประการใด ดังนั้นจึงเป็นที่มาถึงการที่ไม่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายเหมือนกับพระ สมเด็จกรุอื่นๆที่ท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสีได้สร้างเอาไว้
    ดังนั้นทางคณะผู้จัดทำจึ่งได้นำประวัติพระสมเด็จกรุพระธาตุพนมมาเปิดเผยให้ศิษย์ยานุศิษย์ได้ทราบ ดังนี้
    เมื่อปี พ.ศ. 2407 วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2407 ตรงกับวันขึ้น 8 ค่ำ เดือน10 ปีชวด จุลศักราช 1226 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4ได้ทรงโปรดเกล้าสถาปนาสมณศักดิ์พระเทพกวี ขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาคณะ ที่สมเด็จพระพุฒาจารย์[คณะผู้จัดทำได้ไปค้นคว้าจากประวัติพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัวอยู่ รัชกาลที่ 4 เพื่อยืนยันว่าสมเด็จพระพุฒาจารย์นั้น สมเด็จฯท่านมีสมณศักดิ์ เป็นพระธรรมกิตติในปีชวด จุลศักราช 1214(พ.ศ.2395)และมีสมณศักดิ์เป็นพระเทพกวี ในปีขาล จุลศักราช 1216(พ.ศ. 2397)กับได้ทรงรับสั่งมอบหมายท่านให้เป็นแม่กองไปบูรณะองค์พระธาตุพนมด้วย ท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี พร้อมด้วยท่านเจ้าคุณธรรมทานาจารย์(เจ้าคุณแนบ) ท่านเจ้าคุณธรรมถาวร(เจ้าคุณช่วง)พร้อมด้วยพระปลัดโฮ้ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบองค์พระธาตุพนม ในขณะนั้นชำรุดเสียหายมากน่าจะไม่สามารถทำการบูรณะซ่อมแซมได้ จำเป็นต้องสร้างพระธาตุพนมใหม่ทั้งองค์ ก็ควรที่จะได้สร้างพระเครื่อง พระบูชา บรรจุไว้ในเจดีย์องค์พระธาตุพนมด้วย เพื่อเป็นพุทธบุชา และเนื่องจาก ณ เจดียสถานแห่งนี้มีพระมหากัสสปะเถรเจ้า ได้นำเอาพระอุรังคะธาตุมาประดิษฐานไว้ให้สาธุชนผู้เลื่อมใสศรัทธาในองค์พระ สัมมาสัมพุทธเจ้าได้กราบนมัสการ บูชา สักการะ แทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงได้นำความเห็นขึ้นกราบทูลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่4 ให้ทรงทราบและพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่4 ทรงเห็นด้วยและโปรดให้ดำเนินการได้กับทรงมีรับสั่งให้สร้างให้แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2408 ฉะนั้นการสร้างพระเจดีย์องค์พระธาตุพนม การสร้างพระเครื่อง พระบูชา จำนวน 84,000 องค์ เพื่อนำไปบรรจุในองค์พระธาตุพนมจึงเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2407 เป็นต้นมา
    การสร้างพระเครื่อง พระบูชานั้น ท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์โตพรหมรังสีให้นำเศษ ปูน ทรายที่ร่วงมาจากองค์พระธาตุพนม รอบๆองค์พระธาตุพนมมาเป็นส่วนหนึ่งของมวลสารและเมื่อข่าวการสร้างพระเครื่อง พระบูชา จำนวน 84,000 องค์ เพื่อบรรจุในองค์พระธาตุพนมเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ได้แพร่กระจายออกไปจึงได้มีพระเถรานุเถระ ผู้ใหญ่จากประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงที่มีความเคารพเลื่อมใสในองค์พระสัมมา สัมพุทธเจ้าได้นำเอามวลสารสิ่งของที่มีค่ามาถวายท่านเจ้าพระคุณฯ เพื่อร่วมสร้าง พระเครื่อง พระบูชา ในคราวนี้ด้วย...อาทิ พระเถรานุเถระผู้ใหญ่จากเขมร พม่า ได้นำพลอยดิบที่ยังไม่ได้เจียระไน หรือที่เรียกว่าอัญมณี สีต่างๆ พร้อมด้วยแร่ทองคำมาถวาย พระเถรานุเถระจากลาว นำลูกปัดทวาราวดี และพระบรมสารีริกธาตุมาถวาย เป็นต้น สิ่งต่างๆที่เจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ได้รับการถวายในครั้งนี้ พระคุณเจ้าได้นำมาผสมเป็นมวลสารในการสร้างพระเครื่อง พระบูชาในครั้งนี้...ทั้งหมด
    ฉะนั้น เนื้อหรือมวลสารของพระเครื่อง พระบูชากรุพระธาตุพนม จึงประกอบด้วยมวลสารต่างๆมากมาย ดังนี้
    1.ปูน ทรายเก่าที่ร่วงมาจากองค์พระธาตุพนมรวมทั้งที่ปรักหักพังลงมากองอยู่รอบๆ องค์พระธาตุพนมถูกนำมาบดละเอียด ถือได้ว่าเป็นผงศักดิ์สิทธิ์ เป็นผงสำคัญ ในการสร้างพระเครื่อง พระบูชา กรุพระธาตุพนม
    2.พลอยดิบ หรือ อัญมณี สีเขียว สีแดง สีเหลือง สีฟ้า ถูกนำมาบดเป็นส่วนผสม
    3.แร่ทองคำ ท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์โตพรหมรังสี ให้ตะไบออกเป็นผง เรียกผงตะไบทอง ผสมลงไปด้วย
    4.ลูกปัดทวาราวดีสีต่างๆ ที่พระเถรานุเถระผู้ใหญ่จากลาว จะถูกนำมาผสมกับมวลสารอื่นๆด้วย
    5.พระบรมสารีริกธาตุ ที่พระเถรานุเถระผู้ใหญ่จากลาวและศิษยานุศิษย์ของท่านเจ้าพระคุณนำมาถวาย ก็ได้รับการนำลงไปผสมกับมวลสารอื่นๆเช่นกัน
    6.ผงวิเศษต่างๆ อาทิ ผงอิทธิเจ ผงมหาราช ผงพุทธคุณ ของท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์โตพรหมรังสีที่ได้เก็บสะสมไว้ได้นำมา รวม ผสมลงในการสร้างพระเครื่อง พระบูชา จำนวน 84,000 องค์ เพื่อนำบรรจุลงในองค์พระธาตุพนม และเนื่องจากเวลามีจำกัด ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่4 ได้กำหนดให้การก่อสร้างองค์พระธาตุพนมให้แล้วเสร็จภายในปี พ.ศ. 2408 การพิมพ์ พระเครื่อง พระบูชาจำนวน 84,000 องค์ จึงต้องช่วยกันพิมพ์ทั้งที่วัดระฆัง และที่วัดพระธาตุพนม ส่วนผสมในการสร้างพระนั้นเหมือนกันทั้งสองวัดจะแตกต่างกันอยู่บ้างก็ตรงที่ ใครจะนำส่วนผสมอะไรใส่ลงในครกแต่ละครั้งมากกว่ากันเท่านั้น ส่วนพระที่สร้างที่วัดระฆังนั้น ท่านเจ้าพระคุณธรรมทานาจารย์(เจ้าคุณแนบ) ท่านได้ลงรักปิดทองไว้ด้วย
    สำหรับการนำพระเครื่อง พระบูชา บรรจุลงในองค์พระเจดีย์นั้น เมื่อได้ทำการสร้างพระเจดีย์องค์พระธาตุพนมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้จัดให้มีการสมโภช เฉลิมฉลององค์พระเจดีย์ที่สร้างขึ้นใหม่เป็นเวลา 7 วัน 7 คืน และได้นำพระเครื่อง พระบูชา ทั้งหมด 84,000 องค์ บรรจุลงในพระธาตุพนม ในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ปี พ.ศ. 2408 โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่4 ได้เสร็จเป็นองค์ประธาน พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชบริพารในพระองค์ และพระเถรานุเถระ ผู้ใหญ่ พระราชาคณะทั้งในประเทศ และประเทศเพื่อนบ้าน ได้ร่วมกันทำการถวายพระเครื่อง พระบูชาที่เจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ได้สร้างขึ้นจำนวน 84,000 องค์ เป็นพุทธบูชาต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในครั้งนั้นด้วย
    พระพุทธคุณของสมเด็จกรุพระธาตุพนมนั้น ท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี บอกว่า พระสมเด็จกรุพระธาตุพนม มีพุทธคุณสูงมาก เนื่องจาก ส่วนผสมของมวลสารต่างๆ ที่นำมาเป็นส่วนผสม เช่น ปูน ทรายเก่า จากองค์พระธาตุพนม พระบรมสารีริกธาตุ เป็นต้น และการสร้างพระเครื่อง พระบูชา จำนวน 84,000 องค์ ในครั้งนี้ ท่านเจ้าพระคุณฯ ได้ตั้งจิตอธิษฐานเป็นกรณีพิเศษ เพื่อถวายเป็นพุทธบุชาต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นพระบรมครูของท่าน ผู้หนึ่งผู้ใดมีไว้ครอบครอง หรือนำขึ้นบูชาเป็นพระประจำตัวแล้ว จะเป็นผู้มีบุญวาสนาสูงส่ง เป็นสิริมงคลต่อชีวิต

    สรุปได้ความว่า

    พ.ศ.2395 รัชกาลที่ 4 ทรงโปรดให้ สมเด็จพุฒาจารย์โต,เจ้าคุณธรรมทานาจารย์(เจ้าคุณแนบ),เจ้าคุณธรรมถาวร(เจ้า คุณช่วง),และปลัดไฮ้เข้าตรวจสอบพระธาตุพนม ตรวจสอบแล้วเห็นว่าไม่สามารถซ่อมแซมได้ จึงให้บูรณะใหม่ทั้งองค์และให้จัดสร้างพระสมเด็จส่วนผสมคือ ปูนจากเจดีย์เก่า พลอยดิบได้รับการถวายจากเขมร และพม่า ทองคำ ลูกปัดทราวดี พระบรมสารีริกธาตุจำนวน 84,000 องค์บรรจุในองค์พระธาตุพนม ส่วนยอดพระธาตุพนมทำด้วยทองคำน้ำหนักถึง 110 กิโล ให้แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2408

    พ.ศ. 2485 วัดพระธาตุพนม ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอารามหลวงชั้นเอก ชั้นมหาวรวิหาร

    วัน ที่ 11 สิงหาคม ปี พ.ศ. 2518 เวลา 19.38 น พระธาตุพนมได้หักล้มมาทั้งองค์ พระเทพรัตนโมลี(พระธรรมานุวัตร)เจ้าอาวาส และเจ้าคณะจังหวัดในขณะนั้นได้จัดเก็บองค์พระสมเด็จไว้ทั้งหมด และบางส่วนเอาออกให้ผู้มีจิตศัทธาในการช่วยบูรณะพระธาตุไม่ได้เอาออกให้บูชา จึงไม่ค่อยได้เห็นให้ปรากฎในตลาดพระโดยทั่วไป

    ลักษณะพิมพ์ทรง และ พุทธศิลป์ พระสมเด็จ ปี 2395-2408

    1.ไม่มีกรอบกระจก

    2.มีกรอบกระจก

    3. เนื้อพระ ปูนจากเจดีย์เก่า แข็ง และแน่น

    4. มวลสารพลอยดิบได้รับการถวายจากเขมร และพม่า ทองคำ ลูกปัดทราวดี พระบรมสารีริกธาตุ

    5.ด้านหลังองค์พระปาดเรียบ, หรือแผ่นป้ายทอง

    6.พิมพ์พระสง่าผ่าเผยจะค่อนข้างตื้น.ไม่ปรากฎรอยหนอนด้น หลุมโลกพระจันทน์ และรอยบ่อน้ำตา.เพราะพระเนื้อแข็ง แน่น..จึงไม่อาจปรากฎรอบยุบตัวของมวลสาร

    7.ซุ้มครอบแก้วโย้เอียง

    8.คมขวานฐานสิงห์..คมชัด

    9.พื้นที่ระดับพระยังคงเป็น 3 มิติ

    ทีมาจาก http://www.9pha.com

    เปิดให้บูชา 1499 บาทค่าจัดส่ง 50 บาทครับ
     
  13. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,285
    ค่าพลัง:
    +161
    ปิดแล้ว

    เหรียญอาจารย์วันปี20
    เปิดให้บูชา 199 บาทต่าจัดส่ง 50 บาทครับ

    IMG_25670204_210424.jpg IMG_25670204_210435.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กุมภาพันธ์ 2024
  14. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,285
    ค่าพลัง:
    +161
    ปิดแล้ว

    เหรียญสมเด็จโตปี23
    เปิดให้บูชา 149 บาทค่าจัดส่ง 50 บาทครับ

    IMG_25670204_210448.jpg IMG_25670204_210501.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กุมภาพันธ์ 2024
  15. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,285
    ค่าพลัง:
    +161
    ปิดแล้ว

    เหรียญราหูกินบ่เสี่ยง
    เปิดให้บูชา 499 บาทค่าจัดส่ง 50 บาทครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กุมภาพันธ์ 2024
  16. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,285
    ค่าพลัง:
    +161
    ปิดแล้ว

    สมเด็จพระพุทโธดอกจันคู่ หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม ชัยนาท ปี2513 //ข้างยันต์ นะมะพะทะ พิมพ์หายาก สภาพสวยมากครับ //พระสถาพสวยเดิมๆ สมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    พุทธคุณเป็นเลิศครบครัน เรียกทรัพย์ โชคลาภ ทั้งเมตตามหานิยม หนุนนำโชค ทำมาค้าขึ้น เรียกลูกค้าเข้าร้าน กิจการรุ่งเรือง การงานก้าวหน้า และแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี ดีทางคุ้มครอง กันคุณไสย คุณผี มนต์ดำ >>>

    นะมะพะทะ เป็นคาถาที่ย่ออักษรหน้าของคาถา เพื่อง่ายต่อการท่องจำ คาถานี้เป็นคาถาสรรเสริญพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเทียบกับธาตุทั้ง ๔
    .
    - นะ ธาตุน้ำ มีปกติไหล คือ สายธารแห่งพระเมตตาบารมี
    - มะ ธาตุดิน มีความแข็งแกร่งประดุจเพชร หรือเขาศิลาล้วน คือพระขันติบารมี
    - พะ ธาตุไฟ มีปกติร้อน คือ ปัญญาย่อมแผดเผากิเลสให้สิ้นไป คือ พระปัญญาบารมี
    - ธะ ธาตุลม มีปกติไม่มีสิ่งใดขวางกั้น คือ พระทศพลญาณ พระญาณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ไม่มีสิ่งใดในจักรวาลต้านทานได้ >>>

    หลวงพ่อกวย ยอดพระเกจิอาจารย์แห่งยุคกึ่งพุทธกาล ท่านมีปฏิปทาและจริยาวัตรที่งดงาม หลวงพ่อสำเร็จญาณชั้นสูงมีพลังจิตกล้าแข็ง แม้แต่หลวงปู่โต๊ะท่านก็ยังชื่นชมในพลังจิตของหลวงพ่อกวยในครั้งที่เคยร่วมพิธีมหาพุทธาภิเศกวัตถุมงคลด้วยกัน ท่านยังมีพระเวทย์วิทยาคมที่กล้าแกร่ง มีวิชาอาคมสุดเข้มขลัง วัตถุมงคลที่หลวงพ่อสร้างขึ้นและทำการปลุกเสกนั้น เป็นที่ทราบกันดีในหมู่ลูกศิษย์ลูกหา และผู้ที่ศรัทธาหลวงพ่อว่า เป็นสุดยอดของดี เป็นสุดยอดแห่งวัตถุมงคลที่สร้างขึ้นเพื่อหวังผลทางด้านพุทธคุณชนิดที่แรงมาก เห็นผลและหวังพึ่งพุทธคุณได้แน่นอน >>
    >>>>

    #พระสถาพสวยเดิมๆ สมบูรณ์ หายาก พระไม่ถูกใช้ครับ
    เปิดให้บูชา 3499 บาทค่าจัดส่ง 50 บาทองค์นี้เคลือบหายากสวยสมบูรณ์ครับ

    IMG_25670205_204653.jpg IMG_25670205_204710.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กุมภาพันธ์ 2024
  17. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,285
    ค่าพลัง:
    +161
    IMG_25670205_204723.jpg IMG_25670205_204734.jpg พระผงวัดแกะลอยหลวงปู่ทิมเสกปี14
    ลาภขั้นสูง มหาเสน่ห์ มหานิยมที่รุนแรง การชนะเหนือคู่แข่งขันทั้งหลาย ฯลฯ เป็นต้น

    สมเด็จ วัดเกาะลอย หลวงปู่ทิม ปลุกเสก ปี2514

    หลวงปู่ทิมวัดระหารไร่ปลุกเสก มีหลวงปู่ทาบวัดกระบกขึ้นผึ้ง หลวงปู่ทิมวัดระหารไร่ หลวงพ่อชื่นวัดมาบข่า หลวงพ่อบุญมีวัดโพธิสัมพันธ์ หลวงปู่หอมวัดซากหมาก หลวงปู่นาควัดระฆัง หลวงพ่อเงินวัดดอนยายหอม และพระครูลิลิตสรคุณ ชลบุรี ปลุกเสก พุทธคุณด้านเมตตามหาลาภ เพื่อให้คณะศิษย์ที่เคารพอยู่ในองค์ท่านได้สักการะบูชา รำลึกถึงพระคุณของท่านที่ได้ให้ความสว่างแห่งการศึกษาแก่คณะสงฆ์ในด้านพระ ปริยัติธรรมพร้อมทั้งได้อาราธนาคณาจารย์ที่มีคุณวุฒิสูงมาทำพิธีปลุกเสก ซึ่งมีรายนามดังนี้


    ๑.หลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง จ.ระยอง เจ้าของสีผึ้งสีเขียวที่เลิศในด้านเมตตา มหานิยม

    ๒.หลวงพ่อทิม วัดไร่วารี(วัดละหารไร่) จ.ระยอง คณาจารย์ที่มีพลังจิตกล้าแข็งแห่งยุค มีวิชาเป็นเลิศและยอดเยี่ยมในด้านคงกะพันแคล้วคลาด

    ๓.หลวงพ่อเจ้าคุณวรพรตฯ วัดป่า จ.ชลบุรี เจ้าของพระปิดตาเมตตามหานิยม

    ๔.พระครูลิลิตสรคุณ จ.ชลบุรี

    ๕.พระครูโพธิสาสน์ประศาสน์ วัดโพธิ์สัมพันธ์ จ.ชลบุรี

    ๖. พระเทพสิทธินายก(หลวงปู่นาค) วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพฯ

    ๗.พระราชธรรมมาภรณ์(หลวงพ่อเงิน) วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม

    ๘.พระครูพิพิธวรญาณ(หลวงพ่อชื่น) วัดมาบข่า จ.ระยอง

    ๙.พระครูภาวนานุโยค(หลวงพ่อหอม) วัดป่าเรไร จ.ระยอง

    คณาจารย์ทั้ง ๙ ท่านได้ใช้พลังจิตอันกล้าแข็ง ทุมเทกระแสจิตลงไปในวัตถุมงคลอย่างเต็มที่ เพื่อให้วัตถุมงคลเหล่านั้น เพียบพร้อมไปด้วย อิทธิฤทธิ์ บุญญฤทธิ์ อุดมลาภ อุดมผล และสามารถป้องกันตัวได้ ในพิธีนี้ได้ทำการปลุกเสกจนถึงรุ่งอรุณของวันใหม่ และเป็นพิธีที่ยิ่งใหญ่ ที่ทำถูกต้องตามตำรับโบราณตลอดจนถึงพิธีทางไสยเวททุกประการ และได้ทำการอัญเชิญดวงวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อแอ่วให้รับรู้และร่วม ทำการปลุกเสกด้วย ดังนิมิตรของหลวงพ่อเจ้าคุณวรพรตฯที่ได้กล่าวแก่ผู้ใกล้ชิดว่า” เห็นมีแสงสีขาวเป็นยวงใยออกมาจากรูปถ่ายของคุณพ่อแอ่วพุ่งเข้าไปสู่วัตถุ มงคลของท่าน จึงมั่นใจว่า ของในพิธีนี้ต้องมีความขลังเป็นแน่แท้” ”สมเด็จองค์นี้ของหลวงพ่อหนักไปทางเมตตา มหานิยมและทางมหาลาภ

    พุทธคุณเด่นในด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ปลอดภัยพุทธคุณจึงแรงมากๆๆๆ และมีประสบการณ์สูงมาก จึงเหมาะมากสำหรับผู้ที่อยากให้ตำแหน่งหน้าที่การงานเจริญเติบโตก้าวหน้า หรือ ผู้ที่มีใจใฝ่ทางด้านการเสี่ยงโชคลาภทุกชนิด ควรมีไว้บูชาพกพาติดตัวไว้เป็นอย่างเนืองนิจ ทั้งผู้ที่นิยม และศรัทธา รวมไปถึงผู้นำ นักการปกครอง ผู้บังคับบัญชา หรือ นักบริหารทุกระดับชั้น ข้าราชการทุกตำแหน่ง ทุกประเภทไม่ว่าชั้นผู้ใหญ่ ชั้นผู้น้อย นายทหารทุกเหล่าทัพ (โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติภารกิจอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้) ตำรวจ ครูบาอาจารย์ นักพูด นักขาย (ที่ต้องหายอดลูกค้า) นักเจรจา ดารา นักร้อง นักแสดง ผู้ที่ต้องปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นทุกประเภท นักกีฬาทุกประเภท นักทำมาหากินทุกประเภท มนุษย์เงินเดือน ผู้ที่ต้องแข่งขันกับผู้อื่น ไม่ว่าทั้งโดยตรง หรือโดยอ้อม พ่อค้า แม่ค้า ประชาชนทั่วไป ก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน ควรมีไว้บูชาเป็นอย่างยิ่ง



    พุทธคุณแรงเกินราคา คุ้มค่ามากๆๆๆ กับความปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน การมีชื่อเสียง ตำแหน่งที่สูงขึ้น การมีโชคลาภขั้นสูง มหาเสน่ห์ มหานิยมที่รุนแรง การชนะเหนือคู่แข่งขันทั้งหลาย ฯลฯ เป็นต้น







    คาถาของหลวงปู่ทิม


    "มะอะอุ ทุกขัง อนิจัง อนัตตา พุทโธ พุทโธ"

    หลวง ปู่ทิมท่านว่าเป็นคาถาที่ดีและก็สั้น และพุทธคุณของคาถาบทนี้ก็สูงมากอยู่ที่คนปฏิบัติ ท่านยังกรุณาเล่าให้ฟังว่า มีใครคนหนึ่งที่อยู่ตลาดมาปรับทุกข์ให้ท่านฟังว่า ขายของก็ไม่ดีทะเลาะกับเมีอยู่ที่บ้านแทบทุกวัน ญาติพี่น้องต่างเกลียดชัง อยากจะขอคาถาให้เขารัก หลวงปู่จึงให้คาถาบทนี้ไป ปรากฏว่าเดี๋ยวนี้ ชายผู้นั้นมีความสุขแล้ว จะไปไหนเมียก็ตามไปด้วย ญาติพี่น้องก็รักใครกันดี ผู้เขียนจึงมั่นใจว่าพุทธานุภาพในคาถาบทนี้จะประสบผลสำหรับผู้ที่ปฏิบัติ เป็นประจำสม่ำเสมอ ถ้าผู้ใดได้รับคาถานี้ไป ขอให้นึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และคุณหลวงปู่ทิมเป็นที่ตั้งทุกอย่างก็จะอำนวยโชคพอสมควรกับบุญกรรมของบุคคล นั้น
    เปิดไฟให้บูชา 1499 บาทค่าจัดส่ง 50 บาทครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2024
  18. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,285
    ค่าพลัง:
    +161
    ปิดแล้ว

    พระสิงห์3ขนาห้อยคอ
    สูง 1นิ้วครึ่ง หน้าตักเกือบ1นิ้ว
    พุทธศิลป์เชียงแสนยุคปลาย
    เปิดให้บูชา 4999 บาทค่าจัดส่ง 50 บาทครับ
    IMG_25670205_204746.jpg IMG_25670205_204813.jpg IMG_25670205_204826.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กุมภาพันธ์ 2024
  19. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,285
    ค่าพลัง:
    +161
    ปิดแล้ว

    พระผงรูปเหมือนผงคลุกเก่าจัดสวยเดิมคลาสิคมากบวกควมเข้มขลัง
    เปิดให้บูชา 1499 บาทค่าจัดส่ง 50 บาทครับ

    IMG_25670205_204840.jpg IMG_25670205_204851.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กุมภาพันธ์ 2024
  20. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,285
    ค่าพลัง:
    +161
    IMG_25670208_113515.jpg IMG_25670208_113140.jpg ลูกอม หลวงพ่อพริ้ง วัดบางประกอกเนื้อดำ ยุคต้นนิยม

    ลูกอมหลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก สร้างด้วยผงวิเศษผสมผงขี้ธูป สีขาวอมเทา ลักษณะการปั้นไม่ค่อยกลมเท่าใดนัก ตามความเข้าใจว่าผงที่เหลือจากการสร้างพระพิมพ์ของหลวงพ่อในชุดพระสมเด็จ พิมพ์พระคงและพิมพ์อื่นๆ ลูกอมของหลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก มี่ ชือเสียงโด่งดัง ในเชิงคงกระพันเป็นที่นิยมแสวงหากันมากจนกระทันสร้างแจกไม่ทัน ท่านต้องไห้ลูกศิษย์วัดไปเทียวเก็บก้อนกรวดมาปลุกเสกแจกต่างลูกอมก็มีครับ
    วัตถุมงคลยอดนิยมอย่างหนึ่งของท่านที่ราคายังไม่แพง คือ ลูกอม ซึ่งลูกอมของท่านนั้นถือเป็นเครื่องรางที่นิยมและหายากแล้วในปัจจุบันซึ่ง ลูกอมของท่านนั้นมีสามสี คือ สีดำ สีชมพู และสีเทา ความนิยมนั้น สีดำนิยมสุด รองลงมาก็สีชมพู และสีเทา

    เปิดให้บูชา 4999 บาทค่าจัดส่ง 50 บาทครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2024

แชร์หน้านี้

Loading...