<a href="http://image.ohozaa.com/view2/wdKUskdRzS0a8CKV" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/baa/TdnIAZ.JPG" /></a><a href="http://image.ohozaa.com/view2/wdKV8RFHBJSJUrwA" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/56d/IlNuwl.JPG" /></a>
ปลัดไม้พญาท้าวเอวครับ
ตัวนี้คณะสมัยนั้นเล่าว่า องค์หลวงปู่บอกว่าใช้รักษาโรค และแก้ปวดเมื่อย กันสิ่งมีพิษ ได้ครับ
มีข้อมูลที่ผมอ่านเจอได้มีคนกล่าวไว้ว่า
ไม้พญาท้าวเอว เป็นไม้ที่พบแถบตะวันตก กาญจนบุรี ตาก พม่า เป็นไม้เถาเลื้อย มีลักษณะที่เห็นได้ชัดคือ ข้อเกี่ยวสำหรับไว้ยึดลำต้นของมันกับไม้ต้นอื่นๆ ข้อเกี่ยวของไม้เถาชนิดนี้เป็นที่มาของชื่อ เพราะหากเราตัดลำต้นออกมาข้อหนึ่ง ตรงขอเกี่ยวของมันจะมีลักษระดั่งคนกำลังเท้าเอว จึงเรียกไม้ชนิดนี้ว่าไม้พญาท้าวเอว
ทางภาคใต้ก็มีไม้ชนิดนี้ขึ้นเช่นกัน และเขาจะเรียกว่าไม้เขี้ยวขบ เพราะเขาอุปมาขอเกี่ยวของไม้เถาชนิดนี้ว่าคล้ายกับเขี้ยวงู
มีตำนานเล่าเป็นนิทานพื้นบ้านว่า ไม้นี้มีเทวดารักษา ขึ้นอยู่ข้างๆอาศรมพระฤาษีตาไฟ วันหนึ่งพระฤาษีท่านจะลองฤทธิ์ของตนด้วยการลืมตาที่สาม พระฤาษีประกาศไว้ทั่วป่าอาณาเขตว่าอย่าเข้ามาขวางข้างหน้าเวลาที่ท่านลืมตาที่สามเพราะจะมีไฟบรรลัยกัลป์พุ่งออกมา ใครอยู่ขวางหน้าจะกลายเป็นจุลมหาจุล พอเวลาที่พระฤาษีตาไฟลืมตาขึ้น เทพยดาที่รักษาไม้พญาเท้าเอวก็เข้ามาขวางหน้าดู เรียกว่าลองฤทธิ์กับองค์ฤาษี และสามารถทนทานอยู่ได้ ไม่เป็นอันตราย พระฤาษีชมว่าเก่งและพอใจเป็นอันมากจึงตั้งใจสอนวิชาให้
เป็นอันว่าไม้พญาเท้าเอวมีฤทธิ์มาก คนโบราณกล่าวถึงสรรพคุณสำคัญไว้ว่าดีทางกันเขี้ยวงาอสรพิษ และใช้คาดเองไม่ให้ปวดเมื่อย แต่การใช้นั้นต้องรู้วิธีครับ ต้องนำไม้เท้าเอวไปแช่ในน้ำให้เปียกชุ่มก่อน เพราะยางภายในหรือตัวยาของไม้จะได้ซึมออกมา จากนั้นจึงประคบเข้าที่บริเวณปวดเมื่อยไม่นานก็หายได้
หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง และพระคณาจารย์สายต่างๆ (ข้อมูลวัตถุมงคล หน้า 1-8)....
ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ทุเรียนทอด, 16 พฤษภาคม 2011.
หน้า 313 ของ 772
-
<a href="http://image.ohozaa.com/view2/wdL17jsnVynPBwfv" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/841/IhpmY3.JPG" /></a>
พระกสิน พิมพ์โคนสมอเนื้อดินผสมผง ทาสีบอรนแดงครับ เป็นพระที่องค์หลวงปู่ได้สั่งให้คณะสมัยนั้น เอาไปถอดพิมพ์ ต้นแบบเป็นพระที่ท่านได้บูชาส่วนตัวครับ เท่าที่ผมทราบจะมี เนื้อดิน เนื้อดินเผา เนื้อผงสีดํา ทางทอง ทาสีอื่นๆ และ ตะกั่วหล่อครับ -
<a href="http://image.ohozaa.com/view2/wdy0P1f6o5aCflnR" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/23e/N3Gs0J.JPG" /></a><a href="http://image.ohozaa.com/view2/wdL17jsnVynPBwfv" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/841/IhpmY3.JPG" /></a>
-
<a href="http://image.ohozaa.com/view2/wdL5MA6TjJk2jApt" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/bd1/4xn49.JPG" /></a><a href="http://image.ohozaa.com/view2/wdL5PLV1RQnfh65L" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/22f/1S94Lz.JPG" /></a>
พระกสิน พิมพ์สมเด็จ เนื้อดินผสมผง พิเศษข้างหลังปิดรูปพระอาจารย์มั่น อาจารย์ใหญ่ของสายพระป่าครับ รูปเป็นรูปที่ปิดมาแต่เดิมครับ
พระเนื้อดินของท่าน เรียกว่า พระกสิน ครับ หลวงปู่ท่านสวดมนต์เดินจงกรมบริกรรมทั้งหมดครับถ้าดินสุกแล้วท่านจะนำมาไว้ที่ห้องสวดมนต์ท่านจะสวดลายลักษณ์ของพระพุทธเจ้าตลอดถึงพระคาถาและบทสวดต่างๆมากมายเลยครับสำหรับพระยุคแรกๆของท่าน
นะมะภะทะจะภะกะสะนะโมพุทธายะนะชาลีติพุทธคุณังธัมมะคุณังสังฆคุณังสะระนังคัจฉามิ พระคาถาหลวงปู่พิสดู ไว้สวดเสกกำกับ พระกสิน. เวลาเราสวมใส่เห็นหน้าใครต้องการผูกมิตรทำจิตใจให้เป็นสมาธิ แล้วบริกรรม. เมกะมุอุ. ครับ. หลวงปู่เคยกล่าวไว้ว่า การบูชาพระพุทธเจ้านำมาชื่งเดชเดชาอันยิ่งใหญ่ การบูชาพระธรรมเจ้านำมาซึ่งปัญญาอันยิ่งใหญ่ การบูชาพระสงฆ์เจ้านำมาซึ่งทรัพย์อันยิ่งใหญ่ ครับ. พระผงกรรมมัฏฐาน ยุคแรกๆของท่านสามารถใช้มือกำภาวนาได้ครับ คาถากำกับ พระขมิ้นเสกต่าง มิตติ จิตติ จิตติ มิตติ นะชาลีติ นโมพุทธายะ. (ทำไมหลวงปู่ถึงนำขมิ้นมาบดผสมทำพระครับ. เหตุผล. พระเวลาบวชต้องห่มเหลืองสมัยก่อนเขาใช้ขมิ้นย้อมผ้า. ขมิ้นเหลืองดั่งทองคำมิผันแปรเหมือนดั่งทองคำ. ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้ท่านจึงนำขมิ้นมาบดผสมทำพระเสมอๆครับ. ) หลวงปู่เสกพระด้วยบทกรรมมัฏฐานทั้งสิ้น เช่นสวดพิจารณาอาการ32 เกสา โลมา.........มัตถะลุงคันติสาคะลังและอื่นๆ คาถาพระปัจเจกก็ใช้สวดด้วยสมัยก่อนท่านสวดทุกเช้าศิษย์เก่ารู้ดีครับ -
กราบนมัสการ หลวงปู่พิศดู ธมฺมจารี ที่เคารพอย่างสูงยิ่ง
สวัสดีศิษย์หลวงปู่ทุกท่านและสมาชิกทุกคน
ความสุข...ตามแนวพระพุทธศาสนา
หนังสือ Time magazine บอกว่าที่อเมริกา ได้มีงานวิจัยพบว่า...คนที่มีความสุขมากที่สุดในโลกก็คือ พระในทางพุทธศาสนา โดยมีการทดสอบด้วยการสแกนสมองของพระที่ ทำสมาธิและได้ผลลัพธ์ออกมาว่าเป็นจริง
+ หลักความเชื่อของศาสนาพุทธก็คือ เหตุที่ทำให้เกิดความสุขนั้นก็คือ “อยู่กับปัจจุบัน” ขณะปล่อยวางได้ในสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ควบคุมความอยากที่ไม่มีสิ้นสุด ไม่ใช้ความรุนแรง ไม่ทะเลาะ และ ใช้หลักเวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร ให้อภัยตัวเองและผู้อื่น มีจิตใจเมตตากรุณา และเสียสละเพื่อผู้อื่น
+ อริยะสัจ 4 สิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบและบอกไว้ คือ ทุกข์ สมุทัย มรรค นิโรธ แท้จริงแล้วก็คือทางเดินไปหาคำว่า "ความสุข" เพราะถ้าเมื่อไรเรากำจัด "ความทุกข์" ได้แล้วความสุขก็จะเกิดขึ้นทันที
+ อุปสรรคของความสุขก็คือ แรงปรารถนา และ ตัณหา คนเราจะมีความสุขได้ ไม่ได้ขึ้นอยู่ว่า "มีเท่าไร" แต่ขึ้นอยู่ที่ว่า "พอเมื่อไร" ความสุขไม่ได้ขึ้นกับจำนวนสิ่งของที่เรามีหรือเราได้...
+ ดังนั้นวิธีจะมีความสุขอันดับแรกต้อง "หยุดให้เป็น และ พอใจให้ได้" ถ้าเราไม่หยุด ความอยาก(ที่มากเกินไป)ของเราแล้วละก็เราก็จะต้องวิ่งไล่ตามหลายสิ่งที่เรา "อยากได้" แล้วนั่นมันเหนื่อย และความทุกข์ ก็จะตามมา...
+ ข้อต่อมาที่ทำให้เราเป็นสุขคือ การมองทุกอย่างในแง่บวก เมื่อเสร็จงานแล้วกลับถึงบ้าน คนที่บ้านถามว่าวันนี้เป็นไงบ้าง ? ส่วนใหญ่เราจะตอบว่า "โดนบอสด่ามา วุ่นวาย ลูกค้างี่เง่า ฯลฯ " ทำไมเราถึงชอบคิดถึงแต่เรืองไม่ดี
+ ในชีวิตแต่ละวัน แน่นอนเราต้องเจอทั้งเรื่องดี และไม่ดี แต่ถ้าเราอยากจะมีความสุข เราต้องเริ่มด้วยการมองแต่สิ่งดีๆ มองให้เป็นบวกเพื่อที่ใจเราจะได้เป็นบวก คิดถึงสิ่งที่เราทำสำเร็จแล้วในวันนี้ สิ่งดีๆที่เราได้ทำ....
+ ข้อต่อมาคือ “การให้” ให้ในรูปแบบสิ่งของหรือเงิน เรียกว่าบริจาค และการให้ความเมตตากรุณาต่อกัน ให้อภัยทั้งตัวเองและคนอื่น สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัย ทำให้เรามีความสุข....
+ การปล่อยวางให้ได้ในทุกสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว และที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ว่าเรื่องจะร้ายแรงและเศร้าโศกเพียงใด จำไว้ว่ามันจะโดนเวลาพัดพามันไปจากเราไม่ช้าก็เร็ว เราจะผ่านพ้นไปได้....และยอมรับในความเป็นจริงของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เราไม่ชอบเพียงใด ไม่ว่าผิดหวัง สูญเสีย เจ็บป่วย ล้วนแล้วแต่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา เราทุกคนต้องได้ผ่านบททดสอบนี้ทั้งสิ้น ไม่ว่าเราจะเป็นใคร..
.
+ ขอให้เรารักษาใจเราให้เป็นสุขอยู่เสมอ เพราะความสุขมันอยู่ใกล้แค่นี้เอง แค่ที่ “ใจของเรานี่เอง”
จาก คุณปรีชา แสนเขียว ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย -
-
<a href="http://image.ohozaa.com/view2/wdL7ZpU8LULq82TD" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/93f/oeNgxJ.JPG" /></a>
องค์นี้เคยลงไปแล้วครับ ของลงอีกทีให้เข้ากับสมเด็จ พระองค์นี้เดิมทีองค์หลวงปู่ท่านได้บูชาไว้ติดตัวครับ ต่อมาท่านได้ทาทองพอกผงและโรยผงตามรูปเหมือนครับ ต่อมาท่านได้มอบเป็นสมบัติของคณะศิษย์สมัยนั้นครับ -
-
-
ขอบคุณครับพี่ทุเรียนทอด พอดีไม่ได้ไล่อ่านดู เดี๋ยวไปหาอ่านก่อนนะครับ รออ่านประสบการณ์อื่นด้วยนะครับ :cool::cool::cool: -
หวัดดีคุณทุเรียนทอดและสมาชิกทุกท่านครับ
รอมาเกือบครบปีแล้ว ขอแบ่งสักชุดก็ไม่ได้:'(ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
-
กราบหลวงปู่พิศดู
ยังไม่เคยมีพระหลวงปู่เลยไม่ทราบว่าที่วัดหรือพอจะหาได้จากที่ไหนครับ _/\_ -
สวัสดีคุณทุเรียนทอดแล้วสมาชิกทุกท่านครับ
เมื่อก่อนมี 2 เบอร์ ตอนนี้มีเบอร์เดียว ^^ คงจะหาอีกได้ยากแล้วครับ -
ขอกราบแทบเท้่าหลวงปู่พิศดูด้วยครับ ผมขอจดจำจริยาวัฒน์ที่ดีงานของหลวงปู่ด้วยคนนะครับ
-
กราบหลวงปู่พิศดู สวัสดีครับพี่ทุเรียนทอดและสมาชิกทุกท่าน
-
-
-
เมื่อก่อน ยังพอเห็นคนเอามาให้ดูบ้าง แต่ตอนนี้ไม่เคยเห็นเลย แม้แต่รูปถ่ายก็ยังไม่ค่อยมีใครเอามาโชว์กันเลย อีกหน่อยคงกลายเป็นตำนานครับ -
หน้า 313 ของ 772