หากเลือกได้ท่านจะฝึกกสิณอะไร

ร ะ ห ว่ า ง​

กสิณดิน กสิณน้ำ กสิณไฟ กสิณลม​

หากท่านสนใจจะฝึกกสิณ(เฉพาะท่านที่สนใจฝึกกสิณ)

ท่านจะเลือกกสิณอะไร

เพราะเหตุใด

 

ที่จริงฝึกกสินแสง แต่ไม่มีให้เลือก ถ้าแบบนี้ขอเลือก กสินลมค่ะ เพราะ เป็นสัมผัสบางเบาที่รับรู้ได้ แต่หากมาเป็นลมแรง ๆ ก็ต้องใช้อารมณ์ใจมากในการจับ

 

เป็น กสิน ลม ตามที่ได้แนะนำไว้ครับ

 

กสิณแสงสว่าง ดีค่ะ อยากฝึกอะไรเริ่มต้นฝึกได้เลย แล้วมาดูว่าฝึกแล้วเป็นอย่างไร จิตสงบได้ไหม
หากจะฝึกกสิณอะไร ลองคลิกที่ชื่อกสิณ เข้าไปดูเบื้องต้นได้ว่าเป็นอย่างไร
อนุโมทนาสาธุค่ะ
แสนสวาท

 

เคยแนะนำกันไว้แล้วหรือ
หมั่นฝึกนะคะ
สาธุค่ะ

 

กสิณน้ำค่ะ อยากควบคุมน้ำได้

 

จะเริ่มหรือยังคะ เดินหน้าเมื่อไร ก็เล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ

 

อยากเพ่งกสิณไฟนะครับ ท่านผู้รู้บอกว่ามีพลังมากที่สุด แต่การเตรียมอุปกรณ์ค่อนข้างยาก ไม่ทราบว่าเพ่งหลอดไฟแทนกันได้หรือเปล่า

 

เจริญกสิณ เรื่องแรก ต้องรู้ว่า ทำไปเพื่ออะไรก่อน
เรื่องต่อไป กสิณกองไหน ง่ายสำหรับเรา
เหมือนเราจะกินอาหารบางอย่าง โดยที่ไม่รู้ว่ารสชาตเป็นอย่างไร
เราก็ไม่รู้จะชอบหรือเปล่า ต้องลองกินดู ดูน่าอร่อย แต่กินแล้วไม่ชอบ

กรรมฐานเหมือนแกง ๔๐ หม้อ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าหม้อไหนเราชอบสุด
ยากนะที่จะรู้ได้ ใช่ไหมคะ
ใครรู้ก็หวานปากไปเลย เพราะว่า ๔๐ หม้อ เราเลือกหม้อที่ถูกปากเราได้

หากท่านจะเริ่มที่กสิณไฟ ดิฉันแนะนำให้ฝึกกสิณดินก่อน
หลายท่านอยากฝึกเหมือนท่านเลย เมื่อฝึกไปหนึ่งสัปดาห์ ไฟยังค้างอยู่
ร้อนหงุดหงิด ต้องเอาดินกลบ หากไม่รู้จักกสิณดิน จะเอาอะไรกลบล่ะ

กสิณกองง่ายสำหรับตน เมื่อฝึกแล้วก็ได้ง่าย เมื่อสำเร็จแล้วค่อยไปฝึกกสิณไฟ
ก็ได้ไม่ช้าไปหรอก

อย่าได้เริ่มต้นด้วยความอยาก จิตตั้งไว้ไม่ถูกต้องแล้วค่ะ.....

เมื่อฝึกจนเห็นนิมิตของกสิณ ก็เป็นองค์ฌาน ทางเดินก็สั้นเข้ามา ปัญญาก็เริ่มก่อเกิด

เรากล่าวถึงธาตุที่เรียกว่า ดินน้ำไฟลม
หากเราพูดถึงดิน ก็ระบุว่า เป็นดินขุยปู
หากเราพูดถึงน้ำ ก็คือน้ำใส ไม่ใช่น้ำแฟนต้าน้ำเขียวน้ำแดงหรือน้ำส้ม
หากเราพูดถึงไฟ เราหมายถึงไฟที่เป็นแหล่งพลังงาน หลอดไฟเสมือนไม่ใช่ไฟจริง
ผลที่ได้ท่านจะไม่ได้กสิณไฟ
หากพูดถึงกสิณลม หมายถึงลมที่พัดผ่านถูกผิวเรา

คลิกไปอ่านดูรายละเอียดข้างบนหน่อยนะคะ จะได้เข้าใจเพิ่มขึ้น
หรือคลิกลายเซนต์ข้างล่างก็ได้

 

ขอบพระคุณมากครับ คุณแสนสวาท ผมกระจ่างขึ้นเยอะเลย ถ้ามีเวลาว่างอยากจะไปเรียนครับ

 

ชอบกสิณลม แต่ มีหลวงปู่ที่นับถือ บอกว่า เราเหมาะ เพ่งพระพุทธรูป

แต่ยังไม่เคยทำจริงจัง ตอนนี้ ทำแต่อาปาณสติ พุทโธ เดินลมแบบท่านพ่อลี

การจับรูปพระพุทธรูปถือเป็นกสิณหรือเปล่าคะ

 

กสิณมี ๑๐ กองคือ

1. ปฐวีกสิณ เป็นกสิณเพ่งดิน
2. อาโปกสิณ เป็นกสิณเพ่งน้ำ
3. เตโชกสิณ เป็นกสิณเพ่งไฟ
4. วาโยกสิณ เป็นกสิณเพ่งลม
5. นีลกสิณ เป็นกสิณเพ่งสีเขียว
6. ปีตกสิณ เป็นกสิณเพ่งสีเหลือง
7. โลหิตกสิณ เป็นกสิณเพ่งสีแดง
8. โอทากสิณ เป็นกสิณเพ่งสีขาว
9. อาโลกกสิณ เป็นกสิณเพ่งแสงสว่าง
10. อากาสกสิณ เป็นกสิณเพ่งอากาศ

ตอนนี้ที่คุณพูด เป็นกสิณลม ,, การเพ่งพระพุทธรูป-พุทธานุสติ,,และอานาปานสติ นะคะ

หากดูตามหมวดของกสิณ การเพ่งพระพุทธรูปไม่ใช่กสิณค่ะ
หากจะทำให้เกิดฌานได้ต้องนำพระพุทธรูปลงน้ำ

อานาปานสติกรรมฐาน เป็นกรรมฐานกองหนึ่งใน ๔๐ กอง เหมาะกับจริตที่ฟุ้ง
ดูลมหายใจ ไม่ต้องไปไกล เพราะจิตฟุ้งบ่อย ต้องใช้อานาปานสติกรรมฐานค่ะ
อันได้แก่ โมหะจริต และ วิตกจริต

กสิณลม อานาปานสติกรรมฐานเป็นหนึ่งในกสิณลม
ดูความไหวเป็นอารมณ์

หากคุณต้องการทราบว่าต้องปฏิบัติอย่างไร อันเป็นทางของคุณ ก็เข้าไปดู
ที่กระทู้จริต ๖ เพื่อกรรมฐานที่เหมาะสม
http://palungjit.org/threads/จริต-๖-เพื่อฝึกกรรมฐานที่เหมาะสม.310598/page-28#post6229578

 

กสิณลมครับตามที่ได้แนะนำไว้ และด้วยความชอบส่วนตัว

 

ดิฉันชอบกสินไฟค่ะ ชอบมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เคยฝึกเองแต่ไม่สำเร็จ ชอบเพ่งไฟ(เทียน)ทำเองค่ะพอดีอ่านเจอในหนังสือ ดิฉันกลัวน้ำ (ไม่ใช่โรคพิษสุนัขบ้านะคะ) ดิฉันเคยจมน้ำค่ะเลยกลัว อยากขอคำแนะนำหน่อยค่ะอยากจะไปฝึกเอง ควรทำอะไรก่อน ปฏิบัติอย่างไร ขอบคุณค่ะ

 

กสินดิน เข้าง่ายกับทุกจริต

 

เหตุผลของการชอบก็มีเหมือนกัน บางทีได้รับข้อมูลมา
ทราบถึงผลของกสิณไฟ เลยอยากฝึกกสิณไฟเป็นกองแรก
พอไปอบรมพื้นฐาน และฝึกจริง ๆ และรับทราบข้อมูลครบถ้วน
ก็ละทิ้งกสิณไฟ เพราะไม่ใช่กองกรรมฐานของตน
ทำไป นานเท่านาน บางคนเป็นสิบปี ก็ยังไม่ก้าวหน้า
เรามีกสิณของเรานะ เชื่อหรือไม่ แทบทุกคนที่ดิฉันดูจากชาตาให้มีกสิณกองใดกองหนึ่ง ทุกคนเลย


ตรวจจริต ๖ เพื่อหากรรมฐานเพื่อเหมาะกับตน


ภูตกสิณ หรือมหาภูตรูปสี่ กสิณแม่ธาตุนั้น เป็นกรรมฐานกลาง เหมาะกับทุกจริต

สนใจกสิณ ไปอบรมได้ค่ะ เปิดให้ความรู้ เป็นธรรมทานวันอาทิตย์ที่ ๒๖ สิงหาคม นี


อบรมฟรีกสิณ ดินน้ำลมไฟ ๒๖ สิงหาคมนี้ คลิก

 

เลือกตามที่ปรากฏให้เห็นในนิมิตรครับ..

 

ขอเชิญท่านที่สนใจ ฝึกกสิณดินน้ำลมไฟ ระดับต้นเรียนฟรี
------------------------------------------------------------------------
ขอเชิญท่านที่สนใจ ฝึกกสิณกรรมฐาน ดิน น้ำ ลม ไฟ
ระดับต้น เรียนฟรี ครั้งที่ 4
วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม 2555

ท่านต้องการพิสูจน์ไหม ว่ากรรมฐานที่ท่านได้ ตรงกับผลการคำนวณหรือไม่

​

08.30 น. ลงทะเบียน บัตรประชาชน 1 ใบ
09.00 น. เริ่ม อบรม
17.00 น. กลับบ้านโดยปลอดภัย

คลิกเพื่อดูรายละเอียด

 

รบกวนถามเพื่อเป็นวิทยาทานค่ะ ถ้าสมมุติว่าช่วงเช้าๆประมาณตี4-5 เราหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดคลิปยูทูปเพื่อฟังธรรมะ ช่วงที่เรากำลังเลือกคลิปว่าจะฟังธรรมคลิปไหนของหลวงปู่อะไร ตาเราจะยังมองที่คลิปอยู่ ในคลิปธรรมบรรยายจะมีภาพหลวงปู่ประกอบไปด้วย ทีนี้พอเราเปิดเสร็จแล้วเราก็เอนหลังนอนหลับตาฟัง ช่วงที่หลับตาน่ะค่ะ เราจะเห็นภาพหลวงปู่ลางๆแล้วก็เริ่มชัดขึ้นชัดขึ้นจนเห็นเหมือนจริงเหมือนตอนลืมตาเลยค่ะ ถ้าเห็นลักษณะอย่างนี้เรียกว่าอะไรคะ ส่วนตัวไม่เคยฝึกกสิณหรือมโนฯอะไรค่ะ แค่สวดมนต์ นั่งสมาธินิดๆหน่อยๆ แต่ก็ไม่ได้ทำทุกวันนะคะ

 

คุณจิตวิญญาณ ท่านก็แปลกดีนะ หลายท่านไม่เข้ามาเพื่อจะถามเรื่องนี้กับดิฉัน
คงเป็นกรรมสัมพันธ์กันมาแต่อดีต ทำให้ท่านเข้ามาถามเรื่องนี้

เรื่องของความฝันหรือนิมิต นี้ มีคนถามมาเกินร้อย
ท่านนั้นที่ถามรวมทั้งคุณก็คงอยากรู้ว่าเป็นเรืองอะไร
ความฝันมีอยู่ด้วยเรื่องหลายประการจึงฝัน
คือ
๑.ธาตุโขภะ คือ ธาตุในร่างกายกำเริบปั่นป่วน
๒.อนุภูตปุพพะ คือ ฝันเนื่องมาจากอารมณ์ที่ได้ประสบมา
๓.เทวตูปสังหรณ์ คือ ความฝันที่เทวดานำมาเป็นสาเหตุที่จะบอกเล่าเรื่องราวหรือเหตุการณ์บางอย่างให้ผู้ฝันรับรู้
๔.บุพนิมิต คือ ลางที่บอกเหตุขึ้นก่อน
อ้างอิงจาก เหตุแห่งความฝัน

หากท่านต้องการจะรู้ความฝันทำได้โดย เมื่อตื่น บันทึกเวลาแล้วมาตั้ง
ยามอุบัติการณ์ เพื่ออ่านความฝันนั้น (ตามคัมภีร์สุวรรณโคมคำ)

หากอีกอย่างหนึ่ง เมื่อท่านทำกรรมฐานแล้วมีแสงสว่าง เกิดสว่างวาบเข้าตาเมื่อไร
ภาพที่ปรากฏก็จะเป็นเรืองราวบอกเหตุนั้น ๆ ไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป

ตกลงอ่านแล้วรู้ไหมว่า ตรงกับเรื่องอะไรไหม
เอาเป็นว่า หากเป็นไปตามนี้ก็พยากรณ์ได้

หากต้องการรู้เรื่องที่ปรากฏของตน
แนะนำให้ไปไหว้ครู เพื่อเรียนรู้เอง ในวันพฤ ที่ ๓๐ สิงหาคมนี้
www.srisuwankhomkhum.com
ทีนี้จะได้ตอบทุกปัญหาที่อยากรู้ ด้วยตนเองเลย

ถึงเวลาหรือยังที่จะพยากรณ์ด้วยตนเอง