ไปกันครับ อยู่ใกล้ๆ บ้านเรา เมืองเรานี่เอง
({) ฟันธงคราบ
อภิญญา มีอยู่จริงทั่วไปในประเทศไทยในอดีตไม่ไกลนัก
ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ประกายพลอย, 31 มีนาคม 2012.
หน้า 2 ของ 2
-
-
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบในอภิญญา เดือนเมษานี้ เตรียมตัวให้พร้อม......
-
2 วันก่อนไปทดสอบพลังงานกับท่านที่ฝึก กสิน ดิน นำ้ ลม ไฟ อากาศ
ให้ลองจับวัตถุดู แล้วท่านจะเปลี่ยนพลังจากกสินที่ฝึก แล้วทายดูเล่นๆ
ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ยังไม่รู้ใช้ประโยชน์อะไร เรื่องการลดกิเลส
แต่ก็สนุกดีครับ รูปแบบพลังงานทำให้ทราบว่าเป็นกสินอะไร
ขอบคุณครับ -
-
มีโอกาศต้องไปดูด้วยตนเองนะ...ก่อนที่ท่านจะหยุดเสด็จ หรือ พระอาจารย์ท่านจะหยุดนะ...
ผมชอบอีกอย่างหนึ่งคือ ที่พระวิหารเราเชิญพระธาตุได้เองด้วยการนั่งสมาธิ...พระธาตุที่ได้มาเปลี่ยนวรรณได้ด้วยตนเอง...อันนี้เจอมากับตัว...จนหมดความสงสัย...ของอย่างนี้อย่าเพิ่งเชื่อ..ต้องลองดูครับ... -
ขนากหลวงพ่อนี้ท่านยังพิสูจน์อยากไปไปพิสูจน์หลวงพ่อเกษมด้วย
จริงไม่จริงจะได้รู้ เกิดท่านของจริง คุณจะได้ไม่ปรามาส -
-
หลวงพ่อเกษมที่หลวงพ่อจรัญเคยพูดถึงรึเปล่าครับ ที่ท่านชอบเข้าชาน เพื่อระงับเวทนาที่เกิดจากโรคกระดูกใช่ไหมครับ
-
หลวงพ่อเกษม สามแยกครับ :)
-
--------------------------------- -
หลวงตา เล่าให้ฟัง ว่า ท่านจะไปจำพรรษาทึ่จังหวัด ลพบุรี วัดที่นั่นอยู่ติดเขา หลวงตา
ได้ติดต่อเจ้าอาวาสซึ่งรู้จักกันบางแต่ไม่สนิทสนม ว่าจะขอจำพรรษาที่วัด แต่จะขึ้นไปอยู่
ในถ้ำแคบ ๆ ของทางวัด ซึ้งไม่มีพระรูปอื่นจำอยู่ เจ้าอาวาสรับปากได้ให้หลวงตามาจำ
พรรษาในถ้ำได้เลย แต่พอถึงเวลาในเข้าพรรษาหลวงตาไปที่วัด เจ้าอาวาสกลับเปลี่ยน
ใจไม่ให้จำที่นั่น หลวงตาก็เลยต้องไปหาที่จำพรรษาใหม่ในปีนั่น
ผ่านมาได้ 1 ปี หลวงตาท่านก็อยากจะไปจำพรรษาที่วัดนั่นอีก เพราะในจิตว่าต้องไป
ใช้กรรมที่นั่น หลวงตาท่านก็ติดต่อไปอีก บอกกับเจ้าอาวาสว่า จะขอไปจำพรรษาที่ ถ้ำ
นั่น และจะให้ให้ลูกศิษย์ซึ้งเป็นช่างศิลป์ ทำงานเรซิ่ง เพื่อตบแต่งทางเข้าถ้ำให้สวย
เจ้าอาวาสท่านดีใจ ท่านบอกให้หลวงตามาจำพรรษาที่นี้เลยนะ แต่พอถึงวันใกล้เข้า
พรรษา เจ้าอาวาส ก็โทร มาหาหลวงตาบอกว่า จะไม่ให้จำพรรษาที่นั่นและ โดยไม่มี
เหตุผล หลวงตาท่านเลยตรวจดู ว่าอะไรเป็นสาเหตุกันแน่ ท่านคิดว่าต้องเป็นเจ้าที่แน่ๆ
ท่านก็เลย เชิญเจ้าที่มาหาท่าน (ท่านอยู่ กทม.) เจ้าที่ก็มาปรากฏ ตรงหน้าท่าน แล้วก้ม
ลงกราบ เจ้าที่เป็นผู้หญิง ผิวดำแดง ใส่ชุดไทยสมัยก่อน หลวงตาบอกว่า ท่านจะขอจำ
พรรษาที่ถ้ำได้มั้ย เจ้าที่บอกว่ายินดี คะ ขอนิมนต์ หลวงตา
หลวงตาท่าน เลยถามว่า ที่ตรงนั่นเขาเรียกว่าอะไรหรอ เจ้าที่ตอบว่า เข้าเรียนกว่าเมือง
ลับแล สภาพก็เหมือนเมืองโบราณสมัยก่อนที่ยังสวย แต่คนไม่เห็นเห็นแต่ต้นไม้เต็มไป
หมด แต่ต้นไม้ที่ตั้งอยู่นั่นนะเป็นบ้านเมืองของเขา พอรุ่งเช้า เจ้าอาวาสโทรหาหลวงตา
บอกว่า หลวงตา นิมนต์ จำพรรษาที่วัด นะ หลวงตา ยิ้ม ต้องเล่นแบบนี้
กรรม ของสัปเหร่อ สัปเหร่อขี้เมาที่อยู่วัดนั่นไปขึ้นไปหาหลวงตาในถ้ำ แล้วบอก
หลวงตาว่า พรุ่งนี้มีงานศพที่วัดให้หลวงตาไปร่วมสวดด้วย หลวงตา ท่านบอกว่าไม่ไปไม่
ได้หรอ สัปเหร่อ ขี้เมาบอกว่าไม่ได้ครับ ต้องไป แล้วก็เดินลงเขาไป แต่บังเอิญขาไป
สะดุดกิ่งไม้จนล้มลง แก่โมโหมาก หามีดมาฟันต้นไม้ หลวงตาเห็นเข้าบอกว่าโยม
อย่าตัดต้นไม้นะ สัปเหร่อไม่ฟัง ตัดต้นไม้ไปหลายต้น หลวงตาถอนหายใจ กรรมจริง ๆ
หลวงตาลงมาร่วมงานศพ แล้วก็พูดเปรย ๆ ว่า พรุ่งนี้สัปเหร่อ ตายแน่
รุ่งขึ้นอีกวัน สัปเหร่อคนนั่น นอนตายเป็นศพโดยไม่ทราบสาเหตุ เจ้าอาวาส เดินไปถาม
หลวงตา ว่า หลวงตารู้ได้ไงว่า สัปเหร่อจะตาย ท่านรู้แต่บอกไม่ได้ บอกไปก็เท่านั่นใคร
จะไปเชื่อ เดี๋ยวหาว่า ท่านบ้าอีกต่างหาก -
เป็นลุงคนหนึ่งครับ เขาเล่าเมื่อสมัยที่เขาบวชเป็นพระ และ ได้ทดลองแบบนี้ครับ
ส่วนเมืองลับแล ผมก็เห้นว่าเป็นเช่นนั้นครับ เพียงแต่การใช้อภิญญาไม่มากครับ
เป็นเหมือนมนุษย์ที่มีความเคยชินในการงานน่ะครับ ส่วนเรื่องศีล 5
บริบูรณ์อย่างยิ่งจริงๆครับ เป็นมิติที่ซ้อนกันอยู่ครับ
สาธุครับ -
ผมหนีน้ำท่วมกลับบ้านที่เชียงใหม่น่ะครับและ
แน่นอนครับท่านPhanudet ผมเองไม่ยอมพลาดที่จะไปพิสูจน์ด้วยตัวเองแน่นอนครับ(เพราะบ้านผมอยู่อำเภอเมือง นั่งรถแดงไปแปปเดียวก็ถึงวัดแล้วครับ) แต่ไม่ใช่เรื่องพระธาตุครับ ที่ผมอยากรู้คือท่านเป็นพระดีหรือไม่ พอไปถึงวัด ก็เข้าไปไหว้พระประธานในโบสถ์(พระเจ้าแสงคำเมือง)ภายในโบสถ์เย็นมากครับ แต่ไม่เห็นท่าน ผมก็นึกในใจว่า ถ้าท่านแน่จริงขอให้ท่านมาที่โบสถ์ตอนนี้ แปปเดียวท่านเดินเข้ามานั่งที่ธรรมมาสน์ในโบสถ์ ท่านมองมาที่ผมแล้วท่านก็ยิ้มเล็กน้อย แต่ยังครับผมยังไม่หมดความสงสัย ผมเลยอธิษฐานขอดูดวงจิตท่าน (ผมคิดว่าถ้ามืดดำเหมือนโล้นเผาพระ คงไม่ต้องกราบไหว้กันล่ะ) แล้วผมก็รู้สึกเหมือนเห็นแสงสปอร์ตไลท์ส่องวาบเข้ามาที่หน้าผม ทั้งที่ในโบสถ์ก็ออกจะมืดๆ ในตอนนั้นทำให้ผมรู้ว่า สว่างดุดพระอาทิตย์ยามเที่ยงวัน นั้นเป็นอย่างไร พอโดนเข้าไปแบบนี้หมดความสงสัยทันที ท่านเป็นพระดีพระแท้แน่นอนครับ
แล้วผมก็กราบขอขมาท่าน ท่านมองมาที่ผมและท่านยิ้มเล็กน้อย
ถ้าได้กราบท่านเหมือนได้กราบล่วงหน้าอีกองค์หนึ่งครับ สาธุครับ
ถ้าได้มีโอกาสกลับบ้านอีก จะลองไปนั่งสมาธิอัญเชิญพระธาตุดูบ้างครับ
แล้วก็ที่ผมเรียกกองทัพนั้นเทวดานั้น เพราะ ท่านมาพร้อมพระธาตุครับ พระธาตุองค์เล็กๆ แต่มีเทวดาคอยรักษาอยู่ตั้ง5องค์ แล้วที่แม่ผมนำพระธาตุมาก็เกือบร้อยองค์ได้มั้งครับ ถ้าคำนวณดูแล้ว ที่บ้านผมตอนนี้มีเทวดาประมาณ 500 องค์ได้ครับ ถ้าเรียกแบบทหารก็ ห้ากองร้อยได้
มีเหตุการณ์แปลกๆที่แม่กับน้องผม เจอมาแล้วน่ะครับ คือ ตอนแม่ขึ้นไปสวดมนต์ ที่หน้าหิ้งพระตอนกลางคืน ก็จะได้ยินเสียงสวดมนต์ที่ดังมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ครับ
และน้องผมก็เจอ ตอนเล่นคอมอยู่ชั้นลอย แล้วง่วงหลับ จากนั้นเหมือนมีคนมาลูบแขน แล้วก็ยกแขนเค้าขึ้นด้วย พอลืมตามอง ก็มองไม่เห็นใครเลย ผลก็คือ วิ่งเผ่นขึ้นมาห้องนอนแทบไม่ทัน เหอๆ ๆ
ผมต้องขอขอบคุณ คุณPhanudet ที่ช่วยเตือนคนเลวอย่างผมอีกครั้ง ขอรับ
ถ้ามีวาสนา ก็อยากเห็นคุณPhanudetตัวจริง สักครั้ง
ถ้าไม่รบกวน ส่งรูปมาให้ดูทาง pm ก็จะดีมากเลยครับ
เจริญในธรรมครับ -
ลำ้ลึกจิงๆ เทวดาประมาณ 500 องค์
-
หมอกฤช comfirm คิดถึงกันบ้างป่าว เงียบไปเลยน้าเวลาเค้าไม่อยู่
-
คุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->GhostHead<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5950862", true); </SCRIPT> เก่งนะ....ไปกราบครูบาอาจารย์กล้าที่จะขออนุญาตดูจิตของท่าน นี่ดีนะครับท่านเมตตาแสดงให้เห็น...ถ้าเป็นครูบาอาจารย์บางองค์ท่านไม่ให้ดูนี่จะมืดตื้อ แล้วก็อาจไปปรามาสท่านได้นะครับ...มีอยู่คราวหนึ่งอาจารย์ท่านเล่าให้ฟัง ไปกราบครูบาอาจารย์ท่านหนึ่ง แถวเชียงราย ลูกศิษย์ครูบาคำหล้า....ไปปุ๊บ ต่างคนตางได้เจโตฯกัน ก็ลักษณะอย่างคุณนี่หละ ดูปุ๊บก็มืด ก่อนท่านออกมานะ ขอดูก่อน ดูอย่างไรก็มืด เริ่มที่จะสงสัยว่าคงจะเป็นพระไม่ค่อยดีนะ พอท่านออกนั่งเสร็จ พูดออกมาเลย "จะดูอะไรกันนักหนา ไม่เห็นหลอก ดูให้ดูด้วยตานี่เห็นเลยชัด" ต่ออีกประโยค " พวกที่จุดไฟมาดับไฟก่อนนะ" ประโยคหลังนี่มีรุ่นพี่ท่านเชี่ยวชาญเตโชกสิณไปด้วย...พอได้ยินเท่านั้นหละ โอโห เหนือฟ้า....ท่านไม่ให้ดู....โดนเทศน์กันฑ์ใหญ่เลย....
เจโตฯ นี่ถ้าท่านสูงกว่าเราแล้วไม่สงเคราะห์ เราจะมองท่านไม่เห็น....เราจะมองได้ชัดก็เมื่ออยู่เสมอกับเราและอันดับรองจากเรานะครับ....อีกอย่างฌานโลกีย์ที่เรามีนี่บางครั้งดี บางครั้งดับ เอาแน่เอานอนไม่ได้นะ....ถ้าวางกำลังใจไม่ดีนี่โดนเทวบุตรมารเล่นเอานะ....ฉะนั้น อย่าไปเชื่อมันมากนะครับ....
เทวดานี่นะครับ...ถ้าท่านมาอยู่กับเรา ไม่ว่าท่านจะมากับพระธาตุ หรือ พระเครื่อง หน้าที่สำคัญของท่านคือดูแลรักษารูปลักษณะของพระรัตนตรัยและดูแลพระศาสนา เราควรเคารพท่านเหมือนกับญาติผู้ใหญ่ของเราครับ....อย่าทำเป็นเล่นไป....เราต้องรู้ระดับคือท่านมาเพื่อเมตตาสงเคราะห์เรา ไม่ได้มาเพื่อเป็นบริวารเรานะ...ฉะนั้นควรเป็นอย่างยิ่งที่เราจะเคารพท่านในฐานะญาติผู้ใหญ่หรือผู้มีคุณต่อเรา...ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะทำตัวตีเสมอหรือพูดเล่ยหยอกล้อ....ผู้อ่อนน้อมไม่ตกยากนะครับ....ต้องรักษาความดีนี้ไว้....ไปใหน ไม่ว่ามนุษย์หรือเทวดาท่านก็รัก ท่านก็เมตตานะครับ....
ส่วนเรื่องเจอตัวจริงของผมนั้น...จริงๆแล้วเราก็เจอกันในเว็บนี้ไงครับก็ผมตอบเองก็คือผมนี่หละ...เรื่องที่เราจะเจอกันจริงๆนั้น เอาเป็นว่าถือเป็นบุญสัมพันธ์แล้วกันนะครับ...ถ้าเรามีโอกาศได้เจอกัน ก็เจอกันในฐานะอื่น ที่ไม่ใช่ผมในนาม Phanudet ในเว็บพลังจิต คนนี้....ยินดีที่ได้สนทนาครับ.... -
ผมไม่ได้เก่งหรอกครับ คุณPhanudet(ท่านPhanudet นี่ด่าเพราะจริงๆ) แต่ท่านเมตตาสงเคราะห์ผมน่ะครับ ท่านคงกลัวว่า ผมจะลงไปแช่อยู่ในนรกน่ะครับ
ขอบคุณในคำแนะนำสั่งสอนครับ ผมจะจดจำเอาไว้ครับ
ผมมีปัญหาข้องใจอยู่ข้อหนึ่ง มิทราบว่าคุณPhanudet ยินดีที่จะช่วยไขข้อข้องใจให้ผม มั้ยครับ
คือ ถ้าเรามีเกวียนเก่าๆ ที่ชำรุดทรุดโทรม ผุพัง อยู่เล่มหนึ่ง เราควรที่จะซ่อมเกวียนนั้น หรือ ควรจะเปลี่ยนเกวียนเล่มใหม่
คุณPhanudet คิดว่าแบบไหนดีกว่ากันครับ
ถนอมรักษาสุขภาพด้วยนะครับ ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย
เจริญในธรรมครับ -
ส่วนคำถามที่ถามผมเรื่องเกวียนเล่มเก่าจะซ่อมหรือจะเปลี่ยนใหม่นั้น....ส่วนตัวผมมองว่า สถานะ เวลา หน้าที่ โอกาศ ณ.ตอนนั้นของเราเป็นตัวแปรในการตัดสิน เป็นหลักสำคัญนะครับ....คือเราต้องดูหลายๆด้านนะ...ไม่ใช่จะทิ้งก็ทิ้งไม่ซ่อมแซม เปรียบดุจชาวนาที่อยู่ในชนบทห่างไกล นานทีอาจได้เข้าเมืองทีหนึ่ง เพราะระยะทางที่ห่างไกล ตลอดจนระยะเวลาที่ข้าวยังไม่อาจเก็บเกี่ยวเพื่อจะนำไปขาย เพื่อที่จะนำเงินนั้นไปซื้อเกวียนเล่มใหม่ได้ ชาวนาผู้มีปัญญาจึงมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เกวียนเล่นนั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุดเท่าที่เกวียนเล่มนั้นจะใช้ได้ บางครั้งอาจต้องว่อมแซมบ้างก็ถือเป็นเรื่องปกติ ก็ยังต้องถือว่ายังดีที่มีเกวียนไว้ใช้ดีกว่าที่เราต้องเทียมโค(ซึ่งอาจได้น้อกว่าบรรทุกเกวียน) หรือ แบกเอาเอง.....จนกว่าที่จะถึงโอกาศ ที่เก็บเกี่ยวข้าว จึงสามารถที่จะมีข้าวหรือพืชผลไปขายในเมืองเพื่อจะได้ผลกำไรแห่งพืชผลนั้น ซึ่งอาจเพียงพอต่อการที่จะซื้อเกวียนเล่มใหม่...หวังว่าคงจะเข้าใจนะครับ... -
ขอขอบคุณในคำตอบครับ
เจริญในธรรมครับ -
หน้า 2 ของ 2