อยากบรรลุธรรมเข้ามา

หลวงปู่ศรี มหาวีโร ครับ ท่านอื่นก็กล่าวครับ อย่างหลวงปู่แบน กระทั้งไม่ใช่พระป่าก็กล่าวครับ เพราะเอโกมรรโค คือทางสายเดียว อย่างท่านจิตโต ก็กล่าวไว้ คุณลองฟังธรรมครูบาอาจารย์ ลองอ่านพระวัจนะ แล้วกลับมาดูตัวว่าเราถึงไหน ได้สะเก็ดของท่านแล้วยัง แล้วค่อยคุยกันใหม่
พีเอ็ม มาหาผมหน่อย เดี๋ยวส่งเลขที่บัญชีปัย

 

ส่งไปแล้วทาง pm นะครับ จะรอรับเงินนะครับ

เอ้า นั่น เอาเข้าไป มีการเกี่ยงอีกนะ ว่าจะเอาขันธ์ตัวนี้ ไม่เอาขันธ์ตัวนี้...
มันเลือกได้เหรอ ว่าจะให้ขันธ์ตัวไหนทำงาน แล้วจะให้สังขารขันธ์มันหมดได้ยังไงหละ? เลือกให้ขันธ์ดับแค่ตัวเดียว แต่อีกสี่ตัวยังอยู่ได้ด้วยเหรอ?

 

..เขาก็แค่..มาให้เราพิสูจน์ ฉ้อฉลตรงไหน..แค่แลกเปลี่ยนความเห็นและหาข้อเท็จจริง..เล่าปัง อย่าเยอะ อย่าเยอะ ขอร้อง อิอิ:boo:

 

เล่าปัง..ออกความเห็นให้ตรงๆชัดเจน..อย่าเล่นสำนวนโวหารและยกความเห็นให้ตรงกับที่ท่านnew..เขาตอบ-ถาม ด้วย อย่าเยอะ อย่าเยอะ อิอิ:boo:

 

ทุกตัวก็ทำหน้าที่ของเขาไป แต่สังขารขันต์นั้นทำหน้าที่ปรุง ทั้งดีและชั่วตามเหตุปัจัย เราอยากบรรลุตอนนี้ทำได้มั้ยล่ะก็ทำไม่ได้ ก็ต้องปล่อยให้สังขารขันต์ทำหน้ามที่ไม่ใช่เหรอ
จะให้โอนตังให้ยังไม่บอกชื่ออีก ผมส่งไปแล้วน่ะรอรับได้เลย

 

ผมไม่ได้ให้ใครมาพิสูจน์ผมนะ ผมแค่มาสร้่วความมั่นใจให้กับท่านใดที่เดินบนทางธรรมให้มีศรัทธามั่นคงได้เลยในธรรมที่พระองค์ทรงแสดง และอานาปานสตินั้นสามารถพาพวกเราถึงที่หมายได้แน่นอน

 

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ ได้รับเรียบร้อยแล้วครับ ภายในเที่ยงคืนวันพรุ่งนี้จะ post หลักฐานให้ว่าเอาไปใช้จ่ายอะไร

สังขารขันธ์นั่น จะดี จะชั่ว ก็ปล่อยมันทำหน้าที่ไปเถอะ
มันไม่ใช่เราที่ปรุงแต่งนะ มันคือสิ่งที่เราสะสมมาหลายอสงไขยต่างหาก ที่เป็นตัวปรุงแต่ง กระบวนการปรุงแต่งนั่น ไม่ใช่เรา เราไม่ได้ปรุงแต่ง

 

ถูกต้องแล้วมันจะใช่เราได้อย่างไร ไม่มีเราไม่มีใครทั้งนั้น

 

..สายไปแล้วครับ..คุณโชว์ความสำเร็จ คุณต้องพร้อมให้เขาพิสูจน์..ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นลวงโลกครับ

 

จะพิสูจน์ทำไมต่อให้ข้าพเจ้าเป็นถึงอรหันต์ก็จะมีประโยชน์อะไร ถ้าไม่ทำตามที่ผมกล่าวไว้ อย่างไรผมก็กล่าวธรรมได้แค่นั้น นั่งลงหลับตามีความรู้สึกตัวสติอยู่กับลมหายใจ ออกและเข้า นั่งให้ถึงที่สุด ธรรมทั้งหลายก็จะปรากฎ สัพเพธรรมาอนัตตา

 

ก็เพราะมันไม่ใช่เรานี่แหละ ถึงต้องมีสติ เห็นให้เห็นถึงตัวที่ว่า ทำไม เรายังดึงดันจะแสดงธรรมในแบบของเราอยู่ ทั้งๆ ที่โลกเขาค้านเรา มันมีอะไรซ่อนอยู่อีกไหม ที่เรายังไม่เห็น?

 

สติก็ไม่ใช่เราเราก็สร้างสติไม่ได้ ถ้าเราสร้างได้จริงมันจบไปนานแล้ว สัพเพธรรมาอนัตตา

 

ไม่ได้พูดเรื่องสร้างสติเลย พูดถึงการไม่มีสติพอเห็นสภาวะที่มันแอบซ่อนทำให้เกิดการกระทำทางกายลงไป

จิตตัวที่ปรุงแต่ให้มันออกนอกเรื่องไป สติเห็นไม่ทันหรือ?

 

อ่านเเล้วก็เห็นเหมือน เป็นผู้รู้ธรรม. เป็นผู้เคารพธรรม มีธรรมเป็นที่พึ้ง เเต่ทำไมถึงมาเรียกร้อง ข่มขู่ ไถเงินจากผู้ที่ปฏิบัติธรรม เเล้วธรรมต่างๆที่ตัวเองยืนยัน อย่างเเข็งกล้าวกระเปรี้ยมกระพื้อ. เค้าจะรู้ได้ไงว่าจะทำให้เค้่าพ้นทุกข์ได้. เพราะตนเองก็ยังประพฤติขัดกับหลักที่สอนคนอื่น เเละเค้าจะน้อมมาใสตัวทำไม เเต่สักว่าขอเถอะวันนี้ขอเกิดวัน1. เพื่ออะไรหล่ะ. ก็มิทราบ ก็มีอยู่เเค่นี้. ไม่เกิน20คน คนก็ไม่ได้เยอะอะไร เค้าก็ไม่ได้ทำอะไรให้. กลับการเป็นที่ฉอฉลเเห่งความทุกข์ เพราะ ชาวบ้านที่เค้าบริโภคกามเค้่าไม่ว่างอย่างนี้. ตนเองก็รู้ทุกข์. เเต่วิตกที่จะเบียดเบียนนั้นเพิ่มขึ้น กลายเป็นทีี่ ที่สั่งสมอัตตา เเละ บาปที่เกิดจากวิหิงสาวิตก พยาบาทวิตก กามวิตก ยิ่งกว่าปุถุชนที่เค้ากำลังเสพกามสุขอยู่สะอีก

 

ผมปฎิบัติต่างกับท่านครับ ตราบใดเรายังสติไม่สมบูรณโดยตัวมันเองไม่ต้องไปตามรู้อะไรหรอกครับไม่มีใครทำได้นอกจากอรหันต์ที่สติสมบูรณ์ การประจักษ์การเกิดดับที่แท้จริงที่สติจะระลึกได้นั้นมันอยู่ในขั้นการปฎิบัติในขณะที่จิตหลุดพ้นจากกายให้ความว่างเปล่าที่แท้จริงนั้นสติเข้าระลึกปัญญาที่ประจักษ์ความจริงในขณะนั้นต่างหากจะเป็นมหาสติมีกำลังปัญญาทำลายกิเลสได้จริงครับ ส่วนตามระลึกเรื่องราวความคิดอาการต่างๆนั้นเป็นการตัดช่วงกิเลสได้เล็กน้อย ก็ถือว่าดีครับ

 

เอ้า ยังพูดเรื่องปัญญา ทำลายกิเลสอยู่อีก...

กิเลสมันมีตัวตนหรือเปล่า หน้าตาเป็นยังไง บอกหน่อยสิ?

 

ก็ความไม่รู้นั้นแหล่ะคือรากเหง้าของกิเลส “ดวงตาคือปัญญา”เด่น”มองเห็นธรรม” เพื่อน้อมนำ”กำหนดรู้”อยู่ทุกสิ่ง ตลอดถึง”ความรู้แจ้ง”แห่งความจริง“เห็นจิตนิ่งสว่างไสวอยู่ในธรรม-ไม่เคยรู้”ให้เกิดได้ใน”ปัญญา” ว่า”ตัณหาคือความอยาก”หากถลำ เป็นเหตุ”ทำทุกข์เกิด”แน่”แท้คือธรรม”“เราละนำขาดจากใจ”ได้แล้วจริง!!!

 

กั๊กๆ

ว่ากันเป็น กลอนแสงทิพย์มาเชียว

ขอโทษนะ ในต้นฉบับที่คุณไป ก๊อปปี้มา แล้ว เลือกเฉพาะส่วนแต่งขึ้นใหม่

แต่ ตรงส่วนที่เป็น บาลี โยนเข้าป่าไปโน้น

ตรงส่วน บาลี อ่านกีที ก็ไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับ คำแปล อีกด้านเลยอะฮับ

*******

โดยเฉพาะคำที่ว่า " เห็นจิตนิ่งไสวอยู่ในธรรม " ตรงนี้อะนะ ก็นะ รู้ๆกันว่า
เป็นคำแปลเฉพาะ สำนัก นั้นๆ เขาต้องการสอดใส่เอาไว้

เออ....จริงสิ ใจ แสงสว่างนิ่งไสวแผ่ออกเรื่อยเจื้อย ตรงนี้ อะเป่า ที่คุณยก
ว่าเป็น กริยาของนิมิต หรือ กริยาของทาน อะไรนั่น

 

เห็นไพเราะดี ท่านผู้มีจิตปรุงแต่งว่าเล่าปัง ท่านกล้าตำหนิสำนักเขา มีภูมิก็แสดงออกมาได้นะ ส่วนผมจะคอยฟัง

 

เส้นทางการดำเนินชีวิตบนเส้นทางแห่งมรรคนั้น จำเป็นต้องมี ทาน ศิล ภาวนา ผู้ที่ขาด3อย่างนี้ มิจฉามรรคแน่นอน


อนาถบิณฑิกเศรษฐี ท่านทำทานเป็นประจำ อยู่มาวิบากกรรมเกิดแก่ท่าน ท่านได้หมดตัว ทรัพย์สินเงินทองต้องมีอันต้องหมดไป แต่ท่านไม่เคยว่างเว้นในการทำทานเลย แม้ท่านจะไม่มีแก้วแหวนเงินทอง ท่านก็ไปวัดทุกครั้งก็จะนำดินปุ๋ยติดมือไปทุกครั้งเพื่อไปใส่ต้นไม้ และท่านก็กลับมาร่ำรวยอีกครั้ง