อยากได้ audio หรือ mp3 เสียง อาจารย์นำ มโนมยิทธิ

ถ้าใครมีช่วยอัปโหลดให้หน่อยได้ไหมคะหรือ ส่งลิงค์มาก็ได้ ดิฉันได้พยามหาดูหลายเวปก็ยังไม่เจอ อยากฝึกมาก แต่อยู่ต่างประเทศไม่สามารถไปฝึกที่วัดได้ ครั้นพอลองด้วยตัวเองก็ทำได้ระดับนึง แต่ไม่สามารถไปได้ลึกเท่าตอนมีเสียงอาจารย์นำ ช่วงนี้ก็มีปัญหาเล็กน้อย จิตตกๆ เลยอยากลองฝึกแบบเต็มกำลัง

 

คำสอนก่อนฝึกมโนมยิทธิ - Buddhism Audio

หรือเสิร์ชคำว่า คำสอนก่อนฝึกมโนมยิทธิ

 

จขกท ควรไปทำเข้าใจความหมายของ มโนยิทธิ ให้ดีเสียก่อน ไม่อย่างนั้น พอเราไปเจอใครพูดอะไรก็ะหลงเชื่อเค้าไปเสียทุกเรื่อง อย่างเรื้องนิพพาน ผมเนี่ยได้ลองเข้าไปศึกษาเมืองนิพพานที่เค้าพูดกันมานักต่อนักปรากฏว่ามันกลายเป็นอีกอย่าง อีกเรื่อง จากที่พระองค์บัญญัติว่า การได้รับอายตนะ นั้นคือทุกข์ เป็นการเรียกว่าการเกิดของสัตว์หรือผู้เเสวงหาการเกิด ถึงจะได้รับอายตนะ จึงมีคำสอนว่าเพลินในอายตนะนั้นหมายถึงเพลินในทุกข์ เเต่กลายเป็นว่ามีอยู่ในนิพพานของเค้า มันมีทั้งผู้ที่ไปนิพพานได้ มีทั้ง สัตว์ผู้มีอายตนะ. มีทั้งปราสาทเเก้วคือรูปที่รู้เเจ้งด้วยจักษุ เกิดผัสสะ. จะเรียกว่ายังมีปัจจัยปรุงเเต่งก็ได้ มีทั่งการเคลื่อนการหยุด เเต่ถ้าศึกษานิพพานให้ดี. จะมีลายระเอียดอยู่ เเล้ว. พระองค์บอกไว้ด้วยว่า เป็นสิ่งที่บุคคลพึงรู้เเจ้ง เป็นสิ่งที่ไม่มีประมานไม่มีที่สุด มีทางปฏิบัติเข้าถีงได้โดยรอบ. ที่เรียกว่าความกว้าง ความยาว เล็ก สั่นใหญ่ ความงาม ความไม่งาม สิ่งๆนั้นไม่มีการมาการไป ไม่กล่าวว่ามีการหยุด ไม่กล่าวว่ามีจุติ ไม่กล่าวว่ามีการเกิดขึ้น สิ่งนั้นไม่ได้ตั้งอยู่ สิ่งนั้นไม่ได้เป็นไป เเละสิ้งนั้นไม่ใช่อารมณ์ . เพราะสิ่งเหล่านั้นคือ อสังขตลักษณะ

 

เดี๋ยวเย็นนี้กลับมาจากทำธุระจะเข้าไปฟังคะ

 

ดิฉันเคยฝึกตอนอยู่มัธยมทีหนึ่ง จึงพอเข้าใจว่าเป็นอย่างไร แต่สำหรับเรื่องนิพพานนั้น สภาวะนี้ดิฉันยังไม่สามารถบอกได้ หรือถามใครได้ เพราะเชื่อว่าไม่มีใครได้ไปนิพพาน ก็เลยไม่มีใครสามารถอธิบายสภาวะดังกล่าวได้ ถ้า จะกรุณา เล่า ถึงสภาวะนิพพาน ก็จะเป็นกรุณาอย่างยิ่ง แต่ถ้าจาก ความคิดดิฉัน เทียบกับอารมย์ตอนที่ทรงฌาณสี่ คิดว่านิพพานคงไม่ต่างกันมาก ไม่ได้มีสวรรค์ ปราสาท วิมาน แต่เป็นสภาวะของจิตเองที่ปราศจาก ความรู้สึกของกิเลสและอารมย์โดยสิ้นเชิง ด้วยเหตุนี้เองดิฉัันจึงอยากได้อาจารย์ชี้นำว่าอะไรถูก อะไรผิด พักหลังเวลาดิฉันพยามเข้าสมาธิเอง ตั้งแต่เกิดเรื่องราวปีชง และมีแต่สิ่งไม่ดีถาถมเข้ามาตั้งแต่ปีที่แล้ว ทั้งคนรัก ทั้งญาติพี่น้องสนิทมากๆเสียชีวิต โดนระงับห้ามใช้เงิน และมีปัญหาต่างๆ ทำไม่ได้แม้แต่จะกลับมาเมืองไทย และต้องอยู่คนเดียวในต่างประเทศ ดิฉันได้ลองนั่งสมาธิ แต่นิมิตที่เห็นเป็นแต่ภาพของญาติที่เสีย ชัดแจ่ม คงที่ จึงคิดว่ามันชักหลงทาง และต้องการอาจารย์นำ

 

สภาวะของสมาธิ ไม่ใช่สภาวะนิพพาน
ถ้าเข้าใจตรงนี้ผิดไป ก็จะหลงเดินทางผิดไปตามกำลังความชำนาญของตน
ถ้ากำลังความชำนาญในสมาธิสูง ก็ ไปนู่นเลย... พรหมลูกฟัก

 

สิ่งไม่ดีก็ถาโถมเข้าหาชีวิตเราตลอดเวลานั่นแหละครับ
สำหรับผม ตื่นขึ้นมาแล้วต้องขี้ ก็ถือว่าเป็นสิ่งไม่ดีแล้วละครับ

เรื่องสมาธิในขั้นฌานนั้น ท่านจัดว่าเป็นนิโรธชนิดหนึ่ง
คือ วิกขัมภนนิโรธ เป็นนิโรธที่ระงับกิเลสที่ชื่อนิวรณ์ได้ เป็นสมาธิที่ใช้งานในการเจริญวิปัสสนา

นิพพานเป็นยังไง เอาตำราไหนละครับ ในพระไตรปิฏกไม่กล่าวไว้ชัดเจนขนาดที่มนุษย์กิเลสหนาอย่างเราจะเข้าใจได้
แต่ถ้าเป็นระบบของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ มีวิมาน.. มีพระพุทธเจ้า
ซึ่งก็ต้องลองฝึกเอาเองดูให้ได้ฌานสมาบัติขั้นสูง แล้วพิสูจน์กันเอาเอง
แต่เอาง่ายๆอย่างเช่น สวรรค์เป็นอย่างไร เราก็อธิบายกันไม่ถูกแล้วใช่มั้ยครับ
คุยเรื่องพระนิพพานก็ยิ่งเปรอะไปทั่วเปล่าๆ

ส่วนเรื่องการเห็นนิมิต มันเป็นเรื่องปกติของสมาธิครับ
สมาธิย่อมยังสมาธิให้เกิดได้ แต่จะเกิดเพราะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจเท่านั้นเอง
ทีนี้การปฏิบัติมันก็มีสองสายใหญ่
สายแรก ไม่เอานิมิต
สายที่สอง เอานิมิต
มันก็ใช้ได้ทั้งสองแบบ แล้วแต่เลือก แล้วแต่ถนัดจริตนิสัย

 

จิตที่ปราศจาก กาม พยาบาท ว่างจากกิเลิส ลักษณะนี้เป็นไวพจน์ใช้เรียกว่าเป็นนิพพานก็ได้ หรือ นิพพานที่มองเห็นได้ จากการที่สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลาย บรรลุปฐมฌาน นี้ก็คือนิพพานในความหมายของพระอานนท์ คือว่างจากการคิดที่จะเบียดเบียนต่อตนเองเเละผู้อื่น อยู่เเบบพระอริยเจ้า ในเครื่องอยู่สุขในทิฏฐธรรม. เเต่ว่า โดยหลักการ ในสิ่งนั้น(นิพพาน) ไม่ใช่อากาสานัญจายตนะ ไม่ใช่อากิญจัญญายตนะ สิ่งที่เรียกว่าขันธ์5ดับสนิทไม่มีเหลือ เเสดงว่าสมาบัติเหล่านี้หรือจะเรียกว่าอรูปภพก็ได้ รวมทั้งรูปฌานด้วย จะมีความเป็นภพรองรับไว้ทั้งหมด ยังเนื่องอยู่กับภพ ยังเป็นสิ่งที่อาศัยเหตุปัจจัยเกิดอยู่ เเละยังมีนิสารณะ(อุบายเครื่องออกไป).
สรุป นิิพพานนั้นไม่ใช่ภพ เพราะ สิ่งที่เรียกว่าภพมันจะมีชาติ การเกิดขึ้นเเล้วสิ่งใดที่มีการเกิดขึ้น ย่อมดับไป