อาการเหม็นเนื้อสัตว์..และกินไม่ได้เลย..ขอความคิดเห็นค่ะ...

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ฝันนิมิต, 8 มกราคม 2010.

  1. สี่จุด

    สี่จุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    705
    ค่าพลัง:
    +3,659
    เราเลิกเนื้อสัตว์ใหญ่ คือ เนื้อ (นานนนมากแล้ว) หมูกับไก่ สัตว์ปีก สัตว์บกทุกชนิด ส่วน
    สัตว์น้ำได้ปลา กุ้ง ปลาหมึก นอกนั้นจะเหม็นมาก ยิ่งหมูปิ้งนี้ เนื้อวัวไม่ต้องพูดถึง ทั้งที่
    สมัยก่อนแค่คิดก็น้ำลายไหลแล้ว ตอนหลังเป็นลมพิษ ไม่หายสักที เลยขอเจ้าแม่กวนอิม
    ให้หายจะเลิกกินเนื้อวัว แล้วก็หายจริงๆ แต่ยังไม่ได้เหม็นมากมาย มีวันหนึ่ง เผลอไปทาน
    คือ เหมือนจะลองของ พอทานปั๊บก็ลมพิษขี้นเลย มันไม่ใช่อาการแพ้ ก็เลยเลิกเด็ดขาด
    เด๋วนี้เดินผ่านร้านเนื้อวัว กลิ่นชวนอาเจียรมาก ทั้งที่คนอื่นเขานั่งกินก็อร่อย เราของดดีกว่า
    หลังจากนั้นมาก็ป่วยเป็นเส้นเลือดสมองตีบ ก็คิดทานชีวจิต และก็คิดว่า จะได้งดชีวิตสัตว์
    ใหญ่ด้วย เราเป็นคนคิดปั๊บทำปุ๊บ จนเด๋วนี้ สิบสองปีแล้ว หมูปิ้งนี่ ทรมานเรามาก มันเหม็น
    สุดๆ บางครั้งเราต้องทำครัว คนอื่นยังกินอยู่นิ ต้มกระดูกหมูก็เหม็นจนต้องให้เด็กทำต่อ
    ล่าสุด มาปลาดุก ของโปรด ไปพม่า ไหว้พระเทพทันใจเสร็จ เดินผ่านเขาถามปล่อยปลา
    มั๊ย เราก็ เอาๆๆๆ ไม่ทันดูหรอกว่า ปลาอะไร ก็เห็นว่า อยู่คนละประเทศ ไม่น่าเกี่ยว เราก็
    ปล่อยปลาดุกไป ปล่อยเสร็จ อ่าว ปลาดุก เนี่ยของโปรด เพื่อนว่า เห้ยย ไม่เกี่ยว คนละ
    ประเทศ มันไม่ว่ายน้ำไปให้เธอกินหรอกน่า เราก็ เออ ..จริง ก็ลืมไปแล้ว อยู่บ้าน ผัดเผ็ด
    ปลาดุก ของโปรดอย่างแรง กินๆๆๆๆ จนอิ่ม เรอ เหอๆๆๆๆๆ เหม็นสุดๆ แล้วมันก็เรอทั้งวัน
    ทั้งคืน กลิ่นมันทรมานใจกายอย่างยิ่ง จนคิดว่า เอ...หรือเราทำอะไรผิดหว่า ไม่เคยเรอก็
    เรอ ไม่เคยเหม็นก็เหม็น หลังจากนั้น ลองอีก กินใหม่ คราวนี้เหม็นติดปาก ติดกระเพาะ
    คือ กลิ่นมันจะโชยออกมาพร้อมพริกแกงมารอที่คอ สุดบรรยาย เลิก ต้องเลิกเด็ดขาดแล้ว
    กรู...ไม่ไหว....เกือบสองปี หรือสองปี ตั้งแต่นากิส เลิกปลาดุกเด็ดขาดเลย ของแบบนี้ ไม่
    กินก็ต้องไม่กิน ปล่อยชีวิตเขาแล้วไปกินอีก พระเจ้าก็คงต้องสั่งสอนเราบ้างล่ะนะ
     
  2. ฝันนิมิต

    ฝันนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +547
    สาเด็ดขาดเลยค่ะ แฟน อบไก่กินกันกับลูกๆทุกวัน ก็หอมดีค่ะ เอาเข้าจริงๆ ม่ะไหวแฮะ กินไม่ได้ หลอก เดี๋ยวนี้เด็กเส้นค่ะ มาม่า อย่างเดียวเลย T.T
     
  3. ขมิ้นชัน

    ขมิ้นชัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2008
    โพสต์:
    508
    ค่าพลัง:
    +141
    นั่นก็ดีแล้วนี่ครับ..ขออนุโมทนาสาธุด้วยนะครับ..
    ที่ไม่ต้องเป็นส่วนหนึ่งของการเบียดเบียนชีวิต..
     
  4. innovex

    innovex เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2005
    โพสต์:
    296
    ค่าพลัง:
    +2,679
    ผมเองอยู่เมืองไทยไม่ทานเนื้อสัตว์ใหญ่เลย แต่พอมาทำงานเมืองนอกจำเป็นต้องทานแต่ทานได้ไม่กี่คำ ทานไปก็ปลงไป และอยู่นานๆเหม็นตัวเองเอามากๆเลย
     
  5. casper_jeed

    casper_jeed Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +46
    เราไม่ทานเนื้อ เพราะนับถือพระพิฆเนศร ถ้าได้กลิ่นเนื้อจามีอาการอยากอาเจียน
    ไม่รุ้ว่าจาเกี่ยวกันรุป่าว
     
  6. คะรุทา

    คะรุทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,243
    ค่าพลัง:
    +3,477
    อย่ายึดติดหรือสนใจในสิ่งใด เว้นแต่การปฎิบัติดี..ดูแต่ปัจจุบันเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ทานไม่ได้ก็ไม่ต้องทาน ถ้ามีความสุขกับการทานเจหรืองมัง ก็ทานไป ถ้าเมื่อใดอยากทานเนื้อสัตว์แล้วทานได้ก็ทานไป อย่าสนใจหรือยึดติด การบนถ้าบนแล้วทำตามสัจจะถือว่าไม่ผิด..ทำตัวตามสบายดูปัจจุบันอย่างเดียว อะไรจะเกิด ก็เกิด อะไรไม่เกิด ก็ไม่ต้องเกิด รู้ตัวเป็นพอ การรู้การเห็นล่วงหน้าก็ดีบอกกล่าวใครถือว่าเอาบุญ ..ไม่ใช่เอาคุณ เขาเชื่อหรือไม่เชื่อเรื่องของเขา..
    อย่านำพา ตราบใดที่รู้ว่าคุณทำอะไรอยู่..คุณก็มีสติแล้ว อย่าส่งใจออกนอก มันจะฟุ้ง
     
  7. คะรุทา

    คะรุทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,243
    ค่าพลัง:
    +3,477
    ปกติเรางดเนื้อสัตว์ทุกชนิดในวันพระ /วันพฤหัส / และตลอดเข้าพรรษา 3 เดือน / ต่อด้วยเทศกาลกินเจ ส่วนเนื้อวัวเราไม่ทามา 30 ปีแล้ว...
    พอถึงเทศกาลที่บอกเราไม่อยากทานขึ้นมาเฉยๆเราก็ไม่ทานไม่ได้ตั้งสัจจะว่าจะทำ แต่มันเป็นของมันเอง..หลังจากนั้นเราก็ปกติ อย่ากังวลค่ะ
     
  8. โลกุตตระ

    โลกุตตระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    448
    ค่าพลัง:
    +2,624
    ผมก็อีกคนหนึ่งที่ไม่ทานเนื้อสัตว์ทุกชนิด
    มีวิธีปฏิบัติง่ายๆในการอยู่ในสังคม
    คืออย่าไปเป็นภาระให้ใคร
    จัดอะไรให้มาก็ทาน แต่ไม่ทานเนื้อสัตว์
    ก็กินผัก กินน้ำไป ค่อยไปเคร่งที่บ้านตน
    ถ้าเราไปแสดงตัวมาก คนส่วนมากไม่เข้าใจ
    เขาจะคิดว่าเรา over acting
    คนส่วนใหญ่ยังทานเนื้อสัตว์อยู่
    ครอบครัวผมทุกคนก็ยังทานอยู่
    ต้องทำตัวให้กลมกลืนกับสังคม
    และครอบครัวให้ได้...

    และข้อที่สำคัญที่สุด อย่านำเรื่องที่ไม่กินเนื้อของเรา
    เป็นปมเขื่อง เพื่อโอ้อวดตนเอง และข่มคนอื่นเขา..

    อนุโมทนาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กรกฎาคม 2010
  9. ChainQLel2

    ChainQLel2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    356
    ค่าพลัง:
    +618
    สิ่งศักสิทธิ์ดลใจให้เราตัดกรรม และเลิกเกี่ยวกรรม ที่เกิดจากกินเนื้อสัตว์ใหญ่ สัตว์เล็กทั้งหลาย หากทำได้ก็เป็นการเริ่มต้นที่ดี คิดดี ทำดี รับแต่กรรมดี

    น้องของผมสองคนตอนเล็กๆก็ทานเนื้อสัตว์ อยู่ดีๆวันหนึ่งก็บอกว่า สงสารสัตว์ที่ต้องมาเป็นอาหารจังเลย แล้วก็เกิดอาการเหม็นเวลาทานเนื้อ สุดท้าย เค้าทั้งสองก็เริ่มทานมังสวิรัตตั้งแต่นั้นมา ผ่านมา เกือบ 20 ปีแล้ว ใครจะเชื่อว่าเด็กที่กำลังเจริญวัย กินง่ายทานอะไรก็อร่อย อยู่ดีๆจะเลิกทานเนื้อสัตว์ด้วยตัวเอง

    สำหรับคนที่จะงดเนื้อสัตว์ ก็ควรทานผักสด ถั่วต่างๆ โดยเฉพาะงาดำนะครับเพราะมีแคลเซียมมากกว่า นมวัวที่โฆษณาในทีวีทุกวันเสียอีก เป็นรองเพื่อปลาซิวตัวเล็กๆเท่านั้น และที่แน่ๆไม่มีสารกันบูดหรือ สารอาหารที่ไม่จำเป็นต่อร่างกายอีกด้วย เพราะหากอายุมากแล้วแคลเซียมเป็นสิ่งจำเป็นต่อกระดูกของผู้หญิงโดยเฉพาะที่มีบุตรด้วยแล้ว นำงาดำมาบดเองจะดีกว่า เพราะบางทีไปซื้อสำเร็จรูปมาอาจไม่สะอาด เอามาโรยข้าวสวยทาน หรือกับข้าวกล้องจะดีมากๆเลยครับ
     
  10. แสงอุ่น

    แสงอุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    612
    ค่าพลัง:
    +1,036
    การยึดติดสิ่งดี สิ่งงาม นั้นถือว่าเป็นสิงที่ดี ภาพที่สวยงาม บรรยากาศรอบข้างที่ดี ทำให้เราเกิดความรู้สึกที่ดี
    แต่การไม่ยึดติดเลยย่อมดีกว่า ทำให้เราเข้าใจและมองสิ้งที่ดีและไม่ดี ด้วยสติปัญญา
    ลองทำ อสุภกรรมฐาน นะครับ จะทำให้เราเข้าใจมากขึ้น กินไปตามที่มี มีผักกินผัก มีเนื้อกินเนื้อ ประเทศที่แห้งแล้งอดยาก อาหารการกินขาดแคลน ไม่มีแม้แต่ข้าวเฉยๆจะกิน เนื้อคงไม่ต้องพูดถึง ได้แค่ฝันเท่านั้น มองโลกกว้างๆ หลายๆมุมมอง มองด้วยสติและปัญญานะครับ
     
  11. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +9,768
    เป็นสังขารขันธ์

    ทางแก้ที่ใช้อยู่และได้ผลในระดับหนึ่งคือแผ่เมตตาให้อาหารที่มีเนื้อสัตว์นั้น
    ที่ตนกำลังจะรับประทาน และถือเป็นธาตุชนิดหนึ่ง กลิ่นสาบนั้นจะลดลงไปบ้าง
    เลี่ยงไปรับประทานผักผลไม้ หรือสัตว์เล็ก เป็นทางเลือก
     
  12. mamboo

    mamboo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +1,973
    เป็นเหมือนกันเลยค่ะ ^^:cool:

    แต่ของ mamboo เป็นมาตั้งแต่เด็กแล้ว...

    บางที ก็เคยนึกภาพว่า.. ถ้า mamboo โดนแร่เนื้อแล้วเอาอวัยวะแต่ละส่วนไปกิน.. คือ ถ้าเราเป็นวิญญาณแล้วเราเห็นร่างตัวเองเป็นแบบนั้น จะรู้สึกเช่นไรหนอ???

    อันนี้ คิดเล่นๆอ่ะค่ะ ^^ ก็คิดหลายอย่าง

    แล้วก็เป็นมาตั้งแต่กำเนิดเลย.. คือ ไม่ชอบกินเนื้อสัตว์เลย เคยเผลอกินเข้าปากครั้งหนึ่ง รู้สึกจะอ้วกเลย เหม็นคาว ขยะแขยง แล้วก็สงสารพวกสัตว์ที่ตายด้วยอ่ะ

    แต่จะโทษคนอื่นก็ไม่ได้นะคะ... มนุษย์เราเติบโตมา ครอบครัวและสิ่งแวดล้อม สังคม ก็สอนมา บ่มเพาะกันมาให้ทานเนื้อสัตว์

    จะว่า mamboo โชคดีรึเปล่า.. คือ เกิดมาก็รู้สึกคาวและขยะแขยงเนื้อสัตว์มากๆเลย ในทางกลับกัน.. เป็นคนที่ชอบกินผักมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ชอบพวกเครื่องเทศ(ไทยๆ)ด้วยค่ะ เหอๆๆ ^^

    ถ้าถามว่า เป็นเพราะอะไร?? mamboo เคยเดาเล่นๆว่า.. ชาติก่อนอาจเคยเป็นสัตว์เดียรัจฉานก็ได้ค่ะ เหอๆๆ ^^ แบบ.. มีความทรงจำตอนที่เคยโดนฆ่าไปทำอาหาร ชาตินี้เลย.. ไม่ชอบกลิ่นคาวสัตว์มั้ง(เดาเอานะ อิอิ ^^)

    ไม่อยากจะบอกเลยว่า.. ชื่อเล่นก็เป็น เนื้อสัตว์ชนิดหนึ่งด้วยค่ะ ที่คนชอบกินมากๆอ่ะแหละ เหอๆๆๆ เพื่อนๆก็จะชอบล้อมากๆเลยว่า ชื่อ"..." แต่ทำไมไม่กิน"..." 5555555+ ^^
     
  13. mamboo

    mamboo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +1,973
    ลืมเล่า เรื่องคาถาชินบัญชร

    อาจเกี่ยวก็ได้ ที่ทำให้เหม็นเนื้อสัตว์

    ตอนเด็กๆ mamboo ดูหนังเรื่องไซอิ๋ว ชอบเจ้าแม่กวนอิมมากๆ(สวยดี ท่าโปรยน้ำมนต์ก็เท่ห์) แล้ว mamboo ดูเรื่อง หุบเขากินคน พระเอกท่องชินบัญชรด้วย..

    mamboo ก็เลยเลียนแบบ.. ชอบนั่งสมาธิ โปรยน้ำมนต์ ไปนั่งในห้องนอนคนเดียวกลางคืนอ่ะ ตอนนั้นยัง ป.2-ป.3 อยู่เลย.. แล้วชอบ.. ท่องชินบัญชรด้วย(เพราะอยากปราบผีได้)

    อาจจะเกี่ยวก็ได้นะคะ.. หรืออาจจะบังเอิญ ที่คนที่ท่องชินบัญชรได้ จะไม่ชอบทานเนื้อสัตว์!
     
  14. mamboo

    mamboo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +1,973
    ขอตอบใหม่ได้ไหมคะ?? ตอนแรกยังไม่ได้อ่านคำตอบของท่านอื่นๆ... (นึกว่าท่านเจ้าของกระทู้ถามเล่นๆ แบบ แค่อยากระบายๆๆ)

    ท่านพี่ เกษา อย่าได้ตกใจไปเลยนะคะ กับอาการเหม็นเนื้อสัตว์.. และการเห็นอะไรล่วงหน้า

    ท่านพี่ ผ่านเหตุการณ์ที่.. ลุ้นๆในชีวิตมาหยกๆ(เรื่องลูกชาย) แล้วพี่เกษา ก็ไม่ทานเนื้อสัตว์ ร่างกายไม่มีพิษ และจิตใจไม่สนับสนุนการฆ่าสัตว์ แล้วยังชอบนั่งสมาธิ..

    เป็นเรื่องปกติเลยค่ะ ที่จะเห็นอะไรล่วงหน้า.. ไม่ใช่อาการของโรคประสาทแต่อย่างใด..

    จิตพี่เริ่มใสสว่าง.. เริ่มนิ่ง และ สะอาด... พี่อย่าไปคิดว่าตัวเองบ้านะ.. พี่กำลังได้เลื่อนระดับจิตให้สูงกว่าคนปกติ

    แล้วเรื่องที่พี่ไม่ทานเนื้อสัตว์อ่ะ...

    จริงๆ หนูไม่ทานมาตั้งแต่กำเนิดเลย.. จำความไม่ได้ว่าเป็นเพราะอะไร.. แต่ถ้าถามความรู้สึกตอนนี้.. แค่เข้าไปในปาก ไอ้จังหวะเคี้ยวนี่ดิ่ มันหนึบๆ หนูจะอ้วกทุกที

    แล้วก็เดินผ่านแผนกของสดไม่ได้เหมือนกัน ไม่เคยจับเนื้อสัตว์ดิบเลยด้วย(ทำกับข้าวไม่เป็น ก็ไม่ทำ หนูทำแต่ เมนูผัก ทำผัดกระเพราไข่เจียวอ่ะ พ่อแม่หัวเราะทั้งบ้านเลย.. หนูชอบกินพวกเครื่องเทศ แต่ไม่ชอบเนื้อสัตว์ เลยต้องผัดกระเพราไข่เจียว 5555555+ ^^ กินไข่ได้ค่ะ แต่กินไก่ไม่ได้)

    แล้ว.. หนูเคยอ่านมานะ...

    มี 2 เรื่อง ที่หนูจะเล่าให้พี่ เกษา ฟัง เพื่อความสบายใจของพี่

    พี่เกษา ทราบหรือไม่ว่า.. กระเพาะและระบบย่อยอาหารของมนุษย์อ่ะ ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อให้ย่อยเนื้อสัตว์.. พี่ไปถามคุณหมอท่านไหนดูก็ได้.. อันนี้เป็นที่รู้กันในวงการแพทย์และวิทยาศาสตร์..

    เพราะมนุษย์ เป็นสัตว์กินพืช ระบบย่อยอาหารถูกสร้างมาให้ย่อยพืชผักผลไม้....

    xxx

    ส่วนเรื่องขาดสารอาหารนั้น พี่ไม่ต้องห่วง.. หนู ตอนนี้ อายุ 25(หมาดๆ) แระ...

    ตลอด 25 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยกินเนื้อสัตว์เลย! ><

    พี่รู้ไหม... สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ทุกชนิด.. หาได้ใน พืช ผัก ผลไม้ ไม่ว่าจะเป็น โปรตีน.. ไขมัน คาร์โบไฮเดรต

    ไม่รู้พี่เหม็นนมวัวไหมนะ.. แต่หนูกินนมวัวได้อ่ะ ชอบมากๆ หนูกินไม่ได้แค่ เนื้อ หนัง เครื่องใน.. แต่ไข่ไก่ กับนมวัว หนูกินได้นะ

    คือ แค่กิน ไข่ นม .. นมถั่วเหลือง เต้าหู้ ผัก ผลไม้... พี่ก็ได้สารอาหารครบจนอ้วนเลยแหละ( คือ --' หนูเป็นเด็กอวบ ตัวโตมาแต่เด็กๆแล้วอ่ะ 55555+ ^^ มีแต่คนบอกว่า นี่ขนาดไม่ทานเนื้อนะเนี่ย.. ถ้าทานเนื้อคงอ้วนกว่านี้ อิอิ ^^ หนูอ้วนพวก ผักกับขนมแหละ เหอๆๆ ^_^ จริงๆไม่ได้อ้วนหรอกค่ะ แค่อวบๆอ่ะ)

    แล้วผลของการกินผักนะคะ... ไม่รู้พี่จะเชื่อหนูไหมนะ.. หนูไม่เคยเป็นไข้และเป็นหวัดเลย .. เวลาเป็นไข้ เป็นไม่ถึง 1 วัน.. มันจะรู้สึกตัวร้อนๆ เพลียๆ สักพัก มันก็หาย(หนูไม่กินยานะ เพราะหนูเรียนชีวะมา หนูรู้ว่า ร่างกายมันมีขบวนการซ่อมแซมตัวเอง ขนาดมีแผล มันยังสร้างเม็ดเลือดขาวมารักษาเลย)

    หนูจะเป็นคนที่ ไม่ค่อยเจ็บไข้ได้ป่วย.. เรียกว่า 25 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยเข้าโรงพยาบาลเลยแหละ ใครๆก็รู้ว่า หนูเป็นคนที่แข็งแรง สมบูรณ์มาก.. กินก๋วยเตี๋ยวที.. แม่บอกว่า กินต้มผัก 555+ ^^ เพราะหนูชอบทานผักมากๆๆๆๆ ในทางกลับกัน ไม่ชอบเนื้อสัตว์เลย

    ถ้าพี่ไม่เชื่อนะ.. ให้พี่สังเกตุ ทำไมคนที่เป็นมะเร็ง คุณหมอจะให้งดเนื้อสัตว์และให้ทานอาหารชีวจิต เพราะเนื้อสัตว์มันมีพิษ เป็นสารก่อมะเร็ง

    คุณพี่ไม่ต้องไปกลัวขาดสารอาหารนะคะ.. สารอาหารในเนื้อสัตว์ทดแทนได้ด้วย นม และ ไข่..

    เนื้อสัตว์มีแต่พิษ.. ก่อพิษ...

    ส่วนเรื่อง การกินเนื้อ...แล้วบาปหรือไม่บาป

    หนูว่า มันเป็นความโชคร้ายมากกว่า ที่พวกเราดันเกิดมาในยุคสมัยที่เขามี KFC มีการกินเนื้อสัตว์เป็นอาหาร... แม่แต่คนพุทธเองก็ยังบอกว่า ทานเนื้อไม่ผิด แต่ฆ่าสัตว์อ่ะ บาป

    มีคนที่เค้าเคยไปคุยกับ ผู้ควบคุมกฎของ วัฏสงสาร มาแล้วนะคะ...

    เค้าได้เจอกับวิญญาณสัตว์หลายๆตัวที่เค้าทานเข้าไป.. เค้าก็บอกสัตว์พวกนั้นว่า.. เค้าไม่ได้ฆ่า เค้าไม่ได้สนับสนุนการฆ่าด้วย.. เค้าแค่ทานอาหารที่คนทำมาแล้ว..

    แต่สัตว์เหล่านั้น พี่คิดว่า ถ้าสัตว์มันพูดได้ มันจะพูดว่าไง

    วิญญาณสัตว์พูดกับผู้หญิงคนนั้นว่า "พวกเราก็เกิดมาใช้กรรม เหมือนๆกับพวกท่าน.. เราไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นอาหารของใคร" (สัตว์มันคงรู้สึกน้อยใจมากอ่ะ --' เกิดมาใช้กรรมเหมือนๆกัน ดันอายุสั้น ถูกมนุษย์จับฆ่ากินเป็นอาหาร)

    หนูแค่อยากจะบอกว่า พี่โชคดีแล้วนะ ที่ไม่รู้สึกอยากจะทานเนื้อสัตว์.. พี่ไม่จำเป็นต้องคิดว่า ตัวเองบ้า หรือว่า ขาดสารอาหารเลย.. มันไม่จริงเลย...

    หนูคิดว่าหนูโชคดีนะ ที่เกิดมา ก็ไม่รู้สึกอยากจะทานเนื้อเลย.. คิดในทางกลับกัน ถ้าให้หนูเลิกกินขนม(มันฝรั่งทอดกรอบ) หนูก็คงทำไม่ได้

    หลายๆคนเกิดมา ทานเนื้อสัตว์เป็นประจำ(คิดว่ามากกว่า 80% ของประชาการโลก ทานเนื้อสัตว์นะ) คิดว่า เขาคง ... ไม่อยากทานหรอก แต่มันก็ชอบไปแล้ว คงเลิกยาก.. เลยต้องสรรหาเหตุผลต่างๆนาๆมาแก้ตัวว่า ทานเนื้อไม่ผิด

    หนูพูดได้ว่า มันผิด เพราะหนูไม่ทาน แต่จริงๆ มันก็อาจจะไม่ผิดก็ได้..

    แต่ก็ช่างเถอะ..

    เอาเป็นว่า หนู confirm พี่เกษาว่า ไม่ทานเนื้อ ดีกว่าทานแน่นอน.. พี่จะรู้สึก รักสัตว์ รักธรรมชาติ สงสารสัตว์ และเห็นใจผู้อื่น.. และที่สำคัญ พี่จะเป็นคนอารมณ์ดีมากๆ ^^ หัวเราะทั้งวัน.. แล้วก็รักต้นไม้มากๆ ^^

    ขอให้เจริญๆในธรรมและโชคดีมากๆ ยิ่งๆขึ้นไปนะจ้ะ ^^

    หนูมีสารจากคนบนฟ้ามาบอกนะคะ...

    คนบนฟ้าเขาบอกมาว่า.. ทุกๆคน ที่นับถือศาสนา ไม่ว่าจะศาสนาไหน .. พวกท่านทุกคน มาถูกทางแล้ว ^^

    และขอให้ ทำดีต่อๆไป.. พวกเราต้องช่วยเหลือคนนะคะ.. มีน้ำใจ และรู้จักให้อภัย... ต้องไม่เห็นแก่ตัว.. นี่คือ สิ่งที่เราต้องทำ เมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์.. นี่คือบทเรียนที่มนุษย์ต้องเรียนรู้... ถ้าเราเรียนรู้เรื่องพวกนี้ไม่หมด เราจะต้องติดอยู่ในวัฏสงสารอีก ต่อไป.. และ ต่อไป...

    ถ้าชาติภพไหน เกิดมาเป็นคนเห็นแก่ตัว ลุ่มหลงในสุรานารีและวัตถุสิ่งของ.. ชาตินั้น เหมือนเกิดมาเสียชาติเกิดค่ะ เสียเวลาเปล่าๆ --' แล้วสุดท้ายก็ต้องมาวนเกิดใหม่ เกิดใหม่ ในสภาพแวดล้อมเดิมๆ เพราะถ้าไม่เรียนรู้ ก็จะต้องวนเกิดแล้วเกิดอีก(ในสภาพแวดล้อมเดิมๆ) จนกว่าจะเรียนรู้

    มีชายผู้หนึ่ง.. อันนี้หนูเล่าให้ฟัง ไม่มีหลักฐานแล้วแต่จะใช้วิจารณญาน นะคะ ^^

    ชายผู้หนึ่ง..

    เค้าเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวย มีเงินทองมากมาย แต่ตลอดชีวิตของเขา(ไม่ได้ไปฆ่าใครตาย) แต่ว่าเห็นแก่ตัว และเป็นคนที่ รวยเพราะ"โกง" ไม่มีน้ำใจ .. ไม่ช่วยเหลือใคร เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น..

    พอตายไป.. เค้าไม่ได้เห็นแสงสว่างและความปิติเหมือนวิญญาณดวงอื่นๆ.. เค้าเข้าไปอยู่ในความมืด มืดสนิท ไม่มีใครได้ยินเสียงเค้า ไม่มีใครมองเห็นเค้า.. เค้ากลัวและเศร้ามากๆ.. จนมีวิญญาณที่ทรงอำนาจดวงหนึ่ง เข้ามาคุยกับเค้า(ไม่มีรูปร่างนะคะ เป็นการคุยระหว่าง วิญญาณกับวิญญาณ) วิญญาณที่เค้ารับรู้ได้ถึงพลังอำนาจ.. เข้ามาคุยกับเค้า แล้วบอกเค้าว่า..

    ความมืดมิดที่เค้าเห็นอยู่นี้ เป็นเพียง สิ่งลวงตา..
    เค้าไม่สามารถเห็นแสงสว่างสีขาวและความปิติได้เหมือนวิญญาณดวงอื่นๆ เพราะเขาไม่มีสติเพียงพอที่จะรับรู้ได้ถึงสภาพความเป็นจริง

    ความมืดมิดนี้ คือ.. "ภาพมายา" ที่เค้าสร้างขึ้นมาเอง(ลืมบอกว่า เขาเห็นไฟ และรู้สึกถูกไฟเผาจนร้อนมากๆ)

    แล้ววิญญาณที่มีอำนาจดวงนั้น ก็ทำให้ไฟร้อนๆหายไป.. และบอกกับเค้าว่า.. ไฟนั้น เค้าเป็นผู้สร้างขึ้นมาเอง

    "เพราะตอนอยู่บนโลกมนุษย์ อยู่แต่กับสิ่งลวงตา และภาพมายา วัตถุเงินทอง เจ้าไม่มีสติคิดพิจารณาเลยว่าอะไรคือความเที่ยงแท้ และอะไรคือความลวง พอตายไป เจ้าก็ไม่มีสติพอที่จะรับรู้ได้ถึงแสงสว่างและความปิติ แล้วยังสร้างภาพลวงตาเป็นเปลวไฟขึ้นมาเผาตัวเจ้าเอง เจ้าไม่มีสติสัมปชัญญะพอที่จะรู้ได้ว่า เปลวไฟและความมืดมิดนี้ เป็นเพียงสิ่งลวงตา ที่เจ้าเป็นผู้สร้างขึ้นมาเอง"

    สรุปคือ...

    วิญญาณของผู้ชายคนนั้น ไม่ได้เห็นแสงขาวๆและไม่ได้รับรู้ความปิติสุขของจิตวิญญาณ.. แต่เขาถูกส่งกลับมาเกิดบนโลกมนุษย์ทันที!(ปกติ ดวงวิญญาณจะต้องรอจังหวะที่เหมาะสม บางดวงอาจรอแป้บเดียว บางดวงอาจรอนานหน่อย แต่ในขณะที่รอ วิญญาณจะมีแต่ความ ปิติ และแทบไม่อยากกลับมาเกิดอีกเลย.. เพราะในโลกวิญญาณมีแต่ความสุข)

    แล้วรู้ไหมคะว่า.. วิญญาณของผู้ชายคนนั้น กลับมาเกิดเป็นใคร???

    วิญญาณของผู้ชายคนนั้น กลับมาเกิดในครอบครัวคนรวยอีกแล้ว! --'

    คือ.. ตราบใดที่เค้าไม่สามารถเรียนรู้ ความรัก การให้อภัย การช่วยเหลือผู้อื่น การมีน้ำใจ.. เขาจะต้อง เกิดวนๆๆๆๆๆ เวียนๆๆๆๆ ในสภาพแวดล้อมแบบเดิม..

    การเกิดมาในครอบครัวที่ฐานะร่ำรวย เค้าจะต้องเอาชนะความหลงในวัตถุเงินทองไปให้ได้.. ไม่เช่นนั้น เค้าก็ต้องกลับมาเกิดในสภาพแบบนี้อีก ไปเรื่อยๆๆๆๆ จิตวิญญาณไม่มีพัฒนาการและไม่ได้เลื่อนขั้นสักที --'

    ยังมีอีกหลาย case นะคะ...

    กาลครั้งหนึ่ง.. (อยากฟังไหมเอ่ย อิอิ ^^)

    ทราบไหมคะว่า.. คนที่ฆ่าตัวตาย เขาจะเจออะไรบ้าง??

    คนที่ฆ่าตัวตาย.. จะถูกส่งกลับมาเกิดใหม่ในทันที.. (ไม่ได้เจอแสงขาวๆ) และจะได้เกิดในสภาพแวดล้อมเดิมๆ.. และชีวิตนั้น เขาจะต้องเจอปัญหาเดิมๆ...

    การฆ่าตัวตายไม่ใช่การหนีปัญหานะคะ.. เพราะต่อให้ตายไป คุณก็จะถูกส่งกลับมาเกิดในสภาพแวดล้อมเดิมๆ และเจอปัญหาเดิม(ที่คุณเคยฆ่าตัวตายหนีมันมา) จนกว่าจะมีชาติใดชาติหนึ่งที่คุณสามารถแก้ปัญหานั้นได้ คุณถึงจะได้เจอแสงขาว และได้ไปเกิดในสภาพแวดล้อมอื่นๆอีกต่อไป

    แล้วก็ยังมี กรณีของคนที่เคยเกิดเป็นคนจนมากๆ(ในประเทศอินเดีย) เค้าเคยตายเพราะ"หิวข้าว" จนมาก จนตายไม่มีข้าวจะกิน
    แล้วชาติต่อไป เค้าก็ได้เกิดเป็นเจ้าชายของอีกประเทศหนึ่ง

    มีอีก case หนึ่ง.. อยากจะบอกว่า กฎแห่งกรรม มีจริงนะคะ ^^

    เช่น.. มีผู้ชายคนหนึ่ง.. ชาติหนึ่ง เค้าเคยเป็นคนที่ ดูถูกผู้หญิง ชอบลวนลาม และเค้าก็เคยข่มขืนผู้หญิงด้วย..
    แล้วพอตายไป.. ก็แน่นอนล่ะค่ะ..ว่าเค้าไม่เห็นแสงขาว.. ไปเจอโลกมืดๆ แล้วเค้าก็ถูกส่งกลับมาเกิดอีก.... คราวนี้ รู้ไหมคะว่า.. เค้าได้เกิดเป็นอะไร??

    เค้าได้เกิดเป็นผู้หญิง.. และเป็นลูกของ โสเภณี --' ชาตินี้ เค้าได้รับบทเรียน ของการถูกข่มเหงโดยผู้ชาย.. คนเป็นลูก รู้สึกเจ็บมากๆนะคะ ที่แม่เป็นแบบนั้น...

    ถ้าสังเกตุให้ดี.. คนยุคปัจจุบันนี้ ที่ระลึกชาติได้.. ไม่ค่อยมีใครมีอดีตชาติที่ชั่วร้ายสักเท่าไหร่??? สังเกตุกันไหมคะ??

    ส่วนมาก บาปสุด ชาติก่อนก็... เป็นคนขี้อิจฉา ข่มขืนผู้หญิง ขี้โกง ฆ่าสัตว์

    แต่ยังไม่มีใครเคยแบบว่า เป็นโจร ฆ่าคน.. หรือทำบาปหนักๆเลย
    mamboo คิดว่า อาจเป็นเพราะ... วิญญาณเหล่านั้น.. ไม่ได้มาเกิดเป็นมนุษย์แล้ว.. อาจได้ไปเกิดเป็นสัตว์เดียรัจฉาน หรือไปเกิดที่โลกอื่น(ที่อาจไม่สวยและคงแย่กว่าโลกเราอ่ะ) อันนี้เดานะคะ อิอิ ^^

    ลองสังเกตุดู.. อดีตชาติของคนในยุคปัจจุบันนี้.. ไม่ค่อยมีใครทำความเลวมากๆ อาจเป็นเพราะ พวกเราที่เกิดในยุคนี้ ไม่ได้ทำเลวมากๆ(กลางๆ 555+ ^^)

    ส่วนเรื่องประชากรเพิ่มเนี่ย.. คนบนฟ้าเค้าบอกมาว่า.. ดวงจิตมีการถือกำเนิดมาใหม่ในโลกวิญญาณทุกๆขณะ... มีดวงจิตอีกมากมายที่รอการมาถือกำเนิดเป็นมนุษย์ ไม่ต้องห่วงเรื่องจำนวน.... (ซึ่งนั่นก็หมายความว่า.. มนุษย์เราบางคน.. อาจจะเพิ่งเคยถือกำเนิดมาไม่กี่ชาติล่ะ... เหอๆๆ ^^)

    ชีวิตคนเรา จะเกิดมาสูง ต่ำ หรือ ดำ หรือ ขาว.. มันเป็นแค่ภาพมายานะคะ.. เพราะจิตดั้งเดิมของพวกเรา เท่าเทียมกัน

    ตอนนี้ ไม่มีใครรู้ แม้ตายไปก็ไม่รู้ ว่าพวกเรามาจากไหน?

    เราเกิดขึ้นมาเอง อยู่ดีๆ ก็กลายเป็นดวงจิตสว่างใสเอง.. หรือมีคนสร้างเรามา.. ไม่รู้จริงๆ

    แม้ตายไป จิตได้เลื่อนขั้น ก็ยังไม่สามารถรู้คำตอบนี้ได้...

    พวกเรา ตอนเป็นมนุษย์.. ถูกกฎของโลก 3 มิติ ทำให้เราจำอดีตชาติของเราไม่ได้...

    พอตายไป.. เราก็ยังถูกกฎของโลกหลังความตาย ทำให้เราจำตอนที่เราถือกำเนิดมาเป็นดวงวิญญาณใหม่ๆ ไม่ได้

    มีหลายคนบอกว่า.. บางที.. ที่เรายึดมั่นและเข้าใจว่า ตัวเรา เป็นของเรา.. ตายไป เราจะเป็นดวงวิญญาณของเรา เป็นเอกลักษณ์ของเรา มีคนเคยบอกไว้ว่า บางทีอาจจะไม่ใช่เช่นนั้น

    อันนี้ ไม่มีหลักฐานนะคะ จะเล่าให้ฟัง ให้ท่านผู้อ่านได้ใช้วิจารณญานในการอ่านด้วยนะคะ... ^^

    ดวงวิญญาณจะอยู่เป็น กลุ่มๆ ..

    พ่อแม่ของเรา ส่วนมาก.. จะได้เกิดเป็นพ่อแม่ของเรา ทุกภพทุกชาติไป...

    ถ้าจะมีสลับตำแหน่งบ้าง.... จะมีลูก สามี/ภรรยา หลาน เพื่อน...

    แต่ตำแหน่ง แม่ มักจะเป็นแม่ แทบจะทุกภพทุกชาติ(แปลกมากๆ) แต่พ่อ ยังมีสลับกันบ้าง(ในบางชาติ)

    มีบางทฤษฎีบอกไว้ว่า.. จริงๆแล้ว.. กลุ่มของวิญญาณ ที่มักจะเกิดวนเวียนเป็นครอบครัวเดียวกัน... พอเค้าเรียนรู้ประสบการณ์บนโลกมนุษย์ได้เต็มที่ทุกดวงแล้ว วันหนึ่ง จะกลับไปรวมกัน และเป็นดวงวิญญาณดวงเดียวกัน ที่เต็มไปด้วยความรู้และสติสัมปชัญญะ

    หรือ.. คิดกลับกันคือ.. ดวงวิญญาณเกิดใหม่ดวงหนึ่ง.. แตกร่างเป็น 5-6 ดวง.. แล้วก็จำอดีตของตัวเองตอนถือกำเนิดเป็นดวงวิญญาณใหม่ๆไม่ได้.. แล้วดวงวิญญาณที่แยกออกมา 5-6 ดวง ก็จะมาเกิดสลับกันเป็นครอบครัว เพื่อหาประสบการณ์บนโลกมนุษย์ร่วมกัน

    แล้วยังมีทฤษฎีที่... น่าตกใจไปกว่านั้นคือ.. (อันนี้ แล้วแต่จะใช้วิจารณญานในการอ่านนะคะ เพราะ mamboo เองก็ไม่ได้เชื่อที่ตัวเองพิมพ์สักเท่าไหร่.. แค่รับรู้ไว้ แล้วเด๋วค่อยรอการพิสูจน์)

    อีกทฤษฎีบอกไว้ว่า.. หลังจากที่ดวงวิญญาณ 5-6 ดวงรวมกันเป็น 1 เดียวแล้ว.. ดวงวิญญาณดวงนั้น ก็จะต้องไปศึกษาเรียนรู้ประสบการณ์ในโลกอีกโลกหนึ่ง

    หลังจากนั้น.. ดวงวิญญาณทุกดวง.. จะกลับมารวมกัน.. กลาย 1 เดียว... (คล้ายๆกับ จิตจักรวาลอ่ะ) สรุปแล้ว พวกเราทุกคน ก็คือ พี่น้องกัน จิตดวงเดิมดวงเดียวกันนี่เอง O_O!! เพราะฉะนั้น เราต้องรักกัน และช่วยเหลือกัน.. ไม่เอาเปรียบกัน.. ต้องมีเมตตา

    หรือในทางกลับกัน...

    กาลครั้งหนึ่ง เคยมีดวงวิญญาณดวงหนึ่ง อยู่ดีๆ ก็ถือกำเนิดขึ้นมา.. ท่ามกลางความว่างเปล่า.. ดวงวิญญาณดวงนี้.. ได้สร้างสรรค์และเนรมิต เอกภพและแต่ละจักรวาลขึ้นมา... และโดยไม่รู้ว่า.. จักรวาลนี้คืออะไร.. เอกภพและทุกสรรพสิ่งนี่คืออะไร.. จิตวิญญาณดวงนี้ เลยต้อง คล้ายๆกับ แยกร่าง ออกไปเป็นหลายหมื่นแสนล้านดวงวิญญาณ แล้วไปศึกษาเรียนรู้สิ่งที่ตัวเองได้เนรมิตขึ้นมา..

    หลังจากที่ศึกษาเรียนรู้จนจิตวิญญาณเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้แล้ว จิตวิญญาณทั้งหมดจะกลับไปรวมกันเป็น 1 เดียว.. ซึ่งเป็นจิตวิญญาณที่เต็มไปด้วยความรู้และสติสัมปชัญญะ ไม่มีเรื่องไหนที่ไม่รู้(แม้รู้ว่าโกรธ ก็ต้องรู้จักให้อภัย.. เขาบอกว่า สาเหตุที่พวกเราต้องมีความรู้สึกโกรธ เพื่อที่เราจะได้รู้จัก "การให้อภัย" ค่ะ ^^)

    ที่เล่ามา ต้องใช้วิจารณญานในการอ่านด้วยนะคะ ^^

    บางที ดวงวิญญาณที่สมบูรณ์แบบ อาจต้องมาเรียนรู้ความไม่สมบูรณ์ เพื่อที่จะได้รู้คุณค่าของความสมบูรณ์แบบยังไงล่ะคะ ^^

    ก็เหมือนกับที่.. ถ้าเราไม่เคยทุกข์ เราก็ไม่รู้หรอกว่าสุขมันเป็นยังไง ^^

    ถ้าคนไม่เคยป่วยเป็นโรคอะไร ก็คงไม่เข้าใจในสำนวนที่ว่า "ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ" หรอก จริงไหม???

    บางที การที่เราต้องมาถือกำเนิด.. เราต้องขาด เพื่อให้ได้รู้คุณค่า ของการมีทุกสิ่งทุกอย่าง..

    ขอบพระคุณค่ะ ^^
     
  15. ninebeer

    ninebeer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    872
    ค่าพลัง:
    +2,664

    แวะเข้ามาอ่าน
    ขออนุโมทนาด้วยค่ะ

    โดยส่วนตัวแล้ว แค่ตอบใจตัวเองให้ได้
    ว่าเรากินไปทำไม เพื่ออะไร

    กินไปตามที่มี มีผักกินผัก มีเนื้อกินเนื้อ

    ชีวิตจะได้ไม่วุ่นวาย ไม่ต้องสับสน
    สบาย ๆ ค่ะ

    อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ
    ตามหัวข้อกระทู้

    :VO
     
  16. mawmee

    mawmee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +622
    ร่วมอนุโมทนาด้วยค่ะกำลังเริ่มอยู่ในภาวะนั้นเช่นกันแต่แค่รู้สึกไม่อยากทานเนื้อสัตว์ขึ้นมาเฉยๆ ก็คงปล่อยไปตามนั้นค่ะสบายใจดี
     
  17. กุญแจไขปริศนา

    กุญแจไขปริศนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2009
    โพสต์:
    903
    ค่าพลัง:
    +979
    เคยรู้สึกเหมือนกันครับ นานๆครั้ง แบบว่าเบื่อเนื้อสัตว์หรือไม่ค่อยชอบกินกับไม่ชอบรสชาติมัน มีอยู่ช่วงนึงที่ผมไม่กินเลยกินแต่ผักที่ชอบรู้สึกว่ากินผักแล้วสดชื่น แต่พอสักพักก็กลับมากินเนื้อสัตว์เหมือนเดิม
    (แต่โดยปกติผมแทบไม่กินผักครับ)
     
  18. เมทิกา

    เมทิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    952
    ค่าพลัง:
    +2,393
    ป่านนี้เจ้าของกระทู้เป็นไงบ้างน้อ ^^



    เมื่อกำลังของสติแข็งแรง เป็นธรรมดาที่จะรู้สึกไม่ยินดีกับการบริโภคเนื้อสัตว์ เขาเคยทานยาเร่ง ฮอร์โมนอะไรมาบ้างและก่อนสละชีวิตเค้ากลัวสุดขีดแค่ไหน ยังไง พลังงานมันถ่ายทอดมาในเนื้อสัตว์ทั้งนั้น เคยเป็นนะ ไปแผนกเนื้อสัตว์ราคาพิเศษ โอ้โห....แค่ดูก็รู้แล้วว่า....ชวน.....อ๊วก....... เขาทรมานมากๆก่อนตาย (คงเป็นแบบโรงฆ่าตามมีตามเกิด) แต่ก็ต้องเรียกสติตามรู้กลับมาแล้วแผ่เมตตาไปเยอะๆ

    โมทนาด้วยสำหรับทุกท่านที่ละเว้นการบริโภคเนื้อสัตว์
    ตั้งใจเช่นกันไว้แต่ตอนนี้ยังไม่สะดวก เนื่องจากต้้องดูแลเด็กเล็ก เขายังต้องทานเนื้อสัตว์อยู่จ้ะ

    ทุกวันนี้ทานข้าว สอนลูกให้ขอบคุณทุกสรรพสัตว์ สรรพชีวิต ต้นข้าว น้ำสะอาด ที่ทำให้เราได้อิ่มท้องในมื้อนี้ และพยายามทำกับข้าวเองด้วยความรักและเมตตา อร่อยกว่าไปซื้อกับข้าวสำเร็จข้างนอก ^^
     
  19. nutt2522

    nutt2522 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +70
    งดเนื้อสัตว์ทุกวันพระได้ก็จะดีมากๆนะทุกคน
     
  20. rasetsacrifa

    rasetsacrifa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +127
    ถึงคุณพี่ จขกท. นะครับ ผมว่าเป็นเรื่องที่ดีแล้วก็เป็นโอกาสที่ดีที่จะ ทำให้ศีลข้อ ห้ามฆ่าสัตว์ กลายเป็นศีลที่บริสุทธิ์ไปนะครับ อานิสงค์ ก็ อย่างที่ทราบกันดี อย่าไปมองว่าตัวเองเป็นนู้นเป็นนี้เลยครับ เป็นเรื่องดีแล้ว สาธุ สาธุ

    ถึงคุณพี่ mamboo (เอ๊ะ สะกดถูกรึเปล่า) ผมก็เจอพี่บ่อยๆนะคับ ก็อ่านบ้างอะไรบ้างแต่ที่เป็นคำถามในหัวคือ... พี่ 25 แล้วเหรอ ...... อ่าคับ เหมือนฟ้าจะเป็นใจได้รับคำตอบ (ช่างสงสัยอะไรแปลกๆเนอะ) ฮิๆ เข้ามาร่ายยาวเลยนา ผมก็ปุเสื้ออ่านยาวเหมือนกัน ฮ่าๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...