:cool::cool:เล่นแบบมีข้อยุติครับ
***สวัสดีครับขอเปิดกระทู้ใหม่และกันครับเพื่อให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นครับ ผมมีพระเครื่องของหลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน หลายรายการที่จะแบ่งให้บูชาในยุคเศรษฐกิจแบบนี้นะครับคงต้องออกตัวบ้างครับ พระเครื่องส่วนใหญ่ของหลวงพ่อเป็นของเก่าเก็บตอนสมัยที่ผมบวชอยู่กับหลวงพ่อ และเช่าเพิ่มเติมจากคนที่เก็บไว้เยอะแถววิเศษฯพระทุกรุ่นรับประกันด้วยการเล่นหาที่เป็นมาตรฐานด้วยโค้ดของวัดเองไม่เกี่ยวกับศูนย์พระเครื่อง คือโค้ด ท ไม่มีหัว โค้ด วศด ที่ได้ทำลายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว(โดยมีพยานเป็นพระที่วัด และพยานรู้เห็น และภาพถ่าย) หากเป็นของที่ศูนย์พระเครื่องทำถวายผมเล่นแต่ที่ตอกโค้ดวัดรวมอยู่ด้วย หากว่าไม่มีโค้ดวัดตอก ต้องมีจารหลวงพ่อเท่านั้นผมจึงให้บูชาอันนี้ไม่ได้รังเกียจอะไรแต่เพื่อข้อยุติในอนาคตข้างหน้า เพราะพระทุกองค์ผมรับประกันตลอดชีพครับ และหากองค์ใดมีรอยจารของหลวงพ่อ รับประกันลายมือให้ด้วย จะได้เช่ากันได้อย่างสบายใจปราศจากข้อกังขาครับ และนอกจากจะมีพระหลวงพ่อทรงแล้วก็ยังมีพระเครื่องของหลวงพ่อผาดวัดไร่ ที่เป็นรุ่นเก่า พระเครื่องเกจิเก่าๆสายอ่างทองรับประกันเช่นกัน
( เบ็น 083-6139417 )
เลขบัญชีสำหรับ โอนเงิน
4050213762 ธนาคารไทยพาณิชย์
ชื่อ ประจักษ์ ครับ
หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน ..สมเด็จเกษไชโย พระเครื่องอ่างทอง หลวงปู่เล็ก วัดทำนบ วัดเงินบางพรหม
ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย benay, 14 กรกฎาคม 2008.
หน้า 1 ของ 705
-
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ผมขอดูรูปพระคุณในกระทู้เก่า แต่ งงๆ คุณย้ายมากระทู้ใหม่ แล้วดูๆ ยังเอาเหมือนรูปพระผมมาลงอีกน่ะ
ผมไม่ได้ขอดูรูปพระผมน่ะครับ ผมของดูพระของคุณ ครับ -
สอง องค์นี้ให้บูชาองค์ละเท่าไหร่ครับผม -
กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรงครับ
-
เหรียญเต่าไตรมาส มีรอยจารพร้อมเลี่ยมเงิน
**ปิดรายการครับ***ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ภาพล็อกเกต
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
คณาจารย์สายอ่างทองครับ
1.ตระกรุดโทนหลวงพ่อทองหยิบวัดบ้านกลาง(นิยม) มี 1 ดอก 1500 บาท ขนาด 5 นิ้ว
2.เหรียญหลวงพ่อคำวัดโพธ์ปล้ำ รุ่นแรกบล็อกประคำใหญ่ 2492 เหรียญละ 1300 บาท มี 1เหรียญ
3.เหรียญหลวงพ่อชวน วัดยางมณี รุ่นแรก ปี 2516 (พระอุปัชฌาย์หลวงพ่อทรง) 700 บาท มี 1 เหรียญ หายากครับ
4.เหรียญหลวงพ่อคำวัดโพธ์ปล้ำรุ่นแรก บล็อกประคำเล็ก พร้อมตลับเงิน 1500 บาท มี 1 เหรียญ
5.เหรียญหลวงพ่อชวน วัดยางมณี รุ่น 2 ปี 2522 (ท่านสร้างเพียงสองรุ่น
ครับ)
**********ปิดทุกรายการครับ*********ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ภาพครับ
............ปิดรายการครับ................ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
สวัสดีครับเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาและเงียบเหงานะครับ วันนี้ผมจะเสนอ
ประวัติ และวัตถุมงคลของหลวงพ่อนุ่มวัดนางใน ที่เป็นที่นิยมเล่นหากันในปัจจุบันครับ
ในพื้นที่จังหวัดอ่างทองมีพระคณาจารย์ชื่อดังที่เคารพนับถือของศิษยานุศิษย์อยู่มากมาย
หลายองค์ ทั้งในยุคเก่าและปัจจุบัน สำหรับพระคณาจารย์ที่สร้างวัตถุมงคลประเภทเบี้ยแก้นั้น
มีหลายองค์ด้วยกันแต่ที่รู้จักแพร่หลายได้แก่หลวงพ่อพักวัดโบสถ์, หลวงพ่อนุ่มวัดนางใน
และหลวงปู่คำวัดโพธิ์ปล้ำเป็นต้นเมื่อไล่เรียงตามลำดับปี พ.ศ. ที่เกิดแล้วปรากฏว่า
หลวงพ่อพักวัดโบสถ์อาวุโสสูงสุด รองลงมาคือหลวงพ่อนุ่มเกิดปี พ.ศ.2426 และหลวงปู่คำ
เกิดปี พ.ศ. 2432หลวงพ่อนุ่ม ธมฺมาราโม แห่งวัดนางในธัมมิการาม จังหวัดอ่างทอง
โดยพื้นเพแล้วท่านไม่ใช่เป็นคนจังหวัดอ่างทองโดยกำเนิด ท่านเกิดที่บ้านสามจุ่น
ตำบลวังน้ำซับ อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นบุตรของพ่อสอน แม่แจ่ม
ศรแก้วดารา เกิดเมื่อวันที่15 สิงหาคม พ.ศ. 2426 ตรงกับวันเสาร์ แรม 3 ค่ำ เดือน 9
ปีมะแมอายุ 10 ปี ได้เล่าเรียนศึกษาภาษาไทยและภาษาขอมกับพระอธิการพ่วง
ซึ่งเเป็นพี่ชายคนที่สองของท่านและเมื่อมีอายุได้ 15 ปี ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้ช่วย
ในการสอนหนังสือทั้งภาษาไทยและภาษาขอมให้กับลูกศิษย์คนอื่นด้วย
อุปสมบทเมื่ออายุ 20 ปีณพัทธสีมาวัดปลายนา อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี วันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2446 มีพระครูธรรมสารรักษา (อ้น) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระปลัดดี วัดปู่เจ้า และพระอธิการช้าง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ตามลำดับ ได้รับฉายาว่า"ธมฺมาราโม" ภายหลัง
จากได้อุปสมบทแล้วท่านได้พำนักจำพรรษา ณวัดสามจุ่น ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยจน
เชี่ยวชาญแตกฉาน โดยได้เรียนจากพระอธิการพ่วงผู้เป็นพระพี่ชายและฆราวาสอีกท่านหนึ่ง
ชื่อว่าอาจารย์เชตุย่างเข้าสู่พรรษาที่ 8 ซึ่งขณะนั้นทางวัดสามจุ่นโดยมีพระอธิการจุ่น
เป็นเจ้าอาวาส มีความประสงค์จะสร้างพระอุโบสถ หลวงพ่อนุ่มจึงจำเป็นต้องเดินทาง
ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดหลวง อำเภอวิเศษชัยชาญ เป็นการชั่วคราวเพื่อเป็นผู้ประสานงาน
ในการซื้อวัสดุอุปกรณ์ที่จะใช้ในการก่อสร้าง กระทั่งการก่อสร้างแล้วเสร็จจึงได้กลับมาอยู่
วัดสามจุ่นดังเดิมขณะที่ท่านได้พำนักจำพรรษาณวัดหลวง อำเภอวิเศษชัยชาญ นั้น
ท่านได้สร้างศรัทธาให้เกิดขึ้นแก่ประชาชนในแถวย่านนั้นเป็นอย่างมากกระทั้งถึงปีพ.ศ. 2459
วัดหลวงได้ว่างเจ้าอาวาสลง ศรัทธามหาชนของชาววัดหลวงจึงได้พร้อมใจกันมาอาราธนา
นิมนต์หลวงพ่อนุ่มให้ไปเป็นเจ้าอาวาส ขณะนั้นท่านมีพรรษาท ี่14 ช่วงที่ท่านดำรงตำแหน่ง
เจ้าอาวาสฯ ได้พัฒนาวัดจนเจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ จนพุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่
ของชาวอำเภอวิเศษชัยชาญนำโดย นายเผ่า ชัชวาลยางกูร คหบดีและเป็นเจ้าของตลาดสด
ในอำเภอวิเศษชัยชาญ ต่างเห็นพ้องต้องกันควรที่จะอาราธนาท่านมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส
วัดนางในธัมมิการาม ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ชุมชนใหญ่และเป็นศูนย์กลางอำเภออย่างแท้จริง
อันจะสะดวกแก่ประชาชนในการเดินทางมากราบนมัสการตรงกับปี พ.ศ. 2469ปีพ.ศ.2473
ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลศาลเจ้าโรงทอง ปีพ.ศ. 2477เป็นพระอุปัชฌาย์ตามลำดับ
หลวงพ่อนุ่ม ธมฺมาราโม ได้ถึงแก่มรภาพเมื่อวันท ี่13 สิงหาคม พ.ศ.2497 เวลา 23.15 น.
รวมสิริอายุได ้72 ปี52 พรรษา
ในด้านการศึกษาพระเวทย์วิทยาคมต่างๆ นั้นไม่ปรากฏหลักฐานยืนยันได้ว่า ท่านศึกษามา
จากที่ใด ทราบแต่เพียงว่าท่านเป็นผู้ที่สนใจในด้านวิปัสสนากัมมัฏฐาน และเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญ
มากได้รับการยอมรับจากศิษยานุศิษย์และประชาชนทั่วไป ว่าท่านเป็นผู้เรืองวิทยาคมเด่นมาก
ในด้านโหราศาสตร์, น้ำมนต์ซึ่งการทำน้ำมนต์นี้ท่านปลุกเสกด้วยพระคาถา "แก้วสามโลก"
พร้อมกันนั้นความรอบรู้เชี่ยวชาญในเรื่องตำรับยาแผนโบราณ
สำหรับวัตถุมงคลของหลวงพ่อนุ่มนั้น ปรากฏว่ามีการจัดสร้างมากมายหลายแบบหลาย
ประเภทหลายพิมพ์หลายเนื้อ อาทิ เหรียญรูปเหมือน เบี้ยแก้ พระเนื้อดินพิมพ์ต่างๆ เป็นต้น
เพิ่มเติมนิดหน่อยครับ มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ทันหลวงพ่อนุ่มเล่าให้เซียนพระวิเศษฯ ฟังว่าสมัยนั้นหลวงพ่อจงและหลวงพ่อคำท่านสนิดสนมกันดีไปมาหาสู่กันเป็นประจำ และในขณะนั้นหลวงพ่อนุ่มท่านก็มีชื่อเสียงมากในจังหวัดอ่างทอง หลวงพ่อจงท่านจะลองวิชาหรืออาจจะทดสอบอะไรไม่ทราบ ท่านก็มาหาหลวงพ่อนุ่มที่วัด และจารตระกรุด เสกเป็นปลากัดกัดกันในบาตรน้ำมนต์ผู้ใหญ่ท่านนั้นเล่าว่ากัดกันจนน้ำกระเซ็น สักพักหนึ่ง ตระกรุดของหลวงพ่อจงจมลงก้นบาตรก่อนหลวงพ่อนุ่ม เป็นอันว่ารู้ผล อันนี้ผมไม่ได่มาเล่ามั่วๆเชียร์พระอ่างทองนะครับแต่ทุกอย่างมีพยานยืนยันได้คนเล่าท่านยังมีชีวิตอยู่ครับ
(ประวัติจากหนังสือ"เบี้ยแก้"ภาพจากหนังสือ"พระเครื่องเมืองอ่างทอง")ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อนุ่มวัดนางใน มีสามบล็อกครับ คือ ยันต์เล็ก ยันต์กลาง ยันต์ใหญ่ ต้องดูที่ยันต์ด้ายหลังครับ
ด้านประสบการณืไม่ต้องพูดถึงครับเชื่อขนมกินได้ เอาง่ายๆว่าไปสงครามเวียดนามทุกคนที่ไปรอดกลับมาหมดโดยไม่เป็นอะไรเลยก็แล้วกันครับ
(ภาพจากกำปั่นพระ)ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ต่อมาเป็นเบี้แก้ติดอันดับจังหวัดอ่างทองอีกองค์หนึ่งครับ เบี้ยสายอ่างทองก็สืบสายต่อๆกันมาในวงแคบๆคือในสายอ่างทองจริงๆครับไม่ได้ไปเรียนกันที่ไหนไกลเลยครับ พุทธคุณนอกจากจะแก้คุณไสยได้ทุกอย่างแล้ว ยังมีทางเมตตาและคงกระพัน มหาอุตม์ก็มีคนพบพานอยู่เนืองๆครับ ประสบการณ์เบี้ยแก้สายอ่างทองเหลือคณานับครับ เล่าวันนึงก็ไม่หมดเขาโดนกันมามากครับท่าน
(ภาพจากกำปั่นพระ)ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
---- ปิดรายการนี้ครับ-----
3. รายการสุดท้าย เหรียญบินรุ่นแรก หลวงพ่อทรงวัดศาลาดิน สภาพเหรียญไมได้ใช้เลยมีเพียงคราบสนิมเขียว เกาะตามผิวเหรียญเท่านั้น (รับประกันความแท้ทุกกรณี)เรื่องประสบการณ์เชื่อขนมกินได้ครับแค่ตอนเสกเหรียญก็กระเด็นตกเกลื่อนพื้นไปหมดครับ อันนี้พูดมากไปก็จะหาว่าเชียร์หลวงพ่อตัวเอง ไว้ท่านไปถามคน ศาลาดินเองก็แล้วกันครับ เหรียญนี้เก้อมาครับ ราคาโทรถาม มีเหรียญเดียวครับ เบ็น 083-6139417ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
พระครูวิตถารสมณกิจ
ซึ่งแปลว่า การทำกิจของสงฆ์โดยพิศดาร
สมเด็จหูมน(นิยม) เบี้ยแก้อาถรรพ์
เครื่องรางมหัศจรรย์แห่งวิเศษชัยชาญ
ประวัติหลวงปู่คำ
วัดโพธิ์ปล้ำ จ.อ่างทอง เป็นวัดโบราณสร้างมาแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี
เดิมชื่อ วัดพายทองสำหรับใครเป็นผู้สร้างนั้นไม่ปรากฏหลักฐานเป็นที่ยืนยันแน่นอน
ด้วยอายุการสร้างที่ยาวนานผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายชั่วอายุ ทั้งเจริญรุ่งเรืองหรือ
เสือมโทรมเป็นบางขณะ
จากลำดับเจ้าอาวาสหลายต่อหลายองค์จากอดีตจวบจนปัจจุบันนั้น ดูเหมือนหลวง-
ปู่คำ ปญฺญาสาโร ดูจะเป็นที่รู้จักแพร่หลายในวงการพระเครื่อง เนื่องจากท่านเป็นอีก-
หนึ่งพระคณาจารย์ดังของ จ.อ่างทอง วัตถุมงคลที่สร้างและปลุกเสกเอาไว ้มีมากมาย-
หลายชนิดทั้ง พระสมเด็จ เหรียญ พระเนื้อว่านผสมผงยา ผ้ายันต ์ตะกรุด รูปถ่าย ที่ได้
รับความนิยมสูงพร้อมทั้งมากล้นประสบการณ์คือ เบี้ยแก้
หลวงปู่คำวัดโพธิ์ปล้ำนามเดิมคือ คำ นามสกุล ทรัพย์ประเสริฐ เป็นบุตรของพ่อ-
เส็งแม่ไทเกิดเมื่อวันพฤหัสบด ีเดือน 10 ปีฉล ูปีพ.ศ.1432 ณ ปากคลองวัดโพธ ิ์ครั้น-เมื่ออายุครบได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดโพธิ์โดยมีพระพระญาณไตรโลก (อาจ) วัดศา-
ลาปูน เป็นพระอุปัชฒาย ์พระครูวินญานุโยก แห่งวัดกษัตราธิราชพร้อมทั้งพระอุปัชฌาย์-จั่น วัดทำนบ เป็นพระกรรมวาจาจารย ์และอนุสาวนาจารย์ตามลำดับ ได้ศึกษา-
พระเวทย์วิทยาคมพร้อมทั้งสรรพวิชาต่างๆ จากสมุดข่อย ที่พบในโพรงต้นโพธิ์ภายในวัด-
จนเชี่ยวชาญชำนาญอย่างยิ่งยวดอีกทั้งยังแลกเปลี่ยนวิชากับอีกหลายพระคณาจารย์
ไม่ว่าจะเป็น ล.พ.พริ้ง วัดบางปะกอบ, ล.พ.จง วัดหน้าต่างนอก, ล.พ.พักวัดโบสถ์และ-
ท่านเจ้าคุณสุธรรมธีรคุณ วัดสระเกศ เนื่องจากมีอายุใกล้เคียงกันแม้ว่าบางองค์จะอาวุ-
โสมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหลวงพ่อพักวัดโบสถ์จะไปมาหาสู่กันอยู่เสมอๆซึ่งจะ-
เห็นว่าเบี้ยแก้ของท่านทั้งสองจะมีลักษณะใกล้เคียงกันมาก โดยเฉพาะเบี้ยเปลือยจนบาง-
ครั้งยังมีการเล่นหาสะสมข้ามวัดข้ามสำนักกันอยู่เรื่อยเป็นประจำ หลวงพ่อคำวัดโพธิ์ปล้ำ
ถึงแก่มรณภาพเมื่อ-วันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2503รวมสิริอายุ 72 ปี 52 พรรษา
ลักษณะเบี้ยแก้หลวงปู่คำวัดโพธิ์ปล้ำ การสร้างวัตถุมลประเภทเบี้ยแก้ของท่านนั้น
เริ่มสร้างมาตั้งแต่ก่อนปีพ.ศ.2493 เท่าที่พบเห็นเล่นหาเป็นสากลเบี้ยของท่านจะเป็น-เบี้ยเปลือยไม่มีการถักเชือกแต่อย่างใด ส่วนการเลี่ยมจับขอบไม่ว่าจะด้วยเนื้อทองคำ
เงิน นาค นั้น แล้วแต่ลูกศิษย์ที่ได้รับจะนำไปเลี่ยมกันเองไม่เกียวกับท่านซึ่งร้านที่มักนิยม
นำเบี้ยไปเลี่ยมนั้นเป็นร้านเดียวกับลูกศิษย์ของหลวงพ่อพักวัดโบสถ์นำ ไปเลี่ยมกันเป็น-
ร้านทองในตลาดวิเศษชัยชาญ ฉะนั้นลักษณะการเลี่ยมหากเป็นเบี้ยเปลือยของทั้งสอง-
สำนักนี้จึงมีลักษณะเดียวกัน เพราะเลี่ยมร้านเดียวกันนั่นเอง จึงเป็นเรื่องยุ่งยากพอสม-
ควรในการจะแย่งแยกและพิจารณา แต่มักมีข้อเปรียบเทียบง่ายๆ อยู่ว่าเบี้ยแก้ของหลวง-
พ่อพัก วัดโบสถ์มักจะตัวใหญ่กว่าของหลวงปู่คำ วัดโพธิ์ปล้ำ แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นข้อเท็จ-
จริงในการชี้ชัดจุดตายตัวได้
การปิดท้องเบี้ยภายหลังบรรจุปรอทเข้าไปในตัวเบี้ยแล้วจะปิดทับด้วยชันโรงและแผ่น-
หรือตะกรุดเนื้อทองแดง(ต่างจากหลวงพ่อพักที่ใช้ตะกรุดเนื้อชินเนื้อตะกั่ว) ในส่วนของ
การปิดทับด้วยชันโรงนั้นแบ่งเป็น 3 ยุค 3 ลักษณะด้วยกัน กล่าวคือเบี้ยแก้ยุคแรกจะปิดทับ
ด้วยชันโรงที่ได้รับจากธรรมชาติอันแแท้จริง แต่เนื่องจากเป็นของทนสิทธิ์ที่ได้จากธรรม-ชาติจึงหาได้ยาก ต่อมาจึงเปลี่ยนมาเป็นชันยาเรือแทนและท้ายสุดอุดทับด้วยชันยาเรือ
ผสมผงอิทธิเจซึ่งลักษณะประการหลังนี้พบเห็นได้น้อยมากในเบี้ยแก้หลวงปู่คำวัดโพธิ์ปล้ำ
จ.อ่างทองนั้น เมื่อเขย่าดูเสียงปรอทจะแตกต่างออกไปไม่เหมือนเบี้ยแก้สำนักอื่นๆที่เวลา-
เขย่าจะมีเสียงดังขลุกๆจะเสียงดังแซ๊กๆคล้ายกับเสียงของเม็ดท้ายวิ่งอยู่ภายในนับเป็นเอก-ลักษณะอีกอย่างหนึ่งของเบี้ยแก้สำนักนี้ที่สามารถใช้เป็นจุดสังเกตได้
พุทธคุณของเบี้ยแก้สำนักนี้ก็เหมือนกับเบี้ยแก้สำนักอื่นๆ คือป้องกันคุณไสยยาสั่ง
แก้เหตุร้ายให้กลับกลายเป็นดีพร้อมทั้งแคล้วคลาดปลอดภัยคงกระพันชาตรี ป็นต้น
(ประวัติจากหนังสือ"เบี้ยแก้"ภาพจากหนังสือ"พระเครื่องเมืองอ่างทอง")
(ข้อมูลทั้งหมดจากกำปั่นพระ)
-
รุ่นนี้มีปลอมไหมครับ -
---- ปิดรายการนี้ครับ -----
รายการต่อไปครับ
ท่านเป็นพระเกจิผูเรืองเวทย์ท่านหนึ่งแห่งวิเศษชัยชาญครับ ท่านเป็นลูกศิษย์สายตรงของหลวงพ่อพักวัดโบส เจ้าตำหรับเบี้ยแก้หลักหมื่นของอ่างทองครับ หลวงพ่อพักท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ บวชให้ท่านผู้นั้นคือหลวงพ่อกร่ายแห่งวัดโพธิ์ศรีครับ ท่านเป็นพระที่คนท้องที่นิยมเล่นหากันมานานแล้ว มีทั้งเหรียญ ผ้ายันต์ โดยเฉพาะ พรมสี่หน้า แลหนุมานเชิญธง เป็นที่นิยมกันมากเนื่องด้วยเพราะประสบการณ์มากมาย เหรียญร่นแรกของท่านนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่งระดับประเทศใช้ติดตัวไม่เคยห่างครับ วันนี้มีผ้ายันต์พรหมสี่หน้าของท่านมาแบ่งให้บูชาครับมีสองผืน สภาพเดียวกันครับ ราคา 700 บาท เป็นของดีราคาถูกๆครับไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ตะกรุดโทนแบ่งดอกล่ะเท่าไหร่ครับ -
สมเด็จแหวกม่านกับนักธรรมเท่าไหร่ครับ
-
1.เหลือแหวกม่านเล็ก 1 องค์ฝังข้าวเปลือกครกแรกๆ องค์ละ 400
2.พระนักธรรมของวัดองค์ละ 400 บาท
**** ปิดรายการพระแหวกม่านครับ****ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
***รายการใหม่ครับ หลวงพ่อทรง**
- พระผงรูปเหมือนหลังฝังข้าวเปลือกพิรอดแก่ว่านครับ สีออกน้ำตาลเข้ม และเกษาหลวงพ่อเพียบครับ แบ่งมาได้องค์เดียวครับ
700 - . ครับ + ค่าส่ง 50 บาทครับ
****ปิดรายการครับ***ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
**** ตะโพนเล็กแบบกลึงครับ สร้างน้อยโค้ด 2 ข้าง มี 1 ลูกเท่านั้นครับ ****
ราคาโทรถามครับ เบ็น 083-6139417
***ปิดรายการครับ****ไฟล์ที่แนบมา:
-
หน้า 1 ของ 705