อนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา

-

 

เข้าท่า.....

แต่ เกล้ากระผมผู้อยู่ใต้ละอองธุลีท้าวของเจ้าของกระทู้ เคยสดับมาว่า

สังขารมี 3 ไม่ใช่ 1

สังขารมี 3 คือ กายสังขาร วจีสังขาร และ มโนสังขาร

กายสังขาร เจ้าของกระทู้ผู้มีเกล้ากระผมอยู่ใต้ละอองธุลีเท้า ได้ปรารภไปแล้ว และโซคูล

.................

แต่ วจีสังขาร หรือ วาจา ภาษาที่ใช้สื่อสารนี้ ไม่เที่ยง บางทีสื่อสารได้ บางทีสื่อสารกับ
บางคนไม่ได้ บางคนเอาสิ่งไม่เที่ยงคือ วจีสังขารมาตามราวี ก็มี ( เดี๋ยวก็คงมา หรือไม่ก็ ซิงเกอร์แล้ว )

อีกทั้ง

มโนสังขาร ซึ่งก็คือ นามธรรมที่เราตั้งไว้นอกๆ(เพื่อให้ดูเหมือนไม่ใช่ตน
ไม่ใช่ของๆตน เพราะ เป็น นามธรรมที่ตั้งขึ้นมาลอยๆ เพื่อ บีบบังคับปฏิปทา

เรียกว่า สร้างกฏบัตร ข้อวัตร มาขังจิต ให้อยู่ในรูปแบบ ตาม นามธรรมที่ตั้ง
ขึ้นลอยๆ เป็นกฏ เป็นบัญญัติ

นามธรรมที่ตั้งขึ้นลอยๆ เป็นกฏ เป็นบัญญัติ นั้น คือ มโนสังขาร ซึ่งไม่เที่ยง
เป็นทุกข์ ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของๆเรา

ทิฏฐิ จึงเป็น โอฆะ ที่ข้ามได้ยาก ......................

สังขาร3 ที่เกล้ากระผมผู้อยู่ใต้ละอองธุลีท้าวของเจ้าของกระทู้ เคย
สดับมาอย่างนี้

 

แหม พูดปรัชญาจนต้องแกะเลยนะคะ ถามขอความรู้ ว่ามโนสังขารเกิดที่ใจหรือที่สมองครับ ถามแค่นี้แหละ อ้อ! เมื่อใหร่จะลงรูปจริงนะคะ...

 

ทีหลังอย่าแอบเอารูปท่านนายกหญิงมาลงนะคะ เอาอย่างรูปโก๊ะตี๋ไรเงี้ย ตลกจะได้บันเทิงค่ะ สวยค่ะ...

 

อนัตตาธรรม...............................

อนัตตาก็คือธรรมหรือสิ่งที่ทำให้จิตเราไม่บริสุทธิ์ เมื่อจิตเราไม่บริสุทธิ์ก็มีผลต่อใจ อาจจะใจคดใจร้ายใจโลภ นี่คือธรรมเหล่านั้นแหละจัดเป็นอนัตตา เพราะไม่ใช่เรา ถ้าจิตใจเราไม่ปกติ การกระทำทางกายที่ผิด การกระทำทางวาจาที่ผิด และการกระทำทางใจที่ผิด โดยเจตนา นั่นแหละธรรมเหล่านั้นคืออนัตตา ทำให้กาย วาจา ใจของเราพิจรณาในแง่นี้ก็เป็นอนัตตาด้วย เพราะมีธรรมอนัตตาเกิดที่จิต จิตจึงเป็นอนัตตา เพราะจิตไม่ขาวรอบ มีมลทิน มีความสกปรก จิตก็เกิดดับอยู่ตลอดเวลา เป็นเนื่องจากผัสสะ ที่อายตนะทั้ง 6 อายตนะเองก็อนัตตา เพราะจิตเราบังคับบัญชาไม่ได้ วิธีแก้ดูที่ใจและปัญญา เอาใจให้ประเสริฐ เอาปัญญาให้แจ้งในพระธรรมของพระพุทธเจ้า เลือกอ่านเลือกศึกษา เช่นอ่านพระไตรปิฎกก็อาจจะไม่ต้องอ่านทั้งหมด ผมอ่านทั้ง 3 ส่วนรวมประมาณ 30-40% แต่ก็ใช้คำว่าอ่านพระไตรปิฎกจบแล้ว ถ้ามีคนแย้งประเด็นนี้ผมก็จะไม่กล่าวอย่างนั้น สุดท้าย ทางพ้นทุกข์ไปสู่สุคติหรือนิพพานคือ มรรค 8 สรุปโดยย่อคือทานศีลภาวนา...

 

ความยึดถือในสัญญาอารมณ์ที่เรียกว่าวิญญาณเป็นตัวทุกข์ เราก็ดูที่จิตไม่เอาจิตไปมั่นหมายเอาว่าเป็นเรา เป็นของเรา ถ้าจิตเราสะอาดขาวรอบสว่างสดใสไร้มลทินนั่นแหละคือภาวะของนิพพาน ที่ยังไม่นิพพานก็เพราะตามยึดถือด้วยจิตเองมันไปยึดของมันว่า เขาก็ดี เราก็ดี เรายึดว่าเป็นเราเป็นของเรา ธรรมต่างๆก็รูปกับนาม ไม่ต้องเอาจิตไปยึดว่ารูปว่านามของผู้ปฏิบัติเอง ใจว่าง จิตว่าง ก็นิพพาน...

 

ศรัทธา ศีล ทาน ปัญญา=โสดาบัน
ศรัทธา ศีล ทาน ปัญญา ความกำหนดลดลง ความโกรธลดลง ความหลงในสิ่งไม่ดีต่างๆลดลง=สกทาคามี
ศรัทธา ศีล ทาน ปัญญา และปฏิฆะดับ=อนาคามี
กามดับสนิททั้งกับเพศตรงข้ามและเพศเดียวกัน=อรหันต์...จากหลวงพี่เอ๋ วัดทองเหนือ...

 

........................................? [Embarrass

 

...................................................................................

 

กามกับเพศเดียวกันของผมดับสนิท ไม่เคยมีเกิดขึ้นเลย นับตั้งแต่ผมเกิดแล้ว
อย่างนี้นับเป็นครึ่งนึงของอรหัตผลได้ไหมครับ?

 

พี่อาจจะไม่เคยดูภาพโป๊ของผู้ชาย(หน้าตาดี) นี่แหละสงครามภพชาติ การที่พี่อินทรบุตรบอกว่ากามกับเพศเดียวกันดับสนิท หลายคนก็คิดอย่างนั้น คือถือว่าตัวเองไม่ได้เป็นเกย์ แต่ความจริง กามไม่จำเป็นต้องเป็นเกย์(ผมตรัสรู้เรื่องนี้) ผมยอมรับว่าผมเป้นชาวสีม่วง ก่อนหน้านั้นผมก็ชอบผู้หญิงมาก่อน เรื่องนี้เป็นจิตวิทยาขั้นสูง รู้เป็นบางคน โดยเฉพาะคนที่ปราถรานาพุทธภูมิยิ่งจำเป้นต้องเรียนรู้ พี่ว่าดับสนิทก้อย่าพึ่งประมาท ลองหาโอกาสไปเที่ยวบาร์เกย์ดูก่อน ถ้าละได้จริงก้ยินดีด้วยครับ อ้อ! ชาวสีม่วงก็นิพพานได้ครับ ดูผมเป้นตัวอย่าง...

 

ฟางว่าน...ยังยึดติด กับเพศอยู่อีกหรือ?

ยังคิดว่า "ตัวตนที่แท้จริง" ของตัวเองหนะ มีเพศอยู่อีกหรือ?

ไอ้ที่มีเพศหนะ กายสังขารนี้ ฮอร์โมนของกายสังขารนี้ ต่างหาก

ฟางว่านกำลังอยู่บนเรือ ฟางว่านคิดว่าเรือนี้เป็นตัวของฟางว่านหรือ?

 

คุณดูลงที่กาย วาจา ใจ ของคุณน่ะ ผมไม่ได้ยี่หระหรอก ไม่ได้รำคาญ ไม่ได้โกรธคุณ ไม่ได้สงสารคุณ ไม่ได้อธิษฐานอะไรให้คุณ เพราะปฏิบัติธรรมเพื่อมรรคผลนิพพาน นิพพานนั้นเป็นสมบัติเฉพาะตน ใครทำใครได้ ไม่ทำดี ทำชั่ว พระอริยะที่ไหนก็ช่วยไม่ได้ ไม่งั้นมันจะเข้าท่านเอง มีอะไรสงสัยในตัวผมก็ถามมาได้ ไม่ปิดบังอะไร เพราะเลยจุดนั้นมาแล้ว ตอบได้หมด!

 

งั้นคนที่เกิดมาพิการ ตาบอด หูหนวก กามกับเพศเดียวดับสนิท ก็คงเกินครึ่งนึงของอรหัตผลไปกันหมดแล้วคับ โดยที่ไม่ต้องบำเพ็ญเพียร รักษาศีล ? ขนาดพระบรมศาสดา ผู้เป็นเลิศในปัญญาไม่มีใครเสมอเหมือนยังบำเพ็ญเพียรขั้นปรมัติ และรักษาศีล227ไปด้วย... กว่าจะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

 

เขียนอย่างไรก็ได้ ไม่มีใครรู้ว่าตัวเองเป็นอย่างไร ขอรับ ขจัดอาสวะไม่เป็นอย่าทำเป็นอวดเลยขอรับ พอเจอของจริง ก็เป็นต้องวิ่งเข้าใส่เลยซิน่า ฮ่า..ฮ่า..ฮ่า....

 

ท่านหนึ่งคุยกันเรื่องรูปทางโลก
ท่านหนึ่งว่าเรื่องทางอรูป
อีกท่านหนึ่งว่าเรื่องไม่ครึ่งไม่กลาง
ท่านหนึ่งว่าเรื่องครึ่งๆกลางๆ

ทุกอย่างมันมีอยู่

หากเราไม่ทำให้เกิดขึ้นคือเกิดที่เราไปกำไปหนัดไปหนด

ก็มีอยู่อย่างนั้นแปลี่ยนแปลงไปตามกรรมตามธรรม

หากเราไปกำไปหนัดไปหนดสิ่งนั้นก็เกิดขึ้นอย่างที่เราอยากให้เกิดหรืออยากให้เป็น

หากไม่เป็นดังที่เราอยากเราทุกข์หรือไม่ก็ไม่เห็นเป็นไรคือไม่ทุกข์หรือเฉย

ปัจจัยเปลี่ยน

จาก.....กายก็มาเป็นกลาย......ไม่จบหรอกครับ

หากพิจารณาแล้วจบ
เกิดแล้ว
ตั้งอยู่แล้วเปลี่ยนแปลงท่ามกลาง
ดับไป



กามในความหมายไม่ได้มีแต่เรื่องเพศสัมพันธ์กันอย่างเดียวหรือไม่
กามนี้อะไรที่ไปสัมพันธ์กันเรียกกามได้หรือไม่อย่างไร

แล้วการละนี้หมายความว่าอย่างไร

หมายถึงทิ้งไปแล้วหรือไม่หรือยังมีอยู่

หรือให้เท่ากันแบ่งเป็นสอง
คือรู้ดีรู้ชั่ว
หรือรู้ดำครึ่งหนึ่งขาวครึ่งหนึ่ง
โดยละไว้ทั้งสองทาง

หรือคำว่าละนี้
ทิ้งหรือเพิกเฉยไปเลยไม่กลับไปหาอีก
หรือทิ้งหรือเพิกเฉยไว้สักพักกลับไปใหม่
หรือทิ้งเหมือนทิ้งขยะไปเลย

แล้วละกับทิ้งก็ไม่เหมือนกันหรือไม่อย่างไร
แล้วละกามเดียวหรือที่จะประสบผลทุกสิ่ง

ตรงนี้เรื่องทางโลก
ระวังเรื่องความสมดุลย์นะขอรับ
โรงงานผลิตกระสุนยังผลิตกระสุนอยู่ทุกขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่
หากท่านไม่นำลูกกระสุนออกจากโรงงานสนิมเกาะเต็มไปหมดเต็มโรงงาน
สถาบันมะเร็งมีมะเร็งต่อมลูกหมากและมะเร็งมดลูกเพียบเลยขอรับ
อย่าลืมสมดุลย์นะขอรับเดี๋ยวเจอสนิม
กามเรื่องเพศจะยากอะไร

ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งแล้ว

 

คุณมะหน่อกำลังหลอกตัวเอง หลงด้วยคำพูดตน สักวันระวังจะเป็นบ้า และระวังถูกธรณีสูบลงนรกด้วย หลายคนเชียวแหละ คนที่ท่านรู้ท่านรู้ และท่านก็ปฏิบัติได้ สันดานเสียอย่างหนึ่งของคนในเว็บพลังจิตคือขี้อิจฉาริษยา ขอให้เชื่อพระพุทธเจ้าเถิดว่า บาปบุญมีจริง นรกมีจริง สวรรค์มีจริง นิพพานประเสริฐจริง ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว..........

 

เที่ยวหัวเราะ ก็จะได้แต่หัวเราะกลับมานั้นแหละ