อาการขาด-เกินของธาตุในร่างกาย

มาสังเกตอาการขาด-เกินของธาตุใน<wbr>ตัวกันครับ

ธาตุดินพิการ หมายถึงสภาพผิดปกติของอวัยวะที่<wbr>แสดงออก เช่น ผิวหนังพิการ คือ มีตุ่ม ผื่น มีเน่า มีเปื่อย เป็นแผล เป็นต้น ถ้าอวัยวะภายในพิการ เช่น ตับพิการ คือ ตับทำงานผิดปกติ หรือเป็นฝี อักเสบ นั่นเอง

ธาตุดินกำเริบ คือมากไป ผิดไปจากเดิม เช่น มีขนาดโตขึ้น บวม งอก เนื้องอก เรียกว่า “หทัยวาตะ(การเต้นของหัวใจ อารมณ์ จิต)ระคน”

ธาตุน้ำพิการ หมายถึงสภาพของเหลวในร่างกายทำง<wbr>านที่ ผิดปกติไป เช่น เสมหะพิการ คือ มีมูก เมือก เสลด ออกมาเป็นหนอง เป็นเลือด น้ำปัสสาวะพิการ มีปัสสาวะขุ่น เป็นหนอง เป็นเลือด เป็นต้น

ธาตุน้ำกำเริบ คือ มีอาการมากเกินไป เกินปกติ เช่น มีน้ำมูกมากไหลทั้งวัน ท้องเดิน น้ำในตัวมาก บวม ความดันโลหิตสูง มีเลือดมาก มีน้ำในกระแสเลือดมาก

ธาตุน้ำหย่อน คือ ขาดหรือน้อยไป เมื่อน้ำน้อย แสดงให้เห็นถึงความแห้งเหี่ยว ไม่สดใส เช่น น้ำตาแห้ง คอแห้ง ท้องผูก ปัสสาวะน้อย

ธาตุลมพิการ คือ ภาวะผิดปกติ เดี๋ยวเร็ว เดี๋ยวช้า คือการเคลื่อนไหวที่ไม่เป็นจังห<wbr>วะ หรือเสื่อมสภาพ ไม่ทำงาน ไม่เคลื่อนไหว

ธาตุลมกำเริบ คือภาวะแห่งการเคลื่อนไหวของอวั<wbr>ยวะน้อยใหญ่เกิดเคลื่อนไหวอย่าง<wbr>ผิดปกติ เช่น การกระตุก การชัก การเต้นเร็วผิดปกติ การหอบ การบีบตัวอย่างรุนแรง การปวด เป็นต้น

ธาตุลมหย่อน คือภาวะแห่งการเคลื่อนไหวที่น้อ<wbr>ยไป หย่อนสมรรถภาพไป เชื่องช้า หงอยเหงา ไม่กระตือรือล้น

ธาตุไฟกำเริบ คือ ภาวะความร้อนที่เกินไป การเผาผลาญที่มากไป เช่น ภาวะที่เป็นไข้ ภาวะที่กินอาหารบ่อย ๆ ภาวะที่ร้อนรุ่มกระสับกระส่าย กลัดกลุ้ม เร่าร้อนทางอารมณ์ เป็นต้น

ธาตุไฟหย่อน คือภาวะที่ความร้อนในตัวน้อย รู้สึกเย็นเยือก หนาวสั่น ถ้าไฟย่อยอาหารน้อยไปก็จะท้องอื<wbr>ดเฟ้อ อาหารไม่ย่อย

ธาตุไฟพิการ หมายถึงความร้อนในร่างกายผิดปกติไป เดี๋ยวหนาว เดี๋ยวร้อน ระบบย่อยอาหารผิดปกติ หรือบางครั้งมีไข้ตัวร้อน บางครั้งรู้สึกหนาวสั่น เป็นต้น

 

ผมเป็นคนหนึ่งที่ธาตุ 4 ไม่สมดุลนะครับและมันก็เกิดเป็นวงจรที่ผิดปกติมากขึ้น
เรื่อยๆ จะเล่าเรื่องของผมให้ฟังครับ อย่างแรกคือธาตุไฟในกายน้อยมาก พอ
ธาตุไฟน้อยร่างกายก็เดี๊ยวหนาว เดี๊ยวร้อน รู้สึกไม่มีแรง เหมือนเป้นไข้อ่อนๆ
ร่างกายเผาผลาญอาหารได้น้อยลง ก็เลยทานอาหารเพื่อเติมธาตุไฟมากขึ้น
ยิ่งทานมากและเผาผลาญน้อยทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น แรงก็น้อยลงเรื่อย ขับถ่าย
ได้น้อยก็ต้องดื่มน้ำมาก พอธาตุน้ำมากก็มีเสลด น้ำมูกไหลทั้งวัน ปัสสาวะบ่อย
นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องเชื้อโรคต่างในท้องด้วยครับ พอลองปรับธาตุไฟดูตอน
แรกรู้สึกเหมือนมีไฟลุกโพล่งอยู่ในท้องครับ แล้วก็ดีขึ้นมา อยากลองฟังเรื่องของ
ท่านอื่นดูครับเผื่อเป็นกรณีศึกษาครับ

 

คุณ bluebaby2 ลองอ่านบทความเรื่องโปรตีนดูสิ อาจจะเกี่ยวกัน

 

พอทราบแล้วมีวิธีแก้ไขมั้ยคะ

 

ขอบคุณครับจะลองอ่านดูครับ

 

ผมใช้วิธีแบบพระธิเบตครับ อ่านในหนังสือเล่มหนึ่งเขาสอนวิธีจุดไฟธาตุ
ในตัวครับ พระธิเบตท่านใช้เวลานั่งในหิมะครับ กำหนดรูปดอกบัวอยู่
เหนือสะดือสองนิ้วครับ ทำไปนานๆ อยู่ในห้องแอร์ก็ได้เหงื่อครับ