หุ่นพยนต์ปู่มหาเวทย์-กุมารทองโคตรเฮี้ยน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 4 กรกฎาคม 2009.

  1. vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,174











    เมตตา โชคลาภ เรียกทรัพย์ ขับไล่อัปมงคล

    “เหนือลิขิต ประกาศิตฟ้าดิน” เสาร์นี้ ขอนำท่านผู้อ่านเข้าสู่ดินแดนอีสานใต้ พบกับพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ซึ่งปลุกเสกวัตถุมงคลเครื่องรางของขลังที่ได้รับความนิยมอย่างมากจนกลายเป็นวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงในยุคนี้ พระเกจิอาจารย์ท่านนั้นก็คือ “หลวงพ่อกอย ธัมมปาโล” วัดเขาดินใต้ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์

    หลวงพ่อกอย ธัมมปาโล เกิดที่บ้านตาอี อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ บิดามารดาเป็นคนกัมพูชา เมื่อท่านอุปสมบทแล้ว ได้ไปอยู่ที่ประเทศกัมพูชา ศึกษาพระเวทวิทยาคมจาก “หลวงปู่สุเวือน” อาทิ วิชาอาบน้ำมนต์ ถอนคุณไสย วิชาเมตตาค้าขาย เมตตามหาเสน่ห์ และที่เน้นมาก ๆ คือ วิชาเมตตา มหาเสน่ห์ โชคลาภค้าขาย

    เมื่อหลวงพ่อกอยได้ศึกษาวิชาจาก หลวงปู่ สุเวือน จนหมดสิ้นแล้ว ก็ได้กราบลาหลวงปู่สุเวือน มุ่งหน้าไปยังป่าเมืองเสียมราฐ โดยมิได้หวั่นเกรงภยันตรายใด ๆ ประเทศกัมพูชาหรือเขมรมีป่ามีเขามากมาย ล้วนแล้วแต่เป็นดินแดนอาถรรพณ์ลี้ลับที่แฝงไว้ด้วยความน่าสะพรึงกลัว ทั้งภูตผีปิศาจที่ตาเรามองไม่เห็น และภัย จากคนในระหว่างเดินทาง เพราะมีทั้งผู้แก่กล้าในวิชาอาคม คุณไสยต่าง ๆ รวมไปถึงยาสั่ง ยาเบื่อที่มีพิษถึงตายก็มีอยู่มาก เมื่อเห็นพระธุดงค์ก็มักจะลองของลองวิชาอยู่เสมอ

    แต่หลวงพ่อก็สามารถเอาตัวรอดมาได้โดยตลอด ค่ำไหนก็ปักกลด บำเพ็ญสมณธรรม ใช้ชีวิตอยู่ในป่าในเขา อาศัยบิณฑบาตจากชาวป่าชาวเขา จนได้พบฤาษี ชีปะขาว และพระธุดงค์ ท่านได้รับการถ่ายทอดวิชาจากยอดปรมาจารย์หลวงพ่อชู วัดหินเหล็กไฟ จ.สุรินทร์ เวทมนตร์โองการต่าง ๆ ทั้งวิชาปลุกเสกอิ้นคู่, ปลุกเสกขุนแผนมหาเสน่ห์, หุ่นพยนต์, วิชากั่วเผาะ, วิชาเรียกเจตภูต, วิชาปลุกกุมารทอง

    หลวงพ่อกอยเป็นพระที่ชอบศึกษา ได้เดินทางไปศึกษากรรมฐานวิชาอาคมจากครูบาอาจารย์อีกหลายท่านด้วยกัน ครูบาอาจารย์ท่านใดที่หลวงพ่อกอยรับทราบกิตติคุณบารมี ท่าน จะเข้าไปรับการถ่ายทอดชี้แนะโดยไม่รีรอซึ่งก็ได้รับ ความเมตตาด้วยดี โดยมีหลวงพ่อเจีย วัดประสาท อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ท่านได้สอนหลวงพ่อกอย ให้รู้จักกำหนดอารมณ์ การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ทั้งยังได้สอนให้เรียนรู้ตำแหน่งธาตุทั้ง ๔ เพื่อนำไปใช้ในการสร้างวัตถุมงคล และเครื่องรางของขลัง

    หลวงพ่อเจียท่านได้กำชับต่อหลวงพ่อกอยไว้ว่า เมื่อจิตสงบสมาธินิ่งดีแล้วนำจิตเวทมนตร์คาถาผสานเข้ากับธาตุทั้ง ๔ จะทำการสิ่งใดปลุกเสกเครื่องรางของขลังจะมีความศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างดีเยี่ยม หลวงพ่อเจียท่านเป็นพระที่มีสภาวะจิตที่แก่กล้ามาก ผ้ายันต์ของท่านเมื่อ เสกเสร็จแล้วจะเผาไฟทันที ผืนไหนที่ไม่ไหม้จึงจะนำมาแจกจ่ายให้ญาติโยมได้บูชา

    นอกจากหลวงพ่อกอยจะเรียนรู้วิชาจากหลวงพ่อเจียจนหมดสิ้นแล้ว ท่านยังรอบรู้ไสยเวทและศาสตร์แขนงต่าง ๆ อีกมากมาย แม้แต่วิชาคงกระพันมหาอุดหยุดลูกปืนท่านก็เรียนมา วิชาเหล่านี้เป็นของร้อนทำให้ประมาทขาดสติ คนดี ๆ กลายเป็นคนดื้อไป ท่านจึงหยุดและหันมาเน้นทางเมตตา ค้าขาย มหาเสน่ห์แทน โดยเล็งเห็นว่าสังคมยุคปัจจุบันนี้มีปัญหาครอบครัว การงาน การทำมาหากิน เรื่องปากท้องเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งหมดยุคที่จะไปสู้รบตบมือกับใคร

    หลวงพ่อกอยจะพร่ำสอนให้ทุกคนมีเมตตากรุณาต่อกัน อย่าเบียดเบียนซึ่งกันและกัน การกระทำของท่านก็มุ่งหวังที่จะสร้างสังคมให้อยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข และลูกศิษย์มีอยู่มีกินหางานให้ถูกทาง

    หลวงพ่อได้สร้างวัตถุมงคลออกมารุ่นหนึ่ง ซึ่งเน้นเรื่องเมตตาโชคลาภ ค้าขาย มหาเสน่ห์โดยนำมวลสารทั้งหมดที่ได้สะสมมาหลายปีมาจัดสร้าง ถือเป็นสุดยอดเครื่องรางของขลังต้นตำรับคัมภีร์เขมรโบราณขนานแท้ และดั้งเดิมครบสูตรในรอบศตวรรษ ประกอบด้วย ขุนแผนสะกดรัก ๗ นารีอัศจรรย์, ขุนแผน ๓ มหาเฮี้ยน, นางอกแตก, อิ้นคู่พลอดรัก, พ่องั่งอันศักดิ์สิทธิ์, หุ่นพยนต์ปู่มหาเวทย์, กุมารทองโคตรเฮี้ยนเรียกทรัพย์ ร่ำรวยสมบัติ เป็นต้น

    สำหรับ หุ่นพยนต์ปู่มหาเวทย์ คัมภีร์เขมรโบราณ สุดยอดเครื่องรางอมตะสิ่งมหัศจรรย์วัตถุอาถรรพณ์ยอดเฮี้ยน หลวงพ่อได้จัดสร้างตามต้นตำรับ วิชาอาคมไสยศาสตร์อันศักดิ์สิทธิ์แห่งเขมรขนานแท้ และดั้งเดิม

    หุ่นพยนต์ คือ หุ่นจำลองรูปคน ที่สร้างโดยผู้มีเวทมนตร์คาถาเป็นความเชื่อในวิชาไสยศาสตร์ตั้งแต่ครั้งโบราณเรียกว่า วิชาผูกหุ่น สมัยโบราณใช้หญ้าแพรก, ไม้ไผ่, ขี้ผึ้ง, หรือผ้ายันต์ แต่ปัจจุบันนี้ที่นิยมกันมากคือการสร้างจากโลหะอาถรรพณ์ที่ใคร ๆ ยอมรับว่าขลังเป็นทวีคูณจากวัตถุอาถรรพณ์เหล่านี้ โดยทำเป็นหุ่นคนมีแขนมีขาแล้วปลุกเสกด้วยคาถาอาคม

    ส่วนวัตถุอาถรรพณ์ที่หลวงพ่อนำมาสร้างหุ่นพยนต์ ในครั้งนี้ ก็เช่น ตะปูสังฆวานร, เหล็กตรึงโลงศพ ๗ ป่าช้า, เหล็กขนันผี, เงินปากผี ๑๐๐ วัด, ตะปูโลงศพ ๙ วัดและโลหะอาถรรพณ์อีกมากมาย หลวงพ่อบอกว่าชนวนอาถรรพณ์ทั้งหมดนี้เป็นของขลังที่มีดีอยู่ในตัวแล้ว

    สำหรับวิธีปลุกเสกหลวงพ่อได้แยกนำหุ่นพยนต์มาปลุกเสกเดี่ยวโดยเรียกพรายหุ่นพยนต์บรรจุเข้าไปในตัวหุ่นพยนต์ทุกตัวตามหลักของกสิณคือปลุกเสกให้เกิดอุคหนิมิต โดยหนุนธาตุทั้งสี่เรียกสูตรเรียกนามเรียกจิตให้มีฤทธิ์มีเดชใส่ขันธ์ห้าเรียกอาการ ๓๒ โดยอนุโลมปฏิโลมและเสกบรรจุลมปราณหายใจให้กับหุ่นพยนต์ตรึงรูปตรึงนามเสกจนหุ่นพยนต์เคลื่อนไหวได้เรียกดวงจิตของหุ่นพยนต์ให้มีฤทธิ์มีตัวตนหลวงพ่อปลุกเสกจนหุ่นพยนต์ให้เหมือนมีชีวิตเชื่อว่าสามารถใช้งานตามคำสั่งของเจ้าของได้

    พุทธคุณนั้น เน้นในเรื่องเมตตามหานิยม โชคลาภ เรียกเงินเรียกทอง ขับไล่สิ่งอัปมงคลอำนาจชั่วร้าย และภูตผีปิศาจ กันคุณไสย ลมเพลมพัด กันและแก้ของไม่ดี บูชาไว้ติดตัวได้ทั้งหญิง และชาย บูชาไว้ในรถ สำนักงาน ร้านค้า เฝ้าเรือกสวนไร่นา กันขโมย ปกป้องกันภัยให้แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง

    หุ่นพยนต์หลวงพ่อกอย เป็นเครื่องรางที่ไม่น่ากลัว เป็นของอาถรรพณ์ที่เป็นมงคล ไปอยู่กับใครแล้ว จะช่วยเหลือผู้นั้นสุดความสามารถไม่ทำร้ายให้โทษแก่ผู้ใด ไม่เพียงเท่านั้น หุ่นพยนต์ยังช่วยเรียกโชคลาภเมตตาค้าขายกันภูตผีปิศาจขับไล่สิ่งอัปมงคลทั้งปวงได้โดยไม่ต้องลังเลสงสัย

    คาถาบูชาหุ่นพยนต์ปู่มหาเวทย์ ให้ว่า โอม ปลุก มหาปลุก กู จะ ปลุก ปู่ พยนต์ด้วย เจ ติ อา กัง นา มะ พยนต์ นิ โส สะ อะ นามะเต

    สำหรับ กุมารทองโคตรเฮี้ยนเรียกทรัพย์ ร่ำรวยสมบัติ หลวงพ่อได้นำมวลสารอาถรรพณ์ อาทิ ขี้เถ้ากองฟอนเผาผีตายท้องกลม ดิน ๗ ป่าช้า ผงไม้ทิ่มผีตายท้องกลม ลูกกรอกตายท้องกลม หัวว่านกุมารทองตากแห้ง มาเป็นมวลสารในการจัดสร้าง เมื่อนำมวลสารอาถรรพณ์ทั้งหมดผสมเข้าด้วยกันเกิดเป็นมวลสารที่มีอาถรรพณ์ และศักดิ์สิทธิ์ ก่อนนำมาทำพิธีสะกดวิญญาณต่าง ๆ ที่สิงสถิตอยู่ในวัตถุอาถรรพณ์เหล่านี้ วัตถุอาถรรพณ์ต่าง ๆ เมื่อนำมาสร้างกุมารทอง จะเป็นตัวเร่งให้ผู้ที่นำกุมารทองไปเลี้ยง มีประสบการณ์ และความสำเร็จของตนได้เร็วขึ้น

    เมื่อได้มวลสารอาถรรพณ์ทั้งหมดนี้แล้ว ก็นำมากดพิมพ์เป็น กุมารทองดูดรก ใต้ฐานอุดด้วยดิน ๗ป่าช้า ผสมผงไม้ตะเคียนอาถรรพณ์ตายพราย และฝังด้วยตะกรุดหัวใจเศรษฐีเรียกทรัพย์ พิธีกรรมปลุกเสก ท่านได้ตั้งธาตุให้มีฤทธิ์มีเดชมีขันธ์ ๕ ใส่อาการ ๓๒ ให้ครบ ไล่ตั้งแต่เส้นผมจนถึงปลายเท้า จากปลายเท้าเข้าสู่เส้นผม โดยอนุโลมปฏิโลม ๓๒ ครั้ง จนเกิดนิมิตอาการ ๓๒ ประการมีตัวตนมีชีวิตจิตใจ เป็นญาณของ กุมารทอง

    หลังจากนั้น ท่านได้ใช้ด้ายมัดตราสังทำพิธี ผูกและสะกดญาณกุมารทองให้อยู่กับร่างกุมารทอง ทุก ๆ ร่าง และได้ลงอักขระซ้ำอีกครั้งเพื่อความขลัง และศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง ๆ ขึ้น

    พุทธคุณของกุมารทองนั้นจะคอยช่วยเหลืออุดหนุนนำโชค คอยเรียกทรัพย์เงินทอง ผู้เลี้ยงกุมารทองจะหาความยากจนมิได้เลย อดอยาก ยากจน จะไม่มีวันเกิดขึ้น จะมีกินมีใช้ตลอดชีวิต ทำมาค้าขึ้น กิจการเจริญรุ่งเรือง มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน เรียกลูกค้าเข้าร้าน ติดต่อการงานราบรื่น เฝ้าบ้าน เฝ้าเรือน เมื่อท่านนำกุมารทองไปเลี้ยงสักระยะหนึ่งจะรู้ว่า กุมารทองของหลวงพ่อกอย ปลุกเสกตามกระบวนการเขมรโบราณ ซึ่งมีความเข้มขลัง กุมารทองของหลวงพ่อกอยจึงมีแต่ให้คุณแก่ผู้เลี้ยง

    สำหรับคาถา และวิธีเลี้ยงกุมารทองนั้น ให้ตั้งนะโม ๓ จบ แล้วว่า กุมาโรมามะมะ เอหิ จิตตัง ปิยัง มะมะ (๗ จบ) จากนั้นอธิษฐานบอกกุมารทองว่าอยากให้ช่วยอะไรก็บอกไป ให้ใช้น้ำแดง และน้ำเขียว เซ่นไหว้ จุดธูปบูชา ๓ ดอก (หมั่นพูดเล่น หยอกล้อกับกุมารทองบ่อย ๆ เมื่อบนได้ผลแล้วต้องรีบแก้บนเร็ว ๆ ด้วย)



    Daily News Online > เสาร์สปอร์ต > พระเครื่อง > เหนือลิขิต ประกาศิตฟ้าดิน > หุ่นพยนต์ปู่มหาเวทย์-กุมารทอง
     

แชร์หน้านี้