หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ(พระครูปราสาทพรหมคุณ สุสานทุ่งมน (วัดเพชรบุรี)

ในห้อง 'กระทู้เก่า' ตั้งกระทู้โดย ออกมาดูโลก, 24 มกราคม 2008.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. view6628

    view6628 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +192
    ช่วงก่อนจะออกพรรษาผมรู้อยู่ว่าหลวงปู่่่ท่านไม่อยู่ที่สุสาน พอดีเราได้เข้าไปทำบุญที่วัดเพชรบุรีี ก็เลยได้เช่าวัตถุมงคลมามีคุณลุงใจดีที่นั่นเป็นคนแนะนำสรรพคุณ หลัีงจากได้มาก็ฝันเห็นหลวงปู่ท่านกับพระสังฆราชองค์ก่อนมาที่บ้านแม่ของผมในฝันเห็นชัดมาก เป็นที่ปรื้ัมปิติดีใจจดจำมา ณ ทุกวันนี้ ช่วงหลังแฟนผมฝันเห็นท่านบ่อย ครั้งแรกเค้าเล่าให้ฟ้ังว่าท่านบอกว่าผ้าได้รับแล้วแต่ยังไม่มีงานจึงยังไม่ได้นำออกมาใช้ ส่วนครั้งต่อมานี่ยาวมากมือมันขี้เกียจพิมพ์จึงจบไว้เท่านี้ื เป็นการบอกเล่าเก้าสิบ หาด้วยจุดประสงค์อื่นใด หากเป็นการขัดจริตท่านใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้่ด้วยครับ
     
  2. view6628

    view6628 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +192
    เล่าสู่กันฟัง เมื่อวานนี้วันอาทิตย์ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสตั้งใจจะไปถวายผ้าไตรตามที่แฟนผมได้ฝันเห็นหลวงปู่ไว้ว่าหลวงปู่ท่านถามว่าได้เอาผ้าไตรมามั้ย ในฝันแฟนผมบอกไม่ได้เอามา ดังนั้นผมจึงตั้งใจไปถวายผ้าไตรในวันนี้ ว่าแล้วก็เข้าไปซื้อผ้าไตรในเมืิองมา คนขายใจดีลดจาก 1200 ให้เหลือ 800 บังเอิญอีกจอลุงที่รู้จักกันก็เลยคุยกันคุยไปคุยมาป้าซึ่งเป็นแฟนลุงไปเิิดินซื้อของที่ตลาดกลับมาพอดี คุยไปคุยมาได้ความว่าวันนี้้ป้าพาน้องสาวเค้าที่พิษณุโลกมาทำบุญกับอาจารย์ป้า ท่านหลวงพ่อถนอม ที่วัดป่าตาเมือน วันนี้ผมว่างอยู่แล้วเลยบอกให้ลุงขับนำทางไป เดี๋ยวผมขับตาม ผมได้ถวายสังฑทานกับท่านหลวงพ่อถนอม และช่วยค่า หินปูทางรูปตัว I อะไรซักอย่างไป 1000 บาท และคุยข้อธรรมมะกันนานพอสมควร ท่านเทศน์บ้างเราถามบ้าง ตามประสา มีตอนหนึ่งท่านเล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนท่านเรียนวิทยาศาสตร์ครูบอกกบหายใจทางผิวหนัง ท่านก็มาคิดว่ากบจะหายใจทางผิวหนังได้ยังไง เรายังต้องหายใจทางจมูก ท่านกล่าวว่าพอท่านมาปฏิบัติได้ 1 เดือน ท่านรู้แล้วว่าหายใจทางผิวหนังหายใจได้อย่างไร แล้วท่านก็อธิบายให้ฟัง ขอรวบรัดตัดความ เพราะคุยกันนานมาก ลืมบอกไปก่อนผมไปถึงท่านมีแขกเป็นพระธุดงธ์ 2 รูปอยู่ก่อนแล้วคงกำลังสนทนาธรรมกันอยู่ ตอนที่ผมคุยกับท่านพอดีผมได้ยินแว่ว ๆ ก่อนหน้้านั้นว่าพระธุดงค์ทั้งสองรูป ท่านจะไปวัดเพชรบุรี ผมจึงถามท่านหลวงพ่อถนอมท่านว่าพระธุดงค์ทั้งสองรูปจะไปที่ไหนหรือครับ ท่านบอกว่าพระทั้งสองรูปท่านจะไปวัดเพชรบุรี ผมจึงอาสาท่านหลวงพ่อถนอมไปส่งพระธุดงค์ที่วัดเพชรบุรี เพราะผมกำลังจะนำผ้าไตรไปถวายหลวงปู่หงษ์อยู่พอดี(ผมคิดในใจช่างบังเอิญจริง ๆ) หลวงพ่อถนอมท่านจึงบอกว่าดีแล้วนะ ...ฯลฯ แล้วคุยกันต่ออีกซักพักนึง จึงนิมนต์พระธุดงค์ทั้งสองรูปขึ้นรถ แหมเป็นสิริมงคลจริง ๆ เราก็สนธนากับท่านไปจนถึงจุดหมายท่านถามเราบ้าง เราถามท่านบ้าง เราก็บอกว่าวัดเพชรบุรีถึงก่อนที่จะไปที่สุสานทุ่งมนต์ ท่านอยากแวะชมซักหน่อยไหม ท่านแวะชมซักครู่ จึงได้พาท่านไปที่สุสานทุ่งมนต์ เราก็ช่วยยกของท้ายรถลงเช่นบาตรเป็นต้น ท่านรออยู่ด้านล่างให้เราขึ้นไปก่อนพระยังขึ้นไม่ได้ต้องรอให้โยมไปหมดก่อน ตอนนั้นเป็นเวลาบ่ายสามโมงกว่าหลวงปู่ท่านยังไม่ออกมาผมก็ให้อาหารปลาเดินดูโน่นนี่ไปเรื่ิอย โชคดีได้มีโอกาสคุยกับพี่ท่านหนึ่งที่ยืนอยู่ตรงแผนกวัตถุมงคล ท่านให้ความรู้ดีมากและบอกว่าต้องทำอะไรยังไงบ้างคุยกันนานพอสมควร หลวงปู่ท่านสอนอะไรบ้าง ตอนนั้นก็มีเณรรูปหนึ่งมาเทศน์ให้ญาติโยมฟังก่อนที่หลวงปู่จะออกมารับแขก ผมนี่อยู่หลังเขาสุดเลยเพราะมีญาติโยมมารออยู่เยอะมาก ไอเรามาทีหลังเขา หลวงปู่ท่่านก็เอาไม้อะไรซักอย่างมาแตะที่หัวทุกคนเลยยาวประมาณ ช่วงท่อนแขนข้อพับ เหมือนแตะแล้วท่านก็คงบริกรรมคาถาในใจอารายอย่างนี้ ผมไม่เข้าใจนักหรอก พอถึงคิวผม ผมก็ถวายผ้าไตรพร้อมปัจจัยอีก 1000 บาทใส่ลงในพาน พี่ที่เขาอยู่ตรงแผนกวัตถุมงคลก็ให้ความกรุณาบอกกับหลวงปู่หงษ์ว่าผมต้องการมาถวายผ้าไตร และสร้างบารมี แล้วท่านก็เอาไม้ที่เล่าตอนต้น
    แตะที่หัวผม ผมลืมเล่าไปว่าเวลาที่ท่านนำไม้มาแตะที่หัวนี่พี่ที่แผนกวัตถุมงคลบอกว่าถ้าท่านเอาไม้ออกก็ไปได้ แต่ของผมนี่ท่านแตะไว้ที่หัวนานเป็นพิเศษผมนึกว่าท่านแตะแป๊ปเดียวแล้วคงได้ออกเหมือนคนอื่น ผมจึงค้างอยู่ในท่าก้มตัวมือพนมแต่ยังไม่ถึงพื้น เล่นเอาเราเมื่อไปเหมือนกัน แต่ด้วยความเป็นสิริมงคลเรื่องแค่นี้เล็กน้อยครูบาร์อาจารย์ท่านกรุณาเมตตา แล้วท่านก็สอนพี่ที่อยู่ตรงแผนกวัตถุมงคลก็แปลให้ฟัง น่าเสียดายท่านชราภาพมากแล้วเวลาท่านสอนเราก็ฟังไม่ค่อยถนัดโชคดีที่พี่เค้าช่วยแปลให้ฟัง สนธนากันได้ซักพักหนึ่ง
    แฟนผมก็พูดว่า หนูถามคำถามได้ใช่ไหมค่ะ พี่เค้าก็ตอบว่าได้ แฟนผมเลยถามว่ามีกุมารทองมาอยู่ที่บ้าน ขอเล่าย้อนว่าตอนแรกผมไม่รู้ว่าเป็นกุมารทองของใคร วันหนึ่งขณะผมทานข้าวอยู่เหมือนมีความรู้สึกว่ามีคนมาขอกินข้าวด้วย ตอนนั้นผมทานใกล้หมดจานแล้ว ผมก็นึกในใจว่าทานได้แต่มันจะหมดจานแล้วนะ แล้วผมก็กินจนหมด ผมก็คิดทบทวนเอยังไงคุยไปคุยมากับแฟน ผมบอกว่าสงสัยเป็นกุมารทอง เพราะผมเห็นกุมารทองที่อยู่ในห้องน้องของแฟนด้านล่าง เราก็นึกว่าเป็นของน้องแฟน เพราะเราก็ไม่เคยเห็นเค้าดูแล เราก็ยังเคยบอกแฟนว่ามีกุมารทองไม่เลี้ยงเค้า จะดีเหรอ คือในใจคิดสงสารเค้านะแหละ เราก็มานั่้งคิดเอเราอดข้าวยังหิว นี่กุมารทองไม่รู้อดมาตั้งกี่เดือนแล้วเนี่ย ของเล่นอารายไม่มีเลย ซึ่งตอนแรกผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นของหลวงปู่หงษ์ ถามน้องแฟนก็ไม่รู้ว่ากุมารทองของใคร ถามแม่กับพ่อของแฟนก็ไม่รู้ว่าเป็นของใคร สรุปไปมาผมจึงนำน้องมาดูแลอย่างดีประกอบกับตอนนั้นรู้เรื่องราวของหลวงปู่หงษ์แล้วช่วงนั้นพึ่่งจะคุยกับแฟนว่าอยากได้กุมารทองของหลวงปู่หงษ์ ไปหาดูที่วัดแล้วรุ่นนี้ก็ไม่มีน่าจะหมดไปแล้ว ถือเป็นโชคดีได้มาโดยบังเอิญ
    หลวงปู่ท่่านเล่าให้ฟังว่าที่อุบลก็มีเหตุการณ์แบบนี้ มีกุมารทองหลวงปู่อยู่ที่บ้าน ถ้าผมจำไม่ผิดก็คงเป็นประมาณว่าสมัยก่อนป้าคงนิมนต์ท่านด้วยประการอะไรก็ไม่ทราบได้ไปที่บ้าน พอหลวงปู่ท่านกลับแล้ว จึงนึกว่าหลวงปู่นำมาวางไว้ เรื่องเป็นประมาณนี้ส่วนรายละัเอียดเชิงลึกนั้น ผมนั้นฟังท่านไม่ถนัดดี พี่ที่แผนกขายวัตถุมงคลก็บอกเสริมว่าดีแล้วนะมีกุมารทองมาอยู่ด้วยฯ หลวงปู่ท่านบอกผมให้ทำให้ดี เวลากินข้าวก็เรียกเขากินด้วย มีอะไรก็ให้เค้ากิน อะไรประมาณนี้ แล้วไม่นานจะเห็นผล อย่าด่าใครด่าพ่อด่าแม่ ด่ากันเอง อย่าทำ ใครด่าให้เดินหนีไป ไม่นานก็เห็นผล ให้มีผัวเดียวเมียเดียว อย่าลักขโมยของเขา ไม่มีใครช่วยใครได้ ให้รักษาศีล ในสนามรบนี่ด่าเขาคำเดียวตายเลย(ท่านคงหมายความว่าพกของท่านถ้าด่าเขาคำเดียวนี่ยิงเข้าเลยครับ) และอีก ฯลฯ แล้วกรวดน้ำจากนั้นก็กราบลาท่าน ก่อนกราบก็มาลาพระธุดงค์ตอนนั้นเหลือนั่งอยู่รูปเดียวอีกรูปไม่ทราบว่าไปไหน ท่านก็ถามเรา.............แฟนผมก็เล่าเรื่องกุมารทองย่อ ๆ ท่านก็บอกดีนะกุมารทองช่วยเรื่องค้าขาย แล้วท่านก็บอกขออนุโมทนาบุญกับโยมด้วยนะ แล้วท่านก็ให้พระเหรียญมาหนึ่งเหรียญบอกว่าเป็นของอีกรูปท่านให้มาเราก็รับมาแล้วก็ขอบคุณท่าน ท่านก็กล่าวขออนุโมทนาบุญกับโยมด้วยนะอีกประมาณ 2 ครั้ง เราจึงลาท่านกลับ ตอนนั้นนึกสงสารท่านอยู่เหมือนกันนะเนี่ยต้องรอจนญาติโยมไปหมดจึงขึ้นไปหาหลวงปู่หงษ์ได้ วันนั้นกลับบ้านอย่างเป็นสุข
    -ขอเล่าต่อเนื่องว่าก่อนวันที่มามาถวายผ้าไตรกับหลวงปู่ประมาณสองอาทิตย์แฟนผมเค้าก็ฝันว่าผมนั้่งอยู่หน้าหลวงปู่อยู่นานท่านรดน้ำมนต์ให้ผมจนชุ่มเลย และอีก ฯลฯ เค้าเลยบอกผมว่าตอนเห็นหลวงปู่นำไม้มาแตะที่หัวผมนาน ๆ ทำให้นึกถึงภาพตอนในฝันเหมือนกันเลยแต่ต่างกันตรงที่ไม่ใช่น้ำมนต์ แล้วก่อนหน้าที่ผมจะไปถวายผ้าไตร ประมาณ 4 วันไม่แน่ใจก็ฝันว่านั่งรถประจำทางเจอแม่ชีข้างทางแต่ท่านแต่งกายคล้ายพระนะ ในฝันรู้เหมือนว่าเป็นที่เลื่องลือว่าท่านชอบช่วยเหลือคน แต่มักไม่ค่อยได้พบ ไป ๆ มา ๆ เราต้องว่ายน้ำ พอนึกว่าจะไปยังไง ท่านก็ปรากฎในชุดขาวน้ำทางว่ายน้ำพาผมและหมู่คณะไปในฝันผมอยู่ท้ายสุด เห็นงูเผือกสีขาวตัวใหญ่ขดอยู่ด้านซ้าย บริเวณด้านหน้าเยื้องไปทางซ้านหรือขวาไม่แน่ใจเป็นแต่หางงูอีกตัวหนึ่งแต่เป็นสีน้ำตาลออกดำตัวใหญ่ เห็นแต่หางป้อมแล้วมาเล็กเหมือนพึ่งกินมาอิ่ม ว่ายน้ำไปพร้อมกันด้วย ผมก็เล่าให้แฟนฟัง แฟนบอกว่างูเผือกนี่ดีนะ ฯ
    * เรื่องราวที่เล่านี้เป็นการเล่าสู่กันฟัง มีการรวบรัดตัดความมากเนื้อหาอาจไม่ครบถ้วน หากมีอะไรผิดพลาดประการใดขอ องค์พระศรีรัตนตรัย และท่านทั้งหลายในทุกภพทุกภูมิโปรดอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าไว้ ณ ที่นี้ด้วยเทอญ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...