เรื่องเด่น อยากเป็นสุขสบายในทุกเวลา ให้แผ่เมตตาและละบาปกรรม คือรักษาศีลให้ดีที่สุด

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย บ้องแบ้ว, 20 กุมภาพันธ์ 2017.

  1. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    FB_IMG_1487591925016.jpg

    อยากเป็นสุขสบายในทุกเวลา ให้แผ่เมตตาและละบาปกรรม คือรักษาศีลให้ดีที่สุด

    "ผู้ละกิเลสละบาปกรรมได้แล้ว ย่อมนอนหลับสบายทุกเมื่อ"

    พุทธวจนะนี้กล่าวแด่สุทัตตะ หรือ อนาถบิณฑิกเศรษฐีในคราวที่พระพุทธองค์ได้พบกับสุทัตตะเป็นครั้งแรก

    แต่เดิมสุทัตตะก็ดำรงชีวิตอยู่ในกรุงสาวัตถี โดยมิได้ทราบข่าวเกี่ยวกับการเกิดขึ้นแห่งพระพุทธศาสนาเลย จวบจนวันหนึ่งท่านได้นำสินค้ามาขายยังเมืองราชคฤห์ และได้เข้าพักในบ้านของราชคหกเศรษฐีตามปกติ

    แต่ในวันนั้น เป็นวันที่ราชคหกเศรษฐี ได้กราบทูล อาราธนาพระบรมศาสดาพร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์เป็นจำนวนมากมายและฉันภัตตาหารที่เรือนของตนในวันรุ่งขึ้น

    ราชคหกเศรษฐี มัวยุ่งอยู่กับการสั่งงานแก่ข้าทาสบริวาร จึงไม่มีเวลามาปฏิสันถาร ต้อนรับท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีเหมือนเช่นเคย เพียงแต่ได้ทักทายปราศัยเล็กน้อยเท่านั้นแล้วก็สั่งงานต่อไปแม้ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ก็เกิดความสงสัยขึ้นเช่นกัน จึงคิดอยู่ในใจว่า

    “ราชคหกเศรษฐี คงจะมีงานบูชาใหญ่ หรือไม่ก็คงจะกราบทูลเชิญพระเจ้าพิมพิสารเสด็จมายังเรือนของตนในวันพรุ่งนี้เป็นแน่แท้”

    เมื่อการสั่งงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ราชคหกเศรษฐี จึงได้มีเวลามาต้อนรับพูดคุยกับ อนาถบิณฑิกเศรษฐี และท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีก็ได้ไต่ถามข้อข้องใจสงสัยนั้น ซึ่งได้รับคำ ตอบว่าที่มัวยุ่งอยู่กับการสั่งงานนั้นก็เพราะได้กราบทูลอาราธนา "พระพุทธเจ้า" พร้อมด้วยพระ ภิกษุสงฆ์ มาเสวยและฉันภัตตาหารที่เรือนของตนในวันพรุ่งนี้

    อนาถบิณฑิกเศรษฐี พอได้ฟังคำว่า “พระพุทธเจ้า” เท่านั้นเอง ก็รู้สึกแปลกประหลาดใจ จึงย้อนถามถึงสามครั้งเพื่อให้แน่ใจ เพราะคำว่า “พระพุทธเจ้า” นี้เป็นการยากยิ่งนักที่จะได้ยินในโลกนี้

    เมื่อราชคหกเศรษฐีกล่าวยืนยันว่า “ขณะนี้ พระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ เกิดขึ้นแล้วในโลก” จึงเกิดปีติและศรัทธาเลื่อมใสอย่างแรงกล้า ปรารถนาจะไปเข้าเฝ้า พระพุทธองค์ในทันที่นั้น แต่ราชคหกเศรษฐียับยั้งไว้ว่ามิใช่เวลาแห่งการเข้าเฝ้า

    คืนนั้นสุทัตตะนอนไม่หลับเพราะตื่นเต้นมาก จึงเดินตรงไปยังป่าสีตวัน ในที่สุดก็ได้พบกับพระพุทธองค์

    "พระพุทธองค์ทรงสุขสำราญดีหรือพระเจ้าข้า บรรทมดีหรือไม่"
    "ดูก่อน สุทัตตะ ผู้สละกิเลส ละบาปกรรมได้แล้ว ย่อมนอนหลับสุขสบายทุกเมื่อ ผู้ไม่ยึดติดในความรัก เป็นผู้เยือกเย็นไม่มีกิเลสแล้ว ย่อมนอนหลับสบายทุกเมื่อ ผู้ตัดความผูกพันทั้งปวง ขจัดความเร่าร้อนทุรนทุรายในใจได้แล้ว ย่อมนอนหลับสบายทุกเมื่อ"

    จากนั้นทรงแสดงอนุปุพพิกถาและอริยสัจ 4 จนสุทัตตะได้เข้าถึงกระแสพระนิพพาน เป็นอริยบุคคลชั้นโสดาบันต่อไป

    สุทัตตะผู้นี้เองที่ได้บริจาคเงินจำนวนมากเพื่อสร้างวัดพระเชตวันมหาวิหารถวายในพระพุทธศาสนา และเป็นที่ที่พระพุทธองค์ประทับอยู่นานที่สุดคือ 19 พรรษา

    ผู้มีเมตตาให้ทานรักษาศีล เจริญภาวนา ชีวิตเมื่อตื่นก็เป็นสุข เมื่อนอนก็เป็นสุขทุกเมื่อ
    #พุทธวจนะ

    ******
    ธ.ธรรมรักษ์
     

แชร์หน้านี้

Loading...