หลวงปู่โง่น ค้าน[dispute] ข้อธรรมว่าด้วยวิญญาณเดิมแท้เป็นประภัสสรขัดอิทัปปัจจะยะตา

ตาม logic ของ หลวงปู่โง่น ท่าน กล่าวว่า
If วิญญาณเเดิมมแท้ เป็น ประภัสสร then หลักอิทัปปัจจะยะตา และปฏจสมุทหปาทที่ว่า
( "อวิชา ปัจจะยาสังขารา สังขารา ปัจจะยา วิญญาณนัง ฯลฯ ทุกขะโทมะนัสสะ รวมความในพระอภิธรรมข้อนี้ว่า อวิชาความโง่ ความมืดบอด เป็นเหตุให้เกิดสังขาร คือความคิด ความปรุงแต่ง สังขารเป็นเหตุให้เกิดวิญญาณ วิญญาณเป็นเหตุให้เกิดนามรูป นามรูปเป็นเหตุให้เกิดผัสสะ ผัสสะ เป็นเหตุให้เกิดเวทนา เวทนาเป็นเหตุให้เกิดตัณหา ตัณหาเป็นเหตุให้เกิดอุปาทาน คือความไปยึดมั่น ถือมั่น อุปาทาน เป็นเหตุให้เกิดทุกข์ และตัวทุกข์นี้เองให้เกิด อวิชา ตัณหาอุปาทานอีกไม่รู้จบเป็นวัฏฏะ คือวนไปเวียนมา เวียนว่ายตายเกิด ไม่รู้จบไม่รู้สิ้น") ก็้จะเป็น false ไป และหลักอภิธรรมทั้งหมด ก็ จะเป็น false ไปด้วย
ถ้าเป็นเช่นน ี้Else ท่านจะเจอพระพี่นางสุพรรณกัลยาได้อย่างไรหกววิญญาณไม่เวียนว่าย?

ดังนั้น therefore ท่านที่กล่าวว่าท่านที่กล่าวว่าวิญญาณเดิมเป็นประภัสสรนั้นเป็นมิจฉาทิฎฐิ( false)

 

ก่อนจะพูดอะไรที่คิดว่าจบที่ความคิดเราถูก นั้นเท่ากับใจเเคบ
ถ้าคุณตีความท่านพุทธทาสได้เเค่นี้ ขอเเนะนำให้ไปศึกษาให้มากขึ้น
เพราะสิ่งที่คนเป็นร้อยเป็นพันคนที่ได้รับการถ่ายทอดพุทธศาสนาจากท่าน
บอกได้ว่า ไม่เหมือนกับที่คุณว่ามา ทุกคนต้องรักเคารพพระพุทธเจ้า ต้องทำจริง ปฏิบัติจริง ตามธรรมเที่ยงที่พุทธองค์ทรงสั่งสอน

ทำไมคุณไม่คิดบ้างว่าแม้แต่ชาวต่างชาติที่คิดว่าเเวะมาเที่ยวสวนโมข์
แต่สุดท้ายไม่ได้ออกไปเที่ยว กลับต้องมาบวชศึกษาธรรมเเทน
คุณไม่สงใสบ้างรึ ว่าครูท่านนี้มีดีอะไร

ทุกวันนี้ถึงท่านไม่อยู่ เเต่หลังสูตรยังเหมือนเดิม ลองมาอยู่สวนโมข์
อบรมจิตตามเเนวท่านดู ถ้าเหมื่อนคุณคิดจริงไม่ว่ากันเเน่.

เเต่ถ้าไม่มีเวลาก็ลองเข้ามาเที่ยวดู จะได้รู้ว่าเค้าอยู่เค้าสอนกันอย่างไร
เหมือนเราคิดไหม ที่นี้เย็นเเละสงบกว่าที่คิด

สำหรับบางคนที่บอกว่าเป็นลูกศิษย์ หรืออะไรก็ตาม จะถ่ายทอดความคิดออกมาเเล้วบอกว่าเป็นของท่านพุทธทาสนั้น อยากทราบว่าเชื่อได้เเค่ไหน
ขนาดว่าลองเอาคนมา5คน ให้คนเเรกพูด บอกต่อๆกันมาถึงคนที่5ยังพูดไม่เหมือนคนเเรกเลย อันนี้ลองคิดเเยกดูเอาเเอง

ขอเเสดงความคิดเห็นเเค่นี้จบ.

 

ขออนุญาติเพิ่มเติมคค่ะหลวงปู่ท่านนด่าตอนท้ายว่าก็เเพราะเราทั้งหมดถูกครอบโดยความโง่
เราถึงต้องมีชีวิตโง่ๆ และทำให้ต้องเป็นทุกข์ (ถ้าจิตมันไม่มีกิเลส ตัณหา มันจะเกิดมาทำไม) ดังนั้นท่่านที่่กล่าวว่าวิญยาณเเดิมแท้เป็นประภัสสสรรนั้นป็นผู้ไไม่เข้าใใจเรื่องจิต

 

ก่อนจะพูดอะไรที่คิดว่าจบที่ความคิดเราถูก นั้นเท่ากับใจเเคบ
ถ้าคุณตีความท่านพุทธทาสได้เเค่นี้ ขอเเนะนำให้ไปศึกษาให้มากขึ้น
เพราะสิ่งที่คนเป็นร้อยเป็นพันคนที่ได้รับการถ่ายทอดพุทธศาสนาจากท่าน
บอกได้ว่า ไม่เหมือนกับที่คุณว่ามา ทุกคนต้องรักเคารพพระพุทธเจ้า ต้องทำจริง ปฏิบัติจริง ตามธรรมเที่ยงที่พุทธองค์ทรงสั่งสอน

ทำไมคุณไม่คิดบ้างว่าแม้แต่ชาวต่างชาติที่คิดว่าเเวะมาเที่ยวสวนโมข์
แต่สุดท้ายไม่ได้ออกไปเที่ยว กลับต้องมาบวชศึกษาธรรมเเทน
คุณไม่สงใสบ้างรึ ว่าครูท่านนี้มีดีอะไร

ทุกวันนี้ถึงท่านไม่อยู่ เเต่หลังสูตรยังเหมือนเดิม ลองมาอยู่สวนโมข์
อบรมจิตตามเเนวท่านดู ถ้าเหมื่อนคุณคิดจริงไม่ว่ากันเเน่.

เเต่ถ้าไม่มีเวลาก็ลองเข้ามาเที่ยวดู จะได้รู้ว่าเค้าอยู่เค้าสอนกันอย่างไร
เหมือนเราคิดไหม ที่นี้เย็นเเละสงบกว่าที่คิด

สำหรับบางคนที่บอกว่าเป็นลูกศิษย์ หรืออะไรก็ตาม จะถ่ายทอดความคิดออกมาเเล้วบอกว่าเป็นของท่านพุทธทาสนั้น อยากทราบว่าเชื่อได้เเค่ไหน
ขนาดว่าลองเอาคนมา5คน ให้คนเเรกพูด บอกต่อๆกันมาถึงคนที่5ยังพูดไม่เหมือนคนเเรกเลย อันนี้ลองคิดเเยกดูเอาเเอง

ขอเเสดงความคิดเห็นเเค่นี้จบ.

 

เรื่องที่พระไทยไปเขียนหนังสือเหยียบย่ำพระพุทธศาสนาในต่างแดนนั้น ถ้าเป็นเรื่องจริง ก็เป็นเรื่องที่น่าประณาม มหาเถรสมาคมควรสอบสวนให้กระจ่างชัด ว่าเขียนเช่นนั้นได้อย่างไร

เรื่องบาปบุญ กับ หลักอนัตตานั้น ถ้าศึกษาไม่ดี ไม่เข้าใจ ก็จะคิดว่าขัดแย้งกัน ด้วยความที่ว่าทุกอย่างเป็นอนัตตานี่เอง โดยสภาพแล้ว แม้พระเจ้า ก็ย่อมไม่ใช่สิ่งที่ยิ่งใหญ่อะไร เพราะว่าเป็นอนัตตาเหมือนสรรพสิ่ง นี่ว่าโดยหลักของเรา แต่เราก็คงไม่เอาหลักนี้ไปยัดเยียดให้ใครเชื่อตามเรา หรือแม้แต่จะคิดเอาไปเป็นเครื่องมือในการพูดจาถากถางดูหมิ่น สิ่งเคารพบูชาในศาสนาอื่น

แน่นอนว่า เรายอมรับไม่ได้แน่ที่มาบอกว่า พระพุทธเจ้าเป็นประกาศกของพระเจ้าหรือบุตรของพระเจ้า ไม่รู้เอาอะไรมาพูด เป็นการกล่าวตู่กันลอย ๆ พระเองก็ไม่ควรไปพูดไปเขียนเช่นนั้น แม้ชาวคริสต์เองก็ไม่ควรที่จะคิดอย่างนั้นได้ เพราะเท่าที่ศึกษากันมาก็คือ บุตรของพระเจ้าก็คือพระเยซูนั่นเอง อยู่ ๆ จะมากล่าวตู่เอาพระพุทธเจ้าเป็นบุตรของพระเจ้าไม่ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็จะกล่าวตู่เอาใครก็ได้ที่มีลักษณะดี ๆ เป็นบุตรของพระเจ้าไปเสียหมด

อีกประเด็นหนึ่ง คือ พระเจ้าก็เปรียบเสมือนพระธรรม อันนี้พูดได้ไง พระพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรม ประกาศธรรม ก็คือ รู้จักพระเจ้า ประกาศพระเจ้า พูดได้ไง เพราะว่าหลักธรรมทางพุทธศาสนาที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้นั้น ล้วนแต่ปฏิเสธพระเจ้าโดยสิ้นเชิง ว่า พระเจ้าไม่ได้อยู่เหนือมนุษย์ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการกระทำของมนุษย์ เทวดาฟ้าดินไม่ได้มีอำนาจดลบันดาลประทานอะไรให้ใครได้ เป็นเพียงแค่เพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตายเท่านั้น ช่วยเหลือได้บ้างเล็กน้อย เพราะฉะนั้น พูดอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น ที่จริง ไม่ควรรุกรานกันด้วยหลักการ นี่คือการรุกรานกันด้วยหลักการ(ทฤษฎี/วาทะ)

แต่ประเด็นต่อไปที่หลวงปู่โง่นพูดถึง คือ ถ้าวิญญาณเดิมแท้ประภัสสรจริงอย่างว่า มันก็จะขัดกับหลักอิทัปปัจจยตา หรือ ปฏิจจสมุปบาท นั่นเอง ข้อนี้ต้องขอวิเคราะห์กันหน่อยละครับ ไม่งั้นเถียงกันไม่รู้จบ ก่อนอื่น เราต้องหาว่า จิตเดิมแท้ประภัสสร คำนี้มาจากไหน ที่จริงมีพุทธพจน์บทหนึ่งที่ตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย จิตนี้ประภัสสร แต่ขุ่นมัวเพราะกิเลสที่จรมา ถ้าจำไม่ผิดบาลีว่า ปภสฺสรมิทํ ภิกฺขเว ฯลฯ หลายคนอธิบายว่า จิตเดิมแท้สว่างใส แต่มัวหมองเพราะกิเลสที่จรมา ไปใส่คำว่าจิตเดิมแท้ แต่คำอธิบายที่แตกต่างไปจากนี้ก็คือ จิตนี้สว่างใสมาแต่เดิม(แต่ก่อน) แต่มามัวหมองเพราะกิเลสที่จรมา สองคำอธิบายนี้แตกต่างกัน สังเกตดูให้ดี คำอธิบายอย่างแรกไปเน้นที่ตัวจิต คำอธิบายที่สองเน้นที่กาลเวลา ผมอยากจะบอกว่า จิตนี้เคยผ่องใสมาก่อน ไม่ได้ขัดกับหลักอิทัปปัจจตา หลักอิทัปปัจจตาช่วยให้ทราบว่า จิตนี้แต่ละกาลเป็นอย่างไร เมื่อใดที่ระงับ บรรเทา หรือตัดวงจรอิทัปปัจจตาได้ เมื่อนั้น จิตก็ผ่องใส เพราะฉะนั้น จึงบอกว่า จริง ๆ แล้ว แต่ก่อนจิตก็ผ่องใสนะแหละแต่ แต่เพราะไม่มีสติ วงจรของอิทัปปัจจตาจึงวิ่ง เพราะฉะนั้น จงมีสติซะแล้วจิตก็จะผ่องใสอยู่อย่างที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว จิตที่เกิด ๆ ดับ ๆ อยู่นี้ มีทั้งตอนที่ผ่องใสและไม่ผ่องใส เวลาเราจะบอกคนให้เข้าใจว่า จิตเนี่ยมันไม่ได้ขุ่นมัวอยู่ตลอดเวลาหรอก มันก็เคยผ่องใส ก็ต้องพูดว่า จิตนี้มันปภัสสรมาก่อน แต่เพราะกิเลสที่จรมา(เพราะขาดสติ) มันจึงมัวหมองก็เท่านั้นเอง

 

จุดชนวนซะงั้น
ปฏิบัติธรรมให้สมควรแก่ธรรมของตนกันดีก่า

 

หลวงปู่โง่นท่านมรณภาพไปหลายปีแล้วนะครับ ผมได้มีโอกาสกราบท่านช่วงท้ายๆของชีวิตท่านก่อนที่จะเริ่มมีกระแสพระนางสุพรรณกัลยา เรื่องความดีของท่านผมไม่สงสัยครับ

 

ถึงว่าอยูุว่าเมื่เช้าตะหงิดดๆ เกืือบเป็นมูลเหตุให้ปรามาสพระไปแล้ว
เราก็ไม่เคยยสงสัยคววามดีของหลวงปู่โง่น ค่ะท่านเป็นพระดีมากรูปหนึ่งในร่มพุทธ แต่สงสัยวว่าคนอ่านจะเข้าใจไหมถึงต้องมาาโพสอธิบายตีความ
หลวงปูุ่่่ท่่านเเขียน critiques แนวฝรัั่ง ทำใหห้คนอ่านบ้างครั้งเข้าใจสสัับสนไปบ้าง
แต่คาดว่าท่านผู้อ่านนคงเข้าใจ logic แล้วนะะค่ะ
ขอขมาออีกครั้ง

 

รู้...ปล่อย ! รู้...ปล่อย !

................

ธรรมแท้...ไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก

มีแต่...

เกิดขึ้น... ตั้งอยู่... ดับไป...

 

ใครเขียนเปรียบเทียบว่าพระพุทธเจ้าว่าเป็น son of god ผิดแน่นอน

 

ผมเชื่อและศัทธาศาสนาพุทธครับ เพราะสอนให้รู้จักทุกข์อะไรคือทุกข์เหตุผลที่เกิดทุกข์ สอนให้รู้จักสุข สอนมนุษย์ให้มีศีล 5 ศีล 8 มีคุณธรรม สอนให้รู้จักขันธ์ 5 ว่าไม่ได้เป็นของเรา เราไม่ได้มีขันธ์ 5 ความตายเป็นของเที่ยงแท้ ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกมีเกิดและก็มีดับไปตามธรรมชาติ บาปบุญเท่านั้นที่จะติดตัวไปได้ ใครทำดีได้ดี ใครทำชั่วก็ได้ชั่ว

และสอนให้รู้จักปล่อยวาง ทุกสิ่งที่กล่าวมาแล้วไซร์นั้น สามารถพิสุทธ์ได้อย่างจริงจัง แม้แต่วิทยาศาสตร์ก็พิสูทธ์ได้ และผมก็เชื่อว่ามนุษย์ส่วนใหญ่ทุกวันนี้ในโลก มีแต่ความทุกข์ หายากนักที่จะหาความสุขได้ มีแต่การดิ้นร้นเพื่อปากท้องตัวเอง และเพื่อสนองตัญหาตัวเอง เพราะกิเลสอันหนาแน่ยึดเหนี่ยวจิตใจนั้นเอง เลยมองไม่เห็นแสงสว่างคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ....ผู้ใดเห็นธรรม....ผู้นั้นย่อมพบแต่ความสุข.....ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง Sufficiency Economy and Social Integrity.ตามแนวพระราชดำริ

[b-wai]

 

(b-flower) (b-flower) (b-flower) (b-flower) (b-flower)

ว่างเปล่าบริสุทธิ์แต่ยังไม่รู้แจ้งใช่มั้ยค่ะ อิๆๆ

 

นู๋ฟิล์มว่าพระโพธิสัตว์แม้ท่านไม่อรหันต์
รู้ธรรมไม่หมด ก็สามารถช่วยคนช่วยศาสนาได้
ดังนั้น ไม่แปลกถ้าท่านจะเทศนาแตกต่างจากองค์ที่นิพพานจริงๆ

มหายานเขาถึงสอนพวกพุทธภูมิว่า
"จะตั้งใจศึกษาพระธรรมให้เจนจบ"
ไงคะ เพราะพระโพธิสัตว์ศึกษาอาจ
ไม่เจนจบก็มีอยู่บ้าง แต่ก็ทำงานได้ค่ะ
ทำไงได้ละคะ ต้องยั้งจิตไม่ให้นิพพานนี่นา


เขาถึงว่า "อย่าเชื่อ" ต่อให้เขาดีจริงก็ตาม
เขาก็อาจมีพลาดได้มั้ง สู้เราปฏิบัติตามคำสอนพระอาจารย์มั่น
มีธรรมที่ปฏิบัติด้วยตัวเราเอง เห็นเอง ไม่ใช่เป็นหนอน
จำธรรมคนอื่นเขาอย่างเดียวนะคะ

 

หลวงปุ่โง่น ด้าน

(evil2) เรื่องที่อ่านมานั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเวี่ยนไหว้ตายเกิด บางคนอาจจะไม่เชื่อเรื่องแบบนี้แต่ก็ไม่ควรรบลู่ เพราะการเวียนไหว้ตายเกิดเป็นเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ เว้นแต่ว่าการเราตายไปแล้วเชื่อกันว่าเป็นวิญญาณแท้เรียกว่าประภัสสรขัดอิทัปปัจจะยะตา คิดกันว่าการเวียนไหว้ตายเกิดเป็นเรื่องความเชื่อเกี่ยวกับบุคคลแต่เป็นการพิสูจน์ไม่ได้แม้แต่พระพุทธเจ้าเอง

 

-:๑:- อนิจจัง เกิดแก่เป็นเรื่องธรรมชาติ -:๑:-

ผมเชื่อและศัทธาศาสนาพุทธครับ เพราะสอนให้รู้จักทุกข์อะไรคือทุกข์เหตุผลที่เกิดทุกข์ สอนให้รู้จักสุข สอนมนุษย์ให้มีศีล 5 ศีล 8 มีคุณธรรม สอนให้รู้จักขันธ์ 5 ว่าไม่ได้เป็นของเรา เราไม่ได้มีขันธ์ 5 ความตายเป็นของเที่ยงแท้ ทุก(b-glass) สิ่งทุกอย่างในโลกมีเกิดและก็มีดับไปตามธรรมชาติ บาปบุญเท่านั้นที่จะติดตัวไปได้ ใครทำดีได้ดี ใครทำชั่วก็ได้ชั่ว

และสอนให้รู้จักปล่อยวาง ทุกสิ่งที่กล่าวมาแล้วไซร์นั้น สามารถพิสุทธ์ได้อย่างจริงจัง แม้แต่วิทยาศาสตร์ก็พิสูทธ์ได้ และผมก็เชื่อว่ามนุษย์ส่วนใหญ่ทุกวันนี้ในโลก มีแต่ความทุกข์ หายากนักที่จะหาความสุขได้ มีแต่การดิ้นร้นเพื่อปากท้องตัวเอง และเพื่อสนองตัญหาตัวเอง เพราะกิเลสอันหนาแน่ยึดเหนี่ยวจิตใจนั้นเอง เลยมองไม่เห็นแสงสว่างคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ....ผู้ใดเห็นธรรม....ผู้นั้นย่อมพบแต่ความสุข.(555) (ping) (b-ahh) (b-cap)

 

ความเชื่อ

ดิฉันเชื่อและศัทธาศาสนาพุทธมากคะ เพราะสอนให้เรารู้จักทุกข์อะไรคือทุกข์เหตุผลที่เกิดทุกข์ สอนให้รู้จักสุข สอนมนุษย์ให้มีศีล 5 ศีล 8 มีคุณธรรม สอนให้รู้จักขันธ์ 5 ว่าไม่ได้เป็นของเรา เราไม่ได้มีขันธ์ 5 ความตายเป็นของเที่ยงแท้ ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกมีเกิดและก็มีดับไปตามธรรมชาติ บาปบุญเท่านั้นที่จะติดตัวไปได้ ใครทำดีได้ดี ใครทำชั่วก็ได้ชั่ว (b-glass)

และสอนให้รู้จักปล่อยวาง ทุกสิ่งที่กล่าวมาแล้วไซร์นั้น สามารถพิสุทธ์ได้อย่างจริงจัง แม้แต่วิทยาศาสตร์ก็พิสูทธ์ได้ และดิฉัน(ping) ก็เชื่อว่ามนุษย์ส่วนใหญ่ทุกวันนี้ในโลก มีแต่ความทุกข์ หายากนักที่จะหาความสุขได้ มีแต่การดิ้นร้นเพื่อปากท้องตัวเอง และเพื่อสนองตัญหาตัวเอง(evil2) เพราะกิเลสอันหนาแน่ยึดเหนี่ยวจิตใจนั้นเอง เลยมองไม่เห็นแสงสว่างคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ....ผู้ใดเห็นธรรม....ผู้นั้นย่อมพบแต่ความสุข.....ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง Sufficiency Economy and Social Integrity.ตามแนวพระราชดำริ ขอให้ทุกๆ เป็นคนดี.....เด้อจ๊ะ(555) ....จ๊ะ

 

หลวงปู่โง่น ค้าน[dispute] ข้อธรรมว่าด้วยวิญญาณเดิมแท้เป็นประภัสสรขัดอิทัปปัจจะยะตาเห็นด้วยเกี่ยวกับการคัดค้าน เพราะการทำความเข้าใจเกี่ยวกับประเด็นของการเวียนเกิด โดยต้องเข้าใจในเรื่อง 1.การเวียนเกิด ไม่สามารถจะพิสูจน์ได้ 2. การเวียนเกิด อาจมาจากความเชื่อของมนุษย์ 3. การเวียนเกิด ไม่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา ดังนั้นในหลัก อิทัปปัจจะยะตา ว่า อวิชา ปัจจะยาสังขารา สังขารา ปัจจะยา วิญญาณนัง ฯลฯ ทุกขะโทมะนัสสะ รวมความในพระอภิธรรมข้อนี้ว่า อวิชาความโง่ ความมืดบอด เป็นเหตุให้เกิดสังขาร คือความคิด ความปรุงแต่ง สังขารเป็นเหตุให้เกิดวิญญาณ วิญญาณเป็นเหตุให้เกิดนามรูป นามรูปเป็นเหตุให้เกิดผัสสะ ผัสสะ เป็นเหตุให้เกิดเวทนา เวทนาเป็นเหตุให้เกิดตัณหา ตัณหาเป็นเหตุให้เกิดอุปาทาน คือความไปยึดมั่น ถือมั่น อุปาทาน เป็นเหตุให้เกิดทุกข์ และตัวทุกข์นี้เองทำให้เกิด อวิชา ตัณหาอุปาทานอีกไม่รู้จบเป็นวัฏฏะ คือวนไปเวียนมา เวียนว่ายตายเกิด ไม่รู้จบไม่รู้สิ้น อนุโมทนา.................................สาธุ

 

ชอบมาก

ในความคิดของดิฉัน(b-glass) ฉันคิดว่าบ้างครั้งก็ดีและบางครั้งก็ไม่ดีฉันคิดว่าหลวงปู่ไม่น่าจะค้านเลยนะคะสิ่งผิดก็มีบ้างแหละด้วยธรรมและวิณญาณในการคานมันก็ไม่ดีหลอกค่ะธรรมและวิณญาณอีกทางก็ไม่ดีเหมือนที่หลวงปู่ว่าก็ได้นะคะอยากบอกให้ทุกคนได้อ่านคิดวิเคราะห์สาระดีความคิดอยากเชิญอ่านเด้อค่ะ(555)

 

การหาข้อมูล

(b-glass) หลวงปู่โง่น ค้าน[dispute] ข้อธรรมว่าด้วยวิญญาณเดิมแท้เป็นประภัสสรขัดอิทัปปัจจะยะตาเห็นด้วยเกี่ยวกับการคัดค้าน เพราะการทำความเข้าใจเกี่ยวกับประเด็นของการเวียนเกิด โดยต้องเข้าใจในเรื่อง 1.การเวียนเกิด ไม่สามารถจะพิสูจน์ได้ 2. การเวียนเกิด อาจมาจากความเชื่อของมนุษย์ 3. การเวียนเกิด ไม่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา ดังนั้นในหลัก อิทัปปัจจะยะตา ว่า อวิชา ปัจจะยาสังขารา สังขารา ปัจจะยา วิญญาณนัง ฯลฯ ทุกขะโทมะนัสสะ รวมความในพระอภิธรรมข้อนี้ว่า อวิชาความโง่ ความมืดบอด เป็นเหตุให้เกิดสังขาร คือความคิด ความปรุงแต่ง สังขารเป็นเหตุให้เกิดวิญญาณ

 

ทํานายความรักกรุ๊ปเลือด

(b-glass) หลวงปู่โง่น ค้าน[dispute] ข้อธรรมว่าด้วยวิญญาณเดิมแท้เป็นประภัสสรขัดอิทัปปัจจะยะตาเห็นด้วยเกี่ยวกับการคัดค้าน เพราะการทำความเข้าใจเกี่ยวกับประเด็นของการเวียนเกิด โดยต้องเข้าใจในเรื่อง 1.การเวียนเกิด ไม่สามารถจะพิสูจน์ได้ 2. การเวียนเกิด อาจมาจากความเชื่อของมนุษย์ 3. การเวียนเกิด ไม่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา ดังนั้นในหลัก อิทัปปัจจะยะตา ว่า อวิชา ปัจจะยาสังขารา สังขารา ปัจจะยา วิญญาณนัง ฯลฯ ทุกขะโทมะนัสสะ รวมความในพระอภิธรรมข้อนี้ว่า อวิชาความโง่ ความมืดบอด เป็นเหตุให้เกิดสังขาร คือความคิด ความปรุงแต่ง สังขารเป็นเหตุให้เกิดวิญญาณ