"หากเพลินอยู่กับอายตนะ เท่ากับ เพลินอยู่ในทุกข์"

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย บ้องแบ้ว, 14 มีนาคม 2017.

  1. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    FB_IMG_1489460596921.jpg

    "หากเพลินอยู่กับอายตนะ เท่ากับ เพลินอยู่ในทุกข์"

    สิ่งที่นับว่าเป็นของหนัก เป็นของที่มนุษย์ต่างต้องแบกกันไปและยากจะปล่อยวางนั่นก็ ธาตุขันธ์ สิ่งที่ทำให้เรายึดมั่นถือมั่น ก็คือ "ตัวของเรานี่เอง"

    มนุษย์มีความกลัวตาย จึงยึดถือร่างกายเอาไว้
    มนุษย์อยากได้อยากมี จึงได้ยึดถือทรัพย์สมบัติเอาไว้
    มนุษย์ต้องการความรัก จึงได้หวงแหนสิ่งของหรือคนที่ตนเองรักไว้
    มนุษย์ต้องการการยอมรับ จึงได้แสวงหาอำนาจและยึดมันเอาไว้

    เพราะเหตุนี้เอง ร่างกายที่สมบูรณ์ เงินทองมหาศาล ความรักที่สมหวัง ชื่อเสียง เกียรติยศจึงเป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์เกิดความยึดมั่นถือมั่น มันคือ สุข ที่ทำให้จิตเพลิดเพลิน

    แต่แท้จริงแล้วสุข นั้นพร้อมจะกลับเป็นทุกข์

    หรือเรียกอีกอย่างก็คือ "ความทุกข์ที่ชื่อว่า สุข นั่นเอง"

    ในอดีตกาลมี ชายหนุ่มสองคนเป็นเพื่อนรักกัน ทั้งสองร่ำรวย
    ทั้งสองเกิดในตระกุลสูง
    รูปร่างหน้าตาหล่อเหลามีแต่สาวหมายปอง
    แต่เมื่อทั้งสองใช้ชีวิตไปและอยู่กับ สิ่งเพลิดเพลิน การระบำรำฟ้อน ละครต่างๆ รวมถึงชีวิตที่สุขสบายนั้น ทั้งสองกลับเกิดความเบื่อหน่ายสิ่งเหล่านั้นขึ้นมา

    ทั้งสองจึงไปบวชแสวงหาความจริง แต่กลับพบว่าสิ่งที่อาจารย์สอนนั้นกลับไม่ใช่สิ่งที่ต้องการ

    ทั้งสองจึงสัญญากันว่าหากใครได้พบเส้นทางที่จะทำให้พ้นทุกข์จากสิ่งต่างๆ รอบตัวได้ขอให้นำมาบอกกัน

    และทั้งสองก็ได้พบกับพระบรมศาสดาผุ้ชี้ทางแห่งความหลุดพ้นได้

    ชายหนุ่มทั้งคู่กลายเป็นพระอัครสาวกเบื้องซ้ายและเบื้องขวาของพระพุทธองค์ในเวลาต่อมา

    พระโมคคัลลานะและพระสารีบุตร นั่นเอง

    "ภิกษุทั้งหลาย
    ผู้ใด เพลิดเพลินอยู่ ใน จักษุ (ตา)
    ผู้นั้น เท่ากับ เพลิดเพลินอยู่ ใน สิ่งที่เป็นทุกข์...
    ผู้ใด เพลิดเพลินอยู่ ใน โสตะ (หู)
    ผู้นั้น เท่ากับ เพลิดเพลินอยู่ ใน สิ่งที่เป็นทุกข์...
    ผู้ใด เพลิดเพลินอยู่ ใน ฆานะ (จมูก)
    ผู้นั้น เท่ากับ เพลิดเพลินอยู่ ใน สิ่งที่เป็นทุกข์...
    ผู้ใด เพลิดเพลินอยู่ ใน ชิวหา (ลิ้น)
    ผู้นั้น เท่ากับ เพลิดเพลินอยู่ ใน สิ่งที่เป็นทุกข์...
    ผู้ใด เพลิดเพลินอยู่ ใน กายะ (กาย)
    ผู้นั้น เท่ากับ เพลิดเพลินอยู่ ใน สิ่งที่เป็นทุกข์...
    ผู้ใด เพลิดเพลินอยู่ ใน มนะ (ใจ)
    ผู้นั้น เท่ากับ เพลิดเพลินอยู่ ใน สิ่งที่เป็นทุกข์...
    เรากล่าวว่า
    ผู้ใด เพลิดเพลินอยู่ ใน สิ่งที่เป็นทุกข์
    ผู้นั้น ย่อมไม่หลุดพ้นไปได้จากทุกข์ ดังนี้"

    พุทธวจนะในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    **********
    ธ.ธรรมรักษ์
     

แชร์หน้านี้

Loading...