อย่าเลยพระพุทธเจ้า อย่าเลยครูอาจารย์

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ปุณฑ์, 28 มีนาคม 2013.

  1. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ในดีมีเสีย ในเสียมีดี
    สัพเพธรรมมา อนัตตา
    ท่องๆ ให้ขึ้นใจ ผมพอจะจำได้แล้วฮับคุณนิว
     
  2. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    สมสุตินะครับ ท่านยกหลวงปู่หลวงตา หลวงนา ออกก่อนนะครับ เอาความคิดว่าเราเคารพในตัวท่านองค์ไหนก็ไดออกก่อน
    สมมุติว่าเราศึกษาพุทธวจนฝ่ายเดียว ถกเทียงกันแต่พุทธวจน เราจะไปในแนวเดียวกันใช่มัยครับ แลวมีข้อเสียตรงไหน ศึกษาคำพระศาสดาของเรา เอาประเด็นนี้ก่อน ท่านจะรู้เองเลยว่าท่านจะดำเนินชีวิตอย่างไร

    เหมือนผมเนี่ยศึกษาและฟังแต่พุทธวจนเมื่อได้ยินพระสูตรที่ว่ากลองอนากะเสื่อมไปเพราะเราฟังแต่สุภาษิตแต่งใหม่ คำสาวกบ้าง นานวันเข้ามันก็มีแต่เนื้อไม้ใหม่ ผมเข้าใจเลยว่ามันเกิดมาจากสิ่งไหน มันก็เกิดมาจากพวกเราที่เป็นพุทธบริษัทสี่เนี่ยแหล่ะครับ พระพุทธองค์เคยบอกว่าศาสนาเสื่อมไปเพราะพวกเราเองไม่มีใครมาทำลายพระศาสนได้หรอกนอกจากพวกเราเอง ที่นีเรารู้แล้วจะทำอย่างไรกับตัวเรา

    ผมเองไปที่วัด ก็เห็นแต่ท่านบรรยายธรรมเกี่ยวกับพุทธวจน ผมนอนที่นั้นสองคืน ผมสนทนาธรรมกันกับผู้ที่ไปนอนวัดดึกมากแล้ว อาจารย์พึ่งเดินทางกลับมาวัดเพราะไปเผยแผ่พระศาสนคำของตถาคต ตอนนี้ท่านมีหน้าที่มากเหนื่อยมากมีแต่คนไปสนทนาตอบคำถามตลอด ท่านบอกตลอดว่าอย่าสนใจคำท่านนะท่านเพียงนำเสนออธิบายให้เขาใจทุกท่านก็ตรวจสืบเอาว่าตรงมั้ยไม่ตรงก็ให้เอาทิ้งเลย อย่ายึดติดตัวท่าน ท่านเองก็มีเข้าใจตรงบางไม่ตรงบาง ใครมีอะไรก็ไปตรวจสอบได้กับท่าน มีแต่คนตำหนิท่านผ่านเว็บ แล้วท่านจะแก้ตัวอย่างไร ท่านก็กลายเป็นคนผิดตลอดกับคนที่คิดไม่ตรงกัน ผมนะไม่ได้เป็นศิษย์ท่านโดยตรงนะครับ

    ผมเห็นท่านนำเสนอเรื่องพุทธวจน ผมชอบฟังคำที่ออกจากพระโอษฐ์ มันมีประโยชน์แก่ตัวเราจริงๆมีประโยชน์แก่ทุกคน เพราะคำตถาคตนั้นเป็นอนุศาสนีปาฎิหารย์ครับ คนป่วยใกล้ตายที่มีคนมาเล่าว่าตายอย่างสงบหน้าตาผ่องใส่ ไม่ใช่คำพระอาจารย์คึกฤิทธิ์นะครับเป็นคำตถาคตที่เป็นอนุศาสนีปาฎิหาย์นะครับ

    คุณเขาใจคำนีมั้ยครับ ฟังแต่คำตถาคต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2013
  3. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ศึกษาธรรมะแล้วในภพนั้นไม่สำเรจธรรมที่ปฎิบัติ ตายแบบหลงลืมสติยังไปเกิดบนสวรรค์ไปเกิดเป็นเทพมีฤทธิ์แล้วยังต้องบรรลุคุณวิเศษอะไรอีกหรอ ถ้าไม่ใช่คุณธรรมเป็นอริยเจ้าในความหมายนี้ ท่านภูต
     
  4. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ท่านท่องไว้เถอะในดีมีเสีย ในเสียมีดี แล้วใจจะเป็นกลาง สัพเพธรรมาอนัตตาท่องไว้จะช่วยใหจิตหลุดพ้นได้ ถ้าไม่สำเร็จในชาตินี้ก็จะไปเกิดเป็นเทพนิกายชันใดชั้นหนึ่ง แล้วจะไปบรรลุธรรมบนสวรรค์ครับ สาธุๆ
     
  5. Satoranai

    Satoranai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +263
    เป็นชาวพุทธที่ดีย่อมไม่ปฏิเสธพระไตรปิฏก
    เพราะ พระไตรปิฎก คือรากฐานและหลักฐาน มรรคผลของบรมศาสดา
    และก็เป็น รากฐานและหลักฐาน มรรคผลของพระอริยสาวก
    นอกเหนือไปจาก วินัยของหมู่คณะ

    ทั้งนี้ เรียกได้ว่าพระไตรปิฎกคือประวัติศาสตร์ของผลแห่งการปฏิบัตินั้น
    (แม้แต่ พระวินัย ก็มีที่มาเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่เป็นบทเรียนให้ต้องระวัง)

    สำหรับผม หนังสือประวัติครูจารย์ในยุคสมัยหลัง
    ก็เป็นเฉกเช่นเดียวกัน (เพียงแต่ความเข้มข้นของสังคมชาวพุทธ ห่างชั้นกว่ากันมาก)

    ถ้ามองตรงนี้แล้ว หนังสือครูจารย์ในยุคหลัง อาจจะง่ายต่อการทำความเข้าใจมากกว่
    เพราะ เขียนด้วยภาษาที่ใกล้เคียงกับชาวบ้าน ไม่ต้องมีความรู้ทางอักษรศาสตร์มากก็ทำความเข้าใจได้ง่าย

    แต่ก็แน่นอน สิ่งนั้นเป็นตัวหนังสือ เป็นประสบกาณ์เป็นประวัติศาสตร์ของบุคคลอื่น
    หากเราไปยึดถือเป็นของเราเอง อาจจะพลาดพลั้งได้

    เมื่อถึงคราวที่เราจะต้องปฏิบัติ ครูจารย์จึงให้วาง "สิ่งเหล่านั้น" เอาไว้เหนือหัวก่อน
    แล้วให้ลงมือปฏิบัติ ตามแนวทางที่พระพุทธองค์กล่าวไว้ "กรรมฐาน๔๐กอง"

    ก็เท่านั้นเอง
    ...
    หลวงปู่มั่นบอกให้หลวงตา วางพระไตรปิฎก ไว้เหนือหัว เก็บเอาไว้เหนือหัวก่อน
    ให้ลงมือปฏิบัติ แล้วค่อยกลับมาตรวจทานว่า เป็นอย่างไร ตรงตามกันมั้ย

    ผมเชื่อว่า หลวงพ่อชาก็ไม่ได้สอนลูกศิษย์ท่าน ด้วยคำของพระพุทธองค์
    หลวงพ่อชาไม่มีทางแจกพระไตรปิฎกให้ลูกศิษย์เอาไปอ่านกันองค์ละชุด
    .... แต่ท่านให้ลงมือปฏิบัติ
     
  6. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ถ้าไม่ใช้คำพุทธองค์จะใช้คำใครสอนได้ตอบหน่อยซิครับ ในเมื่อคำสอนที่ตรัสรู้นั้นเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า ท่านกำลังว่าอาจารย์ทั้งสองท่านตั้งลัทธิเลียนแบบพระพุทธเจ้าหรอครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2013
  7. Satoranai

    Satoranai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +263
    ดังนั้น ... การเดินสายนำเสนอพระไตรปิฏก ในแบบฉบับวัดนาป่าพง
    คือ การเดินสายเล่าประวัติศาสตร์ของพุทธองค์
    (ผมแน่ใจว่า หลวงพ่อคึกฤทธิ์ ไม่เล่าเรื่องประวัติศาสตร์ของอริยสาวกแน่นอน??)
    ...
    เท่านั้นเองครับ
    ...
    ส่วนนั้น ก็คงเป็นอานิสงค์ ในระดับหนึ่งแน่นอน
    ประมาณ พิมพ์หนังสือสวดมนต์แจก
    ...
    ...
    แต่ที่ ตั้งธงว่า
    "คำสอนของพุทธองค์ ประเสริฐกว่าคำสอนของสาวก"
    "ถ้าให้เลือก ขอเลือกอ่านคำสอนของพุทธองค์ก่อน"
    นั้น
    ผมว่า หลวงพ่อคึกฤทธิ์ ท่าน "แคบ"เกินไป เพราะ

    ๑) พระพุทธองค์ และ พระอริยสาวก ถึงจะไม่สามารถเทียบกันได้ในเรื่องบารมี และอัจฉริยภาพ
    แต่ ทุกองค์เทียบเท่ากัน ด้วยความเป็น พระอรหันต์
    พระอรหันต์ไม่มีลำดับชั้นวรรณะครับ

    ๒) ผมถึงย้ำว่า พระพุทธ พระธรรม และ พระสงฆ์ คือหนึ่งเดียวครับ
    ต่างกันเพียง
    ---- พระพุทธ ---- คือองค์ศาสดา ผู้เริ่ม kick off
    แต่ พระธรรม นั้น ไม่มีใครเป็นเจ้าของครับ
    ---- พระธรรมนั้น คือ สิ่งที่แจ้งเท่ากัน ของพระอรหันต์ ครับ

    ๓) ดังนั้น ความจริงแล้ว
    จึงไม่มี คำสอนของพระพทุธองค์ หรือ คำสอนของสาวก
    เพราะ สิ่งที่ออกมาจากจิตที่บริสุทธิ์ คือ "พระธรรม" ที่ไม่มีของใคร

    การพยายาม แยกพระพุุทธองค์ ออกจาก พระอริยสาวก คือ สิ่งที่ยากจะรับได้ครับ

    สิ่งที่หลวงพ่อคึกฤทธิ์ ควรประกาศออกไปคือ
    ๑) จงปฏิบัติภาวนาและวินัยตามแนวทางที่พระพุทธองค์ และพระอริยสาวก สัง่สอน (เพราะเทียบเท่ากัน)
    ๒) จงเลือกปฏิบัติภาวนาและวินัยตามแนวทางของครูจารย์ชั้นหลัง โดยเลือกสิ่งที่ตรงกับ (๑)
    ๓) จงเปิดใจรับข้อมูลข่าวสารจากแหล่งต่างๆ โดยมีใจที่เป็นกลาง
    ไม่อิงแอบอยู่กับ (๑) เท่านั้น ... เพราะมาจนถึงจุดนี้
    - เชิงวิชาการยังเถียงกันอยู่เลยว่าส่วนไหนคือ คำพูดของพระพุทธองค์ และ
    - การแปลงความหมายจากบาลีมาเป็นภาษาไทย อย่างไหน ถูกหรือผิด

    ....
    แต่เชื่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้น
    คือ การหลงไหลได้ปลื้มกับคำว่า "พุทธวจน" ทั้งที่เรามีคำว่า "พระไตรปิฎก"
    โดยลืมมองข้าม "ผู้นำเสนอ" ที่
    ๑) ต้องอาบัติทุกกฏตลอดเวลา (เพราะ สวดปาติโมกข์๑๕๐ข้อ)
    ๒) ถูกตัดสายสัมพันธ์จาก คณะสงฆ์ต้นสังกัด
    (แน่นอน ยังไม่ไปไกลถึง ปาราชิกหรอก ... หากยังไม่ไปถึงสังฆเภท)
    ....
    ท่านเลือกความบริสุทธิ์อย่างถึงที่สุด (ของพระไตรปิฎก)
    โดยมองข้ามความไม่บริสุทธิ์ของผู้สื่อสาร
    และ ไม่คิดจะสืบหาข้อเท็จจริงของความบริสุทธิ์นั้น
    ด้วยวิธีการที่เหมาะสม ... เอกบาลี
     
  8. Satoranai

    Satoranai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +263
    อย่านำหลวงพ่อคึกฤทธิ์ไปเทียบเคียงกับท่านนั้นเลย ห่างชั้นกันนัก ท่านนั้นหลุดออกจากความเป็นพระ ตั้งแต่เมื่อใด ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น

    แต่เรื่องไม่มีหนังสือหลวงพ่อชา เข้าใจว่าเป็นมาตั้งแต่ก่อนโดนตัดออกจากคณะสงฆ์วัดหนองป่าพงครับ
     
  9. naroksong

    naroksong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    412
    ค่าพลัง:
    +1,135
    คุณ newamazing

    ลองอ่านวิสุทธมรรคตอนนี้ วิสุทธิมรรค เล่ม ๒ ภาคสมาธิ ปริเฉทที่ ๙ พรหมวิหารนิเทศ - วิกิซอร์ซ (เป็นการอธิบายวิธีเจริญพรหมวิหารอย่างละเอียด)

    นี้เป็นอรรถกถาอย่างหนึ่ง แล้วคุณลองพิจารณาดูว่าควรตัดทิ้งด้วยไหม?
    และถ้าควรตัดทิ้ง คุณบอกผมได้ไหมว่าไม่สอดคล้องกับพุทธวจนะตรงไหน?

    ขอให้เจริญในธรรม
     
  10. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    [quote='จารย์!!!]๑) ต้องอาบัติทุกกฏตลอดเวลา (เพราะ สวดปาติโมกข์๑๕๐ข้อ)
    ๒) ถูกตัดสายสัมพันธ์จาก คณะสงฆ์ต้นสังกัด
    (แน่นอน ยังไม่ไปไกลถึง ปาราชิกหรอก ... หากยังไม่ไปถึงสังฆเภท)[/quote]

    เอ้า 'จารย์ โตะโลง ท่าน ศาตราจารย์วิแคะได้ว่า เป็นเพียง อาบัติทุกกฏ
    ไม่ใช่ปรับ ปาราชิก อย่างงี้ 'จารย์ จะมานั่งขยัน ปรับ พระ ท่านทำไม
    อะฮับ

    ยิ่ง 'จารย์ ฟ่อซีไปข้างหน้าแล้ว ยังเห็นว่า ผิดทุกวันอีก 'จารย์ ไม่ต้อง
    มาเย้วๆ กล่าวโจทย์ทุกวันเหรอ ( อาบัติทุกกฏ ปรับอาบัติ ไม่ยุ่งยาก ชิมิ
    แป๊ปเดียวก็ ต่อติด --- 'จารย์ แต่ทีจิน มันแค่ 30*12*6 ประมาร 720
    ครั้งเอง 'จารย์ คำนูนจาก อายุเฉลี่ย 'จารย์ทั่วๆไป )

    แล้ว โตะโลง 'จารย์ ทำ .... ศจ. ได้ยังฮับ ....เอกพาลี
     
  11. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    เรื่องนี้ท่านพิจารณาเองเถอดว่าสมควรทำอย่างไรเกี่ยวกับการปฎิบัติธรรมของตัวท่านเองนะครับ ผมเผยแผ่สิ่งที่
    ควรทราบจากพุทธวจนแล้วที่นี้ก็แล้วแต่ล่ะคนจะเห็นส่วนไหนดีหยิบมาใช้กันเอาเอง ส่วนผมตั้งแต่ทราบอะไรที่เป็นธรรมะผมเลือกพุทธวจนอย่างเดียว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 เมษายน 2013
  12. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    นี่คือ ความคิดท่าน ไม่ใช่ความคิดคนอื่น ในดีมีเสีย ในเสียมีดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 เมษายน 2013
  13. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    คุณเขาใจว่าท่านเอาออกตังแต่ก่อนโดนตัด ท่านรูได้ไงวัดกไม่เคยไป นี่ไงผมถึงบอกว่าอะไรไม่รูก็ไปถามอย่านึกเอง ท่านซึกษาพุทธวจนมาเป็น10ปีแล้ว ท่านมีรูปอาจารย์ชาแขวนตลอดผมไปวัดก็ยังเคยเห็นพึ่งมาไม่นานนี้เองที่ีท่านยกลงเพราะอะไร ไม่ใช้เพราะพระที่มีความเหนตัดท่านออก แล้วจะให้ท่านทำอย่างไร ท่านกคงแขวนไว้ในใจแทนครับ และท่านกล่าวถึงหลวงพ่อชาบ่อยมากๆท่านนับคนที่ดีเขาไม่อกตัญญูหรอกครับ
    แต่การตังใจเผยแผ่พุทธวจนนั้นที่เป็นพระดำรัสพระศาสดานั้นท่านเห็นเป็นสิ่งที่จำเป็น ท่านก็เดินหน้าทำอย่างสุดตัวเท่านั้นเอง พวกท่านคิดไปกันต่างๆนา สงสัยอะไรก็ไปสนทนากับท่านซิ จะได้รู้ความจริง
     
  14. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ไม่มีใครเลยพระพุทธองค์ได้ มีแต่ไม่รู้เท่าพระพุทธองค์

    ขออนุญาตครับ

    แม้คำบอกเล่า ตามหัวเรื่องจะถูกต้อง

    แต่ก็ยังมีส่วนที่ต้องพิจารนาเพิ่มเติมคือ


    "มีธรรมส่วนไหนอีก ที่พระพุทธองค์รู้ แต่ครูบาอาจารย์ไม่รู้"
    "มีธรรมส่วนไหนอีก ที่พระพุทธองค์สอน แต่ครูบาอาจารย์ไม่ได้สอน"
    "มีธรรมส่วนไหนอีก ที่พระพุทธองค์ได้สอนเหล่าทวยเทพ เหล่าเทวดาเอาไว้"
    "มีธรรมส่วนไหนอีก ที่พระพุทธองค์ ได้สอน เหล่า พุทธภูมิเอาไว้"
    "มีธรรมส่วนไหนอีก ที่เหล่าพุทธภูมิ เคยได้ยิน เคยได้ฟังจากพระพุทธเจ้า พระองค์ก่อนๆ"
    "มีธรรม ส่วนไหนอีก ที่เหล่า พระโพธิ์สัตว์ ท่านได้ยิน ท่านได้ฟัง จากพระพุทธองค์เอาไว้"
    "มีธรรมส่วนไหนอีก ที่เหล่าพระมหาโพธิ์สัตว์ ท่านรู้ ท่านเห็น ด้วยญาณบารมีของท่านเอง"


    สรุป ยัง มีธรรมอีกมากที่ มนุษย์ตั้งแต่ยุคพุทธกาล ก็ไม่เคยได้ยิน ก็ไม่เคยได้ฟังมาก่อน

    ธรรมเหล่านั้น ก็คือ ธรรม ที่เกี่ยวกับเรื่อง


    กฏแห่งกรรม การขอขมากรรม การขออโหสิกรรม
    การเกิดของภัยพิบัติ การเกิดของมหาภัยพิบัติ
    การป้องกัน การยืดระยะเวลา การแก้ไขภัยพิบัติ
    การป้องกัน การยืดระยะเวลา การแก้ไขมหาภัยพิบัติ

    ก็ธรรมเหล่านี้ละเป็นธรรมที่อยู่เลย การรู้ การเห็น ของผู้ที่แสวงหา ธรรมเพื่อความหลุดพ้น


    ขอนำคำสอนของหลวงตาม้ามาบอกเล่าอีกที

    "พุทธภูมิที่เดินไปได้ครึ่งทางนี่ ยังไม่รู้อะไรเท่าไร"
    "ต้องพุทธภูมิที่บารมีเกือบจะเต็มโน่นละ จึงจะพอรู้อะไรบ้าง"
    "สมัยนี้ อิทธิ์ฤทธิ์ไม่ค่อยจะมีประโยชน์ ต้องบุญฤทธิ์ จึงจะพอมีประโยน์บ้าง"


    ขอนำคำสอนขององค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มาบอกเล่าอีกที

    "พระโพธิสัตว์เป็นผู้มีบุญบารมีมาก"
    "เป็นผู้ที่จะไปเกิดเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต"
    "ต้องให้ความเคารพในท่านด้วย"


    จะเห็นว่า องค์หลวงปู่มั่น นั้นท่านพูดถึงพระโพธิ์สัตว์เท่านั้น
    องค์ท่าน ไม่ได้พูดถึงพระมหาโพธิ์สัตว์แต่อย่างไร

    อีกอย่าง จะขอเตือน ขอทบทวน ให้เพื่อนฟ้อง น้องพี ชาวเว็บ อีกครั้ง


    พระมหาโพธิ์สัตว์ นั้น เรียกเฉพาะ ท่านผู้มุ่งพุทธภูมิ ที่ท่านได้รับพุทธพยากรซึ่งพระพุทธองค์ได้แสดงเอาไว้แล้วเพียง ๑๐ พระองค์แล้วเท่านั้น

    อาจจะมีท่านอื่นๆ ที่ได้รับความเคารพอย่างสูง และที่ท่านปรากฏพระองค์ออกช่วยคนเป็นจำนวนมากมีคำเล่าลือ
    มีคำเล่าขานถึงท่านมากมาย แต่จริงๆแล้ว ท่านก็ยังไม่ถึงระดับ พระมหาโพธิ์สัตว์


    ขอโมทนา ขออนุโมทนา ร่วมกับทุกๆท่าน ที่กล้าหาญชาญชัย
    ประกาศตนว่า เป็นผู้มุ่งพุทธภูมิบ้าง เป็นผู้มุ่งพุทธภูมิ ระดับใด ระดับหนึ่งบ้าง
    ค่าของคน อยู่ที่ผลของงาน ผลงานของท่านจะเป็นตัวบอกเองว่า
    บุญบารมีของท่านมีมากน้อยเท่าไร

    เทียบกับ พระโพธิ์สัตว์ ในยุคกรุงศรีอยุธยา เช่น องค์หลวงปู่ทวด
    เทียบกับ พระโพธิ์สัตว์ ในยุคกรุงรัตน์โกสินธุ์ เช่น องค์หลวงปู่โต
    เทียบกับ หน่อพุทธภูมิ ที่เป็นบุรพกษัตริย์ไทยมาทุกยุคทุกสมัย

    ชื่อชั้นของท่านนั้น โด่งดัง กล่าวขาน มาตลอดแม้ในยุคปัจจุบัน
    บุญบารมีของท่าน ปกป้องคุ้มครอง ทั้งส่วนบุคคล ทั้งบ้านเมือง มาตลอดจนถึงยุคปัจจุบัน

    บุคคลผู้ใด กลุ่มใด ที่ยกย่องเชิดชู ครูบาอาจารย์ของตน สมควรเอาเป็นแนวทาง เอาเป็นเยี่ยงอย่าง
    ท่านสมควรคิด ท่านสมควรพิจารนาว่า
    "ท่านสมควรทำอะไร ที่ทำให้ครูบาอาจารย์ของตน เป็นที่ยกย่องชมเชย มีชื่อเสียงขจรขจายไปทั่ว"
    "ท่านสมควรไม่ทำอะไร ให้ครูบาอาจารย์ของตน เป็นที่คลางแคลงใจ ในบุญบารมีที่มากล้นของท่านเอง"

    เพื่อนพ้องน้องพี่ ชาวเว็บสมควรพิจารนาว่า
    อันไหนที่ตนรู้แล้ว อันไหนที่ตนเข้าใจแล้ว

    อันไหนที่เกินกำลัง ของตนจะเข้าใจ
    อันไหนที่เกินกำลัง ที่ครูบาอาจารย์ของตนจะเข้าใจ

    ก็เพราะว่า คนที่มีบุญบารมีมาก พอที่จะรู้ พอที่จะเข้าใจไปเสียทุกเรื่องนั้น มีน้อยอย่างยิ่ง

    สรุป
    "อย่าเลยพระพุทธเจ้า อย่าเลยครูอาจารย์"
    สมควรใช้กับ "ธรรมเพื่อความหลุดพ้น" เท่านั้น ใช่หรือไม่
    ขอท่านผู้มีบุญบารมีทั้งหลายได้คิดได้พิจารนา ไตร่ตองให้ถี่ถ้วนอีกครั้ง

    ขอโมทนา ขออนุโมทนา ร่วมกับผู้มีบุญบารมีทุกๆท่าน
    ขอบคุณครับ
    ลุงมหา

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 เมษายน 2013
  15. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984

    แล้ว..แล้ว..แล้..ว..เปิดรับบริจาคเงิน อีกทำไม..ไหนจะเอาพุทธวจนะ..หรือจะเอามูลนิธิ เงินซื้อที่ดิน เงินบริจาค..จะเอาอะไรแน่ ..อิอิ:boo:

    ..พุทธวจนะะ..พุทธพจน์..บทใด สั่งสอนให้พระภิกษุ.. "สร้างวิกฤติเพื่อหาโอกาส"..เปิดรับเงินบริจาค ซื้อที่ดิน..หือ หือ ...อ้าวเงียบทำไม อิอิ:boo:
     
  16. Satoranai

    Satoranai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +263
    ไปมาแล้วเมื่อกว่า5-6ปีก่อน
    ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจดหมายจากหนองป่าพงมาก่อนหรือหลัง
    ผมว่าการเดินหน้าเผยแผ่พระไตรปิฎกนั้นไม่ผิดหรอก ถ้าไม่ไปกีดกันธรรมโดยอริยสาวก
    ตามที่ผมแสดงไป
    ____ ธรรมะไม่มีศักดิ์วรรณะ ไม่มีของใคร
    ____ จึงเท่ากันหมด จะนำเสนอโดยสมณโคดม หรือพระอุบาลี หรือหลวงพ่อชา

    ถ้าท่านนำเสนอ "พระไตรปิฎก" โดยไม่ลดทอน นั่นแหละจึงน่าอนุโมทนายิ่ง

    เรื่องศีล ท่านคงไม่ได้ทำอะไรผิดมาก ณ จุดนี้
    ____ แต่ สิ่งที่จะนำไปสู่สังฆเภท คือ150ข้อ
    ____ เพราะ ขนาด150ข้อ ยังมีคนหลงมองข้าม เข้าไปสนับสนุนเสียมาก

    น่าเสียดายว่า "พระไตรปิฎกที่สมบูรณ์พร้อม" ก็มีมานานแล้ว
    ยังหลงไหลไปกับ "พระไตรปิฎก เฉพาะส่วน" กันได้
     
  17. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    ..สรุปให้อีกที คือ

    อย่า งง สิเว้ยเฮ้ย

    ตรงพุทธโอษฐ์นี่ อธิบายไปแล้ว

    สาวก ท่านแค่ ไม่ฉลาดในมรรค อาจจะแสดง อุบายธรรม ไม่ตรงจริต เท่านั้น

    แต่ แสดงไม่ตรงจริตเนียะ หากคนเรียนมันมีปฏิภาณของมัน มัน ปิ๊ง ได้..

    ..อย่าเยอะ..กลับเข้าลู่ด่วน..อิอิ:boo:
     
  18. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    ..เอ้ยยส์..เปลี่ยนๆ..ในดีมีเสีย ในเสียมีดี..ในบัญชีต้องมีปัจจัย..อิอิ
    ข้าจะ..สร้างวิกฤติเพื่อหาโอกาสเว้ยยส์ อิอิ:boo:
     
  19. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984

    ..การเรียน พระไตรคำสอนของพระพุทธองค์..หากจะให้บรรลุ และเข้าใจ..ทุกคนต้อง ทรงสมาธิแก่จิต เกิดสมาธิจิตก่อน ..จึงจะเข้าใจตำราได้ในแต่ละขั้นภูมิ
    ....................................................................................:cool:
     
  20. Satoranai

    Satoranai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +263
    ชี้ประเด็นให้คนรู้สึกผิด??? ว่ากันไปตามสิ่งที่ปรากฏอยู่ ไม่ได้จับผิด

    ทำหน้าที่ตามพระดำรัส คือ เผยแผ่คำสอนที่นำพาให้ลดละกิเลส
    คำของตถาคต ที่ให้เผยแผ่ ไม่ได้ให้ยึดที่ตัวอักษร
    ___ ไม่เช่นนั้น ท่านต้องเผยแผ่เป็นบาลีครับ
    ไม่ได้ให้ยึดที่ตัวอักษร ให้ดูที่เจตนาความตั้งใจ

    เพราะสุดท้าย ขนาดอ้างว่ามาจากพระโอษฐ์
    ___ ยังต้องตีึความกันโลกแตกว่า 150 หรือ 227

    การเผยแผ่คำของตถาคต จึงหมายรวมได้ถึง
    1) บาลีที่ไม่เปลี่ยนแปลง บันทึกโดยอริยสาวก. (ราก)
    2) คำแปลโดยคณะสงฆ์. (แก่น)
    3) คำสอนที่อ้างจาก 1และ2. (ต้น)
    4) คำสอนจากภาคปฏิบัติที่ลงกับ 1. (กิ่งก้าน)
    5) คำสอนที่อ้างอิงจาก 4. (ใบ)

    นี้คือสิ่งที่อ้างอิงมาจากคำเทศนาของหลวงตามหาบัว
    ผมว่าแยบคายเข้าใจง่ายสำหรับชาวบ้านมากๆ

    คำของตถาคตเริ่มจากเมล็ด ที่แตกใบแรกคือ พระอัณญาโกณทัญญะ
    และ อริยสาวกในสมัยพุทธกาลก็น้อมรับ คำสอนอันเป็นรากของพุทธพจน์
    บวกกับรากฝอยต่างๆจากธรรมที่ปรากฏในอริยสาวก
    ขยายขนาดกลายเป็นแก่นและต้นของ อรรถกถา
    และแตกกิ่งก้านสาขามายังสุวรรณภูมิ แปลงเป็นภาษาไทยโดยอริยสาวกในชั้นหลัง
    สามารถเข้าถึงชาวบ้านร้านช่องด้วยภาษาชาวบ้านด้วยใบแห่งคำสอนของสุปฏิปัณโณและสาวก

    เราพูดถีงต้นแห่งพุทธะ
    เราจะบอกว่า ต้องรากเท่านั้น ต้องแก่นเท่านั้น ไม่รวมกิ่งไม่รวมใบ
    ____ ไม่ได้

    แต่ก็เป็นความจริงว่า
    ใบ และกิ่งก้านนั้นแหละ จะร่วงโรยก่อน ด้วยบารมีอายุขัยตามท้องถิ่นนั้นๆ
    ส่วนแก่นและรากหากยังคงอยู่ ต่อให้ตัดต้นทิ้ง ก็จะยังงอกกิ่งและใบออกมาได้

    ____ ผมจึงเห็นว่า อย่าไปตัดลอนโอกาสของการเผยแผ่เลยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...