หน้า3#54จีนสร้างพระแก้วจากแก้วอย่างดีหน้าตัก 4 นิ้วพร้อมหลอดในองค์พระ องค์ละ 30 บาท

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย glassbuddha2009, 30 สิงหาคม 2018.

  1. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    {ฐานไม้ลาย1.jpg
    กรณีที่หากต้องการใช้ฐานพระที่ช่างสร้างฐานพระไม่ยอมสร้างขนาดอื่นใดเลย ท่านต้องให้ช่างปั้นหุ่นขี้ผึ้งมาวัดฐานที่ท่านจะใช้ แล้วจึงใช้ขนาดของฐานนั้นปั้นหุ่นขี้ผึ้งตรงที่เรียกว่าทับเสร็จ
     
  2. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    118.jpg
    ตรงส่วนล่างสุดขององค์พระ ( ทับเสร็จ ) ใช้สำหรับสอดลงไปในฐานที่แยกชิ้นกัน ตัวทับเสร็จจะป้องกันพระไม่ให้เลื่อนหล่นจากฐานพระครับ
     
  3. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    028.jpg
    079.jpg
    องค์นี้ผมใช้หลอดสปอตไล้ท์ขนาด 60 วัตต์ที่ให้ความร้อนประมาณ 100C ซึ่งจะส่งผลให้แก้วได้รับความร้อนประมาณ 90C แก้วของโรงงานแก้วเจษฏาที่มีค่าอัลฟ่าต่ำกว่า 100 สามารถทนต่อการทดสอบทดลองด้วยการเปิดไฟนานวันละ 10 ชั่วโมงต่อเนื่อง นานไม่ต่ำกว่าครึ่งปีต่อเนื่อง โดยไม่ส่งผลต่อแก้วเลยแม้แต่น้อย นี่คือคุณภาพของแก้วที่ผมเลือก

    ส่วนแก้วของโรงงานแก้วของคุณเอมมี่มีคุณภาพดีกว่านี้อีกหลายเท่า ซึ่งผมเห็นว่าไม่จำเป็นและต้นทุนอาจสูงกว่า

    027.jpg
    การทดสอบด้วยหลอดไฟทังสเตน 2000 วัตต์นานนับชั่วโมงแล้วปิดไฟ ปล่อยให้เย็นกลับด้วยตนเองสู่อุณหภูมิห้องโดยไม่เสียหายแม้แต่น้อย

    030.jpg
    ในขณะที่หลอดไฟที่ผมติดตั้งให้คือหลอดคอมแพคที่ให้ความร้อนเพียงประมาณ 55C ย่อมไว้วางใจได้ว่า พระแก้วจะไม่เสียหายเลยนานนับร้อยปี
     
  4. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    013.jpg
    ผมให้โรงงานแก้วเจษฏาสร้าง 3 สีคือ ใส๑ ขาวฝ้า๑ ( ตามภาพนี้ ) สีฟ้าใส๑ ส่วนสีอื่นๆไม่ว่าจะเป็นสีทอง สีแดง และสีอื่นใดเป็นการย้อมสีแก้วภายนอกหรือภายใน ไม่ใช่สีในเนื้อแก้วครับ

    พระแก้วทั้งหมดแจกจ่ายสมนาคุณแก่ผู้ร่วมโครงการและน้อมถวายไว้ในพระพุทธศาสนาทั้งสิ้น 500 องค์ ผมน้อมถวายฟรีไม่เคยคิดเงินเลยแม้แต่บาทเดียว
     
  5. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
  6. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    ก่อนการใช้งานแม่พิมพ์เหล็กต้องมีการลอกวัสดุป้องกันสนิมออกให้หมด และขัดให้เรียบทุกครั้ง หากใช้งานต่อเนื่องหลายวันก็ไม่ต้องเคลือบปกป้องสนิมในระยะเวลานั้น หลังการใช้งานและมั่นใจว่าจะเก็บแม่พิมพ์นานจึงเคลือบวัสดุเคลือบอีกทีหนึ่ง
    038.jpg 155.jpg
    รายละเอียด
     
  7. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
  8. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    sandblasting1(1).jpg sandblasting1(2).jpg
    หลังจากได้พระแก้วเป่าด้วยปอดสีใส หากต้องการทำให้ผิวแก้วใสเป็นสีฝ้าขาว วิธีที่ง่ายที่สุดและโรงงานแก้วส่วนใหญ่ใช้กันคือ การใช้วิธีพ่นทราย แต่ก็มีหลายโรงงานแก้วที่ไม่มีเครื่องพ่นทราย เนื่องจากสายงานของเขาไม่มีความจำเป็น แต่นั่นก็ไม่สำคัญ เพราะมีโรงงานพ่นทรายอิสระมากมาย ตั้งอยู่ในบ้านทาวน์เฮ้าส์ยังมีเลยครับ แต่ที่จริงถ้าเป็นโรงงานที่มีเครื่องมือแบบถูกต้อง มีการป้องกันฝุ่นทรายออกจากตัวเครื่องได้จะดีที่สุดครับ
     
  9. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    ที่โรงงานแก้วของคุณพ่อผม เราใช้ห้องพ่นทรายคล้ายตามในรูปนี้ พนักงานใส่ชุดและมีอากาศเข้ามาจากท่อส่งอากาศโดยใช้อากาศที่มีสูตรอ๊อกซิเจน 22% ( บางคนเข้าใจว่าใช้ถังอ๊อกซิเจน 99% นั่นใช้หายใจนานไม่ได้นะครับ )
    sandblasting_room2.jpg
     
  10. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    sand01.jpg
    ทรายที่ใช้พ่นนั้น สามารถใช้ทรายทะเลสีขาว นำมาร่อนเองก็ได้ ไม่ต้องไปเสียเงินซื้อเป็นถุงๆราคาถุงละ 400.- บาทต่อน้ำหนักแค่ 18 kg. นั้นเพราะเขาขายปลีก

    คนที่ทำโรงงานพ่นทรายเขาสั่งจากแหล่ง ทรายทั้งคันรถสิบล้อราคาแค่ไม่กี่พันบาท ( ราคาตามระยะทางไกลใกล้ ) ถ้านำมาแบ่งขายกำไรเป็นพันเท่าหมื่นเท่าเลย

    แต่ก็มีทรายอีกชนิดหนึ่งที่ปัจจุบันเขาชอบใช้กัน เรียกว่าทรายอลูมีน่า ซึ่งผมเองเคยใช้ทั้ง 2 อย่างมาแล้ว ท่านลองพ่นอย่างละ 2 - 3 องค์ดูก่อน แล้วนำมาพิจารณาว่า ท่านชอบทรายจากทะเล หรือ ทรายอลูมีน่า ทุกอย่างต้องลองก่อนนะครับ
     
  11. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    หลังการพ่นทรายแล้ว หากรู้สึกว่า ผิวสัมผัสยังหยาบ หรือมองแล้วรู้สึกได้ว่าหยาบ ก็ยังสามารถกัดกรดกัดแก้วอีกครั้งซ้ำ เพื่อให้ผิวสัมผัสละเอียดประณีต แม้แต่มองก็ยังมองออกว่า ผิวลื่นเรียบและให้สัมผัสที่ดี
    frosted001-jpg.jpg
    frosted002-jpg.jpg
    frosted003-jpg.jpg
    frosted004-jpg.jpg
    frosted005-jpg.jpg
    frosted006-jpg.jpg
    ภาพตัวอย่างการใช้กรดกัดแก้วทำการกัดผิวแก้วนานตั้งแต่ 5 นาทีขึ้นไปถึง 30 นาที ครั้งนั้นนายช่างกรดกัดแก้วของโรงงานแก้วโลตัสคริสตัลระยองขอคำปรึกษาจากผม และผมได้ให้คำปรึกษาไปแล้ว
     
  12. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    แต่ไม่ใช่ทุกโรงงานแก้วจะมีเครื่องมือและอุปกรณ์การกัดกรดกัดแก้ว พูดได้ว่า ปัจจุบันนี้มีน้อยโรงงานแก้วที่มีครับ

    ผมจึงนำภาพชุดเครื่องมือและอุปกรณ์การกัดกรดกัดแก้วมาให้ชมกันว่า ที่ถูกต้อง ต้องมีอะไรบ้าง ? ไม่ใช่กัดกันแบบว่า ทำกันเล่นๆ ทำผิดพลาดแล้วก็ถึงกับพิการหรือถึงกับตายได้นะครับ
    thumbnail_pic-01-jpg.jpg
    thumbnail_pic-02-jpg.jpg
    acid_suit-360x360.jpg
    ชุดของงานกัดกรดที่ถูกต้อง จะป้องกันทุกส่วน และระบบการหายใจก็ต้องใช้ลมจากถังอ๊อกซิเจนที่มีอ๊อกซิเจน 22% ตามในภาพนี้ผมยืมมาจากงานของแพ้นท์ครับ ไม่ใช่งานในโรงงาน ขออภัยที่หาภาพของโรงงานแก้วไม่เจอแล้ว
     
  13. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    ในส่วนการกัดกรดกัดแก้วนี้ ถ้าหากไม่พบโรงงานแก้วที่มีเครื่องมือและอุปกรณ์แล้ว ก็ยังสามารถหาโรงงานกัดแก้วที่เขาทำงานกัดกระจกแผ่นในไทยได้ครับ ไปขอเขาใช้เครื่องมือ หรืออาจนำชิ้นงานไปให้เขาทำ คิดราคาแล้วแต่ว่า จะมีจำนวนครั้งละมากน้อยเท่าใด

    หรือหากท่านที่ต้องการมีสตูดิโอแก้วเป็นของตนเอง เพื่องานที่เป็นไปตามที่ตนเองต้องการให้ได้มากที่สุด ต้องไปหาสถานที่ที่เป็นนิคมอุตสาหกรรมนะครับ เพราะกากของกรดต้องมีการนำไปทิ้งอย่างถูกต้อง ไม่ใช่ปล่อยทิ้งไปเฉยๆนะครับ เป็นพิษและอันตรายถึงตายนะครับ

    แต่ไม่ต้องตกใจนะครับ คุณพ่อผมท่านเป็นคนมองโลกในแง่ดี ท่านสอนผมกัดกรดกัดแก้วตั้งแต่ผมอายุ 7 ขวบ และผมก็ไม่เคยได้รับอุบัติเหตุร้ายแรงจากกรดกัดแก้วเลย ดังนั้นไม่ต้องกลัวเกินเหตุ แต่ก็ต้องใช้อุปกรณ์และสถานที่ที่ถูกต้องนะครับ
     
  14. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    ภาพบน พระแก้วในพานผ่านการยิงทรายอลูมีน่าเบอร์ 100 เพียงอย่างเดียว ไม่ได้ผ่านกรดกัดแก้ว
    109-jpg.jpg

    .................................................................

    0092.jpg
    ภาพล่าง พระแก้วองค์ซ้ายที่เป็นสีฝ้าขาว ผ่านการพ่นทรายแล้วกัดด้วยกรดกัดแก้วอีกครั้งหนึ่ง หากมองอย่างละเอียดก็พอสังเกตุได้ว่า ผิวแก้วจะเรียบลื่นและให้สัมผัสในการจับต้องได้ดีกว่า
     
  15. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    ปกติแล้วขั้นตอนการทำผิวแก้วองค์พระแก้ว จะไม่เกิน 2 อย่าง คือการพ่นทรายและการกัดกรด แต่ผมอยากยกคุณภาพพระแก้วให้เป็นที่สุดของที่สุด คือการแต่งผิวด้วยการขัดผิวลื่นก่อนการกัดกรดแทนการพ่นทราย ซึ่งผลก็คือความเป็นเลิศของผิวเรียบลื่นถึงที่สุดแห่งงานแก้ว
    0a099.jpg
    ภาพนี้ผมขอยกย่องลาลีคแห่งฝรั่งเศสที่เขาทำขั้นตอนนี้ แทนที่จะพ่นทราย เขาขัดผิวลื่นก่อน จึงกัดกรดแก้ว เพราะเหตุนี้ผมจึงยอมรับความถึงที่สุด ความเป็นเลิศของลาลีค ว่ามีความวิริยะอุตสาหะถึงที่สุดของงานแก้ว

    หากถามผมว่า ช่างแก้วไทยจะทำขั้นตอนนี้ได้ไหม ? คำตอบคือได้ และช่างแก้วไทยที่มีความละเอียดประณีตขนาดนี้มีอยู่ เพียงแต่โรงงานแก้วในไทยมักมองข้ามจุดนี้ไป ทำให้ผลงานของเราไม่ถึงอันดับหนึ่งของโลกนั่นเอง ทั้งๆที่ค่าแรงช่างไทยนั้นถูกที่สุดในโลก ถูกกว่าแรงงานพม่าด้วยซ้ำไป
     
  16. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    คลิกภาพเพื่อขยายใหญ่
    Lalique+Buddha+Sculpture,+Clear_LG15.jpg
    ลาลีคฝรั่งเศสยังทำผิวหลังการกัดกรดกัดแก้วต่ออีกขั้นตอนสุดท้าย คือการทำผิวใสสลับฝ้า ท่านสามารถสังเกตุเห็นได้จากภาพนี้ ส่วนที่เป็นสีใสและสีฝ้านั้นเป็นการทำขึ้นด้วยความวิริยะอุตสาหะอย่างยิ่ง ไม่ใช่ง่ายๆ สุกเอาเผากินแบบงานของชาติอื่นๆ ดังนั้น ในใจผมยังยกให้ลาลีคเป็นอันดับหนึ่งของโลกนั่นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กันยายน 2018
  17. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    001a-jpg.jpg
    พระแก้วหน้าตัก 9 นิ้วที่ผมสร้างขึ้นโดยไม่ได้นัดหมายกับลาลีคหรือบัคคาฮ่าฝรั่งเศส บนโลกนี้จึงมีการสร้างพระแก้วหน้าตักใกล้เคียงกันคือของผม 9 นิ้ว ลาลีคฝรั่งเศสและบัคคาฮ่าฝรั่งเศสหน้าตัก 8 นิ้วเศษ สร้างเสร็จใกล้ปีกันโดยไม่มีการนัดหมาย

    เนื่องจากผมได้น้อมถวายพระแก้วหน้าตัก 9 นิ้วทั้งหมดไปแล้ว จึงไม่สามารถถ่ายภาพใหม่ได้ จึงขอนำภาพเดิมมาเปรียบเทียบกับของลาลีค ซึ่งผมยอมรับครับว่าลาลีคฝรั่งเศสเหนือชั้นกว่าจริงๆ
     
  18. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    คลิกภาพเพื่อขยายใหญ่
    595.jpg
    คราวนี้มาดูพระแก้วหน้าตัก 8 นิ้วเศษของบัคคาฮ่าฝรั่งเศสบ้าง บัคคาฮ่ามีชื่อเสียงจากการทำแก้วใส ผิวใส แต่เนื้อแก้วใสอมดำเล็กๆ ในพระแก้วองค์นี้ก็เช่นกัน ทางบัคคาฮ่าสร้างเนื้อแก้วคริสตัลใส ผิวใส ยกเว้นที่มวยพระเกศาที่ทำฝ้า แม้แต่พระพักตร์ก็ยังใส

    ผมไปดูใกล้ๆมาแล้ว ถึงแม้ผมจะยอมรับว่าเนื้อแก้วของบัคคาฮ่าใสอมดำได้สวยที่สุดของโลก ขนาดขวดเหล้ายี่ห้อดังแพงๆ ขวดละหลายแสนบาทก็ยังเลือกใช้ขวดของเขาที่สั่งสร้างเฉพาะรุ่น
     
  19. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    000000000011112.jpg
    กลับมาที่พระแก้วหน้าตัก 8 นิ้วเศษของลาลีค เนื้อแก้วคริสตัลสีเหลืองอำพัน ผ่านกรรมวิธีทำผิวฝ้า และผิวมัน transparent สลับกับสีฝ้า ภายใต้เป็นเนื้อสีเหลืองอำพัน เรียกโดยรวมว่าสีเหลืองอำพันฝ้า

    ลาลีคเลือกสร้าง 2 สี จนกระทั่งประมาณปีที่ผ่านมานี้ จึงเลือกที่จะเพิ่มสีอีก 1 สี แต่ไม่ทราบว่าเลือกเพิ่มเฉพาะในรุ่นหน้าตัก 4 นิ้วหรือรวมทั้งขนาดหน้าตัก 8 นิ้วเศษด้วยก็ยังไม่แน่ใจครับ

    000000000011118-jpg.jpg
    ภาพล่างนี้คือสีชาทองที่ลาลีคเลือกเพิ่มขึ้นมา แต่ขณะนี้ผมเห็นแต่ขนาดหน้าตัก 4 นิ้วที่ทำสีนี้เพิ่ม ส่วนขนาดหน้าตัก 8 นิ้วเศษผมยังไม่เห็นครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กันยายน 2018
  20. glassbuddha2009

    glassbuddha2009 087-7459995 สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    36,158
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +53,808
    art-buddha.jpg
    ภาพนี้มีเรื่องราว ครอบครัวนักร้องชาวฮ่องกงครอบครัวหนึ่ง นอกจากเป็นนักร้องแล้ว ยังเป็นศิลปะการลงเส้นลายทองอีกด้วย ได้นำเข้าพระแก้วหน้าตัก 4 นิ้วจากลาลีคฝรั่งเศสจำนวน 388 องค์ แล้วนำมาลงลายทองด้วยฝีมือของคุณพ่อซึ่งก็เป็นนักร้องชื่อดัง เขาเลือกสีฝ้าขาว ซึ่งก็จะทำให้ลายทองที่ได้เด่นชัดกว่าการใช้สีอื่นๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...