และอีกแห่งคือ ถ้ำนางแอ่น แขวงท่าแขก ประเทศลาว เป็นถ้ำใหญ่มาก มีลำธารไหลใต้พื้นถ้ำหลายกิโลเมตร เป็นที่บำเพ็ญของพระธุดงค์ในยุคเก่า
พวกเราได้ไปพักใกล้ถ้ำแห่งนี้ ตกกลางคืนประมาณสามทุ่มญาติธรรมจากประเทศไทยและอดีตท่านทูตลาวประจำประเทศไทยประมาณ 10 คนได้เข้าไปในถ้ำเพื่อสวดอิติปิโส 108 จบ ส่วนผมกับพระอาจารย์บุญสวนได้ปลีกตัวไปนั่งสมาธิในอีกมุมหนึ่งของถ้ำ เมื่อญาติธรรมสวดมนต์เสร็จแล้ว ได้เข้ามาสมทบกับผมและพระอาจารย์ประมาณเกือบสี่ทุ่ม ปรากฏมีเพ็ชรนาคาเสด็จมาทางอากาศจำนวนหนึ่งหล่นกระทบกับพื้นถ้ำและกลิ้งไปตามพื้นถ้ำดังได้ยินชัดเจน แต่เมื่อส่องไฟฉายและวิ่งตามเก็บกลับหายไปเฉยๆ ส่วนผมกับพระอาจารย์ได้คนละสององค์ ญาติธรรมอีก 6 คน ได้รับคนละ 1 องค์ องค์ที่เราได้ท่านจะหล่นใส่ตักให้หรือหล่นข้างตัวจึงจะเก็บทัน สอบถามพระอาจารย์ท่านบอกว่า ภูมิเจ้าที่เขาก็อยากได้ กลายเป็นว่าเทพกับมนุษย์แย่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์กัน(มีกิเลสทั้งคู่) ผมก็พึ่งเคยได้ยินครับ
ก่อนกลับพระอาจารย์มอบเพ็ชรนาคาสีแดงรูปหยดน้ำให้ท่านทูตลาวที่มาคอยดูแลพวกเรา... เรื่องนี้ เป็นประสบการณ์อีกแห่งหนึ่งในต่างแดนที่ผมอยากเล่าให้เพื่อนธรรมฟัง... ก็ลองพิจารณาเอาเองนะครับ
หลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิตร(ฝัน)
ในห้อง 'หลวงปู่แหวน' ตั้งกระทู้โดย psombat, 18 มีนาคม 2010.
หน้า 95 ของ 430
-
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
เมื่อสักครู่ ผมพึ่งได้รับหนังสือรวมธรรมะหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เล่มหนา
ที่เพื่อนธรรมท่านหนึ่ง (ไม่เคยได้พบเจอกันมาก่อน)
มีเมตตาส่งมา แถมปิดทองให้อย่างดี
และท่านมีส่วนร่วมในการจัดพิมพ์หนังสือฯ
ชื่อหนังสือ "ตามรอยธรรม ย้อนรอยครู"
ไว้ผมจะค่อยๆทะยอยนำมาลงในกระทู้และจักเจริญรอยตามธรรมฯนะครับ
ขอขอบพระคุณและโมทนาสาธุ
ขอให้ท่านเป็นผู้เจริญทางธรรมและทางโลกนะครับผมไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ผมไปทันแต่มือขวาของหลวงปู่...
ชื่อหลวงปู่ลำไย ท่านอาพาธ แต่มีเมตตามากๆครับ -
-
เท่าที่ผมรู้จักกับคุณอ๊อด ทั้งการคิด พูด ทำ นั้น นับว่า..เป็นคนดีมากๆเลย:cool:
สำหรับผม อัญเชิญ TOP3 กับเหน็บองค์พระอวโลกิเตศวร
การเดินทางไกลล่าสุด TOP4 ประกบ TOP3 กับเหน็บองค์พระอวโลกิเตศวร
เพิ่มพิเศษคือเบี้ยแก้
กริ่งปวเรศ 2411 ตามวาระ -
-
ขอบคุณท่านอ.นนต์ที่มอบมณีนาคราชสีแดงเข้มให้ผมนะครับ(Super VIP) -
แบบนี้แหละครับ ตัวผู้...
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
-
ครอบครัวผมชอบเข้าวัด ทำบุญ เราไปด้วยกันทุกครั้งครับ...เริ่มจริงจังเมื่อปีที่แล้ว ช่วงว่าง เข้าพรรษา ออกพรรษาถ้าตรงวันหยุดก็จะพากันไปค้างที่วัด ถือศีล8 ทำวัตร นั่งสมาธิ รุ่งเช้าก็ตักบาตร ร่วมทอดกฐิน.ทำได้4-5วัด ที่ไปไม่ได้ก็จะถวายปัจจัยสมทบอีกหลายๆวัดครับ ปีนี้ถ้ามีโอกาสและตรงวันหยุดตั้งใจจะทำให้ได้ 9 วัดนะครับ(หวังลึกๆ...)อยากให้รุ่นลูกสืบทอดเจตนาต่อทั้งในเรื่องพระวังหน้า และการทำบุญเพื่อสืบทอดพุทธสาสนาต่อไปครับ. -
(เป็นความเชื่อส่วนบุคคนครับ) หล่นมาจริงครับตกใส่ตัวทั้งหมดเลยครับ หุหุ:cool: -
ชุดมณีนาคราชชุดนี้ถักเข้าชุดได้สวยงามมาก...สูงค่า...มากด้วยบารมี สาธุ. -
-
-
-
พระเครื่องที่อัญเชิญอารธนา.
-ปกติแขวนเดี่ยวพระกริ่งปวเรศ 2411 (องค์เดียวครอบจักรวาล)
-เฉพาะกิจเพิ่มชุดเบญจภาคี.....2411(ที่เพื่อนธรรมได้ชมที่บรบือ)
พระเครื่องชุดใหม่ที่คิดว่าลงตัวที่สุด.
-ชุดแรก 3องค์ กริ่งปวเรศ2411,TOP1,TOP4
-ชุดสอง3องค์ TOP1,TOP4,สมเด็จองค์กลางของชุดเบญจภาคี.....
-สุดท้ายแขวนเดี่ยวกริ่งปวเรศ2411 เหมือนเดิม(องค์เดียวเที่ยวทั่วโลก)
(ชุดแรกกับชุดสอง ทางเดียวกันหรือไม่...เหมาะสมหรือไม่... ท่านอ.นนต์,คุณอ๊อด,คุณIT Man ช่วยชี้แนะด้วยนะครับ.) -
ก็เหมาะสมดีทุกชุดนะครับ
- TOP ทุก TOP ท่านไปด้วยกันได้ สามารถแขวนเดี่ยวได้ครับผม
- ซึ่งแต่ละ TOP ท่านก็มีเอกคุณเด่นๆไปคนละแบบ
- องค์ทองคำ จะเป็นระดับคณะหลวงปู่ฯ+พระมหาโพธิสัตว์ท่านอธิษฐานจิต
- แต่ทุกองค์...อิทธิคุณโดยรวมคือครอบจักรวาล
เผอิญผม อาจารย์ ท่านแหน่ง มีบุญวาสนาได้ครอบครองทุก TOP (คงมีหน้าที่นี้ด้วย เพราะมีครูบาอาจารย์ช่วยชี้แนะ)
ก็เลยสามารถทดสอบ ทดลอง ผสมกันไป เมื่อรับรู้แล้วก็เลิก สรุปได้ผลคือ
- TOP1+TOP2 = มหาอำนาจ คุ้มครองป้องกันสูงสุด เด่นทางบู๊
- TOP3+TOP4 = มหานิยม โภคทรัพย์ เด่นทางบุ๋น - ผมชอบทางนี้
- ถ้าแขวนไขว้กัน(TOP1+TOP4+กริ่ง2411) ก็จะออกทั้งมหาอำนาจ มหานิยม โภคทรัพย์ อื่นๆ ตามลำดับ
- ด้วยพระพุทธบารมี มหาอำนาจ มักจะโดดเด่นเป็นปกติ
- พระที่มีอิทธิคุณต่ำกว่า จะโดนครอบรัศมี
- หากท่านใดมีเบี้ยแก้ก็ควรจะกันไว้อีก 1 ชั้นนะครับ(เวลาออกนอกถิ่นที่ไม่รู้เขา) -
- - อย่าลืมว่า พระองค์ท่าน ทรงมีพระเมตตาไม่มีประมาณ แม้กระทั่งผี
- พระระดับ TOP ท่านไม่นิยมคนเล่นการพนัน(รวยทางลัด)ทุกรูปแบบ
- เมื่อได้รับพระไป ควรหาโอกาสทดลองอัญเชิญขึ้นคอเดี่ยวๆสัก 7-15 วัน เพราะถือว่าท่านเสด็จมาโปรดแล้ว
- หากอัญเชิญแล้วใจเย็น ลดโลภ ลดโกรธ ลดหลง น่าจะเหมาะที่สุด
- หากอัญเชิญแล้วให้ผลตรงข้าม อาจเพราะบารมีเรายังไม่ถึงท่านก็ให้เร่งความเพียรเข้าหา (มิใช่พระไม่ดี แต่เราดีไม่ถึงองค์ท่าน)
- ผู้ทรงฌาณ 4 ละเอียด จักสามารถอธิษฐานจิตขอได้ตามปรารถนา
- ทุกอย่าง...เป็นเพียงแนวทาง ไม่ใช่บทสรุปของทุกคน ทุกคนควรทดสอบ ทดลอง ศึกษาต่อยอดเอง เพื่อให้ถูกจริตของตัวเอง
- ขอให้เพื่อนธรรมทั้งหลาย ค้นพบแนวทางอัญเชิญพระขึ้นคอ ที่ใช่ที่สุดสำหรับตัวเอง ให้เร็วที่สุดและถูกต้องที่สุด
- เพื่อที่สุดท้าย...เราจักได้มีเวลาเร่งทำความเพียร เพื่อมุ่งสู่พระนิพพานให้เร็วที่สุด เช่นกันนะครับผม
-
กราบ กราบ กราบ
กราบ กราบ
นับว่าเหล่าโลกทิพย์ท่านก็มีเมตตาสูงมากๆ
เพราะท่านอัญเชิญในสิ่งที่สูงยิ่ง...
ทำจิตให้สงบ ให้เป็นกลาง ไม่พลุ่งพล่าน น่าจะเหมาะกับการจูนคลื่นเข้าหาท่านครับ -
หลวงปู่ดู่...หลวงปู่ทวด...
กราบองค์ไหน ก็ถึงท่านทุกๆองค์แล สาธุ สาธุ -
ผมบอกผิดในพระพิมพ์ที่มาโปรดผม...ที่ถูกต้องคือ
1. พระแก้วมณีโชติ สีม่วง
2. ปางสมาธิ
3. ศิลปะอินเดีย แบบคันธารราฐ
ต้องขอกราบขออภัยด้วยนะครับ
ตามข้อมูลต่อไปนี้นะครับ
พระพุทธรูปคันธาระ (หรือคันธารราฐ)
พระพุทธรูปที่สวยที่สุดในโลก
<!-- Main -->
จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ เก่าแก่ที่สุด ที่เป็นหลักฐานทางโบราณคดี เกี่ยวกับการสร้างรูปเคารพ ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น มีการทำเหรียญทองคำ เป็นรูปพระพุทธเจ้าประทับยืนมีอักษร Bactrian สลักคำว่า " Boddo " ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยของพระเจ้ากนิษกะ (CE100) ซึ่งอาจเป็นการเริ่มต้นสู่การพัฒนาเป็นภาพจำหลักหิน เล่าเรื่องพุทธประวัติ และพัฒนาจนเป็นพระพุทธรูปขึ้น เมื่อพุทธฝ่ายมหายานเจริญรุ่งเรืองต่อมา ในครั้งนั้น การสร้างรูปพระพุทธประวัติแบบนูนต่ำและนูนสูงที่นิยมกัน จะมุ่งเน้นให้เกิดความเลื่อมใสศรัทธา หรือถ่ายทอดพุทธจริยาวัตรมากกว่าที่จะสร้างขึ้นเพื่อเป็นรูปเคารพ
ปางสมาธิ
การสร้างรูปพระพุทธองค์ (ที่เป็นรูปมนุษย์) เกิดขึ้นครั้งแรก โดยฝีมือของช่างแคว้นคันธารราฐ เกิดขึ้นเมื่อราว พ.ศ.๓๗๐ ที่ได้รับอิทธิพลจากกรีกและโรมัน เพราะเคยอยู่ภายใต้การปกครองของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ ซึ่งเคยกรีฑาทัพมา ตั้งแต่ในราว ๒ ศตวรรษก่อนคริสตกาล พวกเขาได้ถือรูปแบบเคารพเดิมที่เป็นเทพเจ้าของตนที่เคยทำมา ประดิษฐ์สร้างพระพุทธรูปขึ้น เมื่อพวกเขาหันมานับถือศาสนาพุทธ การสร้างพระพุทธรูปที่นี่จึงเป็นการผสมผสานระหว่างกรีกโรมัน (อิทธิพล Grego-Roman) และอินเดียโบราณ ที่สัมพันธ์กับมหาปุริสลักษณะ ๓๒ ประการ ของพระพุทธเจ้า อย่างลงตัว พระพุทธรูปคันธาระจึงได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่ามีพุทธศิลปงามที่สุด และเก่าแก่ที่สุด มีอายุราว ๒๐๐๐ ปี จนได้รับความนิยมเป็นสากลจากนักสะสมและพิพิธภัณฑ์นานาชาติ
ปางปฐมเทศนา
ครั้นเมื่อพระเจ้าอโศกมหาราชโปรดให้มีการสังคายนาพระ ไตรปิฎก ครั้งที่3 ขึ้นแล้วเสร็จ ทรงโปรดให้สร้างศาสนสถานศึกษาขึ้นหลายแห่ง เพื่อศึกษาพระศาสนา แต่ยังคงไม่นิยมการสร้างรูปพระพุทธเจ้าเป็นรูปเคารพ ทำแต่รูปอย่างอื่นเป็นเพียงสัญลักษณ์แทนพระพุทธเจ้า ดังเข่นที่ปรากฏอยู่ที่สถูปสาญจิ มีการสร้างรูปเคารพจากรากฐานของวัฒนธรรมอินเดียเช่น รอยพระพุทธบาทซึ่งแสดงถึงการเคารพอย่างสูงสุด เปรียบเทียบกับพระมหากษัตริย์ หรือการสร้างต้นโพธิ์เป็นสัญลักษณ์แทนการตรัสรู้ เป็นต้น วัฒนธรรมการสร้างพระพุทธรูป เพื่อเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจในทางรูปธรรมนั้น เริ่มแรกในช่วงก่อนสมัยคริสต์กาลเล็กน้อย โดยพระเจ้ามิลินท (Menander) กษัตริย์อินเดีย เชื้อสาย กรีก แห่งนครสาคละ แคว้นคันธารราฐ อาณาจักรบัคเตรีย (บริเวณตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถานและตะวันออกของอัฟกานิสถานในปัจจุบัน ซึ่งเป็นประเทศอินเดียในอดีต)
ปางประทานพร
พระเจ้ามิลินท์ ทรงเลื่อมใสพระพุทธศาสนาและทำนุบำรุงให้รุ่งเรืองอย่างมาก หลังการล่มสลายของวงศ์เมาริยะ เริ่มมีการสร้างพระพุทธรูป จำหลักหินขึ้นอย่างมากมาย เป็นศิลปกรรมแบบกรีกผสมอินเดีย เรียกตามเมืองที่ตั้งว่า ศิลปคันธารราฐ (อิทธิพล Grego-Roman) ท่านได้ทรงสร้างพระพุทธรูปและพระโพธิสัตว์ขึ้นมามากมาย ส่วนใหญ่สลักจากหินเทาอมเขียว (Schist stone) โดยยึดรูปแบบศิลปกรีกและเฮเลนนิค ซึ่งมีความสวยงามไม่แพ้ศิลปะใดๆ ในยุคหลังต่อมาจึงได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 4 จนถึงพุทธศตวรรษที่ 13 ที่มีอิทธิพลต่อศิลปของมถุรา ในแคว้นอุตรประเทศ
พระพุทธรูปที่มีชื่อเสียงและมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ที่สร้างในยุคนี้คือ พระพุทธรูปยืนแห่งบามิยัน ซึ่งเพิ่งมาถูกทำลายลง พร้อมๆกับพระพุทธรูปอีกเป็นจำนวนมากในปัจจุบัน โดยรัฐบาลตาลีบันที่เป็นมุสลิม เป็นประวัติศาสตร์ซ้ำรอยที่น่าเจ็บปวดสำหรับชาวพุทธทั่วโลก
ปางมหาปาฏิหาริย์
พระพุทธรูปสมัยคันธาระ มีการสร้างหลายปาง ที่นิยมกัน เช่น ปางสมาธิ ปางปฐมเทศนา ปางประทานพร ปางมหาปาฏิหาริย์ ปางลีลา(หมายถึงตอนที่เสด็จลงจากดาวดึงส์) และปางทุกรกิริยา ส่วนปางอื่นๆ ในตำราบางเล่มจะมีมากกว่านี้ แต่ยังค้นหาภาพไม่พบ
ปางลีลา
ศิลปแบบคันธาระ
ลักษณะสำคัญทางศิลป์ของพระคันธาระ คือ พระพักตร์คล้ายเทพอพอลโล มีเส้นพระเกศาหยิกสลวย ( ยังไม่เป็นก้นหอยเหมือนในยุคหลัง ) มีรัศมี ( Halo ) อยู่หลังพระเศียร ตามความเชื่อของกรีกที่ทำรูปปั้นเทพต่างๆ ห่มผ้าคลุมแบบริ้วธรรมชาติ มีอุณาโลมระหว่างคิ้ว มีอุษณีษะศีรษะ ( มวยผมโป่งตอนบน ) พระกรรณยาว พระพุทธรูปคันธารราฐ มีทั้งที่ทำด้วยปูนปั้น ( Stucco ) หินเขียว และหินดำ ( Schist )
หน้า 95 ของ 430