หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เล่าเรื่อง "ผู้พิพากษากลายเป็นเปรต"

ในห้อง 'ภพภูมิ-สวรรค์ นรก' ตั้งกระทู้โดย supatorn, 26 ธันวาคม 2017.

  1. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,647
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,017
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เล่าเรื่อง ผู้พิพากษากลายเป็นเปรต

    Buddhist Society
    Published on Jun 28, 2017



    โลกหน้าของผู้พิพากษาที่ตัดสินความโดยไม่ยุติธรรมคือไปเกิดเป็นเปรต

    ผู้พิพากษาที่ตัดสินอรรถคดีที่ไม่ยุติธรรม จะไปเกิดเป็นเปรตประเภท เวมานิก

    เปรต เปรตมีวิมาน และเป็นเปรตประเภท กุมภัณฑเปรต เปรตที่มีอัณฑะใหญ่โต

    มาก ดังปรากฏในพระสุตตันตปิฎกดังต่อไปนี้



    1.เกิดเป็น เวมานิกเปรต คือ เปรตที่ต้องเสวยสุขเป็นเทวดาเฉพาะกลางวัน

    แต่ในเวลากลางคืนได้ไปเสวบทุกข์เป็นเปรตกินเนื้อของตนเอง

    กูฏวินิจฉยกเปตวัตถุ

    ว่าด้วยบุพกรรมของเปรตผู้พิพากษาโกง



    พระนารทเถระถามเปรตตนหนึ่งว่า

    ตัวท่านทัดทรงดอกไม้ ใส่ชฎา สวมกำไลทอง ลูบไล้ด้วยจุรณจันทร์มีสีหน้าผ่องใส งดงามดุจสีพระอาทิตย์อุทัยขึ้นมาบนอากาศ มีนางฟ้าหมื่นหนึ่งเป็นบริวารบำรุงบำเรอท่าน นางฟ้าเหล่านั้นล้วนสวมกำไลทองนุ่งห่มผ้าอันขลิบด้วยทองคำ ท่านเป็นผู้มีอานุภาพมาก มีรูปเป็นที่ให้เกิดขนชูชันแก่ผู้พบเห็น แต่ท่านจิกเนื้อที่หลังของตนกินเป็นอาหาร ท่านได้ทำกรรมชั่วอะไรไว้ด้วยกาย วาจา ใจ หรือเพราะวิบากแห่งกรรมอะไร ท่านจึงจิกเนื้อหลังของตนเองกินเป็นอาหาร? เปรตนั้นตอบว่ากระผมได้ประพฤติทุจริตด้วยการส่อเสียด พูดเท็จและหลอกลวง เพื่อความฉิบหายแก่ตนในมนุษยโลก กระผมไปแล้วสู่บริษัทในมนุษยโลกนั้น เมื่อเวลาควรจะพูดความจริงปรากฏแล้ว ละเหตุละผลเสีย ประพฤติคล้อยตามอธรรม ผู้ใดประพฤติทุจริตมีคำส่อเสียดเป็นต้น ผู้นั้นต้องจิกเนื้อหลังของตนกิน เหมือนกระผมจิกเนื้อหลังของตนกินในวันนี้ ฉะนั้น ข้าแต่พระนารทะ ทุกข์ที่กระผมได้รับอยู่นี้ท่านได้เห็นเองแล้ว ชนใดเป็นคนฉลาด มีความอนุเคราะห์ ชนเหล่านั้นพึงกล่าวตักเตือนว่า ท่านอย่าพูดส่อเสียด อย่าพูดเท็จ อย่าเป็นผู้มีเนื้อหลังของตนเป็นอาหารเลย.



    [พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๒๖]

    ---------------------

    2.เกิดเป็นกุมภัณฑเปรต คือ เปรตที่มีอัณฑะใหญ่มาก

    เรื่องกุมภัณฑเปรต

    โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเวฬุวันวิหาร อันเป็นสถานที่พระราชทานเหยื่อแก่กระแต เขตพระนครราชคฤห์ ครั้งนั้น ท่านพระลักขณะกับท่านพระมหาโมคคัลลานะ ...



    ท่านพระมหาโมคคัลลานะกล่าวว่า อาวุโส ผมลงจากคิชฌกูฏบรรพต เขตพระนครราชคฤห์นี้ ได้เห็นกุมภัณฑเปรตชาย มีอัณฑะโตเท่าหม้อ ลอยไปในเวหาส์ เปรตนั้นแม้เมื่อเดินไปย่อมยกอัณฑะเหล่านั้นแหละขึ้นพาดบ่าเดินไป แม้เมื่อนั่งก็ย่อมนั่งบนอัณฑะเหล่านั้นแหละ ฝูงแร้งเหยี่ยว และนกตะกรุม พากันโฉบอยู่ขวักไขว่ จิกสับโดยแรง จิกทึ้ง ยื้อแย่ง สะบัดซึ่งเปรตนั้นอยู่ไปมา เปรตนั้นร้องครวญคราง ...

    ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ... สัตว์นั้นเคยเป็นผู้พิพากษาโกงชาวบ้าน อยู่ในพระนครราชคฤห์นี้เอง ...



    [พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑]

     

แชร์หน้านี้

Loading...