หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง และพระคณาจารย์สายต่างๆ (ข้อมูลวัตถุมงคล หน้า 1-8)....

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ทุเรียนทอด, 16 พฤษภาคม 2011.

  1. KT_PK

    KT_PK เชิญบูชาพญาแมงภู่คำ เพื่อสร้างโรงเรียนเชื้อชาติ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    271
    ค่าพลัง:
    +873

    ผมยังเข้าใจว่า โลกุตตรฌานของพระอรหันต์นั้นไม่เสื่อม
    เพราะพ้นจากโลกียะ คือความยึดมั่นถือมั่นทั้งหลายไปแล้ว
    ในชาดกที่อ้างอิง เป็นเรื่อง ดาบสฌานเสื่อม (ซึ่งพระราชาผู้อุปัฏฐาก เข้าใจว่าท่านดาบสเป็นพระอรหันต์)
    คิดว่าคนนำมาเล่าต่อ คงจำมาผิดๆมากกว่า

    http://www.dhammathai.org/chadoknt/chadoknt22.php

    ขออภัยคุณทุเรียนทอดที่ยกเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะไม่อยากให้คนอื่นจำไปผิดๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กันยายน 2011
  2. ปัทมินทร์

    ปัทมินทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +1,393
    [​IMG]

    นี่แหล่ะครับ ที่ผมประสบอุบัติเหตุตั้งแต่ชั้นบนลงล่าง ตอนฝนตกหนัก

    [​IMG]

    ส่วนนี่ก็เป็นพระที่ผมคล้องติดตัว ที่ช่วยให้ผมปลอดภัย ไร้รอยฟกช้ำใดๆทั้งสิ้น ไม่มีช้ำในวันรุ่งขึ้นเลย

    1.พระหินหยก หลวงปู่ฟัก สันติธัมโม วัดพิชัยพัฒนาราม (เขาน้อยสามผาน) จ.จันทบุรี ท่านบวชในงานฉลอง 25 ศตวรรษ เป็นศิษย์ท่านพ่อลี ต่อมาพอหมดท่านพ่อลีแล้วได้ไปอยู่กับหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด องค์หลวงปู่ฟักเป็นศิษย์วัดป่าบ้านตาดยุคแรกครับ เป็นที่ไว้วางใจจากหลวงตามากครับ ผมได้รับจากมือท่านก่อนที่หลวงปู่จะมรณภาพเพียง 14 วัน

    2.พระโพธิจักร ท่านพ่อลี ธัมมธโร วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ (ท่านมาจำพรรษาที่ วัดป่าคลองกุ้ง จ.จันทบุรี อยู่นานมาก) องค์นี้เพื่อนให้ ท่านเป็นพระอริยะเจ้าผู้มีพลังจิตสูง และยังได้รับสมญานามว่า "แม่ทัพธรรม"

    3.รูปถ่ายมหายันต์ สารพัดกัน ด้านหลังติดจีวร ของหลวงปู่พิศดู ธัมมจารี วัดเทพธารทอง จ.จันทบุรี ลูกศิษย์องค์สำคัญของท่านพ่อลี

    4. พระอุปคุต รุ่นชนะมาร (รุ่น 4 รุ่นสุดท้าย) ของหลวงปู่พิศดู ธัมมจารี วัดเทพธารทอง จ.จันทบุรี

    5. ผมรังกระเต็น บ้างก็เรียกกันว่า เกล้านางนี เกล้าโมลี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กันยายน 2011
  3. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,519
    ค่าพลัง:
    +30,858
    อ้าว!นึกว่าได้มาแล้วครับ ช่วยเชียร์ให้ได้มาบูชาไวๆครับ:cool:
     
  4. nuamnim1

    nuamnim1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    386
    ค่าพลัง:
    +1,621
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ปัทมินทร์ [​IMG]
    ไม่ใช่เหรียญของผมครับพี่บัติ ผมก๊อปของเค้ามาอีกที เอามาไว้ดูตัวอย่างเหรียยญสวยครับ
    ขอให้ได้กริ่งธัมมะจารี จากจ.นนทบุรีทั้ง2คนครับ [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    ผมก็อยากได้เหมือนกันแต่ราคา [​IMG]
     
  5. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,981

    เห็นแล้วก็หวาดเสียวเหมือนกันนะครับ ดีแล้วครับที่ไม่เป็นอะไร จากหนักขอให้กลายเป็นเบา จากเบากลายเป็นแค่ตกใจเล็กน้อยครับ ^^
     
  6. ระยอง

    ระยอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    179
    ค่าพลัง:
    +683
    [​IMG]

    ถ้าหนักๆก็แบ่งๆมาฝากไว้ได้นะครับ
     
  7. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,519
    ค่าพลัง:
    +30,858
    ผมว่าขอแบ่งจากคุณnuamnimที่เก็บไว้9ชุดจะง่ายกว่ามั่งครับ555 รู้สึกว่าจะได้ครบ10ชุดแล้วหรือไงเนี่ยแหละ มีคนเค้ากระซิบบอกมาครับ
     
  8. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,981

    อะฮ้า.. มีกันตั้ง 10ชุด เลยหรือครับเนี่ย.. :cool:
    แล้วป๋าบัติล่ะครับมีกี่ชุด
     
  9. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,519
    ค่าพลัง:
    +30,858

    ตอนนี้เหลือเก็บไว้แค่2ชุดเองครับ ส่วนที่ได้มาแล้วแบ่งออกไปก็คงไม่ต่ำกว่า30ชุด:':)'( จำไม่ได้แล้วครับว่าแบ่งไปให้ท่านใดบ้าง แต่จำได้ว่าส่งไปต่างประเทศ1ชุดครับ
     
  10. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,981
    สมาชิกผู้มีสิทธิรับพระท่านใด ยังไม่ได้ส่งซองมาที่ผม ช่วยรีบส่งมาหน่อยนะครับ เพราะว่าวันศุกร์นี้ ผมจะลงไปที่จ.จันทบุรี หลายวัน เกรงว่าหากส่งมาตอนที่ผมไม่อยู่ ซองจะตกค้างอยู่ที่กรุงเทพฯ จะทำให้การรับของล่าช้าน่ะครับ หรือยังไม่สะดวกส่งอย่างไร แจ้งมาทางpm จะได้นัดแนะที่อยู่การจัดส่งไปที่จันทให้นะครับ ขอบพระคุณครับผม




    ;hi2 ;k01
     
  11. nuamnim1

    nuamnim1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    386
    ค่าพลัง:
    +1,621
    ชุดที่ 10 ยังไม่มีครับ:cool: รอเก็บตังค์สักระยะนึง
     
  12. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,981
    กราบองค์หลวงปู่พิศดู ขอรับ

    กระดานหน้านี้เป็นหน้าที่ 88 เป็นเลขที่ตรงกับอายุขององค์หลวงปู่ในวันที่ละท่านสังขาร จึงขอเขียนเรื่องราวบางเรื่อง เพื่อเป็นการระลึกถึงองค์หลวงปู่ และคำสอนของท่านถึงความไม่ประมาท

    หลวงปู่พิศดู ธัมมะจารี พ่อแม่ครูอาจารย์องค์สำคัญของพระวิปัสนาจารย์สายป่า ได้ละสังขารแล้ว เมื่อวันที่ 13 เมษายน พ.ศ.2554 เมื่อเวลา 13.00 น.โดยประมาณ รวมสิริอายุได้ 88 ปี 2 เดือน พรรษา 67

    เหตุการณ์ เมื่อตอนวันละสังขารขององค์หลวงปู่ เชื่อว่าคงไม่มีผู้ใดเขียนมาก่อน แต่ผมจะขอเขียนไว้ ณ ที่นี้ เพื่อข้อมูลที่สำคัญนี้ เพื่อกรณีศึกษา จึงขอท้าวความเรื่องราวเมื่อตอนที่องค์หลวงปู่ก่อนจะเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระปกเกล้าก่อนว่า..

    วันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ.2553 ทางวัดเทพธารทองได้จัดพิธีตักบาตรพระมหาอุปคุตประจำปีขึ้น และพิธีฉลองสมโภชน์พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ ธัมมะจารี แหวนปลอกมีดมหามงคล และวัตถุมงคลต่างๆ โดยการแช่(สรง)ในน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ที่หามาได้ทั่วประเทศกว่า 200 วัด และสถานที่สำคัญต่างๆทั้งใน และต่างประเทศ โดยมีองค์หลวงปู่พิศดู เป็นประธาน และท่านครูบากฤษดาเป็นผู้สวดอัญเชิญพุทธาภิเษก.. ก่อนเริ่มพิธีนี้ องค์หลวงปู่ได้ปรารภว่า.. " พิธีปีนี้จัดอย่างยิ่งใหญ่ ครั้งสุดท้ายแล้วนะ ใครมีโอกาสให้เรียกมาร่วมพิธีให้พร้อมกัน ปีหน้าไม่มีแล้ว " ซึ่งก็อาจไม่มีใครเอะใจอะไรถึงคำพูดขององค์หลวงปู่มากนัก จะมีก็เพียงแค่ลูกศิษย์ใกล้ชิดที่พอทราบถึงอาการขององค์ท่าน พอพิธีผ่านพ้นไปด้วยความปิติ ชื่นมื่นในพิธีที่เป็นมหาทาน มหากุศล องค์หลวงปู่ท่านก็ยังย้ำคำเดิมอีกเช่นเคยว่า.. " พิธีนี้จัดอย่างยิ่งใหญ่ครั้งสุดท้ายแล้ว ปีหน้าไม่มี ใครได้มาร่วมถือว่ามีวาสนา " " พิธีนี้ท่านพ่ออุปคุตท่านมาด้วยนะ "
    พอหลังจากวันพิธีได้เพียง 2 วัน องค์หลวงปู่ก็เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลพระปกเกล้า เป็นระยะเวลากว่า 3 เดือน สาเหตุร่างกายขาดโปรตีน และมีอาการของปอดติดเชื้อ ระหว่างนั้นท่านก็บอกว่า " ตกลงกันให้ดีนะว่าจะให้เราอยู่ หรือจะให้เรากลับ(วัด) " คณะลูกศิษย์ก็บอกว่าอยากให้หลวงปู่รักษาตัวที่โรงพยาบาลให้หายดีก่อนค่อยกลับวัด ท่านก็มิได้ว่าอะไร ก็ยอมรักษาตัวอยู่ที่นั่น แต่ทางคณะศิษย์เห็นว่า อาการขององค์ท่านยังไม่ค่อยดีก็เลยอาราธนาท่านไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ อยู่ที่วิชัยยุทธเป็นระยะเวลากว่า 6 เดือน จึงถึงซึ่งวาระสุดท้ายของสังขารธรรมที่นั่นเอง
    เหตุการณ์เมื่อวันก่อนละสังขารประมาณ 1 สัปดาห์ ร่างกายท่านไม่รับอาหาร รวมทั้งไตที่ไม่ทำงานอยู่ก่อนแล้ว แถมร่างกายท่านไม่ตอบสนองผลทางยา แต่สติสัมปชัญญะยังสมบูรณ์ 100% ไม่ว่าจะขอให้ท่านทำอะไร ท่านก็จะให้ความร่วมมือทุกอย่าง แต่ที่น่าแปลกว่าท่านจะไม่มีแสดงอาการทางทุกขเวทนาให้เห็นเลย ดูคล้ายว่านอนอยู่ตามปกติ แม้ว่าใครจะทำอะไรเกี่ยวกับสังขาร จะฉีดยา จะเจาะเลือด พลิกตัว หรือทำอะไรก็ตาม ท่านจะนิ่งมากๆ นี่ถ้าเป็นคนธรรมดาคงนอนร้องครวญ หรือคงซี้แหง๋แก๋ไปแล้ว ถ้ามิใช่พระอริยะที่สามารถแยกกาย กับ จิตได้ ทางแพทย์ก็พยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทางเราคณะลูกศิษย์ก็ได้แต่ทำใจกันไว้ทุกคนแล้ว
    ตราบจนกระทั่งถึงวันที่ 13 เมษายน พ.ศ.2554 เวลา 13.00 น. โดยองค์หลวงปู่ท่านได้ค่อยๆผ่อนชีพจรลงเองอย่างสงบราบเรียบ จนแนบสนิทไร้สิ่งอื่นใดหรือผู้ใดรบกวน แม้แต่ทุกขเวทนาขันธ์อันแสนสาหัส ก็มิอาจมีอำนาจกล้ำกลายเหนือจิตใจอันเป็นบริสุทธิคุณขององค์ท่านได้ กระทั่งเข้าสู่สภาวะนิพพานธาตุอย่างสงบ.. ในขณะนั้นแม้แต่ลูกศิษย์ที่มาเฝ้าเยี่ยมดูอาการขององค์ท่านนับสิบๆคน ก็มิได้มีแม้สักผู้ใดผู้หนึ่งจะอยู่ตรงนั้นเลย อาจเป็นความบังเอิญสุดๆ ว่าพากันไปทานข้าวกันทั้งหมด บางคนก็กำลังเร่งเดินทางมากราบเยี่ยมองค์ท่านอย่างเร่งด่วน แต่ก็อย่างว่า อาจเป็นเพราะองค์หลวงปู่ท่านตั้งใจกำหนดว่า ท่านจะไปของท่านแบบปัจเจก(เฉพาะตน) คงไม่อยากให้มีผู้ใดมานั่งร้องให้คร่ำครวญในเวลาองค์ท่านเคลื่อนจิตสู่ธรรมธาตุก็เป็นได้..

    ซึ่งก่อนหน้านั้นในหลายวาระ องค์หลวงปู่ก็ได้เคยปรารภเป็นนัยๆถึง วาระแห่งสังขารขององค์ท่าน ที่อาจมีผลต่ออายุไขในกาลข้างหน้า ซึ่งพวกเราก็ทราบกันอยู่ และได้เพียรพยายามอาราธนานิมนต์ ทุกครั้งที่มีโอกาส แต่ท่านก็มิได้ตกปากรับคำของพวกเรา อาจด้วยเหตุผลบางประการขององค์ท่านเอง ซึ่งในแต่ละวาระนั้นท่านได้กล่าวเป็นนัยๆไว้ดังนี้

    เมื่อคราวงานฉลองอายุครบ 82 พรรษา ลูกศิษย์ก็ได้พยายามอาราธนานิมนต์ให้องค์หลวงปู่มีอายุธาตุขันธ์ที่ยืนยาวเป็นร้อยปี เพราะแต่ละคนได้นิมิตร(ฝัน)ถึงองค์ท่านกันว่า ท่านจะละสังขารลงในไม่ช้า จนกระทั่งพยายามกันอยู่นานท่านจึงรับการอาราธนาว่า..
    " ก็ได้ ถ้าอยากให้เราอยู่ต่อ ก็เอาสไปร์มา 2 ขวดแล้วจะอยู่ให้ แต่ต้องช่วยกันมาดูแลเราให้ดีๆ อย่าทิ้ง(สังขารของ)เรา "
    (ตั้งแต่นั้นมา องค์หลวงปู่ท่านก็เริ่มอาพาธเรื่อยมา)

    เหตุการณ์ต่อมา เมื่อคราวฉลองมงคลอายุครบ 84 พรรษา ทางคณะศิษย์ก็ได้แต่งขันธ์5 อาราธนาองค์ท่านกันอีก คราวนี้ท่านบอกว่า..
    " ไม่ต้องห่วง เราตัดสินใจแล้วว่า ถ้าหลวงตา(มหาบัว)ยังไม่ไป เราก็ยังไม่ไป แต่ถ้าหลวงตาท่านไป เราก็คงต้องตามไป "
    (จนกระทั่งผ่านไปประมาณ 4 ปี องค์หลวงตาพระมหาบัว ได้ละสังขารลง เมื่อช่วงต้นปี 2554 องค์หลวงปู่ก็เริ่มอาพาธหนัก จวบจนวันที่ประชุมเพลิงสรีระองค์หลวงตาพระมหาบัว องค์หลวงปู่ก็อาพาธหนักขึ้นเนื่องจากไตของท่านไม่ค่อยขับของเสีย ทางแพทย์จึงต้องทำการฟอกไต)

    คราววันฉลองมงคลอายุครบ 87 พรรษา ทางคณะศิษย์ก็ได้ ร่วมกันอาราธนานิมนต์ให้องค์ท่านมีอายุยืนยาว เพื่อเป็นร่มโพธิ์แก้วไปอีกนานๆ เกินร้อยปี ท่านก็บอกว่า..
    " ก็จะอยู่ไปตามสมควรนั่นแหละ "

    และระหว่างนั้นหากผู้ใดได้มากราบเยี่ยมองค์หลวงปู่ที่วัด ก็จะพยายามอาราธนาท่านกัน อีกหลายต่อหลายครั้ง จนถึงสงกรานต์ของวันที่ 13 เมษายน 2553 ทางคณะศิษย์ได้จัดพิธีสรงน้ำประจำปีให้กับองค์หลวงปู่ ท่านก็ประกาศอีกว่า..
    " สงกรานต์ปีหน้าเห็นจะไม่มีแล้วนะ จะไม่ได้จัดงานอย่างนี้แล้ว "
    (ซึ่งก็จริงอย่างที่ท่านกล่าว เมื่อถึงวันสงกรานต์ของปี 2554 ท่านได้ละสังขารลงในวันที่ 13 เมษายน พอดี จึงไม่ได้จัดงานสรงน้ำประจำปีตามท่านกล่าวจริงๆ)

    คราวจัดงานพิธีตักบาตรพระมหาอุปคุต และสมโภชน์พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ ธัมมะจารี ท่านก็ได้บอกว่า..
    " พิธีปีนี้จัดอย่างยิ่งใหญ่ ครั้งสุดท้ายแล้วนะ ใครมีโอกาสให้เรียกมาร่วมพิธีให้พร้อมกัน ปีหน้าไม่มีแล้ว "
    " พิธีนี้จัดอย่างยิ่งใหญ่ครั้งสุดท้ายแล้ว ปีหน้าไม่มี ใครได้มาร่วมถือว่ามีวาสนา "

    พอได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลพระปกเกล้า ท่านก็ได้บอกเป็นนัยๆอีกว่า..
    " ตกลงกันให้ดีนะว่าจะให้เราอยู่ หรือจะให้เรากลับ(วัด) "
    (ทางคณะศิษย์เห็นพ้องต้องกันว่า อยากให้ท่านอยู่รักษาตัวที่โรงพยาบาลดีกว่า)

    พอมาถึงวันฉลองอายุครบ 88 พรรษา ทางคณะศิษย์ได้จัดพิธีมุทิตาสักการะ กันที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ พร้อมทั้งแต่งขันธ์5 อาราธนานิมนต์ให้ท่านรักษาธาตุขันธ์อยู่เป็นร่มโพธิ์แก้วให้ลูกศิษย์นานๆ แต่ท่านไม่ได้กล่าวรับนิมนต์ หรือแสดงสัญญาณอะไรให้ทราบเลย ท่านนิ่งอย่างเดียว แม้จะพยายามอาราธนาสักกี่รอบท่านก็ไม่ได้แสดงอะไรให้ทราบเลยแม้แต่น้อย ได้แต่เพียงกวาดสายตามองหน้าลูกศิษย์ทุกคนที่อยู่บริเวณนั้น เหมือนตั้งใจจะมองดูเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะหลับตาลงพักผ่อนอิริยาบท โดยไม่กล่าวใดๆ


    สังขารธรรมชาติสุดท้ายขององค์หลวงปู่พิศดู ได้เสื่อมสลายลงตามกาลเวลา ทั้งที่สามารถอธิษฐานอยู่ต่อได้อีก แต่ท่านก็ปล่อยให้เป็นไปตามวาระของธรรมชาติ เพื่อให้พวกเราได้ตระหนัก และเป็นการสอนธรรมะบทใหญ่ครั้งสุดท้ายขององค์ท่านที่มีค่ามหาศาล ด้วยการแสดงให้เห็นชัดถึงกฏแห่งไตรลักษณ์ ว่ามีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป แม้ผู้นั้นจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ มีบารมีล้นฟ้า ครอบโลกธาตุ ถึงขนาดได้บรรลุอริยะผลขั้นสูงสุดแห่งพระศาสนา ซึ่งมีฤทธาสามารถจะกระทำการอันใดก็ได้ดั่งใจหมาย หรือยืดอายุสังขารให้ยืนนานได้ไกลสักปานใด ก็มิอาจต้านทานแรงธรรมชาติของสังขารที่ต้องเสื่อมสลายลงไปตามกาลอันควรได้ ขึ้นชื่อว่าการเกิดนำมาซึ่งความทุกข์ทั้งปวง ความไม่เกิดเสียได้เป็นความพ้นทุกข์โดยสิ้นเชิง..


    ขอหยิบยกบทกลอนเทศนา ขององค์หลวงปู่พิศดู ที่ท่านได้ใช้อบรม สั่งสอนลูกศิษย์ของท่านไว้ เพื่อความไม่ประมาทในการใช้ชีวิต ดังนี้....


    กายใจ อาศัย ซึ่งกันอยู่
    เราต้องรู้ ว่ามัน ต่างกันหนา
    สุขทุกข์ แต่ละอย่าง ก็ต่างนา
    อย่าเอามา คลุกกัน มันยุ่งใจ


    ปล่อยให้ยุ่ง แล้วมันแย่ มันแก้ยาก
    ยิ่งยุ่งมาก มันยิ่งแย่ แก้ไม่ไหว
    ปล่อยให้ยุ่ง นุงนัก จะหนักใจ
    รีบแก้ไข อย่าให้ยุ่ง นุงนักนา


    จะหาใคร เหมาะใจ ที่ไหนเล่า
    ตัวของเรา ยังไม่ เหมาะใจหนา
    อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
    รู้ล่วงหน้า เสียก่อน ไม่ร้อนใจ



    ไตรลักษณ์ ก็เป็นหลัก สำหรับจิต
    จงหมั่นคิด หมั่นนึก หมั่นศึกษา
    เกิดมาแล้ว ต้องตายแท้ แน่ละว้า
    จะมัวมา นอกครู อยู่ทำไม


    คิดถึง ความตาย สบายนัก
    มันหักรัก หักหลง ในสงสาร
    บรรเทามืด โมหันต์ อันธกาล
    ทำให้หาญ หายสะดุ้ง ไม่ยุ่งใจ


    มัจจุราช นายเรา เอาไปแน่
    ต่างก็แต่ เร็วช้า อย่าสงสัย
    คืนและวัน พลันดับ ลับลงไป
    เราก็ใกล้ ป่าช้า มาทุกวัน


    นิพานังปรมังสุขัง = นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง..



    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2011
  13. nuamnim1

    nuamnim1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    386
    ค่าพลัง:
    +1,621
    กราบหลวงปู่พิศดู
    สวัสดีคุณทุเรียนทอด ขอบคุณสำหรับเรื่องราวและคำสอนของหลวงปู่ในเช้าวันนี้
     
  14. ปัทมินทร์

    ปัทมินทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +1,393
    [​IMG]


    ขอกราบหลวงปู่พิศดู ผู้มีบุญบารมีมาก ผู้เกิดมาเป็นชาติสุดท้าย ผู้ถึงซึ่งแดนพระนิพพานอันเป็นแดนบรมสุข.

    ศิษย์จะขอนำคำสอน และนำวัตถุมงคลของหลวงปู่ติดตัวเพื่อประกอบแต่กรรมดี เพื่อให้ปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง จนกว่าจะได้มรรคได้ผลตามหลวงปู่.
     
  15. kamolnetr

    kamolnetr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    212
    ค่าพลัง:
    +633
    กราบหลวงปู่พิศดู
    สว้สดีคุณทุเรียนทอดและสมาชิกทุกท่านครับ
    ขอร่วมหน้ากระดานพิเศษนี้ด้วยครับ 88
     
  16. เด็กไทรน้อย

    เด็กไทรน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2008
    โพสต์:
    3,259
    ค่าพลัง:
    +4,327
    พื้นกระเบื้องแบบนี้โดนน้ำโดนฝนน่ากลัวจริงๆครับ...
     
  17. kang_som

    kang_som เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    11,853
    ค่าพลัง:
    +27,800
    กราบหลลวงปู่พิศดู และสวัสดีคุณ X และเพื่อนๆ สมาชิกทุกคนครับ ขอเป้นส่วนหนึ่งในหน้า เลขมงคลนี้ครับ 88 เลขอายุหลวงปู่ถ้าเป็นทางพราหม์ ก็คือเลขของพระพิฆเณศ แล้วสุดท้ายก็คือ ชื่อของผม เอท (Eight=8) เลขที่ผมรักครับ.......
     
  18. ศิษย์ต่างแดน

    ศิษย์ต่างแดน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,011
    ค่าพลัง:
    +3,448
    [​IMG]

    น้อมจิตกราบองค์หลวงปู่ครับ

    ขอบคุณสำหรับรูปภาพครับ...
     
  19. seng-ping

    seng-ping เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    275
    ค่าพลัง:
    +649
    กราบหลวงปู่ด้วยความเคารพยิ่งครับ
     
  20. ธมฺมสิทโธ

    ธมฺมสิทโธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +714
    กราบหลวงปู่พิศดู ธมฺมจารี ที่เคารพอย่างสูงยิ่ง

    สวัสดีสมาชิกทุกท่าน ร่วมน้อมบูชาหลวงปู่ หน้าพิเศษ 88
    <O:p</O:p
    อาจริยบูชา<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    สิบนิ้วกราบ วันทา บูชาท่าน<O:p</O:p
    ที่เจือจาน เมตตา ศิษย์ทั้งหลาย<O:p</O:p
    ท่านลาลับ สุดจะเลี่ยง เพียงรูปกาย<O:p</O:p
    สิ่งไม่ตาย ยังคงอยู่ คู่เคียงใจ<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กันยายน 2011

แชร์หน้านี้

Loading...