สูญตา คือ นิพพานชั่วคราว

..อิมๆ ว่ามาอีก มีอะไรก้อว่ามา..

 

เพราะมีหลายคน ถูกคนอื่น พาเข้าไปถึงความว่าง ด้วยจิต ด้วยฤทธิ์ แต่ไม่ทำให้เขาเหล่านั้นเลิกสังสัยในเส้นทางที่จะนำให้ถึงเป้าหมาย

แปลว่า พาเขาไปถึงเชียงใหม่ ได้โดยที่คนเหล่านั้นไม่รู้ตัว ไม่รู้เส้นทาง คนเหล่านั้นก็สงสัยในเส้นทางอยู่ดี และสุดท้าย เป้าหมายนั้นก็ ถูกละเลย ลืมเลือนได้ เพราะมันไม่ถาวร

 

หมดละ:cool: หมดคำถามแล้วไช่มั้ย ไปสิ ไป ไปนิพพานซะนะ โน่นเลย ไปว่างเลยนะ ว่างเมื่อไหร่ ก็นิพพานเลย นั่นแหล่ะสุญตา

 

..อืมมม ดีๆ มันคุยรู้เรื่องนี่หว่า..

ในความคิดความเห็นของท่านขจร มองว่าท่านพุทธทาสสอนให้คนไปนิพพานง่ายไปใช่ไหม
แค่ทำให้จิตว่างก้อไปได้แล้ว อย่างนี้ใช่ไหม?

 

สุญตาแปลว่าว่างจากทุกสิ่ง
ว่างจริงๆแม้ตัวตนยังไม่เหลือ
แม้กายใจที่เกิดมาไม่จุนเจือ
ว่างมะล้ำมะเหลือว่างจากสิ่งใดใด

แต่ปัญญาควรไม่ว่างจนต้องปิด
ลืมใช้สิทธิ์กายและใจในสิ่งหวัง
ความเป็นผู้เข้าถึงธรรมที่จริงจัง
ก็คือหวังเป็นมนุษย์สุดประเสริฐเอย

 

ก็ทำไม ไม่พูดว่านิพพานอันเดียวกัน กับที่พระพุทธเจ้าท่านชี้เอาไว้ล่ะ

ทำไมไปชี้ที่สุญตา ก็พระพุทธเจ้าท่านสอนไปถึงนิพพาน ทำไมท่านพุทธทาสสอนให้ไปสุญตาล่ะ

เจตนาเพื่อสิ่งใดกัน หรือไม่มีเจตนาหรือ ถึงต้องเอาสุญตามา ชี้ว่าเป็นที่สุดคือนิพพาน

 

ผมว่าที่เริ่มจะรู้เรื่อง คือคุณนั่นแหล่ะ ไช่มั้ย อย่ามองผิดมุมสิ

 

..ท่านสอนให้เราว่างจากทุกอย่าง อย่างไม่รู้ลืมหูลืมตาอย่างนั้นเหรอ เอะอะๆ ก้อว่างอย่างนั้นเหรอ ว่างโดยไม่มีวิธีการหรือมรรคอันถูกต้องอย่างนั้น เท่าที่เราฟังท่านสอนไม่ใีอะไร
ผิดเพี้ยนในการสอน.. ถ้าท่านว่าผิดๆ ตรงไหนบอกมา

 

ตรงที่ท่านพุทธทาสเป็น สมมุติสงฆ์ ไงครับ
และใครตั้งชื่อให้ ว่า เป็น พุทธทาส ทาสของพุทธะ เอาชื่อนี้มาใช้ด้วยเจตนาใดกัน

 

..อ้าาา เอาหล่ะๆ สูญญตาเป็นอย่างไร นิพพานเป็นอย่างไร ขอถามท่านหน่อย..????

 

สมมุติสงฆ์ก็คือสงฆ์โดยสมมุติ
เพราะรักคุดในโลกาว่าทุกข์หลาย
เหมือนคนหัวล้านได้หวีไม่ผ่อนคลาย
จึงต้องกลายจากมนุษย์เป็นสมมุติ สงฆ์เอย

 

..อ้าววๆ อะไรกันนี้ ท่านขจรศักดิ์ไม่ได้ดูที่คำสอนของท่านเหรอ ท่านขจรดูที่ชื่อก้อรู้ได้แล้วเหรอว่าท่านผิด.. ให้ความยุติธรรมกันด้วย

 

ท่านถามในความหมายที่พระพุทธเจ้ากล่าวถึงหรือเปล่าล่ะ ถ้าพระพุทธเจ้ากล่าวก็คือ ความหมายเดียวกันแต่คนละส่วนกัน

สุญตาคือความเข้าใจในมรรค นิพพานคือการเข้าถึงในผล


แต่ถ้าเป็นท่านสมมุติสงฆ์พุทธทาสกล่าว มันไม่ไช่เพราะ ไม่นับไม่เอา ไม่สมควรเอามาคิด ถ้าท่านพุทธทาส เอาสุญตามาสอนพระสงฆ์ด้วยกัน จะไม่ว่าอะไร แต่เอามาสอนฆราวาสด้วย นั่นแหล่ะ ที่ไม่ถูกต้อง เรยด้วยประการทั้งปวง

 

ดูที่ ความเป็นพระ สิครับ

ห้ามอวดอุตริมนุษยธรรม ชื่อน่ะผมเพิ่มให้เป็นส่วนตัว นะ อิอิ

 

ดูกรอานนท์ เราย่อมไม่พิจารณาเห็นแม้รูปอย่างหนึ่งซึ่งเป็นที่ไม่เกิด
โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส เพราะความแปรปรวนและความเป็น
อย่างอื่นของรูป ตามที่เขากำหนัดกันอย่างยิ่งซึ่งบุคคลกำหนัดแล้ว ฯ
[๓๔๖] ดูกรอานนท์ ก็วิหารธรรมอันตถาคตตรัสรู้ในที่นั้นๆ นี้แล คือ
ตถาคตบรรลุสุญญตสมาบัติภายใน เพราะไม่ใส่ใจนิมิตทั้งปวงอยู่


เนี่ย แสดงมรรค คือแสดงเหตุปัจจัย ว่าจะเกิดผล ได้อย่างไร
ท่านสอนมรรค ว่า เพราะเหตุแบบนี้ๆ จึงจะได้ถึงผล นิพพาน

 

..ท่านพุทธทาสในความเห็นของเรา ท่านอาจยังไม่ถึงที่สุดของมรรค เอาสูญญตามาเป็นมรรคพิจารนาเพื่อให้ถึงที่สุดอีกเดียว.. แต่ทำไมมีคนมากมายจับผิดท่านว่า
สอนผิดเป็นโมฆะบุรุษอยู่ในโลกันฑ์ ทำไมถึงคิดกันไปขนาดนั้น

 

ผมไม่ได้ ว่า ท่านพุทธทาสสอนผิด แต่ท่านพุทธทาสเอาที่ผิดมาสอนต่างหาก

เพราะ สุญตาสมาบัติคือมรรคคือปัญญาที่ จะกระทำเพื่อผลนิพพาน
แต่ท่านพุทธทาสเอาคำว่า สุญตามาแทนคำว่านิพพานเหมือนกัน คือนิพพานเช่นกัน

เอางี้ ท่านพุทธทาสไม่ผิด ที่ผิดคือผมเองที่ หาเรื่องจับผิดคนอื่น ผมมันไม่ดี ผมมันแตกปลาย :'(

 

นี่ๆ คุณ ใจของกาย ผมไปซัด กระทิงแดงมาแล้วนะครับ ตาสว่างเลย มาสนทนาต่อล่ะกัน เห็นมาอยู่กระทู้นี้ งั้นร่วมด้วยนะ นะ

ผมว่าคุณ ใจของกาย กลับไปอ่านคำสอนของท่านพุทธทาสใหม่ก่อนดีกว่าครับ แล้วค่อยมาพูด เห็นปล่อยไก่ไปจะหมดเล้าแล้วน่ะครับ ไอ้สุญตาที่ ท่านพุทธทาส กล่าวนี่ เข้าใจความหมายบ่ครับ มันว่างนั้นที่ไหนล่ะ

 

..ท่านสอนให้คนเราลดอัตตาตัวตน ลดกิเลส ลดทิฐิมานะ ว่างจากกิเลส
เราก้ออยากรู้ว่าท่านสอนผิดตรงไหน..

 

ซึ่ง คำว่ามรรค มันก็คืออันเดียวกันกับผล ถ้าคนทั้งหลาย เข้าถึงผลแล้ว ถึงพูดคำนี้

แต่ถ้าคนทั้งหลายยังไม่เข้าถึงผล คือนิพพาน เราก็ต้องแสดงได้แค่มรรคเท่านั้น แสดงผลไม่ได้ เพราะ มันจะไม่เข้าใจเลย

ดังนั้น สุญญาควรกล่าวในฐานะมรรค ได้เท่านั้น จะเอามากล่าวแทนผลไม่ได้

เพราะผล คือ นิพพาน คำเดียว โด่ๆ หนึ่งไม่มีสอง