อานิสงส์การสร้างพระและการพิมพ์ธรรมะแจก

อานิสงส์การจัดสร้างพระพุทธรูปหรือสิ่งพิมพ์อันเกี่ยวกับพระธรรมคำสอนเป็กุศลดังนี้
1.อกุศลกรรมในอดีตชาติแต่ปางก่อน จะเปลี่ยนจากหนักเป็นเบา จากเบาเป็นสูณ
2.สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง สรรพภยันตรายสลาย
3.เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติแต่ปางก่อน เมื่อได้รับส่วนบุ_ไปแล้ว ก็จะเลิกจองเวรจองกรรม
4.เหล่ายักษ์ผีรากษส งูพิษเสือร้าย ไม่อาจเป็นภัย
5.จิตใจสงบ ปวงภัยไม่เกิด ฝันร้ายไม่มี ราศีผ่องใส สุขภาพแข็งแรง กิจการงานเป็นมงคล
6.มั่นคงในคุณธรรม ความอุดมสมบูรณ์ปรากฏ (เกินความคาดฝัน) ครอบครัวสุขสันต์ วาสนายั่งยืน
7.คำกล่าวเป็นสัจจ์ ฟ้าดินปราณี ทวยเทพยินดี มิตรสหายปรีดา
8.คนโง่สิ้นเขลา คนเจ็บหายได้ คนป่วยหายดี ความทุกข์หายเข็ณ สตรีจะได้เกิดเป็นชายเพื่อบวช
9.พ้นจากมวลอกุศล เกิดใหม่บุณเกื้อหนุน มีปัณยาล้ำเลิศ บุณกุศลเรืองรอง
10.สิ่งที่สร้างจะบังเกิดเป็นกุศลจิตแก่ทุกคนที่ได้พบเห็น เป็นเนื้อนาบุณอย่างเอนกทุกชาติของผู้สร้างที่เกิดจะได้ฟังธรรมจากพระอริยเจ้า ปัณยาในธรรมแก่กล้าสามารถได้อภิณยาหก สำเร็จโพธิยาณ

อานิสงส์เหล่านี้พิมพ์เผยแผ่เพื่อเร้ากุศลจิตให้เร่งทำบุณ ดีกว่าไม่มีความตั้งใจที่จะทำเสียเลย

 

สตรีจะได้เกิดเป็นชายเพื่อบวช**

 

อานิสงส์ฯ

การสร้างพระเพื่อสืบทอดพระศาสนาตามธรรมเนียมปฏิบัติต้องสร้างให้ได้อย่างน้อยเท่ากับพระธรรมซึ่งมีถึง 84000 พระธรรมขันธ์ ลองสังเกตดูจากประวัติตามที่มีจารึกไว้ในกรุหรือพระเจดีย์ต่างๆจำนวนจะไม่น้อยไปกว่านี้แต่ถ้ามากกว่ายิ่งดีครับ

หมายเหตุ ช่วยตอบเรื่องคนเนรคุณหน่อยนะ

 

อย่างที่น้องกระเจียวทำอยู่นี้ก็เรียกว่า ธรรมทานเหมือนกันครับ

 

ขอนอกเรื่องหน่อยละกันได้ไหมครับ

คือวันก่อนมีเพื่อนถามผมว่า ถ้าเกิดเรามีแฟน แล้วมีอะไรกับแฟน พอหลัง มีเหตุให้ต้องเลิกกัน แล้วมีแฟนใหม่ คบกันไป ก็มีอะไรกันกับแฟนใหม่อีก แล้วก็มีเหตให้เลิกกันอีก เป็นแบบนี้
อย่างนี้จะเรียกว่าผิดศีลข้อ 3 หรือเปล่าครับ

คือเราไม่ได้ไปผิดเมียคนอื่น แต่แค่ในชีวิต มีอะไรกับแฟน มากกว่า 1 คน.

รบกวนผู้รู้ช่วยตอบแจ้งแถลงไขด้วยครับ

ขออนุโมทนา

 

ไม่ผิด ถ้าไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน

 

กาเมสุมิจฉาจาร ประพฤติผิดในกามทั้งหลาย
คำว่า กาม ในที่นี้ ได้แก่กิริยาที่รักใคร่กันในทางประเพณี
ข้อนี้บั__ัติขึ้น ด้วยหวังจะป้องกันความแตกร้าวในหมู่มนุษย์ และทำเขาให้ไว้วางใจกัน;

ชายกับห_ิงแม้ไม่ได้เป็น_าติกันก็ยังมีความรักใคร่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ด้วยอำนาจความปฏิพัทธ์ในทางกาม,
เมื่อชายอื่นทำชู้ด้วยภรรยาของท่าน สามีกับภรรยาก็ย่อมจะแตกกันเป็นธรรมดาและสามียังจะผูกใจเจ็บในชายชู้เกิดเป็นศัตรูกันขึ้น,
ถ้าความซื่อตรงในข้อนี้จะไม่พึงมีในหมู่มนุษย์ ที่สุดสามีกับภรรยาก็จะไม่กล้าไว้วางใจในกันและกัน
จะกล่าวอะไรถึงคนอื่น ต้องเป็นอันไม่มีโดยแท้, เมื่อเป็นเช่นนี้ ความสุขจะมีมาแต่ข้างไหน.
ผู้ใดประพฤติผิดในทางประเวณี ผู้นั้นได้ชื่อว่าทำความแตกร้าวในหมู่มนุษย์ และทำให้เสียความไว้วางใจกัน,
ข้อนี้จัดว่าเป็นบาป ห้ามทั่วไปแก่ชายห_ิงทั้งสองฝ่าย
ต่างเป็นวัตถุที่ห้ามของกันและกัน. เมื่อเพ่งความประพฤติไม่ให้ผิดเป็นการให_่

ได้ห_ิงเป็นที่ห้ามของชาย ๓ จำพวก
คือภรรยาท่าน ๑; ห_ิงผู้อยู่ในพิทักษ์รักษาของท่าน ๑; ห_ิงที่จารีตห้าม ๑

ภรรยาท่านนั้น ได้แก่ห_ิงผู้นั้นแต่งงานกับชาย หรือไม่ได้แต่งงาน
แต่อยู่กินด้วยกันกับชายด้วยอาการเปิดเผย
หรือห_ิงผู้รับสิ่งของมีทรัพย์เป็นต้นของชายแล้ว และยอมอยู่กับเขา
หรือห_ิงที่ชายเลี้ยงไว้เป็นภรรยา, ห_ิงเหล่านี้ยังตั้งอยู่ในความเป็นภรรยาท่านเพียงใด
ชายอื่นนอกจากสามีทำชู้ด้วยห_ิงเหล่านี้ ก็เป็นกาเมสุมิจฉาจารเพียงนั้น;
ใช่จะห้ามแต่ร่วมสังวาส ถึงการเคล้าคลึง พูดเกี้ยวพาน
และแสดงอาการปฏิพัทธ์แม้แต่ชายตาเป็นต้น อันเป็นบริวารก็ห้ามเหมือนกัน

ฝ่ายห_ิงที่สามีของเขาตายเสียแล้ว และห_ิงที่ได้หย่ากับสามีขาดจากกันตามกฎหมายแล้ว
เป็นอิสระด้วยตนเอง ไม่เป็นวัตถุแห่งกาเมสุมิจฉาจาร

(y) ห_ิงอยู่ในพิทักษ์รักษาของท่านนั้น ได้แก่ห_ิงที่มารดาบิดา_าติ
หรือผู้ที่ตั้งอยู่ในที่เช่นนั้นพิทักษ์รักษาอยู่, ผู้ใดพิทักษ์รักษาผู้นั้นย่อมเป็นให_่เหนือห_ิงนั้น,
ชายลอบลักเข้าไปสมสู่ หรือลักพาเอาไปเป็นกาเมสุมิจฉาจาร;
เมื่อต้องการได้เป็นภรรยาต้องกล่าวขอให้ท่านยินยอมยกให้ก่อนจึงจะไม่มีโทษ

ส่วนห_ิงที่ผู้พิทักษ์รักษารับของหมั้นของชายไว้เพื่อจะยกให้แก่เขา
ผู้พิทักษ์รักษาไม่เป็นให_่ ความเป็นให_่ตกอยู่แก่ชายผู้หมั้น
เว้นไว้แต่ได้คืนของหมั้นตกลงกันเสร็จแล้ว

ห_ิงที่จารีตห้ามนั้น ได้แก่ห_ิงผู้เป็นเทือกเถาของตัว คือ แม่ ย่า ทวด และผู้เป็นเหล่ากอของตัว คือลูกหลาน เหลน จำพวก ๑,
ห_ิงจำพวกนี้ได้ชื่อว่าอยู่ในพิทักษ์รักษาของตระกูล,

ห_ิงผู้อยู่ใต้บั__ัติในพระศาสนาอันห้ามสังวาสกับชาย
เช่นภิกษุณีในกาลก่อนหรือนางชีในกาลนี้จำพวก ๑,
ห_ิงจำพวกนี้ ได้ชื่อว่าอยู่ในพิทักษ์รักษาของธรรม
ห_ิงที่กฎหมายบ้านเมืองและลงโทษแก่ชายผู้เข้าไปสมสู่ เช่นแม่หม้ายงานท่านอันออกชื่ออยู่ในกฎหมายจำพวก ๑,

ห_ิงที่จารีตห้ามนี้ก็เป็นวัตถุแห่งกาเมสุมิจฉาจารเหมือนกัน
ห_ิง ๓ จำพวกนี้ จะมีฉันทะร่วมกัน หรือมิร่วมกันไม่เป็นประมาณ
ชายร่วมสังวาสด้วยก็คงเป็นกาเมสุมิจฉาจาร

(คัดมาจาก "สารานุกรมพระพุทธศาสนา ประมวลจากพระนิพนธ์ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิร_าณวโรรส" พิมพ์ครั้งที่ 1/2529)

 

ถ้าแฟนคุณยังอยู่ในปกครองของคุณพ่อคุณแม่
ให้ถือว่าเธอเป็นสมบัติที่รักและหวงแหนของบิดามารดา
เมื่อมีการลักลอบได้เสียกัน ย่อมเป็นการผิดลูก ถึงแม้ไม่ได้ผิดเมียผู้อื่นก็ตาม

ศีลข้อสามที่ว่า ห้ามผิดลูกผิดเมียผู้อื่นก็คือ สตรีนั้นถือเป็นสมบัติของพ่อแม่หรือแม้แต่ผู้ปกครอง

ถ้ามีการล่วงเกิน ละเมิดกายสตรีผู้มีบิดามารดารักษา
ย่อมก่อความระคายใจ อดสู ให้แก่ผู้เป็นบิดามารดา

ต่อเมื่อมีการสู่ขอตบแต่งกันตามประเพณี นั่นหมายถึงได้รับการอนุ_าตจากผู้ปกครอง
ยกให้บุรุษผู้มาสู่ขอ เป็นผู้ดูแลรักษาแทน ชายอื่นจะมาล่วงละเมิดไม่ได้เช่นกันค่ะ

 

กาเมสุมิจฉาจาร มีองค์ ๔ ได้แก่

๑. อะคะมะนียะวัตถุ สตรีหรือบุรุษที่ไม่ควรล่วงละเมิด
๒. ตัสฺมิง เสวะนะจิตตัง มีความตั้งใจจะเสพในสตรีหรือบุรุษนั้น
๓. เสวะนัปปะโยโค กระทำความพยายามในการเสพ
๔. มัคเคนะ มัคคปฏิปัตติอธิวาสนัง ยินดีในการปฏิบัติมรรคให้ถึงกันด้วยมรรค

ครบองค์ทั้ง ๔ นี้แล้ว นับว่าสำเร็จกาเมสุมิจฉาจารอกุศลกรรมบท แต่พึงทราบว่าข้อที่ ๓
คือ การกระทำความพยายามนั้น บางครั้งไม่มีก็ได้ ที่พระอรรถกถาจารย์แสดงไว้นั้น
มุ่งหมายเอาว่า ย่อมมีเป็นส่วนมาก
อนึ่ง มรรคในข้อ ๔ ได้แก่ อวัยวะเพศ ทวารหนัก ทวารเบา และปาก

ในข้อที่ ๑ นั้น อคมนียวัตถุ ได้แก่ สตรี ๒๐ จำพวก ได้แก่

๑. มาตุรักขิตา สตรีที่มารดาดูแลรักษา
๒. ปิตุรักขิตา สตรีที่บิดาดูแลรักษา
๓. มาตาปิตุรักขิตา สตรีที่ทั้งมารดาและบิดาดูแลรักษา
๔. ภาตุรักขิตา สตรีที่พี่ชายน้องชายดูแลรักษา
๕. ภคินีรักขิตา สตรีที่พี่สาวน้องสาวดูแลรักษา
๖. _าติรักขิตา สตรีที่_าติดูแลรักษา
๗. โคตตรักขิตา สตรีที่ผู้ร่วมโคตรร่วมสกุลดูแลรักษา
๘. ธัมมรักขิตา สตรีที่ผู้ร่วมปฏิบัติธรรมดูแลรักษา
๙. สารักขา สตรีที่มีคู่หมั้น
๑๐. สปริทัณฑา สตรีที่มีผู้กำหนดอา_าสินไหมไว้ (สตรีที่ผู้มีอำนาจจองตัวไว้)
๑๑. ธนักกีตา สตรีที่ชายซื้อมาเป็นภรรยาด้วยทรัพย์
๑๒. ฉันทวาสินี สตรีที่อยู่ร่วมเป็นภรรยากับชายด้วยสมัครใจ
๑๓. โภควาสินี สตรีที่เป็นภรรยาด้วยได้โภคทรัพย์
๑๔. ปฏวาสินี สตรีที่เป็นภรรยาด้วยได้เครื่องนุ่งห่ม
๑๕. โอทปัตตกินี สตรีที่เป็นภรรยาด้วยการแต่งงานรดน้ำ
๑๖. โอภตจุมภฏา สตรีที่เป็นภรรยาด้วยฝ่ายชายช่วยยกของหนักลงจากแบกหาม
๑๗. ทาสี จ ภริยา จ สตรีที่เป็นทาสด้วยเป็นภรรยาด้วย
๑๘. กัมมการี จ ภิริยา จ สตรีที่รับทำการงานด้วยและเป็นภรรยาด้วย
๑๙. ธชาหฏา สตรีที่เป็นภรรยาโดยถูกจับมาเป็นเชลย
๒๐. มุหุตติกา สตรีที่เป็นภรรยาชั่วคราว
(เช่น ห_ิงโสเภณีรับจ้างเป็นภรรยาเป็นครั้งคราวไป)

 

อืมมมม ช่าย ช่าย ไม่ได้เรียกว่าผิดลูกผิดเมียเค้า แต่ก็จะเป็นปัจจัยให้ผิดลูกผิดเมียในอนาคตได้แหล่ะ ถ้าแต่งงานไปแล้ว แล้วไม่ยังคิดถึงแฟนเก่าที่เคยมีอะไรกัน หรือไม่พอใจในเซ็กซ์กับสามี ชอบแฟนเก่ามากกว่า ก็จะทำให้เกิดแรงจูงใจอะไรเล็กๆน้อยๆได้ ( และอย่าดูแคลนแรงจูงใจงี่เง่าเล็กๆน้อยๆนี้ เพราะว่าแค่คุณคิดว่าผู้ชายคนดีดูดีอบอุ่น สุภาพบุรุษ เอาอกเอาใจ คุณก็สามารถไปนอนกับผู้ชายคนนั้นได้ ดังนั้นถ้าคุณคิดว่าแฟนคุณไม่เอาไหนเรื่องบนเตียงแฟนเก่าคุณเก่งกว่า คุณก็จะสามารถไปนอนกับแฟนเก่าได้เช่นกัน )

 

แล้วการที่คนเราเคยมีแฟนมาหลายคนแล้วก็จะทำให้คนเราแสวงหาสิ่งสมบูรณ์ด้วยนะ
แบบว่าถ้าแฟนเก่าเรามีรถ เราก็จะคิดว่าแฟนใหม่ก็ต้องมีรถเงี้ย แบบว่ามันจะเปรียบเทียบคนเก่ากับคนใหม่ถ้าคนใหม่มีอะไรน้อยกว่าคนเก่า มันก็จะเกิดอาการไม่พอใจ และคิดอยู่ในใจลึกๆว่าอยากจะเปลี่ยนแฟน หรืออาจจะคิดว่าอยากได้คนอื่นเพิ่มอีกเพื่อชดเชยสิ่งที่แฟนตัวเองไม่มี ( คบหลายคน ) เพราะว่าเราไม่ได้จำกัดไว้ว่าจะต้องมีแฟนคนเดียว ดังนั้นถ้าคนปัจจุบันไม่ถูกใจ ก็จะทำให้เราคิดจะหาคนในอนาคตขึ้นมาในใจลึกๆ เราจะไม่พยายามเข้าใจแฟนคนปัจจุบัน จะไม่พยายามพอใจในสิ่งที่เรามีอยู่ เนื่องจากเราคิดตลอดเวลาว่าเรายังมีโอกาสที่จะหาสิ่งที่ดีกว่า สิ่งที่ตรงกับความต้องการของเรามากกว่าคนปัจจุบันนี้อยู่น่ะ

 

อื้ม วิเคราะห์ได้ดีนะพี่แคทวอเตอร์