อัตโนประวัติ และพระธรรมเทศนา หลวงพ่อทูล ขิปฺปปญฺโญ

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์หลวงตา, 20 มีนาคม 2007.

  1. ศิษย์หลวงตา

    ศิษย์หลวงตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2007
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +2,855
    [​IMG]
    วัดป่าบ้านค้อ อุดรธานี

    อัตโนประวัติ หลวงพ่อทูล ขิปฺปปญฺโญ

    [​IMG] [​IMG]



    ดาวน์โหลดคลิกขวาแล้วเลือก Save target as ..
    หนังสือ
    อัตโนประวัติ

    [​IMG]

    คำิปรารภจากหลวงพ่อ

    <!-- InstanceEndEditable -->
    <TABLE width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left height=130><!-- InstanceBeginEditable name="picture" -->[​IMG]
    <!-- InstanceEndEditable --><!-- InstanceBeginEditable name="Description" --><?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>

    การเขียนประวัติส่วนตัวนี้ ก็เพื่อจะให้ลูกศิษย์ทั้งหลาย ได้รู้ความเป็นมาของชีวิต ว่ามีความเป็นมาอย่างไร และใช้อุบายการปฏิบัติภาวนามาอย่างไร ถ้าหลวงพ่อไม่เขียนประวัติเก็บไว้ในช่วงนี้ ความไม่แน่นอนในอนาคต ย่อมเกิดขึ้นได้ ถ้าหากมีอันเป็นไป ก็หมดโอกาสที่จะได้รู้ประวัติหลวงพ่อ เมื่อได้ฟังเหตุผลจากคณะศิษย์ขอร้องมาเช่นนี้ ประกอบกับคิดว่า อาจจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย จึงได้ตัดสินใจเขียนขึ้น
    การเขียนประวัติของข้าพเจ้าในครั้งนี้ จะเขียนทั้งหมดคงเป็นไปไม่ได้ จึงจะเขียนพอเป็นสังเขปพอให้รู้เรื่องราวเท่านั้น การเขียนครั้งนี้จะเขียนในเรื่ิองจริงทั้งหมด ซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัวเป็นส่วนใหญ่ และก็มีเรื่องของครูอาจารย์แฝงในที่นี้ี้ด้วย ประวัติของข้าพเจ้านั้นพิสดารพอสมควร บางคนอาจคิดว่า เหลือเชื่อเป็นไปไม่ได้ อาจมีความประมาท ขาดความน่าเชื่อถือในตัวข้าพเจ้าก็เป็นได้ แต่ไม่เป็นไร ปล่อยให้เป็นเสรีภาพของนักวิจารณ์ก็แล้วกัน<O:p></O:p>
    ขอทุกท่าน เมื่อได้อ่านประวัติของข้าพเจ้าแล้ว อุบายใดพอจะนำมาใช้ประโยชน์ได้ ก็ให้ท่านได้ใช้วิจารณญาณด้วยตนเอง อุบายใดไม่ถูกจริตนิสัยของท่าน ก็ให้ทิ้งไปเสีย<O:p></O:p>
    สุดท้ายนี้ ขอให้ผู้อ่านทั้งหลาย จงมีความเจริญในสติปัญญา พิจารณาในสัจธรรมใด ขอให้รู้แจ้งเห็นจริงในสัจธรรมนั้นด้วยเทอญ

    พระิอาจารย์ทูล ขิปฺปปญฺโญ

    <TABLE cellSpacing=2 width="87%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width="26%" height=27></TD><TD vAlign=top width="2%"></TD><TD class=text vAlign=top width="72%">อัตโนประวัติ พระอาจารย์ทูล ขิปฺปปญฺโญ ฉบับสมบูรณ์ ภาค ๑ </TD></TR><TR><TD vAlign=top height=300>[​IMG]</TD><TD vAlign=top></TD><TD class=text vAlign=top>
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top height=27></TD><TD vAlign=top></TD><TD class=text vAlign=top>อัตโนประวัติ พระอาจารย์ทูล ขิปฺปปญฺโญ ฉบับสมบูรณ์ ภาค ๒</TD></TR><TR><TD vAlign=top height=217>[​IMG]</TD><TD vAlign=top></TD><TD class=text vAlign=top>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มีนาคม 2007
  2. ศิษย์หลวงตา

    ศิษย์หลวงตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2007
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +2,855
    บทที่ ๑ รวมวัยเด็ก​

    <!-- InstanceEndEditable --><TABLE width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><!-- InstanceBeginEditable name="picture" -->[​IMG]
    <!-- InstanceEndEditable --><!-- InstanceBeginEditable name="ChBody" --><TABLE cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=text vAlign=top width=684>รวมวัยเด็ก </TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top align=left bgColor=#ffcc66>หลวงพ่อเล่าเรื่องชีวิตในวัยเด็ก ซึ่งไม่เหมือนกับเด็กทั่วไป ในสมัยหนึ่งได้เกิดความอัศจรรย์ในตัว ซึ่ง ท่านสามารถกำหนดจิต เมื่อคิดว่าอยากเห็นสิ่งของอยู่ในที่ใด ก็จะปรากฏเห็นสิ่งของนั้นทั้งหมด อย่างไรก็ดี หลวงพ่อได้เตือนสติว่า หากท่านได้เป็นอย่างนี้ขอให้ท่านได้ปรึกษาครูอาจารย์ อย่าได้มาเล่นอยู่กับอภิญญา เพราะจะเกิดความหลงและมานะทิฏฐิ และห่างจากมรรคผลนิพพานมากขึ้นทุกที</TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top>ดาว์นโหลด ([​IMG] MP3: 62.2MB, [​IMG]WMA: 2.3MB)</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มีนาคม 2007
  3. ศิษย์หลวงตา

    ศิษย์หลวงตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2007
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +2,855
    บทที่ ๒ บวชเป็นสามเณร
    <!-- InstanceEndEditable --><TABLE width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><!-- InstanceBeginEditable name="picture" -->
    [​IMG]
    <!-- InstanceEndEditable --><!-- InstanceBeginEditable name="ChBody" --><TABLE cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=text vAlign=top>บวชเป็นสามเณร </TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top bgColor=#ffcc66 height=10>หลวงพ่อเล่าเรื่องชีวิตสมัยบวชเป็นสามเถร การบวชในครั้งนั้นก็เป็นไปตามประเพณีแทนบุญบิดามารดา (บวชจูงพ่อแม่ไปสวรรค์) ซซึ่งหลวงพ่อว่าเป็นความเชื่อที่ดี มีประโยชน์ทั้งต่อตน ต่อท่าน และต่อการทรงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา ในช่วงนั้นมีภิกษุองค์หนึ่งเป็นพระธรรมยุตได้มาอาศัยอยู่ด้วย และได้อบรมสั่งสอนให้แนวทางการปฏิบัติแก่หลวงพ่อ หลวงพ่อมีความศรัทธาในแนวทางปฏิบัติและความเป็นอยู่ของท่านเป็นอย่างมาก เหตุนี้เองทำให้หลวงพ่อมีความฝังใจในพระกรรมฐานตั้งแต่นั้นมา</TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top>ดาว์นโหลด ([​IMG] MP3: 36.3MB, [​IMG]WMA: 1.3MB)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- InstanceEndEditable -->
     
  4. ศิษย์หลวงตา

    ศิษย์หลวงตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2007
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +2,855
    บทที่ ๓ ใจเปลี่ยนไปในทางบวช<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p><!-- InstanceEndEditable --><TABLE width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><!-- InstanceBeginEditable name="picture" -->
    [​IMG]
    <!-- InstanceEndEditable --><!-- InstanceBeginEditable name="ChBody" --><TABLE cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=text vAlign=top>ใจเปลี่ยนไปในทางบวช<O:p></O:p> </TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top bgColor=#ffcc66 height=10>หลวงพ่อมีใจเปลี่ยนแปลงไปในทางบวชหลังจากได้มีโอกาสมาทำบุญที่วัดป่าธรรมยุต ซึ่งมีความสะอาดร่มเย็น และเห็นพระเณรภายในวัดมีความสงบเสงี่ยมสำรวมดี วันหนึ่งท่านได้มีโอกาสฟังเทศน์จากหลวงพ่อบุญมาในเรื่อง “เกิด-ดับ” หลังจากนั้นท่านได้มีการใช้ปัญญาในการพิจารณาอย่างต่อเนื่อง จนเริ่มเกิดความแยบคายในเรื่องเกิดดับ
    หลวงพ่อได้เน้นย้ำว่า ไม่ว่าในเวลาใดหรืออยู่ในที่แห่งใด ให้เราพยายามทำใจให้มีความรู้และเห็นจริงในสิ่งต่างๆอยู่เสมอ ถ้าหากพิจารณาในสัจธรรมใด ให้ใช้ปัญญาพิจารณา และก็ให้รวมลงสู่ไตรลักษณ์ทุกครั้ง ไม่ใช้ว่าจะมานึกคำบริกรรมทำสมาธิเพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตามไม่ใช้ว่าให้ละสมาธินั้น สามารถทำได้ เมื่อใจต้องการพักผ่อน แต่ส่วนใหญ่แล้วต้องใช้ปัญญาพิจารณาอยู่เสมอ
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  5. ศิษย์หลวงตา

    ศิษย์หลวงตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2007
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +2,855
    บทที่ ๔ ใจหลงต้นมะม่วง
    <!-- InstanceEndEditable --><TABLE width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><!-- InstanceBeginEditable name="picture" -->
    [​IMG]
    <!-- InstanceEndEditable --><!-- InstanceBeginEditable name="ChBody" --><TABLE cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=text vAlign=top>ใจหลงต้นมะม่วง </TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top bgColor=#ffcc66 height=174>หลวงพ่อใช้ปัญญาพิจารณาในเรื่องความยินดีในวัตถุสมบัติต่างๆ ท่านได้ใช้อุบายพิจารณาต้นมะม่วงลงสู่การเกิดดับและไตรลักษณ์ แล้วจึงน้อมต้นมะม่วงเข้ามาหาตัวเอง ท่านพิจารณาความไม่เที่ยงของร่างกายให้เป็นไปตามสามัญ คือเมื่อถึงกาลเวลาก็มีความผุพังเน่าเปื่อย และคืนสู่แผ่นดินนี้ทั้งหมด ไม่มีอะไรเป็นตนและของของตน การพิจารณาซ้ำๆซากๆตามนี้ทำให้กระแสแห่งความยึดของใจต่อสิ่งต่างๆได้คลายลง
    นอกจากนี้หลวงพ่อยังได้เล่าเรื่องของพ่อตู้อ้วนเป็นอุบายสอนใจ ท่านได้ชี้่ให้เห็นว่าสภาวะของจิตขณะออกจากร่างมีความสำคัญมาก ขณะนั้นเมื่อจิตไปยึดอยู่กับสิ่งใด จิตก็จะมืดยึดติดอยู่ (และไปเกิด) กับสิ่งนั้น ถึงบุญกุศลจะสร้างมาน้อยหรือมากก็ไม่สำคัญ บุญกุศลนั้นจะไม่สามารถผลักดันให้จิตหลุดออกจากการยึดติดนั้นได้
    </TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top>ดาว์นโหลด ([​IMG] MP3: 39.1MB, [​IMG]WMA: 1.4MB)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. ศิษย์หลวงตา

    ศิษย์หลวงตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2007
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +2,855
    บทที่ ๕ การออกบวช, เร่งความเพียร<!-- InstanceEndEditable --><TABLE width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><!-- InstanceBeginEditable name="picture" -->
    [​IMG]
    <!-- InstanceEndEditable --><!-- InstanceBeginEditable name="ChBody" --><TABLE cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=text vAlign=top>การออกบวช, เร่งความเพียร<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p> </TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top bgColor=#ffcc66 height=10>หลวงพ่อเล่าเรื่องช่วงแรกของการบวชเป็นพระกรรมฐาน ในสมัยนั้นท่านมีความตั้งใจ บวชทั้งกาย และบวชทั้งใจ มีความเพียร มีสัจจะเป็นหลักที่มั่นคง เพื่อให้ถึงมรรคผลนิพพานในชาตินี้ อย่างไรก็ตามทานได้เร่งความเพียรจนเกินไป ทำให้ไม่มีการพักผ่อน และเกิดทุกขเวทนา จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด
    หลวงพ่อเน้นว่าการภาวนามีทางจะทำให้ถึงมรรคผลนิพพานได้ แต่ต้องปฏิบัติอยู่ในทางสายกลาง การปฏิบัติถ้ามีความตึง จะเป็นการบีบบังคับธาตุขันธ์จนเกินไป และอาจเสียชีวิตได้ การปฏิบัติถ้ามีความย่อหยอนหละหลวม ก็จะมีความล่าช้า และอาจทำให้ไม่ถึงจุดหมายปลายทางในชาตินี้ิี้ได้เช่นกัน
    </TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top>ดาว์นโหลด ([​IMG] MP3: 29.0MB, [​IMG]WMA: 1.1MB)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. ศิษย์หลวงตา

    ศิษย์หลวงตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2007
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +2,855
    บทที่ ๖ ตั้งหลักปฏิบัติใหม่
    <!-- InstanceEndEditable --><TABLE width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><!-- InstanceBeginEditable name="picture" -->
    [​IMG]
    <!-- InstanceEndEditable --><!-- InstanceBeginEditable name="ChBody" --><TABLE cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=text vAlign=top>ตั้งหลักปฏิบัติใหม่ </TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top bgColor=#ffcc66 height=10>ในบทนี้หลวงพ่อกล่าวถึงหลักในการปฏิบัติ ท่านเน้นย้ำว่าการปฏิบัติต้องอยู่ในทางสายกลาง ให้รู้จักให้อาหารและพักผ่อนในความพอดีของธาตุขันธ์ การภาวนาปฏิบัติจะต้องใช้สติปัญญานำหน้า ส่วนการเดินจงกรม นั่งสมาธิ ก็ให้ป็นเพียงอิริยาบทเพื่อประกอบความเพียรเท่านั้น
    การพิจารณาทางปัญญา ให้พิจารณาสิ่งต่างๆ ให้รู้เห็นเป็นไปตามความเป็นจริง และให้เป็นไปตามกฏไตรลักษณ์เป็นสำคัญ อนิจจัง คือความไม่เที่ยง ให้พิจารณาการเปลี่ยนแปลงของสิ่งต่างๆ ทั้งของมีวิญญาณ และไม่มีวิญญาณ ทั้งวัตถุธาตุ กาย และอารมณ์ของใจ ดำริพิจารณาตามความเป็นจริงจนหมดความสงสัยในความเป็นจริงนั้นๆ การพิจารณาความทุกข์ ให้พิจารณาที่กายและใจของตนเอง ให้หาและรอบรู้ในเหตุแห่งทุกข์นั้น
    </TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top>ดาว์นโหลด ([​IMG] MP3: 36.0MB, [​IMG]WMA: 1.3MB)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. ศิษย์หลวงตา

    ศิษย์หลวงตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2007
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +2,855
    บทที่ ๗ ออกธุดงค์<!-- InstanceEndEditable --><TABLE width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><!-- InstanceBeginEditable name="picture" -->
    [​IMG]
    <!-- InstanceEndEditable --><!-- InstanceBeginEditable name="ChBody" --><TABLE cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=text vAlign=top>ออกธุดงค์</TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top bgColor=#ffcc66 height=10>หลวงพ่อเล่าประสบการณ์สมัยการออกธุดงค์เป็นครั้งแรก ท่านได้เล่าถึงเรื่องนิมิตสอนใจว่า ในโลกมนุษย์นี้ ผู้คนมีความหลงใหลในกามคุณ เป็นอยู่อย่างนี้ทุกภพทุกชาติ และยากที่จะออกจากวัฏสงสารนี้ไปได้ สำหรับผู้มีปัญญาดีเท่านั้น ที่จะพิจารณาเห็นความเห็นผิด เห็นความสุขที่ไม่แท้จริงในกามคุณ เดินสวนกระแส และผ่านโลกนี้ไปได้
    นอกจากนี้ หลวงพ่อยังได้เล่าถึงความเห็นผิดของตัวเองในช่วงนั้น ท่านหลงตัวเองว่ามีความรู้ดี หลงลืมตัวว่าเก่งกว่าใครๆ ท่านได้เล่าถึงอุบายปัญญาที่นำมาใช้ในการแก้ปัญหา ที่ได้จากหนอนในหลุมส้วม ท่านได้เน้นย้ำว่า อุบายปัญญาที่นำมาใช้ในการแก้ปัญหาของตัวเอง มีอยู่ทุกสถานที่ การแก้ปัญหาต้องรู้จักต้นเหตุของปัญหาจึงจะนำมาใช้ได้ถูกจุด
    </TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top>ดาว์นโหลด ([​IMG] MP3: 25.4MB, [​IMG]WMA: 0.9MB)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. ศิษย์หลวงตา

    ศิษย์หลวงตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2007
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +2,855
    บทที่ ๘ พรรษาที่ ๒ อยู่กับหมู่เสือจนเคยชิน
    <!-- InstanceEndEditable --><TABLE width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><!-- InstanceBeginEditable name="picture" -->
    [​IMG]
    <!-- InstanceEndEditable --><!-- InstanceBeginEditable name="ChBody" --><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=text vAlign=top>พรรษาที่ ๒ อยู่กับหมู่เสือจนเคยชิน </TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top bgColor=#ffcc66 height=10>หลวงพ่อเล่าเรื่องขณะจำพรรษาที่ป่าใหญซึ่งมีหมู่เสืออาศัยอยู่ ท่านได้ทำสมาธิเพื่อกำหนดความกลัว มีความสงบลึกจนเกิดอรูปณานขั้นละเอียด การทำสมาธิเพื่อความสงบนี้ ทำให้เกิดการวางเฉยอยู่ตลอดเวลา วิธีการนี้เป็นช่องทางสู่ชั้นพรหมโลก แต่ไม่เป็นไปเพื่อมรรคผลนิพพาน หลวงพ่อได้ใช้อุบายการอ่านหนังสือให้มาก จนจิตสามารถถอนจากอาการสงบนี้ได้
    หลวงพ่อได้เตือนสติไว้ว่า ความเชื่อที่ว่าเมื่อจิตสงบแล้วย่อมเกิดปัญญาขึ้นนั้น ความเชื่อนั้นไม่จริง การที่จิตสงบทำให้ไม่สามารถพิจารณาทางปัญญาได้ การใช้ปัญญาพิจารณาในธรรม ให้ทำเป็นกิจวัตร ถ้าเหนื่อยก็หยุดมากำหนดจิตทำสมาธิได้ แต่พึงทำไว้เพียงชั่วคราว เพื่อจะได้มีกำลังใจในการพิจารณาทางปัญญาต่อไปเท่านั้น
    </TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top>ดาว์นโหลด ([​IMG] MP3: 47.3MB, [​IMG]WMA: 1.7MB)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. ศิษย์หลวงตา

    ศิษย์หลวงตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2007
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +2,855
    บทที่ ๙ พรรษาที่ ๓ นั้งผ่านทุกข์
    <!-- InstanceEndEditable --><TABLE width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><!-- InstanceBeginEditable name="picture" -->
    [​IMG]
    <!-- InstanceEndEditable --><!-- InstanceBeginEditable name="ChBody" --><TABLE cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=text vAlign=top>พรรษาที่ ๓ นั่งผ่านทุกข์ </TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top bgColor=#ffcc66 height=10>หลวงพ่อเล่าประวัติสมัยจำพรรษาอยู่กับ หลวงปู่บัว สิริปุณโณ ท่านได้เน้นย้ำว่า การปฏิบัตินั้นไม่ควรเอาตามปริยัติ แต่ก็ไม่ใหทึ้งปริยัตินั้น ปัญญาเฉพาะตนนั้นต้องสรัางด้วยตนเอง เลือกหัวข้อธรรม หรืออุบายธรรมที่เข้ากันได้กับนิสัยตัวเอง แล้วพิจารณาตามความเป็นจริงจนหมดความสงสัย เพื่อจะนำไปใช้ในการแก้ปัญหา หรือลดความหลงผิดของตัวเองได้
    นอกจากนี้หลวงพ่อได้เล่าถึงประสบการณ์ในการผ่านทุกข์ เพื่อฝึกตนให้เป็นผู้มีสัจจะ มีขันติ มีความอดทน ท่านได้ใช้ปัญญาอบรมใจจนเกิดความเข้มแข็งกล้าหาญ และรู้เท่าทันกิเลส พยายามอบรมใจให้รู้ว่าความทุกข์นั้นเกิดจากอัตตา ที่ยึดถือว่ามีตัวตนและของของตน
    </TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top>ดาว์นโหลด ([​IMG] MP3: 53.1MB, [​IMG]WMA: 1.9MB)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. ศิษย์หลวงตา

    ศิษย์หลวงตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2007
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +2,855
    บทที่ ๑๐ พรรษาที่ ๔ มหาสมุทร มหาสมมุติ
    <!-- InstanceEndEditable --><TABLE width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><!-- InstanceBeginEditable name="picture" -->
    [​IMG]
    <!-- InstanceEndEditable --><!-- InstanceBeginEditable name="ChBody" --><TABLE cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=text vAlign=top>พรรษาที่ ๔ มหาสมุทร มหาสมมุติ </TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top bgColor=#ffcc66 height=10>หลวงพ่อเล่าเรื่องสมัยจำพรรษา และออกธุดงค์ในพรรษาที่ ๔ ท่านได้นำหลักอิทธิบาท ๔ คือ ความพอใจ ความเพียร ความตั้งใจ และการใช้สติปัญญาครุ่นคิดอยู่บ่อยๆ มาเป็นหลักในการปฏิบัติธรรม ท่านได้เน้นถึง สัมมาทิฐิ นั่นคือ ความตั้งใจมันอยู่กับความจริงอย่างแนวแน่ อย่างเป็นเหตุและผล และใจยอมรับความจริงตามปัจจัยนั้น
    หลวงพ่อได้เล่าถึงนิมิตที่ใช้เป็นอุบายสอนใจว่า มีคนจำนวนมากที่นับถือพระพุทธศาสนา อย่างไรก็ตามแม้บุคคลเหล่านี้เป็นผู้มีเจตนาดีมีความตั้งใจดี คืออยากพ้นไปสิ้นทุกข์ไปจริงๆ แต่ก็มีกำลังในการปฏิบัติน้อยไป ไม่สามารถทำสำเร็จได้ ใครจะเดินทางถึงจุดหมายหรือเปล่านั้น ก็ึ้ขึ้นอยู่กับผู้สร้างบารมีเอง
    </TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top>ดาว์นโหลด ([​IMG] MP3: 38.0MB, [​IMG]WMA: 1.4MB)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. ศิษย์หลวงตา

    ศิษย์หลวงตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2007
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +2,855
    บทที่ ๑๑ พรรษาที่ ๕, ๖, ๗
    <!-- InstanceEndEditable --><TABLE width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><!-- InstanceBeginEditable name="picture" -->
    [​IMG]
    <!-- InstanceEndEditable --><!-- InstanceBeginEditable name="ChBody" --><TABLE cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=text vAlign=top>พรรษาที่ ๕, ๖, ๗ </TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top bgColor=#ffcc66>ในพรรษาที่ ๕ หลวงพ่อจำพรรษาอยู่กับหลวงพ่อบุญมา ในครั้งนั้นท่านมีปัญหาว่าทำอย่างไรจึงจะไม่ต้องแสดงธรรม เพราะอยากปฏิบัติภาวนาให้ต่อเนื่องกันไปตลอด ท่านจึงได้ถือเอา ธุดงค์มุขวัตร เป็นอุบาย คือไม่พูดกับใครทั้งสินตลอดพรรษา หลังจากออกพรรษา ท่านได้ออกธุดงค์ในภาคใต้
    ในพรรษาที่ี่ ๖ หลวงพ่อได้เล่าเรื่องเมื่อท่านได้ไปโปรดบิดาของท่านในยมโลก ท่านสอนให้เราพากันสร้างความดีไว้ เมื่อตายไปจะได้ไม่เป็นทุกข์ ผู้ใดทำความชั่วไว้ไม่ว่าจะมากหรือน้อย ก็จะต้องถูกตัดสินตามการกระทำนั้น
    ในพรรษาที่ี่ ๗ หลวงพ่อจำพรรษาอยู่กับหลวงปู่บุญจันทร์ ท่านได้เล่าถึงอุบายธรรมที่ได้จากการพิจารณาต้นมะพร้าวว่า ต้นมะพร้าวต้นนั้นไม่สูงและไม่ออกผลเนื่องจากถูกปลูกไว้ในที่ที่มีต้นไม้อื่่นปกคลุม ซึ่งเปรียบเหมือนจิตเรา ถ้าถูกอารมณ์แห่งกามคุณครอบงำไว้ ก็จะทำให้จิตด้านและไม่มีความฉลาดรอบรู้ในสัจธรรม
    </TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top>ดาว์นโหลด ([​IMG] MP3: 41.0MB, [​IMG]WMA: 1.5MB)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  13. ศิษย์หลวงตา

    ศิษย์หลวงตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2007
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +2,855
    บทที่ ๑๒ พรรษาที่ ๘ ดาบคือสังขาร อาวุธของศัตรู
    <!-- InstanceEndEditable --><TABLE width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><!-- InstanceBeginEditable name="picture" -->
    [​IMG]
    <!-- InstanceEndEditable --><!-- InstanceBeginEditable name="ChBody" --><TABLE cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=text vAlign=top>พรรษาที่ ๘ ดาบคือสังขาร อาวุธของศัตรู </TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top bgColor=#ffcc66 height=10>ในช่วงต้นพรรษา หลวงพ่อได้จำวัดอยู่กับหลวงปูู่่ขาว ที่วัดถ้ำกลองเพล หลวงปูู่่ได้ให้คำแนะนำว่า การภาวนานั้น ให้ใช้อุบายปัญญาพิจารณาสิ่งต่างๆ ลงสู่ไตรลักษณ์ให้มาก เพื่อใจจะได้เกิดความฉลาดรอบรู้ตามหลักความเป็นจริง และให้ตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท
    หลวงพ่อได้เล่าถึงอุบายสอนใจจากนิมิตเกี่ยวกับการถูกตามฆ่าโดยศัตรู ท่านเปรียบศัตรูคืออาสวะกิเลส และดาบของศัตรูคือสังขาร ดาบนี้มีทั้งคุณและโทษ ถ้าดาบตกอยู่กับศัตรู จะถูกใช้ในทางที่ผิด เปรียบเหมือนใจที่ถูกครอบงำโดยกิเลส จะมีสังขารเป็นตัวทำงานมาสร้างเป็นกระแสหลอกใจ ในทางกลับกัน ถ้าใจเรามีปัญญาแล้ว สังขารนั้นสามารถนำมาใช้สอนให้ใจละความเห็นผิดได้
    นอกจากนี้ หลวงพ่อได้เล่าถึงนิสัยของหลวงปู่ขาวสั้นๆ ว่าเป็นผู้มีความเมตตาโดยสมบูรณ์ คือบริสุทธิทั้งกาย วาจา และใจ คำพูดธรรมะของท่านนั้นมีคุณค่ามาก ผู้ใดได้รับฟังธรรมะของหลวงปู่ ก็จะเกิดความซาบซึ่งและนำไปปฏิบัติเต็มความสามารถ
    </TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top>ดาว์นโหลด ([​IMG] MP3: 57.1MB, [​IMG]WMA: 2.1MB)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. ศิษย์หลวงตา

    ศิษย์หลวงตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2007
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +2,855
    บทที่ ๑๓ พ.ศ.๒๕๑๒ ณ.บ้านป่าลัน
    <!-- InstanceEndEditable --><TABLE width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><!-- InstanceBeginEditable name="picture" -->
    [​IMG]
    <!-- InstanceEndEditable --><!-- InstanceBeginEditable name="ChBody" --><TABLE cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=text vAlign=top>พ.ศ. ๒๕๑๒ ณ.บ้านป่าลัน </TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top bgColor=#ffcc66 height=10>หลวงพ่อเล่าเรื่องสมัยการปฏิบัติภาวนาอยู่ที่บ้านป่าลันในพรรษาที่ ๘ ท่านได้อธิบายถึงเรื่องผีและเทวดาว่า ผีกับเทวดานั้นมีทั้งภายนอกและภายใน ผีกับเทวดาภายในก็อยู่ในตัวคนเดียวกัน แต่ละวันๆ เราคนเดียวจะเป็นไปได้ทั้งเทวดาและผี ซซึ่งขึ้นอยู่กับอารมณ์และความคิดว่าเป็นกุศลหรืออกุศลในขณะนั้น ผีกับเทวดาภายนอกก็มีลักษณะอย่างเดียวกัน คือ วิญญาณอันเดียวนั้นย่อมเปลี่ยนแปลงได้ทั้งสองแบบ อันที่จริงแล้ว ผีภายนอกยังไม่น่ากลัวเท่ากับผีภายใน ซซึ่งสามารถนำพาเราสู่ความเห็นผิด และห่างจากออกจากมรรคผลนิพพานได้
    ในช่วงท้าย หลวงพ่อได้เน้นย้ำว่า การพิจารณาด้วยปัญญาให้เกิดความแยบคายนั้นเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง เพราะความแยบคายนั้น เป็นเครื่องทำลายความยึดมั่นของใจโดยตรง ทำให้้ใจให้มีความเป็นเหตุเป็นผล และสามารถรู้เห็นว่าอะไรจริงอะไรปลอม ผลของการปฏิบัตินั้น เป็นสิ่งที่ี่รู้ได้เฉพาะตน จะเล่าให้คนอื่นสัมผัสถึงรสชาตินั้นไม่ได้เลย
    </TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top>ดาว์นโหลด ([​IMG] MP3: 28.1MB, [​IMG]WMA: 1.0MB)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  15. ศิษย์หลวงตา

    ศิษย์หลวงตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2007
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +2,855
    บทที่ ๑๔ วิปัสสนาได้เกิดขึ้น
    <!-- InstanceEndEditable --><TABLE width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><!-- InstanceBeginEditable name="picture" -->
    [​IMG]
    <!-- InstanceEndEditable --><!-- InstanceBeginEditable name="ChBody" --><TABLE cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=text vAlign=top>วิปัสสนาได้เกิดขึ้น </TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top bgColor=#ffcc66 height=10>หลวงพ่อเล่าถึงอุบายและผลการปฏิบัติ ที่ได้จากการพิจารณาการเกิดดับของต้นเครือกระพังโหม ท่านได้ชี้ให้เห็นถึงความเห็นผิดของใจที่มีความผูกพันกับสิ่งต่างๆ ซึ่งทำให้สัตว์โลกวนเวียนอยู่ในโลกทั้งสาม ท่านเน้นย้ำว่าผู้จะหนีจากภพชาตินี้ไปได้นั้น จะต้องเป็นผู้เพียบพร้อมด้วยสติปัญญา รู้เห็นตามความเป็นจริงว่าสรรพสังขารทั้งหลายไม่มีสี่งใดแน่นอน ถึงสังขารนั้นจะสมมติว่าเป็นเราหรือเป็นของของเราอยู่ก็ตาม นั่นก็เป็นเพียงสมมุติเท่านั้น</TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top>ดาว์นโหลด ([​IMG] MP3: 29.9MB, [​IMG]WMA: 1.1MB)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. ศิษย์หลวงตา

    ศิษย์หลวงตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2007
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +2,855
    บทที่ ๑๕ วิปัสสนาญาณได้เกิดขึ้น<!-- InstanceEndEditable --><TABLE width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><!-- InstanceBeginEditable name="picture" --><!-- InstanceEndEditable --><!-- InstanceBeginEditable name="ChBody" --><TABLE cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=text vAlign=top>วิปัสสนาญาณได้เกิดขึ้น<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p> </TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top bgColor=#ffcc66 height=158>หลวงพ่อได้อธิบายถึงเรื่องของวิปัสสนาญาณ โดยได้กล่าวถึงลักษณะและเหตุที่ทำให้เกิดวิปัสสนาญาณ ท่านเน้นย้ำว่าอุบายที่ถูก คือการเปลี่ยนความเห็นผิดเป็นถูก ใช้อุบายเปลี่ยนความคิดในทางโลก ให้กลับมาคิดในทางธรรม เอาอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา มาเป็นอุบายสอนใจ ให้เกิดความแยบคาย รู้เห็นตามความเป็นจริง อย่างนี้จึงเรียกว่า วิปัสสนา เมื่อมีการพัฒนาทางปัญญาบ่อยๆ จะเกิดวิปัสสนาญาณ คือปัญญาที่แยบคาย ที่เข้าไปลบล้างกิเลสขั้นละเอียดให้หมดไปจากใจ
    สุดท้่ายนี้ท่านได้้เล่าถึงลักษณะของนิโรธ คือความดับทุกข์ ความดับในนิโรธนี้ก่อให้เกิดความสงบ เพราะวิญญาณที่ทำหน้าที่ในการรับรู้ได้ดับไป แต่ความสงบนี้ไม่เหมือนกับความสงบในณาน เพราะความสงบในสมาธิยังมีวิญญาณแฝงอยู่
    </TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top>ดาว์นโหลด ([​IMG] MP3: 41.7MB, [​IMG]WMA: 1.5MB)

    บทที่ ๑๖ มูลนิธิวิวัฏธรรม
    <!-- InstanceEndEditable --><TABLE width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><!-- InstanceBeginEditable name="picture" -->
    [​IMG]
    <!-- InstanceEndEditable --><!-- InstanceBeginEditable name="ChBody" --><TABLE cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=text vAlign=top>มูลนิธิวิวัฏธรรม </TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top bgColor=#ffcc66 height=10>มูลนิธิวิวัฏธรรม วัดป่าบ้านค้อ ผู้จัดทำหนังสืออัตโนประวัติหลวงพ่อทูล ขิปฺปปญฺโญ หมายเลขโทรศัพท์ (๐๔๒) ๒๕๐-๗๓๐ หรือ (๐๔๒) ๒๕๐-๗๓๑</TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top>ดาว์นโหลด ([​IMG] MP3: 0.7MB, [​IMG]WMA: 0.01MB)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  17. ศิษย์หลวงตา

    ศิษย์หลวงตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2007
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +2,855
    บทที่ ๑๗ หลวงปู่มั่นมาเยี่ยม<!-- InstanceEndEditable --><TABLE width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><!-- InstanceBeginEditable name="picture" -->
    [​IMG]
    <!-- InstanceEndEditable --><!-- InstanceBeginEditable name="ChBody" --><TABLE cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=text vAlign=top>หลวงปู่มั่นมา<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p>เยี่ยม</O:p><O:p></O:p> </TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top bgColor=#ffcc66>หลวงพ่อเล่าถึงการมาเยี่ยมของหลวงปู่มั่นหลังจากท่านได้บรรลุธรรม ท่านได้เล่าให้ฟังว่าโดยปกติหากมีปัญหาที่สงสัยในหมวดธรรมอะไร หลวงปู่จะมาให้อุบายให้ได้คิดในหมวดธรรมนั้นทันที่ ซึ่งในครั้งนี้หลวงปู่ได้มาแสดงความยินดีต่อผลการปฏิบัติของหลวงพ่อ
    นอกจากนี้ี้ หลวงพ่อได้เล่าถึงนิมิตสอนใจต่างๆ ได้แก่
    • การทำสมาธิที่ถูกต้องควรทำถึงขึ้นไหน
    • การบรรลุธรรมขี้นขั้นสูงว่ามีอยู่จริง
    • อุปสรรคในการเผยแพร่ธรรมะ
    • ลักษณะ, โทษ และการแก้การหลงในณาน
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ดาว์นโหลด ([​IMG] MP3: 30.7MB, [​IMG]WMA: 1.1MB)
     
  18. ศิษย์หลวงตา

    ศิษย์หลวงตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2007
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +2,855
    บทที่ ๑๘ เรื่องของอาสวักขยญาณ<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>
    <!-- InstanceEndEditable --><TABLE width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><!-- InstanceBeginEditable name="picture" --><!-- InstanceEndEditable --><!-- InstanceBeginEditable name="ChBody" --><TABLE cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=text vAlign=top>เรื่องของอาสวักขยญาณ<O:p></O:p> </TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top bgColor=#ffcc66 height=10>หลวงพ่อได้อธิบายถึงเรื่องของอาสวักขยญาณ และได้ให้ความหมายว่า รู้ว่าอาสวะจะสิ้นไป อาสวักขยญาณนั้นเป็นผลของการปฏิบัติขั้นสุดท้าย และจะเกิดกับผู้ที่จะได้บรรลุเป็นพระอรหันต์เท่านั้น เมื่อเกิดขึ้นแล้ว จะรู้ได้ในทันทีว่าอาสวะจะสิ้นไป และจะเกิดพระอรหันตตผลในอีกไม่นาน
    นอกจากนี้ หลวงพ่อยังได้เล่าเรื่องของเทวดาต่างๆ โดยเฉพาะเคหเทวดา เทวดาเหล่านี้จะอาศัยอยู่ตามบ้านของคนที่มีศีลธรรม มีการไหว้พระสวดมนต์และปฏิบัติภาวนาอยู่สม่ำเสมอ เทวดาเหล่านี้จะให้การคุ้มเราและครอบครัวเราให้มีแต่ความสุขความเจริญ ท่านสอนให้เราทำตนให้มีศีลธรรมในใจ เพื่อที่เทวดาจะได้ผล อยากเข้ามาอยู่ใกล้ และคุมครองเรา
    </TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top>ดาว์นโหลด ([​IMG] MP3: 21.9MB, [​IMG]WMA: 0.8MB)</TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. ศิษย์หลวงตา

    ศิษย์หลวงตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2007
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +2,855
    บทที่ ๑๙ กลับวัดถ้ำกลองเพล<!-- InstanceEndEditable --><TABLE width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><!-- InstanceBeginEditable name="picture" -->
    [​IMG]
    <!-- InstanceEndEditable --><!-- InstanceBeginEditable name="ChBody" --><TABLE cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=text vAlign=top>กลับวัดถ้ำกลองเพล<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p> </TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top bgColor=#ffcc66>หลวงพ่อเล่าเรื่องสมัยเมื่อท่านกลับมาจำวัดที่วัดถ้ำกลองเพลกับหลวงปู่ขาว ในช่วงนี้ทั้งสองได้มีการสนทนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์การปฏิบัติและผลของการบรรลุธรรม บทสนทนาของท่านทั้งสองในช่วงนี้ได้กล่าวถึง
    • อุบายการปฏิบัติที่ทำให้หลวงปู่ได้บรรลุธรรม
    • การเปรียบเทียบอุปมาผลของการบรรลุธรรมเหมือนถ่านไฟที่ดับสนิทแล้ว
    • การเปลี่ยนแปลงของกระดูกไปเป็นพระธาต
    • ความแตกต่างระหว่างการรู้ธรรมโดยปริยัติกับผลที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติ
    </TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top>ดาว์นโหลด ([​IMG] MP3: 36.5MB, [​IMG]WMA: 1.3MB)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. ศิษย์หลวงตา

    ศิษย์หลวงตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2007
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +2,855
    บทที่ ๒๐ อดีตการเวียนว่ายตายเกิด
    <!-- InstanceEndEditable --><TABLE width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><!-- InstanceBeginEditable name="picture" -->
    [​IMG]
    <!-- InstanceEndEditable --><!-- InstanceBeginEditable name="ChBody" --><TABLE cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=text vAlign=top>อดีตการเวียนว่ายตายเกิด </TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top bgColor=#ffcc66>หลวงพ่อเล่าถึงบทสนทนากับหลวงปู่ขาวในเรื่องการบำเพ็ญเพียรบารมีในอดีตชาติ หลวงพ่อได้เล่าถึงการสร้างสัจจะบารมี และปัญญาบารมี ขณะที่หลวงปู่ขาวได้เล่าถึงการสร้างเมตตาบารมี โดยท่านทั้งสองนั้นได้สร้างบารมีร่วมกันอยู่ในสมัยพระพุทธเจ้าองค์ก่อน
    นอกจากนี้ ท่านทั้งสองยังได้กล่าวถึงพระร่วมสมัยว่ามีความเกี่ยวข้องกันในอดีตอย่างไร หลวงพ่อเล่าถึงการบำเพ็ญเพียรบารมีร่วมกับหลวงปู่มั่นในสมัยพระพุทธกาล ซึ่งเป็นเหตุุให้หลวงปู่มั่นได้มีเมตตา มาโปรดแนะแนวอุบายการปฏิบัติแก่หลวงพ่อในชาติปัจจุบัน ในส่วนของหลวงปู่ขาว ท่านได้เล่าถึงความสัมพันธ์ของท่านกับพระสาลีบุตร
    </TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top>ดาว์นโหลด ([​IMG] MP3: 40.2MB, [​IMG]WMA: 1.5MB)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...