อาการที่เกิดขึ้นหลังจากทำบุญกรวดน้ำแผ่เมตตา ใครเคยมีอาการแบบนี้บ้างค่ะ

ช่วงนี้เริ่มสวดมนต์ไหว้พระเกือบทุกวันตั้งแต่เริ่มเข้าพรรษามา จนกระทั้งเมื่อคืนนี้ก็นั้งสมาธิได้ประมาณครึ่งชม. (ก็ยังมีฟุ้งๆอยู่่นะค่ะไม่ค่อยนิ่ง) เช้าตื่นมาก็จะนั่งสมาธิประมาณ10-15 นาทีก่อนจะออกไปตักบาตร ถัดมาก็แวะไปโอนเงินทำบุญไถ่ชีวิตโค-กระบือ และตามมาด้วยถวายผ้าไตรพร้อมนมกล่องอีก2แพ็ค จากนั้นก็กรวดน้ำและนำน้ำไปเถที่โคนต้นไม้ใหญ่และอธิฐานถวายบุญแก่สิ่งศักดิ์เทพทั้งหลายฯแผ่บุญฯให้กับบิดามารดาฯลฯปิดท้ายตรงอุทิศให้กับเจ้ากรรมนายเวรดวงจิตวิญญาณของเหล่าบรรดาภูตผี สัมพเวสี เปรต อสูรกายและขอให้ทุกดวงวิญญาณที่สามารถจะรับเอาผลบุญจากข้าพเจ้าได็ก็ขอให้มารับเอาไปขอให้คลายทุกข์และมีภพภูมิที่สูงยิ่งๆขึ้นไปฯลฯ.........หลังจากนั้นระหว่างเดินออกมาที่รถเพื่อจะกลับบ้าน(ซึ่งยังอยู่ในบริเวณของวัดด้านข้างของพระธาตุ)กลับมีอาการขนลุกไปทั้งตัวกระทั่งเส้นผมบนหัวโดยเฉพาะตรงกลางศรีษะยิ่งรู้สึกได้ถึงความตั้งชันของโคนผม(เหมือนไม้เสียบลูกชิ้นปักอยู่บนดินเหนียว) กว่าหนึ่งนาทีอาการเหล่านี้จึงจะลดลงและหมดไป
เพื่อนๆคนไหนเคยมีประสบการณ์คล้ายกันอย่างนี้และพอจะทราบเหตุที่มาของอาการเหล่านี้บ้างไหม๊ค่ะ ช่วยกรุณาให้คำตอบหรือเล่าสู่กันได้เพื่อเป็นวิทยาทานด้วยค่ะ

เพื่อนๆคนใดที่เข้ามาอ่านหรือแสดงความคิดเห็นเอาไว้ก็ขอให้ได้รับอานิสงค์ผลบุญที่ข้าพเจ้าทำไว้ทั้งหมดด้วยนะค่ะ บุญรักษาค่ะ

 

ไม่เคยมีอาการเลยคะ แต่เชื่อว่าสิ่งที่เราอุทิศไปนั้นทุกคนที่เราเอยชื่อคงได้รับผลบุญกันทั่วหน้า อนุโมทนาบุญด้วย

 

น่าจะเป็นเทพเทวดามาดูแลอารักขาคุณหนะครับ

 

เชื่อว่าสื่งที่คุณอุทิศบุญกุศลให้ได้มารับผลบุญและแสดงให้คุณได้รับรู้ค่ะให้คุณสังเกตุทุกครั้งที่อุทิศบุญกุศลแม้หลังสวดมนต์ที่บ้านด้วย หรือคุณใกล้ถึงเวลาแล้วให้คุณปฎิบัติเสมอก็จะไปได้เร็วแต่ดิฉันมีประสบการณ์ในการสวดมนต์ในแต่ละครั้งที่ห้องจะมีเสียงดังเกิดขึ้นเช่น ตู้เสื้อผ้าดังเปียะ หรือประตู-หน้าต่างมีเสียงดัง แทบจะทุกครั้ง เคยคุยกับท่านผู้รู้บอกว่าเทวดาหรือนางฟ้าได้เข้ามาฟังที่เราสวดมนต์ หรือถ้าท่านใดต้องการทราบว่าที่บ้านท่านมีเทวดาหรือนางฟ้าหรือไม่ให้อาบน้ำและสวดมนต์ที่ห้องพระหรือหน้าพระพุทธรูปเวลา 23.00 น. หรือ 04.00 น. ของทุกวันท่านสวดเสียงปกติแต่จะมีเสียงท่านดังกังวาลมากผิดปกติ (แต่ดิฉันชอบนอนสวดในห้องนอนแล้วทำสมาธิหลับไปเลยสบาย)ถ้าคืนใหนตื่นกลางดึกก็สวดไปเรื่อยๆจนหลับ

 

อุ้ย!!! อาการแบบนี้ถือว่าดีครับ..เป็นส่วนภพภูมิที่ดี.ท่านโมทนาด้วย.
ถ้าคุณขนลุกได้ตั้งแต่ขา.ขึ้นไปถึงศรีษะ.ก็แสดงว่ามีจิตวิญญานที่เคยเป็น
ระดับ.สัมพะเวสีที่เค้าได้รับบุญที่เราทำให้.
และเปลี่ยนภพภูมิไปสูงขึ้น..เข้ามา.โมทนารวมอยู่ในกลุ่มนั้นด้วยครับ.​

บอกได้ว่าวิธีที่คุณ อุทิศส่วนกุศลนะได้ผลครับ.และ.
.เป็นลักษณะที่เราจะสัมผัสได้ทางกายจากทางภพภูมิ..ที่สื่อให้เราทราบเฉยๆ..
บางครั้งอาจจะได้กลิ่นหอมๆ.เตะจมูก.ร่วมด้วย
นอกจากอาการเย็นๆตรงกลางหน้าอก..​

หรือถ้าคุณเคยฝึกสมาธิมาแล้วถ้า
หลับตาแล้วก็จะสามารถเห็นดวงจิตได้เหมือนกันครับ บางคนเค้ามากอดแสดง
ความดีใจก็มีนะครับ..คริ คริ...
สรุปว่า..ดีมากครับ.._/|\_ ​

 

ส่วนเสียงแบบคุณ รัชนีกร เดาว่าถ้าเสียงดังครั้งเดียว ก็จะดังแบบไม่มีท่อนสร้อย คือดังและจบในจังหวะเดียว
หรือ..ถ้าเป็นจังหวะจะดัง 3 ครั้งแต่ไม่ดังมากและระยะห่างของเสียงเท่ากัน.ครับ.

 

บางครั้งก็ครั้งเดียวดังมาก ถ้า 3 ครั้งด้งน้อยกว่าครั้งเดียวค่ะเสียงเท่ากัน 3 ครั้ง บางครั้งดังบ่อยจนดิฉันตกใจกลัวก็มี โดยเฉพาะอยู่คนเดียวถ้าแฟนอยู่บ้านไม่มีค่อยมีเสียงดังคะ่ช่วยชี้นะด้วยเอาแบบละเอียดเลยค่ะขอบคุณมาก

 

ไม่รู้ดีเท่าไรนัก แต่คิดว่าสิ่งที่คุณอุทิศส่วนกุศลกรวดน้ำให้คงมาอนุโมทนาบุญกับคุณน่ะค่ะ..

 

คงไม่มีอะไรชี้แนะครับ..แต่ถ้าครั้งเดียวแล้วดังมาก เป็นเสียงที่ทำให้เราต้องไปสนใจเสียงนั้นได้ท่านที..สามารถเป็นคนที่เราเคยรู้จักมาก่อน.และเสียชีวิตไปก่อนหน้านั้นแวะมา..นอกจากเทวดาชั้นแรกๆ
.และส่วนมากจะเป็นในกรณีที่เรายังสื่อกับเค้าไม่ได้ทางเสียง.
ถ้าได้ยินเสียงทางหูซ้ายต่อจากได้ยินเสียงดังครั้งเดียว..แสดงว่าดวงจิตเค้ายังไม่ดีเท่าไรคือยังลำบากอยู่..ถ้าได้ยินทางหูขวาแสดงว่า ok ส่วนเสียงเคาะ 3 ครั้งส่วนมากเป็น.วิญญานที่จะมาให้เราอุทิศส่วนกุศลให้เนื่องจาก
.ระดับวาระจิตยังไม่สูงพอที่ท่านเจ้าที่จะอนุญาติให้เข้าบ้านครับ.จะได้ยินเสียงเคาะมาจากบริเวนนอกตัวบ้านเช่น นอกหน้าต่าง หรือ นอกกำแพง..ส่วนเสียงดังมากครั้งเดียวจะได้ยินภายในบริเวณบ้านได้ครับ..
ประมาณนี้ครับ..ก็ไม่ทราบว่าจะให้แนะนำละเอียดแบบไหนได้ครับ.
ถือว่า แค่เพียงแต่เล่าให้ฟังแล้วกันครับ.

 

ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ
เคยรู้สึกขนลุกเมื่อเวลาแผ่เมตตา ร้องไห้แบบว่าตื้นตันอะรัยอย่างนั้น บางตรั้งเสียงเปลี่ยนตอนสวดมนตร์ งงกับตังเองเหมือนกันค่ะ

 

ขอบคุณ คุณ nopphakan ที่ชี้แจงให้ทราบค่ะ

 

ขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกค่ะ

ขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกทุกคนที่แนะนำโดยเฉพาะคุณรัชนีพรและ คุณ nopphakan ที่ชี้แจงเพิ่มเติมให้ทราบค่ะ[/QUOTE]

เมื่อรู้สึกทุกข์ใจและคิดว่าตนเองไม่มีที่พึ่ง
นอกจากเหตุการขนหัวลุกหลังทำบุญกรวดน้ำแล้ว ก่อนหน้านี้มีครั้งนึงทุกข์ใจมากค่ะ ปัญหาเข้ามารุมเร้าหลายด้านมากประกอบกับตัวเองไปไหนไม่ได้เลยเพราะต้องดูแลแม่ที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์คนเดียวมาเป็นปีโดยไม่มีการผลัดเปลี่ยนเมื่อมีปัญหามารุมที่พึ่งสุดท้ายของคนไม่ที่ไปอย่างดิฉั้นคือ โต๊ะหมู่บูชา ความทุกข์ใจทั้งหมดที่มีพร่างพรูออกมาดิฉั้นพูดคนเดียวประหนึ่งว่าโต๊ะหมู่บูชาเป็นใครสักคนที่เข้าใจ เมตตาและพร้อมจะรับฟังทุกอย่างที่ดิฉั้นเป็น
ดิฉั้นพูดทุกอย่างออกจากใจมีทั้งระบายทุกข์ ตัดพ้อ น้อยใจและสุดท้ายคือ คำขอที่ตั้งอยู่ระหว่างความน้อยใจพร้อมๆกับอยากพิสูจย์ในอานิสงค์แห่งบุญที่เคยได้ยิน(พูดกันง่ายๆว่าหมดทางไปไม่รู้จะทำยังไงกับจิตที่ตกดีในนาทีนั้น)
ดิฉั้นพูดออกไปทั้งน้ำตาต่อหน้าโต๊ะหมู่บูชาว่า ลูกเหนื่อยเหลือเกินเจ้าค่ะกับชีวิตที่ต้องดิ้นรน บ้านกำลังจะต้องย้ายออกและยังหาบ้านเช่าหลังใหม่ไม่ได้เลย คนรักก็ไม่เข้าใจและกำลังมีทีท่าเปลี่ยนไป เงินที่พี่ๆเคยส่งมาจุนเจือในการเลี้ยงดูแม่ที่ป่วยเป็นอักมพฤกษ์ก็เริ่มขาดส่ง(ซึ่งปกติก็ส่งมาไม่ค่่อยจะพอใช้อยู่แล้วดิฉั้นเองก็ต้องหามาเพิ่มเพื่อให้พอใช้) สุขภาพร่างกายก็เริ่มปวดหลังเพราะต้องยกตัวคุณแม่ทุกวันเมื่อต้องเช็ด/พลิกตัว จนแทบจะยกไม่ไหวแต่ก็ไม่มีใครมาผลัดเปลี่ยน ไหนใครๆพูดกันนักว่าบุญกุศลที่ดูแลพ่อ-แม่เสมือนเป็นพระอรหันต์ของลูกเป็นบุญใหญ่แล้วทำไมบุญใหญ่มันถึงทุกข์ใจขนาดนี้ ถ้าบุญใหญ่ที่ว่ามีจริง ลูกขอได้ไหม๊เจ้าค่ะ ขอให้ความทุกข์ในใจของลูกตลอดจนความเจ็บป่วยที่เกิดจากการดูแลแม่เบาบางจางหาย เร็ววันเร็วคืน เพื่อจะได้เป็นกำลังใจให้ลูกลุกขึ้นมาชดใช้หนี้กรรมและดูแลแม่ได้ต่อไป ลูกรู้เจ้าค่ะว้่าเวรกรรมใครทำใครใช้และไม่มีทางหลีกเลี่ยงลูกถึงขอแค่ให้เบาบางไม่ได้ขอให้หายวับไปกับตา และในเมื่อลูกขอในสิ่งที่พอจะเป็นไปได้และตั้งอยู่บนความไม่เบียดเบียนผู้หนึ่งผู้ใดก็ขอให้ลูกสมหวังในคำขอด้วยเถิด

 

หลังจากจบคำพร่ำบ่นเสมือนคนจิตตกของตัวเองไป ก็สงบสติอารมณ์ด้วยการนิ่งอยู่ประมาณ5นาทีแล้วกราบพระ
จากนั้นก็เข้ามานอนอ่านหนังสือในมุ้งสายบัว(ผูกเชือกโยงไว้4หู) แล้วตัวเองก็นอนหงายยกหนังสือขึ้นอ่านหันหน้าเข้าหาเพดาน สักครู่ต่อมา ก็รู้สึกถึงความเปียกชื้นบนหน้าเหมือนมีใครเอาฟ๊อกกี้ฉีดน้ำมาฉีดรดลงบนหน้า ตามสัญชาตญาณค่ะ เอามือปาดหน้าแล้วมือก็ยังรู้สึกเปียกนิดๆ จากนั้นก็มองดูเพดานมุ้งสีขาวสิ่งแรกที่คิดคือมีแมลงตัวไหนฉี่รดหน้าเรารึเปล่า ไม่มีค่ะ ร่องรอยคราบน้ำบนมุ้งก็ไม่มี แมลงสักตัวในมุ้งก็ ไม่มี ที่สำคัญคืนนั้นฝนก็ไม่ตกหลังคาก็ไม่รั่วค่ะแล้วคืออะไร...ไม่เป็นไรค่ะไม่คิดมาก บอกกับตัวเองแบบนั้น แล้วก็ปิดไฟเข้านอนเช้ามาก็ตักบาตรพร้อมกับอธิฐานว่าไม่ว่าเจ้าของน้ำนั้นจะเป็นใครก็ตามและจะคิดร้ายหรือคิดดีก็ตามข้าพเจ้าก็ขอทำบุญตักบาตรอุทิศบุญกุศลไปให้ หากแม้นเคยเบียดเบียนอะไรท่านไปก็ขออโหสิกรรม หลังจากตักบาตรเสร็จก็ถึงเวลาอาบน้ำเช็ดตัวคุณแม่ ถึงตอนที่ต้องยกตัวท่านพลิกไปมาจึงเพิ่งสังเกตุได้ว่าอาการปวดหลังหายไปประมาณ 70% และเพิ่งนึกออกอีกอย่างว่าความกลัดกลุ้มใจเมื่อคืนก็ลดลงไปมากโข ประมาณว่าเกือบลืมไปแล้ว
นี่ก็เป็นอีกประสบการณ์นึง ในชีวิตที่ยังหาคำตอบไม่ได้เลยค่ะ ว่าเจ้าของน้ำนั้นท่านเป็นใครหรือจะว่าไปตัวเองอุปทานไปเอง ฟุ้งซ่านหรือเป็นอานิสงค์จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ส่งมาให้เป็นกำลังใจจริงๆ ???
โต๊ะหมู่บูชาสำหรับดิฉั้นแล้ววันนี้เป็นเสมือนสถานที่สารภาพความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวลที่ดิฉั้นมีอบอุ่นใจทุกครั้งที่จิตตก พกทุกข์มาก็บอกได้สุขใจก็บอกกล่าว เรียกว่าเกินกว่าจะเป็นที่สวดมนต์ค่ะ อยากแนะนำเพื่อนๆว่าเมื่อไหร่ที่ทุกข์ใจจนไม่กล้าพูดกับใครอย่าคิดว่าตัวเองไม่เหลือใครนะค่ะ โต๊ะหมู่บูชาหรือหิ้งพระ หรือแม้กระทั่งรูปขององค์พระ(รูปใดก็ได้)ลองพูดจาปรับทุกข์กับท่านดู เมตตาของท่านยิ่งใหญ่กว่าใครในโลก ดิฉั้นเชื่ออย่างนั้นจริงๆค่ะ

 

อ่านเจอจาก หลวงพ่อจรัญฯขออนุญาตเพิ่มเติมค่ะ

หลวงพ่อจรัญฯวัดอัมพวันสิงห์บุรี บอกผ่านหนังสือความหลงในสงสารที่เขียนโดยรศ.สุทัสสา อ่อนค้อม ว่าแม่ชีท้องก้อน บอกท่านว่า เทวดามักมาชวนแม่ชี
สวดมนต์ทุกวันในช่วงเวลา 00.01น. ค่ะก็บอกกันนะค่ะ คิดว่าจะลองสวดอยู่เหมือนกันได้ความยังไงหรือเพื่อนๆคนใดทำแล้วก็อย่าลืมมาเล่าสู่กันฟังนะค่ะ โมทนาบุญล่วงหน้าค่ะ

 

ผมเคยได้ยินมาว่า วิญญาณมีทั้งดี และ ไม่ดีครับ จะมีวิญญาณที่คอยติดตามและคุ้มครองเราอยู่ หากเราจะสวดมนต์ ควรบอกเค้าก่อนจะสวดนะครับ
(บอกเค้าว่าเราจะสวดมนต์ขอให้เค้าออกไปก่อน)

 

ทำไมชื่อเจ้าของกระทู้เป็นชื่อหนูคะ หนูแค่เข้ามาตอบเฉยๆ แปลกจัง..^ ^

 

แต่สำหรับดิฉันเองคิดว่าจะสวดเวลาใดก็ได้แต่จะต้องเป็นเวลาเดิมทุกวันเหมือนบางคนทานอาหารเช้าเวลา 9.00น. แต่บางคนทานเวลา 07.00 น. เพราะแต่ละคนก็มีภาระกิจต่างกันส่วนเทวดาประจำตัวแต่ท่านก็ต้องทราบในการกระทำของเราก็ปรับเปลี่ยนเวลาให้ตรงกับเราเอง
แล้วมีเรื่องจะถามผู้รู้อีกอย่างคือจานดาวเทียมรับสัญญาณทีวีแล้วส่ิองลงตัวบ้านแล้วมีคนบอกว่าสัมพเวสีสามารถลงมาตามสายส่งสัญญานลงมาบ้านเราเลย เคยถามว่าแล้วเทวดาที่อยู่บ้านเราไล่ออกไม่ได้เหรอ เขาบอกไม่ได้เหมือนต่างคนต่างอยู่ แต่เขาให้เวลากรวดน้ำให้มากรวดมานี่เพราะเขาจะได้รับโดยตรง แต่ไม่ค่อยเข้าใจ
ส่วนคุณต้นพุทธ ถ้าว่างให้แวะอ่านเรื่องบุญไม่ช่วยกับเรื่องชายผู้ผิดหวังของดูชะตาราศรีบ้านในบริการรับดูดวงนะคะ

 

ข่าวว่ามีความผิดพลาดทางระบบและทางทีมงานกำลังเร่งแก้ไขอยู่ค่ะ ที่แรกพี่ก็งงอยู่เหมือนกัน ขอบคุณที่แวะมาแชร์ความคิดเห็นกันนะค่ะ

 

ขอเป็นกำลังใจให้กับคุณต้นพูทธ นะคะ เราเชื่อนะคะ ทำดีต้องได้ดีค่ะ

 

ประสบการณ์แบบคุณต้นพุทธ แบบคล้ายที่ฉีดน้ำ.ยังไม่เคยเจอเลยคับ เคยเจอแต่แบบอื่นๆ..แต่ขอเดาว่าทิศทางน้ำมาทางศรีษะฝั่งขวา.คือตำแหน่งนับจาก
กลางศรีษะไปด้านขวาแค่นิดเดียว..ถ้าเป็นตำแหน่งนี้.พอจะบอกได้ว่าเป็นอะไรคับ..