อัพเดตข่าวสาร วัดท่าขนุนและหลวงพ่อเล็ก

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์วัดท่าขนุน, 2 กันยายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    1528023265_846_ถ่ายทอดสดจากบ้านเติมบุ.jpg

    ถ่ายทอดสดจากบ้านเติมบุญ วันที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๖๑
    พระอาจารย์รับสังฆทานและตอบปัญหาจากเว็บวัดท่าขนุน เวลาประมาณ ๑๗.๔๕ น.
    เริ่มเจริญกรรมฐาน เวลา ๑๘.๓๐ น.
    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  2. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg

    รักษาศีลเป็นเวลา

    ถาม:
    ทำงานต้องติดต่อลูกค้า อย่างนี้เรียกว่าโกหกไหมคะ ?
    ตอบ: ถ้าหากว่าเรารับสินค้ามา สมมติว่าราคาหนึ่ง แต่ว่าเราต้องการขายอีกราคาหนึ่ง ลักษณะนี้เราก็บอกเขาแล้วกันว่า รับมาแพง จึงต้องขายราคาแพง ต้องขายราคานี้ จะเป็นราคาอื่นไม่ได้ แต่อย่าไปบอกเขาว่ารับมาเท่านั้นบาทเท่านี้บาท ถ้าประเภทนั้นโกหกตรง ๆ แต่รับมาแพง แต่ไม่ได้บอกว่าแพงนั้นคือราคาเท่าไร ๓ บาท ๕ บาทก็แพงของเรา

    ถาม:
    ตัวเองเป็นคนตรง ๆ แล้วสงสารลูกค้าด้วยค่ะ ?
    ตอบ: ถ้าหากว่าอันไหนหนักใจเรา คิดว่าเราไม่สามารถจะแก้ไขได้ จะต้องศีลขาดแน่ ๆ เราต้องโกหกเขาแน่ ๆ ให้กำหนดไปเลยว่า ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาจนกระทั่งไปถึงที่ทำงาน เราจะไม่โกหกอย่างเด็ดขาด คือให้รักษาศีลเป็นเวลาแทน หลังจากนั้นก็ว่าไปตามความจำเป็น แต่เลิกงานเมื่อไรจนถึงกลับบ้าน เราจะไม่โกหกอย่างเด็ดขาด

    ใช้วิธีรักษาเป็นเวลาแทนอย่างนี้ อย่างน้อย ๆ ๒๔ ชม. เราก็ไม่ได้ขาดทุนตลอดเวลา ยังมีส่วนของกำไรอยู่บ้าง

    สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๕

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  3. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg

    คลิปวีดีโองานทำบุญวันวิสาขบูชา ปี ๒๕๖๑
    วันอังคารที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๑
    ณ วัดท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
    พร้อม Unseen Thailand ตามประทีบ ๒๐,๐๐๐ ดวง
    ถวายเป็นพุทธบูชา (ปีนี้แปรอักษรเป็นภาพรอยพระพุทธบาทครับ)
    #ร่วมกันแชร์เรื่องดีๆในพระพุทธศาสนากันครับ
    ชาวอำเภอทองผาภูมิและใกล้เคียงมาร่วมงานทำบุญ
    ที่วัดท่าขนุนในวันวิสาขบูชา โดยในการทำบุญครั้งนี้
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. (พระอาจารย์เล็ก) เจ้าอาวาส
    ได้แสดงพระธรรมเทศนาวันวิสาขบูชา หลังจากนั้นประชาชน
    ได้ร่วมใจกันถวายผ้าป่าฯ เพื่อทำบุญกิ่งกาชาดทองผาภูมิ

    โดยพระอาจารย์เล็กได้รับผ้าป่าฯ และนำปัจจัยทำบุญจาก
    คณะศิษย์วัดท่าขนุนทั่วประเทศที่ร่วมบุญมาสมทบกับผ้าป่าฯ
    รวมทั้งสิ้น ๕๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งพระอาจารย์เล็กได้มอบปัจจัย
    ให้แก่ว่าที่ ร.ต.สุจินต์ ศรีวิเชียร นายอำเภอทองผาภูมิ
    รับไปดำเนินการต่อไป

    หลังจากนั้นพระอาจารย์เล็กได้มอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนและนักศึกษาใน อ.ทองผาภูมิ ในระดับต่าง ๆ (ใช้เงินจากปัจจัยส่วนองค์ที่คณะลูกศิษย์ถวาย) จำนวน ๒๕๓ ทุน รวม ๗๗๔,๐๐๐ บาท ประกอบด้วย

    ระดับประถมศึกษา ทุนละ ๒,๐๐๐ บาท จำนวน ๒๐๑ ทุน
    ระดับมัธยมศึกษา ทุนละ ๓,๐๐๐ บาท จำนวน ๔๔ ทุน
    ระดับอุดมศึกษา ทุนละ ๓๐,๐๐๐ บาท จำนวน ๘ ทุน

    ในเวลา ๑๒.๓๐ น. มีการอุปสมบทหมู่ จำนวน ๖ รูปในวันวิสาขบูชา ซึ่งทางวัดจัดบวชฟรี (โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย) หลังจากนั้นเวลาประมาณบ่ายสอง พระภิกษุสงฆ์ สามเณร แม่ชี และฆราวาสได้ช่วยกันวางผางประทีบ ๒๐,๐๐๐ ผาง และจุดตามประทีบ ๒๐,๐๐๐ ดวงถวายเป็นพุทธบูชา (Unseen Thailand ของอำเภอทองผาภูมิ) ในช่วง ๒๐.๐๐ น. มีการเวียนเทียนรอบพระอุโบสถวัดท่าขนุน (ซึ่งอยู่ระหว่างการปรับปรุงใหม่)

    ชมผ่าน Youtube ได้ที่
    https://youtu.be/eBuidP2MHVA

    ถ่ายภาพและตัดต่อโดย : Pixel Group
    อำนวยการผลิตโดย : ชมรมโมทนาบุญ เว็บพลังจิต
    รายงานข่าวโดย : ทีมประชาสัมพันธ์ เว็บพลังจิต

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  4. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg

    สำหรับวันนี้อยากให้ทุกท่านคำนึงถึงหลักการปฏิบัติง่าย ๆ แต่ลึกซึ้งอย่างหนึ่งก็คือมรณานุสติ มรณานุสติกรรมฐานนั้นเป็นกรรมฐานที่จำเป็นอย่างยิ่ง ที่เราทั้งหลายจะต้องศึกษาและปฏิบัติเอาไว้ เพราะว่าการระลึกถึงความตายนั้น ทำให้เราเป็นผู้ไม่ประมาท เมื่อเราเป็นผู้ไม่ประมาท เห็นว่าความตายสามารถมาถึงได้ทุกเวลา ก็จะตั้งหน้าตั้งตาขวนขวายปฏิบัติ เพื่อก่อนที่ความตายจะมาถึง เราจะได้ไปให้ไกลที่สุด ถ้าสามารถหลุดพ้นไปสู่พระนิพพานได้เลยก็ยิ่งดี

    การพิจารณาในมรณานุสติกรรมฐานนั้น ส่วนใหญ่แล้วเรามักคิดถึงแต่ความตาย บางท่านก็อาจจะคิดไกลกว่านั้นหน่อย ว่าตัวเราก็ตาย คนอื่นก็ตาย สัตว์อื่นก็ตาย เป็นต้น โบราณาจารย์ท่านแนะนำในเรื่องการระลึกถึงมรณานุสติไว้หลายนัยด้วยกัน

    วิธีที่ ๑ ให้ระลึกถึงโดยเวลา ว่าความตายนั้นมาโดยไม่มีเวลาจำกัด เราจะตายลงไปเมื่อไรก็ได้ เป็นเด็กยังไม่ทันจะคลอดเคลื่อนจากท้องแม่ก็อาจจะตายแล้ว บางคนเพิ่งคลอดออกมาก็ตาย บางคนเป็นเด็กเล็กก็ตาย บางคนเป็นเด็กโตก็ตาย บางคนเป็นหนุ่มสาวแล้วก็ตาย บางคนถึงวัยกลางคนก็ตาย บางคนแก่ชราแล้วถึงจะตาย

    ถ้าเราพิจารณาโดยเวลาลักษณะอย่างนี้ ก็จะเห็นได้ชัดเจนว่า ความตายนั้นไม่มีนิมิตเครื่องหมาย สามารถมาถึงเราได้ตลอดเวลา แม้กระทั่งลมหายใจของเรา ถ้าหายใจเข้าไม่หายใจออกก็ตาย ถ้าหายใจออกไม่หายใจเข้าก็ตายเช่นกัน ดังนั้น..วิธีการพิจารณามรณานุสติกรรมฐาน ถ้าพิจารณาโดยเวลาก็มีนัยดังที่ได้กล่าวมานี้

    วิธีที่ ๒ ให้พิจารณาโดยฐานะ ดูบุคคลที่มีฐานะร่ำรวย อย่างในอดีตเช่นเมณฑกเศรษฐี มีแพะทองคำล้อมรอบบ้านอยู่ แต่ละตัวโตเหมือนช้าง ภายในท้องแพะทองคำมีทรัพย์สมบัติสิ่งของทุกอย่าง ต้องการอะไรก็แค่ดึงสลักที่อุดปากแพะออก สิ่งของที่ต้องการก็จะไหลออกมาให้ ร่ำรวยจนนับไม่ได้ว่าตนเองมีเงินเท่าไร หรือชฏิลเศรษฐี มีภูเขาทองเกิดขึ้นในบ้าน หรือปุณณเศรษฐี สมัยที่ยังเป็นทาสเขาอยู่ ไถนาเท่าไร ขี้ไถก็กลายเป็นทองคำหมด เมื่อได้รับพระราชทานที่ให้ไปสร้างบ้านเรือน ขุมทรัพย์ก็เกิดขึ้นในที่ตั้งบ้านอีก หรือโชติกเศรษฐี ที่ร่ำรวยมหาศาลขนาดมีปราสาทแก้วมณี เป็นต้น

    ท่านทั้งหลายเหล่านี้ก็ไม่อาจจะใช้ความร่ำรวยซื้อชีวิตตนเองให้ยืนยาวได้ ท้ายสุดก็ตายหมด ถ้าเรามาดูในยุคปัจจุบัน บุคคลที่มีฐานะร่ำรวยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบิล เกตส์ ไม่ว่าจะเป็นวอร์เรน บัฟเฟตต์ ไม่ว่าจะเป็นสตีฟ จอบส์ เป็นต้น ท่านทั้งหลายเหล่านี้ก็ไม่สามารถที่จะล่วงพ้นจากความตายเช่นกัน เรียกว่าโดยฐานะจะร่ำรวยขนาดไหนก็ต้องตายทั้งสิ้น

    วิธีที่ ๓ ท่านบอกว่าให้พิจารณาโดยยศ บุคคลที่ยิ่งใหญ่ในอดีต อย่างเช่นพระเจ้าจักรพรรดิก็ดี พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ก็ดี มีใครจะสามารถใช้ความยิ่งใหญ่ในยศศักดิ์ รั้งชีวิตจากความตายได้หรือไม่ ? ก็ไม่มี..แม้กระทั่งในปัจจุบันของเรา บรรดาผู้นำประเทศต่าง ๆ ก็ล่วงลับดับขันธ์ไปให้เห็นอยู่เป็นระยะ ๆ

    เราจะเห็นว่าแม้จะยิ่งใหญ่ระดับประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดีของประเทศจีน ก็ไม่สามารถที่จะล่วงพ้นความตายไปได้ การพิจารณาความตายโดยยศ จึงสามารถพิจารณาโดยนัยอย่างที่กล่าวมานี้

    วิธีที่ ๔ ท่านบอกว่าให้พิจารณาโดยฤทธิ์ บุคคลที่มีฤทธิ์ มีอำนาจมาก อย่างในสมัยพุทธกาลคือพระโมคคัลลานะ มีฤทธิ์เป็นเลิศยิ่งกว่าพระสาวกทั้งปวงขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ไม่สามารถที่จะรอดพ้นจากความตายไปได้ เป็นต้น

    แม้กระทั่งในยุคปัจจุบัน หลวงปู่ หลวงพ่อจำนวนมากมายที่มีคุณวิเศษ เป็นที่เชื่อมั่น เป็นที่เคารพศรัทธาของมหาชน ต่างก็ล่วงลับดับขันธ์ไปตามลำดับ ดังนั้น..การพิจารณาความตายว่า แม้กระทั่งบุคคลที่มีประกอบไปด้วยฤทธิ์อำนาจเห็นปานนี้ ก็ยังไม่สามารถจะล่วงพ้นความตายไปได้ จึงเป็นวิธีพิจารณาความตายอีกนัยหนึ่ง

    วิธีที่ ๕ ให้พิจารณาโดยปัญญา อย่างเช่นพระสารีบุตรเป็นอัครสาวกผู้เลิศด้วยปัญญา กล่าวกันว่าแม้กระทั่งนักปราชญ์ในปัจจุบันของเรานั้น ถ้าแบ่งเอาปัญญาพระสารีบุตรออกเป็น ๑๖ ส่วน แล้วนำ ๑ ส่วนใน ๑๖ ส่วนนั้นมาแบ่งลงออกเป็นอีก ๑๖ ส่วน นำส่วนหนึ่งใน ๑๖ ส่วนที่สองมาแบ่งลงอีก ๑๖ ดังนี้เป็นลำดับ ๆ ไป จนถึงส่วนที่ ๑๖ ของ ๑๖ ก็ยังมีปัญญามากมายมหาศาลกว่าบุคคลทั้งหมดในยุคปัจจุบันของเรา บุคคลที่มีปัญญาขนาดพระสารีบุตรก็ยังไม่สามารถจะใช้ปัญญาหลบหลีกความตายไปได้ การพิจารณาความตายโดยนัยแห่งปัญญาก็มีดังที่ได้กล่าวมานี้

    วิธีที่ ๖ ให้พิจารณาว่า แม้แต่พระปัจเจกพุทธเจ้า ผู้สามารถตรัสรู้โดยตนเอง ยังไม่สามารถที่จะล่วงพ้นความตายไปได้ พระปัจเจกพุทธเจ้าถึงเวลาก็อุบัติขึ้นทีละหลาย ๆ พระองค์ บางครั้งก็เป็นแสน ๆ พระองค์ในคราวเดียวกัน พระองค์ท่านประกอบไปด้วยคุณความดีดังองค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกประการ ขาดแต่เพียงสัพพัญญุตญาณเท่านั้น เป็นผู้ที่เลิศกว่าอัครสาวกอย่างพระโมคคัลลาน์พระสารีบุตร จนไม่สามารถจะประมาณคุณความดีได้ แต่ทุกพระองค์ก็ล้วนแล้วแต่ดับขันธ์เข้าสู่พระปรินิพพานไปแล้วทั้งสิ้น การพิจารณาความตายโดยยึดเอาพระปัจเจกพุทธเจ้าเป็นอุทาหรณ์ ก็สามารถพิจารณาได้ดังที่กล่าวมานี้

    วิธีสุดท้ายคือการพิจารณาโดยเอาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นอุทาหรณ์ องค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา เป็นผู้เลิศไปด้วยความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรม เมื่อตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณเข้าถึงความบริสุทธิ์นั้น พระองค์ท่านต้องบำเพ็ญเพียรมาอย่างน้อย ๒๐ อสงไขยกัป เนื่องจากคิดว่าเราจะเป็นพระพุทธเจ้า ๗ อสงไขยกัป กล่าวว่าเราจะเป็นพระพุทธเจ้าอีก ๙ อสงไขยกัป ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติเพื่อความเป็นพระพุทธเจ้าอีก ๔ อสงไขยกับแสนมหากัป

    ระยะเวลาที่ยาวนานไม่เห็นต้นเห็นปลายนี้ พระองค์ท่านทรงพากเพียรบากบั่น จนกระทั่งประกอบไปด้วยบารมีซึ่งเป็นที่ยอมรับของทั้งมนุษย์ ทั้งเทวดา และทั้งพรหมทั่วไป บุคคลที่ยิ่งใหญ่ เป็นเลิศ ประเสริฐ ไม่มีสองในโลกอย่างพระองค์ท่าน ก็ยังเสด็จดับขันธ์เข้าสู่พระปรินิพพานเช่นกัน ตัวเราซึ่งมีอัตภาพแต่เพียงนี้ มีฐานะเพียงนี้ มียศเพียงนี้ มีฤทธิ์มีปัญญาแต่เพียงนี้ ไม่มีสักส่วนเสี้ยวเดียวที่สามารถเปรียบเทียบองค์พระปัจเจกพุทธเจ้าหรือพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ แล้วเราจะล่วงพ้นความตายไปได้นั้น ย่อมเป็นเรื่องที่ไม่ได้อยู่ในวิสัย อย่างไรเสียเกิดมาเราก็ต้องตายอย่างแน่นอน

    ในเมื่อความตายจะมาถึงเราในทุกขณะ ถ้าเราตายแล้วต้องเวียนว่ายมาเกิดอีก ก็จะประกอบไปด้วยความทุกข์เช่นนี้อีก ดังนั้น..เราจึงควรที่จะขวนขวายหาทางหลุดพ้นเสียดีกว่า ก็ให้ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติในศีล สมาธิ และปัญญา จนกระทั่งศีลของเราบริสุทธิ์บริบูรณ์ สมาธิทรงตัวตั้งมั่น มีปัญญาเห็นจริงว่าสภาพของร่างกายนี้ก็ดี สภาพของโลกนี้ก็ดี ประกอบไปด้วยความไม่เที่ยงเป็นปกติ ประกอบไปด้วยความทุกข์เป็นปกติ ไม่สามารถยึดถือมั่นหมายเป็นตัวตนเราเขาได้ ท้ายที่สุดก็เสื่อมสลายตายพังไปทั้งสิ้น

    ขึ้นชื่อว่าการเกิดมาเช่นนี้เราไม่ต้องการอีก สามารถถอนจิตของตนพ้นจากความยินดีในร่างกายนี้ ในโลกนี้ ก็สามารถหลุดพ้นเข้าสู่พระนิพพานได้ ด้วยอำนาจของมรณานุสติกรรมฐานดังพรรณนามา ลำดับต่อไปก็ให้ทุกคนตั้งใจภาวนาหรือพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เทศน์ช่วงกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
    วันอาทิตย์ที่ ๓ มีนาคม ๒๕๕๖

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  5. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg

    ท่านใดที่ยังไม่ได้ไปกราบรอยพระพุทธบาท วันที่ ๒๓ มิ.ย. ๒๕๖๑ นี้ มีงานหล่อพระที่วัดท่าขนุน สามารถไปร่วมเดินขึ้นบันไดไปกราบรอยพระพุทธบาท และรอยเท้าหลวงปู่สายได้นะคะ
    เปิดให้ขึ้นได้ทุกวัน แต่แนะนำลงมาก่อนจะมืดนะคะ

    ฝากช่วยดูแล
    ๑. อย่าจุดธูปเทียน หรือติดไฟระหว่างทางขึ้นลง หรือบริเวณที่กราบนมัสการรอยพระพุทธบาท เพราะรอบด้านเป็นป่าไผ่ เสี่ยงต่อการเกิดเพลิงใหม้
    ๒. สามารถนำแผ่นทองไปปิดถวายเป็นพุทธบูชาได้
    ๓. กรุณานำขยะลงทิ้งที่ด้านล่าง หากพบเจอ แม้ไม่ใช่ของเรา ก็ฝากช่วยกันหยิบลงมาด้วยนะคะ

    ขอเชิญกราบนัมสการรอยพระพุทธบาท “ครั้งหนึ่งในชีวิต” ค่ะวีดีโองานเปิดทางขึ้นนมัสการรอยพระพุทธบาทวัดท่าขนุน ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี วันอาทิตย์ที่ ๒๗ พฤษภ…

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  6. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg

    วีดีโองานทำบุญวันวิสาขบูชา ปี ๒๕๖๑ วันอังคารที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๑
    ณ วัดท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี พร้อม Unseen Thailand ตามประทีบ ๒๐,๐๐๐ ดวง ุถวายเป็นพุทธบูชา
    ชาวอำเภอทองผาภูมิและใกล้เคียงมาร่วมงานทำบุญที่วัดท่าขนุนในวันวิสาขบูชา โดยในการทำบุญครั้งนี้
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. (พระอาจารย์เล็ก) เจ้าอาวาส ได้แสดงพระธรรมเทศนาวันวิสาขบูชา
    หลังจากนั้นประชาชนได้ร่วมใจกันถวายผ้าป่าฯ เพื่อทำบุญกิ่งกาชาดทองผาภูมิ

    โดยพระอาจารย์เล็กได้รับผ้าป่าฯ และนำปัจจัยทำบุญจากคณะศิษย์วัดท่าขนุนทั่วประเทศที่ร่วมบุญ
    มาสมทบกับผ้าป่าฯ รวมทั้งสิ้น ๕๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งพระอาจารย์เล็กได้มอบปัจจัย
    ให้แก่ว่าที่ ร.ต.สุจินต์ ศรีวิเชียร นายอำเภอทองผาภูมิ รับไปดำเนินการต่อไป

    หลังจากนั้นพระอาจารย์เล็กได้มอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนและนักศึกษาใน อ.ทองผาภูมิ ในระดับต่าง ๆ
    (ใช้เงินจากปัจจัยส่วนองค์ที่คณะลูกศิษย์ถวาย) จำนวน ๒๕๓ ทุน รวม ๗๗๔,๐๐๐ บาท ประกอบด้วย

    ระดับประถมศึกษา ทุนละ ๒,๐๐๐ บาท จำนวน ๒๐๑ ทุน
    ระดับมัธยมศึกษา ทุนละ ๓,๐๐๐ บาท จำนวน ๔๔ ทุน
    ระดับอุดมศึกษา ทุนละ ๓๐,๐๐๐ บาท จำนวน ๘ ทุน

    ในเวลา ๑๒.๓๐ น. มีการอุปสมบทหมู่ จำนวน ๖ รูปในวันวิสาขบูชา ซึ่งทางวัดจัดบวชฟรี (โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย)
    หลังจากนั้นเวลาประมาณบ่ายสอง พระภิกษุสงฆ์ สามเณร แม่ชี และฆราวาส
    ได้ช่วยกันวางผางประทีบและจุดตามประทีบ ๒๐,๐๐๐ ดวงถวายเป็นพุทธบูชา (Unseen Thailand ของอำเภอทองผาภูมิ)
    ในช่วง ๒๐.๐๐ น. มีการเวียนเทียนรอบพระอุโบสถวัดท่าขนุน (ซึ่งอยู่ระหว่างการปรับปรุงใหม่)

    ถ่ายภาพและตัดต่อโดย : Pixel Group
    อำนวยการผลิตโดย : ชมรมโมทนาบุญ เว็บพลังจิต
    รายงานข่าวโดย : ทีมประชาสัมพันธ์ เว็บพลังจิต

    ขอเชิญทุกท่านร่วมโมทนาค่ะคลิปวีดีโองานทำบุญวันวิสาขบูชา ปี ๒๕๖๑ วันอังคารที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ณ วัดท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี พร้…..

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  7. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    พระท่านว่า “อสาธุง สาธุนา ชิเน พึงชนะความไม่ดีด้วยความดี” นี่เป็นพุทธพจน์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลย ตั้งหน้าตั้งตาทำกันไป ต่อให้เป็นมด รุมกันกัดเดี๋ยวช้างก็ถอยไปเอง สำคัญว่ามดเราต้องสามัคคีเหนียวแน่นกันเท่านั้น
    ……………………………….
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
    www.watthakhanun.com

    -อสาธุง-สาธุน.jpg

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  8. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    -ทำไมปฏิบัติไปแล้วไ.jpg

    ถาม :
    ทำไมปฏิบัติไปแล้วไม่ก้าวหน้า ?
    ตอบ : ถ้าไม่ทำเกินก็ทำขาด แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะทำขาด เวลาเราทำประมาณวันละหนึ่งชั่วโมง อีกยี่สิบสามชั่วโมงกิเลสกินตลอด ก็ขาดทุนไปยี่สิบสามชั่วโมง ดังนั้น..ต้องรักษาอารมณ์ใจให้ได้ตลอดทั้งวัน

    ถาม : ต้องพยายามทำให้ได้ทั้งวัน ?
    ตอบ : ใช่..แต่ไม่ต้องนั่งทั้งวัน นั่งหนึ่งชั่วโมงก็ได้ แต่เวลานั่งแล้วกำลังใจเรานิ่งขนาดไหน ถึงเวลาเลิกนั่งแล้ว ให้รักษาความนิ่งให้อยู่กับเราให้ได้ ต้องลองไปซ้อม ๆ ดู ถ้าทำได้จึงจะก้าวหน้า แรก ๆ ขยับก็หล่นหาย ซ้อมบ่อย ๆ เดี๋ยวก็ดีขึ้น

    สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๓

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  9. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    หล่อองค์จำลองหลวงพ่อทองคำ (เนื้อเงิน) หน้าตัก ๑๙ นิ้ว
    ณ วัดท่าขนุน
    วันเสาร์ที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๑
    เริ่มถ่ายทอดสดเวลาประมาณ ๑๒.๐๐ น. เป็นต้นไป
    ฤกษ์หล่อพระเวลา ๑๓.๑๕ น.

    youtube: sapanboon
    facebook: watthakhanun

    #ธรรมจักรไทย

    .jpg

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  10. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    เนื่องจากใกล้วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา อย่างวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา
    ทางเพจจึงขอเชิญชวนชาวพุทธทุกท่านร่วมกิจกรรม “ชูธงธรรมจักร”
    เพียงแค่ทุกท่านร่วมกันเปลี่ยนรูปภาพหน้าปกในสื่อโซเชียลมีเดียของท่าน
    ให้เป็นรูปธงธรรมจักรตามไฟล์รูปที่ปรากฎ พร้อมติดแฮชแท็ก #ธรรมจักรไทย
    เพื่อแสดงออกถึงพลังความสามัคคีของพุทธศาสนิกชนชาวไทยร่วมกันครับ

    .jpg

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  11. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg

    ฝึกจับลมหายใจ

    ถาม: มีปัญหาเรื่องลมหายใจ ๓ ฐาน หลวงพ่อวัดท่าซุงบอกว่า พอลมเข้าก็มาที่อก แล้วก็มาที่ท้อง เวลาลมหายใจออก ไม่เห็นรู้สึกตรงหน้าอกเลยครับ ?
    ตอบ: ถ้าจิตยังไม่ละเอียดก็จะไม่รู้สึก ต้องฝึกไปสักพักหนึ่งถึงจะรู้สึกได้

    ถาม: ลมละเอียดขนาดไหนครับถึงจะรู้สึก ?
    ตอบ: เราเอาความรู้สึกตาม ตอนนี้เราหายใจเข้าไป ตอนนี้เราหายใจออกมา หายใจเข้าผ่านจมูก ผ่านกึ่งกลางอก ลงไปสุดที่ท้อง ออกจากท้อง ผ่านกลางอก มาสุดที่จมูก ตามความรู้สึกไปแค่นั้นเอง ว่าตอนนี้เข้า ตอนนี้ออก

    ถาม:
    รู้สึกภายในใช่ไหมครับ ผมนึกว่าให้ลมพัดผ่าน ?
    ตอบ: ใช่..รู้สึกอยู่อยู่ข้างใน เพราะว่าลมเดินอยู่ข้างใน

    ถาม: แล้วฝึกแค่ปลายจมูกนี้ได้ไหมครับ ?
    ตอบ: ได้..ฝึกจับ ๓ ที่ก็ได้ ๗ ที่ก็ได้ ไม่เอาสักที่เลยก็ได้

    ไม่เอาสักที่แบบนี้ฝึกยาก เพราะว่าต้องรู้ตลอดลมหายใจ หายใจเข้ารู้ยาวไปเลย เท่ากับต้องสัมผัสตลอดเส้นทาง ออกก็รู้ยาวออกไปเลย ถ้าจิตไม่ละเอียดจริง ๆ จะรู้ได้ไม่ตลอด

    สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๕

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  12. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    กระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๑๗๒
    เดือนมิถุนายน ๒๕๖๑

    โดยพระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    วัดท่าขนุน ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

    เล่มอื่น ๆ ตามไปอ่านได้ที่ http://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=60 และ http://www.grathonbook.net/book/ นะคะ

    -ฉบับ.jpg

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  13. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg

    คิดปรามาสพระรัตนตรัยและครูบาอาจารย์

    ถาม :
    ยิ่งนับถือสิ่งใดมาก ๆ นับถือครูบาอาจารย์องค์ไหนมาก ๆ ใจบางทีก็จะแวบไปอคติบ้างอะไรบ้าง ?
    ตอบ : นี่..ตัวนี้ชัดเลย ให้ขอขมาพระรัตนตรัยประจำ ๆ พอกำลังใจของเราถึงตรงจุดนี้มา มารเขารู้ว่าเราจะพ้นมือเขาแล้ว เขาจะพยายามทำทุกวิถีทาง ให้เราล่วงเกินหรือปรามาสพระรัตนตรัย ด้วยกาย ด้วยวาจา หรือด้วยใจ ไม่ว่าวิธีใดวิธีหนึ่ง

    บางคนภาวนาไม่ได้เลย หลับตาลงเมื่อไร นึกถึงภาพที่ตัวเองลบหลู่ครูบาอาจารย์หรือทำสิ่งที่ไม่ดีไม่งาม ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ไม่คิดจะทำอย่างนั้น มาสร้างภาพให้ปรากฏขึ้นมาชัด ๆ เลยก็มี ให้คิดเสียว่านี่เป็นการชักนำจากสิ่งภายนอก ด้วยอำนาจของกิเลส ตัณหา อุปาทาน และอกุศลกรรม ชักนำให้เป็นไป ไม่ใช่ความผิดของเรา

    แต่ถึงไม่ใช่ความผิดของเราก็เถอะ ในเมื่อเราเป็นคนคิด เป็นคนพูด เป็นคนทำ เราก็ตั้งใจที่จะขอขมา ให้ตั้งใจอย่างนี้อยู่บ่อย ๆ เจ้าพวกนี้ทนคนหน้าด้านไม่ได้ พอถึงเวลา เราตั้งใจขอขมาบ่อย ๆ ตั้งใจทำบ่อย ๆ เขารู้ว่าถึงเขาทำอย่างนี้ เราก็ไม่กระเทือน เขาก็จะเลิกไปเอง
    ……………………………….
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  14. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg

    การปฏิบัติธรรมของพวกเรานั้น ต่อให้เราเป็นคนเดียวในครอบครัว คนเดียวในหมู่บ้าน เราก็ไม่ใช่โดดเดี่ยว การปฏิบัติธธรมของเรานั้น บรรดาญาติพี่น้องทั้งหลายที่ล่วงลับไปแล้วในอดีต ตลอดจนกระทั่งเทวดา นางฟ้า พรหมทั้งหลาย ล้วนแล้วแต่พลอยปีติ พลอยยินดีกับเราไปด้วยทั้งนั้น ยิ่งถ้าเราประสบความสำเร็จ สามารถทรงฌานสมาบัติได้ สามารถรักษาศีลให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ หรือสามารถทรงความเป็นพระอริยเจ้าได้ ท่านทั้งหลายเหล่านั้นก็ยิ่งปีติยินดีไปกับเราอีกหลายเท่านัก

    ดังนั้น..การที่เราทำความดี บางทีอาจจะมีกระแสที่เข้ามากระทบหูของเราว่าบ้าบ้าง ทำไปแล้วได้ประโยชน์อะไรบ้าง จนกระทั่งเรารู้สึกว่าโดดเดี่ยวเดียวดาย ไม่มีใคร..เหมือนเราอยู่ในโลกนี้คนเดียว ถ้าเป็นดังนั้นอาตมาเองขอยืนยันว่า เราไม่ได้โดดเดี่ยว มีบุคคลที่รอคอยความสำเร็จของเราอยู่มากต่อมากด้วยกัน

    ในแต่ละวันพระ เมื่อภุมมเทวดานำเอาบัญชีความดีความชั่วของมนุษย์ทั้งหลาย ส่งต่อท้าวจาตุมหาราช ท้าวจาตุมหาราชนำไปส่งให้ปัญจสิกขเทพบุตร เพื่อที่จะได้ประกาศคุณความดีในท่ามกลางเทวสภา ถ้ามีคนทำความดีเป็นจำนวนมาก เทวดานางฟ้าทั้งหลายก็รื่นเริงเบิกบานใจ บางทีระงับอาการดีใจไม่อยู่ ก็ถึงขนาดร้องรำทำเพลงกันเลย

    ขณะเดียวกันหลวงปู่หลวงพ่อครูบาอาจารย์ทั้งหลาย ก็เฝ้ารอความสำเร็จจากพวกเรา โดยเฉพาะหลวงปู่หลวงพ่อที่ท่านล่วงลับไปแล้ว ล้วนแล้วแต่รอดูว่าเมื่อไรลูก ๆ หลาน ๆ ของท่านจะประสบความสำเร็จ จะรักษาศีลได้บริสุทธิ์บริบูรณ์ จะทรงฌานสมาบัติระดับใดระดับหนึ่งได้ จะพยายามศึกษาแล้วก้าวเข้าสู่ความเป็นโสดาบันได้ เป็นต้น

    เมื่อเป็นเช่นนั้นแสดงว่าสิ่งที่ท่านทั้งหลายทำ เราไม่ได้เดินคนเดียว เราเดินอยู่บนเส้นทางพระโยคาวจร ซึ่งประกอบไปด้วยพ่อแม่พี่น้อง ตลอดจนกระทั่งครูบาอาจารย์ ปู่ย่าตายายทั้งหลายทั้งปวง
    แม้กระทั่งพระที่ท่านเป็นองค์ต้นในการนำคำสั่งสอนมาสู่พวกเราทั้งหลาย ก็ล้วนแล้วแต่ก้าวเดินไปพร้อมกับเรา รอยินดีในผลสำเร็จของพวกเรา สิ่งที่เราทำไม่ใช่ไม่มีใครรู้เห็น แต่ว่าท่านที่รู้เห็นนั้น เราเองไม่สามารถที่จะรู้เห็นท่านได้ชัดเจน ทำให้บางทีเราก็หมดกำลังใจ

    อาตมาจึงนำมากล่าวไว้ในที่นี้ เพื่อบอกให้ทุกท่านได้ทราบว่า จริง ๆ แล้วการที่เราปฏิบัติธรรม ไม่ว่าจะเป็นการให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ล้วนแล้วแต่มีบุคคลที่พลอยยินดีและสนับสนุนเราจำนวนนับไม่ถ้วน การอุทิศส่วนกุศลของเราแต่ละครั้งหลังจากการปฏิบัติธรรม หลังจากการบำเพ็ญกุศล ไม่ว่าจะเป็นทานในสังฆทานก็ดี ในวิหารทาน ในธรรมทานก็ดี บุคคลที่โมทนาของเรามีจำนวนครั้งละหลายพัน บางครั้งก็ถึงหลายหมื่น แล้วแต่วาระ แล้วแต่โอกาส

    ถ้าตรงกับวาระตรงกับโอกาสที่พระยายมราชท่านหยุดการตัดสิน บรรดาท่านทั้งหลายที่มาโมทนาบุญ บางทีรายล้อมกันจนสุดลูกหูลูกตา ดังนั้น..การที่เราปฏิบัติในทาน ศีล ภาวนา หรือศีล สมาธิ ปัญญา เราไม่ใช่โดดเดี่ยว แต่เรามีบุคคลที่ก้าวพร้อมไปกับเรา พลอยยินดีในความสำเร็จของพวกเรา หรือรอคอยความสำเร็จของพวกเรา เพื่อที่ประโยชน์ความสุขที่เราได้รับจะได้ตกถึงเขาทั้งหลายเหล่านั้นบ้าง

    เมื่อเรารู้เช่นนี้แล้วจะได้มีกำลังว่า ที่เราปฏิบัติอยู่นั้น แม้ว่าคนจำนวนหนึ่งจะเห็นว่าเราผิดปกติ อาจจะถึงขนาดออกปากตำหนิติเตียนว่าบ้าบ้างอะไรบ้าง ก็ถือว่านั้นเป็นบุคคลส่วนน้อย บุคคลส่วนมากล้วนแล้วแต่พลอยยินดีในความดีของเราทั้งสิ้น เราจึงควรที่จะตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติในศีล ในสมาธิ ในปัญญาทั้งหลายให้เต็มสติ เต็มกำลังของเรา บุคคลที่รอคอยความสำเร็จของเรา ก็คือบุคคลที่มีความสัมพันธ์กันมาในอดีต จำนวนมากเหลือเกิน เพราะว่าเราเกิดมาจนนับชาติไม่ถ้วน

    ขณะเดียวกัน หลวงปู่หลวงพ่อที่นำเอาพระธรรมคำสอนมาเผยแพร่ต่อเราก็ดี องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เป็นต้นทางของพระธรรมคำสอนนั้นก็ดี ล้วนแล้วแต่รอคอยอยู่ ว่าเมื่อไรเราจะก้าวถึงจุดของความสำเร็จ เมื่อไรเราทั้งหลายจะล่วงพ้นจากกองทุกข์ เข้าสู่พระนิพพานได้

    ดังนั้น..สิ่งที่เราทำในแต่ละวัน สิ่งที่เราทำในแต่ละครั้ง นอกจากเราไม่ได้โดดเดี่ยวเดียวดายแล้ว เรายังต้องแบกเอาความหวังของบุคคลที่รอรับความดีจากเรา หรือว่าบุคคลที่คอยยินดีกับความสำเร็จของเรา หรือบุคคลที่รอให้เห็นว่าสิ่งที่ท่านทั้งหลายเหล่านั้นแนะนำสั่งสอน มีผู้ที่ปฏิบัติตามแล้วได้ผลจริง มีจำนวนมากมายมหาศาลจนประมาณไม่ได้

    สิ่งทั้งหลายเหล่านี้จะได้เป็นกำลังสนับสนุนการทำความดีของเราให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป เราจะได้รู้ว่าทุกครั้งที่ลมหายใจเข้าออกของเราพร้อมกับคำภาวนาได้กำหนดขึ้น ก็คือก้าวเข้าสู่พระนิพพานไปก้าวหนึ่ง ทุกครั้งที่หายใจเข้าคือก้าวใกล้พระนิพพานไปก้าวหนึ่ง ทุกครั้งที่หายใจออกคือก้าวใกล้พระนิพพานไปก้าวหนึ่ง เราก้าวใกล้จุดหมายแห่งความสำเร็จมากขึ้นทุกที ๆ ตามระยะเวลาที่เราปฏิบัติ

    หลายคนอาจจะคิดว่า “ไม่รู้ว่าปฏิบัติไปเมื่อไรจะได้ผล” ไม่ต้องไปสนใจตรงจุดนั้น การก้าวข้ามวัฏสงสารเป็นระยะทางที่ยาวไกล ไม่ต้องไปมองถึงความสำเร็จ แต่เราจดจ่ออยู่กับแต่ละฝีก้าว แต่ละลมหายใจเข้าออกของเรา หายใจเข้าคือก้าวหน้าไปก้าวหนึ่ง หายใจออกคือก้าวหน้าไปก้าวหนึ่ง ถ้าเป็นดังนี้เราจะเห็นความก้าวหน้า เห็นความก้าวเข้าไปใกล้ความสำเร็จของเราที่เกิดขึ้นทุกลมหายใจ

    สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เราต้องพึงสังวรเอาไว้ว่า การกระทำของเรานั้น ใกล้ความสำเร็จเข้าไปทุกขณะแล้ว จึงขอให้ทุกคนตั้งอกตั้งใจกำหนดการภาวนาและพิจารณาให้เต็มที่ เต็มสติกำลังในทุกครั้งที่ได้เริ่มปฏิบัติ ให้เราเกิดความปีติยินดีที่มีโอกาสเกิดมาเป็นมนุษย์ ได้พบพระพุทธศาสนา ได้ปฏิบัติธรรมเพื่อความหลุดพ้น ได้เป็นความหวังที่ญาติพี่น้องตลอดจนกระทั่งหลวงปู่ หลวงพ่อ และองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่รอคอย คอยที่จะดูความสำเร็จของพวกเราทุกคน

    ลำดับต่อไปก็ขอให้ทุกท่านตั้งใจกำหนดการภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เทศน์ช่วงกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
    วันอาทิตย์ที่ ๗ เมษายน ๒๕๕๖

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  15. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg

    “ผึ้งมีความดีอะไรบ้าง ?”ผึ้งมีความดีคือ ขยันหากิน ไม่บินสูงนัก รักความสะอาด ฉลาดสะสม นิยมสามัคคี
    ในเรื่องของการปฏิบัติของพวกเรานั้น ก็อยู่ในลักษณะนี้ อย่างข้อแรก ผึ้งนั้นขยันหากิน พวกท่านจะสังเกตได้ว่า ถ้าหากเราทิ้งช่วงให้การปฏิบัติขาดลง
    ความฟุ้งซ่านจะเข้ามาทันที โดยเฉพาะท่านที่ยังไม่มีพื้นฐาน คำว่าไม่มีพื้นฐาน คือกำลังใจยังไปไม่ถึงระดับที่จะทรงตัวเองได้
    ถ้าอย่างนั้นท่านเผลอเมื่อไร ขาดความขยันเมื่อไร โดนเล่นเอาแน่ ๆ

    ข้อที่สอง ผึ้งนั้นจะไม่บินสูงนัก คือ จะบินพอดี พอดีกับการที่จะไปหาน้ำหวานหรือเกสรดอกไม้ เพราะต้นไม้คงจะไม่สูงเกิน ๓๐ – ๔๐ เมตร ถ้าสูงมากก็ไปไม่ไหว
    ดังนั้น เรามาพิจารณาดูว่า ถ้าเป็นการปฏิบัติ ก็คือมัชฌิมาปฏิปทานั่นเอง คือ ทำให้พอเหมาะ ทำให้พอดี ไม่เข้มงวดจนเกินไป แต่ก็ไม่ผ่อนจนหย่อนยานต้องพอเหมาะพอดี
    เหมือนกับที่พระอินทร์ท่านมาแสดงปริศนาธรรม ด้วยการดีดพิณสามสายถวายเจ้าชายสิทธัตถะที่ทรมานตนอยู่ สายที่ขึงตึงเกินไป ดีดไปได้ไม่กี่ทีก็ขาด
    สายที่หย่อนเกินไป ดีดไปแล้วเสียงก็ไม่เป็นสรรพรส ต้องสายที่พอดี ๆ จึงจะไพเราะน่าฟัง

    ข้อต่อไป ผึ้งนั้นฉลาดสะสม ผึ้งจะเก็บแต่ของดี ๆ เก็บน้ำหวาน ซึ่งนักวิทยาศาสตร์สมัยนี้เขารู้แล้วว่า น้ำหวานจากผึ้งมีคุณค่าอาหารที่สูงมาก ๆ
    และไม่มีความชื้น ทำให้สามารถใช้ในการรักษาบาดแผลเรื้อรังได้ แล้วขณะเดียวกัน น้ำผึ้งซึ่งเป็นอาหารสำหรับเลี้ยงตัวอ่อน ก็เป็นอาหารที่มีคุณค่าสูง
    แล้วถ้าหากว่ายิ่งเป็นนมผึ้งที่ใช้เลี้ยงตัวนางพญา เขาบอกว่าต่อให้คนป่วยหนัก ๆ ชนิดหมดเรี่ยวหมดแรง ได้รับเข้าไปไม่มาก ก็จะฟื้นในระยะเวลาอันรวดเร็ว
    ฉะนั้น… ผึ้งรู้จักเก็บแต่ของดี เราก็ต้องรู้จักเก็บแต่สิ่งที่ดี ๆ เอาไว้ในใจของเรา สิ่งใดที่เป็นรัก เป็นโลภ เป็นโกรธ เป็นหลง
    ถ้าสามารถสลัดทิ้งได้เร็วเท่าไร ก็เป็นคุณแก่ตัวเรามากเท่านั้น ถ้าเราเก็บเอาไว้ ก็รังจะทำร้ายเราอยู่ทุกวัน
    ดังนั้น..เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าเรารู้จักคิด รู้จักพิจารณา ก็จะสามารถนำมาใช้งานได้

    ข้อสุดท้าย นิยมสามัคคี ผึ้งสามัคคีกลมเกลียวแน่นเหนียวมาก เจอน้ำหวาน เจอสถานที่ ๆ จะหาอาหารได้ที่ไหน เขาจะกลับมาบอกพรรคพวก
    ถึงเวลาก็แห่กันไป แล้วขณะเดียวกันถ้าใครไปทำร้าย ไปแหย่รัง รับรองได้ว่ามาทั้งรัง..!
    ผึ้งตัวเล็ก ถ้าไม่สามัคคีจะอยู่รอดได้ยาก คราวนี้เราเป็นนักบวช เป็นพระ เป็นเณร เป็นชี ตลอดจนกระทั่งฆราวาสนักปฏิบัติ
    ถ้าหากว่าเราขาดความสามัคคี วัดวาอารามก็จะร้อนไปหมด อยู่กันอย่างไม่มีความสุขหรอก

    ผมสังเกตว่า นิสัยของคนเรานั้น มักจะจับผิดคนอื่น โดยไม่ดูความผิดตัวเอง ในเมื่อจับผิดคนอื่น ถ้าเห็นข้อบกพร่องของเขา
    แทนที่จะแนะนำตักเตือนให้แก้ไขโดยธรรม ด้วยจิตที่ประกอบไปด้วยเมตตา เปล่า..กลับไปกีดกัน ไปบีบคั้นจนกระทั่งเขาอยู่ไม่ได้ แล้วเขาก็ต้องออกไปทำให้แตกความสามัคคี
    ………………………….
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  16. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg

    ความรู้สึกของคนที่ได้ขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทวัดท่าขนุน
    ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ในวันอาทิตย์ที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๑
    ขอบพระคุณวีดีโอจากชมรมโมทนาบุญพลังจิตค่ะ

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  17. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg

    มีท่านหนึ่งนำดอกมะลิใส่ขัน ถวายให้พระอาจารย์ พระอาจารย์เลยเล่าเรื่องของนายมาลาการให้ฟัง

    “เห็นดอกมะลิแล้วนึกถึงนายมาลาการ นายมาลาการเป็นคนจัดทำดอกไม้ ร้อยพวงมาลัย พอดีวันนั้นนายมาลาการกำลังจะเอาดอกไม้ ๘ ตะกร้าไปส่งพระเจ้าแผ่นดิน ปรากฏว่าพระพุทธเจ้าเสด็จผ่านมา นายมาลาการเห็นเข้าก็เลยเกิดความปีติใจ ไม่มีของจะถวาย จึงคิดว่า เราเอาดอกไม้โปรยเป็นพุทธบูชาก็แล้วกัน

    แต่คราวนี้ดอกไม้เป็นของพระเจ้าแผ่นดิน ถ้าถวายพระพุทธเจ้าไปแล้วไม่มีให้พระเจ้าแผ่นดิน พระองค์อาจพิโรธสั่งประหารชีวิตก็ได้ แต่ท่านก็คิดว่า ถึงจะโดนประหารชีวิตก็ตามที แต่บุญเช่นนี้หาโอกาสที่จะทำได้น้อยมาก เราตั้งใจทำบุญ ถึงโดนประหารชีวิต ตายไปก็เชื่อว่าไปสุคติ

    ท่านก็เลยเอาดอกไม้สองตะกร้า ซัดไปถวายเป็นพุทธบูชา ปรากฏว่าดอกมะลิทั้งสองตะกร้าแทนที่จะตกลงบนพื้น กลับลอยเป็นเพดานดาดอยู่ด้านบน พระพุทธเจ้าเสด็จไปไหน เพดานดอกไม้นี้ลอยตามไปด้วย ท่านก็เลยซัดไปอีกสองตะกร้า ก็ลอยเป็นเหมือนกับม่านอยู่ทางด้านหลัง ยิ่งเห็นก็ยิ่งปีติ ก็เลยซัดอีกสองตะกร้า คราวนี้ลอยไปอยู่ด้านซ้าย ซัดอีกสองตะกร้าลอยอยู่ทางด้านขวา กลายเป็นว่าพระพุทธเจ้าเสด็จไปไหน มีห้องเป็นดอกไม้ตามไปด้วยพร้อมฉัพพรรณรังสี ชาวบ้านเห็นก็โจษจันกันใหญ่ด้วยความปลื้มปีติ

    แต่ภรรยาของนายมาลาการเห็นแล้วตกใจ กลัวจะโดนประหารเจ็ดชั่วโคตร จึงรีบเข้าวังไป บอกกับทหารว่า มีเรื่องด่วนจะมากราบทูลพระเจ้าแผ่นดิน ทหารก็พาเข้าไป ภรรยานายมาลาการกราบทูลว่า ตนเป็นภรรยาของนายมาลาการ ตอนนี้นายมาลาการทำการทรยศต่อแผ่นดินแล้ว แทนที่จะนำดอกไม้นั้นมาถวายพระเจ้าแผ่นดิน กลับเอาไปถวายเป็นพุทธบูชาเสีย ขอพระเจ้าแผ่นดินสั่งให้ตนเองหย่าขาดกับนายช่างดอกไม้นี้ จะได้ไม่เกี่ยวข้องกัน

    พระเจ้าแผ่นดินถามว่าแน่ใจนะ ถ้าอะไรเกิดขึ้นกับเขาก็จะไม่เกี่ยวข้องถึงกับเขานะ ภรรยานายมาลาการก็ยืนยันที่จะให้เป็นอย่างนั้น พระเจ้าแผ่นดินก็อนุญาตให้หย่าขาดกันได้ แล้วก็ให้ทหารไปคุมตัวนายมาลาการมา

    พระเจ้าแผ่นดินก็ถามว่า ตอนที่ถวายดอกไม้พระพุทธเจ้า ไม่ได้คิดเลยหรือว่าจะต้องตาย นายมาลาการก็อธิบายให้พระเจ้าแผ่นดินฟัง ปรากฏว่าพระเจ้าแผ่นดินชื่นชม บอกว่าทำดีมาก..! ก็เลยพระราชทานรางวัล นอกจากสิ่งของเงินทองแล้ว ที่น่าเจ็บใจภรรยาเก่าที่สุดก็คือ ให้หญิงงามเป็นรางวัลอีก ๘ คน

    อันนี้เป็นอานิสงส์ทันตา ในลักษณะของครุกรรมฝ่ายกุศล ทำตอนนั้นได้ตอนนั้นเลย แต่คนที่น่าเสียดายสุดก็คือ ภรรยา ดันหย่าขาดไปเสียก่อน

    ลองไปอ่านได้ในธรรมบท มีเรื่องสนุกเยอะแยะมากมายเลย เกี่ยวกับอานิสงส์ต่าง ๆ ที่เราทำ จะทำเล็กน้อยขนาดไหนก็ตาม ท้ายสุดก็กลายเป็นอานิสงส์ใหญ่

    แบบเดียวกับลาชเทวธิดาที่ถวายข้าวตอกพระมหากัปสสปะไป ๑ ขัน พอโดนงูกัดตาย ไปจุติเป็นนางฟ้ามีวิมานเป็นทองคำ และมีม่านเป็นข้าวตอก”

    พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๓ ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  18. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg

    มัชฌิมาปฏิปทาของแต่ละคนไม่เท่ากัน...เป็นไปตามกำลังใจ

    ถาม :
    ผมสังเกตว่า…(ฟังไม่ชัด)…หลวงปู่มั่น ท่านทำ…(ฟังไม่ชัด)…จริง ๆ ไหมครับ ?
    ตอบ : ทางสายอีสานที่ต้องปฏิบัติลำบากนั้น เราต้องดูด้วยนะ ลักษณะภูมิอากาศ ลักษณะการทำมาหากินของทางสายอีสานนี่ จะลำบากมาก ยิ่งสมัยก่อนที่การชลประทานยังไม่เหมือนสมัยนี้ อีสานแห้งแล้งจริง ๆ การต่อสู้ดิ้นรนของเขาต้องมากกว่าปกติ กำลังใจของเขาจะต้องเข้มแข็งมาก ถ้าไม่ได้เจอการทรมานมาก ๆ นี่จะเอาไม่ลง

    ดังนั้น..สายหลวงปู่มั่นถึงได้ถนัดเกี่ยวกับธุดงควัตร บางคนบอกว่าธุดงควัตร ๑๓ ข้อ ของพระพุทธเจ้าเป็นอัตตกิลมถานุโยค คือ ทรมานตัวจนเกินไป อันนี้ไม่ใช่ ธุดงค์ แปลว่าการแผดเผากิเลส จะเหมาะสำหรับท่านที่กำลังใจเข้มแข็ง กลายเป็นพอดีของท่าน ไม่ใช่การทรมานตน

    ถาม : …….(ไม่มีเสียง)……..
    ตอบ : คนอื่นเขาไม่เก่งเลยไปพระนิพพานกันหมด พวกเราเก่งก็เลยอยู่กันอีกนาน ไม่ค่อยจะกลัวนรกกัน มัฌชิมาปฏิปทาของแต่ละคนไม่เท่ากัน เป็นไปตามกำลังใจ เป็นไปตามสภาพแวดล้อมที่หล่อหลอมมา เป็นไปตามบารมีที่สั่งสมมา

    อย่างหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า กำลังใจของท่านก็คือ ทรงอารมณ์เกาะพระนิพพานไว้ตลอดเวลา ไม่ยอมพร่องแม้แต่วินาทีเดียว นั่นตอนที่ก่อนท่านจะบรรลุมรรคผล แล้วเราทำได้ไหม ? เป็นเราทำก็เครียดตายเลย..ใช่ไหม ? เพราะฉะนั้น..มัชฌิมาปฏิปทาของเราก็เลยไม่เหมือนกัน

    ทางสายหลวงปู่มั่น ของท่านจะต้องเข้มงวดขนาดนั้น เพราะสิ่งแวดล้อมที่หล่อหลอมมา การดำรงชีวิตเต็มไปด้วยความยากลำบากของชาวอีสาน ทำให้จะต้องปฏิบัติอย่างเข้มข้น กำลังจิตถึงจะยอมลงให้ อย่างที่หลวงตาบัวท่านบอกว่า นั่งสมาธิกันข้ามวันข้ามคืน นั่งกันจนก้นแตก ลุกขึ้นมานี่น้ำเหลืองนองเลย คือร้อนจนพองแล้วแตก นั่นแหละท่านบอกว่าจิตถึงจะยอมลง ไม่อย่างนั้นก็ดิ้นรน กระโดดโลดเต้นไปเรื่อย

    คราวนี้แนวการปฏิบัติที่พระพุทธเจ้าท่านบอกไว้นั้นมีอยู่ ๔ แบบ คือ
    สุขาปฏิปทา ขิปปาภิญญา ปฏิบัติง่าย ๆ บรรลุก็เร็ว
    ทุกขาปฏิปทา ขิปปาภิญญา ปฏิบัติยากลำบาก แต่บรรลุเร็ว
    ทุกขาปฏิปทา ทันธาภิญญา ปฏิบัติลำบาก บรรลุก็ยาก
    สุขาปฏิปทา ทันธาภิญญา ปฏิบัติง่าย แต่บรรลุยาก


    ปฏิบัติง่ายบรรลุเร็ว ปฏิบัติง่ายบรรลุช้า ปฏิบัติยากบรรลุเร็ว ปฏิบัติยากบรรลุช้า ก็ขึ้นอยู่กับว่า แบบไหนที่จะเหมาะสมกับแต่ละคน แต่ละสถานที่ ถ้าเอามัฌชิมาปฏิปทาของพระพุทธเจ้า ท่านอธิษฐานว่า เมื่อท่านนั่งลงไปแล้ว แม้เลือดและเนื้อจะเหือดแห้งไปก็ตามที ชีวิตินทรีย์นี้จะเสื่อมสลายไปก็ตาม ถ้ายังไม่บรรลุมรรคผลเมื่อไร พระองค์ท่านจะไม่ลุกขึ้น ถ้าเราไปตั้งใจอย่างนั้นก็ตาย เพราะว่าปัญญาไม่ได้อย่างท่าน

    ถาม : หมายความว่า ตัวเองเป็นคนกำหนดใช่ไหม ?
    ตอบ : ตัวเองควรจะรู้เองว่าอะไรเหมาะสม เราจะรู้เลยว่า ตรงนี้เราขี้เกียจ แล้วเราก็รู้ว่าตรงนี้เรายังขยันไม่พอ

    ถาม : แสดงว่าเราก็ทำไปตามที่มโนสำนึกเราบอกว่า อันนี้ดีใช่ไหม ?
    ตอบ : ถ้ารู้สึกว่าไม่ไหว ให้ฝืนต่ออีกหน่อย ถ้ายังฝืนได้ แสดงว่านั่นเป็นตัวถีนมิทธะชวนให้ง่วง ชวนให้ขี้เกียจ ถ้าลองฝืนแล้วไม่ไหวจริง ๆ ไปไม่รอดก็เลิก เเล้วรักษาอารมณ์เอาไว้
    ……………………………….
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  19. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg

    ขอเชิญร่วมงานหล่อหลวงพ่อทองคำองค์จำลอง (เนื้อเงิน) หน้าตัก ๑๙ นิ้ว
    วันเสาร์ที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๑ เวลา ๑๓.๑๕ น.
    ณ วัดท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
    และสามารถรับชมถ่ายทอดสดตั้งแต่เวลาประมาณ ๑๒.๓๐ น. ผ่านช่องทาง
    Facebook live: เพจ watthakhanun (www.facebook.com/watthakhanun)
    YouTube: ช่อง Sapanboon (www.youtube.com/channel/UCgkHL4DqAHM4mSyTGesp5OA)

    หมายเหตุ: ท่านใดจะร่วมบุญกับทางวัดท่าขนุน ให้โอนปัจจัยเข้าบัญชีข้างล่างนี้นะครับ
    ธนาคารกรุงไทย สาขาทองผาภูมิ
    บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ ๗๑๘ – ๐ – ๒๔๔๖๑ – ๙
    ชื่อบัญชี วัดท่าขนุน

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  20. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    ภาพงานพิธีสืบชะตาครูบาบุญยัง วัดห้วยน้ำอุ่น จ.ลำพูน

    วันศุกร์ที่ ๑๕ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๑
    ขอบพระคุณมภาพจากพี่มะลอแก้ว ช่างภาพวัดท่าขนุนค่ะ

    ที่มา /www.facebook.com/hashtag/post213248">#post213248” target=”_blank”>http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?p=213248 #post213248

    .jpg

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...