หลวงพ่อแดง รตโต วัดเขาบันไดอิฐ

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย Pongpat86, 22 กันยายน 2011.

  1. Pongpat86

    Pongpat86 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,430
    ค่าพลัง:
    +4,732
    เป็นเพราะว่าในปี พ.ศ.๒๕๑๓ และปี พ.ศ.๒๕๑๔ พระผงญาณวิลาศจำนวนนับหมื่น ได้ร่อยหรอไปอย่างรวดเร็วกระทำให้ผู้ที่เดินทางไปเพื่อจะเช่าไว้บูชา ประสบความผิดหวังตามๆกัน ต้องขอเช่าต่อจากผู้ที่ได้มาในตอนแรกๆ เป็นราคาองค์ละ ๒-๓ พันบาท

    เหตุนี้เอง ในปี พ.ศ.๒๕๑๕ จึงมีบุคคลผู้มีใจไม่สุจริต ร่วมกันคิดแกะแม่พิมพ์เลียนแบบ และหาวัสดุซึ่งมีอะไรบ้างก็ไม่ทาบ มาทำเป็นผง กดพิมพ์เป็นองค์พระ แล้วไปให้หลวงพ่อแดงช่วยเสกเป่า ลงพุทธานุภาพให้

    แต่ทว่า...หลวงพ่อแดงปฏิเสธ

    ถึงกระนั้น ด้วยความไม่รู้จักละอายแก่บาป บุคคลผู้ที่ลงทุนลงรอนไปแล้ว ก็พยายามหาทางถอนทุน ทั้งๆที่ไม่ได้มีการบรรจุพุทธานุภาพ เขานำออกให้เช่า ในอัตราองค์ละ ๑๐๐ บาท

    นี่แหละ คือความสัปปลับหลอกลวงของบุคคลบางจำพวก ขอสุจริตชนทั้งหลายพึงระมัดระวังให้จงหนัก

    ฉะนั้นทางที่ดีที่สุด ผู้ใดอยากมีพระผงญาณวิลาศที่เป็นของแท้ จากวัดเขาบันไดอิฐ จังหวัดเพชรบุรีละก็ ก็โปรดไปเช่าบูชาที่วัดนี้โดยตรง ด้วยทางวัดไม่เคยมีการมอบหมายให้ผู้ใดรับช่วงไป เพื่อให้บูชาเช่าเลย
     
  2. Pongpat86

    Pongpat86 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,430
    ค่าพลัง:
    +4,732
    พระชินญาณวิลาศ

    กาลล่วงเลยมาถึงปี ๒๕๑๖ การณ์ก็ได้ปรากฏว่าพระผงญาณวิลาศ ซึ่งสร้างถึง ๔๐,๐๐๐ องค์ ในปี พ.ศ.๒๕๑๓ เหลืออยู่แค่เพียง ๒,๐๐๐ องค์เท่านั้น ไม่พอที่จะนำเข้าบรรจุกรุ ภายหลังที่พระครูญาณวิลาศมรณภาพแล้ว (ตามที่ตั้งใจกันไว้) เพื่อสำหรับคนรุ่นต่อไป

    อีกประการหนึ่ง พระผงที่สร้างคราวนี้ เนื้อผงเปื่อยยุ่ยง่ายในเมื่อได้รับความชื้นแฉะ

    ท่านภิกษุบุญส่ง ธมฺมปาโล ซึ่งเป็นประธานกรรมการของวัด พระเนื้อผงรุ่นนี้จะให้เป็นของคนในรุ่นปัจจุบันทั้งหมดโดยไม่นำเข้าบรรจุกรุ ส่วนที่จะนำเข้าบรรจุกรุ ภายหลังจากหลวงพ่อแดงมรณภาพแล้ว ควรที่จะให้เป็นเนื้อที่คงทนต่อความชื้นแฉะภายในกรุ

    นั่นก็คือเนื้อชิน ซึ่งก็เลือกเอาชินตะกั่ว ด้วยว่าราคาย่อมเยาว์กว่า

    เมื่อนมัสการเรียนความประสงค์ ต่อหลวงพ่อแดงได้ทราบแล้ว หลวงพ่อแดงก็อนุญาต

    ฉะนั้น ในระยะต่อมา จึงดำเนินการสร้างขึ้นอีกเนื้อหนึ่ง โดยทางวัดเป็นฝ่ายลงทุน และมี ประสงค์ เจิมพร กับ เจิม พรหมประสิทธิ์ เป็นผู้วิ่งเต้นหาช่างทำแม่พิมพ์ ซึ่งมีสองพิมพ์ด้วยกัน คือพิมพ์ภควัม กับพิมพ์สี่เหลี่ยม

    พร้อมแล้ว ทั้งสองก็พานายช่างหล่อไปหลอมชินเทพิมพ์องค์พระที่วัด

    การหล่อพระครั้งนี้ เป็นเหตุให้องค์พระหนาและหนักมาก ผิดกับแบบที่ใช้ปั๊ม

    พระเนื้อชินที่สร้างในครั้งนี้ ก็เป็นเช่นเดียวกับพิมพ์ภควัมเนื้อผง ไม่เปิดให้เช่า ชื่อของพระเนื้อชินนี้มีชื่อว่า "พระชินญาณวิลาศ"

    หาใช่ "พระผงญาณวิลาศ" ไม่
     
  3. Pongpat86

    Pongpat86 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,430
    ค่าพลัง:
    +4,732
    เหรียญหลวงพ่อแดง

    ผู้สนใจฝักใฝ่นิยมในเหรียญหลวงพ่อแดงทั้งหลาย จะรอดพ้นจากการถูกต้ม-คดโกง จากผู้ไม่สุจริตทั้งปวง หากพยายามรู้จักพินิจวิเคราะห์ในจุดตำแหน่งของแต่บะเหรียญ ก็ยากยิ่วที่จะได้เหรียญปลอมมาครอบครอง

    อีกประการหนึ่ง ที่ต้องพิจารณาประกอบด้วยคือ แม้ว่าจุดต่างๆ จะมีครบถูกต้องสมบูรณ์ก็ตาม เหรียญนั้นจะเป็นทองแดงหรือเงินเท่านั้น แต่ถ้ามีน้ำหนักมากผิดปกติจนเกินน้ำหนักของทองแดง ก็หมายความว่า เป็นเหรียญ เก๊ แน่นอน เพราะเป็นเหรียญที่หลอมจากตะกั่ว

    ส่วนเหรียญเงินแท้รุ่นหนึ่งนั้น ทราบว่ามีอยู่เพียง ๘๓ เหรียญเท่านั้นเอง จึงรู้สึกว่าเป็นการยากมากที่จะผ่านเข้ามาถึงมือท่าน

    เมื่อหลวงพ่อแดงอายุครบ ๘๒ ปี และได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระครูญาณวิลาศ เหรียญเงิน "พระครูญาณวิลาศ" ก็ได้ถูกสร้างขึ้นเป้นพิเศษ ๘๓ เหรียญ เท่ากับจำนวนอายุของหลวงพ่อ ซึ่งย่างเข้าปีที่ ๘๓ แล้วหลวพ่อแดงได้แจกให้แก่ บรรดาผู้มาร่วมงานฉลองในวันนั้น แจกเรื่อยไปจนกระทั่งหมด

    แต่แล้วก็ มีปัญหาเกิดขึ้นในระหว่างนักเลงพระว่า

    เหรียญหลวงพ่อแดง

    คนไม่นิยมหรือ

    ช่างที่ทำงานประจำอยู่กับหลวงพ่อแดงมานาน ก็มีโอกาสเป็นเจ้าของเหรียญเงินนี้ด้วยเหมือนกัน

    เมื่อได้มาเป็นกรรมสิทธิ์แล้ว แกพิจารณาดู พลิกซ้าย พลิกขวา ทั้งหน้าและหลัง แล้วสีหน้าก็แสดงออกว่าไมพอใจในเหรียญนี้เท่าใดนัก เพราะแกลังเลใจในความไม่นิยมของคนที่แว่วมาเข้าหู

    กรรมการวัดท่านหนึ่งจึงกล่าวว่า

    "รับไปเถอะลุง เหรียญเงินเป็นอย่างนี้เกือบทุกเหรียญแหละ ได้มีโอกาสเป็นเจ้าของน่ะ ดีที่สุดแล้ว"

    แต่เพราะเสียงร่ำลือที่เป็นอกุศลนั่นเอง เพราะหูเบาและใจเขวนั่นเอง แกจึงมอบเหรียญเงินนั้นให้ผุ้อื่นไป

    เหมือนดวงแก้วหลุดจากมือ

    ครั้นแล้ว ท่านเชื่อหรือไม่ว่า นับแต่เดือน เมษายน พ.ศ.๒๕๑๓ จวบจนถึงบัดนี้

    บรรดาเหรียญรุ่นใหม่ในวงการพระเครื่อง คงไม่มีเหรียญใดจะดังห้องไปกว่าเหรียญเงินของหลวงพ่อแดง แห่งวัดเขาบันไดอิฐ จังหวัดเพชรบุรี เพราะราคาค่างวดขณะนั้น มีผู้ให้ราคาเกินกว่าหมื่นบาทแล้ว ด้วยเหรียญนี้แสดงพุทธนุภาพให้ประจักษ์ตาแล้วมากต่อมาก

    จริงอยู่! เหรียญเงินอาจจะมีสภาพไม่เรียบร้อยอยู่บ้าง

    วินิจฉัยตริตรองดุให้ดี ก็เหมือนคนเราที่หัดสวดมนต์ครั้งแรกๆ ย่อมตะกุกตะกัก ผิดบ้างถูกบ้างเป็นธรรมดา การพิมพ์หนังสือ การถ่ายรูป บรู้ฟ ครั้งแรกอาจไม่เรียบร้อย ขาดความสวยงามชวนพิศ ก็เช่นเดียวกับการทำเหรียญเงินนี้ออกมาครั้งแรกเหมือนกัน
     
  4. Pongpat86

    Pongpat86 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,430
    ค่าพลัง:
    +4,732
    เมื่อหลวงพ่อแดงถูกขโมย

    ต่อไปนี้เป้นคำบอกเล่าโดยละเอียดจาก ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ผู้เคยผ่านเมืองนอกเมืองนาจนกระทั่งรับปริญญาเอกทางรัฐศาสตร์

    ภายหลังจากที่เดินทางไปนมัสการ หลงพ่อแดงถึงวัดแล้ว

    ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล จึงมีเรื่องราวที่มีสาระซึ่งจะต้องเขียนมห้ท่านได้ทราบ ดังข้อความต่อไปนี้...

    "เมื่อกลับมาจากต่างประเทศใหม่ๆ คุณแม่ก็บอกว่าจะพาไปให้พระรดน้ำน้ำมนต์ ให้เป็นศิริมงคลแก่ชีวิตยืนนาน

    ผมก้เป็นชาวพุทธคนหนึ่ง ซึ่งเลื่อมใสในหลักธรรมและปรัชญาของศาสนาพุทธ ดังนั้นผมจึงไม่ยอมขัดอัธยาศัยของคุณแม่ ไปก็ไป...ไปหาพระหาเจ้านะย่อมเป็นของประเสริฐเสมอ มีแต่ความร่มเย็นเป็นนิจศีล

    แล้วเราทั้งสองคนก็ออกเดินทางไปยังวัด ที่เป็นสำนักของหลวงพ่อ ที่คุณแม่ชอบเรียกเสมอว่า คุณพ่อ

    วัดนั้นตั้งอยู่บนเขาเตี้ยๆ แต่เต็มไปด้วยความสะอาดร่มเย็น เมื่อผมกับคุณแม่ขึ้นไปถึงบริเวณนั้น ก็แลเห็นมีผู้คนจำนวนมากนั่งอยู่ก่อน ราวกับว่ามีงานบวชงานาคก็ว่าได้

    คุณแม่พาผมเลี่ยงไปทางด้านหลัง ที่มีประตูเหล็กแข็งแรงชนิดยึดได้แบบเดียวกับประตูของร้านค้าต่างๆ

    หลังจากล่วงพ้นประตูเหล็กเข้าไปแล้ว ก็ถึงซอกเล็กๆ ซึ่งค่อนข้างมืด จากนั้นยังจะต้องผ่านประตูไม้อีกชั้นหนึ่ง ซึ่งจะถิดสลักข้างในออกได้โดยช่องที่ทำซ่อนไว้ให้เร้นลับ
     
  5. Pongpat86

    Pongpat86 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,430
    ค่าพลัง:
    +4,732
    ต่อจากนั้นก็ถึงประตูไม้แบบโบราณ ซึ่งผิดสนิทลั่นดานข้างใน

    คุณแม่ก็เข้าไปเคาะแล้วเรียกค่อยๆ พร้อมกับบอกชื่อให้ทราบว่าเป็นใคร

    ข้างในประตูก็บังเกิดเสียงกุกกักอยู่เล็กน้อย ต่อมาสลักข้างในใจก็ถูกถอดออก พอเปิดประตูออก ผมแลเห็นพระภิกษุรูปหนึ่ง รู้สึกว่าชราภาพมาก ท่านหันหลังให้เดินกลับไปข้างใน พร้อมกับสั่งให้ปิดประตูลั่นดานเสีย

    พอพ้นจากประตูก็ถึงห้องยาวๆ แต่ดูจะแคบที่สุดห้องกั้นเป็นห้องเล็กๆ ขนาดเมตรครึ่ง ยาวสองเมตร ทุกอย่างเก่าคร่ำ ทั้งประตูและหน้าต่าง

    ในห้องเล็กๆนั้น เป้นที่อยู่ของภิกษุชรารูปนั้น ส่วนห้องด้านใน มีเตียงไม้เก่าๆ พร้อมด้วยผ้านวมบางๆ ปูต่างที่นอน ที่หัวนอนมีหิ้งพระพุทธรูปอยู่ ๒-๓ องค์ติดๆ กับเตียงใกล้ทางเข้า มีโต๊ะไม้สีดำ บนโต๊ะเต็มไปด้วยข้าวของหลายอย่าง นับตั้งแต่กาน้ำชา ไปจนถึงตะบันหมาก

    ขณะนั้น ภิกษุชรานั่งอยู่บนเก้าอี้แบบโยกได้ กำลังนั่งเคี้ยวหมากอยู่ พิจารณาโดยถ้วนทั่วแล้ว ทำให้รู้สึกว่าท่านเป็นคนใจดี ใบหูยานเป็นลักษณะของคนเปี่ยมไปด้วยบุญ มือหนึ่งพาดที่ท้าวแขน อีกมือหนึ่งวางบนตัก

    ด้วยสำเนียงสุ้มเสียงที่ระบุบ่งว่า เป็นผู้ที่มีอารมณ์เย็น ท่านเปล่าเสียงทักทายว่ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ สบายดีหรือ พร้อมกับถามถึงญาติคนโน้นคนนี้หลายๆคน และยังเล่าถึงเหตุการณ์ต่างๆ ในสมัยท่านให้ฟัง รู้สึกว่าท่านคุยสนุก และสนิทสนมกับเรามาก ในที่สุดจึงทราบว่าท่านสนิทชิดชอบกับที่บ้านมากตั้งแต่สมัยทวด และย่าทวด
     
  6. Pongpat86

    Pongpat86 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,430
    ค่าพลัง:
    +4,732
    ตอนหนึ่งคุณแม่ถามว่า

    "ทำไมคุณพ่อถึงชอบอยู่อุดอู้ปิดหมดอย่างนี้ ไม่ออกไปเดินเล่นข้างนอกบ้าง"

    ท่านก็ยื่นหน้าตอบว่า

    "นี่คุณ คุณได้ยินเสียงนกเสียงการ้องบ้างไหม ข้างนอกน่ะ สมัยก่อนส่งดสียงกันแซ่ดไปหมด นกหนูมันยังทนอยู่กันไม่ได้แล้ว จะให้ฉันออกไปได้อย่างไร"

    ผมต้องคิดมากในคำพูดของท่าน และเมื่อคิดโดยรอบคอบแล้ว ก็กระทำให้ผมเข้าใจได้ในบัดนั้นว่าพระภิกษุชราที่อยู่ข้างหน้าผม ท่านตัดแล้ว สละแล้วซึ่งกิเลสทั้งปวง

    ผมต้องคิดในเมื่อท่านเข้าใจพูดและโดยมากจะพูดแต่ถ้อยคำที่ล้วนแหลมคมทั้งสิ้น

    ครั้งหนึ่งท่านถามผมว่า

    "เขาว่าหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดใช่ไหมวะ"

    ผมก็ตอบว่า "ใช่ครับ เขาว่ากันยังงั้น"

    หลวงพ่อจึงก้มลงมาบอกว่า

    "ฉันนี่เหยียบน้ำจืดเป็นน้ำทะเลได้"

    ผมฟังแล้วก็ตื่นเต้นที่จะได้เห็นของดี ท่านพูดต่อไปว่า

    "เหยียบที่ท่าน้ำในแม่น้ำนี้ แล้วก็เป็นน้ำทะเลที่ปากอ่าวโน่น" พูดจบท่านก็หัวเราะเอิ๊กอ๊ากชอบใจ ที่หลอกพวกเราที่ไม่ทันท่าน

    ท่านพูดอีกว่า

    "ฉันน่ะ อายุ ๙๖ ก.ไก่ ก.กา ไม่เป็นสักตัวเดียว เดี๋ยวนี้ใครก็รู้จักทั่วประเทศ ที่พวกคุณเรียนเมืองนอกเมืองนาเป็น ๑๐ ปี ปริญญา เอก โท พ่วงท้ายให้ยาวๆ แต่ก็ไม่เห็นมันดังเลย

    ท่านพูดเตือนสติ เพื่อให้เรารู้จักประมาณตน ประมาณใจ ไม่ทะนงและไม่เห่อเหิม

    คราวหนึ่งเราบอกว่า

    "คุณพ่อจำวัดเถอะ เดี๋ยวจะเหนื่อย"

    ท่านกลับพูดว่า

    "ฉันอยู่วัดนี้มา ๗๐ กว่าปีแล้ว ฉันจำได้ย่ะวัดฉัน ทำไมฉันจะจำไม่ได้"

    ต่อๆ มาผมก็ได้ไปหาท่านเสมอ ซึ่งก็มีอยู่ครั้งหนึ่ง พอผมก้าวล้ำเข้าประตูไป ก็มีพวกที่นั่งอยู่บนวัดซึ่งเขาอยากจะ กราบนมัสการคุณพ่อบ้าง บางคนมาเฝ้าเป็น วันๆก็มี เขาเหล่านั้นตามผมพรูเข้าไป

    พอท่านเข้านั่งที่ของท่านเรียบร้อยแล้ว ท่านถามว่าพาใครมาด้วยหรือ

    ผมอึดอัดใจไม่ทราบว่าจะตอบประการใดดี เพราะว่าปกติแล้วทางวัดจะไม่ให้ใครเข้ามาพบท่านเลย

    ครั้นผมตอบอ้อมแอ้มไม่ค่อยเต็มปากเต็มคำว่า

    "ไม่รู้จัก"

    ท่านก็เลยบอกว่า

    "อ๋อ! พวกลูกเพชร แม่พลอย"

    ผมจึงพาซื่อพลอยเข้าใจว่า พวกเหล่านี้ คงจะสนิท ชิดขอบกับคุณพ่อเช่นกัน เพราะท่านรู้จักว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร

    แต่แล้วก็ต้องมาถึงบางอ้อ ในเมื่อท่านพูดต่อว่า

    "พวกพลอยพยัก ใครเขาทำอะไรก็พลอยพยักไปกับเขาด้วย" พวกนั้นเลยหน้าแห้งไป
     
  7. Pongpat86

    Pongpat86 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,430
    ค่าพลัง:
    +4,732
    ท่านแจกเหรียญให้คนละเหรียญ เสร็จแล้วก็ขยับไม้ตะพดแล้วตะเพิดออกมาหมด แต่รู้สึกว่าดูทุกคนต่างพากันอิ่มอกอิ่มใจที่ได้เข้ามาเห็นตัวท่าน และได้รับเหรียญจากมือ แม้จะถูกว่ากล่าวอย่างไรก็สบายใจ

    นี่แหละความศรัทธา!

    บางคนแอบฉีกผ้าจีวรกระรุ่งกระริ่ง ที่ท่านวางไว้สำหรับเช็ดเท้า เอาไปเก็บเป็นเครื่องราง

    บรรดาผู้ที่ถูกด่าว่า หากรู้ซึ้งถึงความรู้สึกในส่วนลึกของท่านจริงๆ แล้ว จะไม่โกรธท่านเลย เพราะเหตุว่า เมื่อคนออกไปหมดแล้ว ท่านถึงกับหัวเราะออกมาพลางบอกว่า

    "ฉันทำดุไปยังงั้นแหละ แกล้งตะเพิดไปอย่างงั้นเอง จะได้ไม่กล้าเข้ามากวนฉัน มาเป็นร้อยเป็นพัน คนนั้นจะให้รดน้ำมสต์ คนนี้จะให้เป่ากระหม่อม คนโน้นจะเอานี้ คนนั้นจะเอานี่ มันจะฆ่าฉันให้ตายเร็วๆ"

    น่าเห็นใจ เพราะถ้าเปิดรับให้เข้ามาแล้ว ท่านก็คงจะไม่มีเวลาพักผ่อนแน่

    โดยเฉพาะยิ่งเป็นวันเสาร์ และวันอาทิตย์ด้วยแล้ว มีเป็นร้อยๆทีเดียว

    เวลาท่านนั่งปลุกเสก หรือเป่ากระหม่อม ท่านเข้าสมาธิด้วยพลังจิตอย่างแรงเห็นได้ชัด ทั้งที่ในห้องอากาศก็ไม่ร้อน พอท่านเริ่มสวด เหงื่อเม็ดโป้งๆเกาะอยู่เต็มใบหน้าท่าน เมื่อเสร็จพิธี เหงื่อก็ท่วมเห็นแล้วรู้สึกสงสารท่านมาก อย่าลืมว่าท่านอายุ ๙๖ แล้ว

    เคยถามท่านเรื่องอายุ ท่านมักกล่าวเล่นทีว่า ท่านจะอยู่สัก ๑๐๐ ปี ท่านสั่งไว้ว่าไม่ให้เผาท่านให้บรรจุตั้งไว้ที่วัด ลูกศิษย์ลูกหาจะได้มานมัสการท่านได้ทั่วถึง
     
  8. Pongpat86

    Pongpat86 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,430
    ค่าพลัง:
    +4,732
    ท่านไม่ค่อยเชื่อความเจริญ ในทางวิทยาศาสตร์ทุกครั้งที่ท่านเจ็บป่วย ท่านก็จะปรุงหยูกยาของท่านเสมอน้อยครั้งที่บรรดาหมอสมัยใหม่จะได้มีโอกาสมารักษาท่าน แม้ว่าในอาทิตย์หนึ่ง ท่านอาบน้ำเพียงครั้งสองครั้ง แต่ทว่าร่างกายของท่านก็ยังสะอาดบริสุทธิ์อยู่เป็นนิจ

    ทางด้านวิทยาศาสตร์นั้น ปรากฏว่าท่านเคยเอาชนะมาแล้ว คือ

    เมื่อคราวเกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ ที่จังหวัดเพชรบุรี ยังผลให้ทั้งวัวและควายต้องล้มตายนับจำนวนมาก สัตว์แพทย์เองก็ถึงกับจนปัญญา หมดทางจะบำบัดเยียวยา หมดทางจะกำจัดแก้ไข คราวนั้นใครๆก็จำได้ว่าโรคร้ายสงบเงียบลงเพราะความขลัง และศักดิ์สิทธิ์ของผ้ายันต์แขวนคอของคุณพ่อ วัวควายตัวไหนถ้ามีผ้ายันต์ผูกคอเป็นรอดตายทุกตัว

    ผ้ายันต์นี้ผืนเล็ก ขนาดกว้างยาวประมาณ ๔ คูณ ๗ นิ้ว แต่ผ้ายันต์ที่สมบูรณ์จริงๆ ผืนใหญ่กว่า คือขนาดประมาณผ้าเช็ดหน้าผู้ชาย มีอักขระเลขยันต์เต็มไปทั้งผืนใช้ได้สารพัดอย่าง ทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ปัจจุบันท่านเลิกทำแล้วสำหรับผ้ายันต์ผืนใหญ่ ด้วยตาท่านมองไม่เห็น

    จากเรื่องของผ้ายันต์นี้

    ผมขอเล่าให้ทราบว่า

    เมื่อปลายปี พ.ศ.๒๕๑๔ ผมขับรถไปและได้พลิกคว่ำกลางทางถึงยับเยิน เพราะพลิกถึง ๓ ตลบ ในขณะที่วิ่งไปด้วยความเร็ว ๑๓๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง

    ตัวผมเองขณะนั้นหลุดออกมาครึ่งตัว ทางหน้าต่างรถด้านตรงข้าม หลังคารถยุบล
    งมาทับขา นี่แสดงว่าผมต้องหลุดออกมาในระหว่างรถคว่ำ แต่ทว่า....ทำไมผมจึงไม่ถูกตัวรถทับครูดกับพื้น

    ท่านเชื่อไหมครับ?

    ตัวผมไม่เป็นอะไรเลย นอกจากมีแผลเล็กๆ ที่แขนข้างซ้ายเท่านั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2011
  9. Pongpat86

    Pongpat86 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,430
    ค่าพลัง:
    +4,732
    เหตุทั้งนี้ก็เพราะว่า ในรถของผมขณะนั้นมีผ้ายันต์ของคุณพ่อผูกไว้ ๒ ผืน ในตัวผมนั้นไม่ได้มีพระติดมาสักองค์เดียว

    เมื่อไปนมัสการท่าน และกราบเรียนให้ท่านมราบ ท่านก็หันไปยกมือไหว้พระที่บนหิ้งบูชา แล้วบอกผมว่า

    "คุณพระรัตนตรัยมาช่วยทัน"

    นี่แสดงว่า ท่านถือว่าท่านเป็นแต่ผู้อัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาสถิตย์ในตัวเราเท่านั้นเอง ไม่เคยหลงว่าเป้นของตัวท่านเลย

    หลายๆ คนคงจะรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้างเหมือนกัน หากผมจะบอกให้ทราบว่า คุณพ่อเองก็พกเหรียญด้วยเหมือนกัน โดยเอาใส่ไว้ในย่ามเวลาไปไหนมาไหน

    เหรียญที่ท่านติดใส่ในย่ามไปนี้ มีอยู่สองเหรียญด้วยกะน ท่านเอาเข็มกลัดซ่อนปลายกลัดรวมกันไว้

    เหรียญหนึ่ง เป้นเหรียญหลวงพ่อฉุย วัดคงคาราม จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป้นอาจารย์ของท่าน อีกเหรียญหนึ่งก็เป็นอาจารย์เช่นเดียวกัน จำชื่อไม่ได้ อยู่จังหวัด นครปฐม

    ท่านเล่าว่าท่านมีอาจารย์อยู่ ๓ องค์ องค์ที่อยู่จังหวัดนครปฐมนั้น ท่านบอกว่าเก่งมาก สามารถย่นระยะทางได้ ลูกศิษย์ขึ้นรถไฟที่สถานีธนบุรี(บางกอกน้อย) หลวงพ่อลงไปฉันน้ำ รถไฟออกท่านก้ไม่ขึ้นมา ลูกศิษย์นึกว่าท่านตกรถไฟ ทำเอาใจไม่ดี ทำไงล่ะ? แต่พอถึงวัด ลูกศิษย์ก็เห็นท่านนั่งปร๋ออยู่ที่วัดแล้ว สร้างความตื่นตะลึงแก่บรรดาลูกศิษย์เป็นอันมาก

    ขอย้อนกล่าวถึงเหรียญสองเหรียญที่คุณพ่อพกติดไว้ในย่ามอีกนิด

    ขณะที่ท่านรับนิมนต์ไปฉันเพล ณ บ้านแก่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบุรีนั่นเอง ปรากฏว่ามีมือเลวมาล้วงเอาเหรียญพระ ๒ องค์นั้นไปเสียแล้ว

    ท่านที่รัก

    "คุณพ่อ" ที่ผมเล่าให้ฟังมาแต่ต้นนี้ ท่านคงเดาออกสิครับว่า "คุณพ่อ" นี้คือใคร ถ้ายังสงสัยอยู่ผมก็จะบอกให้ก็ได้ครับ

    ท่านคือ คุณพ่อแดง หรือนัยหนึ่ง หลวงพ่อแดง แห่งวัดเขาบันไดอิฐ จังหวัดเพชรบุรี ที่ท่านก้รู้จักกันทั่วทั้งประเทศไทย

    จบคำเล่าจากประสบการณ์ของ
    ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล
     
  10. Pongpat86

    Pongpat86 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,430
    ค่าพลัง:
    +4,732
    อภินิหารที่ไม่น่าเชื่อ
    แต่ต้องเชื่อ
    ของเหรียญหลวงพ่อแดง

    จากนี้ไปจะได้ตื่นเต้นพิศวงกับอภินิหารต่างๆ ที่ประกาศความจริงมาแล้ว ของเหรียญหลวงพ่อแดงที่เรากำลังให้ความเลื่อมใสศรัทธากันอยู่โดยทั่วหน้า

    ท่านเจ้าคุณพระสุนทรโกศล แห่งวัดเทพธิดาราม ได้ประสบกับอภินิหารของเหรียญหลวงพ่อแดง รวม ๓ ครั้งด้วยกัน ครั้งแรกท่านเจ้าคุณฯ นั่งรถยนต์ไปเพชรบุรี พอไปถึงระหว่าง ก.ม. ๑๑๗-๑๑๘ ถนนเพชรเกษม ณ บ้านคูบัว ตำบลอ่างทอง อำเภอเมืองราชบุรี แล้วรถยนต์ที่ท่านนั่งมายางแตก รถพลิกคว่ำไปตกอยู่ที่ข้างต้นกล้วย กระจกประตูไม่แตก และกระจกหน้าหลุดไปทั้งแผ่นไม่แตกเช่นเดียวกัน

    ปรากฏว่าทุกคนที่อยู่ในรถต้องคลานออกมา ทุกคนไม่ได้รับอันตราย เพียงแต่ท่านพระครูสมุทรเมธีวัดเทพธิดารามหน้าผากโน บวมปูดขึ้นมาเล็กน้อย ทั้งนี้เพราะท่านเจ้าคุณฯ มีเหรียญหลวงพ่อแดงรุ่น ๐๓ ติดตัวอยู่

    ต่อมาอีกในปี พ.ศ.๒๕๐๖ ท่านเจ้าคุณฯ พร้อมด้วยคณะประมาณ ๕๐ คน ได้เดินทางไปงานฉลองโรงเรียนประชาบาลวัดใหม่ราษฎ์บำรุง อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี รถยนต์ได้แล่นตรงมายังสนามจันทร์ นครปฐม จนชนกับรถไฟ คนขับก้หักพวงมาลัยหลบ รถก็เลยเหวี่ยงตัวตกลงไปข้างถนน กระแทกอย่างแรง แต่ก็ปรากฎว่าไม่มีใครได้รับอันตรายเลยแม้แต่น้อย

    ปี พ.ศ.๒๕๐๙ รถยนต์ที่ท่านเจ้าคุณนั่ง ก็ไปคว่ำตกลงไปในคลองจมน้ำ ที่บ้านกล้วย ตำบลเจ็ดเสมียน อำเภอเมืองราชบุรี ผลปรากฏว่า ทุกๆ คนมีความปลอดภัยโดยทั่วหน้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2011
  11. Pongpat86

    Pongpat86 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,430
    ค่าพลัง:
    +4,732
    สาเหตุที่เหรียญรุ่นหนึ่ง ของหลวงพ่อแดงจะดังกังวานจนเป็นที่รู้จักของนักเลงพระทั่วประเทศ ยังมีเล่าเข้าหูอีกว่า

    ปีนั้น! พ.ศ.๒๕๐๗

    มีฝรั่งเชื้อชาติอเมริกันสองคนสามีภรรยา เดินทางมาทัศนาจรในประเทศไทย

    ไกด์ที่นำเที่ยงก็พาไปเที่ยวที่จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งโอกาสนี้ทั้งสองสามีภรรยาชาวอเมริกัน ก็ได้ไปถึงวัดเขาบันไดอิฐเพื่อดูถ้ำต่างๆ หลายถ้ำ หลังจากทัศนาจรจนทั่วแล้ว ไกด์ก็นำขึ้นไปบนกุฏิหลวงพ่อแดง ด้วยเผอิญขณะนั้น เหรียญหลวงพ่อแดงยังแจกไม่หมด เมื่อไกด์ได้ปนะนำให้ฝรั่งช่วยทำบุญด้วย ฝรั่งสองสามีภรรยาก็มีความศรัทธาวมทำบุญด้วย พระที่เฝ้าเหรียญจึงหยิบเหรียยให้ฝรั่งไปคนละหนึ่งเหรียญ

    ฝรั่งซักถามไกด์ว่า เหรียญนี้ใช้ทำอะไรได้ ไกด์ก็บอกว่า เก็บติดตัวไว้จะมีโชคลาภ และแคล้วคลาดจากอันตรายต่างๆ เขาทั้งสองก็เลยเอาเหรียญนั้นติดตัวไว้ จากนั้นก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ เพื่อเตรียมขึ้นเครื่องบินกลับไปยังสหรัฐอเมริกา

    ระหว่างทางที่นั่งรถกลับมาจากเพชรบุรี เข้ามายังกรุงเทพฯ อุบัติเหตุก็เกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน

    รถที่นั่งมาคันนั้นพลิกคว่ำลงข้างทาง ล้มกลิ้งไปเป้นหลายทอด รถพังยังเยิน ผุ้คนทั้งหลายที่แลเห็นเหตุการณ์ ต่างก็ต้องเชื่อและมีความเห็นพ้องกันว่า คนในรถคันนั้นต้องตาย ไม่มีทางรอดแน่

    แต่น่าแปลกที่สุด!

    ฝรั่งทั้งสองคน พร้อมด้วยไกด์นำทางที่ร่วมไปด้วย ไม่เป็นอะไรเลย เพียงแต่มีรอยฟกช้ำเล็กน้อยเท่านั้น ในตัวของฝรั่งทั้งสองคน ต่างก็มีเหรียญหลวงพ่อแดงติดตัวกันอยู่คนละเหรียญ

    เปล่า-เรื่องยังหาได้จบลงแค่นั้นไม่ เป็นธรรมเนียมของฝรั่งโดยมาก หลังจากผจญกับรถคว่ำมาแล้วเขาจะต้องไปให้ดรงพยาบาลกระทำการตรวจเช็คประสาท และเอ็กซ์เรย์ดูภายในร่างกายว่า ได้รับความกระทบกระเทือนมากน้อยเพียงใด หรือไม่

    ผลจากการเอ็กซ์เรย์ และตรวจโดยละเอียดปรากกว่าฝรั่งทั้งสองมีอาการปกติดี ไม่มีส่วนใดที่บอบช้ำเลย ซึ่งก็เพราะต้องเสียเวลามาตรวจเช็คที่โรงพยาบาลนี่เอง เลยกระทำให้เขาทั้งสองไปเครื่องบินโดยสารเที่ยวที่บุคไว้แล้วไม่ทัน จำต้องเลื่อนการเดินทางให้เนิ่นออกไปอีก ทั้งนี้ก้ไม่ใช่เพราะคราวซวยหรือคราวเคราะห์ของฝรั่งทั้งสองคนนั้นเลย ที่ไปเครื่องบินเที่ยวนั้นไม่ทัน กลับเป้นโชคอย่างมหาศาลเสียอีกด้วย

    เพราะเหตุว่า

    ในเช้าวันรุ่งขึ้น ก็มีข่าวตัวใหญ่ พาดหัวหนังสือพิมพ์ว่า เครื่องบินโดยสารเที่ยวนั้น พาผู้โดยสารจบ ๗๑ ชีวิต ดิ่งลงทะเล ขณะที่จะลงสนามบินไคตัก ทุกคนตายเรียบ เหตุการณ์นี้ปรากฏขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๗

    เหมือนตายแล้วเกิดใหม่!

    ฝรั่งสองสามีภรรยา ได้เล่าถึงเหตุการณ์บังเอิญนี้ให้เพื่อนฝรั่งด้วยกันฟัง ฉะนั้น ในวันต่อมาจึงมีฝรั่งและคนไทยมากมาย รุดไปยังวัดเขาบันไดอิฐกันอย่างเนืองแน่น ต่างพากันขอเหรียญหลวงพ่อแดงรุ่น ๑ มาคนละเหรียญสองเหรียญพร้อมกับร่วมทำบุญเหรียญละ ๑ ดอลล่าร์

    ไม่ช้าเหรียญรุ่นนี้ก็หมดไปจากวัด
     
  12. Pongpat86

    Pongpat86 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,430
    ค่าพลัง:
    +4,732
    เรื่องนี้ เกิดขึ้นในสมรภูมิ

    ปี พ.ศ.๒๕๑๒

    ในขณะที่ทหารไทย คือ กองพันเสือดำ กำลังปฏิบัติการรบอย่างดุเดือดอยู่ในสมรภูมิที่เวียตนามนั้น

    ในแคมป์แบแค็ท มีชาวญวนวัยรุ่นคนหนึ่ง อายุประมาณ ๑๒-๑๓ ปี เป็นเด็กกำพร้า หนูน้อยญวนคนนี้จัดว่ารู้ภาษาไทยพอสมควร เพราะได้มาอยู่คลุกคลีกับทหารไทยนับหลายรุ่นด้วยกัน

    ครั้นอยู่มาวันหนึ่ง ทหารสารวัตร ๒-๓ คน ได้รับคำสั่งจากผู้บัญชาการ ให้ไปทำการตรวจทหารไทยในหมู่บ้านญวนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของพวกเวียตกง ดังนั้นทหารสารวัตรก็ชวนหนูน้อยชาวญวนให้ร่วมไปด้วย โดยหวังจะให้หนูน้อยรับหน้าที่ล่ามเจรจาภาษาญวนให้

    เนื่องจากเส้นทางสายนั้นเต็มไปด้วยอันตราย รถที่ผ่านไปมักถูกลอบยิงอยู่เสมอๆ

    ด้วยความนึกสงสารเอ็นดู แก่หนูน้อยชาวญวนคนนั้น ผู้หมู่ไทยของเราก็ปลดเหรียญหลวงพ่อแดงออกมาจากคอส่งให้หนูน้อย บอกให้ติดตัวไว้จะได้ป้องกันอันตราย หนูน้อยคนนั้นจึงเอาเหรียญนั้นผูกเชือกร่มห้อยคอไว้ แล้วก็ขึ้นรถติดตามทหารสารวัตรกลุ่มนั้นไปยังจุดหมาย

    ครั้นรถแล่นมาถึงโค้งซึ่งเป็นสวนยางทึบ บรรดาเวียตกงกว่า ๒๐ คน ที่ลอบซุ่มอยู่แล้ว ก็ยิงปืนกราดเข้าใส่มาที่หน้ารถเป็นห่าฝน

    ผู้หมู่สารวัตรเลือดนักสู้ของไทย ก็ต้องยิงต่อสู้ด้วยความจวนตัว เป็นธรรมดาที่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ ผู้หมู่ทั้งสามนั้นถูกกระสุนปืนตายเรียบ คงเหลือแต่อ้ายหนูน้อยชาวญวน คนนั้นคนเดียวที่รอดไปได้ หนูน้อยเห็นท่าไม่ดี ก็ลุกขึ้นวิ่งหนีอุตลุด ปืนที่หมายมั่นระดมยิงทั้ง ๒๐ กระบอก ไม่ปรากฏมีกระสุนลูกใดถูกตัวเจ้าหนูน้อยเลย ประจวบกับขณะนั้นมีทหารไทยอีกจำนวนหนึ่งตามมาทันยังที่เกิดเหตุ พวกเวียตกงก็เลยถอยหนีไป พร้อมกับจุดไฟเผารถจิ๊ปและซากทหารไทยเสียสิ้น

    คุณผู้อ่าน - เหรียญหลวงพ่อแดงที่ทหารสารวัตรให้เจ้าหนูน้อยญวนคนนั้นห้อยติดไป ก็คือเหรียญรุ่น ๒ ครับ ที่เรียกว่ารุ่นหลังเลข ๘

    ไม่ใช่รุ่นหนึ่ง
     
  13. Pongpat86

    Pongpat86 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,430
    ค่าพลัง:
    +4,732
    เรื่องนี้ยิ่งแปลก และประหลาดกว่า...

    ผู้เป็นสาเหตุของเรื่องนี้ คือ นายบุญชุบ บ้านอยู่บางกระบือ เป็นพนักงานขับรถสังกัดกองสำรวจ ของกรมชลประทาน ทำงานอยู่ปากเกร็ด

    ในงานวันเกิดของนายช่างสำรวจ ซึ่งเป้นเจ้านายของนายบุญชุบ นายบุญชุบก็ได้ไปช่วยงานด้วย ในฐานะที่เป็นคนขับรถ ในระหว่างงานเขาก็ได้จับกลุ่มสังสรรค์ อยู่ในกลุ่มโชเฟอร์ด้วยกัน ซึ่งต่างก็เต็มไปด้วยความสนุกสนานเฮฮาไปตามทำนอง

    งานเลิก เมื่อบรรดาแขกเหรื่อทั้งหลายต่างพากันทยอยกลับจวนจะหมดอยุ่แล้ว แต่ทางฝ่ายกลุ่มของนายบุญชุบนั้นยังคงครื้นเครงอยู่ด้วยฤทธิ์ของน้ำสุรา

    ยื่งนานก็ดูเหมือนยิ่งออกรส เมื่อรสออกมากเข้าก็กระทำให้เพื่อนโชเฟอร์คนหนึ่ง เหิมหาญถึงกับควักเอาปืนกระบอกหนึ่งพึ่งซื้อมาใหม่ เพื่อนคนนั้นอวดปืนแก่เพื่อนๆ พลางก้หันกระบอกปืนมาทางนายบุญชุบพอดี

    เพราะความกลัวปืนจะลั่นออกมา นายบุญชุบก็รีบเอื้อมมือไปปัดปืน พลางร้องว่า

    "เล่นบ้าๆ เดี๋ยวปืนลั่นนะ"

    แต่พูดยังไม่ทันจะขาดคำดี ปืนกระบอกนั้นก็ลั่นดัง "โป้ง!" ออกมาทันที

    ผลลัพธ์ก็คือ ทุกคนเห็นนายบุญชุบล้มหงายหลัง ตกจากเก้าอี้ลงไปต่อหน้าต่อตา

    ผู้คนต่างแตกตื่นมามุงดูกันแน่น ใครๆ ต่างก็นึกว่า นายบุญชุบคงไม่มีทางรอดเป้นแน่ ในเมื่อถูกกระสุนปืนกรอกเข้าไปในปากออกอย่างนั้น

    สวรรค์ช่วย!

    การณ์ปรากฏว่า นายบุญชุบลุกขึ้นยืนราวกับว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
     
  14. Pongpat86

    Pongpat86 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,430
    ค่าพลัง:
    +4,732
    เลือดสักหยดก้ไม่ออก นายบุญชุบเป้นปกติทุกประการ แต่รู้สึกว่ามีเศษอะไรสักอย่างติดอยู่ตรงลำคอ ทำให้เขารู้สึกรำคาญอย่างมาก

    วันรุ่งขึ้น นายบุญชุบได้ไปหานายแพทย์ที่กรมชลประทาน โรงพยาบาลปากเกร็ด ทำการเอ็กซเรย์ ก็ปรากฏว่ามีลูกกระสุนปืนหัวทองแดง ขนาด.๒๒ ติดค้างอยู่ระหว่างหลอดลม และหลอดอาหาร

    ทั้งนี้ หมายความว่า ถ้ากระสุนปืนเกิดพลาดไปถูกหลอดใดหลอดหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นหลอดอาหารหรือหลอดลม นายบุญชุบต้องตายแน่ๆ

    หมอได้บอกกับนายบุญชุบว่า

    "คุณจะเอาลูกปืนออกก็ได้นะ แต่ต้องผ่าคอ"

    แล้วจนกระทั่งบัดนี้ทราบว่านายบุญชุบก็ยังไม่ยอมผ่าคอ คงปล่อยให้กระสุนขนาด.๒๒ ลูกนั้นตุงอยู่ในลำคอต่อไปเช่นเดิม มิหนำซ้ำ บางวันเขาจะอวดแก่เพื่อนฝูงเสมอๆ ว่า

    "นี่ไงล่ะ ลูกปืน"

    มีสิ่งเดียวที่นายบุญชุบจะต้องนำติดตัว ไม่ยอมให้ห่างก็คือ เหรียญหลวงพ่อแดง แต่ว่าไม่ใช่เหรียญหลวงพ่อแดงรุ่นหนึ่ง

    เป้นเหรียญรุ่น ๒ หลังเลข ๘

    โดยเฉพาะนายบุญชุบแล้ว ใครจะเอาเหรียญรุ่นหนึ่งสักสิบเหรียญไปแลก นายบุญชุบก็ไม่ยอมแลก เพราะวันที่แกถูกกระสุนปืนกรอกปากนั้น แกมีเหรียญหลวงพ่อแดง หลังเลข ๘ อยู่เพียงเหรียญเดียวแท้ๆ
     
  15. Pongpat86

    Pongpat86 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,430
    ค่าพลัง:
    +4,732
    อีกรายหนึ่ง

    เขาคือ คุณสีแสด สีใส อยู่บ้านเลขที่ ๓๓๓ ถนนชุมค้า อำเภอเมืองสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา

    คุณสีแสด เขียนเล่าประสปการณ์ของเหรียญหลวงพ่อแดงซึ่งไม่ใช่รุ่นหนึ่ง ให้ฟังว่า

    คุณสีแสดไปเล่นลิเกที่วัดอำเภอโนนทัย จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นการเล่นแบบหาเสียงเลือกผู้แทนราษฎร

    ครั้นแต่งตัวเสร็จแล้ว คุณสีแสดเห็นว่ายังมีเวลาเหลืออีกนานกว่าจะได้ออกโรงแสดง เขาก็เลยล้มตัวลงนอน เป็นการพักผ่อนเอาแรงเสียก่อน เพระคืนนี้ตามรายการ จะต้องแสดงถึงยันรุ่ง คือสว่างคาตา

    ขณะนอนกำลังจะหลับอยู่หลังโรงลิเก ซึ่งปลูกอยู่ใต้ต้นตาล หลังคามุงด้วยใบตาลผุๆ อยู่นั้น

    เป็นเพราะอะไรก็ไม่ทราบ บันดาลให้คุณสีแสดนึกรำคาญ เสียงฉิ่ง และเสียงตะโพน ที่ตีไม่ถูกจังหวะเสียเลย

    "ใครวะ เป็นคนตีฉิ่ง ตีตะโพน" เขานึกในใจแล้วรีบลุกขึ้นหมายใจที่จะไปตีฉิ่งเสียเอง จะได้หมดรำคาญ

    พอเขาลุกขึ้นได้และเดินไป ทันใดนั้น รู้สึกเหมือนปาฏิหารย์ ลูกตาลบนต้นหล่นตุบลงมาถูกกระป๋องขนมปังที่ใช้หนุนหัวอยู่ บู้บี้ยับเยิน
     
  16. Pongpat86

    Pongpat86 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,430
    ค่าพลัง:
    +4,732
    ต่อมาอีกคราวหนึ่ง

    คุณสีแสดคนนี้แหละ ได้ไปร่วมแสดงลิเกกับคณะเฉลิมศิล์ป ที่อำเภอบำดหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ

    ครั้นแสดงเสร็จไปตอนหนึ่งแล้ว คุณสีแสดก็กลับเข้ามาหลังโรง เขายืนหันหลังพิงข้างฝาโรงลิเก แต่แล้วเพราะ อำนาจของสื่งใดมาบันดาลก็ยากจะรู้ คุณสีแสดก็ผละ-เดินออกมาจากข้างฝา ซึ่งห่างออกมาได้เพียงสองก้าวเท่านั้นเอง

    มีดพกปลายแหลมเล่มหนึ่ง แทงผลัวะทะลุฝาโรงลิเกซึ่งกั้นด้วยกล่องกระดาษตรงที่เขายืนพิงอยู่เมื่อครู่

    ปลายมีดปหลมคมโผล่ยื่นออกมาคืบกว่าๆ!

    เชื่อหรือไม่ว่า หากคุณสีแสดไม่มีอะไรมาดลใจจนรีบถอยผละออกมาแล้ว

    คุณสีแสดต้องตายแน่ ไม่มีปัญหา

    จากเหตุการณ์รวมสองครั้งที่ปรากฏขึ้นนี้ เพราะที่คอคุณสีแสด มีเหรียญหลวงพ่อแดงอยู่เหรียญเดียวเท่านั้น แต่ไม่ใช่เหรียญรุ่น๑ เป็นเหรียญรุ่นที่หลวงพ่อแดงนำออกแจกเมื่อไม่นานมานี้เอง
     
  17. Pongpat86

    Pongpat86 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,430
    ค่าพลัง:
    +4,732
    เหตุการณ์ที่แปลกแต่จริงทำยองเดียวกันนี้ ยังมีอีกเรื่องหนึ่งซึ่งน่าจะอ่านไว้เป็นการประดับความรู้ต่อไป

    ประมาณต้นปี พ.ศ.๒๕๑๕ ที่ผ่านมานี้เอง

    นางแจ๋ว กับ นางใหม่ สองแม่ค้า ดำเนินอาชีพอยู่ที่ตลาดอำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา พากันเดินทางไปจังหวัดจันทบุรี เพื่อซื้อหาของทะเลต่างๆ และเงาะมาขาย

    ทั้งสองนั่งอยู่ตอนหน้าของรถ อีซูซุ หกล้อ ในขณะที่ อีซูซุ คันดังกล่าว ห้อตะบึงมาถึงหนองคล้า อุบัติเหตุก็ปรากฏขึ้นอย่างนึกไม่ถึง โดยรถ อีซูซุ ได้พุ่งเข้าใส่ชนท้ายรถบรรทุกปลาสด ที่จอดสงบเสงี่ยมอยู่ข้างทาง

    ผลที่พึงได้รับคือ อีซูซุ ที่นางแจ๋ว นางใหม่ นั่งมา ตอนหน้าพังยับเยิน นางใหม่ ซึ่งนั่งเคียงคู่มากับ นางแจ๋ว ได้รับบาดเจ็บถึงอาการสาหัส ต้องใช้ชะแลงช่วยกันงัดอกมา แต่ในที่สุด นางใหม่ ก็ไปตายที่โรงพยาบาลจันทบุรี

    แปลกหรือปล่าวครับ?

    นางแจ๋ว ไม่แรกฏว่าได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่เล็กน้อย หนำซ้ำยังรีบจับรถอีกคันหนึ่ง บึ่งแน่วไปส่งข่าวให้ญาติที่บ้านนางใหม่ทราบได้อีก

    เพราะอะไร? ท่านผู้อ่านก็คงไม่ยากที่จะตอบปัญหานี้

    เพราะ...ในตัวนางแจ๋ว มีล็อกเก็ต ๑ อัน ผ้ายันต์ ๑ ผืน เหรียญ ๑ เหรียญ นี่คือสิ่งที่นางแจ๋วไปรับมาด้วยมือของตนเอง จากมือหลวงพ่อแดง เมื่อปี ๒๕๑๓
     
  18. Pongpat86

    Pongpat86 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,430
    ค่าพลัง:
    +4,732
    คุณอัครเรศ สัญจรวารี มีบ้านอยู่ปากน้ำ จังหวัดสมุทรปราการ เป็นอีกผู้หนึ่งเขียนเล่าให้ฟังดังนี้

    เขาได้ไปเช่าพระรูปเหมือนหลวงพ่อแดง ซึ่งเป็นเนื้อผงเกษร และเนื้อดินเผา จากวัดเทพธิดาม

    นับตั้งแต่ได้มาแล้วก็ได้ห้อยติดตัวไว้เสมอ จนกระทั่งวันหนึ่ง คุณอัครเรศได้ไปนั่งถูกเข็มเย็บผ้าเข้า เข็มเล่มนั้นติดมากับกางเกง ปลายเข็มห้อยลง ขณะจะนั่งลงทำงานก็จำเป็นต้องนั่งยองๆ ปลายเข็มก็เลยถูกขาที่ใกล้ตาตุ่มเข้า นึกว่าถูกยุงกัด จึงเลยเหยียดขาออกไป แต่เมื่อนั่งลงใหม่ก็รู้สึกเช่นเดิมอีก คราวนี้จึงลุกขึ้นยืนหลางเอามือลูบคลำดูก็พบเข็มเล่มนั้นติดอยู่ นี่ถ้าหากคุณอัครเรศนั่งลงไป เข็มก็ต้องแทงก้นทะลุแน่นอน

    นี่คืออภินิหารนานาประการ ที่เราควรต้องจดจำไว้ อภินิหารของเหรียญหลวงพ่อแดงที่ตึงตราอยู่ในความนิยม นับถือของชาวไทย

    แน่ละ! เราจะไม่ลืมกันเลยทุกคน
     
  19. Pongpat86

    Pongpat86 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,430
    ค่าพลัง:
    +4,732
    เพื่อให้เป็นที่กระจ่างใจและแจ่มอารมณ์ ในหมู่ผู้นิยมศรัทธาในตวามขลัง-ศักดิ์สิทธิ์ ของหลวงพ่อแดง ต่อไปนี้จึงใคร่ขอเขียนถึงพระพุทธาภาพ ที่หลวงพ่อแดงบรรจุไว้ในพระเครื่อง ที่เรียกกันว่า พระผงญาณวิลาศ

    ท่านบรรจุพระพุทธานุภาพไว้ ให้เห็นเป็นที่อัศจรรย์เกินฝัน ยากที่ใครจะมี ยากที่ใครจะได้ประสบมา

    ก่อนอื่นขอพูดถึง ร.ต.ท.ประสงค์ เจิมพร อีกครั้งด้วยว่าท่านผู้นี้ เป็นผู้ลงทุนทั้งเงินและแรง สร้างพระผงญาณวิลาศ โดยได้เขียนเล่าไว้ในตอนต้นๆ แล้ว

    ภายหลังที่พ้นจากอันตรายอย่างเหลือเชื่อ พร้อมกับ ร.ต.ท.นิตย์ ศิริวิบูลย์ เพราะรถจักรยานสามล้อที่นั่งไปถูกรถยนต์บรรทุกสิบล้อ พุ่งชนเอาทางท้าย กระทั่งยังผลให้จักรยานสามล้อพังยับไม่มีชิ้นดี ตัวของเขาเองกระเด็นไปไกลเป็นระยะถึง ๑๐ เมตร แต่ไม่มีบาดแผลเลยแม้เท่าเพียงแมวข่วน ซึ่งก็เพราะมี เหรียญรูปเหมือนกับผ้ายันต์หลวงพ่อแดง
     
  20. Pongpat86

    Pongpat86 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,430
    ค่าพลัง:
    +4,732
    ด้วยประการดังนี้เอง เขาจึงตัดสินใจนำวัสดุมงคลมาทำผงสร้างพระถวายท่านดังได้ทราบมาแล้ว

    ที่สุดหลวงพ่อแดงก็บรรจุพระพุทธานุภาพให้อย่างครบไตรมาส แล้วเขาก็ได้ไว้องค์หนึ่ง พกติดตัวไว้เป็นประจำด้วยความเคารพเชื่อมั่น

    เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๔ เขาไปฝึกโดดร่มที่ค่ายนเรศวรหัวหิน อย่างที่เคยปกิบัติประจำทุกปี

    คราวนี้แหละ ที่เป็นคราวซึงเหมือนเจ้าพระคุณหลวงพ่อแดงต้องการให้เห็น และประจักษ์ถึงพระพุทธานุภาพอันสูงเยี่ยม ที่ท่านบรรจุอยุ่ในพระผงญาณวิลาศโดยเฉพาะ ฉะนั้นการโดดร่มของเขา จึงทำให้มีอันเป็นอย่างอัศจรรย์ เมื่อเขากระโดดลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ ครั้งแรกนั้นรู้สึกว่ามันก็กางอย่างปกติ ไม่มีอะไรผิดแปลกแต่ทว่า...ไฉนล่ะ มีนจึงดิ่งลงลิ่วๆอย่างผิดธรรมดาจริงๆ แล้วก็เฉพาะจะลิ่วลงไปตรงร่มของเพื่อนคนหนึ่งที่ได้กระโดดลงมาก่อนหน้าเขา แม้ว่าจะพยายามเหนี่ยวโน้มสายบังคับเพื่อให้มันหลีกไปอย่างสุดแรงก็แล้ว ร่มเจ้ากรรมของเขาก้หายอมเชื่อฟัง หรืออยู่ในบังคับบัญชาอย่าใดไม่ดันทุรังลิ่วลงไปยังร่มของเพื่อนท่าเดียว และร่มของเพื่อนคนนั้นก็ช่างกระไร มันช่างลอยอย่างแช่มช้าเนื่อยๆ ไม่เร่งร้อน

    เห็นจะแย่แน่ - หมดหนทางจริงๆ

    ผลที่สุด ตัวของเขาก็ลอยลงแหมะอยู่บนร่มของเพื่อนกัน ถึงจะถีบให้พ้นก็ไม่มีทาง ด้วยว่าลมที่พองลมมันหยุ่นตามเท้า พอร่มของเขาลดน้ำหนักถ่วง มันก้หุบ ในขณะนี้เขาจำได้ว่าอยุ่ในระยะสูงเพียงแค่ตึก ๕-๖ ชั้นเท่านั้นเอง ดังนั้นเมื่อตัวเขากลิ้งลงจากร่มของเพื่อน ร่มของตัวเองก็ไม่ยอมกางอีก

    คุณพระช่วย!

    ตอนนี้เอง ร่างของเขาก็ดิ่งลงสู่พื้นชายหาดหัวหิน ส่วนเครื่องหลังของเขาเล่า ก็ติดอยู่ที่หลังเต็มอัตราศึก แน่ละ น้ำหนักของมันย่อมจะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า

    เดชะ! เนื่องจากสติยังดีอยู่มาก เขาจึงได้จัดท่าของร่างให้อยู่ในท่า "ทิ้งดิ่ง" คือ ท่อนขาทั้งสองบีบชิดกันแน่นพยายามเกร็งให้แข็งทั้งท่อนขา

    เมื่อร่างลงสู่ถึงพื้นหาด ปรากฏว่าร่างของเขาจมลงไปในทรายถึงครึ่งตัว แต่แล้วลมที่ช่วยปะทะร่มได้ช่วยฉุดลากขึ้นมาได้ เขาเพียงแต่รู้สึกว่าขาข้างหนึ่งขัดยอกไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

    เมื่อเทียบกับพระเอก มิตร ชัยบัญชา แล้วเป้นอย่างไร

    มิตร ชัยบัญชา หล่นลงมาต่ำกว่าเขาตั้งครึ่งเครื่องหลังก้ไม่มี มิตรยังไม่รอด
     

แชร์หน้านี้

Loading...