อยากได้ครู พระอริย หรือ พระอาจารย์ที่มีเมตตา ปัญญา สอนทางนิพพานใครพอจะทราบข่าวคราวบ้างครับ ว่าท่านเหล่านั้นอยู่ที่ไหนบ้าง
ผมเชื่อว่าทุกๆคนก็อยากไปนิพพานกัน ใช่ไหมครับ
ขอบคุณครั้งที่1 วันที่ 10-11-53
-ขอบคุณทุกคนที่ออกความคิดเห็นนะครับแต่ผมบอกก่อนว่า ผมต้องการปฎิบัติ กรรมฐานหรือทุกอย่างที่พระท่าน กระทำความพร้อมให้ถึงที่สุด จึงต้องหาครู ไม่ได้ต้องการสร้างกระแส และอยากหาเพื่อนร่วมปฏิบัติด้วย ขอให้ทุกท่าน ช่วยเมตตาบอกผมหน่อยเถอะ ว่าท่านเหล่านั้นอยู่ที่ไหนบ้าง ความจริงแล้วอยาก ธุดงค์ ไม่รู้ว่าจะอยากหรือง่ายขนาดไหน แต่ถ้าลำบากเพื่อหาทางพ้นทุกได้ก็นับว่าไม่เสียชาติเกิดจริงไหมครับ เพราะว่าทั้ง 3 โลก อันมีโลก นรก สวรรค์ นั้นยกย่อง เชิดชูและสรรเสริญนักธุดงค์ ใครมีเหตุผลอะไรก็ PM มานะครับ มาแลกความคิดเห็นกัน
อยากได้ครู พระอริย หรือ อาจารย์ที่มีเมตตา ปัญญา สอนทางนิพพาน
ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย ronaldoao, 9 พฤศจิกายน 2010.
-
รู้แล้วหรือว่า นิพพานคืออะไร นิพพานไม่ใช่อะไร นิพพานแท้จริงก็คือความว่าง คุณแน่ใจหรือว่า คุณจะไม่ต้องไม่ตั้งกับสิ่งรอบตัวและในตัวคุณได้ ถ้าคุณตั้งใจจริง ขอให้คุณไปหา หลวงพ่อโพธิ์ศรี สุริยะเขมรโต ท่านจะเปิดทางสัจธรรมให้คุณเอง เข้าเวป rombodhidharma.net ซิ นิพพานที่แท้คือการคลายออกจากตัวเอง โดยไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องปฏิบัติ ไม่ต้องเข้ากรรมฐานหรืออะไร เพราะนิพพานไม่ใช่อะไร ถ้าอยู่กรุงเทพฯ หลวงพ่อจะเดินทางไปจีน ไปกราบท่านได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ไปขอขมากรรมต่อองค์ท่านซะ แล้วคุณจะโปร่งเอง โล่งเอง ดิฉันพาลูกอายุ 12 ปี ไปบวชเณรตอนปิดเทอมที่วัดหลวงพ่อเมื่อเดือนเมษาที่ผ่านมา ตอนแรกลูกไม่อยากบวชนานเพราะที่นั่นไม่มีไฟฟ้าใช้ อยู่แบบธรรมชาติ แต่ปรากฎว่า เค้าอยู่ได้เกือบ15วัน กลับมาบ้านแล้วหลายวันถึงเล่าให้ฟังว่า นอนเล่นๆ อยู่ รู้สึกว่ามันว่างๆ สบายๆ เอง ไม่ทุกข์ไม่สุข อากาศร้อนก็เฉยๆ ไม่ต้องไม่ตั้งกับอะไร ก็เลยอยู่ได้ แสดงให้เห็นว่า เด็กไม่ต้องปฏิบัติอะไร แค่ฟังธรรมกับหลวงพ่อแล้วเค้าก็ดับของเค้าเอง จิตเค้าปล่อยของเค้าเอง ถ้าคุณไม่บุญวาสนา คุณคงได้เจอกับหลวงพ่อ ลองเข้าไปศึกษาในเวปดู
-
สติปัฏฐานสี่ คือ ทางสายเอกสู่พระนิพพานที่พระพุทธเจ้าท่านแนะเอาไว้
ไม่ต้องแก้จริต ฝึกได้ทุกคน
ที่เหลือ ท่าน จขกท เดินหาต่อเอง แล้วกันครับ -
เื่มื่อคืนนี้ฝันแปลก ฝันว่ามีเสียงบอกว่าก่อนจะไปปฏิบัติธรรม ควรฝึกจิตตัวเองให้ดีก่อนค่อยไป
-
สาธุ สาธุ ขอโมทนา
ด้วยเดชแห่งบุญบารมี ที่ข้าพเจ้าได้สั่งสมมา ทุกภพทุกชาติ ขออุทิศบุญ
บารมีนี้ให้กับ ทุกดวงจิต ดวงวิญญาณ มนุษย์ อมนุษย์ ทั้งหลาย ไม่มีสิ้นสุด
ไม่มีประมาณ เจ้ากรรม นายเวร ทุกภพทุกชาติ จงมีส่วนร่วมในบุญบารมีนี้
ไม่ติด ไม่ขัด ไม่ข้อง ไม่คา ลุล่วงพ้นทุกข์ ตามองค์พุทธ พระอรหันต์ และ
ขอ-อโหสิกรรม-ซึ่งกันและกันด้วยเทอญ.....สาธุ.. สาธุ.. สาธุ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --> -
คุณแค่มองดู โลก นี้หั้ยเป็นของว่าง มันพูดง่ายนะ แต่ทำยากมากๆๆๆ (ว่าง จากความ อยาก) แค่คุณอยากไปนิพพาน จิต ก้อไม่ว่างแล้ว
-
-
อยากทำได้บ้างจังค่ะ เคยอ่านผ่านตามาบ้างว่า ถ้าคนไม่มีบุญพอก็จะ ทำไม่ได้ และ เจริญกรรมฐานไม่ได้ใช่ไหมคะ -
...ลองฝึกใจสื่อกับเหล่าเทพ พรหมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่คุณนับถือดูซิคับ..
เมื่อติดต่อและสื่อถึงท่านเหล่านั้นได้ก็บูชาเป็นอาจารย์ทางธรรม
ท่านมีปัญญาเหนือมนุษย์ทั้งหลาย อีกทั้งสามารถชี้ทางสว่าง
ไปสู่ธรรมขั้นที่สูงส่งได้อีกด้วย
โมทนาธรรม..
(เทพสำราญ อินทรปัญญาสกุล) -
หนูฟัง"หนทางสายพระนิพพาน14บท" ของหลวงพ่อฤษีลิงดำ ดีมากเลยนะคะ ลองหาฟังดูจะเข้าใจ คำว่านิพพานมากขึ้นคะ
-
ครูบาอาจารย์นั้น ท่านก็มีเพียงแต่ชี้แนะหนทางให้เท่านั้น..ครูบาอาจารย์ที่แท้จริงอยู่ในตัวคนทุกคน นั่นก็คือกายและจิตของเรา..แสวงหาภายนอก อาจไม่พบ แต่แสวงหาภายใน นั้นพบแน่นอน...ทางนิพพาน
ตามธรรมดาแล้ว ผู้ที่มุ่งเดินทางธรรม มักมีครูบาอาจารย์ที่มีวาสนาต่อกันเข้ามาเป็นผู้ชี้แนะให้ โดยการจัดสรรของธรรมและกรรม ซึ่งจะพบได้เองเมื่อถึงวาระและเวลา อย่างโชคชะตาพาไป มิใช่มุ่งหวังหรือเจตนา เพราะฉะนั้น จึงบอกมิได้ว่า คุณควรไปพบท่านใด แต่ครูบาอาจารย์ทั้งที่เป็นฆราวาสและพระอริยะนั้น ท่านทรงคุณความดีในตัวอยู่ทุกๆ พระองค์และทุกท่านแล้วค่ะ
สำหรับทางสู่พระนิพพาน..เอาแบบสั้นและย่นย่อที่สุด ตามที่เราเคยได้รับการสั่งสอนจากครูบาอาจารย์มาก็คือ....ให้แยกอารมณ์รัก โลภ โกรธ หลงทั้งหลาย ออกจากจิตให้ได้ ด้วยความรู้ว่า อารมณ์ก็ส่วนอารมณ์ จิตก็ส่วนจิต ทุกวันนี้ เราคิดว่าอารมณ์เป็นของจิตเสมอ แล้วก็ปล่อยให้อารมณ์พาเราไปในการกระทำทุกอย่าง..วันใดที่เราวางอารมณ์ทั้งหลายเป็น ละเอียดขึ้นและละเอียดขึ้นเรื่อยๆ จนถึงที่สุด วันนั้น ทางนิพพานจะปรากฏแก่เราได้ค่ะ
ขอโมทนา -
จากประสบการณ์ตนเองและคนรอบตัว ควรทำตามขั้นตอนนี้
1.ทำทาน จนบารมีเต็ม ให้หมั่นไปที่ไหนก็ได้ตามศรัทธา สังฆทาน กฐิน ผ้าป่า ไปร่วมบ่อยๆ จะเป็นฐานบุญรองรับเรา และจิตจะค่อยๆ โน้มเอียงใฝ่ธรรมมากขึ้นและจะเกิดมีจาคะจริตมากขึ้น แต่อย่าไปติดในวัตถุมากเกินไป คือไม่เมาบุญนั่นเอง
2.รักษาให้ศีลเคร่งครัด
3.ปฏิบัติภาวนา ค่อยเริ่มตามลำดับ
อธิษฐานจิตให้ได้พบครูบาอาจารย์ที่เคยเกื้อหนุนกันมา ไม่นานก็จะได้พบ
ควรฝึกจากง่ายไปหายาก จากหยาบๆ เข้าสู่ละเอียด ประณีต สุขุมมากขึ้นๆๆ
ได้แก่ การตามดู กาย ,ลมหายใจ,อิริยาบท
ดู จิตที่วิ่งไป
ตาม ดูผู้รู้
เฝ้าดูธรรมารมณ์
สลัดทิ้งตัวตน ทิ้งทุกอย่างแม้นิพพานก็อย่าได้ไปยึดถือว่าเป็นของเรา
หากข้ามขั้นตอน ต้องมีของเก่ามามากๆๆ คือบำเพ็ญบารมีจนเต็มแล้ว
หากยังไม่มีบารมีพอฐานจะไม่มั่นคง ง่อนแง่น
การฝึกปฏิบัติจะยากและจิตจะท้อไปเสียก่อน
-
ตถาคตแปลว่าผู้บอก สาวกคือผู้ปฎิบัติตาม ครูบาอาจารย์ช่วยแนะนำ บุญและกรรมล้วนมาจากการกระทำของเราเอง อัตตาหิอัตตาโนนาโถ สู้ๆสู่สิ่งที่ยิ่งใหญ่