ถูกครับต่างกันมากระหว่าง อรูปฌาน เมื่อเทียบกับพระนิพพานแล้ว
แต่ถ้าเป็น อรูปพรหมเมื่อเทียบกับพระนิพพาน ถ้าว่าโดย "ตรรกะ" ก็ต่างกัน
แต่ถ้าว่าโดย อารมณ์ของจิตที่เข้าไปดำรงอยู่นั้น มีสภาพเหมือนกัน เพียงแต่ว่า
อรูปพรหมต้องเกิดอีก พระนิพพานไม่ต้องเกิดอีก
อรูปพรหมก็คือ พระนิพพานโลก เป็นที่ยังไม่สิ้นสุด
พระนิพพานคือ ที่สุดแห่งโลก เมื่อออกจากโลกก็ถึงพระนิพพาน
อสิตะดาบส อรูปพรหมผู้หน้าเวทนา
ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย YUT_KOP, 15 พฤศจิกายน 2010.
หน้า 2 ของ 2
-
ผมงงและแปลกใจว่า ถ้า สมมุติเรารู้ว่า ถ้าตายเราจะไป อรูปพรหม ทำไมเรา ไม่หาทางแก้ไข
-
แต่อสิตะดาบส ก็หาทางแก้ไขมาโดยตลอดแล้ว แต่ไปได้แค่นั้นเพราะว่า
พระพุทธศาสนายังไม่ได้เกิดในเวลานั้น -
ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับกรรมของแต่ละบุคคลซึ่งไม่เหมือนกัน
-
เมื่อเราทำสมาธิด้วยวิชามโนมยิทธิ ที่สั่งสมมาอย่างน้อยแสนชาติ เมื่อจิตตั้งมั่นได้แล้ว ก็สามารถไปแดนพระนิพพาน
ที่เราได้เนรมิตขึ้นมาจากมโนมยิทธินี้ แม้มโนใหญ่เมื่อจิตออกจากร่างไปที่พระนิพพาน วิมานที่เห็นนั้นก็เกิดจากการเนรมิต
ถามว่า.... วิมานที่เห็นในสมาธินั้นเป็นสังโยชน์ข้อไหน ควรละไหม? -
สวัสดีคุณ บุญพิชิต ครับ
ขันธ์5 คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
ตามตำราบอกว่า อรูปพรหม ละ ขันธ์ที่เป็น รูปขันธ์ได้ เหลือ ขันธ์4ที่เป็น นามคือ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ตามที่คุณชี้แนะแนวทาง
พระพุทธองค์ กล่าวไว้ว่า มโนปุพพังคมา ธัมมา มโนมยา มโนเศรษฐา แปลว่า ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน ธรรมะทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยใจ
แล้วเหตุใดถ้า อรูปพรหม (ถ้า)ยังมี นามขันธ์ทั้ง4 พระพุทธองค์จึงไม่ทรงเสร็จโปรด อรูปพรหม ให้เข้าพระนิพพาน
เพราะ รูปขันธ์ ไม่มีทางสำคัญไปกว่า นามขันธ์4 ไปได้
ส่วนผู้ได้ ฌาณสมาบัติ8 ตายไปเกิดเป็น อรูปพรหม นั้น ถ้าให้จัดลำดับความสำคัญจะเทียบ กับ พระอรหันต์ นั้น มันเทียบกันไม่ได้เลยแม้นแต่น้อย
เพราะแม้นแต่จะเทียบกับ พระโสดาบัน ก็ยังห่างชั้นกันอีกไกลนัก
เพราะคุณธรรมที่ แตกต่างกัน เรียกว่า คนละระดับขั้นเลยทีเดียว
แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า อรูปพรหม เข้าอยู่กันยังไง เพราะปฏิบัติยังไม่ถึง
พูดไปก็จะมีแต่ผิด ได้แต่ เดาๆกันไป ตามที่เคยได้ยินได้ฟังมา
และก็ไม่รู้ด้วยว่า ทำไม พระท่านบอกว่า
พระอนาคามี จึงเกิดเป็น อรูปพรหมได้เหมือนกัน แล้ว อรูปพรหมที่ ยังไม่เข้ากระแส พระนิพพาน กับ อรุปพรหมที่เป็น พระอนาคามี อยู่ใน ชั้นเดียวกันหรือ แยกกันอยู่ แต่ถ้าจะให้ เดา ก็คงอยู่กัน คนละลำดับขั้น
เพราะอรูปพรหม มี4ชั้นนิหน่า
ปล.สมณะพราหมณ์ ก่อนพุทธกาล เป็น อรูปพรหม เยอะแยะครับ หน้าสงสาร
จริงๆเพราะ พวกท่านเหล่านั้น เรียกว่า เก่ง ฌาณสมาบัติกันทีเดียว ถ้าได้มีโอกาส ฟังธรรม แม้นเพียงนิดเดียว ผมว่าเป็น พระอรหันต์ ทันทีแน่นอน
ไม่รู้ทำกรรมอะไรกันมา หน่า... -
กระทู้นี้ล้วนไม่เคยเป็นหรือไม่รู้จริงในเรื่องนี้ พูดกันไปก็เปล่าประโยชน์
แต่ที่ผมต้องการชวนคุณสนทนาก็เป็นเรื่องของเหตุผล ที่เราพิสูจน์ได้
เรื่องที่คุณไปเอามาโพส ผมก็ไม่เคยอ่านไม่ทราบว่าคุณไปเอามาจากไหน
ถ้าเป็นเรื่องในพระไตรปิฎกผมก็ขอโทษ ผมรู้สึกสับสนครับที่ได้อ่านเรื่องนี้
มันขัดๆแย้งๆในตัวเนื้อหาของมันเอง
เรื่องในกระทู้นี้คุณเป็นคนยกมา หน้าที่ให้เหตุผลเป็นหน้าที่คุณ
แต่ถ้าจะให้ผมตอบในส่วนของผม ที่ผมกล่าวว่า
อรูปพรหมยังมีขันธ์อยู่ ไม่ได้ไร้ขันธ์ห้าอย่างที่คุณบอก
คนที่ได้ฌาณสมาบัติแปด...ไร้ขันธ์ห้า นี่แสดงว่า อรูปพรหมอยู่เหนือ
พระอริยะหรือครับ
พระอริยะบุคคลย่อมอยู่เหนือ อรูปพรหมอยู่แล้ว
พระอริยะยังมีขันธ์อยู่ แล้วอรูปพรหมจะไร้ขันธ์ห้าได้อย่างไร
อธิบายความในเนื้อหาที่นำมา มิหน่ำซ่ำยังไม่แสดงลิ้งหรือบอกที่มาของ
บทความนั้นๆ มันเป็นอยู่เองที่คุณต้องรับผิดชอบในการอธิบายความนั้นๆ
กับหลักการปฏิบัติมันก็เลยดูเป็นหัวมังกุท้ายมังกรครับ
อันที่จริง อรูปพรหมมันเป็นกิเลสในใจอย่างหนึ่ง ที่พระอริยะขั้นอนาคามี
ยังไม่สามารถก้าวข้ามไปได้ มันไม่ใช่สวรรค์ชั้นพรหมที่คุณกล่าวถึง
มันเป็นเรื่องของความศรัทธา เป็นเรื่องของศาสนา บุคคลย่อมมีสิทธิ
ในการเชื่อและศรัทธา ที่สำคัญจุดมุ่งหมายของการเชื่อย่อมต่างกัน
เราไม่มีสิทธิไปว่ากล่าวใคร โดยเฉพาะคนต่างศาสนานะครับ
เรามาดูในศาสนาพุทธเรา ความเชื่อยังแตกต่างกันเลย
-
ถ้าผมอธิบายผิดหรือไม่ถูกต้องก็ขออภัยนะครับ และขอขมาต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรมและพระอริยสงฆ์ ได้โปรดงดโทษให้แก่ข้าพเจ้าตั้งแต่บัดนี้ตราบจนข้าพเจ้าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ สาธุ -
สวัสดี คุณบุญพิชิต ในเนื้อหาที่ได้ลงไปนั้นผมไม่ได้มาจาก เวปไซค์ หรือ หนังสือผมจึงไม่สามารถอ้างที่มาได้ แต่ถ้าจะให้ สืบกลับก็คงไม่ยาก เพราะผมฟังธรรมของพระอาจารย์ สมบัติ นันทิโก ที่วิทยุเสียงธรรม ซึ่ง พระอาจารย์จะยกหลักธรรมมาจากพระไตรปิฏก ที่ละเอียดมากๆแบบที่ หาฟังได้ยาก โดยพระอาจารย์จะกล่าวอ้างที่มาที่ไปทุกครั้ง ในพระไตรปิฏก
ส่วนเรื่องที่ว่า ทำไม พระพุทธองค์ ไม่ทรงเสร็จโปรด อรูปพรหมนั้น
ผมขอเวลา ศึกษาเพิ่มเติมก่อนนะครับ มันติดๆอยู่ในหัวเอาออกมาเขียน
ไม่ถูก เหมือนเคยจำได้แต่ลงรายละเอียดไม่ถูก
ลองสังเกตุดูนะครับว่า บท พระธรรมจักร ฯ ไม่มีกล่าวอ้างถึง อรูปพรหม ว่าสาธุการ กับ พระอัญญาโกฑัณญะ นั้นมันหมายความว่า งั้ยหน่อ (น่าคิดนะครับ)
สิ่งใดที่ เป็นการเสวนาธรรม ถ้ากระทำด้วยใจที่เป็นมิตร แม้นผิด-ถูก ก็ขอให้ ละโทษล้วงเกินอันนี้ด้วย
เพราะผู้ ถาม-ตอบ ไม่ได้มีเจตนาที่จะ กล่าวล้วงเกิน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ขอจง งดโทษด้วยเทอ...สาธุ -
เห็นว่า การใช้มโนมยิทธิ เป็นเรื่องของสมาธิเป็นญาณในอภิญญาเล็ก เป็นยาหม้ออย่างดีที่หลวงพ่อถนัด
ช่วยลูกหลานให้เข้าสู่กระแสพระนิพพานได้เป็นจำนวนมาก ท่านให้ลูกหลานจับพระนิพพาน(อุปสมานุสติ)
ละสังโยชน์ ๓ ก่อนให้ได้ ท่านมักพูดเสมอว่าพอเป็นพระโสดาบันแล้วไม่มีอะไรต้องสอนอีก(เดียวก็ไปต่อเองได้)
หลวงพ่อสอนว่า "อวิชชา" คือ ฉันทะกับราคะ พอใจและยินดีใน มนุษย์โลก เทวโลก พรหมโลก เพราะฉะนั้น
เราไม่ต้องการอีกแล้ว มนุษย์โลก เทวโลก พรหมโลก ต้องการที่เดียว คือ พระนิพพาน
จะได้พระนิพพานต้องทำได้ก่อน ถึงจะนิพพานได้ ส่วนท่านที่จับอารมณ์พระนิพพานเป็นประจำ
ใช้มโนมยิทธิ ไปพระนิพพานสม่ำเสมอ อย่างน้อยเวลาตายก็ไปสู่สุขคติ ใช่ว่าจะไปพระนิพพานได้เลย
ท่านยังได้สอน วิปัสสนาญาณ เพื่อให้ผู้ที่ได้มโนมยิทธิ พิจารณาต่อเพื่อให้แจ้งพระนิพพานด้วยปัญญา
เมื่อรู้แจ้งโลกแล้วพระนิพพานก็จะปรากฏให้เห็นเอง เพราะ พระนิพพานมีอยู่จริงแท้แน่นอน -
ส่วนที่ว่าพระพุทธเจ้า ไม่ทรงเสด็จไปโปรด อรูปพรหมนั้น เพราะอรูปพรหมไม่รับรู้ เหตุจากผลวิบากกรรมของกำลังอรูปฌาน
ไหนๆก็พูดถึงเรื่องนี้ก็พูดเรื่องการย้อนกลับไปในอดีตเลย ว่าไปได้จริงไหมหรือแค่ "อตีตังสญาณ"
ก็ถ้าย้อนกลับไปได้จริงๆ พระพุทธองค์ ก็สามารถย้อนกลับไปสอนอาจารย์ทั้งสองก่อนตายได้นะซิ
แต่ในความเป็นจริงไม่มีการย้อนกลับไปในอดีตได้แน่นอน -
ขออนุโมทนา ด้วยอีกครั้งครับ -
-
ลองหาอ่านศิษย์โง่ไปเรียนเซน บ้างก็ดีนะครับ แนวรู้แจ้งแบบเซน ผมได้อะไรหลายอย่างจากหนังสือเล่มนี้เยอะเลย แถมปัญหาที่ถกเถียงกันเรื่องพรหมหรืออรูปพรหมนี้หายไปเลย ช่วยได้เยอะครับ
-
อ่านเรื่องของท่านดาบสแล้ว อยากร้องไห้แทนท่านจริง ๆ เพราะพลาดโอกาสไปอีกนาน
ส่วนเรื่องถกเถียงกันนั้น ผมเข้าใจอย่างนี้ครับ
1. พระอนาคามียังมีกิจที่ต้องทำ คือ ตัดสังโยชน์เบื้องสูงให้หมด ยังต้องเห็นภัยของเบญจขันธ์ ท่านจึงไม่ไปเกิดในอรูปภพ เพราะจะขาดรูปขันธ์ไป และจะไม่ไปเกิดในอสัญญีภพ เพราะจะขาดสัญญาไป
2. ตามหลักปฏิจจสมุปบาท การเป็นอรูปพรหมทำให้ขาดรูปขันธ์ ก็ไม่น่าจะเกิดสฬายตนะ ผัสสะ และเวทนาได้ การพิจารณาธรรมจึงน่าจะติดขัดนะครับ -
ไม่อยากเลยจริงๆถ้าได้สมาธิถึงขั้นนั้น การหลงใน รูปฌาน และอรูปฌาน เนี่ย มันเหมือนขาดทุนยังไงยังงั้นตามที่อ่านจากตำราน่ะครับ ...:'(
-
เพียงท่านทั้งหลาย เคยเรียน เคยอ่าน เคยรู้จัก ไตรลักษณ์ อย่างมากก็ติดใน รูปฌาน
ส่วน อรูปฌาน นั้นเป็นอารมณ์พิจารณา ในฌานสี่ เปรียบก็เหมือนได้ พิจารณาขันธ์๕
เมื่อลงสู่ไตรลักษณ์ ด้วยกำลังฌานสี่ในอรูปฌาน ก็กลายเป็นเรื่องง่ายดาย -
ขอแก้ไขในสิ่งที่ผิด
เนื่องจาก สัญญา คือความจำหมายรู้ในวิสัย เป็นของไม่เที่ยง ตามหลัก
พระไตรลักษณ์ (คำแก้ตัวที่จะคลาสิก) ผมได้จดจำและเข้าใจผิดไปเอง
เกียวกับ การเกิดของ พระอนาคามีในชั้น อรูปพรหม ซึ่งผมเข้าใจผิดไปเอง
ไม่เกี่ยวกับ พระอาจารย์ สมบัติ นันทิโกแต่อย่างไร (ท่านเทศน์ถูกแล้วตรงแล้ว)
ผมจึงย้อนกลับไปศึกษาเรื่องนี้ใหม่ เพราะก็ติดข้องใจ ตามที่ คุณ บุญพิชิต และเพื่อน สมาชิกหลายท่านให้ความเห็นในเรื่องของ พระอนาคามี กับ อรูปพรหม
จึงได้คำตอบที่ชัดเจนยิ่งขึ้นดังนี้
พระอนาคามี เมื่อจุติจากโลกมนุษย์จะไปเกิดเป็น พระพรหมในชั้นสุทธาวาสภูมิทั้ง5 ซึ่งมีขันธ์5 ครบตามปกติ
โดยพระอนาคามี จะไม่มีทางไปเกิดใน แดนของ อรูปพรหมได้เลย
เพราะ แดนแห่ง อรูปพรหม เป็นการเพ่งโทษของ รูปขันธ์โดยใช้ อรูปฌาณ4
โดยมี อากาสาณัญจาญตนะ เป็นต้น ซึ่งไม่ใช้แดนแห่ง วิสัยของพุทธะ
โดยการเข้าอรูปฌาณ4นั้นเป็น วิสัยแห่ง พราหมณ์ ไม่ใช้ พุทธะ
ผู้ที่เกิดเป็น อรูปพรหมจึงไม่ใช้ พุทธสาวก อย่างแท้จริงเพราะเป็นการเดินทาง
ที่มาคนละเส้นทาง
เพราะถ้ามาตาม วิสัยแห่ง พุทธะสาวกจะต้อง ปฏิบัติถึงตอนสิ้นสุดในทางแห่ง
วิปัสสนากรรมฐานเท่านั้น คือการ พิจรณา พระไตรลักษณ์ แม้นว่าจะเดินทางตามสาย สมถะกรรมฐานมาบ้างก็ตาม แต่ต้องจบด้วย วิปัสสนากรรมฐานเท่านั้น
ส่วนการเดินทางสาย อรูปพรหม คือ การปฏิบัติในทางแห่ง สมถะกรรมฐานล้วนๆเท่านั้น ไม่มีวิปัสสนากรรมฐาน คือไม่มีการ พิจรณาพระไตรลักษณ์
อันทำให้ อาสวะกิเลสน้อยใหญ่ยังคงอยู่ครบ แต่ถูกกำลังแห่ง อรูปฌาณกดเอาไว้(ในขณะเข้าฌาณสมาบัติ) จึงไม่แสดงตนออกมาให้เห็นมากมายนัก
แต่เมื่อออกจาก ฌาณสมาบัติ ราคะ โทสะ โหมะ ก็บังเกิดขึ้นได้อีก
เหตุนี้ เจ้าชายสิทธัตถะ (ในขณะนั้น) จึงทรงแน่พระทัยว่า การเดินทางตามสาย
พราหมณ์ คือ การเข้าอรูปฌาณได้นั้นจึงไม่ใช้ที่สุดแห่งทุกข์ เพราะเชื้อกำเนิดยังอยู่ ท่านจึงแสวงหา โมกข์ธรรม ที่สูงขึ้นต่อไป
ก่อนจบผมของแสดงความคิดเห็น ของรูป แผนภูมินี้ก่อนนะครับ
รูปแผนภูมินี้ หลายๆท่านคงเห็นมานานแล้วนะครับ แต่ผมว่า แผนภูมิทำนี้ผิดมหันต์ คือจากแผนภูมิจะเห็นได้ว่า อรูปพรหม อยู่สูงกว่า พรหมชั้นสุทธาวาส
ซึ่งถ้าศึกษาตามจริงจะได้ใจความว่า อรูปพรหม จะไม่ใช้คำว่า อยู่สูงกว่า
เทวภูมิทั้ง6 หรือ รูปภูมิทั้ง16แต่อย่างใด
โดยจะใช้คำว่า อยู่สูงกว่าไม่ได้ แต่จะใช้คำว่า อยู่ห่างจาก รูปพรหม
แต่ในรูปแผนภูมิ แสดงให้เห็นผิดๆว่า อรูปพรหม อยู่ สูงกว่า รูปพรหม ซึ่งผิด
อย่างชัดเจน เพราะอรูปพรหม ไม่มีคุณธรรมใดๆเลยของคำว่า อริยะบุคคลไฟล์ที่แนบมา:
-
-
รูปขันธ์ ในขันธ์๕ใช้เฉพาะในโลกมนุษย์นี้เท่านั้น ซึ่งประกอบด้วย ธาตุทั้งสี่
และเรื่องอยู่สูงกว่า คุณ YUT_KOP ก็อย่าเข้าใจอย่างนั้น เพราะว่า
ชั้น ดุสิต ก็มีพระอริยะเจ้า ทำไมอยู่ต่ำกว่า ชั้น นิมมานฯ และชั้น มาร
แม้สวรรค์ชั้นจาตุมหาราช ก็มีพระอริยะเจ้ามากมาย
หน้า 2 ของ 2