หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ ปี 03 ครับ

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย magun, 4 กรกฎาคม 2011.

  1. philpharm

    philpharm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,464
    ค่าพลัง:
    +267
    องค์ที่ถามองค์แรกเก๊จริงๆครับ...หลวงพ่อแดงรุ่นนี้เก๊มาตั้งนานแล้วจริงๆเล่นกันหลงทางหาทางออกไม่เจอครับวนเวียนจนปวดกบาลจริงๆมีทั้งรุ่นสร้างย้อนยุคยัดเป็นทันยุคก็ยังเคยเห็น...อย่าประมาทแล้วกันหนังสือต่างๆที่ลงชี้ตำหนิก็ไม่สนิทใจเสียทีเดียว...ถามตัวเองก่อนว่าพระแท้กับพระเก๊อย่างไหนน่าจะหายากกว่ากัน
     
  2. stoes

    stoes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    8,343
    ค่าพลัง:
    +9,050
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กรกฎาคม 2011
  3. kaikt2512

    kaikt2512 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    498
    ค่าพลัง:
    +527
    ขอบคุณมากครับพี่ stoes ว่าแต่รุ่นเลข๘นี้ปั๊มข้างกระบอกหรือปั๊มตัดพอบอกได้หรือไม่ครับ
     
  4. stoes

    stoes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    8,343
    ค่าพลัง:
    +9,050

    ปั้มตัดขอบแบบเครื่องทันสมัยครับ คือคม ที่ลงให้อ่านผมยังไม่ได้ตรวจทานอีกทีครับ
    แต่ก็คงใกล้เคียง การที่จะเก่งได้ต้องรู้จักศึกษาและวิเคราะห์ อย่างเชื่อใครง่ายจะได้ไม่โดนหลอก

    ผู้ชำนาญการทางด้านเหรียญพระคณาจารย์ต่างๆ จึงได้จำแนก พระเครื่อง พระเหรียญจากการปั๊มตัดข้างเหรียญไว้เป็น 3 ยุค

    1. พระเครื่องเหรียญ ยุคประมาณ พ.ศ. 2440-พ.ศ. 2485
    2. พระเครื่องเหรียญ ยุคประมาณ พ.ศ. 2485-พ.ศ. 2500
    3. พระเครื่องเหรียญ ยุคประมาณ พ.ศ. 2500-ปัจจุบัน

    . เหรียญช่วงปี พ.ศ. 2440-2485 นิยมสร้าง พระเหรียญ ที่มีลักษณะเป็นรูปทรงกลม รูปไข่ รูปทรงอาร์ม และทรงเสมา รูปทรงเหรียญทั้งสี่แบบนี้สามารถแยกกรรมวิธีการสร้างได้เป็น 2 ชนิดคือ เหรียญปั๊มชนิดข้างเลื่อยและเหรียญปั๊มชนิดข้างกระบอก ซึ่งเหรียญที่มีกรรมวิธีการสร้างทั้ง 2 ชนิดนี้มีรายละเอียดดังนี้ เหรียญข้างเลื่อยก็คือการนำเหรียญที่ปั๊มเรียบร้อยแล้วมาตัดส่วนที่เกินออก ด้วยการใช้เลื่อยตัดออกทีละเหรียญ ส่วนเหรียญข้างกระบอกนั้น เขาจะทำบล็อกรูปทรงของเหรียญนั้นๆ แล้วตัดแผ่นโลหะที่จะทำเหรียญมาใส่ลงไปแล้วจึงทำการปั๊มขึ้นรูปเหรียญ จึงทำให้สะดวกไม่มีส่วนเกินที่ข้างเหรียญ เหรียญในยุคนี้เช่นเหรียญหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง (ข้างเลื่อย) เหรียญหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติฯ (ข้างกระบอก) เป็นต้น

    2. เหรียญปั๊มข้างตัด (ปั๊มตัดแบบยุคเก่า) การสร้างเหรียญชนิดนี้จะอยู่ในช่วงประมาณปี พ.ศ. 2485-2500 เนื่องจากการสร้างชนิดแบบเก่าที่มีการเข้ากระบอก และแบบเลื่อยขอบ มีความยุ่งยากและเสียเวลา อีกทั้งในช่วงนี้เริ่มมีวิวัฒนาการในการสร้างเหรียญปั๊มขึ้นมาตลอด เครื่องจักรก็เริ่มมีความทันสมัยขึ้น ทางโรงงานได้มีการทำตัวตัดขึ้นเพื่อความสะดวกในการตัดเหรียญให้ขาดโดยไม่ ต้องมาเลื่อยให้เสียเวลาอีก แต่การปั๊มเหรียญและตัดในยุคนี้นั้นจะแตกต่างกับเหรียญในปัจจุบันคือ ด้านข้างของเหรียญจะมนๆ ไม่ค่อยมีริ้วรอยมากนัก อีกทั้งเหรียญช่วง พ.ศ.นี้ ลักษณะของเหรียญด้านหน้าจะนูนเล็กน้อย แต่ด้านหลังจะเป็นแอ่งกระทะ ซึ่งเกิดจากการปั๊มและตัดเหรียญนั่นเอง ตัวอย่างของ พระเหรียญ ที่สร้างขึ้นในยุคนี้คือพระเหรียญเกจิ เหรียญหลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง บล็อกยันต์วรรค ปี 2486 และเหรียญหลวงพ่อทอง วัดดอนสะท้อน เป็นต้น


    3. เหรียญปั๊มตัดยุค พ.ศ. 2500-ปัจจุบัน ในยุคนี้ได้มีการพัฒนาตัวตัดด้านข้างเหรียญที่ทันสมัย เพื่อความสะดวกในการตัดเหรียญในจำนวนมากๆ การพัฒนาตัวตัดยุคนี้จึงค่อนข้างคมชัด บางครั้งในเหรียญหลวงพ่อเดียวกันมีตัวตัด 2 ตัว เนื่องจากการสร้างเหรียญในแต่ละครั้งมีจำนวนมากขึ้น เช่น เหรียญหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ รุ่นแรก ปี พ.ศ. 2500 ด้วยเหตุนี้ตัวตัดในยุคนี้จึงค่อนข้างคมเพื่อสะดวกในการตัดเหรียญจำนวนมากๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กรกฎาคม 2011
  5. kaikt2512

    kaikt2512 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    498
    ค่าพลัง:
    +527
    ขอบคุณอีกครั้งครับพี่
     
  6. Bigzys

    Bigzys Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    1,123
    ค่าพลัง:
    +34
    ขอบคุณครับพี่สโตร์ ถ้าไม่รบกวนจนเกินไป

    มีตัวอย่างของขอบเหรียญแต่ละปั๊มได้ไหมครับ
     
  7. stoes

    stoes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    8,343
    ค่าพลัง:
    +9,050
    ขอบเลื่อยนะครับ แค่ตัวอย่าง


    [​IMG]


    ขอบบังคับ หรือขอบกระบอก

    [​IMG]

    เหรียญขอบกระบอกก็คือเหรียญประเภทเหรียญที่ระลึกสมัยรัชกาลที่ 5 ที่ 9
    หรือจะเป็นเหรียญ ร 5 ช้างสามเศียรก็ใช่หมดเป็นขอบบังคับหรือขอบกระบอก
    แม้แต่เหรียญ 5 เหรียญ 10 ในปัจจุบันผมก็คิดว่าเป็นขอบบังคับกระบอก
    เพียงแต่มีเส้นขีดเหมือนฟันเฟือง

    [​IMG]


    [​IMG][​IMG]

    ยุคปัจจุบันที่ใช้เครื่องตัดเหรียญที่คมมากจะมีเส้นเสี้ยนคมกรีดลงไป
    และก่อนที่โลหะจะแยกจากกันด้วยแรงตอกก็จะมีอีกชั้นเรียกว่าชั้นทราย

    [​IMG] [​IMG]
     
  8. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    12,988
    ค่าพลัง:
    +53,077
    ขอ ขอบคุณความรู้ดีๆ ที่พี่สโตร์ให้มา เสียดาย ผมอ่านแล้วไม่ค่อย ถึงเลยครับ งง กะตัวเอง จะเรียกว่าโง่ ก็ว่าได้ เฮ้อ ...
     
  9. stoes

    stoes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    8,343
    ค่าพลัง:
    +9,050
    คุณตี่ไม่ได้.....หรอกครับสิ่งเหล่านี้อ่านแค่ตัวหนังสือ
    ไม่ได้อยู่ในภาคปฏิบัติเป็นใคร ใครก็งง และที่เขาเขียนมาก็ไม่ได้หมายความให้เรา
    เข้าใจอย่างถ่องแท้หรอกครับ มันเป็นเพียงการประมาณการ
    แต่ผมก็สรุปคือเครื่องมือไม่ทันสมัยในยุคแรกก็ต้องปั้มขึ้นรูปก่อน
    และเอามาเลื่อยตัดขอบ และปั้มขึ้นรูป แล้วนำมาตัดขอบด้วยเครื่องอีกครั้ง
    ยุคสอง... ปั้มขอบกระบอกหรือขอบบังคับ ผมคิดว่าเราน่าจะเรียนรู้
    จากต่างประเทศ หรือจะเป็นยุคแรกของเหรียญกองกษาปณ์ ที่ฝรั่งเศส
    เราก็นำเทคโนโลยี่นี้มา เป็นขอบเรียบกระบอก ขอบสตางค์ก็เรียกกระบอก(บังคับ)
    ยุคปัจจุบันคงไม่ต้องบรรยายใคร ๆ ก็รู้จัก.......สบายใจได้ครับคือไม่ว่าตัวเอง
     
  10. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    12,988
    ค่าพลัง:
    +53,077
    ครับ ยอมรับว่า ยังต้องศึกษาอีกเยอะ มาก บางอย่าง อ่านแล้ว ไม่ค่อยเข้าใจนะครับ ต้องยอมรับตรงๆ เลย เด๋วหาว่า แกล้งครับ บางครั้ง ผมเคยให้คนที่เรียกเค้าว่า อาจารย์ สอน หรือ บอก ว่า เหรียญ บวม หรือไม่บวมเป็นอย่างไร ก็เหลือแต่ ขอบๆ เหรียญครับ ว่างๆ ว่าจะให้เค้าสอนให้ดูว่า ขอบเลื่อย ขอบตอกตัด อะไร ทำนองนี้ให้นะครับ พี่
     
  11. Bigzys

    Bigzys Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    1,123
    ค่าพลัง:
    +34
    ขอขอบพระคุณในความมีน้ำใจและความรู้ที่มอบให้ครับ พี่สโตร์

    เป็นประโยชน์ต่อผู้ศึกษารุ่นใหม่อย่างผมจริงๆครับ

    :cool::cool::cool::cool:
     
  12. stoes

    stoes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    8,343
    ค่าพลัง:
    +9,050
    [​IMG]

    สังเกตอยู่อย่างขอบกระบอกเวลาแต่งอย่างไรช่างก็ต้องตะไบไปในทิศทางหน้าหลัง
    หรือเฉเอียงนิดหน่อย ไม่ใช่แต่งแบบมีเส้นวิ่งขึ้นลงไปตามขอบเหรียญ
    พอดีไม่มีตัวอย่างต้องขออภัย แต่มีน้องท่านหนึ่งเคยถามผมมาหลังไมค์ pm
    เป็นเหรียญหลวงพ่อกลั่นรุ่น 2 ซึ่งเป็นเหรียญกลมขอบบังคับ พอได้ดูขอบ
    ซึ่งเขาใช้ฝนขอบวิ่งขึ้นลงไปตามขอบเหรียญผมก็ตอบว่าไม่แท้
    ตามจริงดูพิมพ์ดูพื้นเหรียญแล้วก็ทราบแต่ดูขอบปิดท้าย ก็ตอบว่าไม่ใช่ ถ้ามีความรู้ในตรงนี้
     
  13. stoes

    stoes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    8,343
    ค่าพลัง:
    +9,050
    ตรงนี้ยากขึ้นอีกนิดในภาพเป็นเหรียญหลวงพ่อคงว้ดบางกระพร้อมปี 2484
    ต้องขออนุญาติเจ้าของหนังสือคุณบอย ท่าพระจ้นทร์ ถ้าท่านมาพบเจอ
    ประสงค์ให้ลบก็บอกเลยครับ (ป้องกันไว้ก่อนเดี๋ยวถูกฟ้อง)
    ในภาพจะเห็นรอยตัดแบบขอบบังคับในภาพแรกและอาจมองเห็นอีกชั้นเพราะไม่มีการแต่ง
    และอีกเหรียญจะมองเห็นเป็นขอบคล้ายเลื่อย ซึ่งบางคนเข้าใจว่าเลื่อยออก และเข้าใจว่า
    เหรียญรุ่นนี้มีขอบ 2 ชนิด คือขอบกระบอกและขอบเลื่อย
    ความจริงมีชนิดเดียว แต่ภาพที่สองบรรยายว่าคล้ายรอยเลื่อย
    ในมุนของผม.....ขอบสตางค์ที่เห็นเกิดจากบล็อกขอบกระบอกเป็นล่องไม่เรียบ
    จึงเกิดขอบสตางค์ขึ้นมาเหมือนเหรียญห้า เหรียญบาท ที่เราใช้อยู่เป็นประจำ
    ซึ่งบางเว็บก็ยกตัวอย่างบรรยายไว้ว่าเป็นขอบเลื่อย ซึ่งทำให้คนเข้าใจไขว้เขวได้
    แต่ถ้าจะให้แน่นอนขอบสตางค์ที่เกิดจากบล็อคต้องมีเหรียญที่สองซึ่งมีขอบสตางค์ตรงกัน
    แต่หาตัวอย่างยากเพราะเหรึยญขอบสตางค์ในของแท้หายากกว่า
    การจะรู้จริงในเรื่องพวกนี้เราต้องเข้าถึงขบวนการผลิต process แต่ผมก็ไม่ได้ไปถึงขนาดนั้น
    ก็ขอแนะน้อง ๆ ที่ต้องการความเข้าใจในเรื่องนี้ถ้ามีโอกาสก็ลองหาทางไปดูโรงงานที่เขาผลิต
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1977.jpg
      IMG_1977.jpg
      ขนาดไฟล์:
      223.5 KB
      เปิดดู:
      23,414
    • IMG_1978.jpg
      IMG_1978.jpg
      ขนาดไฟล์:
      199.3 KB
      เปิดดู:
      15,173
  14. stoes

    stoes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    8,343
    ค่าพลัง:
    +9,050
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    เหรียญหลวงพ่อโสธร 2460 เป็นขอบเลื่อย ถ้าเป็นรอยตัดด้วยเครื่อง
    เหรียญหน้าหรือหลังจะดีเช่นไร ที่มาจะดีอย่างไร หรือหลวงพ่อให้มาเป็นผมก็ต้องวางครับและบอกว่าขอบพระคุณครับ เห็นจะไม่รับ
     
  15. chaiนะวงกต

    chaiนะวงกต สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2011
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +2
    ขอบคุณมากครับพี่Stoes
    การให้ความรู้ผู้อื่น ถือเป็นการให้ทาน..ซึ่งถือเป็นการสร้างบุญที่สูงครับ...สาธุ ตาสว่างสักที
     
  16. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    12,988
    ค่าพลัง:
    +53,077
    ขอบคุณพี่สโตร์ครับ ขอเซฟๆ เก็บๆ ใว้ ดูเป็นความรู้นะครับ:cool:
     
  17. บุพนิมิต

    บุพนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +7,034
    เยี่ยมครับท่าน stoes...
    เรื่องเหรียญเนี่ย..ผมยอมรับเลย ว่าคุณน้อยไม่เป็นรองใครจริงๆครับ...นับถือๆ
    ด้วยความเคารพครับ...
     
  18. stoes

    stoes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    8,343
    ค่าพลัง:
    +9,050
    ขอบพระคุณมากครับที่พี่บุพนิมิตร่วมอนุโทนาความรู้กับผมพี่ก็ได้บุญเขาบอกว่าประมาณ 25% ครับ จริงหรือเท็จแค่ไหนผมไม่ทราบ

    ทานมี 4 ระดับ
    การให้ทาน คือเสียสละทรัพย์ของตนเองออกไปแต่ก็ไม่เท่า
    วิหารทาน คือเสียสละทำลังกายกำลังความคิดแต่ก็ไม่เท่า
    ธรรมทาน คือการรักษาศิล แต่ก็ไม่เท่า
    อภัยทาน คือการตัดความโกธรความเกียจ แต่สองข้อสุดท้ายก็มีการ vs กันอยู่
    ข้ออภัยทานนี่ทำอยากที่สุด แต่พระก็บอกต่อไปว่าข้อธรรมทานคือยานพาหนะ
    ซึ่งจะนำพาสะเบียง คือทานและวิหารทานติดตัวเราไปทุกภพทุกชาติ

    ผมยกย่องมหาเศรษฐีคือวอร์เรน บัฟเฟตต์ เขามีทรัพย์สินประมาณ 62,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
    เขาไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ แต่เขาประกาศไว้ว่าเมื่อเขาเสียชีวิต ให้เอาทรัพย์สิน
    ที่เขามีอยู่จำนวน 99 % บริจาคเป็นสาธารณกุศล คนอย่างนี้ผมว่าไม่มีจนไปทุกภพทุกชาติ และเปรียบ

    ได้กับ เมณฑกเศรษฐี ในสมัยพุทธกาล
    ผมขออนุโมทนากับคุณ วอร์เรน บัฟเฟต์ Warren Buffetและ บิลเกต Bill gates ครับ

    http://peoplerich.in/2010/08/10/วอเรน-บัฟเฟตต์-นักลงทุนร/

    ]วอเรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนที่รวยที่สุดในโลก | ประวัติ เรื่องราวชีวิต มหาเศรษฐีไทย มหาเศรษฐี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กรกฎาคม 2011
  19. nangeab

    nangeab สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +16
    เท่าที่ดูชอบมากครับ เป็นบล๊อคไหปลาร้าไม่ซ้อน (นิยมน้อยกว่าไหปลาร้าซ้อนนิดหน่อย) รบกวนถ่ายภาพหูซ้ายพระแบบชัดๆมาหน่อยครับ จะได้ฟันธง ขอบคุณครับ
     
  20. ทิพย์มงคล

    ทิพย์มงคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2011
    โพสต์:
    3,892
    ค่าพลัง:
    +8,215
    เยี่ยมครับ พี่ stoes ขอเซฟเก็บไว้ครับ:cool::cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...