หลวงปู่ทิม 0827893576

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย พลังชาตรี 13, 27 กุมภาพันธ์ 2013.

  1. พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +1,852
    เหรียญพระเจ้าตากสินพร้อมเลี่ยมทอง ปิดบูชาแล้วครับ

    ท่าน bangramard รับนิมนต์ไปเรียบร้อยแล้วครับ

    ขอบพระคุณมากครับที่ให้ความสนใจ
     
  2. พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +1,852
    รายการที่ ๔.

    สมเด็จคะแนนยันต์เฑาะห์ หลวงปู่ทิม ออกวัดละหารไร่ ปี2515

    ขุนพลจิ๋วแห่งบ้านค่าย ด้วยเนื้อมวลสารผงพรายที่เข็มขลัง

    สมเด็จคะแนนยันต์เฑาะห์ หลวงปู่ทิม ออกวัดละหารไร่ ปี2515 โดยท่านเล้ง เขาน้อย เป็นผู้จัดสร้างในครั้งที่ไปคุมดูงานแกะพิมพ์พระแก้วพระพุทธบาทสี่รอย โดยหลวงตาบางท่านมาให้ช่วยแกะพิมพ์สมเด็จหลังยันต์สามยันต์ห้าในช่วงเวลานั้น
    โดยที่คุณเล้ง เขาน้อย ได้ไปมีโอกาศกราบใหว้หลวงปู่ทิม ที่วัดละหารไร่ ได้พบว่าหลวงปู่ทิมท่านเป็นพระสงฆ์ที่มีจริยวัตรที่น่าเสื่อมใสมากๆจึงเกิดศรัทธาหลวงปู่ท่านมาก จึงได้ทำการขอหลวงปู่ทิมท่านจัดสร้างสมเด็จองค์จิ๋วโดยมีด้านหลังเป็นยันต์เฑาะห์ไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งหลวงปู่ทิมท่านก็ได้อนุญาตโดยยังมอบผงวิเศษต่างๆให้ผสมมี "ผงพรายกุมาร" เป็นสำคัญและผงของสมเด็จหลังยันต์ห้า/และยันต์สาม/อีกทั้งผงพุทธคุณต่างๆของหลวงปู่มาให้ผสมเป็นมวลสาร เมื่อผสมและกดพิมพ์ได้เป็นสมเด็จองค์จิ๋วยันต์เฑาะห์เสร็จก็นำมาให้หลวงตาบางท่านนำไปถวายหลวงปู่ทิมปลุกเสก
    ณ.วัดละหารไร่ เมื่อหลวงตาบางท่านนำมาถวายหลวงปู่ทิม หลวงปู่เมตตาปลุกเสกให้เป็นเวลานานมากถึง 1 ไตรมาส (3 เดือน) เมื่อปลุกเสกเสร็จสมเด็จคะแนนองค์จิ๋วยันต์เฑาะห์ จึงได้บรรจุไปด้วยพุทธานุภาพอันเป็นสาระธรรมที่สุงอย่างยิ่งทั้งมวลสารและพุทธคุณผงวิเศษต่างๆที่นำมาผสมเป็นมวลสาร ดังหลวงปู่ทิมท่านเคยกล่าวไว้ว่าพระสมเด็จเป็นเรื่องของผู้ที่มีบุญบารมีสุงจึงได้ครอบครอง


    ขุนพลจิ๋วแห่งบ้านค่าย ด้วยเนื้อมวลสารผงพรายที่เข็มขลัง

    .





    พร้อมบัตรรับรองพระแท้



    เป็นพระที่สวยมากครับไม่สวยจริงส่งกลับคืนมาโอนเงินกลับทันที่

    เล่นพระสวยพระดีมีมาตรฐาน เล่นแบบสบายใจพร้อมบัตรรับรองพระแท้

    พระไม่ดีไม่แท้ไม่นำมาลงให้ศึกษากันผิดๆครับ

    บูชาพระไม่ต้องเสี่ยงพร้อมใบเซอร์ พลังชาตรี 13

    รับประกันพระแท้ไม่มีกำหนด องค์ใหนเก็ บวกให้ 2000 บาท
     
  3. พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +1,852
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR bgColor=#ff9966><TD>[FONT=Microsoft Sans Serif, MS Sans Serif, sans-serif]วันพฤหัส[/FONT]

    </TD><TD></TD><TD vAlign=top></TD></TR><TR bgColor=#ff9966><TD bgColor=#ff9966 rowSpan=10>

    </TD><TD rowSpan=10></TD><TD vAlign=top>[FONT=Microsoft Sans Serif, MS Sans Serif, sans-serif]"ปางสมาธิหรือปางตรัสรู้"[/FONT]</TD></TR><TR><TD bgColor=#ff9966 vAlign=top></TD></TR><TR><TD bgColor=#ff9966 vAlign=top>[FONT=Microsoft Sans Serif, MS Sans Serif, sans-serif]พระพุทธรูปอยู่ในพระอริยาบถประทับ (นั่ง) ขัดสมาธิ พระหัตถ์ทั้งสองวางหงายซ้อนกันบนพระเพลา (ตัก) พระหัตถ์ขวาทับพระหัตถ์ซ้าย พระชงฆ์ (แข้ง) ขวาทับพระชงฆ์ซ้าย[/FONT]</TD></TR><TR><TD bgColor=#ff9966 vAlign=top></TD></TR><TR><TD bgColor=#ff9966 vAlign=top>[FONT=Microsoft Sans Serif, MS Sans Serif, sans-serif]ประวัติย่อ...[/FONT]
    [FONT=Microsoft Sans Serif, MS Sans Serif, sans-serif]ภายหลังจากที่พระมหาบุรุษได้กำราบพรยามารลงได้แล้ว พระองค์จึงได้ตั้งพระทัยเจริญสมาธิจนได้ญาณขั้นต่างๆ และในที่สุดก็ได้บรรลุอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในเวลาเช้าตรู่ของวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ (วันวิสาขบูชา)[/FONT]
    </TD></TR><TR><TD bgColor=#ff9966 vAlign=top></TD></TR><TR><TD bgColor=#ff9966 vAlign=top>[FONT=Microsoft Sans Serif, MS Sans Serif, sans-serif]บทสวดมนต์บูชาพระประจำวันพฤหัสบดี...[/FONT]
    [FONT=Microsoft Sans Serif, MS Sans Serif, sans-serif]อัตถิโลเก สีละคุโณ สัจจังโสเจยยะ นุททะยา เตนะ สัจเจนะ กาหามิ สัจจะกิริยะมะนุตตะรัง อาวัชชิตวา ธัมมัพะลัง สะริตวา ปุพพะเก ชิเน สัจจะพะละมะสายะ สัจจะกิริยะมะกาสะหัง สันติ ปักขา อะปัตตะนา สันติ ปาทา อะวัญจะนา มาตาปิตา จะนิกขันตา ชาตะเวทะ ปฏิิกกะมะ สะหะ สัจเจกะเต มัยหัง มะหาปัชชะลิโต สิขี วัชเชสิ โสฬะสะ กะรีสานิ อุทะกัง ปัตวา ยะถา สิขี สัจเจนะ เม สะโม นัตถิ เอสา เม สัจจะปาระมีติ [/FONT]
    </TD></TR><TR><TD bgColor=#ff9966 vAlign=top></TD></TR><TR><TD bgColor=#ff9966 vAlign=top>[FONT=Microsoft Sans Serif, MS Sans Serif, sans-serif]สวดวันละ ๑๙ จบ จะมีความสุขความเจริญยิ่งๆ ขึ้นไป[/FONT]
    [FONT=Microsoft Sans Serif, MS Sans Serif, sans-serif]ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี พึงใช้เครื่องประดับและบ้านเรือนเป็นสีเหลืองหรือสีไพล ส่วนสีรองลงมาคือ สีน้ำเงิน สีแดง สีเขียว พึงเว้น สีดำ สรกรมท่า และสีน้ำเงินแก่[/FONT]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>​


    พระพุทธรูปปางสมาธิ

    ในเช้าของคืนวันที่จะตรัสรู้นั้น พระโพธิสัตว์สิตธัตถะ หลังเสวยข้าวมธุปายาสที่นางสุชาดานำมาถวายแล้ว ก็ได้ทรงอธิษฐานเสี่ยงทายถาดทองคำที่แม่น้ำเนรัญชรา แล้วประทับยับยั้งอยู่ที่นั้นจนตะวันบ่ายคล้อยเสด็จกลับมายังต้นพระศรีมหา โพธิ์ ในระหว่างทาง ได้ทรงรับหญ้าคา 6 กำมือ จากโสตถิยะพราหมณ์ จึงนำมาปูลาด ณ ใต่ต้นไม่ พระศรีมหาโพธิ์แทนบัลลังก์ แล้วขึ้นประทับนั่งผันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออก ผันพระปฤษฏางค์ ให้ลำต้นพระศรีมหาโพธิ์ แล้วจึงทรงอธิษฐานพระทัยว่า จักไม่ลุกจากบัลลังก์นี้ ตาบใดที่ยังไม่ได้บรรลุพระสัมโพธิญาณ แม้ว่าเนื้อและเลือดจะเหือดแห้งไปจนเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกก็ตามทีหลังจาก อธิษฐานจิตพระองค์ก็ได้เผชิญกับการทำสงครามกับพญามาราธิราชพร้อมเสนาหมู่ ใหญ่ แต่พระองค์ก็สามารถเอาชนะได้ด้วยพระบารมีต่างๆก่อนที่พระอาทิตย์จะอัสดงคต เล็กน้อย จากนั้นก็ได้เจริญภาวนาจนได้บรรลุพระญาณต่างๆ ไปตามลำดับ คือ

    1.ในปฐมยาม ทรงบรรลุบุพเพนิวาสานุสสติญาณ สามารถระลึกชาติในอดีตได้เป็นเหตุให้ทรงยั่งรู้อัตตภาพขันธสังขารต่างที่ ประกอบกันขึ้นและดับไปนับครั้งไม่ถ้วน ทำให้ทรงกำจัดความหลงในขันธ์อันเป็นเหตุรักหรือขังเสียได้โดยสิ้นเชิง
    2.ในมัชฌิมยาม ทรงบรรลุจุตูปปาตญาณ หรือ ทิพพจักษุ สามารหยั่งรู้การเกิดการตายตลอดถึงสาเหตุที่ทำให้สรรพสัตว์ต้องเวียนว่ายตาย เกิดในรูปแบบต่างๆ กันออกไปก็ด้วยอำนาจกรรมที่แตกต่างกัน เป็นผลให้ทรงกำจัดความหลง ในคติแห่งขันธ์อันเป็นเหตุสำคัญผิดด้วยประการต่างๆ ได้
    3.ในปัจฉิมยาม ทรงบรรลุอาสวักขยญาณ สามารถกำจัดอาสวักกิเลสน้อยใหญ่ทั้งมวลได้สิ้นเชิงด้วยพระปัญญารู้แจ้งความ จริงอันประเสริฐและเข้าใจชัดแจ้งถึงสายโซ่แห่งชีวิตที่เกิดดับ โดยความอาศัยกันและกัน แห่งเหตุปัจจัย หรือปฏิจจสมุทปบาทธรรมทำให้ทรงได้ชีวิตใหม่ บรรลุอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ กลายเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้มีพระญาณอันหมดจดวิเศษเหนื่อยกว่ามนุษย์ และทวยเทพทั้งมวล
    ภายหลังจากตรัสรู้ พระองค์ก็ได้ประทับนั่งเสวยวิมุติสุขและพิจารณาปฏิจจสมุปบาทธรรมตลอด 7 วัน ณ ควงไม้พระศรีมหาโพธิ์ โดยมิได้เสด็จลุกไปไหนด้วยเหตุอัศจรรย์ดังกล่าว ภายหลังจึงมีการสร้างพระพุทธรูปปางสมาธิขึ้นไว้เป็นอนุสติและกลายมาเป็นปาง พระพุทธรูปบูชา สำหรับ ผู้ที่เกิดในวันพฤหัสบดี


    พระปางสมาธิหลวงปู่ทิม บรรจุกรุปี 17 วัดละหารไร่

    หลวงปู่ทิมปลุกเสกและบรรจุกรุ ผสมเนื้อผงพรายกุมาร 1 กระป๋องนม

    ขนาดกำลังดีครับ 2x3.5 ซ.ม สวยมากครับ




    พระชุดบรรจุกรุเนื้อผงพรายกุมาร

    พระเครื่องชุดบรรจุกรุได้เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง (ของกลุ่มนักนิยมสะสมพระเครื่อง) ก็ต่อเมื่อหนังสือพระ ”สนามพระ" ฉบับคู่มือนักสะสม”เล่มที่ 16 (พ.ศ.2536) ได้ลงพิมพ์ข้อความประชาสัมพันธ์พระชุดนี้ให้ทางวัดละหารไร่

    ความเป็นมาของพระบรรจุกรุนั้น เริ่มขึ้นเมื่อจะมีการผูกพัทธสีมาอุโบสถวัดละหารไร่โดยในปี พ.ศ. 2516 ทางวัดได้จัดเตรียมสร้างพระเครื่องสำหรับงานผูกพัทธสีมาขึ้นมาจำนวนหนึ่ง ครั้นจัดงานผูกพัทธสีมาใน พ.ศ.2517
    ผู้เฒ่าบางท่านกล่าวว่า บรรดาวัตถุมงคลของแต่ละอาจารย์ที่สุดยอดเยี่ยมยมยิ่งกว่าสิ่งอื่นก็คือ วัตถุมงคลที่จัดสร้างและปลุกเสกเนื่องในงานผูกพัทธสีมา) พิธีบรรพชาอุปสมบท(ดั่งที่มีคตินิยมมักใส่พระเครื่องของขลังในบาตรของผู้อุปสมบท) การลงอุโบสถสังฆกรรม-สวดปาติโมกข์และการทำพิธีในวันสำคัญต่างๆ มานานประมาณ 9 ปีโดยอยู่ในช่วงสมัยซึ่งหลวงปู่ทิมยังดำรงเบญจขันธ์อยู่เป็นเวลาประมาณ 2 ปี.พระบรรจุกรุจึงเป็นวัตถุมงคลที่พร้อมสรรพทั้งทางคตินยมและทางอิทธิคุณบารมี ซึ่งบริบูรณ์ด้วยพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ และสังฆานุภาพ อีกอย่างหนึ่งของหลวงปู่ทิม อิสริโก.

    ท่านผู้ใหญ่ฯ เสริญ นิลรัตน์ ซึ่งเคยอุปสมบทและประจำพรรษาที่วัดละหารไร่ในพรรษาปี 2516 และ 2517 เคยให้ข้อมูลว่า พระชุดนี้ทางวัดละหารไร่จัดสร้าง และหลวงปู่ทิมปลุกเสกแน่นอน .ด้วยความเชื่อที่ว่า ลุงสาย แก้ว สว่าง ไวยาจักรในขณะนั้น ย่อมต้องทราบข้อมูลเรื่องนี้อย่างแน่นอน เพราะเป็นการสร้างพระจำนวนมากว่าครั้งใดๆ จึงได้เรียนถามท่าน ท่านกรุณาเล่าให้ฟังว่า นอกจากใส่ซุ้มเสมาแล้ว ยังใส่ในฐานพระประธานด้วย เนื่องจากสภาพกรุที่ไม่ได้ก่ออิฐถือปูนรองรับไว้ เอาพระใส่ในทรายเลย ทำให้พระเสียหายเยอะ ถ้ายังเก็บไว้นาน ก็จะยิ่งเสียหายมากขึ้นกว่านี้อีก.

    พระผงชุดบรรจุกรุ มีส่วนผสมหรือมีมวลสารที่เป็นผงพรายกุมารหรือไม่
    ลุงสายกล่าวว่า ได้ผสมผงพรายกุมารกับพระชุดนี้ไปประมาณหนึ่งกระป๋องนม.



    <TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD height="100%" vAlign=top width="85%">รูปประกอบพระบรรจุกรุหลวงปู่ทิมเป็นประธานในการบรรจุ

    เช้าวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๑๘ หลวงปู่ทิม ลงจากกุฏิ เดินนำหน้าอธิบดีกรมการศาสนาในสมัยนั้น
    เพื่อบรรจุพระลงกรุเป็นองค์แรก โดยมีนายเพียรวิทย์ จารุสถิติ ถือพานใส่พระที่จะบรรจุลงกรุ

    อีกภาพ องค์หลวงปู่ทิม อิสริโก นำพระบรรจุลงกรุในพัทธสีมาเป็นปฐมฤกษ์ จำนวน ๙ องต์
    โดยคุณวัชระ เอี่ยมโชติอธิบดีกรมศาสนาบรรจุเป็นคนที่ ๒







    </TD></TR><TR><TD class=smalltext vAlign=bottom width="85%"><TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=smalltext width="100%" colSpan=2><HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%"></B> </B>










    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></B>
    </B>

    เล่นพระสวยพระดีมีมาตรฐาน เล่นแบบสบายใจพร้อมบัตรรับรองพระแท้

    พระไม่ดีไม่แท้ไม่นำมาลงให้ศึกษากันผิดๆครับ

    บูชาพระไม่ต้องเสี่ยงพร้อมใบเซอร์ พลังชาตรี 13

    รับประกันพระแท้ไม่มีกำหนด องค์ใหนเก็ บวกให้ 2000 บาท<!-- google_ad_section_end -->
     
  4. พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +1,852
    รายการที่ ๖.

    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ สมเด็จพิมพ์อกร่อง ปี 2513




    สมเด็จ ปรกโพธิ์ พิมพ์ใหญ่ เนื้อผงธูป วัดไผ่ล้อมปี 2513

    หลวงปู่ทิม ปลุกเสกให้ถึง 2 วาระครับ



    พร้อมบัตรรับรองพระแท้สากลครับท่าน



    พระสมเด็จ ปรกโพธิ์ พิมพ์ใหญ่ วัดไผ่ล้อม อ.บ้านค่าย จ.ระยอง




    ตะกรุดหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ขนาด 4 นิ้ว ปี 2513 ออกให้วัดไผ่ล้อม หลวงปู่ทิมปลุกเสก







    เครื่องรางที่มีความเป็นมาตรฐานสากล พร้อมบัตรรับรอง



    พุทธคุณหลวงปู่ทิม ดีรอบด้านน่าบูชาครับท่าน


    ประวัติพระเครื่องสมเด็จพิมพ์อกร่อง วัดไผ่ล้อม อ.บ้านค่าย จ.ระยอง
    หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ เป็นเจ้าพิธีปลุกเสก หลวงปู่ทิมมอบผงจินดามณีให้สำหรับจัดสร้าง 1 กระป๋อง และเมตตาปลุกเสกให้ถึง 2 ครั้ง
    ปี พ.ศ.2513 เพื่อแจกเป็นที่ระลึกในงานผูกพัทธสีมาของวัดไผ่ล้อมในปี พ.ศ.2514

    ในครั้งเริ่มแรก พระอาจารย์จำปี วิปุโล(จำรัสแสง) ได้รับมอบหมายจาก พระอาจารย์พูน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ต.บ้านค่าย อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ให้เริ่มทำการสะสมว่านนานาชนิด มีทั้งว่านประเภทคงกระพันชาตรี, เมตตามหานิยม, ป้องกันสัตว์ร้ายเขี้ยวงาทุกชนิด แร่ธาตุต่างๆหลายชนิด มีแร่บังขนิฏสีเขียว, สีดำ, สีมันปู, แร่ดอกมะขาม จ.กาญจนบุรี, แร่พลวงเงิน, แร่พลวงทอง, พลอยจันทบุรี สีนิล, ชินปรอทสังฆวานร, โมราท้องรุ้ง, เสาตะลุงช้างเผือก, กระดูกหัวกะโหลกช้างทรง, เพชรน้ำค้าง, ศิลาน้ำค้าง, เหล็กทรหด, เหล็กน้ำพี้,เหล็กยอดเจดีย์, สัมฤทธิ์, ข้าวตอกพระร่วง, ข้าวสุกลอยน้ำ, ข้าวสารดำ, ข้าวรอดเพชรหลีก, ไคลประตูเมือง,ไคลเจดีย์,ไคลเสมา9 แห่ง, ดินโป่ง 9 โป่ง 9 สี, ดินบริสุทธิ์ กลางมหาสมุทร, ดินกรุซุ้มกอทุ่งเศรษฐี เมืองกำแพงเพชร, ดินกรุสุโขทัย, ดินกรุอยุธยา, ดินท่า 9 ท่า, อีกทั้งยังได้เก็บรวบรวมผงพระเครื่องต่างๆทุกยุคทุกสมัยที่ชำรุด มีสมัยเชียงแสน, สุโขทัย, อู่ทอง, ลพบุรี, พิจิตร, พิษณุโลก, กำแพงเพชร, สุพรรณบุรี, อยุธยา,รัตนโกสินทร์, ผงพระ 25 พุทธศตวรรษ
    ส่วนผงวิเศษ ต่างๆที่เก็บสะสมไว้อีกมากมาย เช่นผงปฐมอักขระ,ผงไตรสรณาคม, ผงพระพุทธคุณ, พระธรรมคุณ, พระสังฆคุณ, ผงพระเจ้า ห้าพระองค์, ผงพระเจ้า 16 พระองค์, ผงตรีนิสิงเห, ผงอิทธิเจ, ผงปถมัง, ผงมหาราช, ผงสังตโลก, ผงมหาอุตม์หลวงพ่อวงศ์, ผงพระเกสรหลวงพ่อวงศ์ วัดบ้านค่าย, ผงพระสมเด็จวัดระฆังที่หลวงปู่นาคมอบให้, ผงเก่าและสีผึ้งเขียว ของหลวงปู่ทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง ระยอง, ผงหลวงพ่อเพ่ง วัดละหารใหญ่ ระยอง, ผงพญางิ้วดำ, กาฝาก, กาหลง, กาฝากรักซ้อน, กาฝากมะยม, กาฝากมะรุม, กาฝากมะขาม, กาฝากมะนาว, กาฝากลั่นทม, เถาวัลย์หลง, เครือสาวหลง, ว่านสาวหลง, ไม้รู้นอนเก้าอย่าง, ยอดรัก, ยอดสวาท, กัลปังหา, ทรายเงิน, ทรายทอง, ว่าน 108, เกสรดอกไม้108, น้ำมนต์บ่อขุนไกรอันศักดิ์สิทธิ์ จึงได้นำมาผสมสร้างเป็นองค์พระ

    ก่อนที่จะเริ่มกดพิมพ์พระ ได้ทำพิธีบวงสรวงเทพเทวา ครูบาอาจารย์เสร็จแล้วจึงกดพิมพ์เป็นปฐมฤกษ์ โดยพระอาจารย์จำปี วิปุโล เมื่อวันเสาร์ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 ปีระกา ตรงกับวันที่ 22 มีนาคม 2512 เวลา 09.09 น.ในราศีเมษ มหัทธโนแห่งฤกษ์ คือฤกษ์ที่มั่งคั่งสมบูรณ์ไปด้วยทรัพย์สินเงินทองและเทพเทวารักษาดี

    เมื่อ พิมพ์พระเสร็จแล้ว ก็ได้ทำพิธีปลุกเสก โดยพระอาจารย์จำปี วิปุโล ได้นิมนต์พระภิกษุภายในวัดมาร่วมสวดบริกรรมพระปริต มีพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณพระ 5 รูปสวดพระธรรมจักร 108 ตลอดคืน รวม 15 คืน เริ่มปลุกเสกเมื่อวันเสาร์แรม 5 ค่ำเดือน 9 อยู่ในพรรษา ตรงกับวันที่ 22 สิงหาคม 2513 จนถึงวันที่ 5 กันยายน 2513 ซึ่งตรงกับวันเสาร์ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 10 ปีจอ รวม 15 คืน
    เป็นที่น่าอัศจรรย์อย่างมาก เพราะว่าการทำพิธีครั้งนี้ตรงกับวันเสาร์ 5 ทั้งหมด คือตั้งแต่เริ่มพิมพ์ เริ่มปลุกเสก และวันสุดท้ายที่ปลุกเสกเดี่ยว ก็ตรงกับวันเสาร์อีกเช่นกัน ที่น่าอัศจรรย์อีกอย่างก็คือเมื่อทำพิธีปลุกเสกถึงเวลาตีห้าดับเทียนชัย ได้มีฝนตกซู่ลงมาประมาณ 1 นาที แล้วก็หยุดตกซึ่งจะเป็นอย่างนี้ทุกคืน

    วัตถุ มงคลที่จัดสร้างในครั้งนี้ได้ทำพิธีปลุกเสกใหญ่อีกครั้งหนึ่งโดย นิมนต์พระคณาจารย์ที่มีอาคมขลังขมังเวท 9 รูป นั่งปรกอธิษฐานจิตปลุกเสกตลอดคืน ดังมีรายนามดังต่อไปนี้

    1. หลวงปู่ทิม (พระ ครูภาวนาภิรัติ) วัดละหารไร่ จ.ระยอง,
    2. หลวงพ่อลัด(พระวิจิตร) วัดหนองกระบอก จ.ระยอง,
    3. หลวงพ่อชื่น วัดมาบข่า จ.ระยอง,
    4. หลวงพ่อโต่ง วัดบ้านเพ จ.ระยอง,
    5. หลวงพ่อรวย วัดท่าเรือ จ.ระยอง,
    6. หลวงพ่อหอม วัดชากหมากป่าเรไร จ.ระยอง,
    7. หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จ.จันทบุรี,
    8. หลวงพ่อสมชาย วัดแม่นางปลื้ม จ.อยุธยา,
    9. หลวงพ่อสละ วัดประดู่ทรงธรรม จ.อยุธยา

    มีสิ่งที่น่าอัศจรรย์เป็นอย่างมากในการปลุกเสกพระเครื่อง ครั้งนี้ คือ ขณะที่หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ นั่งบริกรรมภาวนาอยู่นั้น ช่างภาพถ่ายรูปไม่ติด คือแฟลชไม่ขึ้น ถ่ายอยู่หลายครั้งก็ไม่สำเร็จผล ต้องขออนุญาตท่านก่อนจึงได้ถ่ายติด ในระหว่างที่หลวงปู่ทิม นั่งบริกรรมภาวนาอยู่นั้น ถ้าท่านหลับตาลงครั้งใด ไฟฟ้าจะดับทันที เป็นอย่างนี้ถึง ๓ ครั้ง ดังนั้นท่านจึงต้องบริกรรมภาวนาลืมตาตลอดคืน ไม่ได้พักเลย จนกว่าเสร็จพิธีคือสว่าง (ในวันที่ทำพิธีปลุกเสกนั้นได้เริ่มพิธีตั้งแต่ 18.00 น.จนถึง 22.00 น. หลังจากนั้นพระเกจิอาจารย์ทั้งแปดรูปก็ได้กลับวัด เหลือแต่หลวงปู่ทิมที่ยังไม่ได้กลับ หลังจากนั่งพักผ่อนไม่นาน หลวงปู่ทิมจึงได้ก้าวขึ้นไปนั่งบนธรรมมาสน์อีกครั้ง ได้เริ่มนั่งปลุกเสกเดี่ยวต่อไป)
     
  5. พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +1,852
    พระพิมพ์พระพรหม พิมพ์ใหญ่ มีพระธรรมธาตุเสด็จ ปี 2517

    แบบพิมพ์ที่คุณโอภาส ประพิศพงษ์พานิช(โกโอ่ง)เป็นผู้แกะแบบพิมพ์ด้วยหินสบู่แล้วนำมาถวายหลวงปู่ดู่ เพื่อใช้เป็นแบบพิมพ์ในการสร้างพระเนื้อผงพุทธคุณผสมปูน หลวงปู่ดู่ใช้แบบพิมพ์นี้ทำการสร้างพระอยู่ระยะหนึ่ง หลังจากนั้นหลวงปู่ดู่ได้ปรับปรุงแบบพิมพ์ให้มีความสวยงามยิ่งขึ้น โดยทำกรอบทั้ง ๔ ด้านด้วยพลาสติกเลี่ยมพระ จึงทำให้เกิดแบบพิมพ์พระพรหมพิมพ์ใหญ่แบบมีกรอบขึ้นและได้นำแบบพิมพ์มาสร้างพระพรหมเนื้อผงพุทธคุณผสมปูนนับตั้งแต่ปี ๑๗ เรื่อยมาอีกหลายปี องค์ที่ลง มีพระธรรมธาตุเสด็จ ขึ้นในเนื้อพระกระจายทั่วองค์ ดูสวยงามมากๆ ซึ่งมีจำนวนน้อยมากที่มีพระธาตุขึ้นลักษณะนี้ น่าบูชามากครับ

    พระพิมพ์นี้มีผู้นำมาให้บูชากันมากครับแต่ไม่บอกให้ชัดเจนว่าทันหรือไม่ทันหลวงปู่ดู่ปลุกเสก ในราคาที่ถูกๆหลักพันต้นๆ โปรดระวังครับ
    ดูพิมพ์ดูเนื้อองค์นี้ให้แม่นๆนะครับ หรือขั้นแรกให้ดูการตัดของขอบพระเป็นหลักไว้ก่อนครับ จะต้องเป็นตะใบหยาบๆตัด จุดตายก็ว่าได้





    ท่านเก็บไว้ดูเป็นองค์ครูได้เลยครับ เพราะส่วนมากที่ท่านเห็นจะแตกต่างกับองค์แท้ๆจ้า

    พระไม่ดีไม่แท้ไม่นำมาลงให้ศึกษากันผิดๆครับ

    บูชาพระไม่ต้องเสี่ยงพร้อมใบเซอร์ พลังชาตรี 13


    รับประกันพระแท้ไม่มีกำหนด องค์ใหนเก็ บวกให้ 2000 บาท<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  6. พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +1,852
    หลวงปู่ดู่วัดสะแก เหรียญพระพุทธรูปหลังโบสถ์

    ปี 2519 เนื้อสามกษัตริย์ ชัดเจน เจิม/จาร 4 จุด
    ครบสูตรหลวงปู่ดู่ สวยมากครับ

    เป็นพระที่สวยงามมากๆครับ พิธีดีชัดเจน ปีลึก หลวงเมตตาอธิฐานจิตและจาร ตามสูตรครบๆครับ ขนาดกำลังดีในการบูชา สุดที่หายากน่าเก็บยิ่งนัก

    รับประกันความแท้ตามกฎทุกประการแบบสบายๆชั้น ๑




    เหรียญหายากปีลึกๆ เนื้อสามกษัตริย์<!-- google_ad_section_end --> ปี 2519

    ท่านเก็บไว้ดูเป็นองค์ครูได้เลยครับ เพราะส่วนมากที่ท่านเห็นจะแตกต่างกับองค์แท้ๆจ้า

    พระไม่ดีไม่แท้ไม่นำมาลงให้ศึกษากันผิดๆครับ

    บูชาพระไม่ต้องเสี่ยงพร้อมใบเซอร์ พลังชาตรี 13


    รับประกันพระแท้ไม่มีกำหนด องค์ใหนเก็ บวกให้ 2000 บาท<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  7. พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +1,852
    เหรียญพระเทริดขนนก หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม

    พิธีเดียวกับพระกริ่งตากสิน พิธีสุดเข้มขลัง ปี 2514 เกจิคณาจารย์ร่วมพุทธาภิเศกถึงเกือบ 100 รูป



    พร้อมบัตรรับรองพระแท้ไม่ต้องเสี่ยงกับเงินแท้ของท่านครับ
    บูชาพระแท้เปี่ยมด้วยพุทธคุณสบายใจกับ พลังชาตรี 13




    เหรียญพระเทริดขนนก ค่ายอดิศร สระบุรี พิธีเดียวกับพระกริ่งตากสิน พิธีสุดเข้มขลัง ปี 2514 เกจิร่วมพุทธาภิเศกถึงเกือบ 100 รูป อย่างเช่น หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี, หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม

    พระเทริดขนนก ค่ายอดิสร สระบุรี พิธีเดียวกับพระกริ่งตากสิน พิธีสุดเข้มขลัง ในวันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2514 โดยมี พล.อ เปรม ตินสูลานนท์ เป็นประธาน ฝ่ายฆราวาส และมีอาจารย์ไสว สุมโณ วัดราชนัดดา เป็นเจ้าพิธี ในการสร้างได้มีการผสมเนื้อชนวนโลหะจากบรรดาคณาจารย์ต่างๆ และนิมนต์สุดยอดพระเกจิในยุคนั้นร่วมพุทธาภิเศกถึงเกือบ 100 รูป พระเกจิที่ดังๆ เช่น

    หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
    หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่
    หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
    พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา
    หลวงพ่อเกษม เขมโก
    หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตฯ
    หลวงพ่อทบ วัดชนแดน
    หลวงพ่อโอด วัดจันเสน
    หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง
    หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน
    หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู
    หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่
    หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ
    พระเทริดขนนกสระบุรี ที่พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เป็นประธานสร้างเมื่อปี 2514
    มีทั้งสายพระเกจิ และสายพระป่า รับนิมนต์มาปลุกเสก ว่ากันว่าหลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง ก็รับนิมนต์มาด้วย
    ตามปากคำคนรุ่นเก่ารวมทั้งอนุศาสนาจารย์ประจำค่ายอดิศรก็บอกอย่างนั้นครับ ที่น่าแปลกคือหลวงปู่เกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ อ.เมือง จ.ลำปาง เมตตารับนิมนต์มา "มนต์" พระให้ด้วยครับ แต่พอเช็คไปทางเจ้าประเวทย์ ณ ลำปาง และคณะศิษย์รับใช้ ปรากฏว่าหลวงปู่อยู่ประจำที่สุสานไม่ได้ออกไปที่ไหนเลย โดยเฉพาะวันที่ประกอบพิธีพุทธาภิเษกนั้นหลวงปู่ยังรับแขกอยู่ที่สุสานเลย คนเป็นพยานกันนับร้อย แต่ที่งานค่ายอดิศร คนก็เป็นพยานได้นับร้อยเช่นกันว่าหลวงปู่เกษมมา เรื่องจึงกลายเป็นว่า "ต่างคนต่างจริง" ไปได้อย่างน่าประหลาด

    พระกริ่งตากสิน พระเทริด(เซิด)ขนนก หรือพระขนนกสระบุรี และ เหรียญพระเจ้าตากสิน ค่ายอดิสร ชุดนี้มีพิธีพุทธาภิเษก-มังคลาภิเษกที่ยิ่งใหญ่มากครับ ครูบาอาจารย์ที่เรียกว่ามีชื่อลือชาปรากฏอยู่ในสมรภูมิขลังต้องถูกนิมนต์มาหมดสิ้นทุกภาค ทุกพื้นที่ ยังเหลือแต่ว่าใครจะมาบ้างไม่มาบ้างครบตามที่นิมนต์หรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ที่แน่ ๆ หลวงปู่โต๊ะ อินทสุวัณโณ หลวงพ่อชา สุภัทโท หลวงปู่เกษม เขมโก หลวงพ่อเนื่อง โกวิโท หลวงปู่ดูลย์ อตุโล หลวงปู่สาม อกิญจโน หลวงปู่สิม พุทธาจาโร หลวงพ่อคง สุวัณโณ หลวงปู่บาง วัดหนองพลับ หลวงพ่อพริ้ง มณีธาโน ฯลฯ


    พระไม่ดีไม่แท้ไม่นำมาลงให้ศึกษากันผิดๆครับ

    บูชาพระไม่ต้องเสี่ยงพร้อมใบเซอร์ พลังชาตรี 13


    รับประกันพระแท้ไม่มีกำหนด องค์ใหนเก็ บวกให้ 2000 บาท<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

     
  8. พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +1,852
    พระผงสุพรรณ เนื้อผง วัดโพธิ์นิมิต กรุงเทพฯ มวลสารดี พิธีดีพิธีใหญ่

    พระผงสุพรรณ ปี2512 เนื้อผง วัดโพธิ์นิมิต กรุงเทพฯ มวลสารดี พิธีดีพิธีใหญ่

    - หลวงพ่อฑูรย์ เจ้าอาวาสวัดโพธินิมิตร ท่านเป็นศิษย์รัก ของ สมเด็จพุฒาจารย์นวม วัดอนงค์ หลวงพ่อฑูรย์ ท่านมีความสามารถ ทางด้าน ปฏิบัติภาวนา และเป็นพระที่มีอายุยืน รูปหนึ่ง

    สมเด็จพุฒาจารย์นวม วัดอนงค์ ได้เรียก หลวงพ่อฑูรย์ ไปพบแล้วมอบ ผงวิเศษให้ โดยผงวิเศษดังกล่าว เป็นผงที่ สมเด็จท่านทำเองและรวบรวมจากพระเกจิสมัยนั้นหลายองค์ รวมทั้งผงหลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่าด้วย โดยสมเด็จพุฒาจารย์นวม ได้บอกให้หลวงพ่อฑูรย์นำผงดังกล่าวไปสร้างพระ หลวงพ่อฑูรย์ ได้ไปหาพระอาจารย์ที่มีคุณวิเศษในสมัยนั้น อาทิ เช่น

    หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ “ อาตมาภาพ เห็นว่าท่านเป็นคนจังหวัด (สุพรรณบุรี) เดียวกัน ก็ไปขอว่า “ขออิทธิเจผมสักกระดาน.. จะเอาไปทำพระ “ ซึ่งในที่สุด ท่านได้รวบรวมมวลสารต่างๆ มาได้ เป็นจำนวนมาก ท่านได้เริ่มพิมพ์พระ ในปี 2485 จนถึงปี 2497 จึงเริ่มแจก พระผง เกศมงคล ซึ่ง รุ่นที่ได้รับความนิยม โดยผสมผงพระเกศาของสมเด็จพุฒาจารย์นวมด้วย จึงเรียกชื่อว่า รุ่นเกศมงคล เป็นพิมพ์สมเด็จหลังยันต์นูน โดยสมเด็จพุฒาจารย์นวมท่านเมตตาปลุกเศกให้ และมีนำไปแจกที่วัดอนงค์ ด้วย
    การปลุกเสกมีพระเกจิที่หลวงพ่อฑูรย์รักใคร่สนิทสนม ได้หมุนเวียนมาปลุกเสกเดี่ยวให้โดยมี

    1. ลป โตีะ วัดประดู่ฉิมพลี
    2. ลพ เส่ง วัดกัลยาฯ
    3. ลพ สา วัดราชนัดดา
    4. ลพ ถีร์ วัดป่าเลไลย์

    พระผง หลวงพ่อฑูรย์ มีเจตนาสร้างดี เป็นพระเครื่องที่มีประสบการณ์ เป็นที่ทราบโดยทั่วไป ทั้งทางด้านค้าขาย เมตตามหานิยมและ แคล้วคลาด



    พร้อมบัตรรับรองพระแท้ไม่ต้องเสี่ยงกับเงินแท้ของท่านครับ
    บูชาพระแท้เปี่ยมด้วยพุทธคุณสบายใจกับ พลังชาตรี 13




    พระไม่ดีไม่แท้ไม่นำมาลงให้ศึกษากันผิดๆครับ

    บูชาพระไม่ต้องเสี่ยงพร้อมใบเซอร์ พลังชาตรี 13

    รับประกันพระแท้ไม่มีกำหนด องค์ใหนเก็ บวกให้ 2000 บาท
     
  9. พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +1,852
    รายการที่ ๗.

    พระผงรูปเหมือนหลวงปู่ทิม ออกวัดหนองกาน้ำ หลวงปู่ทิม ปี 2516

    หลวงปู่ทิมปลุกเสก เดี่ยว 3 ไตรมาส (ผงพรายกุมาร)

    สำหรับแฟนพันธุ์แท้หลวงปู่ทิม (พิมพ์ใหญ่หายากสุดๆ)



    พร้อมบัตรรับรองพระแท้ไม่ต้องเสี่ยงกับเงินแท้ของท่านครับ
    บูชาพระแท้เปี่ยมด้วยพุทธคุณสบายใจกับ พลังชาตรี 13





    พระผงรูปเหมือน พิมพ์ใหญ่ หลวงปู่ทิม ปลุกเสก ออกที่วัดหนองกาน้ำ จังหวัดชลบุรี เนื้อผงพรายกุมารและผงวิเศษของหลวงปู่ทิมและหลวงตาบางที่ท่านได้เก็บสะสมไว้ จัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2515-2516 ปลุกเสกโดย หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จัดสร้างโดยหลวงตาบาง แห่งวัดหนองกาน้ำ พระผงรูปเหมือนรุ่นนี้จัดสร้างพร้อมกับ พระสมเด็จหลังยันต์ห้า,หลังยันต์สาม และพระปิดตา ของวัดหนองกาน้ำ


    ผงวิเศษที่หลวงปู่ทิมเมตตามอบให้ หลวงตาบาง

    1. ผงพรายกุมาร
    2. ผงปถมัง (มีอานุภาพทางคงกระพันชาตรี เป็นมหาจังงัง กำบังกายได้ ถ้านำผงนี้ติดตัว คนอื่นจะไม่เห็นเราได้)
    3. ผงมหาราช (เด่นทางเสน่ห์ ใช้ได้สารพัด 108)
    4. ผงพุทธคุณ (มีอุปเท่ห์คล้ายกับผงมหาราช มีอานุภาพสูงในทางป้องกันคุณไสย ปัดเป่าเสนียดจัญไร ฯลฯ)
    5. ผงตรีนิสิงเห (ซึ่งผงวิเศษที่ลบขึ้นนี้ มีคุณวิเศษและประสิทธิภาพสูงมาก เมื่อนำมาผสมสร้างวัตถุมงคล ก็ทำให้วัตถุมงคลนั้นๆมีพลานุภาพสูงยิ่งๆขึ้น และยิ่งได้รับการประจุกระแสจิตจากพระผู้ทรงศีลบริสุทธิ์ ก็ยิ่งทำให้วัตถุมงคลนั้นๆมีอานุภาพศักดิ์สิทธิ์ยิ่งๆขึ้นไปอีก สามารถนำมาอธิษฐานได้ดั่งใจต้องการ...")
    6. ผงอิทธิเจ (มีอานุภาพสูงทางเมตตา มหานิยม หากนำไปให้ผู้หญิงกิน ผู้หญิงจะลุ่มหลงและระลึกนึกถึงผู้ที่เอาผงนี้ให้กินอยู่เสมอจนทนไม่ได้ จนต้องมาอยู่กินกับชายผู้นั้นในที่สุด ซึ่งหลวงปู่ทิมได้สาปแช่งเอาไว้ หากใครเอาผงไปใช้ในทางที่ผิด)


    ประวัติการจัดสร้าง
    หลวงตาบาง ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดหนองกาน้ำ อ.พานทอง จ.ชลบุรี ได้เดินทางไปหาหลวงตารอด ที่วัดละหารไร่ เพื่อปรึกษาจะสร้างพระสมเด็จ และพระปิดตา เพื่อหาทุนสร้างศาลาและโบสถ์ที่วัดแห่งหนึ่ง ท่านทั้งสองได้ขออนุญาตหลวงปู่ทิมเพื่อจัดสร้าง หลวงปู่ทิมให้ก็ให้สร้างตามคำขอ พร้อมทั้งได้มอบผงพุทธคุณ/ผงพรายกุมารนำไปผสม เพื่อจัดสร้างพระจำนวนหนึ่ง หลวงตาบางท่านได้เดินทางไปถวายให้ หลวงปู่ทิมเมตตาปลุกเสกเดี่ยว 3 ไตรมาส เมื่อถึงกำหนดเวลา หลวงตาบางก็ได้เดินทางมารับพระผงรูปเหมือน/พระสมเด็จและพระปิดตาจากหลวงปู่ทิม เนื้อองค์พระรุ่นนี้ที่พบเห็นจะพบเป็น เนื้อออกสีน้ำตาล สีเหลืองอ่อน เหลือเข้ม(ว่านเหลือง) สีดำ (ว่านไพรดำ) บางองค์พบว่ามีพลอยเสกอยู่ด้วย

    เป็นพระที่หายากสุดๆครับในพิมพ์พระชุดนี้ท่านจะไม่ค่อยเคยเห็น<!-- google_ad_section_end -->
     
  10. พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +1,852
    รายการที่ ๘.

    เหรียญทรงผนวช เหรียญอันทรงคุณค่าชาวไทย



    พร้อมบัตรรับรองพระแท้ไม่ต้องเสี่ยงกับเงินแท้ของท่านครับ
    บูชาพระแท้เปี่ยมด้วยพุทธคุณสบายใจกับ พลังชาตรี 13




    พระไม่ดีไม่แท้ไม่นำมาลงให้ศึกษากันผิดๆครับ

    บูชาพระไม่ต้องเสี่ยงพร้อมใบเซอร์ พลังชาตรี 13

    รับประกันพระแท้ไม่มีกำหนด องค์ใหนเก็ บวกให้ 2000 บาท<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->


    เหรียญทรงผนวช

    เหรียญที่ระลึกในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันทรงคุณค่าและได้รัความนิยมอย่างสูงย้อนไปในปี พ.ศ.2499 “ สมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ พระสังฆราช ” ผู้ที่ทรงนิยมนับถือโดยวิสาสะอันสนิท และทรงถือว่ามีคุณูปการส่วนพระองค์มากทรงประชวรลงพระอาการเป็นที่น่าวิตก แต่ด้วยเดชะบุญได้หายประชวรอย่างน่าประหลาด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงทรงมีพระราชดำริว่า ถ้าได้ทรงผนวชโดย สมเด็จพระสังฆราชทรงเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว จะสมพระราชประสงค์ในอันที่จะได้ทรงแสดงพระราชคารวะและศรัทธาในพระองค์ท่าน เป็นอย่างดี แล้วในวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ.2499 พระองค์ทรงผนวช เป็น พระภิกษุในพระบวรพุทธศาสนา ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มีพระสมณนามว่า “ ภูมิพโล ” และทรงจำพรรษา ณ พระตำหนักปั้นหยา วัดบวรนิเวศวรวิหาร

    เหรียญนี้จัดสร้างในปี พ.ศ.2508 ซึ่งเป็นปีที่พระองค์ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลในโอกาสที่มีพระชนมายุเสมอด้วย สมเด็จพระราชบิดา เจ้าฟ้า มหิดลอดุลยเดช กรมหลวงสงขลานครินทร์ โดยทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในการกุศล 4 อย่าง อันเรียกว่า “ จาตุรงคมงคล ” และได้มีการจัดพิมพ์ “ หนังสือจาตุรงคมงคล ” แจ้งหมายกำหนดการและกำหนดการพระราชกรณียกิจสำคัญที่ทรงปฏิบัติ ปรากฏในหัวข้อเรื่องที่ 4 ตอนหนึ่งเอ่ยถึงที่มาของ “ เหรียญทรงผนวช ” ไว้ดังนี้

    อนึ่ง ทางวัดบวรนิเวศวิหารได้ขอพระบรมราชานุญาตสร้างเหรียญพระบรมรูปทรงผนวช ซึ่ง มีพระเจดีย์อยู่อีกด้านหนึ่ง เพื่อเป็นอนุสรณ์ในงานจาตุรงคมงคลนี้ เหรียญที่สร้างขึ้นนี้มีรูปกลมขนาดเหรียญบาท ด้านที่มีพระบรมรูปทรงผนวช มีพระปรมาภิไธยซึ่งเป็นลายพระหัตถเลขาทรงไว้ในสมุดทะเบียนวัดว่า “ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.ภูมิพโล ” อยู่ภายใต้พระบรมรูป (ถ่ายทำจากลายพระหัตถ์ตามจริง) เบื้องบนมีอักษรว่า “ ทรงผนวช ๒๔๙๙ ” ส่วนอีกด้านหนึ่งมีรูปพระเจดีย์มีรูปพระเจดีย์วัดบวรนิเวศวิหาร มีอักษรเป็นวงกลมที่ขอบเหรียญว่า “ เสด็จฯ สมโภชพระเจดีย์ทองบวรนิเวศ ๒๙ สิงห์ ๒๕๐๘ ในมงคลสมัยพระชนมายุเสมอสมเด็จพระราชบิดา...

    พระนาม ภูมิพลอดุลยเดช หมายถึง ผู้ทรง กำลังอำนาจ ไม่มีอะไรจะเทียมในแผ่นดิน ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ ที่ทรงแผ่พระมหากรุณาธิคุณ แก่เหล่าอาณาประชาราษฎร์ ให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข โดยไม่มีอำนาจใดจะมาบดบังได้

    เหรียญในหลวง ทรงผนวช เป็น พระบารมีปกเกล้า แก่ ผู้มีไว้สักการะบูชา เป็นยิ่งนัก นับแต่วันที่พระองค์ทรงครองราชย์ ไทยทั้งชาติร่มเย็นเป็นสุขศรี สำนึกว่าพระมหาบารมี คุ้มชีวี คุ้มหล้าประชาไทย เกิดมาชาตินี้ มิเสียชาติ อยู่ใต้เบื้องบาทมิหม่นหมอง ขอพระเกียรติเกรียงไกรในสากล ภูมิพลจักรีวงศ์ทรงพระเจริญ

    พระเกจิอาจารย์ในพิธีการพุทธาภิเสก

    1. สมเด็จพระญาณสังวร พระสังฆราช
    2. หลวงปู่ดี วัดเหนือ จังหวัดกาญจนบุรี
    3. หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉีมพรี
    4. อาจารย์นำ วัดดอนศาลา พัทลุง
    5. หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม นครปฐม

    อีกเหรียญนึงที่ทรงคุณค่าในพุทธานุภาพยิ่งมีประสบการณืยาวๆครับท่าน
     
  11. พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +1,852
    รายการที่ ๙.

    เหรียญพระพุทธโสธร หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ปลุกเสก เนื้อทองแดงรมดำ

    ปี ๒๕๑๔ วัดเขาสำเภาทอง จังหวัดระยอง

    เหรียญนี้จัดสร้างเมื่อคราววางศิลาฤกษ์ เพื่อสร้างอุโบสถ วัดเขาสำเภาทอง เมื่อปี ๒๕๑๔ ปลุกเสกโดย เกจิอาจารย์ผู้เรืองวิทยาคมหลายท่าน

    1.โดยมีหลวงปู่ทิมนั่งปรกปลุกเสก เจ้าพระเจ้าแห่งเมืองระยอง
    2.หลวงพ่อชื่น วัดมาบข่า
    3.หลวงพ่อบุญ วัดบ้านนา
    4.หลวงพ่อรวย วัดท่าเรือ ร่วมปลุกเสก

    ขนาดพระประมาณ ๒x๒.๗ ซม. ประวัติการสร้างชัดเจนมีลงอยู่ในหนังสือประวัติและวัตถุมงคลของ หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ โดยได้ลงประวัติใว้อย่างชัดเจนครับ

    เป็นพระปีเก่า 2514 พิธีดีมากเกจิดังๆหลายท่านร่วมปลุกเสก เจตนาสร้างบริสุทธิ์ชัดเจนจำนวนจัดสร้าง 10000 เหรียญ

    สำหรับองค์นี้พร้อมบัตรรับรองพระแท้ จัดแบบสวยๆมาให้ จมูกโด่งคมๆ เหรียญสวยๆ ส่องดูแล้วสบายใจพระแท้แน่นอน

    แนะนำและนำมาฝากเพื่อนๆ ศิษย์หลวงปู่ทิม ทุกๆท่าน

    พระชุดนี้ได้มาจากสายตรงแห่งบ้านค่ายแท้แน่นอน ผ่านการรับรองพระแท้มาตรฐาน เรียบร้อยแล้วครับ

    จัดสร้างแค่ 10000 เหรียญ แต่ในตลาดมีหลายหมื่นเหรียญเก็มากกว่าแท้

    สบายใจได้ในพุทธคุณหลวงพ่อโสธรและหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ปลุกเสก

    บัตรรับรองพระแท้ สบายใจได้ในพุทธคุณ



    จัดแบบสวยๆมาให้ จมูกโด่งคมๆ เหรียญสวยๆ

    องค์ที่ ๑..พร้อมบัตรรับรองพระแท้



    ดูพิจารณารอยตัดขอบเหรียญครับ




    หนังสือประวัติและวัตถุมงคลของ หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ โดยได้ลงประวัติใว้อย่างชัดเจนครับ




    องค์ที่ ๒.. จองแล้วครับ




    องค์ที่ ๓..




    องค์ที่ ๔..




    พร้อมบัตรรับรองพระแท้ มาตรฐานสากล

    เล่นพระสวยพระดีมีมาตรฐาน ประกันแท้ตลอดกาล ไม่มีกำหนด

    พระแท้ราคาแท้ไว้ใจได้ในเรื่องพุทธคุณ พลังชาตรี 13

    กติกาในการประกันครับเก็องค์ใหนจ่ายคืนเต็มจำนวน บวกค่าเสียเวลาให้อีก 2000 บาททุกองค์ พระแท้คือแท้ไม่กลัวประกันครับ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  12. พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +1,852
    พุทธคุณ มีดหมอมีดีอย่างใด มากน้อยแค่ไหน เรามาดูกันครับ

    1. ป้องกันคุณไสย ไม่ว่าจะเป็นคุณคน คุณผี ถ้ามีมีดหมอของหลวงพ่อแล้วไม่ต้องกลัวใคร ไม่มีใครจะทำอันตรายคุณด้วยวิธีนี้ได้

    2. ป้องกันตัวจากศัตรู มีดของหลวงพ่อเดิม ท่านลงวิชาทางมหาอำนาจ เมตตา แคล้วคลาด และเป็นมหาอุต
    3. ขับไล่พวกผีปีศาจ ที่มาเข้าสิงสู่ผู้คน เพื่อที่จะมากินเครื่องเซ่นไหว้ หรือ เป็นผีป่าที่คนเข้าไปเก็บของป่า แล้วเกิดไปทำผิด จึงโดนผีป่าเข้าเล่นงาน ใช้มีดหลวงพ่อขับไล่ได้
    4. อาราชธนาทำน้ำมนต์แก้อาถรรพ์ หรือโดนคุณไสยต่างๆ แก้เสนียดจัญไรต่างๆ
    5. แก้อาถรรพ์ความคงกระพันธ์ต่างๆ ผู้ที่หนังเหนียวยิงไม่เข้า ฟันด้วยดาบไม่ละคลายผิวหนัง ไม่ว่าจะมีของดีอะไรอยู่ในตัว ถ้าโดนมีดหมอของหลวงพ่อได้เลือดทุกคน
    6. ด้ามงาอาถรรพ์ ใช้ฝนกับฝาละมี ( เป็นฝาหม้อดินที่สมัยเก่าเขาใช้หุงข้าว ต้มยาหม้อ ) เอาด้ามงานั้นฝนกับฝาหม้อ แล้วเอาน้ำเปล่ามาเทลงไปในระหว่างที่ฝนด้ามมีดอยู่นั้น น้ำที่ได้นำมาทาตรงที่ถูกสัตว์กัดต่อย จะแก้พิษสัตว์กัดต่อยได้เป็นอย่างดี
    7. ป้องกันอสรพิษ พวกสัตว์มีพิษทั้งหลาย และสัตว์เขี้ยวงาต่างๆ จะไม่เข้ามาใกล้ กับผู้ที่มีมีดหมอของหลวงพ่อเดิมพกติดตัว
    8. มีดหมอของหลวงพ่อเดิม จะไม่ทำร้ายผู้ที่มีมีดหมอของหลวงพ่อพกติดอยู่กับตัว เพื่อเป็นการกันไม่ให้ลูกศิษย์อาจารย์เดียวกันทำร้ายกันเอง
    9. บูชามีดหมอของหลวงพ่อ ไว้กับบ้านจะป้องกันอัคคีภัย และโจรภัยต่างๆ นาๆ เมื่อผู้เป็นเจ้าของอาราชธนามีด ให้ช่วยคุ้มครองป้องกันบ้านของตน แล้วถ้าจะเกิดภัยอันตรายอะไร มีดจะทำการเตือนเจ้าของให้รู้ตัวก่อนเสมอ
    10. เมื่อไปต่างถิ่นต่านแดน หรือนอนกลางดินกลางทรายในป่า ให้เจ้าของมีดกล่าว ขอขมากับแม่พระธรณี แล้วเอาปลายมีดขีดเป็นวงรอบ ๆ บริเวณที่ตัวเองนอนพักผ่อนค้างแรม ภูติผีปีศาจรวมถึงสัตว์เล็กสัตว์น้อย หรือแม้แต่สัตว์ใหญ่จะไม่เข้าใกล้เลยตลอดทั้งคืน
    11. เมื่อต้องลงไปในน้ำ และกลัวว่าจะเกิดอันตรายจากสัตว์น้ำ เช่น จระเข้ ปลาไหลไฟฟ้า หรือ แม้แต่ผีพราย ผีน้ำต่างๆ ให้ชักมีดออกจากฝักแล้วเอามีดคาบไว้ในปาก หรือ เอามีดถือไว้ในมือ แล้วโบกน้ำนำหน้าไปจะปลอดภัยทุกประการ
    12. เมื่อเป็นฝีร้าย มีอาการกลัดหนองปวดร้าวทรมาน หรือเพิ่งเริ่มเป็นไข้ ใช้ปลายมีดหมอวนเป็นวงกลมเบาๆ รอบหัวฝีนั้น หากเริ่มเป็นจะยุบลง แต่ถ้าเป็นมาก หัวฝีจะแตกภายในสามวันจะไม่ทุกข์ทรมานอีก
    13. เมื่อเดินท่างไปต่างถิน จำต้องกินอาหารที่มีผู้นำมาให้ ถ้าไม่แน่ใจว่าอาหารนั้นมีพิษหรือไม่ ให้ใช้ด้ามมีดจุ่มลงไปในอาหาร ที่เขายกมาให้เรากิน ถ้าอาหามีพิษ ด้ามมีดที่เป็นงาจะมีสีดำทันที ในกรณีที่กินเข้าไปแล้วมีอาการแสลง ให้เอามีดทำน้ำมนต์ดื่มจะแก้ยาเบื่อยาสั่งได้
    14. เมื่อถูกของ หรือ ลมเพลมพัด ซึ่งปล่อยมาในอากาศ จะทำให้มีอาการบวมตามตัวเล็กน้อย เดี๋ยวบวมที่ตรงนั้น เดี๋ยวบวมที่ตรงนี้ เปลี่ยนที่ไปตลอด ได้รับความเจ็บปวดมาก ให้เอาปลายมีดหมอไล่ไปตามจุดที่บวม ก้อนนั้นจะหนีปลายมีด ให้เอาปลายมีดไล่ไปเรื่อย ๆ ก้อนที่บวมนั้นจะออกจากตัวผู้ถูกกระทำไปเอง

    <!-- google_ad_section_end -->
     
  13. พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +1,852
    รายการที่ ๑๐.

    พระร่วงหน้าพระธาตุ ปี 2517 พิธีพระพนัสบดี จ.ชลบุรี

    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่/ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ร่วมปลุกเสก

    พระร่วงยืนหน้าพระธาตุ ปี๒๕๑๗ เนื้อชินตะกั่ว

    พิมพ์สร้างเลียนพิมพ์จากพระร่วงยืนกรุเก่าหน้าพระธาตุ พนัสนิคม ชลบุรี ที่เป็นกรุเก่าแก่เมืองชล อายุกว่าพันปี ที่หายากมากๆ และ ราคาหลักแสน...มีการสร้างวัตถุมงคลที่ระลึกขึ้นอีกครั้งในปี๒๕๑๗ มี พระพนัสบดี ขนาดบูชา...เหรียญพระพนัสบดีขนาดห้อยคอ..และ พระร่วงหน้าพระธาตุ แบบปั๊ม เนื้อชินตะกั่ว...

    พิธีมหาพุทธาพิเษกจัดขึ้นที่ ณ.อุโบสถวัดหน้าพระธาตุ ต.หน้าพระธาตุ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ในวันเสาร์ที่ ๑๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๗.. โดยสมเด็จฯพระพุทธโฆษาจารย์ วัดราชบพิธ กทม. เป็นผู้จุด และ ดับเทียนชัย.. มีคณาจารย์เข้าร่วมพิธีปลุกเสกหลายท่าน อาทิ
    ๑.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี จ.กทม.
    ๒.หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง

    ๓.หลวงปู่เหมือน วัดกำแพง จ.ชลบุรี
    ๔.หลวงปู่โต วัดบ้านกล้วย จ.นครราชสีมา
    ๕.ท่านเจ้าคุณธีระ (ศิษย์เอกหลวงพ่อสด) วัดปากน้ำ จ.กทม.
    ๖.พระปรมาจารย์ผ่อง จินดา วัดจักรวรรดิราชาธิวาส จ.กทม.
    ๗.หลวงพ่อทอง วัดก้อนแก้ว จ.ฉะเชิงเทรา
    ๘.หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จ.จันทบุรี
    ๙.หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี จ.สมุทรสงคราม
    ๑๐.หลวงพ่อวิเชียร วัดเครือวัลย์ จ.ชลบุรี
    ๑๑.หลวงพ่อวรรณ วัดพลับ จ.ชลบุรี
    ๑๒.หลวงพ่อทองหยิบ วัดโบสถ์ จ.ชลบุรี
    ๑๓.หลวงพ่อม่น วัดเนินตามาก จ.ชลบุรี
    ๑๔หลวงพ่อแร่ วัดเซิดสำราญ จ.ชลบุรี
    ๑๕.หลวงพ่อเที่ยง วัดกลางทุมมาวาส จ.ชลบุรี.ฯลฯ.

    พระร่วงยืนหน้าพระธาตุ จ.ชลบุรี ปี๒๕๑๗ ขนาดขององค์พระสูง 5.5 ซม. เป็นแบบปั๊มตัดขอบ เนื้อชินตะกั่ว พิธีใหญ่ "หลวงปู่ทิม/หลวงปู่โต๊ะปลุกเสก"


    ชลบุรีใช่มีแต่เพียงพระเครื่องใหม่ ๆ ดังกล่าวแล้วว่าเป็นเมืองเก่าที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน
    ดังนั้น ส่วนหนึ่งของชลบุรีจึงถูกบันทึกไว้ในหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ว่าเป็น เมืองพระรถเมรี ถ้าใครคุ้นเคยกับนิทานพื้นบ้านคงเข้าใจ ส่วนหนึ่งดังว่านั้นปัจจุบันเป็นอำเภอมีชื่อว่า พนัสนิคม

    พนัส แปลว่า ป่า แน่นอนว่าสมัยก่อนที่แห่งนี้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้และหมู่สัตว์น้อยใหญ่ เป็นเหตุจูงใจให้ผู้คนอพยพเข้าไปอยู่อาศัยเพื่อทำมาหากิน รวมถึงชาวลาวโซ่งที่อพยพมาจากเวียงจันทน์ ประเทศลาว

    มีชาวพุทธที่ไหน มีวัดที่นั่น พนัสนิคมจึงปรากฏวัดเก่าโบราณหลายแห่งพร้อมกับพระเครื่องยุคตั้งเมืองทั้งเนื้อดิน ชิน และผง แต่ที่ครองความนิยมอันดับหนึ่งและมีประสบการณ์มากต้องยกให้พระเนื้อชินที่รู้จักกันในนาม พระร่วงหน้าพระธาตุ

    พระพิมพ์นี้ปัจจุบันเป็นที่นิยมและหายากมาก ยิ่งสภาพสมบูรณ์แล้วยิ่งยากใหญ่ด้วยเนื้อเป็นตะกั่วผสมตามแบบสมัยนิยมของโบราณาจารย์ จึงไม่ค่อยทนกับสภาพแวดล้อมเท่าไรนัก แต่ความต้องการที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการสร้างใหม่แบบล้อพิมพ์ขึ้นมาโดยอาศัยเหตุจากอิทธิฤทธิ์ของ พระพนัสบดี

    พระพนัสบดีถูกค้นพบได้อย่างอัศจรรย์ที่สุดเมื่อราว ๆ ปี พ.ศ. 2471 โดยผู้พบคือก๋งแดงและคุณยายน้อย บัวเข็ม ทั้งสองท่านมีอาชีพพายเรือไปตามคลองขายของเล็ก ๆ น้อย ๆ และแลกสินค้ากับข้าวเปลือก ทั้งสองมีฐานะยากจนมาก

    วันหนึ่งขณะก๋งแดงและคุณยายน้อยพายเรือบ่ายหน้าไปทางวัดโบสถ์ พอเรือมาถึงโคกใหญ่ละแวกบ้านคลองแพ่งตำบลหน้าพระธาตุ ก็เกิดมหัศจรรย์ขึ้นกลางลำน้ำคือน้ำในคลองได้หมุนวนเป็นวงเชี่ยวกราก ส่งผลให้เรือลำเล็กทำท่าจะล่มลง เมื่อสุดวิสัยจะบังคับเรือ คุณยายน้อยจึงตัดสินใจปักพายลงข้างตลิ่งเพื่อทรงตัว

    ครั้นพายกระแทกลงในดินคุณยายก็รู้สึกได้ว่าไม้พายไปกระทบวัตถุแข็งบางอย่างเข้าอย่างแรง จึงเหลียวไปดูก็เห็นส่วนหนึ่งของวัตถุนั้นโผล่พ้นดินโคลนออกมาหน่อย คุณยายน้อยเลยคุ้ยเอาของสิ่งนั้นขึ้นมาจึงได้เห็นว่าเป็นพระพุทธรูปสีดำ

    ทั้งสองตื่นเต้นดีใจเป็นอันมากพากันเลิกขายของจ้ำฝีพายกลับบ้านอย่างปีติลิงโลด ถึงแล้วก็ทำความสะอาดองค์พระชะล้างดินโคลนออก พากันหาดอกไม้ธูปเทียนมาทำการสักการะบูชา และปิดปากเงียบไม่ยอมบอกใครถึงเรื่องนี้เพราะกลัวคนร้ายจะมาโจรกรรม

    เมื่อพระพุทธรูปองค์นี้มาอยู่กับก๋งแดงและคุณยายน้อยก็เกิดเหตุประหลาดกล่าวคือทั้งสองขายของได้อย่างเทน้ำเทท่า จะหยิบจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด สุขภาพก็ดีวันดีคืน ความเป็นอยู่ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก เมื่อเป็นดังนี้ท่านทั้งสองก็เชื่อมั่นว่าต้องเป็นเพราะอภินิหารจากพระองค์ดำนี้แน่ ๆ จึงเรียกนามท่านโดยเคารพว่า หลวงพ่อสัมฤทธิ์ คือปรารถนาสิ่งใดก็สัมฤทธิ์ผล

    สมประสงค์ทุกอย่าง

    ต่อมาในปี พ.ศ. 2494 ได้เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่อาคารทำการของเทศบาลเมืองพนัสนิคมซึ่งเพิ่งสร้างเสร็จใหม่ ๆ ยังไม่ทันได้ทำพิธีมอบและเปิดอาคารเลย เหตุเพราะอาคารนี้เป็นไม้ล้วนและสร้างถึงสองชั้นทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว อีกทั้งกระป๋องสีและกระป๋องทินเนอร์ก็ยังอยู่ภายในอาคารจึงเป็นเชื้อไฟอย่างดี

    บ้านที่ประดิษฐานหลวงพ่อสัมฤทธิ์หรือพระพนัสบดีนั้นอยู่ตรงข้ามเรือนไม้นี้ห่างกันไม่กี่เมตรเท่านั้น เมื่อเกิดไฟไหม้ก็เป็นธรรมชาติที่จะเกิดลมใหญ่ด้วยอากาศร้อนลอยขึ้นที่สูงอากาศเย็นจึงไหลเข้ามาแทนที่ เกิดเป็นลมหวนหอบเอาลูกไฟและสะเก็ดไฟไปตกใส่หลังคาเรือนของชาวบ้านละแวกนั้นซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นหลังคามุงจากทั้งสิ้น

    มหาภัยครั้งนี้ได้ลุกลามมาจนจวนเจียนจะถึงบ้านที่ประดิษฐานพระพนัสบดี ซึ่งในตอนนั้นผู้ครอบครององค์พระเป็นลูกชายของก๋งแดงและคุณยายน้อยชื่อ นายอ๋อง ทั้งเปลวไฟและควันดำทำนายอ๋องตกตะลึงสำลักควันไปไหนไม่ได้ทำอะไรไม่ถูกละล้าละลังอยู่อย่างนั้น

    ญาตินายอ๋องคนหนึ่งได้สติรีบถามว่าเอาหลวงพ่อสัมฤทธิ์ไปไว้ที่ไหน นายอ๋องจึงนึกขึ้นได้รีบวิ่งเข้าห้องไปอุ้มเอาพระออกมาและเอาท่านลงสรงน้ำตั้งจิตอธิษฐานขอให้ท่านช่วยเหลือให้รอดพ้นจากมหันตภัยในครั้งนี้ แล้วรีบนำน้ำนั้นไปสาดรอบ ๆ บริเวณบ้านของตน

    เพียงครู่เดียวเหมือนปาฎิหาริย์ บังเกิดลมพายุหอบใหญ่พัดเอาเปลวไฟและควันตีออกจากทิศที่เป็นบ้านของนายอ๋องหวนไฟกลับไปทางอื่นอย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ต่างเฮโลเข้ามาขอน้ำมนต์จากนายอ๋องไปรดรอบ ๆ บ้านตนเองบ้าง และน่าอัศจรรย์ที่ลมประหลาดนั้นก็เกิดขึ้นเช่นกันทำให้ชาวบ้านแถบนั้นไม่ต้องสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินเลย

    ด้วยความศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่งเช่นนี้ชาวพนัสนิคมจึงถือว่าหลวงพ่อสัมฤทธิ์เป็นพระพุทธรูปที่ทรงคุณค่าเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางใจแน่นแฟ้นจึงปรารถนาจะสร้างองค์พระจำลองขึ้นเพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้กราบไหว้บูชา







    พระไม่ดีไม่แท้ไม่นำมาลงให้ศึกษากันผิดๆครับ

    บูชาพระไม่ต้องเสี่ยงพร้อมใบเซอร์ พลังชาตรี 13


    รับประกันพระแท้ไม่มีกำหนด องค์ใหนเก็ บวกให้ 2000 บาท<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    กติกาในการประกันครับเก็องค์ใหนจ่ายคืนเต็มจำนวน บวกค่าเสียเวลาให้อีก 2000 บาททุกองค์ พระแท้คือแท้ไม่กลัวประกัน

    <!-- google_ad_section_end -->
     
  14. พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +1,852
    ปลัดขิกเนื้อทองทิพย์ หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล พิธีเสาร์ 5 โค๊ด ๑ ตัว

    คาถาบูชาปลัดขิกหลวงปู่หมุน วัดบ้านจานครับ

    โอม ปลัดขิกมิกท้ายมิกหัว โอม ของแข็งยามมื้อแลงมึงไปเทียว
    มึงไปพ้อฮูเยียวของเหม็น ผู้นึงว่าเอ็นผู้นึงว่ากระดูก ถืกบ่ถืกก็แทงเอาแทงเอา




    พระไม่ดีไม่แท้ไม่นำมาลงให้ศึกษากันผิดๆครับ

    บูชาพระไม่ต้องเสี่ยงพร้อมใบเซอร์ พลังชาตรี 13


    รับประกันพระแท้ไม่มีกำหนด องค์ใหนเก็ บวกให้ 2000 บาท<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    กติกาในการประกันครับเก็องค์ใหนจ่ายคืนเต็มจำนวน บวกค่าเสียเวลาให้อีก 2000 บาททุกองค์ พระแท้คือแท้ไม่กลัวประกัน

    <!-- google_ad_section_end -->
     
  15. พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +1,852
    รายการที่ ๑๐.

    พระร่วงโรจน์ฤทธิ์ เนื้อตะกั่ว หลวงปู่แก้ว เกสาโร วัดละหารไร่



    ขนาดพระองค์กำลังสวยงามครับไม่ใหญ่พอดีๆ



    พร้อมบัตรรับรองพระแท้ไม่ต้องเสี่ยงกับเงินแท้ของท่านครับ
    บูชาพระแท้เปี่ยมด้วยพุทธคุณสบายใจกับ พลังชาตรี 13




    หลวงปู่แก้ว ท่านเป็นพระคู่บารมีของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ หลวงปู่ทิมท่านเคยบอกว่า ท่านแก้วเสกก็เหมือนท่านเสก ใช้ได้เหมือนกัน พลังสมาธิพุทธคุณในการนั่งปลุกเสกนั้นจะเห็นได้จากรูปถ่ายที่ถ่ายภาพเก็บมาได้ว่า จะมีไฟลุกจะจมูกของท่านเป็นทางยาวครับ
    จนหลวงปู่ทิมได้กล่าวถึงหลวงปู่แก้วหลายครั้งว่า " ท่านแก้วเขาสำเร็จธาตุ "

    คนชาวบ้านค่ายต่างก็ทราบกันดีว่าหลวงปู่แก้วนั้นมีวิชาอาคมที่แก่กล้ามาก ซึ่งตอนท่านบวชนั้นหลวงพ่อเริ่ม เป็นผู้ปรงผมให้หลวงปู่แก้ว หลวงพ่อเริ่มได้หันมาบอกหลวงปู่ทิมว่า " ท่านทิมคนอะไรเหนียวจริงๆ " ฉันนึกว่าคนสมัยนี้ที่มีวิชาถึงขั้นจะไม่มีแล้ว

    เคยมีชาวบ้านแถววัดละหารไร่นำพระของหลวงปู่ทิมไปลองปืนในเขตวัด พอหลวงปู่แก้วท่านทราบเรื่องก็ไม่พอใจที่คนลองไม่เคารพครูอาจารย์ เลยได้ลงเดินไปที่ตอไม้หลังวัดและนั่งลงฉี่ที่ตอไม้นั้น ท่านฉี่เส็รจแล้วพูดว่าไม่ต้องไปลองยิงของ "คุณพ่อ" หรอกถ้าจะลองมายิงตอฉี่ให้ออกเสียก่อน ที่จะไปลองของคุณพ่อ (ชื่อที่หลวงปู่แก้วเรียกหลวงปู่ทิม) พวกนักลองก็ลองยิงไปที่ตอฉี่หลวงปู่แก้วยิงกี่นัดกี่นัดก็ไม่ออกแม้แต่นัดเดียวครับ

    แนะนำพระดีพุทธคุณสูงแห่งวัดละหารไร่อีกองค์หนึ่งครับ

    ประวัติกดเลย หลวงปู่แก้ว วัดระหารไร่ จ.ระยอง <!-- google_ad_section_end -->ท่านเป็นอีกหนึ่งเกจิดังของระยอง ซึ่งแม้แต่หลวงปู่ทิมได้กล่าวถึงหลวงปู่แก้วหลายครั้งว่า " ท่านแก้วเขาสำเร็จธาตุ "<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  16. พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +1,852
    รายการที่ ๑๑.

    เหรียญหลวงปู่แก้ว เกสาโร วัดละหารไร่ จ.ระยอง ปี พ.ศ.๒๕๒๖ พิมพ์ใหญ่

    พระเครื่องของหลวงปู่แก้ว นั้นมีเมตตามหานิยมสูงยิ่ง ในด้านโชคลาภก็ดีเยี่ยม และในด้านแคล้วคลาดคงกระพันชาตรีก็เยี่ยมยอด หาพระเครื่องอื่นใดเทียบได้ยาก ครับท่าน

    หลวงปู่แก้ว แห่งวัดละหารไร่ ท่านเป็นพระคู่บารมีของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ หลวงปู่ทิมท่านเคยบอกว่า ท่านแก้วเสกก็เหมือนท่านเสก ใช้ได้เหมือนกัน พลังสมาธิพุทธคุณในการนั่งปลุกเสกนั้นจะเห็นได้จากรูปถ่ายที่ถ่ายภาพเก็บมาได้ว่า จะมีไฟลุกจะจมูกของท่านเป็นทางยาวครับ
    จนหลวงปู่ทิมได้กล่าวถึงหลวงปู่แก้วหลายครั้งว่า " ท่านแก้วเขาสำเร็จธาตุ "

    คนชาวบ้านค่ายต่างก็ทราบกันดีว่าหลวงปู่แก้วนั้นมีวิชาอาคมที่แก่กล้ามาก ซึ่งตอนท่านบวชนั้นหลวงพ่อเริ่ม เป็นผู้ปรงผมให้หลวงปู่แก้ว หลวงพ่อเริ่มได้หันมาบอกหลวงปู่ทิมว่า " ท่านทิมคนอะไรเหนียวจริงๆ " ฉันนึกว่าคนสมัยนี้ที่มีวิชาถึงขั้นจะไม่มีแล้ว

    เคยมีชาวบ้านแถววัดละหารไร่นำพระของหลวงปู่ทิมไปลองปืนในเขตวัด พอหลวงปู่แก้วท่านทราบเรื่องก็ไม่พอใจที่คนลองไม่เคารพครูอาจารย์ เลยได้ลงเดินไปที่ตอไม้หลังวัดและนั่งลงฉี่ที่ตอไม้นั้น ท่านฉี่เส็รจแล้วพูดว่าไม่ต้องไปลองยิงของ "คุณพ่อ" หรอกถ้าจะลองมายิงตอฉี่ให้ออกเสียก่อน ที่จะไปลองของคุณพ่อ (ชื่อที่หลวงปู่แก้วเรียกหลวงปู่ทิม) พวกนักลองก็ลองยิงไปที่ตอฉี่หลวงปู่แก้วยิงกี่นัดกี่นัดก็ไม่ออกแม้แต่นัดเดียวครับ

    เหรียญรุ่นแรกและเหรียญปิดตาของหลวงปู่แก้วค่านิยมเล่นหาไปไกล้แล้วครับ แนะนำครับ



    พร้อมบัตรรับรองพระแท้เป็นการันตีในพุทธคุณ



    เป็นเหรียญที่จัดสร้างโดยมีประวัติชัดเจนลงไว้ในหนังสือพระเครื่องหลวงปู่แก้ว

    เล่นพระสวยพระดีมีมาตรฐาน เล่นแบบสบายใจพร้อมบัตรรับรองพระแท้

    พระไม่ดีไม่แท้ไม่นำมาลงให้ศึกษากันผิดๆครับ

    บูชาพระไม่ต้องเสี่ยงพร้อมใบเซอร์ พลังชาตรี 13

    รับประกันพระแท้ไม่มีกำหนด องค์ใหนเก็ บวกให้ 2000 บาท
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  17. พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +1,852
    หลวงปู่ทวด คอกหมู หลังเตารีดพิมพ์ใหญ่ 2505 อาจารย์ทิม วัดช้างให้

    องค์จริงเสียงจริงแท้ๆสบายใจ

    หลวงปู่ทวด ปี 05 หลังเตารีดพิมพ์ใหญ่ (คอกหมู)<!-- google_ad_section_end -->
    พระหลวงปู่ทวดหลังเตารีดวัดคอกหมู มีด้วยหรือ แล้ววัดคอกหมูคือวัดไหน กันแน่


    ก่อนอื่นมารู้จักวัดคอกหมูกันก่อนนะครับ วัดคอกหมูมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ”วัดสิตาราม” อยู่ถนนดำรงรักษ์ บนถนนจักรพรรดิพงษ์เยื้องๆวัดสะเกศจะมีสี่แยกย่อย(เดิมเรียกว่าแยกสะพานสาวร้องไห้) ก่อนถึงสี่แยกหลานหลวง เลี้ยวขวาเข้าถนนดำรงรักษ์ทางจะไปมหานาค บริเวณวัดนี้เมื่อก่อนชาวจีนได้มาเลี้ยงหมูจนร่ำรวยภายหลังได้ถวายที่ดินส่วนนี้ให้สร้างวัด ชื่อวัดแต่ดั้งเดิมจึงเรียกกันว่า วัดคอกหมูและต่อมาจึงได้เปลี่ยนเป็นชื่อ "วัดสิตาราม"

    ระแวกวัดนี้ในอดีตมีช่างหล่อและโรงหล่อของช่างอิน(บางท่านเรียกว่าช่างแสวง) นายอินผู้นี้คือช่างผู้หล่อพระกริ่งหน้าอินเดียให้กับวัดสุทัศน์ ต่อมาในปี2491 นายอินพาทีมช่างหล่อลงใต้ไปสงขลาเพื่อทำการหล่อพระกริ่งโภคทรัพย์ให้ พ่อท่านเส่ง วัดปหลมทราย

    ครั้นในปี2505 พระอาจารย์ทิม แห่งวัดช้างให้ สร้างพระพ่อปู่ทวดหลังเตารีดขึ้นที่วัดช้างให้ ปรากฎว่าเนื่องด้วยเวลาที่กระชั้นชิดช่างหล่อทำงานไม่ทันกำหนด จึงได้ให้ช่างอินในกรุงเทพฯ ช่วยหล่ออีกแรงหนึ่ง พิมพ์ที่ช่างอินทำการหล่อคือ ลป.ทวดเตารีดใหญ่พิมพ์เอ พระของช่างอินที่หล่อจะแก่ทองเหลืองไม่ออกแดงอย่างที่หล่อพระลป.ทวดพิพม์เตารีดที่วัดช้างให้ ..ครั้นเมื่อช่างอินหล่อพระเสร็จแล้วก็จะคัดงานดีที่หล่อสวยแยกไว้ในลัง ส่วนงานพระที่หล่อติดไม่คมชัดหรือชำรุดหล่อติดแต่ไม่สวย ได้คัดแยกไว้ต่างหากและทำการตอกโค๊ตรูปหมูไว้ที่หลังองค์พระ จุดประสงค์เพื่อนำไปถวายวัดคอกหมู พระทั้งสองแบบได้ถูกนำส่งผ่านไปทางรถไฟเพื่อไปยังวัดช้างให้สำหรับเข้าในพิธีปลุกเสกปี๒๕๐๕ ครั้นเมื่อ พระอาจารย์ทิมปลุกเสกในพิธีเสร็จแล้ว ท่านก็นำพระในส่วนที่ช่างอินคัดสวยให้เอาไปแจกญาติโยมที่วัดช้างให้ ส่วนอีกส่วนที่ช่างอินคัดไว้และตอกโค๊ตรูปหมูไว้ด้านหลัง ท่านก็ส่งกลับคืนมายังช่างอินที่กรุงเทพฯ เพื่อให้ช่างอินนำไปถวายที่วัดคอกหมู นั้นหมายความว่า พระลป.ทวดหลังเตารีดที่แจกที่วัดคอกหมูนั้น

    เป็นพระเข้าในพิธีเดียวกับพระลป.ทวดหลังเตารีดวัดช้างให้ พุทธคุณจึงเสมอเหมือนกันทุกประการ

    สำหรับโค๊ตหมูที่ตอกไว้ด้านหลังนั้น มีปรากฏตั้งแต่๑ตัว ๒ตัว ๓ตัว ๔ตัว จนถึง๙ตัว


    มีประวัติที่ชัดเจน หลังเตารีดหลักหลายแสนแล้วครับ




    แนะนำครับพิมพ์ใหญ่ (นิยม)


    องค์ที่ ๑.





    บัตรรับรองพระแท้มาตราฐาน



    องค์ที่ ๒.
    ปิดรายการนี้แล้วครับ ขอบพระคุณมากครับ
    ปิดรายการนี้แล้วครับ ขอบพระคุณมากครับ
    ปิดรายการนี้แล้วครับ ขอบพระคุณมากครับ





    บัตรรับรองพระแท้มาตราฐาน



    องค์ที่ ๓.
    ปิดรายการนี้แล้วครับ ขอบพระคุณมากครับ
    ปิดรายการนี้แล้วครับ ขอบพระคุณมากครับ
    ปิดรายการนี้แล้วครับ ขอบพระคุณมากครับ





    บัตรรับรองพระแท้มาตราฐาน




    พระไม่ดีไม่แท้ไม่นำมาลงให้ศึกษากันผิดๆครับ

    บูชาพระไม่ต้องเสี่ยงพร้อมใบเซอร์ พลังชาตรี 13


    รับประกันพระแท้ไม่มีกำหนด องค์ใหนเก็ บวกให้ 2000 บาท<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    กติกาในการประกันครับเก็องค์ใหนจ่ายคืนเต็มจำนวน บวกค่าเสียเวลาให้อีก 2000 บาททุกองค์ พระแท้คือแท้ไม่กลัวประกัน

    <!-- google_ad_section_end -->
     
  18. พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +1,852
    รายการที่ ๑๒.

    พระกลีบบัว กรุวัดใหม่ปากบาง อยุธยา

    หลวงปู่ทรัพย์ ลูกศิษย์สมเด็จพุฒาจารย์โตได้นำผงสมเด็จวัดระฆังที่แตกหักนำมาจัดสร้างเป็นมวลสารสำคัญและบรรจุไว้ในกรุเจดีย์วัดใหม่ปากบางในปี 2430


    วัดใหม่ปากบาง ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าตอ อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่เดิมวัดนี้มีชื่อว่า "วัดสกุณีเทศฐาราม" ที่ตั้งของวัด เดิมเป็นที่ดินของคุณย่านกเทศ ต่อมาได้ถวายเป็นที่ธรณีสงฆ์ ซึ่งในสมัยนั้นได้มีพระภิกษุ 2 รูปธุดงค์มาในแถบตำบลท่าตออยู่เสมอ ชาวบ้านแถบนั้นต่างก็เลื่อมใสในปฏิปทาของท่านเป็นอันมาก จึงนิมนต์ให้ท่านอยู่จำพรรษา โดยคุณย่านกเทศได้สร้างกุฏิสงฆ์หลังเล็กๆ ซึ่งอยู่ในที่ดินของคุณย่านกเทศ และต่อมาจึงได้มอบที่ดินให้ตั้งเป็นสำนักสงฆ์ พระองค์แรกนั้นมีชื่อว่าทรัพย์ ส่วนอีกองค์ไม่มีใครจำชื่อได้ หลวงปู่ทรัพย์ท่านได้อยู่จำพรรษา ณ สำนักสงฆ์แห่งนี้และได้ก่อสร้างเป็นวัดขึ้นมา และตั้งชื่อวัดนี้ว่า วัดสกุณีเทศฐาราม โดยเอานามของคุณย่านกเทศมาตั้งชื่อวัด กาลต่อมาจึงได้เปลี่ยนชื่อวัดใหม่เป็น "วัดใหม่ปากบาง" เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อหมู่บ้านในภายหลัง
    <TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right><TBODY><TR bgColor=#400040><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>
    หลวง ปู่ทรัพย์ ท่านเป็นชาวชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ ท่านเป็นพระธุดงคมาปักกลดอยู่ในตำบลท่าตอ และเริ่มสร้างวัดจนสำเร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ.2394 โดยประชาชนในตำบลท่าตอได้ช่วยกันสร้างกุฏิ หอสวดมนต์ จนเจริญรุ่งเรืองเป็นวัดขึ้นมา หลวงปู่ทรัพย์ท่านเป็นพระที่ใจดีมีเมตตาธรรมสูง ท่านเก่งหนังสือขอม ท่านได้เขียน
    หนังสือขอมไว้ในสมุดใบลานประมาณสิบกระสอบ หลวงปู่ทรัพย์ท่านจะสอนหนังสือ
    พระเณรภายในวัดทุกวัน และท่านเป็นพระที่เคร่ง ครัดในพระธรรมวินัยมาก พระเณรในวัดต่างก็เกรงท่านมาก และท่านก็เป็นที่รักเคารพของชาวบ้านในแถบนั้น หลวงปู่ทรัพย์ได้สร้างพระเครื่องเนื้อผงไว้จำนวนมาก มีด้วยกันหลายพิมพ์ เช่น พิมพ์พระประจำวัน พระนางพญา พระสมเด็จ 3 ชั้น เป็นต้น และพระทั้งหมดท่านได้นำบรรจุไว้ในองค์ พระเจดีย์ย่อไม้สิบสอง
    หลังจาก ที่หลวงปู่ทรัพย์ท่านได้มรณภาพไปนานแล้ว ในราวปีพ.ศ. 2485-95 ทางวัด
    คิดจะสร้างหอสวดมนต์และหอระฆัง แต่ก็ขัดสนเรื่องทุนทรัพย์ จะด้วยเหตุผลใดก็ไม่ทราบได้ ได้มีนกเอี้ยงที่อาศัยอยู่ที่คอระฆัง คุ้ยเขี่ยเอาพระร่วงหล่นลงมา ทำให้มีคนรู้ว่ามีพระบรรจุอยู่ที่คอระฆังและเริ่มมีคนเข้ามาขโมยเอาพระ ท่านเจ้าอาวาสในสมัยนั้นจึงได้ให้ทำการเปิดกรุโดยตั้งคณะกรรมการขึ้นมาคณะ หนึ่งทำการเปิดกรุพระ และนำมาจำหน่ายให้แก่ประชาชนเพื่อนำรายได้มาสร้างหอสวดมนต์และหอระฆังดัง กล่าวเสีย และการสร้างหอระฆังและหอสวดมนต์ก็สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีหลังจากนั้นอีกหลายปีต่อมา ทางวัดได้เริ่มสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ จึงได้นำพระ ออกมาจากกรุทั้งหมดเพื่อนำมาจำหน่ายให้แก่ประชา ชน เพื่อนำมาเป็นทุนทรัพย์ในการสร้างพระอุโบสถและพระอุโบสถหลังใหม่ก็สร้าง สำเร็จด้วยดี ดังที่เห็นในปัจจุบันนี้ พระเครื่องของหลวงปู่ทรัพย์ กรุวัดใหม่ปากบางนี้เป็นพระเครื่องเนื้อผง โดยส่วนใหญ่ จะปรากฏคราบกรุแทบทุกองค์ มีพิมพ์ต่างๆ อยู่หลายพิมพ์ รูปทรงไม่งดงามนักแต่ก็มากไปด้วพุทธคุณครับ จึงเป็นพระดีที่น่าสนใจอีกกรุหนึ่ง
    ด้วยความจริงใจ

    พระกลีบบัว กรุวัดใหม่ปากบาง อยุธยาเนื้อผงสมเด็จวัดระฆัง

    หลวงปู่ทรัพย์ ลูกศิษย์สมเด็จพุฒาจารย์โตได้นำผงสมเด็จวัดระฆังที่แตกหักนำมาจัดสร้างเป็นมวลสารสำคัญและบรรจุไว้ในกรุเจดีย์วัดใหม่ปากบางในปี 2430



    พร้อมบัตรรับรองพระแท้ไม่ต้องเสี่ยงกับเงินแท้ของท่านครับ
    บูชาพระแท้เปี่ยมด้วยพุทธคุณสบายใจกับ พลังชาตรี 13



    เล่นพระสวยพระดีมีมาตรฐาน เล่นแบบสบายใจพร้อมบัตรรับรองพระแท้

    พระไม่ดีไม่แท้ไม่นำมาลงให้ศึกษากันผิดๆครับ

    บูชาพระไม่ต้องเสี่ยงพร้อมใบเซอร์ พลังชาตรี 13


    รับประกันพระแท้ไม่มีกำหนด องค์ใหนเก็ บวกให้ 2000 บาท<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  19. พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +1,852
    นำวัตถุมงคลดีๆมาฝากเบาๆครับท่า่น

    รายการที่ ๑.

    ผ้ายันต์พัดโบก

    วัตถุมงคลยอดนิยม หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ร่มโพธิ์

    “วิชาทำพัดโบก”

    “หลวงพ่อกราด วัดชากกอไผ่” และ “ฆราวาส สาย”

    หลวงพ่อทิมเล่าเรียนและศึกษาวิชาอาคมอยู่กับหลวงพ่อกราดถึง 2 ปี
    จนเชี่ยวชาญในวิชาอาคมต่างๆ จากหลวงพ่อกราดเป็นพิเศษ บางครั้งท่านจะเห็นหลวงพ่อกราดแสดงฤทธิ์ให้เห็น
    อย่างจะจะหลายครั้ง มีอยู่ครั้งหนึ่งชาวบ้านแถบนั้นได้นำเอาตะกั่วถ้ำชามามอบให้หลวงพ่อกราดเพื่อลงตะกรุดโทน
    จะได้นำไปติดตัวตอนเป็นทหาร หลวงพ่อกราดก็บอกว่า อีก 7 วันมาเอา เมื่อครบ 7 วันชายผู้นั้นก็ไปหา
    หลวงพ่อกราดเพื่อรับตะกรุดโทน ขณะนั้นหลวงพ่อกราดนั่งอยู่บนกุฏิพอเห็นชายผู้นั้นท่านจึงเอ่ยว่า ไอ้ทิดตะกรุด
    ของเอ็งตกอยู่ข้างล่าง ลงไปหยิบให้ทีสิ พอชายผู้นั้นหยิบขึ้นมาแล้ว หลวงพ่อกราดก็ใช้ฉมวกสำหรับแทงปลา
    อันแหลมคม พุ่งอย่างแรงไปที่กลางหลังของชายที่กำลังถือตะกรุดอยู่ เสียงดังสนั่น ชายผู้นั้นถึงกับล้มทั้งยืนหน้าซีด
    ไม่มีสีเลือด นั่งอยู่กับพื้นพูดอะไรไม่ออก หลวงพ่อกราดจึงตะโกนไปว่า อะไรว่า อยากได้ของดียังใจเสาะอีก
    เดี๋ยวเอาของคืนเสียเลย

    หลวงพ่อกราดท่านเป็นพระยุคเดียวกับหลวงพ่อวงศ์ วัดบ้านค่าย ซึ่งหลวงพ่อวงศ์ท่าน
    เป็นพระมีอาคมสูงเคยไปปลุกเสกในงานหนึ่ง ซึ่งในงานนี้มีหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม นั่งปลุกเสกอยู่ข้างๆ
    จนหลวงพ่อคงเมื่อพิธีเลิกแล้วถึงกับพูดกับอาจารย์เภาว่า "ไม่รู้ว่าพระที่นั่งข้างฉันอยู่วัดไหน กระแสจิต
    แรงกล้าเหลือเกิน ฉันจับสายสิญจน์ทีไรสะดุ้งทุกที” นี่ย่อมแสดงถึงความมีอำนาจจิตอันแรงกล้าของหลวงพ่อวงศ์

    อดีตก่อนนั้นการสื่อสารยังไม่มีเหมือนกับในยุคนี้ ยามที่วัดหลวงพ่อวงศ์มีงาน หลวงพ่อวงศ์จะเสกหุ่นพยนต์
    มาตามหลวงพ่อกราดไปช่วยที่วัด หรือบางครั้งหลวงพ่อกราดก็เสกอีกาไปบอกข่าวให้แก่หลวงพ่อวงศ์ จนเป็นที่เลื่องลือ
    ของชาวบ้านในยุคนั้นเป็นอย่างมาก หลวงพ่อวงศ์นี้คนจีนแถวปากน้ำระยองนับถือท่านมากทีเดียว ท่านเป็นพระสงฆ์
    ที่มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ รูปร่างท่านอ้วนท้วน สมบูรณ์ ใจดี ชอบช่วยเหลืออนุเคราะห์ผู้อื่นมาก ท่านเป็นพระหมอที่มีความ
    เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรเป็นพิเศษ เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อสังข์เฒ่า

    มีอยู่วันหนึ่งขณะที่ท่านกำลังนั่งโขกหมากรุกอยู่กับพระในวัด ได้มีคนจีนที่ปากน้ำระยองมาหาท่านเพื่อ
    ขอให้ท่านทำน้ำมนต์ คนจีนผู้นั้นได้เดินไปหาหลวงพ่อวงศ์พร้อมกับน้ำใส่ขวดถือไปด้วย หลวงพ่อวงศ์พูดว่า
    น้ำในขวดใช้ได้แล้วเอากลับไปบ้านเถิด ทั้งๆ ที่ตามองไปที่กระดานหมากรุก คนจีนผู้นั้นเห็นเช่นนั้น
    จึงเกิดความเสื่อมศรัทธาและลาหลวงพ่อวงศ์กลับทันที เมื่อเดินทางมาระยะหนึ่งจึงหยิบขวดน้ำมนต์มาดูและ
    ตัดสินใจเททิ้งทันที แต่ปรากฏว่าเทเท่าไรๆ น้ำมนต์ก็ไม่ไหลออกจากขวด พอตั้งขวดให้อยู่ในสภาพตั้งตรง
    น้ำในขวดก็ยังอยู่เหมือนเดิม ทำความตกอกตกใจให้คนจีนผู้นั้นเป็นอย่างมากถึงกับยกมือไหว้ไปทางวัดบ้านค่าย
    พร้อมทั้งขอขมาท่าน เมื่อกลับมาถึงปากน้ำระยองแล้วจึงได้นำเรื่องราวของหลวงพ่อวงศ์ที่ตนเองประสบมาเล่า
    ให้บรรดาพรรคพวกฟัง ปรากฏว่าวัดหลวงพ่อวงศ์ได้มีผู้ไปหาท่านเพื่อขอของดีจากหลวงพ่อวงศ์เป็นอย่างมาก
    ทีเดียวในยุคนั้น หลวงพ่อวงศ์นี้เมื่อเวลามรณภาพปรากฏว่าได้มี นกบินมาที่เมรุเผาศพท่านเป็นจำนวนมาก
    เสมือนกับนกเหล่านี้จะมาไว้อาลัยให้แก่หลวงพ่อวงศ์ เมื่อเผาเสร็จแล้วนกเหล่านี้ก็บินหายไปไม่เหลือแม้
    กระทั่งตัวเดียว

    สำหรับ หลวงพ่อกราด วัดชากกอไผ่ ซึ่งเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อทิมก็มีอิทธิฤทธิ์ไม่แพ้
    หลวงพ่อวงศ์เช่นกัน เนื่องจากหลวงพ่อกราดเป็นพระที่ชอบสูบกัญชา ลักษณะภายนอกเหมือนพระวิกลจริต
    จึงถูกคนช่างฟ้องนำไปฟ้องหลวงพ่อขาว วัดทับมา ซึ่งเป็นเจ้าคณะแขวงในสมัยนั้น หลวงพ่อขาว
    จึงลงมาสอบสวนหลวงพ่อกราดด้วยตนเอง หลวงพ่อกราดก็ให้โยมวัดรินเหล้ามาแก้วหนึ่งแล้วนำมาถวาย
    หลวงพ่อขาว หลวงพ่อขาวรับไว้แล้วยกขึ้นดื่มทันที เมื่อหลวงพ่อขาวดื่มไปได้ครึ่งแก้วจึงวางแก้วเหล้าลง
    แล้วเอ่ยขึ้นมาว่า “เออ...ข้ารู้แล้ว เอ็งไม่ผิดหรอก" ปรากฏว่าเหล้าที่หลวงพ่อขาวได้รับจาก
    หลวงพ่อกราดไปนั้นกลายเป็นน้ำฝนอย่างน่าอัศจรรย์” หลวงพ่อกราดจึงพูดว่า คนเขาลือว่ากระผม
    สูบกัญชามันก็เป็นเช่นเดียวกับเหล้าที่ท่านได้ดื่มไปเมื่อสักครู่นี้แหละครับ

    เมื่อเรียนวิชาอาคมกับหลวงพ่อกราดจนเชี่ยวชาญแล้ว หลวงพ่อทิมก็ลาหลวงพ่อกราดสู่วัดละหารไร่
    ก่อนกลับหลวงพ่อกราดได้แนะนำว่า ถ้ายังคิดอยากจะเรียนวิชาอย่างอื่นอีก ก็ให้ไปหาฆราวาสผู้หนึ่ง ชื่อ
    สาย อยู่บ้านส้อง จังหวัดปราจีนบุรี ฆราวาสคนนี้เก่งมากอยู่ในป่าเป็นนิจ ขอให้ลองไปหาดูและถ้าเจอ
    ก็ให้บอกว่าข้าเป็นผู้แนะนำมา หลวงพ่อทิมก็รับคำหลวงพ่อกราดผู้เป็นอาจารย์แล้วก็เดินทางกลับวัดละหารไร่ทันที
    หลังจากออกพรรษาแล้วท่านก็เดินทางไปบ้านส้องเพื่อหาฆราวาสที่ชื่อสาย แต่ก็หาไม่พบ ท่านจึงเดินทางไป
    อำเภอพนัสนิคม เพื่อไปหา หลวงพ่อโด่ วัดนามะตูม ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกัน ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดนามะตูม
    อยู่ถึง 3 พรรษา หลังจากนั้นท่านก็ลาหลวงพ่อโด่เพื่อเดินทางไปบ้านส้องอีก โดยบุกป่าฝ่าดงไปในกลางป่า
    อย่างลำบากลำบนแต่ท่านก็ไม่ย่อท้อต่อความลำบากเลย จนมาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่งอยู่ในป่าลึก ท่านได้เห็น
    ผู้เฒ่าคนหนึ่งอายุประมาณ 70 ปีแต่ยังแข็งแรงมาก คนเดียวมีเมียเกือบ 20 คน รวมทั้งลูกๆ ของผู้เฒ่านี้อีก
    40-50 คน หลวงพ่อทิมก็เดินเข้าไปไถ่ถาม ถามไปถามมาจึงทราบว่า ผู้เฒ่าผู้นี้ชื่อสาย ท่านจึง
    บอกว่าหลวงพ่อกราด แห่งวัดชากกอไผ่ได้แนะนำมาเพื่อขอเล่าเรียนวิชา เมื่อฆราวาสสายได้ยินดังนั้นจึงนิมนต์
    หลวงพ่อทิมขึ้นบนบ้านและก็ได้สอนวิชาต่างๆ ให้หลวงพ่อทิมจนหมดสิ้นอย่างไม่ปิดบัง ส่วนมากจะเป็นวิชาหนัก
    ไปทางเมตตามหานิยมต่างๆ วิชาทำสีผึ้ง วิชาลงตะกรุดสาลิกา สำหรับวิชาทำสีผึ้งนั้นผู้เฒ่าสายสอนจน
    ให้เห็นจริง โดยการเอาสีผึ้งนี้ไปป้ายลูกไก่ที่อยู่ในอ้อมอกแม่ไก่ ปรากฏว่าลูกไก่ถึงกับเดินตามผู้ที่มีสีผึ้งนี้ทันที
    สำหรับตะกรุดสาลิกานี้หลวงพ่อทิมสามารถเรียนจนเสกให้ตะกรุดนี้ลอยน้ำขึ้นมาและวิ่งวนในบาตร


    ผ้ายันต์พัดโบก ขนาดภาพ 23x31 ซ.ม








    มีจำนวนจำกัด 450 บาทครับท่าน

    ..........................................................................

    รายการที่ ๒.

    " โปสเตอร์หลวงปู่ทิมวัดระหารไร่

    ได้ผ่านการปลุกเสกเดี่ยวโดยอาจารย์วราห์ ปุญญวโรวัดโพธิ์ทอง บางมด



    มีจำนวนจำกัด 450 บาทครับท่าน หมดแล้วครับท่าน

    ..............................................................................

    รายการที่ ๓.

    รูปภาพหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ผ่านพิธีปลุกเสก อุโบสถ วัดละหารไร่
    ปลุกเสกพร้อมกับเหรียญเจริญพรล่าง หลวงปู่ทิม อิสริโก ย้อนยุค


    ภาพนี้ขนาดของภาพคือ ๒๖ x ๕๓ ซ.ม.





    หลวงพ่อสิน วัดละหารใหญ่ ร่วมปลุกเสก ณ อุโบสถ วัดละหารไร่
    ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพครับ



    มีจำนวนจำกัด 450 บาทครับท่าน

    ............................................................................


    รายการที่ ๓.

    รูปภาพหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ผ่านพิธีปลุกเสก อุโบสถ วัดละหารไร่
    ปลุกเสกพร้อมกับเหรียญเจริญพรล่าง หลวงปู่ทิม อิสริโก ย้อนยุค


    ภาพนี้ขนาดของภาพคือ 13x 27ซ.ม.





    หลวงพ่อสิน วัดละหารใหญ่ ร่วมปลุกเสก ณ อุโบสถ วัดละหารไร่
    ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพครับ



    มีจำนวนจำกัด 250 บาทครับท่าน

    ............................................................................
     
  20. พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,447
    ค่าพลัง:
    +1,852


    หุ่นสีผึ้งหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    ..............................................................




    .................................................................................



    .................................................................................



    .................................................................................



    .................................................................................



    จุดเริ่มต้น ปิตตามหาอุตตโม ปิดตาเหลือกินเหลือใช้

    .................................................................................



    รูปปั้น ขุนแผนแห่งวัดละหารไร่

    .................................................................................



    แม่พรายส้ม ต้นกำเนิดผงพรายกุมารอันโด่งดังแห่งวัดละหารไร่

    แม่พรายส้มเป็นผีตายทั้งกลม ซึ่งลูกศิษย์หลวงปู่ได้ไปนำผมพรายและพลีกุมารทองมาทำ ผงพรายกุมาร ประวัติเป็นมา หลังแต่งงานนางส้มมีท้องแรกตั้งแต่เป็นสาว ขณะท้องแก่สามีกลับบ้านช้าก็เกิดความน้อยอกน้อยใจ เข้าใจว่าสามีคงไปติดหญิงอื่นเลยใช้ปืนยาวของสามียิงตัวตาย โดยใช้ปากอมกระบอกปืนยาวแล้วใช้นิ้วเท้าเหนี่ยวไกปืน ก่อนเผาศพนางส้มลูกศิษย์หลวงปู่ได้ทำพิธีขอน้ำมันพราย โดยฝังกระป๋องไวใต้กองฟอน ลูกศิษย์หลวงปู่เล่าว่าถ้าผีไม่ให้น้ำมันก็จะไม่ได้น้ำมัน แต่ถ้าผีให้ น้ำมันก็จะไหลไปรวมกันที่กระป๋องนี้ น้ำมันนี้ก็เป้นส่วนประกอบในบรรดาน้ำมันทั้งหลายที่ท่านอาจารย์ชินพร นำมาผสมในการสร้างพระ ร่วมกับผงพรายกุมาร ซึ่งทั้งสองอย่างนี้หลวงปู่ทิมท่านให้ลูกศิษย์ขนมาใส่รถท่านอาจารย์ก่อนท่านจะมรณะภาพไม่นาน
     

แชร์หน้านี้