"อภัยทาน" เป็นคุณแก่ผู้ให้ ยิ่งกว่าแก่ผู้รับ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย mobilelizard, 23 มกราคม 2013.

  1. mobilelizard

    mobilelizard เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    558
    ค่าพลัง:
    +4,678
    [​IMG]

    "อภัยทาน" คืออย่างไร ?

    อภัยทาน ก็คือการยกโทษให้
    คือการไม่ถือความผิดหรือการล่วงเกินกระทบกระทั่งว่าเป็นโทษ


    อภัยทานนี้เป็นคุณแก่ผู้ให้ ยิ่งกว่าแก่ผู้รับ เช่นเดียวกับทานทั้งหลายเหมือนกัน คืออภัยทานหรือการให้อภัยนี้ เมื่อเกิดขึ้นในใจผู้ใด จะยังจิตใจของผู้นั้นให้ผ่องใสพ้นจากการกลุ้มรุมบดบังของโทสะ

    อันใจที่แจ่มใส กับใจที่มืดมัว ไม่อธิบายก็น่าจะทราบกันอยู่ทุกคนว่าใจแบบไหนที่ยังความสุขให้เกิดขึ้นแก่เจ้าของ ใจแบบไหนที่ยังความทุกข์ให้เกิดขึ้น และใจแบบไหนที่เป็นที่ต้องการ ใจแบบไหนที่ไม่เป็นที่ต้องการเลย

    ความจริงนั้น ทุกคนที่สนใจบริหารจิต จะต้องสนใจอบรมจิตให้รู้จักอภัยในความผิดทั้งปวง ไม่ว่าผู้ใดจะทำแก่ตน แม้การให้อภัยจะเป็นการทำได้ไม่ง่ายนัก สำหรับบางคนที่ไม่เคยอบรมมาก่อน แต่ก็สามารถจะทำได้ด้วยการอบรมไปทีละเล็กละน้อย เริ่มแต่ที่ไม่ต้องฝืนใจมากนักไปก่อนในระยะแรก

    ตัวอย่างเช่น เวลาขึ้นรถประจำทางที่มีผู้โดยสารคอยขึ้รถอยู่เป็นจำนวนมาก หากจะมีผู้เบียดแย่งขึ้นหน้า ทั้งๆ ที่ยืนอยู่ข้างหลัง ถ้าเกิดโกรธขึ้นมาไม่ว่าน้อยหรือมาก ก็ให้ถือเป็นโอกาสอบรมจิตใจให้รู้จักอภัยให้เขาเสีย เพราะเรื่องเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องที่ควรถือโกรธกันหนักหนา เป็นเรื่องเล็กน้อยเหลือเกินควรจะอภัยให้กันได้ แต่บางที่ไม่ตั้งใจคิดเอาไว้ก็จะไม่ทันให้อภัยจะเป็นเพียงโกรธแล้วจะหายโกรธไปเอง

    โกรธแล้วหายโกรธเอง กับโกรธแล้วหายโกรธเพราะให้อภัย ไม่เหมือนกัน โกรธแล้วหายโกรธเองเป็นเรื่องธรรมดา ทุกสิ่งเมื่อเกิดแล้วต้องดับ ไม่เป็นการบริหารจิตแต่อย่างใด แต่โกรธแล้วหายโกรธเพราะคิดให้อภัย เป็นการบริหารจิตโดยตรง จะเป็นการยกระดับของจิตให้สูงขึ้น ดีขึ้น มีค่าขึ้น

    ผู้ดูแลเห็นความสำคัญของจิต จึงควรมีสติทำความเพียรอบรมจิตให้คุ้นเคยต่อการให้อภัยไว้เสมอ เมื่อเกิดโทสะขึ้นในผู้ใดเพราะการปฏิบัติล้วงล้ำก้ำเกินเพียงใดก็ตาม พยายามมีสติพิจารณาหาทางให้อภัยทานเกิดขึ้นในใจให้ได้ ก่อนที่ความโกรธจะดับไปเสียเองก่อน

    ทำได้เช่นนี้จะเป็นคุณแก่ตนเองมากมายนัก ไม่เพียงแต่จะทำให้มีโทสะลดน้อยลงเท่านั้น และเมื่อปล่อยให้ความโกรธดับไปเอง ก็มักหาดับไปหมดสิ้นไม่ เถ้าถ่านคือความผูกโกรธมักจะยังเหลืออยู่ และอาจกระพือความโกรธขึ้นอีกในจิตใจได้ในโอกาสต่อไป

    ผู้อบรมจิตให้คุ้นเคยอยู่เสมอกับการให้อภัย แม้จะไม่ได้รับการขอขมา ก็ย่อมอภัยให้ได้ ในทางตรงกันข้าม ผู้ไม่เคยอบรมจิตใจให้คุ้นเคยกับการให้อภัยเลย โกรธแล้วก็ให้หายเอง แม้ได้รับการขอขมาโทษ ก็อาจจะไม่อภัยให้ได้ เป็นเรื่องของการไม่ฝึกใจให้เคยชิน

    อันใจนั้นฝึกได้ ไม่ใช่ฝึกไม่ได้ ฝึกอย่างไดก็จะเป็นอย่างนั้น ฝึกให้ดีก็จะดี ฝึกให้ร้ายก็จะร้าย...

    :: การบริหารจิตสำหรับผู้ใหญ่
    :: สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
    dhammajak.net
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 มกราคม 2013
  2. Wheeler990

    Wheeler990 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2010
    โพสต์:
    972
    ค่าพลัง:
    +6,012
    อนุโมทนา สาธุ ครับ
    อ่านแล้วเป็นประโยชน์และทำให้มีสติ ใจเย็น มากเลยครับ
     
  3. สัตตบงกชเหนือน้ำ

    สัตตบงกชเหนือน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    681
    ค่าพลัง:
    +629
    เอาไปแชร์นะค่ะ มีประโยชน์มากจริงๆ
     
  4. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    สิ่งที่เราได้รับความทุกข์ทรมาน ทั้งกายและใจในวันนี้ คงเป็นเพราะผลกรรมที่เราเคยทำไว้ในอดีต .. เราคงเลวร้ายมาก ผลตอบแทนจึงมากขนาดนี้ ... ถ้าเรารู้สักนิด "เราคงไม่ทำ"
    ........……..........

    ในวันนี้ บุคคลใดที่ได้ทำกับเราไว้ให้ทุกข์ยาก แสนสาหัส ถ้าเขารู้สักนิดว่า สิ่งที่พวกเขาทำลงไปมันไม่เป็นผลดีต่อพวกเขาเลยในวันข้างหน้า "เขาก็คงไม่ทำเช่นกัน"

    พวกเราทั้งหลายต่างพากันเวียนว่ายไม่รู้จบ ...
    เลิกโกรธเกลียดกันเถอะหนอ.
    ไม่เอาแล้วหนอ ... ความทุกข์

    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  5. เปาชุนไหล

    เปาชุนไหล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +2,240
    โดนมาพอสมควรเหมือนกันครับ

    เพื่อนร่วมงาน ในที่ทำงาน

    ทำดีเขาก็หาว่าเสแสร้ง
    คือที่ทำงานผมมีผู้หญิงมาแสดงอาการให้ความสนใจ(ให้ท่า) หลายคน
    แต่ผมไม่สนใจ
    เพราะผมยึดหลักว่า ถ้าเราเจ้าชู้ แฟนของเราก็เดือดร้อนใจ แฟนของผู้หญิงอีกคนก็เดือดร้อนใจ ถ้าผมไปมีกิ๊ก ผมก็จะต้องเดือดร้อนใจเพราะหึงกิ๊ก และ กิ๊กก็ต้องหึงผม
    ไปๆมาๆก็ต้องได้เลิกกับแฟน มาคบกับกิ๊ก
    แต่ผมรู้ว่ายังไงก็คบกันได้ไม่นาน เพราะต่างคนต่างเห็นแก่ตัวมาเจอกัน
    เห็นแก่ตัวยังไง
    ก็คือเรามีแฟนของตัวเองแล้ว ต่างฝ่ายยังทิ้งแฟนของตนเอง
    โดยที่ไม่คำนึงถึงความรู้สึกของแฟนเรา ถือว่าเป็นคนชั่ว


    อันนี้ผมคิดไว้ล่วงหน้าได้เพราะอะไร
    เพราะผมสังเกตุคนอื่น ได้แก่ เพื่อนสนิทของผม คนรู้จัก คนไม่รู้จักผมก็คุยๆ ถามๆ เรื่อราวชีวิต เพราะผมชอบที่จะเอาบทเรียนที่ผิดพลาดของคนอื่น มาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตของผม
    คือรู้ว่าเขาทำผิดแล้วจะได้รับผลอย่างไร
    ผมก็จะจำมา แล้วไม่ทำผิดแบบเขา


    แล้วเพื่อนร่วมงานก็มองว่าผมเสแสร้ง ทำความดี
    หาว่าดูหนังมากเกินไป ทำเป็นเลียนแบบในหนังช่อง3 ตอนนนี้
    หาว่าเป็นเกย์มั่งอะไรมั่งสารพัด
    ผมก็เลยคิดในใจว่า เป็นธรรมดาชีวิตเขาคงได้ประสบแต่คนชั่วมา
    เลยไม่เชื่อว่าคนดีจะมีในโลก
    พอเจอคนที่ทำดี ก็เลยมองว่าเสแสร้ง
    (ผมไม่ได้ชมตัวเองว่าเป็นคนดีนะครับ ผมก็ยังมีกิเลสอยู่มาก แต่แค่ผมกลัวผลของบาป และละอายในการทำบาปแบบหน้าด้านๆ เช่น บางคนโกหก เพื่อที่จะจีบผู้หญิงคนอื่น คือโกหกว่าไม่มีแฟนมั่ง โกหกว่าสัญญาจะรักแบบนั้นๆแบบนี้ พูดจาให้ความหวัง ทั้งๆที่มันตรงกันข้าม ที่เขาทำแบบนั้นได้เพราะไม่กลัวบาป)
    ผมก็เลยไม่กล้าทำบาป

    ______________________________________________________________________________________





    และอีกกรณี
    ทำไม่ดีนิดหน่อยก็ถูกจ้องจับผิด
    ก็คิอว่า เจ้านายสั่งงานแบบ มา แต่เขาสั่งแบบไม่ชัดเจน
    พอทำไปผิดๆ ผมก็แอบๆบ่นกับแผนกของผม แบบเหมือนระบายให้กันฟังเฉยๆ
    แล้วคนเดิม คนที่จับผิดผมตอนแรก
    ก็เขม่นผมอีก
    คือคอยแต่จะว่า จะกระแทกกระทั้นผม ว่ากล่าวเสียดสี
    แรกๆผมก็ทน (คือในใจก็มีเคืองอยู่มั่ง) ไม่ได้ตอบโต้อะไร
    หลังมาๆผมพยายามทำดีเข้าสู้คือ ผมจะพูดจาดีกับทุกคนในที่ทำงาน
    รวมทั้ง คนที่ เกลียดผมด้วย
    ไม่ว่าเขาจะพูดกระแทกให้ผมอย่างไร ผมก็จะพุดจาดีๆ ทุกครั้ง

    พยายามจะให้อภัยที่เขา ด่าเรา

    จนสุดท้าย เขาก็พูดดีกับเรา


    ปลงกับสังคมสมัยนี้
    แล้วก็ให้อภัยทานแก่เขา

    ______________________________________________________________________________________

    ผมสัมผัสได้ว่าจิตของผมดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก
    เพราะเมื่อก่อนเป็นคนมักโกรธ ใครพูดอะไร ทำอะไรให้หน่อย ก็ใส่แรงๆเลย
    ก็เลยรู้ตัวว่าเป็นกรรมของเราเอง ต่อไปนี้เราก็อย่าไปทำกรรมเพิ่ม
    ก้มหน้าก้มตารับกรรม แบบรู้ตัว
    แต่ก็ไม่ได้งอมืองอเท้านะครับ

    เราก็ต้องหมั่นเจริญภาวนา ระลึงถึงคุณพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์
    ให้ทาน รักษาศีล แผ่เมตตาด้วย
    ถือกรรมบท10 พรหมวิหาร 4
    ไม่งั้นเราจะไม่มีอะไรไปสู้กับกิเลสเลย


    คนที่มักมีโทสะ ต้องใช้เมตตานี่แหละครับ เป็นตัวปราบมาร

    (คือแรกๆถ้าเรายังจิตไม่แข็งพอ เราจะยังไม่สามารถแผ่เมตตาให้กับศัตรูเราได้ เราก็ต้องใ้ช้ความอดทน อดกลั้นไปก่อน)

    แล้วก็แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลายที่ยังเวียนว่ายตายเกิด
    ไม่ว่าจะเป็นสัตว?เดรัจฉาน หมู หมา กา ไก่ แมว วัว ฯลฯ
    เปรต ทั้งหลาย ที่ต้องรับกรรมอยู่
    สัตว์นรก อสุรกาย
    เทวดา รุกขเทวดา ฯลฯ
    ก็ต้องต้องเวียนว่ายตายเกิด เป็นทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น


    แล้วเรายังมาซ้ำเติมให้เพื่อนร่วมทุึกข์ด้วยกันมาเป็นทุกข์อีกทำไม


    เมื่อคิดได้ พิจารณาคามเป็นจริงของชีวิต
    เราก็จะค่อยๆปลงได้
    มีความเมตตา กับทุกสรรพสัตว์
    แม้แต่คนที่ศัตรูเรา (คือเขาเป็นศัตรูกับเรา แต่เราไม่ได้ถือว่าเขาเป็นศัตรูนะ)
    คนที่ด่า ว่า เบียดเบียน ทำร้ายเรา
    หรือแม้กระทั่ง คนที่มาทำร้ายลูก ทำร้าย เมีย ข่มขืนลูก ข่มขืนเมีย
    ฆ่าลูก ฆ่าเมีย ฆ่าพ่อ แม่ และฆ่าตัวเราด้วย
    ถ้าเราให้อภัยได้ขนาดนี้ ถือว่าเป็นที่สุดของความเมตตาแล้วครับ



    จิตของเราก็จะพ้นจากกิเลสโทสะได้อย่างไม่ยากเลย
     
  6. นิพ_พาน

    นิพ_พาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,984
    ค่าพลัง:
    +7,810
    :cool:
    คุณปฏิบัติดีแล้ว ชอบแล้ว:cool::cool::cool:
    ขอคารวะ
     
  7. buakwun

    buakwun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    2,830
    ค่าพลัง:
    +16,612
    อนุโมทนาสาธุ อภัยทานคือผลของทานที่มีอานิสงส์สูงสุด
     
  8. ABT

    ABT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +1,524
    อภัยทานเป็นทานที่ไม่ต้องลงทุน แต่ต้องลงใจ(ลดความยึดถือว่าตัวฉันเป็นตัวฉัน) ทำใจให้สาบาย และอภัยให้ผู้ทำให้เราไม่พอใจ ผลบุญนั้นมากมายมหาศาล แค่คิดหน้าตาก็ผ่องใสบุญเห็นผลทันตาแล้ว ขออนุโมทนา
     
  9. ชไลธร

    ชไลธร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +248
    อยากคิดและทำได้อย่างคุณเปาชุนไหลจัง ดิฉันก็เจอเหมือนกันหลายครั้ง แต่ละครั้งก็พยายามบอกตัวเองว่าอย่าไปมีเรื่องเลย เราก็ตัวคนเดียว ก็ไม่ถือสาหาความ ทำดีกับเขาเดือดร้อนมาก็ช่วยเหลือ แต่พอเราทำแบบนั้นเขากลับไม่สำนึก ทำกับเราครั้งแล้วครั้งเล่า จนล่าสุดทนไม่ได้ก็เลยแตกหักกันไป ดิฉันคิดว่าการให้จะเป็นตัวเชื่อมแห่งมิตรภาพที่ดี แต่มันไม่เป็นแบบนั้น ยิ่งให้ เขาก็ยิ่งรับยิ่งอยากได้มากกว่าเดิม จนที่สุดเขี่ยเราพ้นทางแบบเลือดเย็นที่สุด เท่านั้นยังไม่พอแฟนที่คบมาเป็นสิบปีเหมือนกัน ไม่เคยเข้าใจเราเลย พอโกรธก็หนีหน้าไม่มาถามไถ่ ดิฉันก็ถือเอาว่าเขาโกรธก็ช่างเราก็จะลืมเสีย ทุกครั้งดิฉันต้องเป็นฝ่ายพูดกับเขาก่อน เป็นอย่างนี้ตลอด ตอนนี้ดิฉันเจอมรสุมทั้งเพื่อนและแฟน ไม่มีใครเลย อยากร้องไห้แต่ร้องไม่ออก ใจหนักอึ้งเหมือนภูเขาสักร้อยมาทับ เข้ามาอ่านในเวปพลังจิต ก็ดีได้แค่ระยะเวลาสั้นๆ พอออกจากเวปก็จะเป็นเหมือนเดิมอีก นี่ดิฉันก็ไประบายในหลายๆกระทู้ ถ้าท่านใดพบเจอข้อความซ้ำซากของดิฉัน ก็อย่ารำคาญนะคะ ดิฉันไม่มีใครจริงๆ
     
  10. chuchart_11

    chuchart_11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    764
    ค่าพลัง:
    +2,932
    ขออนุโมทนาสาธุ ธรรมใดที่ท่านสำเร็จแล้ว ขอข้าพเจ้าสำเร็จด้วยเทอญ สาธุๆๆ
     
  11. mobilelizard

    mobilelizard เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    558
    ค่าพลัง:
    +4,678
    ขออนุโมทนาครับ โทสะนี่น่ากลัวนะครับ คนไม่เคยโกรธเยอะๆ จนนอนไม่หลับ ยิ่งคิดยิ่งแค้น อาจจะไม่เข้าใจถึงความทุกข์อย่างมากและโทษอันมีมากของความโกรธ แต่เราไม่ควรประมาท เราอาจจะยังไม่เคยโกรธขนาดนั้น แต่ถ้าเราไม่ฝึกจิตของเรา อนาคตเราอาจจะตกเป็นทาสของโทสะก็ได้ การฝึกจิตด้วยการให้อภัยทานจะเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ เป็นสิ่งที่มีคุณมากจริงๆ

    แต่ก่อนผมเป็นคนมักโกรธ และโกรธแรงด้วย ผมเห็นโทษของความโกรธว่าน่ากลัวนักหนา เลยหมั่นเจริญเมตตาภาวนา อโหสิกรรมทุกๆ สิ่ง อภัยทุกๆ ท่าน อย่างต่อเนื่อง ทุกวันนี้จิตใจดีขึ้นมาก ยังคิดว่าเราเคยโง่มาก เป็นทาสของความโกรธ ไม่มีปัญญาเห็นว่าจริงๆ จิตใจมันฝึกได้
     
  12. weerachai_12@ho

    weerachai_12@ho เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +1,022
    อนุโมทนา ตรงใจกำลังพยายามทำอยู่ สาธุ
    ไม่มีเวลาใดที่สัตว์ว่างเว้นจากการเสวยวิบากกรรม
     

แชร์หน้านี้

Loading...