อภินิหาริย์เจ้าแม่กวนอิมกลางขบวนแห่ตรุษจีนนครสวรรค์

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย มังกรนครสวรรค์, 3 กุมภาพันธ์ 2009.

  1. zhoujielun

    zhoujielun สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +1
    เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ 60

    ไม่มีประโยชน์ที่จะเอามาเปรียบเทียบกัน เพราะนี่คือความเชื่อ

    เราไม่รู้ว่าคุณเอามาเปรียบเทียบเพื่อจะบอกอะไร เพื่อจะบอกว่า สไลด์ของคุณเป็น

    การลงประทับของกวนอิมจริงๆงั้นหรือ แล้วกำลังจะบอกว่า คลิปแรก ที่น้องดูเหมือนครึ่ง

    หลับครึ่งตื่น ไม่ใช่การลงประทับจริงงั้นหรอ

    น้องโวยวายดุดันตาโต คุณก็ว่าไม่ใช่ พอน้องสงบแววตาเมตตา คุณก็ว่าไม่ใช่อิก งั้นหรือ

    คือเราสงสัยและถามตัวเองนะ ไม่ได้กล่าวหาคุณ

    แล้วที่คุณพูดว่า ก้อยัง..........อยู่ดี

    คำที่ว่างไว้มันคืออะไรหรอ บอกได้มั๊ย

    ถึงเราจะแตกต่างทางความคิด แต่เราจะไม่แตกแยกกัน

    ทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี ทุกความเชื่อเป็นผลดีถ้านำไปใช้ในทางที่ดี
     
  2. supermag

    supermag สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    รูปวันไหว้พระจันทร์ วันที่องค์สมมุติรับหน้าที่วันแรก ที่ศาลเจ้าพ่อ-เจ้าแม่หน้าผา นครสวรรค์

    อ้างอิง จากผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ จะได้ไม่เข้าใจน้องเค้าผิด (อ่านให้จบ)

    ความรู้สึกของแม่ ที่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดกับองค์สมมุติเจ้าแม่กวนอิม
    ในวันที่ 29 และ 30 มกราคม 2552
    (29 ม.ค. 52) เวลาประมาณ ตี 3 ปกติน้ำพลอยจะตื่นยากต้องปลุกหลายครั้ง
    วันนี้น้ำพลอยตื่นเอง เราซะอีกกับรู้สึกเพลีย ตอนขับรถไปส่งที่ร้านช่างแต่งหน้า น้ำพลอยยังร้องเพลงในรถแล้วบอกว่า รู้สึกสดชื่นจัง นอนปกติธรรมดายังไม่สดชื่นเท่านี้เลย
    เริ่มต้นที่รู้เราสึกแปลก ๆ ครั้งแรกเลยคือ ตอนแห่กลางวัน ขบวนเคลื่อนมาถึงหน้าโรงแรมอโนดาต ที่ น้ำพลอยยืนขึ้น แล้วทำมือท่าประทานพรยื่นออกมา การวาดมือขึ้นลงแปลก ๆ เพราะเราจะติดตามพลอยตลอด จะรู้ว่าอิริยาบถไหนของลูกเรา ยังโทรศัพท์ไปหาหลาน ( ลูกร้านหวังทองดี ) ว่าให้รีบมาดู เพราะน้ำพลอยทำท่าแปลก ๆ ( นี่คือครั้งแรก )
    กลางวันพักทานข้าวที่ร้าน เรืองศรีก่อสร้าง สักพัก ป๊าน้ำพลอยเข้ามาบอกว่า ให้ไปถ่ายรูปร้านข้าง ๆ ด้วย ( บริษัททองธาราขนส่ง ) ก่อนจะออกจากร้านเรื่องศรีก่อสร้าง รู้สึกแปลก ๆ เพราะน้ำพลอยหันมา ( หันเข้าในบ้านเรืองศรีก่อสร้าง) แล้วทำท่าประทานพรสวดปากขมุบขมิบ เราก็ไม่ได้นึกอะไร แล้วก็ถ่ายรูป สังเกตหน้ายังยิ้มปกติ พอเดินจะเข้าบริษัททองธาราขนส่ง ที่หน้าร้านจะมีเกี้ยวขององค์เจ้าพ่อเจ้าแม่แต่ละศาลวางอยู่หลายเกี้ยว เราก็บอกว่า “พลอยเดินลัดไปเลย” ซึ่งหลาย ๆ คนที่นำหน้าก็เดินลัดผ่านเกี้ยวนี้ไป น้ำพลอยไม่ยอมเดินผ่าน แต่เดินไปอ้อมเกี้ยว แล้ววกกลับมาเข้าบ้านหลังนั้น ซึ่งเป็นการเดินที่เร็วมาก ตัวตรง หน้าตรง แล้วก็เข้าบ้านไป ซึ่งเจ้าของบ้านและ ลูก ๆ หลาน ๆ เตรียมยืนรอถ่ายรูปข้างหน้าที่ตั้งโต๊ะไว้กันอยู่แล้ว แต่น้ำพลอยจะเดินเข้าไปในบ้าน โดยไม่มีรีรอหรือหยุดชะงักเลย แล้วไปยืนนิ่งที่หน้าเจ้าพ่อกวนอู พอหันหน้ามาเรารู้สึกเลยว่า นี่ไม่ใช่ลูกเรา เป็นองค์ท่านลงมาแน่ ๆ เลย เพราะเรารู้สึกผิดปกติตั้งแต่ตอนที่ท่านเดินแกมวิ่ง เลยบ้านหลังนี้ไป เรายังวิ่งตามแล้วตะโกนว่า “พลอยเลยบ้านที่จะถ่ายรูปแล้วนะ” ซึ่งเจ้าของบ้านยังนึกว่าไม่แวะมาถ่ายรูป แต่จะไปขึ้นรถแล้ว (ซึ่งการเดินเร็ว ๆ นี้ ปกติชุดน้ำพลอยจะยาวและกลัวเวลาเดินจะเหยียบชายกระโปรงมาก แต่นี่เดินพลิ้วมาก และเวลาเดินไม่มีมองก้มดูพื้น ทั้ง ๆที่ช่วงถนนกับฟุตบาทระดับไม่เท่ากัน )

    ย้อนกลับมาตอนที่องค์ท่านหันกลับมา หลังจากยืนหน้าองค์เจ้าพ่อกวนอูสักพัก เจ้าของบ้านและ ลูก ๆ หลาน ๆ ก็ทยอยเดินเข้ามาจากโต๊ะไหว้หน้าบ้าน มาถ่ายรูป ซึ่งนี่ก็ผิดปกติอีก เพราะถ้าเป็นน้ำพลอย ต่อให้เหนื่อยแค่ไหน เมื่อมีคนมาขอถ่ายรูปน้ำพลอยจะยิ้มทุกครั้ง (ซึ่งเราย้อนกลับไปดูรูปที่ป๊าน้ำพลอยถ่ายเป็น พัน ๆ รูป ไม่เคยได้ภาพที่น้ำพลอยหน้าบึ้ง เมื่อเวลาใส่ชุดองค์สมมุติแล้ว ) เราตอนนั้นตกใจมาก ไม่รู้จะทำอย่างไร ด้วยความเป็นแม่ เราก็รีบเดินเข้าไปยกมือไหว้ แล้วกราบไปที่อกน้ำพลอย ซึ่งตอนนั้นเราคิดว่าเป็นองค์ท่านประทับอยู่ เราก็ร้องไห้แล้วนึกในใจว่า ขอให้องค์ท่านช่วยคุ้มครองลูกเราด้วย อย่าให้ลูกเราเป็นอันตรายเลย ซึ่งตรงนี้ ตอนหลังผู้รู้หลายคนบอกว่า เวลาท่านลงที่ร่างใคร ท่านจะไม่ทำร้ายร่างที่ท่านลง ท่านจะดูแลและคุ้มครองร่างนั้น ด้วยความเป็นแม่ตอนนั้นเราตกใจมาก พอเราร้องไห้ รู้สึกว่าน้ำพลอยก็จะเริ่มรู้สึกตัวและก็ร้องไห้ แล้วเซไปเหมือนจะล้ม ก็เลยหาเก้าอี้มาให้นั่งแล้วก็หายาดม นวดให้ ทุกคนในนั้นก็ งง ตกใจ ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน สักพักก็มีคนจุดธูปมาให้เรายกมือไหว้ เราก็บอกน้ำพลอยว่า “พลอยใจเย็น ๆ หายใจเข้าลึก ๆ องค์ท่านลงร่างเรา ท่านมาดี ขอให้ตั้งจิต อธิฐาน ให้ครอบครัวเราและทุกเพื่อนมนุษย์ทุกคน อยู่ร่มเย็นเป็นสุข เจอแต่สิ่งที่ดี ๆ” สักพักน้ำพลอยก็จะนิ่ง แล้วลุกขึ้นมานั่งได้เหมือนเดิม ช่างแต่งหน้า (คุณยุ) ก็มาเติมแป้งให้ ซักพักจะมีขบวน ที่เคาะ “ผาง ๆ” เดินผ่านมาเข้าบ้านนี้ น้ำพลอยก็สะดุ้ง แล้วก็ตัวสั่น เราและผู้ติดตามก็ตกใจ จับตัวกันไว้ซึ่ง น้ำพลอยก็สะบัดไปมา จนไผ่กวนอิม หลุดติดมือผู้ติดตาม ซึ่งตอนนั้นไม่แน่ใจว่าองค์ลงหรือยัง น้ำพลอยก็รีบคว้า ไผ่กวนอิมกลับมาใส่ไว้ที่แจกันเหมือนเดิม ด้วยมือที่สั่นเทา สักพักน้ำพลอยก็จะเริ่มจีบมือซึ่งเป็น ท่าประจำ ( ท่ามุทรา ) ขององค์สมมุติ (ซึ่งตอนนี้ผู้รู้บอกว่า ตอนที่น้ำพลอยสะบัดไปมานั้น น่าจะเป็นการต่อต้านของตัวน้ำพลอย ในขณะที่องค์จะลงร่าง เพราะน้ำพลอยไม่เคยและไม่รู้ว่าขณะที่องค์จะลงต้องทำจิตอย่างไร สักพัก ทุกคนก็นิ่ง เพราะไม่รู้จะทำอย่างไร คุณยุ ช่างแต่งหน้า ก็เข้ามาถามองค์เจ้าแม่ว่า ต้องการอะไรไหม ซึ่งองค์เจ้าแม่ก็พูดมาค่อย ๆ มองจากวีดีโอ จะเห็นปากท่านขมุบขมิบ คำว่า “น้ำมนต์” ทุก ๆ คนก็วิ่งไปหาขันน้ำมนต์มาให้ ท่านก็นำแจกันที่ใส่ไผ่กวนอิมของท่าน จุ่มลงไปในขันน้ำมนต์ แล้วก็กวนเร็ว ๆ พร้อมด้วยท่าทางที่แปลก คือหายใจเร็วและแรง มือสั่น ๆ ท่านก็นั่งนิ่งสักพัก แล้วก็เอาไผ่กวนอิมจุ่มลงมาที่ขันน้ำมนต์ แล้วหันกลับไป พรมที่รูปปั้นเทพเจ้า พร้อมกับหายใจแรงและเร็ว ตัวก็สั่น ๆ สักพักก็เริ่มนิ่ง ทุกคนก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เจ้าของบ้านก็เลยให้คนไปหยิบองค์เจ้าแม่ ที่เป็นรูปปั้นหยก มาตั้งไว้หน้าท่าน สักพักท่านก็ยิ้ม แล้วถามด้วยเสียงเบาๆ และช้าๆ ว่า “ ใครสร้างเจ้าแม่กวนอิม” ซึ่งคุณแลน (เจ้าของบ้าน) ซึ่งได้ยินก็เข้าใจว่า ท่านถามถึงองค์ที่ตั้งอยู่หน้าท่าน ก็เข้ามาคุกเข่า และบอกว่า องค์เป็นหยก นำมาจากเมืองจีนครับ เจ้าแม่ก็ถามอีกว่า “ใครสร้างเจ้าแม่กวนอิม” เจ้าของบ้านก็ตกใจ รีบเรียก ป๊า ๆ ท่านถามว่าใครสร้างเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งเจ้าของบ้านทุก ๆ คนก็รีบวิ่งเข้ามา ซึ่งเจ้าของบ้านตอบกลับมาว่า ผมสร้างเองครับ สร้างที่ทองธาราขนส่ง ย่านมัทรี โดยสร้างองค์เจ้าแม่กวนอิมสูง 8 เมตร ไว้ องค์เจ้าแม่ก็ยิ้มแล้วตอบว่า “ทำดีแล้ว” เจ้าของบ้านก็ถามกลับว่า ผมได้สร้างองค์เจ้าพ่อกวนอูสูง 8 เมตร ตั้งใกล้ ๆ องค์เจ้าแม่กวนอิมด้วยดีไหมครับ องค์เจ้าแม่ซึ่งประทับร่างอยู่ก็นิ่งสักพัก แล้วก็ยิ้ม พร้อมตอบกลับว่า “ดีแล้ว” ทุก ๆ ครั้งที่ท่านพูด ท่านจะพูดเบา และช้า ๆ เย็น ๆ ซึ่งตรงนี้ทุกคนได้ฟังก็ขนลุก ท่านนั่งนิ่งสักพัก ก็เริ่มเอนตัวไปมาคล้าย ๆ กับว่าท่านจะออกจากร่างองค์สมมุติ ซึ่งทุกคนก็ช่วยกันเข้ามาบีบนวด หายาดม หาน้ำ มาให้น้ำพลอย ซึ่งทุกคนก็ตกใจ เป็นห่วงน้ำพลอย พร้อมกับเรียกชื่อของน้ำพลอยตลอดเวลา ซึ่งตรงนี้ พี่ตุ๊ (ร้าน เอส ที รีมิกซ์ ) ซึ่งแสดงหนังเรื่อง สายเลือดมังกร สายน้ำแห่งศรัทธาด้วยกัน ได้เข้ามาพร้อมกับเรียกชื่อน้ำพลอย แล้วก็ท่องบทสวด องค์เจ้าแม่กวนอิม ด้วยเสียงสั่น ๆ เหมือนกับร้องไห้ เราซึ่งได้ยินก็ยิ่งร้องไห้ใหญ่เลย ซึ่งตอนนี้พลอยรู้สึกตัวดีแล้ว เรายังคุยกับพี่ตุ๊ว่า มาร้องให้นำเรา เราเลยร้องตาม พี่ตุ๊ก็ตอบว่า พี่ไม่รู้อ่ะ ว่าใครร้องก่อน เมื่อเล็กว่าพี่ร้องนำก่อน เอาละ พี่ก็ยอมรับละกัน แต่พี่ว่าเล็กร้องก่อนนะ พูดแล้วก็ขำกัน พอสักพักน้ำพลอยก็ลุกขึ้นมานั่งตัวตรง เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ณ ตรงนี้ความรู้สึกของคนเป็นแม่ ก็ไม่อยากให้ลูกนั่งรถขบวนแห่ต่อไปแล้ว เถ่านั้งก็โทรมาบอกว่าจะงดก็ได้ แต่น้ำพลอยบอกว่าไหว จะไป คุณยุ ช่างแต่งหน้าก็เข้ามาเติมแป้งให้แล้วก็พร้อมที่จะขึ้นรถขบวนแห่ต่อ เมื่อเราเห็นลูกขึ้นรถเสร็จก็กะว่าจะเดินไปทานก๋วยเตี๋ยว ก็เดินไปกับป๊าน้ำพลอย พอดีเจอคุณครูของน้ำพลอย (ครูบ๊อก) ก็เลยแวะคุยว่าเมื่อสักพัก พลอยองค์ท่านลงมาที่ร้านทองธาราขนส่ง ยังคุยไม่ทันจบ ก็มีโทรศัพท์ตาม ว่าน้ำพลอยเป็นอีกแล้ว ให้รีบกลับมาด่วน (ในขณะที่เราคุยกับครูบ๊อก เราสังเกตเห็นขบวนมังกรวิ่งเร็วมาก ผ่านหน้าบ้านครูบ๊อกไป) เรารีบวิ่งกลับมา ซึ่งเห็นน้ำพลอยทำท่ากระทืบเท้าพร้อมกรีดมือไปข้างหน้า ไม่ว่าจะเปลี่ยนอิริยาบถแบบไหน องค์ท่านก็ยังทำมือท่า มุทรา อยู่ตลอด (ซึ่งลักษณะการจีบมือยังสวยกว่าตอนปกติอีก) ซึ่งตอนนี้ผู้รู้อีกท่าน บอกว่าจะเป็นไปได้ไหม ที่ว่าท่านจะทำพิธีสยบมารร่วมกับองค์เจ้าพ่อสามตา ซึ่งขณะนั้นกำลังทำพิธีอยู่ ซึ่งเป็นเวลาใกล้เคียงกับส่วนที่ท่านเรียกหามังกรนั้น เป็นเพราะว่าท่านเป็นห่วงมังกรจะวิ่งเข้าบ้านใคร ซึ่งผู้รู้อีกเหมือนกัน บอกว่า ปางที่ลงนี้จะเป็นปางเจ้าแม่กวนอิมพันมือ ซึ่งเป็นปางที่ปราบมาร แล้วสักพักองค์ท่านก็ประทับนั่งลงพร้อมกับร้องไห้ สังเกตมือที่ท่านกรีดทำท่ามุทรา ก็เปลี่ยนเป็นท่าประทานพร (ยกมือขึ้นแล้วหันฝ่ามือออกจากตัว) ซึ่งผู้รู้ก็บอกมาอีกเช่นกันว่า ที่ท่านร้องไห้ ก็เพราะท่านเมตตาต่อสัตว์โลก ที่ขณะนี้มีการต่อสู้และเบียดเบียนกันเยอะมาก ท่านเลยต้องประทานพรให้ทุกคนอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข สักพักน้ำพลอยก็เป็นลม มีการนวด บีบตัวให้ พอน้ำพลอยรู้สึกตัว ก็บอก กับเราว่า “ม่าม๊า หนูขอกินเจต่ออีก 5 ปีได้ไหม” เราได้ยินก็ตกใจ บอกว่า ไม่ได้หรอกลูก ให้หนูกินเจเท่าที่มีโอกาสละกัน เพราะว่าปีหน้าหนูต้องไปเรียนเมืองนอก เดี๋ยวจะหาอะไรกินลำบาก ซึ่งตอนแรกน้ำพลอยก็ท่าท่าไม่ยอม แต่อนหลังพอน้ำพลอยได้ยินเราก็เข้าใจ เราด้วยความเป็นแม่ ( อีกแล้ว ) ก็จะให้น้ำพลอยกลับบ้าน ซึ่งเราสั่งให้รถตู้มาจอดเทียบข้างรถแห่ บอกน้ำพลอยว่า กลับบ้านเถอะพลอย เหนื่อยมากแล้ว น้ำพลอยก็ตอบว่า “ม่าม๊า หนูไหว ขอให้หนูทำหน้าที่ตรงนี้ให้สมบูรณ์ก่อนได้ไหม” เราก็ไม่ยอม น้ำพลอยก็นั่งนิ่งสักพัก หันกลับมาหาเรา ตาเปลี่ยนไปเป็นเหมือนตอนที่หันกลับมาหลับจากยืนที่หน้าองค์เจ้าพ่อกวนอู (ในบ้านทองธาราขนส่ง) เรารีบถอยกลับพร้อมบอกคนขับว่า พลอยจะไปต่อ แล้วเราก็นั่งไปบนรถแห่ด้วย ตอนนั้นเราแปลกใจว่าทำไมน้ำพลอยนั่งนิ่งมาก ทำตาหรี่ลงนิด ๆ ปากเผยอยิ้มน้อย ๆ แล้วนั่งท่านี้ไปนาน มาก ซึ่งปกติเวลาน้ำพลอยยิ้ม จะไม่ยิ้มน้อย ๆ อย่างนี้ น้ำพลอยจะยิ้มเต็มที่ และตาจะลืมมากกว่านี้ ตอนนั้นเวลาใครถามว่าดื่มน้ำไหม ก็จะไม่ดื่ม มาถึงตอนขบวนเคลื่อนมาถึงตรงหน้าแฟรี่แลนด์ (ยังคิดว่าองค์ท่านน่าจะลง) เพราะเห็นน้ำพลอยลุกขึ้นยืน แล้วหันหน้าไปทางแฟรี่แลนด์ พร้อมกับทำท่าประทานพร (ซึ่งเราคิดเอง เพราะท่านทำท่านี้บ่อยมาก เวลายืน) ซึ่งท่านี้เราก็ยังงง ๆ อยู่ว่ามาได้อย่างไร เพราะน้ำพลอยไม่เคยทำท่านี้นอกจากท่ามุทรา ซึ่งตอนยืนตรงนี้คนที่อยู่บนรถต่างมองหน้ากัน แล้วพูดกันว่า องค์ลงแน่ ๆ เลย แล้วขบวนก็เคลื่อนไปถึงทางแยกธนาคารออมสิน ทางเถ่านั้งก็มาบอกว่า ขบวนสิ้นสุดตรงนี้แล้ว ให้กลับบ้านได้เลย เราก็เอารถมาจอดข้าง ๆ พร้อมเปิดประตูให้พร้อมที่จะให้น้ำพลอยเข้าไปนั่งในรถได้ทันทีที่ลงจากรถแห่
    พอท่านลงจากรถ ท่านก็ไม่ยอมขึ้นรถ ท่านก็เดินไปด้านหน้ารถ พร้อมกับประทานพรให้กับทุก ๆ คนที่อยู่รอบ ๆ บริเวณนั้นสักพัก คนที่ดูแลก็บอกว่าขอเชิญอาเนี้ยขึ้นรถ ท่านก็เดินกลับมา พอขึ้นรถ เราก็จะกลับบ้าน คนดูแลบอกว่า ท่านยังไม่ออก จากร่างนะ กลับบ้านตอนนี้ยังไม่ได้ ต้องเชิญท่านออกก่อน เราก็ถามว่า จะทำอย่างไรดี ซึ่งตอนนั้นก็ตกใจมาก คนดูแลบอกต้องไปที่ศาลเจ้า จุดธูปเชิญท่านออก เรากับป๊าน้ำพลอยก็ตกลงกันว่าจะไปศาลเจ้าตรงกรุงไทย คนติดตามบอกว่า อาเนี๊ย เดี๋ยวไปศาลเจ้าเหนือนะค่ะ (ซึ่งตอนนั้นคิดว่าองค์ท่านยังลงอยู่ เพราะท่านจะนั่งตรงมาก ไม่พิงพนักหลัง มือทำท่ามุทราและ ยิ้มตลอด ท่านบอกกลับมาว่า “ให้ไปที่ศาลใต้” ซึ่งเราก็คิดว่าตรงนั้นเข้ายาก และคนเยอะ แต่เมื่อท่านเลือกที่จะไปศาลใต้ รถก็เลยเลี้ยวเข้าไปในซอย เกรียติวัฒนา เข้าไปได้ครึ่งซอยก็ติดไปไม่ได้ ก็เลยจอดรถ แล้วให้ป๊าน้ำพลอย ไปคนเดียว ไปจุดธูปอัญเชิญท่านออก ท่านก็บอกว่า “ไปด้วยกันหมดเลย” ตกลงก็เลยลงไปด้วยกันหมด
    พอท่านลงจากรถ เดินผ่านขอทานซึ่งนอนอยู่ตรงข้างศาล ท่านก็หยุด พร้อมกับสวด แล้วทำท่าประทานพร ขอทานซึ่งนอนอยู่นั้นก็ตัวสั่นขึ้นมาทันที แล้วท่านก็เดินเข้าไปที่ศาลเจ้า ขณะนั้นเราเดินตามหลังองค์ท่านมา พอทุกคนที่อยู่ในศาลหลีกทางให้ เราก็เห็นเทพเจ้าหลายองค์ อยู่ที่ศาลเจ้านั้น เราขนลุกซู่ขึ้นมาทันที รู้แล้วว่าทำไมท่านถึงเลือกมาที่ศาลนี้
    เทพเจ้าที่อยู่ที่ศาล หันมาเห็นองค์เจ้าแม่กวนอิมเดินมา (ซึ่งเราคาดว่าท่านยังทรงอยู่ที่ร่างของน้ำพลอย) ก็คุกเข่าพร้อมบอกคนให้ทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นคุกเข่า คารวะ 3 ครั้ง แล้วก็มีเทพเจ้าอีกองค์ ซึ่งเราจำไม่ได้ว่าองค์ไหน ก็มาคาราวะพร้อมมอบฮู้ และหนวดมังกรให้องค์เจ้าแม่กวนอิม แล้วเจ้าแม่ทับทิมก็ทรงเดินมาข้าง ๆ ศาล มานั่งข้าง ๆ องค์เจ้าแม่กวนอิม ซึ่งต่อมาเทพเจ้าต่าง ๆ ก็เริ่มถอยออกจากร่างทรง แล้วองค์เจ้าแม่กวนอิมก็คอย ๆ ถอยออกจากร่างของน้ำพลอย ซึ่งองค์สุดท้ายที่ออกคือ เจ้าแม่ทับทิม ซึ่งตรงนี้น้ำพลอยก็เป็นลมไม่รู้สึกตัว ต้องบีบ นวด แล้วก็อุ้มขึ้นรถเพื่อพากลับบ้าน (พอขึ้นรถได้สักพัก กลับถึงบ้าน น้ำพลอยก็เป็นปกติ พูดคุยได้เหมือนเดิม)
    ณ คืนนั้น เราด้วยความเป็นแม่นอนไม่หลับเลยทั้งคืน เพราะจะมีแต่ภาพต่าง ๆ วิ่งเข้ามาในหัวตลอดเวลา พอวันรุ่งขึ้น (30 ม.ค. 52 ) เราและป๊าน้ำพลอยก็เลยถือวิสาสะบอกเถ่านั้งว่า พิธีปิดงานคืนนี้ จะไม่ขึ้นเวทีแล้วนะ ซึ่งพอน้ำพลอยตื่นมา เราก็บอกน้ำพลอยว่า วันนี้งดนะ เพราะพลอยเพลียมากแล้ว น้ำพลอยก็บอกว่า หนูไหวนะ แต่เราก็พูดต่าง ๆ นานา พลอยก็บอกว่า เอาอย่างนี้ วันนี้เดี๋ยวหนูขอไปไหว้องค์เจ้าแม่กวนอิมที่ศาลเจ้าหน้าผาก่อน แล้วหนูจะบอกม่าม๊า ม่าม๊าหนูอยากได้ดอกบัว 30 ดอกด้วย ม่าม๊าซื้อให้หนูได้ไหม เราก็บอกว่า ได้ซิลูก หนูจะเอาอะไรอีกไหม ม่าม๊าจะหาเตรียมไว้ให้
    ในระหว่างทานข้าวเช้า เราก็พูดว่า เนี่ยะพลอย ม่าม๊าหัวเข่าเป็นแผลเขียวไปหมดเลยทั้ง 2 ข้าง ตอนที่ช่วงพยุงหนูตอนเป็นลมน่ะ พอน้ำพลอยได้ฟังแล้วก็เงียบไปสักพัก แล้วก็ลุกขึ้นมาพูดว่า ม่าม๊า หนูขอกราบเท้าขอโทษม่าม๊านะ เพราะเมื่อวานหนูทำอะไรลงไปให้ม๊าบาดเจ็บนั้น หนูไม่รู้ตัวจริง ๆ เราก็รีบบอกว่า ไม่เป็นไรหรอกลูก แค่กอดม่าม๊าก็พอ เพราะแค่นี้ทุก ๆคนก็บอกว่ามาม๊ามีบุญมากเลยนะ ขอบใจมากนะลูก ต่อแต่นี้ไป ขอให้หนูเป็นเด็กดี เจอคนที่ดีและมีอนาคตที่ดี ม่าม๊าก็ดีใจแล้ว (พูดไปน้ำตาพาลจะไหลเอา) แล้วน้องของน้ำพลอย (น้องเพิร์ธ) ก็ลุกขึ้นมา บอกหนูขอกอดด้วยคนนะ แล้วน้องเพิร์ธก็เรียกให้ป่าป๊ามากอดด้วย (รวม 4 คน) ซึ่งแต่ละคนก็ตัวใหญ่มาก เลยกอดกันกลมเหมือนลูกฟุตบอลเลย หลังจากนี้ คุณแอน (แม่ของน้องเด็กผู้ชายที่นั่งหน้า) ก็โทรมาถามว่าวันนี้ไปกี่โมง เราก็บอกว่า ตัวเราไม่อยากให้ลูกไป แต่ตัวลูกขอไปไหว้องค์เจ้าแม่กวนอิมก่อน ตรงนี้ต้องขอบคุณ คุณแอนมากที่ดูแลลูกเราดีมาก คอยพูดเตือนสติเราตลอด คอยบอกว่าให้เราทำอะไรบ้าง เพราะตอนนั้นเรางงไปหมด (สังเกตได้จากวีดีโอว่าตอนที่เราประคองน้ำพลอย ตอนเป็นลม มือเราจะสั่นมาก ๆ ซึ่งเรารู้แต่บังคับมือไม่ให้สั่นไม่ได้) คุณแอนตอบกลับมาทันทีเลย หนูรับรองว่า พลอยต้องไป เพราะองค์ท่านต้องไปแน่ ๆ แล้วพลอยก็ต้องไป จะอยู่บ้านไม่ได้ พอถึงเวลาน้ำพลอยก็ไปศาลเจ้า เราก็ไปรับที่บ้าน (ตอนกลางวันเราไปทำงานที่ร้าน) เราเห็นน้ำพลอยก็ตกใจนิด ๆ ทำไมพลอยใส่ชุดขาวทั้งชุด เสื้อขาว กางเกงขาว ซึ่งพลอยไม่เคยใส่ชุดนี้ เราก็ทำนิ่ง ๆ แล้วพาน้ำพลอยไปศาลเจ้า พอถึงศาลเจ้า น้ำพลอยนำเอาแจกันของที่ศาลเจ้ามาล้าง พร้อมกับจัดดอกบัวไปบูชาองค์เจ้าแม่ และให้นำดอกไม้เก่าที่ค้างแจกันอยู่ไปลอยแม่น้ำซึ่งตรงนี้เราแปลกใจ เพราะปกติ น้ำพลอยไม่เคยทำ ซึ่งถ้าเป็นเราเอง เราก็แค่จุดธูปไหว้ ไม่เคยที่จะต้องนำแจกันมาล้าง แต่นี้ไม่รู้ว่าพลอยรู้ได้อย่างไร ว่าต้องทำอะไรอย่างไร ซึ่งตอนหลังถามน้ำพลอย น้ำพลอยก็ตอบว่า หนูแค่รู้สึกว่าอยากทำเท่านั้น ไม่มีอะไร พอไหว้เสร็จก็เป็นอย่างที่คุณแอนบอกไว้เลย เพราะน้ำพลอยบอกว่าหนูจะไป คงมีหลาย ๆ คนที่คอยหนูอยู่ ซึ่งพอเราได้ยิน เราก็รีบโทรศัพท์หาคุณยุ ช่างแต่งหน้า เพื่อนัดแต่งหน้าให้น้ำพลอย คุณยุยังบอกเลยว่า รออยู่ นึกว่าวันนี้จะไม่ไปซะอีก
    ช่วงตอนแต่งตัว เย็นวันที่ 30 ม.ค. 52 เราสังเกตว่า แขนลูกเรามีสายสิญจ์ที่แขน เราก็ถามว่า พลอย เราได้สายสิญจ์มาจากไหน พลอยก็ตอบว่า ป๊าใส่ให้ เราเองก็รู้สึกว่า ป๊าพลอยก็ห่วงพลอยไม่น้อยไปกว่าเราเลย และยังแนะนำพลอยตลอด ว่า วันนี้นะพลอย ตอนกลางคืนที่ลานบุญ หนูต้องรู้ตัวตลอดเวลา ก้าวเท้าขวารู้ ก้าวเท้าซ้ายรู้ ยกมือรู้ตัว หันซ้ายรู้ตัว หันขวารู้ตัว นับลมหายใจเข้าออกตลอด
    พอแต่งหน้าแต่งตัวเสร็จก็ไปที่ลานบุญ เราตกใจมาก เห็นคนเยอะ ทางผู้ติดตามก็ให้น้ำพลอยขึ้นไปนั่งบนเวที ขณะนี้เรายืนอยู่ข้างล่าง ผู้ติดตามน้ำพลอยก็ลงมาบอกว่า คุณแม่ พลอยให้ลงมาบอกว่า ถ้าวันนี้ อาเนี้ยลงมาที่ร่างเค้านะ ให้คุณแม่อย่าตกใจ และอย่าร้องไห้ เวลาเค้ารู้สึกตัวแล้ว เห็นม่าม๊าร้องไห้ เค้าจะรู้สึกไม่ดี และให้คุณแม่คอยสวดมนต์บทสวดเจ้าแม่กวนอิม และให้เรายกมือไหว้เจ้าแม่กวนอิม พร้อมบอกว่า อาเนี้ย วันนี้ถ้าจะลงทรง ให้ทรงลงมาเบา ๆ นะค่ะ ซึ่งเราก็ทำตาม ( สังเกตได้ว่า วันที่ 30 ม.ค. 52 ท่านลงมาแบบเมตตาจริง ๆ ทรงพรกับทุก ๆ คนที่อยู่บริเวณนั้น ) ตอนที่อยู่ด้านหลังเวที เราคอยสังเกตดูกิริยาอาการลูกเรา เรายังคุยกับเถ่านั้งที่ยืนข้าง ๆ เลยว่า ตอนนี้ดูอย่างไรก็ไม่ใช่ลูกเรา เพราะการพูด การยิ้ม การขยับตัว การหันหน้า ไม่ใช่ลูกเรา เพราะรู้สึกจะยิ้มเย็น ๆ เนิบ ๆ สักพักมีน้องเถ่านั้งอีกคนเอามือถือถ่ายวีดีโอไว้ มาให้เราดูว่าได้ช๊อตเด็ดแล้ว จึงเอามาให้เราดู จะเห็นน้ำพลอยนั่งยิ้มอยู่ด้านหลังเวที สักพักแล้วก็กระตุกนิดนึ่ง เหมือนคนจะหงายหลัง แล้วก็ลุกมานั่งตรง ๆ พอเราเห็นจากมือถือ เราก็หันไปดูน้ำพลอย ก็จะเห็นน้ำพลอยเป็นปกติ ยิ้มอย่างน้ำพลอย พูดอย่าง น้ำพลอย ทำให้เราเชื่อว่า คืนนี้ อาเนี้ยก็ลงอีกครั้งแล้ว และที่น่าแปลกอีกอย่าง หลายวันที่ผ่านมามือน้ำพลอยจะทำท่ามุทราตลอด แต่วันนี้ทำไมทำมือแปลกไป คือยกมือขึ้นพร้อมหันฝ่ามือไปด้านหน้า ตลอดเวลาจนกระทั่งทรงออกจากร่าง (ซึ่งเราก็ถามน้ำพลอยว่า วันอื่นทำท่ามุทรา แต่ทำไมวันนี้ทำท่านี้ ซึ่งน้ำพลอยก็บอกว่า หนูจะรู้ไหมเนี่ย ม่าม๊า) ปกติท่านี้น้ำพลอยก็ไม่เคยทำ พลอยจะทำอยู่ท่าเดียว คือท่ามุทรา ซึ่งวันนั้น เราไม่ค่อยได้ใกล้ชิด เพราะเรารู้สึกอยากให้คนอื่นได้ใกล้ชิดบ้าง ซึ่งตอนหลังทั้งป๊าน้ำพลอยและเรามาคุยกัน ก็ยังคิดตรงกันเลยว่าแปลกมาก ในเหตุการณ์จะมีน้องของน้ำพลอยซึ่งใกล้ชิดกว่าได้บอกกับเราว่า เวลาองค์ท่านเดินผ่านร้านขายกุ้งเผา ปลาเผา องค์ท่านก็จะหยุด แล้วร้องไห้ ซึ่งน้ำตาไหลเยอะมาก แล้วก็ทำท่าประทานพร โดยยืนมือออกไปข้างหน้า ซึ่งคนติดตามก็บอกว่า อาเนี้ย นี่เป็นอาชีพเค้า ถ้าเค้าไม่ทำก็ไม่มีอะไรกิน เมื่อท่านฟังดังนี้ ก็เดินต่อไป อ้อ ก่อนหน้านี้ท่านก็บอกให้ผู้ติดตาม ให้ไปเรียกน้องพีช (น้ององค์รององค์สมมุติ) ให้เข้ามาหา แล้วทรงประทานพรให้ น้องพีชตื้นตันใจ จนน้ำตาไหล แล้วตอนนั่งอยู่ที่หน้าศาล เรานั่งอยู่ใกล้ ๆ ก็สังเกตดูว่าท่านทรงยิ้มให้กับน้องพีช ตรงนี้น้องเพิร์ธ (น้องของน้ำพลอย) ก็ยังพูดกับเราเลยว่า ปีหน้าสงสัยพี่พีชคงได้เป็นองค์สมมุติแน่เลย ดูเหมือนว่าท่านจะส่งมอบอะไรสักอย่าง อันนี้เป็นความคิดของเด็กอายุ 12 ที่อยู่ตรงนั้น นะคะ ส่วนเรา เรานั่งคุกเข่าอยู่ ท่านก็บอกว่า “มาใกล้ ๆ แม่ซิ” แล้วก็เอามือมาแตะที่หน้าผากเรา พร้อมพูดว่า “ดีแล้ว” แล้วพูดกับอีกคน (เจ๊เจียง) ว่า “ขอให้ดูแลโรงเจให้ดีด้วย” เจ๊เจียงก็ตอบคล้าย ๆ กับว่า “ท้อแล้ว” ท่านก็ยังตอบอีกว่า “เดี๋ยวก็ดีเอง” แล้วท่านก็ลุกขึ้นมาทำปากขมุบขมิบ ทำท่าประทานพรให้กับทุก ๆ คนที่อยู่บริเวณนั้น แล้วก็นั่งลง เอนหลังหลับตาสักพัก แล้วองค์ท่านก็ออกจากร่าง วันนี้เป็นวันที่เรา รู้สึกสบายใจ โล่งใจมาก ที่ท่านลงแบบเย็น ๆ เพราะตั้งแต่เช้า จนถึงตอนก่อนจะลงมาที่ลานบุญ เราใจคอไม่ค่อยดีเลย แต่พอเสร็จพิธี เรารู้สึกอิ่มใจ สบายใจ มาก ๆ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2009
  3. ยามา

    ยามา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2005
    โพสต์:
    228
    ค่าพลัง:
    +484
    เ่อ่อ คนนครสวรรค์เหมือนกัน และอยู่ในเหตุการณ์ ทางเจ้าพ่อสามตา

    ผมได้ถามทางลูกศิษย์เจ้าพ่อสามตาเหมือนกันเค้าก็ไม่เชื่อว่าเป็นเจ้าแม่กวนอิมเพราะเหตุผล

    แบบหลายๆคนในนี้นะครับ

    ส่วนตัวเองจากที่เคยสอบถามคนทรงที่รู้จักเค้าได้บอกว่าความจริงแล้ววิญญาณของเจ้าน่ะ

    ไม่ได้เข้าร่างนะครับ แต่ท่านส่งกระแสจิตมาบังคับร่างให้พูดหรือทำท่าทางจากข้างบน

    เท่านั้น องค์เจ้าแม่กวนอิมก็น่าจะเช่นกันท่านก็ส่งเพียงพลังกระแสจิตเพียงบางเสี้ยวลงมาที่ร่างองค์สมมติ เพื่อสื่อสารกับมนุษย์ เท่านั้นไม่ได้เข้าร่างองค์สมมตินะครับ

    ถ้าเป็นผีเข้านะครับ อาการมันจะเป็นตลอดนะครับใครเคยดูเคยเห็นก็น่าจะทราบว่าอาการมันจะต่างกันกับน้องเพราะนี่ เหมือนอาการติดๆ ดับๆ ตลอดเวลา

    ส่วนเรื่องที่มีอากรับกริยาอย่างนั้นเป็นเหตุที่เพราะว่าทางเจ้าพ่อสามตาต้องการทำพิธีใหม่ให้กับมังกร เพราะปีนี้ปีชง เพราะถ้าไม่ทำ นครสวรรค์อาจจะตกอยู่ในทะเลเพลิงเพราะความเชื่อว่า มังกร ปีนี้ร้อนคือไฟนั่นเองแล้วแถมมาชงกับปีวัว ก็เลยต้องทำพิธีดับร้อนแล้วให้พ่นน้ำตลอดเวลาแทน

    ส่วนทางเจ้าม่กวนอิมนั้นท่านรักมังกรเหมือนกับลูกการที่ลูกจะต้องไปโดนใครทำอะไรนั้น เป็นพวกคุณจะยอมมั้ย เจ้าแม่กวนอิมก็ยังคงมีกิเลสนะครับ ไม่ใช่ไม่มีไปศึกษากันใหม่นะ
    ท่านสงสารมังกรที่ตชจะต้องโดนเจ้าพ่อสามตาทำอย่างนั้น คือ ตัดหนวดทิ้งแล้วเอาไปมัดลิ้นไว้นะ พอหลังจากมี่เจ้าพ่อสามตาทำพิธีเสร็จขึ้นเสาเรียบร้อยก็กลับมาองค์เจ้าแม่กวนอิมท่านก็สงบลงพร้อมกับลูบหัวมังกร แล้วก็ยิ้ม

    เรื่องที่พูดจีนนะผมไม่ทราบว่าน้องเค้าพูดได้บ้างหรือไม่ ไม่ทราบ แต่ตอนที่ไปที่ศาลเจ้าตลาดได้ยินท่านพูดภาาจีบครับ ยืนยันแน่นอนเพราะอยู่ ตรงนั้น

    ส่วนเรื่องใครเชื่อไม่เชื่อแต่ผมเชื่อ แต่ผมไม่เชื่อคนที่โม้ว่าดูคลิปแล้วรู้ว่าเป็นใคร ผมไม่เชื่อ
    เท่านั้นเพราะไม่ได้เห็นกับหูรู้กับตา

    ผมเชื่อในสิ่งที่ผมเห็นเท่านั้น
     
  4. กระต่ายtai

    กระต่ายtai Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +67
    น้องที่เป็นองค์สมมุติไม่ได้แกล้ง แต่องค์ใดสื่อนั้นไม่ทราบหรอกค่ะ แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช่พระโพธิสัตว์กวนอิมค่ะ
     
  5. Tharika

    Tharika สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +4
    เห็นด้วยค่ะ
     
  6. kwamawauyo

    kwamawauyo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    499
    ค่าพลัง:
    +64
    อยากดูค่ะแต่เปิดไม่ออก
     
  7. creammyza

    creammyza Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +29
    ตามความเข้าใจของเราเองน่ะค่ะ

    ดิฉันว่าท่านคือองค์ท่านจริงๆค่ะ แต่ที่ท่านแสดงอาการโกรธ
    ก็เหมือนกับท่านกำลังจะดุมังกร ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของท่าน
    การที่ท่านจะดุมังกร หรือเรียกมังกรคืนนั้น ก็เปรียบเสมือนการโปรด
    สัตว์อย่างหนึ่ง ท่านดุมังกรหรือเรียกมังกรกลับเพื่ออะไร
    ท่านคงกลัวมังกร จะไปดื้อหรือซน วิ่งเข้าบ้านเรือนประชาชน
    เพราะอย่างที่ทราบว่าปีนี้คือปีชง ท่านมาเพื่อเตือน เตือนและ
    ขอมังกรคืน เตือนไม่ให้ลูกหลานทำผิดประเพณี เตือนเพื่อ
    ความอยู่เย็นเป็นสุขของลูกหลาน ท่านทรงเป็นห่วงมวลมนุษ
    ท่านไม่ได้มาโกรธกริ้วแบบไร้สาระ แต่ดิฉันว่าท่านมาเพื่อช่วยเหลือ
    ต่างหาก ลองคิดดูว่าท่าท่านไม่ทรงมาเรียกมังกรคืน แล้วมังกรยังดัน
    วิ่งเข้าบ้านนุ้นบ้านนี้ ไม่นึกถึงประเพณี บ้านเมืองเราจะเป็นยังงัย
    เคยสังเกตบ้างไหมค่ะ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มีไฟไหม้เกิดขึ้นกี่ครั้งแล้ว
    ซานติก้า ผับที่จีน ตึกที่จีน ไฟป่าออสเตเรีย โลกร้อน ดีที่ท่านมาเตือนลูกหลาน
    ชาวปากน้ำโพค่ะ ท่านมาเพื่อช่วยลูกหลานนะค่ะ ท่านไม่ได้มาแบบไร้เหตุผล
     
  8. กึกก้อง

    กึกก้อง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2009
    โพสต์:
    609
    ค่าพลัง:
    +3,478
    อ่านมาตั้งนาน เพิ่งเห็นด้วยกับคุณcremmyzaนี่แหละ ไม่มีเหตุผลที่น้องเขาจะแกล้งทำ หรือเทพท่านจะ
    แสดงอย่างไรก็เป็นเหตุผลของท่าน อย่ามองในเชิงลบโดยไม่รู้สาเหตุ
     
  9. กุญแจไขปริศนา

    กุญแจไขปริศนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2009
    โพสต์:
    903
    ค่าพลัง:
    +979
    แต่โจ๊กที่นครสวรรค์อร่อยจริงๆนะขอคอนเฟิร์มในฐานะคนจังหวัดนั้น อิๆ
     
  10. ยามา

    ยามา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2005
    โพสต์:
    228
    ค่าพลัง:
    +484
    ใครอยากได้ซีดีบันทึกภาพแล้วเป็นสมาชิก kctv ไปรับได้ที่ บ. เอาใบเสร็จไปยืนยันด้วยนะครับอันนี้ฟรี เฉพาะภาพเหตุการณ์อย่างเดียวนะครับ

    แต่ถ้าใครอยากจะทำบุญ ก็ไปซื้อที่ศาลเจ้าวันนี้เลยครับเพราะแฟนเพิ่มไปงานที่งานเลี้ยงที่ศาลเจ้ามาเลยซื้อมาให้ครับ ที่ศาลเจ้าจะขายซีดีละครแต่แถมภาพเหตุการณ์ให้นะครับ สองแผ่น 100 บาท คิดว่าทำบุญให้เจ้าพ่อเจ้าแม่หน้าผานะครับ
     
  11. มังกรนครสวรรค์

    มังกรนครสวรรค์ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +0
    ก็ใช้วิจารณญาณกันเอานะขอรับ เรื่องความเชื่อความศรัทธาบังคับหรือห้ามกันไม่ได้
     
  12. littleweb_cs

    littleweb_cs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    567
    ค่าพลัง:
    +1,241
    พระจานแม่กวนอิม ไม่ประทับองค์

    ที่เห็นเข้าทรงกัน น่าจะเปนเทพ องค์อื่นมากก่า

    แต่ใช้ชื่อพระกวนอิม เพราะต้องการให้คนนับถือ

    ถ้าใช้ชื่ออื่น คนก้ไม่รู้จัก ไม่ศรัทธา.............
     
  13. กรรมเหนือกรรม

    กรรมเหนือกรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2009
    โพสต์:
    123
    ค่าพลัง:
    +60
    ไม่มีความเห็นว่าจริงหรือไม่จริงนะคะ แต่อยากจะบอกว่า น้องเค้าสวย และดูบริสุทธิ์มากๆ
    ตอนดูคลิปแล้วรู้สึกขนลุก และรู้สึกเย็นวาบ ไปทั่วใบหน้าเลยค่ะ
     
  14. x1000

    x1000 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    พระแม่

    ผมเป็นคนหนนึ่งซึ่งศึกษา ของพระแม่ เหมือนกันคับ อันนี้เป็นความรู้เรียนแต่ละคนนะคับ พระแม่จริง ๆๆ นะ ก้คือพระนั้นละคับ แต่เป็นอีกชาติหนึ่งของพระโพธิสัตว์ คงจะเข้าใจความหมายของคำว่า (พระ) ไม่ละคับ พระแม่กวนอิม ใครที่ปฏิบัติ ก้ว่าตัวเองนะมีแม่กวนอิน แต่จริงๆๆแล้ว เป็นแค่นิสัย อยากทำควมดี แค่นั้นละคับ ตัวจริงๆๆของพระแม่กวนอิน คือบวช อยู่ในศีษ ปฏิบัติ และไม่ยุ่งเกี่ยวกับทางโลก และที่สำคัญ ถ้าไม่ใช่ลูกหลายท่านๆๆๆท่านจะไม่สอนนะคับ เรื่องของน้อง นั้นนะผมดูพานอกนั้นก้คงใช่ แต่ภายในนั้นสิ ไม่ใช่
    (อันนี้เป็นความรู้สึกนะคับ) คงจะเข้าใจคำว่ารางทรงกันดีนะคับ คือเข้าไม่ปล่อย ส่าวพระแม่กวนอินนั้นเป็นพระที่กล้าหารมาก ๆๆๆๆ มีพลัง ใครที่ไปปฏิบัตจะรู้ว่าแม่กวนอิม เป็นอย่างไง ง่ายๆๆ สบายๆๆ ก้เหมือนคนที่ตอบว่า ปากร้ายแต่ใจดีมากคับ มีสติ ปัญญา สมาธิ และที่สำคัญคือศีษ
    เดียวเอาใว้คุยต่อคับ (จากหนุ่มน้อย)
     
  15. Dookbuabarn

    Dookbuabarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +225
    เป็นเรื่องของสภาวะจิตในขณะนั้น ที่ถูกปรุงแต่ง โดยขันธ์ 5

    โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม

    (ดูจากคลิปวีดีโอที่แนบมาให้ดู โดย คุณ TEERACHAI เมื่อ 03/02/2009)
     
  16. sakichan02

    sakichan02 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2009
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +328

    เห็นด้วย
     
  17. sakichan02

    sakichan02 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2009
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +328

    เป็นกิเลสจ๊ะ แต่ไม่ใช่กิเลสไม่ดี เป็นกิเลสดี
     
  18. catwoman121

    catwoman121 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +87


    นำโมไต๋ซือ กวนสีอิมผู่สัก
     
  19. หลานกวนอิม

    หลานกวนอิม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +42
    อาม่าไม่ได้มาประทับแต่เป็นองค์อื่นที่มาประทับแทนแล้วอ้างนามของอาม่า
    เพราะถ้าอาม่ามาประทับต้องมีกระดาษทอง(หงิ่งเตี่ย)รองพื้นและมีหน้าตาที่สดใส แต่นี้มีหน้าตาโกรธอารมณ์ไม่ดี อาการอย่างนี้ไม่ใช่อาม่าแน่นอน
    พระโพธิสัตว์เป็นผู้ตื่น พ้นจากกิเลส พ้นจากการเวียนว้ายตายเกิด
    南 無 大 悲 觀 世 音 菩 薩
    ข้าพเจ้าขอนอบน้อมต่อพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. benjamina

    benjamina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    234
    ค่าพลัง:
    +290
    พระแม่กวนอิม ท่านเป็นพระโบราณ ท่านพร้อมที่จะเข้าแดนพุทธเกษตร ได้ทุกเมื่อ พร้อมนานแล้ว แต่ด้วยพระมหากรุณา เมตตาธิคุณต่อสัตว์โลก ทรงปวารณาตน ตราบใดโลกมนุษย์ยังไม่ไมสิ้นเสียงแห่งทุกข์ท่านจะไม่ยอมตรัสรู้ เข้าแดนพุทธเกษตร
    เพราะฉะนั้นพูดได้ว่าถึงจะไม่ใช่พระพุทธเจ้า ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงเต็มที
    ส่วนที่ดูจากคลิป ถ้าพวกเราๆท่านๆ จะคิดให้ใจเป็นสุข ก็คิดซะว่า ท่านมาโปรดจริง แต่ใช้ปางอื่นๆ มาโปรด เพราะสุข ทุกข์อยู่ที่ใจเรา บับคั้น เค้นหา ความเท็จจริง ทั้งๆ ที่ไม่สามารถมีใครบอกได้ หรือ มีคนมาบอกได้แต่บางคนบางกลุ่มยังเชื่อตามที่ใจตนเชื่อ ก็รังแต่จะทะเลาะกันเปล่าๆ ครับ

    (ความรู้ผมก็แค่หางอึ่ง พูดเท่าที่เคยอ่านจากตำหรับตำรา หาได้เป็นพหูสูตรจากไหน )
     

แชร์หน้านี้

Loading...