หลวงพ่อฤาษีลิงดำ แนะนำ เทคนิคการฝึกสมาธิเบื้องต้น

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย nondanun, 6 สิงหาคม 2008.

  1. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,611
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ แนะนำ เทคนิคการฝึกสมาธิเบื้องต้น
    มหาสติปัฏฐาน 4 โดย พระมหาวีระ ถาวโร
    เรียบเรียงโดย ก้องศิลป์สองพัน

    [​IMG]

    ตอนที่ 1
    (เรื่องการรู้ลมหายใจเข้าและรู้ลมหายใจออก)

    พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า
    มหาสติปัฏฐาน 4 เป็นทางเอกทำให้สำเร็จซึ่งพระนิพพาน
    ได้แก่
    (1) ให้พิจารณากายในกาย
    (2) พิจารณาเวทนาในเวทนา
    (3) พิจารณาจิตในจิต
    (4) พิจารณาธรรมในธรรม

    ข้อที่ว่า ภิกษุพิจารณาเห็นกายในกายนั้น
    คืออะไร?????

    ท่านตอบว่า คือ
    ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ไปอยู่ในป่า หรือว่าอยู่ที่โคนต้นไม้
    หรือไปอยู่ที่ว่างบ้านเรือน
    แล้วก็นั่งกายให้ตรง ดำรงสติมั่น
    ภิกษุนั้นหายใจออกก็มีสติ หายใจเจ้าก็มีสติ

    การพิจารณากายในกาย
    ในขั้นแรก ท่านถือเอากองลมเป็นสำคัญ
    จุดเริ่มต้นนี้เขาเรียกว่า อานาปานบรรพ
    หรือว่า อานาปานสติกรรมฐาน นั่นเอง

    อานาปานสติกรรมฐานนี้มีกำลังมาก
    มีความสำคัญมาก
    สามารถทรงฌาน 4 ได้แล้ว
    ถ้าหาว่าท่านเจริญตามแบบนี้
    ท่านจะมีความสุขแบบสุขวิปัสสโก

    แต่โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
    มหาสติปัฏฐานสูตรนี้
    เราจะสามารถดัดแปลงขึ้นไปสู่
    วิชชาสาม อภิญญาหก ปฏิสัมภิทาญาณ
    ก็ทำได้ ก็ทำกันตอนอานาปานสติกรรมฐานนี้แหละ
    (แต่ส่วนนี้จะยังไม่พูดตอนนี้นะ)

    การพิจารณากายในกาย
    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อานาปานสติกรรมฐานนี่นะ
    ท่านสอน ให้เข้าไปทีละนิด ๆ
    ท่านไม่ได้ให้ทำแบบหักโหม

    ตอนนี้
    ท่านสอนอานาปานสติกรรมฐานตอนต้น
    ว่าเราหายใจเข้าก็มีสติ
    หายใจออกก็มีสติ

    วันนี้เอาแค่นี้แหละ
     
  2. Khundeaw

    Khundeaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +706
    อนุโมทนา สาธุ สำหรับธรรมทานที่ดีและมีประโยชน์ต่อพุทธศาสนิกชน
     
  3. junior phumivat

    junior phumivat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,346
    ค่าพลัง:
    +1,688
    ผู้ถาม : เมื่อทำบุญแล้ว ถ้าจะอุทิศส่วนกุศลภายหลังจะได้ไหมคะ...........?
    หลวงพ่อ : การทำบุญไปแล้วครั้งหนึ่งสักกี่ปี ๆ บุญก็ยังมีอยู่ถ้าทำไปแล้วสัก ๓๐ ปี ก็ยังอุทิศส่วนกุศลได้ บุญมันไม่หาย ไม่ใช่เราทำบุญแล้ว เดี๋ยวเดียวมันหายไปไม่ใช่อย่างนั้นนะ
    ผู้ถาม :แล้วถ้าเผื่อทำบุญแล้ว ไม่ได้อุทิศส่วนกุศลจะได้บุญเต็มที่ไหมคะ...?
    หลวงพ่อ : ก็ได้เต็มที่อยู่แล้ว เราเป็นผู้ได้สมบูรณ์แบบ แต่อยู่ที่ว่าเราจะให้เขาหรือไม่ให้ การอุทิศส่วนกุศล นี่นะ ถ้าเราไม่ให้ เราก็กินคนเดียวใช่ไหม..... ทีนี้ถ้าเราให้เขาของเราก็ไม่หมดอีก ส่วนที่เราให้ไปไม่ได้ยุบไปจากของเดิม อย่างเรื่องของ พระอนุรุทธ สมัยที่ท่านเกิดเป็นคนเกี่ยวหญ้าช้างของมหาเศรษฐี เวลาที่ท่านทำบุญแล้ว เจ้านายขอแบ่งบุญ ท่านก็สงสัยว่าการแบ่งบุญน่ะจะแบ่งได้ไหม จึงไปถามพระปัจเจกพุทธเจ้า ที่ท่านรับบาตรนะ ท่านก็เปรียบเทียบให้ฟังว่า

    "สมมุติว่าโยมมีคบ แล้วก็มีไฟด้วย คนอื่นเขามีแต่คบ ไม่มีไฟ ทุกคนต้องการแสงสว่าง ก็มาขอต่อไฟที่คบของโยมแล้วคบทุกคนสว่างไสวหมด อยากทราบว่าไฟของคุณโยมจะยุบไปไหม....?
    ท่านอนุรุทธก็บอกว่า ไม่ยุบ
    แล้วท่านก็บอกว่า "การอุทิศส่วนกุศลก็เหมือนกัน ให้เขา เขาโมทนา แต่บุญของเราเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์"


    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ



    ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงพบแล้ว ขอธรรมนั้น จงสำเร็จแก่ท่านทั้งหลายโดยเร็วด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ
    อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศล ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด หากท่านทั้งหลายยังไม่มีโอกาสได้อนุโมทนาเพียงใด ขอเทพเจ้าทั้งหลายและพระยายมราชจงเป็นสักขีพยานให้แก่ข้าพเจ้าด้วย เจอเธอเมื่อใด ขอให้เธอได้อนุโมทนาส่วนกุศลนี้ด้วยเถิด ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาตินี้ ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้า ได้เข้าถึง ซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด หากแม้นยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ขอคำว่าไม่รู้ ไม่มี ในสิ่งที่ดี จงอย่าได้บังเกิดแก่ข้าพเจ้าเลย ขอผลบุญทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้า ได้กระทำแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ จงบังเกิดผล ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
     

แชร์หน้านี้

Loading...