หลวงพ่อดาบส สุมโน หัวใจกลายเป็นหินแก้วมรกต

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย NAMOBUDDHAYA, 21 กุมภาพันธ์ 2019.

  1. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,103
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,003
    ค่าพลัง:
    +69,974
    หลวงพ่อดาบส สุมโน หัวใจกลายเป็นหินแก้วมรกต
    โดย ทวีวัฒน์ เติมฤทธิ์ (อู๋)( ปัจจุบันบวชเป็นพระสงฆ์)



    ?temp_hash=1c954e3226e42f09a95ac46347bce0cd.jpg


    ?temp_hash=1c954e3226e42f09a95ac46347bce0cd.jpg

    ?temp_hash=1c954e3226e42f09a95ac46347bce0cd.jpg






    เมื่อราวๆ 20 กว่าปีมาแล้ว ผมและเพื่อนๆ ได้มีโอกาสไปกราบท่านหลวงพ่อดาบสที่อาศรมของท่าน ต้องยอมรับอย่างหนึ่งเลยว่าหลวงพ่อท่านนี้เป็นผู้ที่มีบุคลิกลักษณะน่าเลื่อมใสมาก ราศีของท่านผุดผ่อง ผิวพรรณขาวสะอาดอมชมพู พูดจาเบาไม่พูดมาก ผมสามารถรับรู้ได้ทันทีถึงความร่มเย็นและกระแสเมตตาที่ท่านแผ่ออกมาเมื่อได้มาอยู่ใกล้ท่าน

    มูลเหตุที่ผม (อู๋) ต้องดั้นด้นไปกราบท่านถึงจังหวัดเชียงราย ก็เพราะเพื่อนของผมคนหนึ่งชื่อคุณเตี๋ยมซึ่งทำงานที่ธนาคารกรุงไทยนั้นเขาเป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดกับท่านได้เล่าให้ผมฟังว่า เขาได้เข้าไปกราบหลวงพ่อดาบสแล้วถามว่า "หลวงพ่อรู้จักหลวงป๋าที่วัดหลวงพ่อสดไหมครับ องค์นี้ท่านเป็นอย่างไรบ้าง" หลวงพ่อดาบสนิ่งไปเพียงครู่เดียวก็พูดขึ้นว่า "หลวงป๋าท่านนี้ท่านเป็นพระโพธิสัตว์นะ ที่วัดของท่านมีพระธาตุที่หายากมากชนิดที่ผู้อื่นไม่มี" เพื่อนของผมจึงมาถามผมว่าเป็นความจริงหรือไม่เพราะทราบว่าผมสนิทกับหลวงป๋า ผมก็บอกเขาไปว่า "เป็นความจริง แล้วคุณรู้มาได้อย่างไรเพราะเรื่องนี้แม้แต่พระส่วนใหญ่ในวัดยังไม่รู้กันเลย"

    เชื่อกันว่าอดีตชาติของท่านคือพระอาจารย์ของเจ้าชายสิทธัตถะดังนั้นท่านจึงเป็นผู้ที่มีความรู้มาก ใครถามเรื่องอะไรท่านก็ตอบได้หมด ไม่ว่าเพื่อนของผมจะถามท่านหลวงพ่อดาบสเรื่องอะไรท่านก็ตอบได้ นับว่าหลวงพ่อดาบสท่านเป็นผู้ที่รู้จริง รู้ทุกอย่างในโลกสามนี้ ถามอะไรท่านตอบได้หมดทั้งๆ ที่ท่านก็อยู่แต่ในป่าในเขาไม่ออกสังคม ไม่รับกิจนิมนต์ไปไหนนอกวัด

    หลวงพ่อดาบสเคยทดสอบพลังจิตของท่านโดยได้พาเพื่อนของผมไปที่ด้านหลังอาศรมซึ่งเป็นที่ราบกว้างใหญ่ ท่านบอกกับเพื่อผมว่าเธอคอยดูนะ แล้วท่านก็ตบมือขึ้น 1 ครั้ง ปรากฏว่าแผ่นดินที่ราบนั้นได้ก่อตัวสูงขึ้นจนกลายเป็นภูเขาลูกหนึ่ง เพื่อนผมดูอยู่ด้วยความตกตะลึงเพราะไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดมีภูเขาขึ้นมาได้ พอท่านตบมืออีกครั้งภูเขาลูกนั้นก็ย่อตัวลงจนกลับกลายเป็นพื้นที่ราบเหมือนเดิม ทำให้ผมนึกถึงเรื่องที่คนโบราณเล่าไว้ว่าพระฤๅษีวาสุเทพมีอิทธิฤทธิ์สามารถเนรมิตพระราชวังถวายแก่เจ้าแม่จามเทวี ท่านก็คงจะใช้ฤทธิ์แบบเดียวกับหลวงพ่อดาบสแบบนี้นั่นเอง

    ต่อมาท่านละสังขาร ทางลูกศิษย์จึงได้สร้างเมรุเพื่อประชุมเพลิงท่านที่อาศรมไผ่มรกต ตอนประชุมเพลิงปรากฏว่าเปลวไฟที่เผาสรีระของท่านไม่ใช่เป็นสีแดงเหมือนไฟทั่วไปแต่เป็นเปลวไฟสีเขียว แล้วที่มหัศจรรย์ก็คือหัวใจของท่านไม่ไหม้ไฟ และกลายสภาพเป็นหินสีเขียวมรกตให้เหล่าลูกศิษย์ได้เก็บไว้สักการะบูชาระลึกถึงท่าน ต่อมาอัฐิส่วนอื่นก็กลายเป็นพระธาตุ หลวงปู่สิม พุทธจาโร เคยพูดให้ลูกศิษย์ฟังว่า "ถ้าฉันไม่อยู่แล้ว มีอะไรสงสัยให้ไปถามกับหลวงพ่อดาบส หลวงพ่อองค์นี้แทนหลวงปู่ได้"

    ท่านสอนเรื่องการนั่งสมาธิว่า "ให้เข้าไปนั่งในที่ๆ สงัดและปลอดภัยแล้วเริ่มนึกถึงตัวเลข 1-8 คนเกิดวันอาทิตย์คือเลข 1 และวันเสาร์คือเลข 7 ส่วนวันพุธกลางคืนคือเลข 8 ให้แต่ละคนหลับตาแล้วนึกถึงเลขของตัวเอง ดูให้เลขลอยเด่นชัดเจนทั้งหลับตาและลืมตา หลังจากนั้นทำตัวเลขให้ว่างหายไป ว่างจนถึงที่สุด แล้วเอาความว่างมาครอบตัวเราไว้ ตัวเราและความว่างเป็นหนึ่งเดียวกันถือว่าได้พื้นฐานตาทิพย์แล้ว

    ให้รู้สึกถึงความว่างไม่มีอะไรรอบตัวเราว่างเปล่าไม่มีอะไรเลย…เดือนดาว ป่าไม้ ภูเขา ก้อนหิน ก้อนดิน แม้เม็ดทรายเม็ดหนึ่งก็ไม่มี สิ่งที่มีก็คือความว่าง…เป็นธาตุว่าง ธาตุว่างนี้ไม่มีรูปร่างที่จะเห็นได้ ธาตุว่างนี้มีอยู่รอบตัวเราเอิบอาบไปทั่ว นับไม่ได้ ใช้ไม่หมด ทุกสิ่งทุกอย่างอาศัยธาตุว่าง แต่ธาตุว่างไม่ต้องอาศัยทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นธาตุอมตะ ไม่มีเริ่มต้น ไม่มีที่สุด เมื่อเห็นสังขารเป็นของว่างเปล่า จิตก็เข้าถึงความว่าง ธาตุว่าง (นิพพาน) จะไปที่ไหนก็ได้ ถ้าอยากรู้อะไรก็อธิษฐานถามเอาในความว่างนั้น ความรู้ต่างๆ จะผุดขึ้นมาให้เรารู้เราเห็นเอง"

    หลวงพ่อดาบส สุมโน เดิมชื่อสง่า เจริญจิตต์ เกิดเมื่อวันที่ ๑๒ กันยายน ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ พ.ศ. ๒๔๖๗ ปีชวด ตำบลบางกระไชย อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี เป็นลูกคนที่ ๖ ในจำนวนทั้งหมด ๘ คน บิดาชื่อนายเถียน มารดาชื่อนางเวียง

    ครั้นเมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๕ อายุได้ ๑๘ ปี คุณป้าได้นำเด็กชายสง่าไปบรรพชาที่วัดจันทนารามจังหวัดจันทบุรีเพื่อเรียนปริยัติธรรม ซึ่งต่อมาสามารถสอบได้ทั้งนักธรรมตรีและนักธรรมโท พ.ศ. ๒๔๙๐ ท่านเป็นลูกศิษย์ของท่านพ่อลี วัดอโศการาม ในปีพ.ศ. ๒๔๙๐ ด้วยจิตที่มุ่งมั่นจะปฏิบัติธรรมแสวงหาธรรมจึงออกเดินธุดงค์ไปจังหวัดเชียงใหม่ในเขตอำเภอพร้าว ปรากฏว่าชาวบ้านศรัทธาท่านมากนับวันก็มีผู้มาหาทำบุญกับท่านมากขึ้นทุกวัน

    เหตุนี้เองต่อมาจึงทำให้ท่านเกิดปัญหากับทางคณะผู้ปกครองสงฆ์ในย่านนั้น โดยทำทีมาขอดูใบสุทธิของท่านแล้วก็ยึดไปไม่ยอมคืนใบสุทธิให้ท่าน ท่านจึงอธิษฐานจิตขอเป็นนักบวชดาบสดีกว่า เพื่อจะได้ไม่เกิดข้อขัดแย้งกับพระผู้ปกครองอีก โดยท่านถือเพศเป็นพระดาบสตั้งแต่วันที่ ๒๘ มกราคม พ.ศ. ๒๔๙๔ แล้วท่านก็ได้ออกเดินธุดงค์ไปตามจังหวัดต่างๆ ทั้งแพร่ ลำปาง น่าน ยะลา ชุมพร และท้ายสุดปฏิบัติธรรมที่ “อาศรมไผ่มรกต” ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย จนมรณภาพ เมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๓๔ สิริอายุได้ ๗๖ ปี

    หลวงพ่อดาบสกล่าวไว้ว่า "เรามีวิธีการลัดที่ทำได้โดยไม่ยาก และไม่ต้องสนใจว่าเป็นสมถะภาวนาหรือวิปัสสนากรรมฐานภาวนา หลักมีอยู่อย่างเดียวว่าเรากำหนดปล่อยวางอารมณ์ ทำให้จิตใจว่างจากอารมณ์ หรือทำให้เข้าถึงจิตเดิม อันนี้ก็ไม่ต้องไปศึกษาเล่าเรียนอะไรหลายๆ อย่าง เมื่อจิตสงบ จิตผ่องใสแล้ว ก็จะเกิดญาณขึ้นมาทีหลัง หรือทำจิตให้บรรลุถึงขั้นความเป็นทิพย์ แล้วก็ย่อมจะสำเร็จประโยชน์ในโลกียะ หรือโลกุตระ ตามสมควรแก่บุญวาสนาบารมีของตน"
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...