หลวงปู่ใจ ธมฺมสโร วัดเชิงเลน พระอุปัชฌาย์แห่งลุ่มน้ำนครชัยศรี

หลวงพ่อพระอุปัชฌาย์สุดใจ ธมฺมสโร หรือที่ชาวบ้านเรียก นามของท่านว่า หลวงปู่ใจ วัดเชิงเลน อดีตเจ้าอาวาวัดเชิงเลน ตำบลบางช้าง อำเภอ สามพราน จังหวัดนครปฐม เป็นพระเถระนักปกครองและเป็นพระเกจิอาจารย์เรืองนามรูป หนึ่งของอำเภอสามพราน เป็นพระ อุปัชฌาย์ของ หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม

ในสมัยที่บรรพชาเป็นสามเณร หลวงปู่ใจเกิดเมื่อวันจันทร์ เดือน 6 ปีขาล พ. ศ.2409 ที่บ้านหงส์ อำเภอ สามพราน จังหวัดนครปฐม โยมบิดา ชื่อผึ้ง มารดาชื่อส้มจีน นามสกุลสีผึ้ง มีพี่ 1 คน ได้แก่นางวัน แพถนอมและน้อง 3 คน ได้แก่พระครูไพศาลธรรมวาที (จิตร) นายผาด สีผึ้ง นางผิว อินทรหัวย่าน ประกอบอาชีพทำนา มีฐานะดี จึงได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานที่ กรุงเทพฯ อายุ 21 ปีจึงบรรพชาอุปสมบท ณ วัดเชิงเลน มีหลวงพ่อแสง วัดนางสาว อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร เป็นพระอุปัชฌาย์ ประมาณพรรษาที่ 4-5 ได้รบการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดเชิงเลน

หลวงปู่ใจได้ปกครองดูแลพระสงฆ์สามเณรวัดเชิงเลนให้อยู่ในความเป็นระเบียบเรียบร้อยเป็นอย่างดีจึงเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านและคณะสงฆ์อำเภอสามพราน หลวงปู่ใจได้รับการแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์เมื่อพ.ศ.2464 และต่อมาได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะหมวด(ปัจจุบันคือเจ้าคณะตำบล)เมื่อพ.ศ.2475กระทั่งได้รับการแต่งตั้งเป็นพระปลัดใจ ฐานานุกรมของพระทักษิณานุกิจ(หลวงพ่อผัน) วัดสรรเพชญ โดยสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรม พระยาวชิรญาณวโรรส เป็นผู้ประทานแต่งตั้ง และพระพุทธวิถีนายก( หลวงปู่บุญ) วัด กลางบางแก้ว เป็นผู้เสนอแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะหมวดการครั้งนี้ก็ได้รับพระเมตตาประทานแต่งตั้งโดยสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรสเช่นเดียวกัน หลวงปู่ใจเป็นนักพัฒนาได้สร้างถาวรวัตถุต่างๆ ไว้ภายในวัดเชิงเลน เป็นจำนวนมากทำให้เป็นวัดทีมีความ เจริญรุ่งเรืองสูงสุด โดยที่วัดนี้

อยู่ริมแม่น้ำท่าจีนหรือแม่น้ำนครชัยศรีจึงมีเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ทั้งฝ่ายสงฆ์และฆราวาสมาแวะเยี่ยมเยือนอยู่เสมอมีหลักฐานบันทึกในหนังสือประวัติหลวงปู่ใจ วัดเชิงเลนกล่าวว่าพ.ศ.2447 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว เสด็จทางชลมารคผ่านมาและได้ทรงประทับพักผ่อนเสวยพระกระยาหารที่ศาลาตรีมุข วัดเชิงเลน หลวงปู่ใจพร้อมด้วยคณะศิษย์ถวายการต้อนรับต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นำเงินบรรจุใส่กระป๋องเงินจำนวน12บาทถวายหลวงปู่ใจวัดเชิงเลน หลวงปู่ใจเก็บรักษาเงินพระราชทานไว้จนกระทั่งมรณภาพงาน พระราชทานเพลิงศพพระบรมวงศานุวงศ์ ผู้ใหญ่พระพุทธเจ้าหลวงทรงโปรดเกล้าฯให้นิมนต์หลวงปู่ใจไปร่วมงานทรงถวายสิ่ง ของให้หลวงปู่ใจประกอบด้วยบาตรใหญ่ปิ่นโตเรือและตะบันหมากนอกจากนี้หลวงปู่ใจยังได้รับ พระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้หลวงปู่ใจเข้าเฝ้าที่พระราชวังสนามจันทร์นับว่าหลวงปู่ใจเป็นพระเถระสำคัญที่ได้ รับพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งสอง พระองค์

หลวงปู่ใจนอกจากเป็นพระเถระนักพัฒนาแล้วท่านยังได้รับการยกย่องว่าเป็นพระเกจิอาจารย์รูปหนึ่งของลุ่มน้ำนครชัยศรีเป็นพระที่มีวาจาศักดิ์สิทธิ์เรือง อาคมมีพลังจิตตานุภาพสูงมีความรอบรู้เรื่องโหราศาสตร์และแพทย์แผนโบราณ เชี่ยวชาญการทำน้ำมนต์ขับไล่คุณไสยภูตผีปีศาจตลอดทั้งการประกอบพิธีกรรมต่างๆ วัตถุมงคลเครื่องรางของขลังที่ท่านสร้างไว้ได้แก่ผ้ายันต์อิติปิโสแปดทิศ ตะกรุดโทน ตะกรุดสาลิกา ตะกรุดมหาอุด ตะกรุดเมตตามหานิยม และเหรียญรูปเหมือน โดยเฉพาะเหรียญพระอุปัชฌาย์สุดใจ ธมฺมสโร เป็นเหรียญที่นิยมว่ามีพุทธคุณสูงอธิษฐานจิตปลุกเสกโดยพระเกจิอาจารย์รุ่นเก่า เช่น หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ หลวงพ่อผัน วัดสรรเพชญ เป็นต้น หลวงปู่ใจมรณภาพเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2481 สิริอายุรวมได้ 73 ปี พรรษา 52

วัดเชิงเลนเป็นวัดเก่าแก่สร้างตั้งแต่ ครั้งกรุงศรีอยุธยาเมื่อ พ. ศ2200 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา พ. ศ.2430ที่ได้นามว่าวัดเชิงเลนเพราะอยู่ริมแม่น้ำท่าจีนพื้นที่เป็นเลนโคลนมากจึงได้เรียกว่าวัดตีนเลน ต่อมาเรียกเป็นวัดเชิงเลน ปัจจุบันมีร่องรอยหลักฐาน แสดงประวัติความเป็นมาของวัดพอมีหลงเหลืออยู่ เช่น พระเจดีย์เก่า ศาลาตรีมุข พระพุทธรูปประจำอุโบสถเนื้อศิลาแลงรวมทั้งซากช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ของเก่าที่วัดรื้อทิ้ง เป็นฝีมืองานศิลปะของชาวบ้านวัดควรจัด ทำเป็นพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น

เพื่อเป็นอนุสรณ์และเพื่อการศึกษาค้นคว้าต่อไปกล่าวกันว่าในยุคของหลวงปู่ใจเป็นยุคทองของวัดเชิงเลนมีความเจริญรุ่งเรืองครบถ้วนทุกด้านหลวงปู่ใจได้สร้างโรงเรียนประชาบาลขึ้นมาเพื่อส่งเสริมการศึกษาของเยาวชน โดยใช้ศาลาการเปรียญวัดเชิงเลนเป็นสถานที่เล่าเรียนตั้งแต่ พ. ศ.2463 เปิดสอนชั้น ป.1-ป.3 มีนักเรียนรุ่นแรกรวม 58 คนครูใหญ่คนแรกชื่อว่า นายตี่ ภู่ทอง (ใจรักษา) มีพระ เป็นครูสอนและจ้างครูมาสอน ต่อมาโรงเรียนยุบเลิกไปเพราะไม่มีเงินจ้างครูสอน หลวงปู่ใจได้พยายามเปิดโรงเรียนอีกครั้งโดยใช้ทุนทรัพย์ส่วนตัวของท่านและทางราชการส่งครูมาปฏิบัติการส อน หลวงปู่ใจร่วมกับนายอำเภอ สามพรานชื่อขุนนครรัฐเขตต์ (สุนทร ตามไท) จัดหางบประมาณและได้รับบริจาคจากชาว บ้านเพื่อสร้างอาคารเรียนแต่ยังไม่ทันเสร็จท่านก็ละสังขารไปจึงได้ตั้งชื่อ โรงเรียนว่า โรงเรียน ปะชาบาลตำบลบางช้าง 3 (นครใจราษฎร์ วัดเชิงเลน) เปิดป้าย อาคารเรียนเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2482 ต่อาสมัยพระครูพิสิฐ พัฒนาการ (ทองสุก โฆษโก) เป็นเจ้าอาวาสวัดเชิงเลน ได้ย้ายโรงเรียนมาตั้งบนที่ดินของวัด จำนวน 7 ไร่ 3 งาน 22 ตาราง วา สร้างอาคารใหม่เปิดใช้ พ. ศ.2521 โรงเรียนวัดเชิงเลนมีความเจริญ รุ่งเรืองมาตามลำดับสมเจตนารมณ์ของหลวงปู่ใจที่ได้เริ่มก่อตั้งโรงเรียน ปัจจุบันโรงเรียนวัดเชิงเลน เปิดสอนตั้งแต่ระดับปฐมวัยถึงชั้นประถมศึกษาปี ที่ 6 มี นางสาววรางค์ เวชประเสริฐ เป็น ผู้อำนวยการ

โรงเรียนวัดเชิงเลนเป็นโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษานครปฐม เขต 2 มีชื่อเสียงเกียรติยศได้รับรางวัลดีเด่นและประกาศเกียรติคุณด้านต่างๆ เช่นการแสดงศิลปวัฒนธรรมด้านดนตรีไทย รางวัลจากการแข่งขันมหกรรมดนตรีเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครอง สิริราชสมบัติครบ60ปีประเภทวงอังกะลุงได้รับเชิญให้ร่วมแสดงกิจกรรมศิลปวัฒนธรรมไทยเนื่องในงานสำคัญๆ ของจังหวัดนครปฐมได้รับประกาศเกียรติคุณด้านการ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติ การ อนุรักษ์แม่น้ำท่าจีน ได้รับรางวัลการอ่านยอดเยี่ยม เป็นต้น

ขณะนี้โรงเรียนวัดเชิงเลนกำลังสร้างอาคารเรียน2ชั้นแบบพิเศษเพื่อเป็นอาคารอเนกประสงค์ผู้มีจิตศรัทธาจะร่วมสมทบทุนสร้างอาคารเรียนดังกล่าวติดต่อได้ที่ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดเชิงเลน หมายเลขโทรศัพท์ 0-3429-5054 และ 0-9783-2529หรือท่านจะไปเที่ยวชมทัศนียภาพของโรงเรียนที่อยู่ริมแม่น้ำนครชัยศรี เที่ยวชม ธรรมชาติสิ่งแวดล้อมแหล่งเรียนรู้ทางการศึกษาก็ไปที่โรงเรียนวัดเชิงเลนและขอเชิญกราบขอพรรูปเหมือนหลวงปู่ใจใต้ฐานบรรจุอัฐิของท่านมีอภินิหารศักดิ์สิทธิ์ ปรากฏให้พบเห็นอยู่ตลอดเวลาจึงมีผู้ไปกราบไหว้บูชาอยู่ เสมอ

 

วัดเชิงเลน

บ้านผมเองค๊าบอยู่หลังวัดเลย อิอิ นับถือหลวงปู่ใจตลอดมาตั้งแต่ผมเล็กๆ เหรียญพระอุปัชฌาย์สุดใจ ธมฺมสโร เป็นเหรียญที่นิยมว่ามีพุทธคุณสูง ที่บ้านเหลือไม่กี่องค์ครับตัวผมก็แขวนอยู่ แคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวง
ถือว่าใครได้กราบไหว้บูชาหลวงปู่ใจแล้วจะสมความปรารถนาทุกประการ