*-* หลวงปู่มี เขมธัมโม วัดมารวิชัย จ.อยุธยา ภาคประวัติ อภินิหาริย์ และวัตถุมงคล.. *-*

แหม พอหายนี่ ยั่วเลย พี่เรา

 

*-* ผมแนะนำให้หารูปเหมือนของหลวงปู่มาคล้องนะครับ เพราะรูปเหมือนก็เปรียบเสมือนตัวแทนของหลวงปู่ท่านเหมือนกันครับ ที่ผมพอจะมีแบ่งได้ก็อย่างเช่น รูปเหมือนเลขใต้ฐานย้อนยุคเนื้อนวะโลหะครับ ขอบคุณครับ *-* thaiput007@hotmail.com โทร. 084-6245007

 

ผ้ารอยเท้า..



*-* ผ้ารอยเท้า ประทัยรอยเท้าข้างเดียวขององค์หลวงปู่มี วัดมารวิชัย ผ้ารอยเท้านี่ประทับรอยเท้าหลังจากที่หลวงปู่มีละสังขารแล้วเพียงวันเดียวครับ ผ้ารอยเท้านี้มีคุณค่าทางใจมากสำหรับลูกศิษญ์ของหลวงปู่ครับ ขอกราบแทบเท้าหลวงปู่มี กราบ กราบ กราบ *-* thaiput007@hotmail.com

 

ตระกรุดนะหน้าทองในตำนาน..



*-* ตระกรุดนะหน้าทอง วิชานี้หลวงปู่มีไปร่ำเรียนมาจากสุดยอดพระเกจิยุคอินโดจีน คือ หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอกครับ ว่ากันว่าวิชาลงตระกรุดนะหน้าทองนี้เป็นวิชาหลักของท่านทีเดียวครับ ตระกรุดดอกที่ลงให้ชมนี้เป็นตระกรุดนะหน้าทองที่หลวงปู่มีลงเต็มสูตร คือ ลงยันต์นะหน้าทองอยู่ตรงกลาง ลงยันต์ พุท ธะ สัง มิ ล้อมรอบ และลงยันต์ นะ อุ ทัง หนุนยันต์ด้านล่าง ม้วนลงเป็นตระกรุดนะหน้าทอง ด้านในตระกรุดบรรจุผงนะหน้าทอง ผงสมเด็จรุ่นแรก สีผึ้ง เกษาธาตุ และตัวตระกรุดด้านนอกคลุกด้วยผงนะหน้าทอง ผงสมเด็จรุ่นแรก และคลุกด้วยเกษาธาตุอีกที ตระกรุดนะหน้าทองดอกนี้จึงเป็นสุดยอดตระกรุดนะหน้าทองในตำนานครับ *-* thaiput007@hotmail.com

 

สุดยอดตระกรุดหลวงปู่มี





*-* ตระกรุดอิติปิโสเรือนเตี้ยและตะกรุดนะหน้าทองในดอกเดียวกัน ตระกรุดที่นำลงให้ดอกนี้เป็นตระกรุดที่หลวงปู่ลงไว้ 2 แผ่น คือ แผ่นแรกหลวงปู่มีลงยันต์นะหน้าทอง แผ่นที่สองหลวงปู่ลงยันต์อิติปิโสเรือนเตี้ย (ซึ่งถ้าเป็นตระกรุดนี้ผมไม่เคยเห็นหลวงปู่ท่านลงให้ใครมาก่อนเลยครับ) สองแผ่นม้วนรวมกันเป็นตระกรุดพันเด้วยสายสิญจน์ที่หลวงปู่เสกมานับไม่ถ้วน ด้วนในตระกรุดอุดด้วยสีผึ้งรุ่นแรก เกษาธาตุ ผงสมเด็จรุ่นแรกและผงนะหน้าทองที่หลวงปู่ลบเองทั้งหมด ปิดด้วยแผ่นทองคำบริสุทธิ์ และหลวงปู่บรรจงเสกตระกรุดนี้ให้อีกทีครับ ผมถือว่าตระกรุดดอกนี้เป็นสุดยอดตระกรุดของหลวงปู่มีครับ *-* thaiput007@hotmail.com

 

ของหายได้คืน

<HR style="COLOR: #e1e1e1; BACKGROUND-COLOR: #e1e1e1" SIZE=1> <!-- / icon and title --><!-- message -->
เมื่อวานครึ่งวันกับวันนี้ ถึงเวลา15.50 น หงุดหงิดงุ่นง่านเพราะกล้องส่องพระและกระตุดที่หลวงป ู่จารให้หายไป หาแล้วหาอีกทุกที่ๆคิดว่าไปประกอบกิจแล้วก็ไม่เจอ เมื่อกี้นึกบอกหลวงปู่ว่า "หลวงปู่ครับ ของที่หลวงปู่ให้หายอีกแล้ว หลวงปู่โกรธที่ผมเอาของที่หลวงปู่จารให้ไปขายหรือเปล ่า หลวงปู่อย่าโกรธเลย เพื่อประทังชีวิตน่ะครับ หลวงปู่ช่วยให้ได้คืนทีนะ ชิ้นนี้ชิ้นเกือบสุดท้ายแล้ว" หลังจากนั้นก็จะกลับบ้าน 15.49 นึกยังไงก็ไม่รู้เดินมาตรงที่นั่งเล่นเนต(เครื่องนี้ เมื่อวานมานั่งเล่นแต่ปรกติจะไม่มาตรงนี้เลย) เหมือนมีอะไรดลใจให้ก้มลงไปมองที่ซอกข้างโต๊ะ เจอครับ ไม่น่าเชื่อ ขอบคุณหลวงปู่ที่ช่วย นี่เป็นกล้องอันสุดท้าย และกระตุดอันสุดท้ายแล้วด้วย
ดีใจจังเลยครับ หลวงปู่ดลใจอีกครั้ง เมื่ออาทิตย์ก่อน กุญแจรถหล่นบนถนน กลับมาหาในที่ทำงานหลายรอบไม่เจอ งุ่นง่านเหมือนคนบ้า แต่สุดท้าย เหมือนมีอะไรดลใจเมื่อนึกถึงหลวงปู่ เดินไปแบบไม่มีความหวังกลับไปที่จอดรถ ขณะกำลังข้ามถนนก็เจอกุญแจครับ แต่รีโมทร์พังเพราะรถทับ แต่ได้กุญแจคืนขับรถกลับบ้านได้ สุขใจครับ สองเรื่องนี้ว่ากันตามหลักวิทยาศาสตร์ก็เกิดขึ้นได้ค รับ แต่เรื่องการดลใจเพราะระลึกถึงหลวงปู่ วิทยาศาสตร์ อาจจะไม่ใช่คำตอบสำหรับผม เล่ามาถึงตอนนี้16.09 แฮปปี้เอ็นดิ้งแล้วครับ

 

ประสบการณ์พระสมเด็จปรกโพธิ์บรรจุพระธาตุเสาร์5

นายกิมใช้แซ่ฉั่วจากบริษัทส.บุญสิริทรานสปอร์ต ประตูน้ำ
มารับแจกสมเด็จปรกโพธิ์บรรจุพระธาตุเนื่องในงานทำบุญ
ล.พ.มีสิริอายุ81พรรษาแล้วขับรถตู้ออกจากวัดมารวิชัย ไป
จ.สระบุรีระหว่างทางที่จะถึงสี่แยกภาชีเกิดมีรถสิบล้ อวิ่งสวน
มาและทำผ้าใบขนาดใหญ่ตกลงท้ายรถพุ่งเข้าหาหน้ารถตู้
ทันทีโดยที่นายกิมใช้ยังไม่ทันจะตัดสินใจว่าจะหลบหรื อจะ
หยุดรถเพราะกระชั้นชิดและกระทันหันเกินไปจนเป็นที่ตก
ใจแก่ผู้ที่พบเห็นเหตุการณ์..กระสอบผ้าใบขนาดใหญ่พุ่ งเข้า
หาหน้ากระจกรถอย่างรวดเร็ว ทุกคนที่อยู่ในรถต่างร้องเสียง
หลง"หลวงพ่อมีช่วยด้วย"กระสอบผ้าใบใหญ่พลันปลิวเบี่ย ง
ออกไปโดยไม่ปะทะถูกรถตู้แม้แต่น้อยจนเป็นที่น่าหวาดเ สียว
แก่ผู้ที่พบเห็นยิ่งนักเมื่อจอดข้างทางมีชาวบ้านหลาย คนเดินมา
ถามว่า"พระที่อยู่ในรถหลายองค์อยู่วัดอะไร"แต่นายกิม ใช้ตอบ
ไม่ได้พร้อมทำหน้างงเพราะในรถตู้นั้นไม่มีพระแม้แต่ร ูปเดียว
ทำให้ชาวบ้านที่สอบถามถึงกลับงงไปตามๆกันรวมทั้งคุณก ิมใช้
โดยที่ตัวคุณกิมใช้พกพระสมเด็จปรกโพธิ์บรรจุพระธาตุเ สาร์5
เพียงองค์เดียวเท่านั้น!(จากหนังสือลานโพธิ์ฉบับปี2536)

 

ประสบการณ์รูปอัดกระจกรุ่นแรก

คุณสุเทพ แสงประทีปอยู่อ.สังขละบุรีจ.กาญจนบุรีอดีตเคยเป็นพระ
ลูกศิษย์ล.ป.มีได้เล่าไว้ว่าในปี2511พอออกพรรษาก็ลาส ิกขาเพื่อ
ไปประกอบอาชีพป่าไม้ที่กาญจนบุรีล.ป.มีท่านได้มอบรูป อัดกระจก
ให้หนึ่งองค์และบอกว่าให้นำติดตัวไว้ตลอดเวลา..อยู่ม าวันหนึ่งเขา
ได้นำลูกน้องเข้าไปในป่าเขตตัวอ.สังขละบุรีเพื่อตรวจ ไม้และนำไม้
ที่ได้ตัดทิ้งไปแล้วออกจากป่าขณะกำลังทำงานเพลินๆก็ม ีเสียงปืนดัง
ขึ้นมา1นัดสิ้นเสียงปืนคุณสุเทพก็รู้ทันทีว่าเหมือนม ีวัตถุหนักๆเข้ามา
กระทบที่หน้าอกจนทำให้ผงะหงายหลังล้มลงไปความรู้สึกต อนนั้นรู้ได้
ทันทีว่าตนเองถูกลอบทำร้ายจึงสั่งให้ลูกน้องยิงต่อสู ้ทันที..แต่ฝ่ายตรง
ข้ามซึ่งไม่รู้จำนวนเท่าใดได้หลบหนีหายไปหมดโดยที่ไม ่รู้ว่าใครเป็น
ใคร...ส่วนจุดประสงค์ของฝ่ายตรงข้ามนั้นต้องการที่จะ ลอบทำร้ายคุณ
สุเทพเพียงคนเดียวและคิดว่ายังไงคุณสุเทพต้องโดนเข้า เต็มๆแน่แต่
เป็นเรื่องแปลกที่คุณสุเทพไม่เป็นอะไรขนาดโดนอย่างจั งที่หน้าอกกลับ
ไม่มีรอยแม้แต่แมวข่วนรอดชีวิตมาได้เพราะรูปอัดกระจก รุ่นแรกของ
ล.ป.มีวัดมารวิชัยเพียงองค์เดียวเท่านั้น!!..
(นิตยสารพระเกจิฉบับปี2540)

 

ประสบการณ์เหรียญเสมาหลังสิงห์

<HR style="COLOR: #e1e1e1; BACKGROUND-COLOR: #e1e1e1" SIZE=1> <!-- / icon and title --><!-- message -->
จากคำบอกเล่าของคุณบุญชัย บริษัทเซ็นทรัลทัวร์เล่าว่า
เพื่อนที่ทำงานเป็นคนชอบสะสมเหรียญเมื่อบูชาแล้วต้อง
ทดลองก่อนขึ้นคอเสมอและได้นำเหรียญเสมาหลังสิงห์ของ
หลวงพ่อมีใส่ปากปลาช่อนแล้วฟันด้วยมีดหลายครั้งจนเกล ็ด
กระจุยแต่ไม่เข้าพอนำเหรียญเสมาหลังสิงห์ออกจากปากปล า
ช่อนคราวนี้ใช้มีดฟันเพียงเบาๆปลาช่อนขาดกระเด็น2ท่อ น!
(โปรดอ่านโดยใช้วิจารณญาณและไม่ควรทำเป็นเยี่ยงอย่าง )

 

บารมีหลวงพ่อมีกับงูเห่าเผือก

สมัยก่อนที่วัดมารวิชัยมีงูเห่าเผือกอยู่คู่หนึ่งอาศ ัยอยู่บริเวณพระอุโบสถ
เมื่อล.พ.มีลงโบสถ์เพื่อทำวัตรสวดมนต์คราวใดงูเห่าเผ ือกทั้งสองจะเข้าไปอยู่
ด้วยเสมอเพราะสมัยนั้นโบสถ์ยังชำรุดผุพังงูจึงเลื้อย เข้าออกได้อย่างสบายพอ
ล.พ.มีออกจากโบสถ์..งูแสนรู้ทั้งสองจะเลื้อยคู่กันเห มือนกับออกมาส่งเป็นดังนี้
มานานหลายสิบปี..บางครั้งถ้ามันเห็นล.พ.มีเดินมาพร้อ มลูกศิษย์หรือชาวบ้าน
มันก็จะเลื้อยเข้ามาหาเหมือนเป็นการต้อนรับโดยไม่เกร งกลัวใครและไม่เคยทำ
ร้ายผู้ใดเลยแม้แต่น้อย...ซึ่งล.พ.มีก็สั่งห้ามลูกศิ ษย์และชาวบ้านทุกคนทำร้ายงู
เห่าเผือกที่แสนเชื่องทั้งสองตัวนี้อย่างเด็ดขาด.... .ต่อมาประมาณปีพ.ศ.2523
ล.พ.มีได้สร้างแหวนพรหม4หน้าขึ้นปลุกเสกทางด้านป้องก ันงูและเขี้ยวงาโดย
เฉพาะเพราะสมัยก่อนนั้นยังรกเป็นทุ่งนาและชาวบ้านมัก ถูกงูฉกกัดตายยามไป
ทำนาหรือออกจากบ้านจนทำให้ชาวบ้านหัวใสคนหนึ่งเห็นว่ าใส่แหวนพรหมสี่
หน้าแล้วกันงูได้อย่างชะงัด..จึงใส่แหวนพรหมสี่หน้าไ ปจับงูขายเป็นอาชีพแล้ว
บังเกิดความฮึกเหิมเห็นว่างูเห่าเผือกหายากและมีราคา สูงจนลืมคำสั่งห้ามของ
ล.พ.มีแอบขโมยจับงูเห่าเผือกไปขายหนึ่งตัว....เมื่อล .พ.มีทราบเรื่องและเห็นว่า
ไหนๆงูเห่าเผือกก็ถูกขายไปแล้วท่านก็ได้แต่ดุและว่าก ล่าวตักเตือนตามลักษณะ
พระนักเลงของท่านว่าให้คนผู้นั้นเลิกอาชีพจับงูขายแล ะห้ามนำแหวนพรหมสี่
หน้าใส่จับงูขายอีกอย่างเด็ดขาดไม่เช่นนั้นเกิดเรื่อ งแน่!และก็เป็นจริงตามคำพูด
ของล.พ.มีทุกประการ......ชาวบ้านผู้นั้นอ้างความยากจ นมีความจำเป็นต้องจับงู
ขายเลี้ยงชีพต่อไปอีกหาได้เชื่อฟังคำเตือนของล.พ.มีแ ม้แต่น้อย...กรรมตามทัน
เร็วจริงๆอีกสามวันต่อมาชายผู้นั้นลืมนำแหวนพรหมสี่ห น้าใส่นิ้วไปจับงูเหมือน
เช่นเคยจึงถูกงูฉกกัดตายในที่สุด...งูเห่าเผือกยังมี ชีวิตเหลืออยู่อีกหนึ่งตัวแต่แก่
มากแล้ว..และตั้งแต่คู่ของมันซึ่งเข้าใจว่าเป็นงูตัว เมียที่ถูกจับไปขายก็ไม่เคยโผล่
ออกมาให้ผู้ใดพบเห็นมันอีกเลย...ล.พ.มีเล่าว่าก่อนจะ บูรณะโบสถ์มันยังเลื้อยมา
หาท่านก็พูดกับมันให้หาที่หลบซ่อนตัวดีๆตั้งแต่บัดนั ้นเป็นต้นมาก็ไม่เคยเห็นมัน
อีกเลย..เข้าใจว่าคงอาศัยอยู่ในโพลงเจดีย์บริเวณพระอ ุโบสถวัดมารวิชัยอย่างเดิม

 

ปาฏิหาริย์เหรียญรุ่นแรก

ถูกรุมฟัน - ตีสลบ 10 วันไม่ตาย
หลวงตาทิศ อายุวัฒโก อายุ 71 ปี อุปสมบทอยู่ที่วัดมารวิชัย เล่าว่าบุตรชายชื่อ นายพจน์ เสนานารถ ปัจจุบัน อายุ 43 ปี ในสมัยหนุ่ม ๆ เกเรมาก เป็นนักเลงหัวไม้และนักเลงการพนัน ไปรับจ้างทำงานเป็นชาวไร่อ้อยที่ชลบุรี ชักชวนคนงานด้วยกันแอบเล่นการพนันในป่าอ้อย นายพจน์มีฝีมือดีว่าจึงกินพรรคพวกหมดตัวตาม ๆ กัน เลยขอค่ารถกลับบ้านแต่นายพจน์ไม่ให้ จึงถูกคนงานที่เสียจนหน้ามึด 7 คน รุมสกรัมทำร้าย เพราะเหตุที่เป็นคนใจถึงและไม่ยอมคนอยู่แล้วของนายพจ น์ จึงต่อสู้ใจขาด พวกคนงานเลยโกรธจัดชัก มีดพร้า ที่ใช้ถางป่าและคว้าไม้ทั้งฟันและตีจนนายพจน์สลบไสลไ ม่ได้สติ คิดว่าตายแล้วจึงพากันหลบหนี เช้าวันรุ่งขึ้นชาวบ้านมาพบเข้าเห็นว่าสลบอยู่จึงพาไ ปส่งโรงพยาบาล รักษาพยาบาลอยู่หลายวันก็ไม่ฟื้น พอดีทางบ้านทราบข่าวจึงรับกลับมารักษาตัวที่บ้านแพน

หลวงตาทิศเล่าต่อไปว่า ขณะนั้นท่านยังไม่อุปสมบทได้พาบุตรจอมเกเรที่มีอาการ ปางตายไปรักษาที่โรงพยาบาลเท่าใดก็ยังไม่ผื้น ต้องให้น้ำเกลืออยู่ตลอดเกือบ 10 วัน จนใคร ๆ คิดว่าไม่มีทางรอดแน่แล้ว จึงพากลับมาให้หลวงพ่อมีรักษา หลวงพ่อมีท่านทำการรรักษานายพจน์ด้วยวิธีง่าย ๆ โดยใช้ ข้าวสารแช่เหล้าทา และเอามีดหมดเสกเป่าด้วย วิทยาคมไปตามตัวไม่กี่ครั้งเท่านั้น นายพจน์ที่สลบไป 10 วัน จนใคร ๆ คิดว่าตายแน่ ก็พลันฟื้นคืนสติรู้สึกตัวขึ้นมาทันที ถึงแม้ว่าร่างกายนายพจน์จะหนังเหนียวอยู่ยงคงกระพันแ ละเป็นชาตรี คือ ถูกฟันไม่เข้าถูกตีไม่แตก โดยตลอดร่างกายไม่ปรากฏมีรอยช้ำบวมอย่างใดเลยแม้แต่น ้อย แต่ศีรษะที่ถูกตีได้รับความกระทบกระเทือนภายในสมองอย ่างหนักจนถึงกลับสลบไสลไป 10 วันนั้น เมื่อฟื้นคืนสติขึ้นมาก็กลายเป็นคนป้ำ ๆ เป๋อ ๆ เหมือนกับคนปัญญาอ่อน ต่อมาหลวงพ่อมี ก็ได้รักษานายพจน์จนหายดี แล้วอุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดมารวิชัย ซึ่งปัจจุบันได้ลาสิขาไปประกอบอาชีพตามปกติเหมือนคนท ั่วไปแล้ว

หลวงตาพิศเปิดเผยเหตุการณ์เมื่อครั้งบุตรชายถูกรุมทำ ร้ายปางตายต่อไปว่า นายพจน์เป็นศิษย์คนหนึ่งของหลวงพ่อมีใช้แต่ เหรียญรุ่นแรก ของท่านติดตัวอยู่เป็นประจำเหรียญเดียวเท่านั้น ไม่เคยใช้ของอย่างอื่นเลย นอกจากจะให้หลวงพ่อมี เป่ากระหม่อม เท่านั้น เรียกว่าหลวงพ่อมีได้ช่วยชีวิตมาหลายครั้งแล้วเพราะเ ป็นคนเกเรมาก เคยมีเรื่องมีราวก็รอดกลับมาทุกครั้ง มาคราวนี้พอหายดีหลวงพ่อมีก็บวชให้อีกเป็นครั้งที่ 2 เลยกลับตัวเป็นคนดีได้ หลวงตาพิศเปิดเผยต่อไปว่า ตัวท่านเองก็เป็นศิษย์หลวงพ่อมี ใช้เหรียญรุ่นแรกของท่านเป็นประจำรู้สึก แคล้วคลาดดี ไม่เคยพบประสบการณ์ใด ๆ เลย แต่ของดีของพลวงพ่อมีที่ท่านใช้แลเวมีประสบการณ์ดีมา กก็คือ "สีผึ้ง" ซึ่งหลวงตาพิศได้กล่าวว่า เป็นเมตตามาหาเสน่ห์ดีดีจริง ๆ ปัจจุบันท่านบวชเป็นพระแล้วไม่ควรจะเอ่ยถึงเรื่องนี้ ต่อไป

หลวงตาพิศได้กล่าวย้ำในตอนท้ายว่า ใครมีสีผึ้งหลวงพ่อมีแล้ว อย่าไปลอดราวตากผ้าอย่างเด็ดขาด เพราะท่านเคยพกติดตัวแล้วลอดราว ปรากฏว่า สีผึ้งของหลวงพ่อมีละลายเป็นน้ำไปอย่างน่าอัศจรรย์


มีดขอฟันแขนไม่ขาด !

นายสุนันท์ กิจเจตนี อายุ 27 ปี มีบ้านอยู่ข้างโรงเรียนโคกจุฬา บ้านแพน เล่าเรื่องที่เห็น นายวิเชียร พันธุสะ ถูกฟันและแทงไม่เข้ากับตาตนเองถึง 2 ครั้ง 2 ครา ดังนี้ เมื่อปีพ.ศ.2525 นายสุนันท์และนายวิเชียร ไปรับจ้างทำงานก่อสร้างที่ วัดเขาแหลม กาญจนบุรี โดยพักอยู่บ้านญาติซึ่งมีลูกสาวสวย หนุ่ม ๆ มาหลงรักติดพันมากจึงเกิดการเข้าใจผิดกันขึ้น เช้าวันหนึ่งขณะที่ทั้ง 2 กำลังถีบจักรยานเพื่อไปทำงาน นายสุนันท์ซึ่งขี่รถอยู่ข้างหน้าเห็นวัยรุ่นหนุ่มหลา ยคนออกจากพุ่มไม้ข้างทาง วัยรุ่นคนหนึ่งปรี่เข้ามาใช้ มีดขอ ที่มีอยู่ในมือฟันนายวิเชียรที่ถีบรถตามนายสุนันท์มา ติด ๆ นายวิเชียรตกใจและเห็นว่าจวนตัวจึงยกมือขึ้นรับมิดขอ ไว้ มีดขอ ซึ่งมีลักษณะคล้าย มีดพร้า แต่มีปลายโค้งงอใช้สำหรับเกี่ยวอ้อยมีความคมมาก สามารถตัดอ้อยได้ครั้งละหลาย ๆ ต้น ฟันฉับลงที่แขนนายวิเยรที่ยกขึ้นรับเสียงดัง "กึ้ก"

คุณพระช่วย ! นายสุนันท์ภาวนาในใจ แล้วปาฎิหาริย์ก็เกิดขึ้นจริง ๆ เมื่อมีดขออันแสนคมแทนที่จะฟันแขนขาดกลับกระดอนกลับอ ย่างแรงคล้ายฟันถูกของแข็งก็ไม่ปาน ความรุ่นแรงของมีดขอที่ฟันถูกแขนประกอบกับยกมือข้างห นึ่งขึ้นกัน จึงทำให้รถจักรยานเสียหลักล้มลงไป พอนายวิเชียรยืนตั้งหลักได้ วัยรุ่นกลุ่มนั้นกำลังตกตะลึงที่ฟันศัตรูความรักไม่เ ข้าก็ใจเสีย พากันวิ่งป่าราบหนีหายไป


มีดพกแทงไม่เข้า !

นายสุนันท์ กิจเจตนี เล่าเรื่องที่เห็นเพื่อนรักชื่อนายวิเชียร พันธุสะถูกคู่อริรุมแทงด้วย มีดพกไม่เข้า มากับตาเป้นครั้งที่ 2 ว่า ขณะที่ทั้ง 2 ชวนกันไปชมดูการเกณฑ์ทหารที่ วัดสามกอ บ้านแพน เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2529 คู่อริเก่าของนายวิเชียร 3 คน ลอบมาข้างหลังชักมีดพกแทงข้างหลังพร้อม ๆ กันอย่างกมายชีวิต วัยรุ่นคนหนึ่งยังไม่ทันจ้วงแทง ก็ถูกพลเมืองดีซึ่งภายหลังถึงได้ทราบว่าเป็นผู้ใหญ่บ ้านยืนอยู่ข้าง ๆ เห็นเหตุการณ์ปัดมีดตกพื้นก่อน คู่อริ 2 คน แทงถูกกลางหลังและสีข้างจนเสื้อขาด แต่คมมีดไม่อาจระคายผิว!

นายวิเชียรรู้ตัวว่าถูกลอบแทงไม่เข้า จึงเข้าต่อสู้เป็นพัลวัน ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงคู่อริวัยรุ่นทั้ง 3 ก็พากันเลี่ยงหนีไป ส่วนนายวิเชียรถือว่าไม่ได้เป็นฝ่ายผิดจึงไม่คิดหนี เลยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับในข้อหาทะเลาะวิวาทกันตามร ะเบียบ (ดังเป็นข่าวเกรียวกราวจนมีผู้เสาะหาเหรียญรุ่นแรกขอ งหลวงพ่อมีกันจ้าละหวั่น)

นายสุนันท์และเพื่อน ๆ อีกหลายคนเห็นนายวิเชียรถูกแทงไม่เข้ามากับตาเล่าต่อ ไปว่า เหตุการณ์ครั้งแรกที่นายวิเชียรถูกฟันด้วยมีดขอไม่เข ้า และถูกแทงด้วยมีดพกไม่เข้าอีกนี้ ในตัวแขวนเหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อมีแต่เพียงเหรียญเดียว เท่านั้น และไม่เคยใช้ของอย่างอื่นเลยนอกจาเคยมาให้หลวงพ่อมีเ ป่ายันต์เข้าตัวเท่านั้น! ส่วนตัวนายสุนันท์เองก็ใช้เหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อมี เป็นประจำ บอกว่าแคล้วคลาด และ เมตตาดี เพราะไม่มีเรื่องกับใครเลย

รถเก๋งชนไม่เป็นอะไร !

นายสุรศักดิ์ ดาวสว่าง อาชีพเป็นช่างทอง อยู่ตรอกโรงเจ ตลาดพลู ขณะที่ขับขี่จักรยานยนต์กลับจากงานเลี้ยงส่งท้ายปีเก ่า เมื่อปีที่ผ่านมาและได้ดื่มสุราเมาเล็กน้อยจึงขี่รถไ ม่ตรงทาง พอมาถึงวงเวียนใหญ่ ขณะที่จะเลี้ยวรถไปตามถนนอินทรพิทักษ์ ก็ถูกรถเก๋งที่แล่นคู่กันมาชนเข้าที่ล้อหน้าด้านซ้าย โครมเบ้อเร่อ ทั้งคนและรถกระเด็นคว่ำพร้อมกัน จนกว่านายสุรศักดิ์จะลุกขึ้นได้ รถเก๋งคันงานแต่คนขับจิตใจไม่งดงามตามรถเก๋ง ก็เร่งเครื่องตรงหายไปทางถนนเพชรเกษมโดยไม่ยอดจอดรถล งมาดูอาการคนเจ็บเลย

เดชะบุญที่นายสุรศักดิ์ห้อยเหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อมีที ่เลี่ยมทองแขวนคอและใส่แหวนพรหม 4 หน้าที่น้วมือ จึงไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ ทั้งสิ้น ค่อย ๆ ยกรถขึ้นขี่กลับบ้านช้า ๆ เพราะว่าล้อหน้าเบี้ยวไปข้างหนึ่ง

ถูกระเบิดไม่ตาย !

เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ทผ่านมา มี นายทหารชึ้นผู้ใหญ่ ท่านหนึ่ง (ขอสงวนนาม เนื่องจากกำลังติดต่อขอสัมภาษณ์ท่านอยู่ เมื่อได้รับอนุญาตแล้วจะนำมาเปิดเผยในโอกาสต่อไป) เป็นศิษย์รุ่นเก่าของหลวงพ่อมี เล่าเรื่องประสบการณ์เหรียญรุ่นแรกให้หลวงพ่อจำเนียร ฟังว่ เคยรอดตาย เพราะถูกผู้ก่อการร้ายซุ่มโจมตีด้วยอาวุธสงครามมา 3 ครั้ง แล้ว ครั้งที่ 4 ขณะลาดตระเวนพลาดไป เหยียบถูกกับระเบอด ตูม! ลูกน้อง 4 คนตายเรียบ !

ส่วนตัวผุ้พันกระดูกเหล็กรอดตายดุจปาฎิหาริย์ โดยที่เสื้อผ้าขาดวิ่นไปหมดทั้งตัว แต่ร่างกายไม่ได้รับการกระทบกระเทือนจากความร้ายแรงข องระเบิดเลย นอกจากข้อเท้าแพลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ! ก่อนที่นายทหารท่านนั้นจะลากลับยังหาเช่าเหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อมี และให้ราคาสูงถึง เหรียญละ 1,000 บาท แต่ทางวัดหาให้ไม่ได้ จึงได้แจ้งจำนงค์ว่าจะจัดผ้าป่ามาทอดในเร็ว ๆ นี้ ทั้งยังได้ว่าจ้างนายช่างก่อสร้างเป็นเงินจำนวน 32,000 บาท เพื่อตกต่ง ทาสีและติดกระจกอุโบสถให้สวยงานยิ่งขึ้น จึงขออนุโมทนาสาธุในส่วนกุศลมา ณ ที่นี้

 

กราบแทบเท้าขอบารมีหลวงปู่มี รักษาครับ

 

หลวงปู่มีคือที่หนึ่งในดวงใจ คุณออยมีพระดีๆของหลวงปู่มากมาย นั่นถือว่า มีบุญร่วมมากับหลวงปู่ ชีวิตจะมีแต่สิ่งดีๆครับ กระตุดสวยงามมากครับ คนสักหมื่นคนไปกราบท่าน จะมีเพียงคนเดียวหรือสองคนเป็นอย่างมากที่จะได้พระหรือกระตุดที่ท่านจารด้วยมือท่านเองครับ ขออนุโมทนาด้วยครับ กระตุดของท่านมีค่ายิ่งกว่าทรัพย์สินเงินทองใดๆทั้งสิ้นครับ

 

ครับขอบคุณครับ

 

อนุโมทนาด้วยคะ
ถ้าจำไม่ผิดคุณมันตรัยเคยส่งผ้ายันต์มาให้ด้วยนะ อิอิ....

 

ของหลวงปู่ดีจริงๆ ครับ ผม เช่าเหรียญ ล้อแม็ค จากคุณออย มา ก็เจอแต่เรื่องดีๆ นะครับ

 

ครับขอบคุณครับ
<!-- / message --><!-- sig -->__________________

 

หลวงปู่มี ใครบูชาแล้วมีสมชื่อครับ แต่ต้องมีสัจจะจริงใจด้วย เส้นเกศาของท่านที่ผมได้เก็บเอาไว้บูชากลายเป็นพระธาตุก่อนที่หลวงปู่ท่านจะมรณะภาพเสียอีก(นึกอยากได้เพิ่มก็เสด็จมาเพิ่มทันตา1องค์ทั้งที่ตรวจดูหมดแล้วว่ามีแค่สามองค์แถมที่เสด็จมานั้นองค์ใหญ่กว่าทุกองค์ที่มีอยู่) ผิดสัจจะทีชีวิตพลิกหมด จากมีกลายเป็นไม่มีได้ มีสัจจจะจากไม่มี กลายเป็นมีได้ ทันตาเห็น

 

เมื่อวานก็เพิ่งขึ้นไปวัดมารฯครับ ตอนนี้ใกล้เข้าพรรษาแล้วคนมาทำบุญกันเยอะครับ ใครผ่านไปเสนา อยุยา แวะเข้าไปกราบและทำบุญกับท่าน รับรองสมหวังกับสิ่งที่ขอ(ไม่ผิดศีลธรรม)ทุกท่านครับ

 

ผมเพิ่งของหลวงพ่อ 1 องค์ครับเป็นเหรียญย้อนยุครุ่นแรก ห้อยแล้วสบายใจครับ