หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน ..สมเด็จเกษไชโย พระเครื่องจังหวัดอ่างทอง หลวงปู่เล็ก วัดทำนบ

แผ่นยันต์ หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน เจ้าของเดิมให้หลวงพ่อลงให้ นานๆจะได้เจอสักแผ่น ปกติแล้วหลวงพ่อไม่ลงแผ่นตระกรุด ตระกรุดทุกชนิดของท่าน ท่านไม่ได้จารเอง เหตุด้วยมีความชราภาพมาก ยกเว้นแต่จารกำกับด้านนอก ด้วยอักขระเท่านั้น

แผ่นนี้หลวงพ่อ ลงจารตรงกลางด้วย ยันต์พุทธซ้อน ยันต์พุทธซ้อนพบเห็นหลวงพ่อลงจารน้อยมากๆ และลงกำกับด้วย มะอะอุ นะโมพุทธายะ นะชาลีติ เหมือนได้ตระกรุด 1 ดอก ที่หลวงพ่อจารเอง

ชอบเชิญครับ..... ราคา....5,500 บาท รับประกันลายมือให้ตลอดชีพ ดูง่ายสบายตา เจ้าของเดียวกับแผ่นที่แล้ว ที่ลงในร้านครับ

 

เอามาให้ศึกษาและสะสมอีกหนึ่งองค์ เป็นวัตถุมงคลที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ รักษา และบูชา ในยุคหนึ่งเมื่อก่อนปี 2500 เอามาเล่าสู่กันฟังง ถึงความขลังของพระยุคโบราณ หมอเทวดา วิชานิ้วเพชร หลวงปู่เต่า วัดนำพุ รักษาคนครั้งละหนึ่งศาลา เสกน้ำในแม่น้ำหน้าวัดเป็นน้ำมนต์ให้คนกิน นิ้วเพชรสั่งโรคได้ ให้หายต้องหาย ผีพรายต้องเกรง คัดของฝากไว้ที่ตะปูตอกเสาศาลา วาจาสิทธิ์ ผูกวิญญาณเฮี้ยน รู้วาระมรณะภาพ สูญฝีด้วยนิ้วเพชรกำหนดวันเวลาได้แม่นยำว่าฝีจะแตกตอนกี่โมง เสกกล้วยรักษาอัมพฤก ประสานกระดูกด้วยนิ้วเพชร เสกเกลือให้จืด แค่ชี้นิ้วเพชรผีกระเจิง ให้ผัวปวดท้องแทนเมีย ปราบผีพรายหน้าวัด เรื่องราวต่างๆอ้างอิงจากบุคลที่ทันยุคหลวงพ่อ และรับรู้กันมาด้วยสองตาตัวเอง ทั้งสิ้น สมเด็จผสมปรอทวิชาชั้นครู พระสมเด็จผสมปรอทซัดว่านยา หลวงปู่เต่า วัดน้ำพุ วิชาปรอทเป็นวิชาที่หาผู้ทำได้และรู้เคล็ดจริงๆนั้นปัจจุบันแทบไม่ต้องหา กันได้ทั้งผีและเทวดาที่เป็นมิจฉาทิฏฐิ ทำน้ำมนต์ถอนคุณกระทำ ประพรมสินค้า แก้อาถรรพ์ได้นานาประการ ด้วยฤทธิ์แห่งปรอทที่คุมอยู่ ที่ผสมอยู่ในเนื้อพระ สมัยก่อนการจะทำให้ปรอทแข็งตัว ไม่ใช่ของเล่น ถ้าคนศึกษาด้านวิชาปรอท จะทราบดีว่าปรอทคือ ธาตุที่เป็นที่สุดปรารถนาอย่างหนึ่งของ ผู้ศึกษาด้านวิทยาคม นั่นคือ ปรอทสำเร็จ บางคนทำจนกระทั่งตายก็ยังไม่สำเร็จถ้าไม่มีบุญวาสนา วิชาปรอทจึงศักดิ์สิทธิ์ การคัดของถอนของ ที่สำคัญเป็นตัวช่วยอย่างดีก็คือปรอท ครูบาอาจารย์ท่านจึงนำปรอทใส่ไว้ในเบี้ยแก้ ให้พกพาถอนคุณถอนของ สั่นเตือนภัย ก่อนจะนำปรอทมาใช้ก็จะมีกรรมวิธีที่ซับซ้อนมาก ผมเองก็ยังศึกษาไม่ได้ถึงขนาดละเอียดขนาดนั้น แต่เคยสนทนากับผู้ที่เรียนและรู้ในด้านการทำปรอทมาพอสมควร ทำให้ทราบว่า วิชาที่เกี่ยวกับปรอทนั้นไม่ใช่เรื่องเล่น ของจริงเขามีตำรับตำรา วิธีการ ที่สมัยปัจจุบันหาคนมีบารมีทำได้ยากยิ่งแล้ว เพราะต้องรู้สูตรและต้องค่ำเคร่งอยู่กับการทำอย่างมากนั่นเอง หลวงปู่เต่า วัดน้ำพุ ท่านเป้นที่ยอมรับของชาวบ้านมาตั้งแต่รุ่นก่อน นับถือเคารพกันดุจเทพ เทวดา ผมมีได้กล่าวเกินความจริงแต่ประการใดเลย ถ้าท่านได้เข้าไปพูดคุย หรือสนทนากับคนยุคที่ทันหลวงพ่อแล้ว รับรองว่าท่านจะอึ้งในบารมีความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อท่าน และรับรู้ถึงความศรัทธาที่ชาวบ้านน้ำพุมีให้กับท่าน เหตุด้วยท่านทำให้เห็นด้วยสองตา มิใช่เล่านิทานหลอกชาวบ้านนั่นเอง หลวงพ่อเต่าท่านทำอะไรด้วยความรู้จริงแตกฉาน และขลังด้วยวิชา บารมีโดยแท้จริง หลวงปู่เล็ก จนฺทสโร วัดทำนบ (ท่านที่อยากศึกษาประวัติปฏิปทาหลวงปู่เล็ก เรียนเชิญที่ ชมรมคนรักหลวงปู่เล็ก วัดทำนบ เฟสบุ๊ค) หลวงปู่ถือเป็นหนึ่งในศิษย์โดยตรง ที่สืบทอดเจตนารมณ์หลายประการของหลวงพ่อเต่า และสรรพวิชาต่างๆไว้อย่างลึกซึ้ง ด้วยท่านอยู่ปรนนิบัติรับใช้อยู่ยาวนานหลายปี ทั้งจารตระกรุดถวาย เป็นผู้ช่วยในเรื่องต่างๆที่หลวงพ่อเต่าเรียกใช้ หลวงปู่เล็กท่านเคยกล่าวกับลูกศิษย์ว่า "หลวงพ่อเต่าท่านเก่งจริง" สมัยก่อนนั้นความดังของหลวงพ่อเต่า ถ้าจะเล่ากันจริงๆ เท่าที่สอบถามมา คือ ชื่อเสียงท่านนั้นถ้าเทียบเกจิยุคปัจจุบันว่าดังขนาดไหน ก็ต้องบอกว่า "ดังระดับหลวงพ่อคูณ" เพราะสมัยก่อนผู้คนที่เข้ามาให้หลวงพ่อรักษานั้น อย่างที่เคยกล่าวไปแล้วในประวัติท่านว่า บางวันนับพันคน อย่างไม่มีๆก็สองสามร้อย สมัยก่อนการจะสร้างถาวรวัตถุอะไรต่างๆ แค่เพียงบอกว่าหลวงพ่อเต่าจะไปช่วยสร้าง หรือหลวงพ่อออกหน้ารับว่าจะช่วย รับรองไม่มีคำว่าไม่เสร็จ มีคำกล่าวว่า โรงเรียนวัดน้ำพุนั้น แทบไม่ต้องหาเงินทองอะไรมาสร้างมากมาย เพียงแต่หลวงพ่อให้พิมพ์ภาพท่านมาแจก คนทำบุญ โรงเรียนก็เสร็จแล้ว ก็เสร็จจริง ดังใจนึก ลูกศิษย์ลูกหาของหลวงพ่อ ล้วนแต่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ เป็นระดับนายทหารระดับสูงก็มาก หลวงพ่อจะเข้า กทม บ่อยมาก คนทางฝั่งธน แถบ พระรามสอง หรือแม้แต่ในเมืองชั้นใน รุ่นเก่า จะมีภาพหลวงพ่อเต่าเกือบทุกบ้าน ส่วนใหญ่จะเป็นภาพพิมพ์ ผ้ายันต์ เป็นต้น หลวงพ่อมรณะภาพเมื่อปี 2499 อายุ 60 ปี............เบ็น วิเศษฯ เรียบเรียง

#มรดกอันทรงคุณค่าที่หลวงพ่อได้ทิ้งไว้ให้ พระสมเด็จผสมปรอทเสก ราวปี 2490กว่า หลวงพ่อเต่า วัดน้ำพุ เนื้อปรอทชั้นครู ทรงคุณค่าด้วยอิทธิคุณแห่งปรอท ของดีมีคุณค่า แต่ราคาถูกเกิน

ท่านที่ขอบแนวเล่นปรอทอย่าพลาดเด็ดขาด เข้ามาอีก 1 องค์ 2,500 บาท #ปรอทชั้นครูพรึ๊บเลย แค่เนื้อปรอทก็สุดยอดแล้ว

เช่าแล้ว

 

พระชุดเล็กเสาห์ห้า พุทธคุณไม่เล็ก พระพิมพ์ หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน บรมครูเมืองอ่างทอง ราวปี 2490

เนื้อดิน พิมพ์นี้เป็นอีกหนึ่งพิมพ์ที่ลงหนังสือเล่มเก่าพระเครื่องเมืองอ่างทองเล่มสีดำ แต่บล๊อคนี้จะพบ เจอน้อยที่สุด นานๆได้เจอ สร้างก่อนเหรียญรุ่นแรกแน่นอน พระพิมพ์ชั้นครู แต่ราคาเบาๆ ขนาดกระทัดรัด สวยมากเรียบร้อย ไม่มีกระเทาะเลย ชอบสวยๆเชิญครับ

มีองค์เดียว 3,500 บาท สภาพพระพิมพ์นี้ปกติจะเป็นแบบนี้นะครับ ไม่ได้สวยลึกคมอะไรมาก สภาพนี้ถือว่าดีมากแล้วสวยแล้ว

 

วาระส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีไหม่
ลูกค้าทุกท่าน สนใจองค์ไหน
สอบถามต่อรองราคาได้ตามความพอใจ
ถ้าไม่หนักหนาสาหัสมาก
ขายให้ทุกองค์ครับ
เล็งๆองค์ไหนไว้สอบถามได้ครับ

 

เหรียญพัศยศ รุ่นแรก เนื้อเงินลงยา หายากมากๆ มีเหรียญเดียว 15,500 บาท

พระอาจารย์มานิตย์ วัดเงินบางพรหม

พระอาจารย์ได้จัดสร้าง เหรียญที่ระลึก (เลื่อนสมณศักดิ์) ที่ได้รับพระราชทาน เลื่อนสมณศักดิ์ขึ้นเป็นพระครูชั้นเอก ที่ พระครูวิธานสุตสุนทร เพื่อแจกแก่ญาติโยมทั่วไปที่มามุทิตาจิต และศิษยานุศิษย์ที่มีความศรัทธา ในการสร้างครั้งนี้ ได้จัดทำเหรียญเนื้อเงินลงยา ขึ้นมาให้ร่วมบุญบูชา เพื่อเป็นต้นบุญในการสร้างเหรียญทองแดงขึ้นมาแจก โดยเหรียญเนื้อเงินลงยานี้สร้างจำนวนเพียงแค่ 50 เหรียญ แต่ออกให้บูชาเพียง 30 เหรียญ ที่เหลืออีก 20 เหรียญ พระอาจารย์ท่านจะนำเอาไว้ถวายพระผู้ใหญ่หรือตามแต่ท่านจะเห็นสมควร

สวยงามและหาชมยากครับ

 

#มีแบ่งตลับเดียว หาดูยังยาก ตลับเนื้อเงิน อีกหนึ่งยอดแห่งวิชาสีผึ้ง วัดเงินบางพรหม พระอารามหลวง พระอาจารย์มานิตย์ ตลับเงินท่านท้าวประทุมพรหมบุตร หลังประทับยันต์มหาราชล้อมด้วยเทพชุมนุม สร้างเพียง 108 ตลับ เรื่องหมุนเวียนแทบไม่ต้องหา มีมาแบ่งตลับเดียวนะครับ หมายเลข 27

ราคา 5,500 บาท

 

##พระกลีบบัวเนื้อดินพิมพ์พระนอน ไร้ที่ติ นิยม ท๊อปสุด หายากสุด ปีๆนึงสวยๆรักเต็มๆนับองค์ได้ ของชุดพระเนื้อดินของหลวงพ่อ ราคา 8,500 บาท

พระเนื้อดินลงรัก คุณค่าที่คู่ควร ของเก่าน่าสะสม หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน พระเนื้อดินยุคแรกๆของหลวงพ่อสร้างก่อนเหรียญรุ่นแรกนานหลายสิบปี

ท่านเป็นผู้เรืองวิทยาคมเด่นมาก ในด้านโหราศาสตร์, น้ำมนต์ซึ่งการทำน้ำมนต์นี้ท่านปลุกเสกด้วยพระคาถา "แก้วสามโลก" พร้อมกันนั้นความรอบรู้เชี่ยวชาญในเรื่องตำรับยาแผนโบราณ สำหรับวัตถุมงคลของหลวงพ่อนุ่มนั้น ปรากฏว่ามีการจัดสร้างมากมายหลายแบบหลาย ประเภทหลายพิมพ์หลายเนื้อ อาทิ เหรียญรูปเหมือน เบี้ยแก้ พระเนื้อดินพิมพ์ต่างๆ เป็นต้น เพิ่มเติมนิดหน่อยครับ มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ทันหลวงพ่อนุ่มเล่าให้เซียนพระวิเศษฯ ฟังว่าสมัยนั้นหลวงพ่อจงและหลวงพ่อคำท่านสนิทสนมกันดีไปมาหาสู่กันเป็นประจำ และในขณะนั้นหลวงพ่อนุ่มท่านก็มีชื่อเสียงมากในจังหวัดอ่างทอง หลวงพ่อจงท่านจะลองวิชาหรืออาจจะทดสอบอะไรไม่ทราบ ท่านก็มาหาหลวงพ่อนุ่มที่วัด และจารตระกรุด เสกแล้วโยนลงไปในบาตรที่ใส่น้ำไว้เต็ม ผู้ใหญ่ท่านนั้นเล่าว่าตระกรุดชนกันยังกับปลากัดกัดกัน ชนกันจนน้ำกระเซ็น สักพักหนึ่ง ตระกรุดของหลวงพ่อจงจมลงก้นบาตรก่อนหลวงพ่อนุ่ม เป็นอันว่ารู้ผล
องค์นี้คลาสสิคมากๆครับ สวยมากๆเดิมๆเลยทีเดียว cr.เบ็น วิเศษ

 

#เบี้ยชั้นครูที่เลื่องลือแต่โบราณ

หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ เดิมๆเลี่ยมนาคเก่าหน้าทอง ดูศิลปการเลี่ยมให้ดีนะครับ เสร็จกันมาเยอะ ราคาสอบถาม ปรอทเต็มปริบเขย่าดังเล็กน้อย เดิมๆไม่มีรอยแกะ

ถอนคุณไสยเวท กันกระทำ เป็นมหาอุตม์ แม้แต่หมอฆารวาสผู้เรืองอาคมสมัยนั้นนามว่าโต๊ะราม ยังต้องพกเบี้ยแก้หลวงพ่อ หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ พระอาจารย์ที่เสือมเหศวรให้ความเคารพมากๆ หลวงพ่อคำ เขียนยันต์ หนุมานเชิญธงไว้ให้ติดตัว ผ้านี้มีอานุภาพมาก ใช้เวลาขี่ม้าออกปล้น จะโบกสะบัดไปมา
เบี้ยแก้ ซึ่งถือว่าเป็นวัตถุมงคล ที่มีชื่อเสียงมาแต่โบราณ เบี้ยแก้หลวงพ่อคำ ต้นสายตำราก็มาจากหลวงพ่อพักตร์. วัดโบสถ์ ซึ่งหลายท่านอาจไม่ทราบ ซึ่งการสร้างเบี้ยแก้ในสายตำรานี้ สำคัญมากคือการเสกเบี้ยให้เป็น ส่วนปรอทนั้นถ้าว่ากันจริงๆไม่ต้องใส่ก็ยังได้ เบี้ยแก้ในสายนี้จะต้อง บูชาเทวดาประจำเบี้ยซึ่งสำคัญมาก และขั้นตอนมาก หลังจากนั้นจึงจะทำการเสกเบี้ย ส่วนปรอทที่นำมาใส่ด้วยเพราะเหตุว่าปรอทนั่นมีฤทธิ์ถ้าเสกเป็นแล้วใช้ได้สารพัดอย่าง ท่านจึงมาใส่ไว้คู่กัน ซึ่งเป็นการผสมผสานวิทยาการของบรมครูยุคโบราณ ซึ่งตามตำราที่หลวงพ่อพักตร์ท่านได้มาแต่ครูวาตนั้นเป็นตำราการเสกเบี้ย ให้เป็น ส่วนวิธีเรียกปรอทให้ได้ดั่งใจนึกนั้นท่านได้มาแต่หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ยสมุทรปราการ ซึ่งหลวงพ่อคำท่านก็เรียกปรอทให้วิ่งเข้าเบี้ยได้ดุจมีชีวิตเช่นกัน แต่ท่านจะทำในยุคแรกๆไม่มาก ในตอนหลังใช้จับกรอกทั้งหมด เพราะเบี้ยแก้ท่านเลื่องลือมาก ไม่พอต่อความต้องการ จริงๆแล้วจะเรียกให้วิ่งเข้าหรือจับกรอกก็ไม่แตกต่างกันนัก เพราะใจความสำคัญอยู่ที่เสก ส่วนปรอทใส่เบี้ยของหลวงพ่อคำ ก็เป็นปรอทซัดด้วยว่านยาตามตำรา จนปรอทแข็งเป็นเม็ด ซึ่งต้องหุงเคี่ยวและผสมเติมว่านยาลงไป จนกว่าจะได้ที่ เพื่อฆ่าพิษปรอท เวลาเขย่าจึงดังแซ๊กๆ วิชาเบี้ยเป็นวิชาที่กัน และถอน แก้คุณไสยมนต์ดำ ของคนอื่นเขาที่ทำมา ผู้เสกต้องเก่งจริง และคัดของเขาได้ ไม่อย่างนั้นอายเขา หลวงพ่อคำ ถือว่ามีชื่อเสียงเลื่องลือมากด้านนี้ เล่าแล้วจะยึดยาวมาก เอาเป็นพอสังเขปเพียงเท่านี้ครับ cr.เบ็น วิเศษฯ

หาชมยากมากๆๆๆ ตัวแรกของร้าน ราคา 35,000 บาท พร้อมส่ง

ปิดให้พี่ j999 ครับ

 

วาระส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีไหม่
ลูกค้าทุกท่าน สนใจองค์ไหน
สอบถามต่อรองราคาได้ตามความพอใจ
ถ้าไม่หนักหนาสาหัสมาก
ขายให้ทุกองค์ครับ
เล็งๆองค์ไหนไว้สอบถามได้ครับ

 

#มาใหม่นานๆได้เจอครบชุดแท้ๆ

17,500 บาท หลวงพ่อภู วัดดอนรัก

เชือกเดิมๆ เชือกขาดปลายเป็นเรื่องปกติ เพราะเมื่อได้มาแทบไม่มีใครจะวางไว้เฉยๆ สมัยก่อนใช้กันหนัก แต่มีซ่อมเชือกกันเชือกขาดไว้สองจุด

ของดีภูธร ตระกรุดชุด ครบชุด 12 ดอก สีเชือกยังดี แต่มีซ่อมนิดหน่อย ถือว่าปกติอาจมีซ่อมบ้างเพราะการใช้งาน แต่ตัวตระกรุดยังดีมาก

ตระกรุดยอดเหนียว หลวงพ่อภู วัดดอนรัก สุดยอดตระกรุดเมืองอ่างทอง พระคณาจารย์ยุคอินโดจีน 2485

ตระกรุดหลวงพ่อภูวัดดอนรักท่านเป็นพระคณาจารย์ที่ล่ำลือกันมานานตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายายด้านมหาอุด คงกระพัน กำบังกาย อย่างยิ่งยวดและเชื่อถือได้อย่างยิ่งครับ ประสบการณ์นั้นลือเลื่อง มากตั้งแต่ครั้งก่อนปี 2500 แต่เมื่อไม่นานมานี้ มีอยู่ครั้งนึงงานสงกรานต์ที่วิเศษฯ จังหวัดอ่างทองวัยรุ่น มีเรื่องกับคู่อริ โดนทั้งปืน มีด แต่ไม่ระคายผิว ปืนก้เปรียบเช่นกระบองอันนึงอย่างที่หลวงพ่อภู ท่านเคยกล่าวไว้ ว่ามีตระกรุดกูมึงไม่ต้องกลัว เห็นปืนเหมือนเห็นกระบอง หลวงพ่อท่านมั่นใจในของๆท่านอย่างมาก เพื่อนน้องผมโดนยิง และตีจนสลบแต่ผิวหนังไม่มีรอยเลือดครับแค่ยางบอน แต่เสื้อกระจุย เสื้อตัวที่ใส่วันนั้นเขาก็เก็บไว้ดูเพื่อนึกถึงอภินิหารของหลวงพ่อภู มาจนวันนี้

ผมได้เคยสัมภาษณ์ คุณปู่ทองชุบ พันธุ์ไม้ บ้านมหาดไทย อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง ผู้ที่เคยไปเช่าตระกรุด หลวงพ่อภู ที่วัดดอกรัก ในสมัยนั้น ท่านเล่าให้ฟังว่า ตอนไปเช่าสมัยนั้นไปกันสามคน ได้ตระกรุดกันมาคนละชุด กับตระกรุดโทน 1 ดอก และภาพถ่ายขนาดบูชา 4x6 คนละภาพ ทำบุญไป 100 บาท พอรับบตระกรุดมาก็ไปขอเมตตาหลวงพ่อภูท่านประสิทธิ์ให้กับมือ พอท่านประสิทธิ์ให้แล้ว เสกเสร็จ ก็เอื้อมมือไปรับ พอก้มลงกราบ เสียงดังบั๊กกกก กลางหลัง รู้สึกแน่นมาก พอเงยหน้าขึ้นมา เห็นมีดโต้อยู่ในมือหลวงพ่อ ปู่ทองชุบกล่าวว่า หลวงพ่อเล่นฟันเข้ากลางหลังจุก และถึงกับสะดุ้งตกใจ หลวงพ่อท่านกล่าวขึ้นมาว่า มีตระกรุดกู มึงไม่ต้องกลัว เห็นปืน ให้เหมือนเห็นกระบอง ไม่ต้องไปกลัวมัน โก่งตูดให้มันยิงเลย

ซึ่งประสบการณ์ตระกรุดหลวงพ่อก็เป็นที่เลื่องลืออยู่แล้วด้านมหาอุตม์ และคงกระพันเป็นเลิศ สมัยนั้นเสือ โจร ล้วนมาฝากตัวเป็นศิษย์ เรื่องลอง คนลองกันมาเยอะ ยิงใส่ตระกรุด ยิงไม่ออกก็มี ยิงออกเป็นไฟฟู่ๆ แต่ลูกไม่ออก ต้องเอาตะปูตีเอาลูกออกก็มี ลูกศิษย์ หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน ไปสงครามเวียดนาม โดนระเบิดกระจาย แต่ตัวเนื้อกลับไม่เป็นอะไรเลย มีเพียงรอยช้ำ มีตระกรุดหลวงพ่อภูอยู่ในกระเป๋ากางเกง เป็นตระกรุดโทนเพียงดอกเดียว ท่านนี้ผมยืนคุยสัมภาษณ์มาด้วยตนเอง ... คาดตระกรุดชุดไปล่ากระต่ายป่า ปืนยิงเท่าไหร่ก็ไม่ออก พอเอา
ตระกรุดออกจากเอว จึงยิงออก นี่เป็นเพียงเรื่องราวเล็กน้อย ที่จากการที่ผมลงพื้นที่ขอข้อมูลจากประสบการณ์วัตถุมงคลของหลวงพ่อภู ซึ่งคนท้องถิ่น และคนท้องที่ เชื่อถือแบบยิ่งกว่าสนิทใจ เพราะประสบการณ์มากมาย ใครๆก็รู้จัก ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

สมัยก่อน คนที่มีลูกหลานเยอะๆ เขาจะตัดตระกรุดแบ่งออกเป็นดอกๆ แจกลูกหลาน ทุกดอกจะจารยันต์คนละอย่าง แต่ประสบการณ์ที่เห็นๆก็มหาอุตม์คงกระพันล้วนๆ สำหรับคนชอบสายเหนียว เชือกเดิมๆ

หลวงพ่อภุ วัดดอนรักท่านเกิดเมื่อปี 2419 มรณะภาพเมื่อปี 2503อายุ 84 ปี หลวงพ่อภุท่านเป็นพระเถระอีกรูปหนึ่งที่อายุกาลพรรษามาก ท่านแก่กว่าหลวงพ่อพัก วัดโบสถ์ 6 ปี แก่กว่าหลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ 13 ปี หลวงพ่อท่านได้รับการอุปสมบท โดยหลวงพ่อเข็ม วัดข่อย ซึ่งเป็นอาจารย์ใหญ่ในสมัยนั้น หลวงพ่อภูท่าน เป็นพระที่มีอาคมขลังอย่างยิ่ง เล่าหรือพิมพ์แล้วยาวทีเดียว เอาคร่าวๆว่าชาวบ้านท้องถิ่น วัดดอนรักแล้ว เคารพนับถือท่านอย่างมาก บางคนห้อยเหรียญรุ่นแรกของท่าน บางยังกับกระดาษเอ 4 ยังไม่ยอมถอดจากคอให้ดู ให้ดุไกล้ๆแค่นั้น ไม่รู้ว่ากลัวผมจะขโมยหนีไปหรืออย่างไร วัตถุมงคลที่โด่งดังมากของหลวงพ่อภู เป็นที่ทราบกันดี ก้จะเห็นมี ตระกรุด เหรียญ ภาพถ่าย ผ้าประเจียด เสื้อยันต์ แต่ผ้าประเจียดและเสื้อยันต์ท่านทำไว้น้อยมากๆ เป็นคนๆไป ที่ได้ไปก็เอาไปผูกแขน แขวนบ้านจนเปื่อยยุ่ยแหลกเหลวไปตามกาลเวลา จึงไม่สามมารถหามาให้ได้ชมกันได้

Cr.เบ็นวิเศษฯ เรียบเรียง

 

ลูกค้าบอกอยากได้สวยๆ แบบไม่สวยไม่ค่อยอยากได้ จัดให้ครับ นิยมสุดหายากสุด ภาพถ่ายยุคแรก หลวงพ่อกร่าย วัดโพธิ์ศรี บูรพาจารย์ สังขารไม่เน่าเปื่อย

38,500 บาท สามสี่ปีอาจได้เห็นสักภาพ ใครหาอยู่อย่าพลาด ท่านใดมีสวยๆผมรับเช่า ราคาคุยกันครับ

ด้านหลังมีจาร หาชมยากมากครับ สวยจริง สวยสุดเท่าที่เห็นมา เก็บแล้วจบเลย เลี่ยมทองคำแท้ฝังพลอยแท้

 

✨มาไหม่ เผยแพร่ไปด้วย✨ ผิวปรอทวิ่งๆ พระดีพิธียิ่งใหญ่ ระดับปรมาจารย์ทั้งนั้นที่ร่วมอธิฐานจิต มีใช้บูชามาบ้าง ราคาตามสภาพ 13,500 บาท เน็ตเลยไม่แพงแล้วจ่ะ

........

สมเด็จหู หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ 2482 สมเด็จหู(พิมพ์เหลี่ยม)นิยม หล่อโบราณ หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ อ่างทอง สร้างปี 2482

รุ่นนี้มีเก๊มานานครับ แต่เป็นทองเหลือง ของแท้เป็นโลหะผสมหรือเรียกว่าทองผสมครับ ถ้าให้ผมพูดถึงพระหล่อโบราณของเมืองวิเศษชัยชาญ ที่มีประวัติพิธีที่ชัดเจนที่สุดและมีพระคณาจารย์ระดับแนวหน้าของเมืองไทยและระดับครูบาอาจารย์ของเมืองวิเศษฯที่อัดแน่นที่สุดก็เห็นจะเป็นสมเด็จหูหล่อรุ่นนี้ครับ เพราะประวัติการสร้างนั้น สร้างเมื่อปี 2482

โดยมีหลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอกเป็นประธานปลุกเสก หลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก(หลวงพ่อจงท่านมาแน่นอนครับหลวงพ่อเสียน วัดมะนาวหวานเคยได้รับสมเด็จหูหลวงพ่อคำ จากหลวงพ่อจงมาแล้ว ซึ่งหลวงพ่อเสียนท่านเคยเล่าให้ผมฟัง ว่าท่านไปกับหลวงพ่อเล็ก วัดมะนาวหวาน (อาจารย์ท่าน) หลวงพ่อซำ วัดลาดไหม่ และพระคณาจารย์เมืองวิเศษฯที่ไม่ได้เอ่ยนามในสมัยนั้นอีกคับคั่ง ขณะเททอง มีพระพิธี สวดอิติปิโส 108 จบ สมัยนั้นยังไม่มีบทสวดพุทธาภิเษก (เรื่องนี้หลวงปู่เล็ก วัดทำนบได้เคยเล่าไว้ เหตุด้วยท่านเป็นผู้ที่นั่งนับจำนวนจบ ของบทสวด โดยใช้นับจำนวนด้วยก้านธูป)

เหรียญหล่อรุ่นนี้ได้รับความนิยมมานานมาก มีประสบการณ์โชกโชน ทั้งแคล้วคลาดและมหาอุตม์ ช่วยคุ้มตัวคนมามากต่อมาก เพราะเมืองวิเศษชัยชาญสมัยนั้น ถ้าจะให้กล่าว โดยที่ไม่เกินความจริงนักจะเรียก ว่าดงนักเลงก็ไม่ผิด เมื่อก่อนหลวงพ่อแต่ละรูปที่จะออกของนั้นถ้าไม่แน่จริงแล้วไม่ออกกัน เพราะเมื่อก่อนผู้เรืองอาคมมากมาย ฆานวาสเก่งๆหมอคุณกระทำมีเยอะ ถ้าออกของวัตถุมงคลมาช่วยเขาไม่ได้ก็เท่ากับว่าเป็นการทำให้เสียชื่อตัวเอง
ดังนั้นพระคณาจารย์สมัยก่อนจึงได้รับความนิยมเป็นอมตะในหลายๆพระคณาจารย์เหตุเพราะทำได้จริงเห็นผลจริง ถ้าเอ่ยถึงสมเด็จหูแล้ว สมัยก่อนหลายคนต้องร้องอ๋อ เพราะชื่อเสียงโด่งดังมาก เพราะเรื่องประสบการณ์และความนิยมบอกได้คำเดียวว่า แน่น ลองคิดเล่นๆ ว่าการจัดการพิธีหล่อพระสมัยก่อนนั้น ไม่มีการทำออกมาแบบเล่นๆหรือโปรโมท ขายของ ของที่ทำทำจริง เสกจริงครูบาอาจารย์ที่มาเสกก็ระดับปรมาจารย์ของยุคนี้

อาจมีการออกทำบุญก็เพื่อการพระศาสนาโดยตรง ไม่มีนายทุน ไม่มีกำไรทำด้วยใจและศรัทธาล้วนๆ ในการหล่อนั้นพิธีโบราณมีความยุ่งยากมาก ไม่ใช่นึกจะหล่อก็หล่อกันได้ง่ายๆ พระอาจารย์ที่มาจับสายสูตรเททองต้องคุมพิธีเป็นด้วยวิทยาคม คุมธาตุ ปรุงธาตุ ถ้าไม่แน่นด้วยกสินแล้วขลังยาก และวิทยาคมระดับไม่ธรรมดา พระจึงจะออกมาได้บริสุทธิ์ และเข้มขลังจริง

การหล่อในครั้งนั้น มีชาวบ้านและประชาชนมากันเนืองแน่น ก่อนการเททอง ได้ให้ประชาชนที่มีจิตศรัทธา บริจาค สร้อยแหวน เงิน ขันเงิน ทองเหลือง ทองคำ ช้อนแสตนเลสหรืออะไรต่างๆตามกำลังศรัทธาของประชาชน พิธีครั้งนั้นจัดได้ยิ่งใหญ่และเข้มขลังอย่างยิ่ง ในการหล่อที่มีการนำโลหะผสมจำนวนมากต่างชนิดกัน มาผสมกันนั้น ทำให้เนื้อหาของพระมีความไม่เข้ากัน มีหลายสีในบางองค์และส่วนมากจะมีพลายเงิน ที่เกิดจากการผสมปรอทและดีบุก สมเด็จหูนั้นอย่างที่บอกสมัยก่อนโด่งดังมากด้วยพิธีดี และมีประสบการณ์แบบไม่ต้องเชียร์ หลวงพ่อท่านก็ได้ทำการแจกไปเรื่อยๆจนหมด

มีอยุ่ครั้งหนึ่ง มีคนไปขอพระจากหลวงพ่อ โดยเข้าไปที่วัด เมียงๆมองๆ เห็นหลวงพ่ออยู่ก็คลานเข้าไปกราบหลวงพ่อและกล่าวกับหลวงพ่อว่า หลวงพ่อครับ ผมมาขอพระหลวงพ่อครับจะเอาไปใช้ หลวงพ่อท่านมองหน้า แล้วมือหลวงพ่อพลันไปคว้ากระโถนด้านหลังท่าน ขว้างใส่ลุงท่านนั้นพร้อมไล่ตะเพิด พร้อมกับหลวงพ่อได้กล่าวว่า มึงนี่ไม่รู้กาละเทศะ มึงเป็นใครจะมาใช้พระ ถ้ามึงเอาไปใช้ไม่ต้องเอาไป ถ้าเอาไปบูชาค่อยมาเอา ลุงแกหน้าจืดหนีออกมาแทบไม่ทัน จะเห้นได้ว่าหลวงพ่อท่านเคร่งครัดและยึดถือในองค์พระรัตนตรัยอย่างยิ่ง

เล่าเรื่องสมเด็จหูแล้วไม่เล่าเรื่องประสบการณ์ก้จะเป็นการขาดอรรถรสไป สมเด็จหุของหลวงพ่อนั้นสมัยก่อนคนที่ได้ไปเข้าจะห้อยคอกันทันที เพราะนับถือในองค์หลวงพ่อ สมัยก่อนนั้นหลวงพ่อท่านเป้นพระอุปัชฌาย์ บวชลุกศิษย์ลูกหาทั่วอำเภอเหรียญรุปท่านรุ่นแรกก็เช่นกัน ส่วนมากพบเจอแต่แบบสึกเลี่ยน เตียนโล่งทั้งนั้น หาสวยๆยากมากครับ

สมเด็จหูนั้นหล่อหูในตัว จึงเหมาะอย่างยิ่งในการพกพาติดตัว หรือห้อยคอได้ทันทีไม่ต้องไปเสียเงินเลี่ยม สมัยก่อนโจรผู้ร้ายชุกชุม มีอยู่ครั้งหนึ่งมีการตามจับโจร ไปท้ายตลาดวิเศษ เมื่อก่อนท้ายตลาดจะมีบ่อน้ำอยู่ ไล่จับตามไปจนถึงที่นั่นยุคผู้กองยอดยิ่งกวาดล้างผู้มีอิทธิพล มีการตามจับและใช้อาวุธปืนยิง กลุ่มโจร แต่อัศจรรย์ครับ โจรมิได้ระคายผิวหนัง ได้แต่นอนกลิ้งด้วยความจุก ได้จังหวะก็เข้าชาจประชิดตัว แต่ก็ยิงไม่ออกตีจนน่วมก็ไม่ตาย จึงค้นตัวอ้าปากออกไปเจอสมเด็จหูหลวงพ่อคำเพียงองค์เดียว พอเจอพระโจรถึงกับหน้าถอดสี สุดท้ายเรียบร้อย...

มีอีกเรื่องหนึ่งเอาคร่าวๆเพื่อประกาศ ให้คนรู้ว่าสมเด็จหูนั้นของจริง รุ่นนี้คนนิยมมากนิยมมายันหัวตะพานบ้านผม เพราะสมัยก่อนหลวงพ่อท่านจะเดินลัดทุ่งมาบวชพระถึงหัวตะพาน วัดกลาง วัดหัวตะพาน คนที่บ้านผมเจอด้วยตนเอง คนเล่าก็ยังไม่ตาย เรื่องมีอยู่ว่า ครั้งหนึ่งเมื่อสักสิบกว่าปีที่แล้ว จ.ส.อ วันชัย กลิ่นบุหงา ได้ถูกเรียกตัวไปลาดตระเวนชายแดน เมื่อทางบ้านรู้ข่าว พ่อของจ่าวันชัย ด้วยความเป้นห่วงลูกที่จะต้องไปชายแดนสิ่งที่ให้ได้และเพื่อความสบายใจและหวังว่าจะช่วยให้จ่าวันชัย กลับบ้านได้อย่างปลอดภัย คือ สมเด็จหูพิมพ์มน ที่พ่อของจ่าวันชัยรับมากับมือหลวงพ่อคำ พ่อของจ่าแกหวงพระองค์นี้มาก เพราะอะไรถึงหวงทราบไหมครับ สมัยนั้นก็มีประสบการณ์เรื่องมีดๆปืนๆมาไม่ใช่น้อยแล้ว พ่อจ่าจึงหวงมาก แต่ก็ให้ลูกชายไป และกำชับว่ากลับมาจากราชการให้เอามาคืน...จ่าออกเดินทางไปได้ไม่นาน ก็มีข่าวแจ้งจากราชการว่า ชุดลาดตระเวนที่จ่าวันชัยประจำการอยู่นั้น เหยียบกับระเบิด เสียชีวิตเกือบทั้งหมด ที่ผมว่าเกือบทังหมดนั้น เหลือจ่าแกรอดตายมาคนเดียว นอกนั้นอีก 6 คนเสียชีวิตทั้งหมด ในตัวจ่าแกก็มีสมเด็จหูเพียงองค์เดียวที่พ่อจ่าให้ไว้ พอจ่าแกรอดมาคนเดียวก็ทำให้จ่าแกดังมาก มีคนมารุมล้อมถามแกว่ามีอะไรดีจึงรอดมาได้คนเดียว จ่าแกก้เอาพระให้ดู เป็นเรื่องธรรมดาที่มีของดีใครๆก้อยากได้ครับ ผู้บังคับบัญชาจ่าแกเลยเรียบเคียงขอพระองค์นั้นจ่าวันชัย สุดท้่ายจ่าแกให้ไป พอกลับมาบ้านเมื่อถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว พอจ่าก็ถามถึงพระสมเด็จหูที่ให้ไป พอจ่าบอกว่าให้หัวหน้าไปแล้วเท่านั้นหละครับ พอแกเคืองมาก ถึงกับให้จ่าพาเข้ากรุงเทพ ไปเอาพระคืน นี่พ่อของจ่าแกนับถือจริงๆ ชาวบ้านเขานับถือกันขนาดนั้น สรุปว่าพ่อจ่าแกเข้ากรุงเทพฯไปรอ และขอพระองค์นั้นคืน ไปรอถึงเจ็ดวัน เพราะหัวหน้าติดราชการ ถ้าไม่ได้พระ พ่อจ่าแกไม่กลับ

เพิ่มเติมนิดครับ สมเด็จหูนั้นที่เรียกสมเด็จหูก็เพราะว่า การหล่อนั้นหล่อแบบมีหูในตัว ในเหรียญที่หล่อนั้นเป็นรูปสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสีหน้าหนึ่ง และ หลวงพ่อพระมหาพุทธพิมพ์ วัดไชโย อีกหน้าหนึ่ง การห้อยพระหลวงพ่อท่านให้ห้อยเอาหลวงพ่อพระมหาพุทธพิมพ์ออกหน้าครับ วันนี้ลงเพื่อเผยแพร่พระคณาจารย์ แห่งแขวงเมืองวิเศษชัยชาญครับ ประวัติการสร้างชัดเจนมากครับพระคณาจารย์ระดับประเทศสมัยนั้นมากันแน่ครับ... พระไหม่ๆ เดี๋ยวนี้ยังแพงกว่า น่าเสียดายครับ ...เบ็น วิเศษฯ เรียบเรียง

พระพิมพ์ที่มีประสบการณ์โชกโชนยิ่ง ราคาตามสภาพพระ

 

พระสมเด็จพิมพ์นั่งแมว ชอบสวยๆเรียนเชิญจ่ะคุณลูกค้า มีเกษาหลวงพ่อพบเห็นน้อยมากครับ 1,500 บาทพอจ่ะ

หลวงพ่อทองใบ วัดอบทม

บูรพาจารย์เมืองอ่างทอง สังขาร ไม่เน่าเปื่อย

หลวงพ่อสมัยยังทรงสังขาร เหล่าศิษย์ยานุศิษย์ให้ความเคารพอย่างยิ่ง ด้วยปฏิปทา จริยาวัตร และอภินิหารความศักดิ์สิทธิ์ วาจาสิทธิ์ เลี้ยงผี หลวงพ่อทองใบท่านเป็นพระที่มีปฏิปทา

บางครั้งท่านชอบบิณบาตรตอนเย็นๆเพื่อเอาไปเลี้ยงแมว และสุนัขที่วัด ท่านเจิมรถยนต์ครั้งหนึ่งหลายชะ่วโมงครับ เจิมแบบทั้งคัน เจิมแม้กระทั่งน็อต กระจกมองข้างเรียกได้ว่าเจิมขาวพรึ๊บทั้งคัน

ท่านยังเคยทดลองแนวฤทธิ์ให้ลูกศิษย์ดู ได้หลายอย่างให้ลูกศิษย์ไกล้ชิดท่านชม เช่น เสกจิ้งจกออกจากมือท่านได้ เสกไฟให้ลุกท่วมมือท่าน และอีกนานัปประการ หลังจากท่านมรณะภาพสังขารท่านก็ไม่เน่าเปื่อย ยังคงอยู่ให้ลุกศิษย์ได้กราบไหว้จนปัจจุบัน

รับประกันตลอดชีวิตครับ

 

#เบี้ยชั้นครูที่เลื่องลือแต่โบราณ ตอกหมง หากันให้ควั๊ก แต่ 95% ที่เจอ จะเก๊ แต่.. ตัวนี้แท้ และหาดูยาก ปรอทเต็ม เขย่าดังเล็กน้อย

หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ เดิมๆเลี่ยมเงินเก่า ดูศิลปการเลี่ยมให้ดีนะครับ เสร็จกันมาเยอะ

ราคาสอบถาม

ปรอทเต็มปริบเขย่าดังเล็กน้อย เดิมๆไม่มีรอยแกะ

ถอนคุณไสยเวท กันกระทำ เป็นมหาอุตม์ แม้แต่หมอฆารวาสผู้เรืองอาคมสมัยนั้นนามว่าโต๊ะราม ยังต้องพกเบี้ยแก้หลวงพ่อ หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ พระอาจารย์ที่เสือมเหศวรให้ความเคารพมากๆ หลวงพ่อคำ เขียนยันต์ หนุมานเชิญธงไว้ให้ติดตัว ผ้านี้มีอานุภาพมาก ใช้เวลาขี่ม้าออกปล้น จะโบกสะบัดไปมา
เบี้ยแก้ ซึ่งถือว่าเป็นวัตถุมงคล ที่มีชื่อเสียงมาแต่โบราณ เบี้ยแก้หลวงพ่อคำ ต้นสายตำราก็มาจากหลวงพ่อพักตร์. วัดโบสถ์ ซึ่งหลายท่านอาจไม่ทราบ ซึ่งการสร้างเบี้ยแก้ในสายตำรานี้ สำคัญมากคือการเสกเบี้ยให้เป็น ส่วนปรอทนั้นถ้าว่ากันจริงๆไม่ต้องใส่ก็ยังได้ เบี้ยแก้ในสายนี้จะต้อง บูชาเทวดาประจำเบี้ยซึ่งสำคัญมาก และขั้นตอนมาก หลังจากนั้นจึงจะทำการเสกเบี้ย ส่วนปรอทที่นำมาใส่ด้วยเพราะเหตุว่าปรอทนั่นมีฤทธิ์ถ้าเสกเป็นแล้วใช้ได้สารพัดอย่าง ท่านจึงมาใส่ไว้คู่กัน ซึ่งเป็นการผสมผสานวิทยาการของบรมครูยุคโบราณ ซึ่งตามตำราที่หลวงพ่อพักตร์ท่านได้มาแต่ครูวาตนั้นเป็นตำราการเสกเบี้ย ให้เป็น ส่วนวิธีเรียกปรอทให้ได้ดั่งใจนึกนั้นท่านได้มาแต่หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ยสมุทรปราการ ซึ่งหลวงพ่อคำท่านก็เรียกปรอทให้วิ่งเข้าเบี้ยได้ดุจมีชีวิตเช่นกัน แต่ท่านจะทำในยุคแรกๆไม่มาก ในตอนหลังใช้จับกรอกทั้งหมด เพราะเบี้ยแก้ท่านเลื่องลือมาก ไม่พอต่อความต้องการ จริงๆแล้วจะเรียกให้วิ่งเข้าหรือจับกรอกก็ไม่แตกต่างกันนัก เพราะใจความสำคัญอยู่ที่เสก ส่วนปรอทใส่เบี้ยของหลวงพ่อคำ ก็เป็นปรอทซัดด้วยว่านยาตามตำรา จนปรอทแข็งเป็นเม็ด ซึ่งต้องหุงเคี่ยวและผสมเติมว่านยาลงไป จนกว่าจะได้ที่ เพื่อฆ่าพิษปรอท เวลาเขย่าจึงดังแซ๊กๆ วิชาเบี้ยเป็นวิชาที่กัน และถอน แก้คุณไสยมนต์ดำ ของคนอื่นเขาที่ทำมา ผู้เสกต้องเก่งจริง และคัดของเขาได้ ไม่อย่างนั้นอายเขา หลวงพ่อคำ ถือว่ามีชื่อเสียงเลื่องลือมากด้านนี้ เล่าแล้วจะยึดยาวมาก เอาเป็นพอสังเขปเพียงเท่านี้ครับ cr.เบ็น วิเศษฯ

ตอกหมง ด้านหลัง หาชมยากสุดๆ

ราคา 15,500 บาท พร้อมส่ง

ปิดให้พี่ j999 ครับ

 

ภาพชัดๆมาแล้ว ✨ภาพถ่ายรุ่นสร้างเขื่อน ประมาณปี 2495 นิยมสุดขนาดห้อยคอ พิธียิ่งใหญ่อลังการแห่งยุคอีกรุ่นหนึ่งของวัดไชโยในสมัยนั้น หายากกว่าสมเด็จเยอะครับ บางท่านเก็บพระสมเด็จสร้างเขื่อนมีเป็นสิบองค์ อาจจะมีภาพสร้างเขื่อนรุ่นนี้สวยๆเพียงภาพสองภาพเท่านั้น ภาพสวยคม

ราคาตามสภาพความสวย 9,500 บาท รวมส่ง

 

ขอจองครับ

 

#ล๊อกเก็ตท้าวสหัมบดีพรหม รุ่นแรกพระอาจารย์มหานพพร วัดวิเศษไชยชาญ แบบพิมพ์เล็ก ขนาด2.6x3.5 เซนติเมตรจัดสร้างเพียง 160 องค์

ราคา 3,500 บาท

#ท้าวสหัมบดีพรหม วิชาพรหม วิชาลงเครื่องสูง สืบสายวิชาหลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ ปรมาจารย์ยุคก่อนกึ่งพุทธกาลอีกรูปหนึ่งของเมืองอ่างทอง

วิชาพรหมสายนี้ผมบอกได้เต็มที่ว่า ถือว่าเป็นสายแข็งสายหนึ่ง เพราะความเป็นมาที่ผมสืบทราบและสอบถามพระอาจารย์ พรหมสายหลวงพ่อภัตร์ มีความเกี่ยวพันธ์กับพรหมสำนักที่มีชื่อเสียง แต่ไม่ขอกล่าวพาดพิงถึงเพราะเดี๋ยวจะว่าโหนกระแส ซึ่งพรหมสายหลวงพ่อภักตร์ เป็นวิชาเสกพรหมเฉพาะสำนักที่มีอานุภาพมากอยู่แล้ว บางท่านคิดว่า หลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ ท่านมีชื่อเสียงแต่เบี้ยแก้ ตะโพน และเหรียญเท่านั้น แต่จริงๆแล้ว วิชาหลักของสำนัก คือ วิชาลงเครื่องสูง มีวิชาพรหมและวิชาหนุมาน เป็นสายวิชาหลักของสำนักวัดโบสถ์ การเสกเน้นฤทธานุภาพ พระอาจารย์มหานพพร ได้รับช่วงตำราและร่ำเรียนสืบมาอีกสองช่วง คือ ช่วงที่ 1 หลวงพ่อกร่าย วัดโพธิ์ศรี ซึ่งท่านเป็นลูกศิษย์สายตรงผู้สืบทอดสรรพวิชา จาก หลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ ซึ่งถือเป็น สัทธิวิหาริกโดยตรง คือ หลวงพ่อภักตร์ ท่านเป็นพระอุปัชฌาย์บวชให้ จากที่ได้บันทึกรวบรวมไว้ ศิษย์โดยตรงที่ได้รับสืบทอดสรรพวิชาจากหลวงพ่อภักตร์นั้น มีที่เป็นพระภิกษุหลายรูปด้วยกัน เช่น หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์ ซึ่งได้รับถ่ายทอดวิชามหาจังงัง และอีกหลายวิชา หลวงพ่อพักตร์ วัดไผ่วง ได้วิชาเทศน์คาถาพัน และหลวงพ่อกร่าย วัดโพธิ์ศรี ซึ่งท่านได้วิชาหลายแขนง รวมทั้งวิชาลงเครื่องสูง วิชาพรหมวิชาหนุมาน และสายวิชาหลักสำคัญที่รับช่วงต่อมาของสำนักวัดโบสถ์
ช่วงที่ 2 หลวงพ่อแจะ วัดโพธิ์ศรี ซึ่งท่านเป็นพระอุปัชฌยาจารย์ ของพระอาจารย์มหานพพร หลวงพ่อแจะท่านได้ถ่ายทอดสรรพวิชาและตำราที่มีความสำคัญทั้งหมดของสำนักวัดโบสถ์ที่ท่านรับช่วงต่อมาจากหลวงพ่อกร่าย ถ่ายทอดมาให้พระอาจารย์มหานพพรในปัจจุบัน ซึ่งพระอาจารย์มหานพพรท่านก็ทันยุคหลวงพ่อกร่ายด้วย

ผงมวลสารเพียบ พระอาจารย์ลบผงพุทธคุณทั้งห้าและ สำคัญที่สุดคือน้ำมันพรหมประสิทธิ์ ที่ต้องเสกทับถมหลายปีกว่าจะสำเร็จ

 

พระสมเด็จวัดเกษไชโย ที่นักนิยม ทราบกันดีในรุ่น เสาร์ 5 อายุการสร้างหลายสิบปี ถือเป็นพระพิมพ์รุ่นน้องๆในสายวัดเกษไชโย ที่นิยมเล่นหา ใสราคายังไม่รุนแรงมาก แค่พิมพ์ปิด
เสาร์ห้า ขาวโบ๊ะ องค์ละ 1500 บาท ขอรูปด้านหลัง เพิ่มได้

 

สวยจริงเรียบร้อยจัง อีกหนึ่งองค์ ชอบสวยๆเชิญครับ ใครไม่ทันแหวกม่านองค์นี้ได้เลย

#ว่านร้อยแปดสยบมีดหมอ พิมพ์ปรกโพธิ์ เนื้อแก่ว่าน อย่าคิดนาน เดี๋ยวอด เงินหาง่ายกว่าพระแน่นอนครับ

สวยลึกคม หาที่ติยาก ไม่บินหรือกระเทาะ ประสบการณ์เทียบได้กับพระหลักล้านบาท เขาหากันให้ควั๊ก

........
ผมซื้อทุกสภาพคนเช่าก็เช่าทุกสภาพครับ เนื้อว่านทรงคุณค่า แก่ว่านจัดๆเข้มๆ

พระสมเด็จเนื้อว่านร้อยแปด หลวงพ่อแพ วัดกลางราชครูธาราม เรื่องเหนียวและแคล้วคลาดนั้น ยืนยันด้วยประสบการณ์จริงล้วนๆ ปืน มีด ขวด ระเบิด แม่กระทั่งมีดหมอ ก็เคยโดนกันมาหมดครับ ผู้คนยืนยันได้เป็นอย่างดี ว่าไม่ระคายผิว แต่ก็อาจจะมีช้ำบ้างเป็นเรื่องธรรมดา. แม้แต่ระเบิดถึงโดนแล้วจะตายแต่ผิวหนังก็ยังไม่ฉีกขาด ด้วยประสบการณ์เหนียวจริง รถยนต์ชนประสานงา ขับมาด้วยกันสามคน สองคนที่มาด้วยตายคาที่อัดก๊อบปี้กับรถ ปอเต็กตึ๊งัดซากรถ พบสามศพอัดกัน พองัดศพออก ปรากฏว่า คนที่ห้อยหลวงพ่อแพ รอดแถมอยู่ตรงกลางระหว่างสองศพ ปอเต็กตึ๊งถึงกับตกใจอุทานว่า รอดมาได้ยังไง มีแค่รอยช้ำ เจ้าหน้าที่ถึงกับต้องผลักเบาๆ เพื่อดูให้แน่ใจว่า เสียการทรงตัวหรือเป็นอะไรหรือปล่าว ปรากฏว่ารอดครับ เหตุการณ์นี้ทำให้ครอบครัวของ ผู้อำนวยการเขตการศึกษาท่านหนึ่งนับถือหลวงพ่อมากๆ ในคอมีพระหลักล้าน แต่หนึ่งในนั้นต้องมีหลวงพ่อแพ วัดกลางราชครู

เรื่องสยบอาคมมีดหมอ พระว่านของท่านขนาดมีดหมอยังไม่ได้แอ้ม เหนียวขนาดไหนคิดดูเอง พระสมเด็จนี้คนท้องที่หวงกันมากครับ เจอกันมาทุกรูปแบบ แต่เหนียวนั้นเป็นหลักเชื่อขนมกินได้แน่นอน ผมเองได้ยินมาตั้งแต่เด็กๆ ว่านที่ทำพระนี้หลวงพ่อท่านปลูกเองและเสกน้ำมนต์รดทุกวัน ท่านจะมีวันตัดของท่านและท่านจะเป็นคนกำหนดเอง นอกจากสมเด็จแล้วท่านยังมีเม็ดว่านเสก เนื้อเดียวกับสมเด็จ คนสมัยนั้นเขาเอาไปให้ไก่กินและออกตี ต่อให้คู่ต่อสู้เดือยยาวขนาดใหนไม่ได้กินเลือดแน่นนอน เจอกันมามากแล้ว แต่อีกเรื่องหนึ่งที่น่าแปลก คุณปู่สำรวย กลับทวี ท่านเคยเล่าให้ฟังว่า สมัยที่หลวงพ่อท่านยังทรงสังขารอยู่ ก็มีนักเกรงเยอะและลูกศิษท่านที่แสบๆก็เยอะ ศิษย์หลวงพ่อแพได้ไปเที่ยวงานรำวงที่บ้านม่วงเตี้ย เลยวัดหลวงพ่อทรงไปหน่อย เกิดมีปากเสียงกันขึ้นในงานแถวนั้น ลุกศิษย์หลวงพ่อชื่อ ตาธรรม เกิดเดินขึ้นไปประกาศไมค์บนคณะรำวง คงจะไปกวนเจ้าถิ่นเขาเข้า ฝ่ายเจ้าที่ก็เดินดุ่มๆมาไกล้ๆแบบไม่ทันตั้งตัว ได้ชักมีดหมอด้ามงา ออกมาจ้วงแทงประมาณสามครั้ง ตาธรรมตกใจ หันซ้ายหันขวา หนีออกมาได้ พอหนีออกมาก็มาคลำที่ตัวเพื่อที่จะดูแผลเพราะกะว่าโดนเต็มที่ แต่แปลกที่มีดหมอไม่สามารถแทงทะลุหนังของตาธรรมได้ ทั้งๆที่มีดหมอ ใครที่ว่าเหนียวๆถ้าได้เจอเข้าไปล่ะก็รับรองได้เห็นเลือดกันแน่เพราะเกียรติศักดิ์เลื่องลือ แต่กับศิษย์หลวงพ่อแพนั้นแทงไม่เข้าครับ แต่ก็นอนหยอดน้ำข้าวต้มไปหลายวันด้วยฤทธิ์อาคมมีด และร้อยช้ำ ผม (เบ็น วิเศษฯ) ถามความเห็นของปู่สำรวยท่านว่าทำไมถึงแทงไม่เข้า ท่านบอกว่า อาคมท่านข่มกันได้ อันนี้ผมเล่าให้ฟังจากคำบอกเล่าของปู่สำรวยที่อยู่ในเหตุการวันนั้น เรื่องนี้เกิดเมื่อประมาณปี 2490 กว่าๆถึง 2500


สวยมากเรียยร้อยเดิมๆ น่าเก็บมากครับพระเนื้อผงว่านสวยๆพบน้อย ราคา 7,500 บาท พร้อมส่ง

 

เหรียญเต่ารุ่นแรก ปี 45 หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน สวยกริ๊บ แดงๆๆๆๆๆ #และมีจารลายมือหลวงพ่อ 4 ตัว นะ ชา ลี ติ ลายมือมาตรฐานดูง่ายๆ นานๆได้เจอสักเหรียญ หายาก แต่เรามี อย่าคิดนานเดี๋ยวอด

รุ่นนี้ทองแดงหลวงพ่อใช้ติดอังสะของท่านเอง เต่าหลวงพ่อประสบการณ์มากมาย ด้านโภคทรัพย์ เป็นที่ยอมรับ แบบไม่มีใครกล้าเถียง เพราะเป็นวิชาเต่าในบารมีเฉพาะของหลวงพ่อ ไม่เหมือนใคร คนที่ใช้บูชาบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่ธรรมดา เอาเป้นว่าชัดเจนครับ ประสบการณ์ผมมิได้เขียนขึ้นเอง มีคนเจอมาเยอะ จนยืนยงมาจนวันนี้

เต่ารุ่นนี้ได้รับความนิยมมาก เนื่องจากหลวงพ่อเสกนานเป็นปีๆ ตั้งแต่ปี 44 และมาออกปี 45 ประสบการณ์ด้านค้าขาย โชคลาภ แน่นอนจริงๆ สภาพสวยมาก

ราคา....4,500 บาท

ปิดให้พี่ j999 ครับ