หลักในการเลือกคู่ครอง ( หลวงพ่อจรัญ )

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 5 มิถุนายน 2008.

  1. HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,895


    <hr> ขอเจริญพร คนเราเดี๋ยวนี้ การเลือกคู่ครอง
    ตามยุคใหม่สมัยใหม่ เขาไม่ค่อยเลือก
    เจอเช้าได้เย็น เจอเย็นได้เช้า
    ไม่มีหลักคุณธรรมไร้เหตุผลมาก
    เมื่อสมัยก่อนนานมาแล้วนั้น
    ปู่ย่า ตายาย เข้าวัดมีหลักธรรม
    เลือกคู่ครองแสนจะยาก
    ก็ขอเจริญพรว่า การจะมีเหย้ามีเรือน
    จะปลูกเรือน ตามใจผู้อยู่ ปลูกอู่ตามใจผู้นอน ก็จริง
    แต่ต้องมีหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า
    เรียกว่า ครองเรือนครองรัก จะเลือกตรงไหน
    คนเราส่วนมากก็ขอเจริญพร พี่น้องชาวพุทธศาสนิก
    เข้าใจผิดกันเยอะ
    การจะมีครอบมีครัวนี้แสนจะยาก
    สำหรับคนมีคุณธรรมไม่ไร้คุณภาพ
    อันนี้ต้องพูดให้ยาวนิดหนึ่ง
    เพราะว่าบางคนเลือกไม่ดีเลย
    เอาแต่ความถูกใจ ความถูกต้องไม่มี
    คนเราจึงอยู่เย็นเป็นสุขไม่ได้
    ในเมื่ออยู่เย็นเป็นสุขไม่ได้แล้ว
    หย่าร้างกันมากมาย หลากหลายกันด้วยไม่ดี ไร้คุณธรรม

    เพราะฉะนั้นการเลือกคู่ของคนโบราณนั้น
    เอาหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้ามาเป็นหลัก
    หลักการเลือกคู่นี้มีอยู่ ๖ ประการ
    ๑. รูปสวย
    ๒. รวยทรัพย์
    ๓. นับวิชา
    ๔. มีมารยาท
    ๕. เป็นชาติผู้ดี
    ๖. มีศีลธรรม

    อันนี้เป็นวิชาเลือกคู่ ใครสอน พระพุทธเจ้าเป็นผู้สอน
    คำว่ารวยทรัพย์ ไม่ได้หมายความว่ามีเงินทอง
    หมายความว่า มีอริยทรัพย์ ทรัพย์ภายใน
    และมีทรัพย์ภายนอก นี่เขาเรียกรูปสวย รวยทรัพย์
    รูปสวย เขาสวยด้วยอะไร สวยด้วยรูปธรรม
    สวยด้วยนามธรรม สวยนอกสวยใน
    สวยจิต สวยใจ รวยทรัพย์
    คือ อริยทรัพย์ภายในมีไหม
    คุณสมบัติมีไหม และทรัพย์ภายนอกมีไหม
    มีวิชาไหม นับวิชาไหม
    มีวิชาความรู้ดี เป็นชาติผู้ดี ไหม
    มีมารยาท ชาติผู้ดี มีศีลธรรม ๖ ประการ
    อันนี้เป็นวิธีเลือกคู่
    แต่ไม่ใช่หมายความว่าไปหาหมอดู
    เดี๋ยวนี้ขอเจริญพรแทนเหลือเกิน
    แม่ไม่ดี เอาวันเดือนปี ผู้ชาย เอาวันเดือนปี ผู้หญิง
    เอาไปดูตรงกันไหม วันได้เดือนถึง เป็นเนื้อคู่กัน
    แต่งงานกัน ผิดหวังน่าเสียดาย

    จุดมุ่งหมาย ข้อที่สอง จะดูตรงไหน
    ขอเจริญพร จิตใจเข้ากันได้ไหม นี่ข้อ ๒
    นอกเหนือดูจาก ๖ ข้อ คุ้นเคยกันไหม
    รู้นิสัยใจคอกันไหม มีความรู้เสมอหน้าเสมอตากันไหม
    แล้วอัธยาศัย วิสัยทัศน์ กว้างไกลไหม
    มีมนุษยสัมพันธ์ หรือเปล่า และมีเมตตาหรือเปล่า
    และคนนั้นมีกตัญญูกตเวทิตาธรรม ต่อ คุณพ่อ คุณแม่ ไหม
    ถ้าหากอันนั้นเข้ากันได้
    อาตมาคิดว่าอันนั้นแหละเป็นการเลือกคู่ ที่ถูกต้อง
    แล้วการเป็นเนื้อคู่ที่ถูกต้อง
    การจะฝังหลักปลูกเรือนเสนจะยาก
    ต้องหลายอย่างหลายประการถึงจะมีความสุข
    นี่อาตมาพูดเป็นตอนแรกก่อน
    ว่าเลือกคู่ต้องมี ๖ ประการ
    ข้อ ๒ ต้องจิตใจเข้ากันได้ มีความรู้เทียมกัน
    อัธยาศัยคล้ายคลึงกัน และเกรดเดียวกัน สเปคเดียวกัน
    นี่เลือกอันนี้ก่อน คนเรานี่ เลือกคู่แล้ว จะอยู่เย็นเป็นสุข
    ต้องมีเรือนนอก เรือนใน เรือนใจ อันนี้เป็นข้อต่อไป
    ไม่ใช่เอาอันนี้เป็นข้อแรก
    การเลือกคู่นะ มี ๖ ประการ
    และ ข้อ ๒ จิตใจเข้ากันได้ ไหม
    และข้อต่อไป ปลูกเรือนแล้ว จะอยู่เย็นเป็นสุขหรือไม่
    เป็นข้อต่อไป
    ๑. เรือนนอก
    ๒. เรือนใน
    โบราณท่านว่าไว้ เรือนใน คือ อะไร เรือนในนี่สำคัญ
    ที่แม่บ้านการเรือน เรือนผมสะอาด
    เรือนผมต้องสะอาดอย่าสกปรก
    ๒. เรือนนอน
    ๓.เรือนครัว นี่เรือนข้างใน ในบ้านในเรือน
    สร้างอารมณ์ให้ดี ตั้งแต่เช้ามาจนถึงบัดนี้
    อารมณ์เปลี่ยนแปลงไปเยอะ ในเรือน ในหัวใจ
    อย่าหละหลวม เหลาะแหละ เหลวไหล
    เอาตราชั่งขึ้นมาดู เอาตราชูขึ้นมาชั่ง
    วัดแล้ว วัดเล่า เฝ้าแต่วัด เป็นเรือในสำคัญมาก
    เรือนในคืออะไร คือ จิตใจ
    จิตใจ เป็นธรรมชาติ คิด อ่านอารมณ์
    รับรู้อารมณ์ไว้ได้เป็นเวลานานเหมือนเทปบันทึกเสียง
    ถ้าทำใจให้สบาย ทำใจให้เป็นปรกติแล้ว
    จะเรียกเงินก็ไหลนอง จะเรียกทองก็ไหลมา
    บ้านนั้นจะมีแต่ความสุขความเจริญ มีแต่ความอดทน
    เหมือนบ้านมีเสาเรือน แน่นหนา
    นี่แหละในหลักของพระพุทธศาสนา
    มีสติปัญญา ศีลแปลว่าสะอาด
    สมาธิแปลว่าข้างใน มั่นคงถาวร
    ปัญญาแปลว่าแก้ไขปัญหาได้ ก็ขอเจริญพรอย่างนี้ถูกต้องแล้ว


    ที่มา : http://www.jarun.org
     

แชร์หน้านี้